คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : [SF 2PM]DESTINY ME : PART 13
Part 13
ถ้าหากมีพรซักข้อ...เขาจะขออะไร...
อย่างแรกจะไม่ขออะไรเลย..จะขอให้เวลาย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่เรายังไม่เจอกัน..จะขอแก้ไขอดีต เพื่อที่เธอหรือฉันจะได้ไม่ต้องลำบากเพื่อกันและกันอย่างนี้อีก หรือจะขอให้เธอไม่ต้องเจอกับฉัน..ชีวิตฉันก็คงไม่เปลี่ยนไปตลอดกาลแบบนี้..
แต่หากถ้ามีเพียงแค่ข้อเดียว..
ก็จะไม่ขออะไรเลย..จะไม่ขอกลับไปแก้ไขอะไรทั้งนั้น..ไม่ขอให้อะไรๆนั้นเปลี่ยนไป ไม่ขอให้ตัวเองสุขสบาย ไม่ขอให้เธอเป็นคนแปลกหน้า ไม่ขอให้เราไม่รักกัน ไม่ขอให้เราไม่เจอกัน ไม่ขอเปลี่ยนพรหมลิขิต ไม่ขอการจากลา ไม่ขอคำว่าลาก่อนตลอดไป
แต่ถ้ามีเพียงพรข้อเดียว..
คงจะขอให้เธอกลับมา..กลับมาเพื่ออยู่ด้วยกัน..เราจะใช่เวลาที่มีของกันและกันทั้งวันทั้งคืน..เราจะรักกันแบบคนรัก แบบเพื่อนที่ดีที่สุด จะเชื่อใจกัน และฉันจะเรียกเธอว่าที่รัก..แม้ว่าจะดูเห็นแก่ตัวมากแค่ไหน ที่อยากขอพรจากพระเป็นเจ้าไปแบบนั้นก็ตาม แต่จะอย่างไร
ฉันก็จะให้เธอเป็นที่รักของฉันตราบนานเท่านาน
......................
..............
.......
ข้อความในกระจกที่เขาจำมันได้..เขาทำสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่อขอพรจากพระเจ้า..พรข้อเดียวเท่านั้นแต่มันจะเป็นจริงหรือไม่นั้น..เขาเองก็ยังไม่รู้เลย..กลัวเหลือกัน
คงไม่ใช่ตัวเขาคนเดียวที่ต้องรอคอยอะไรบางอย่าง..รอคอยลมหายใจ รอคอยหัวใจของตัวเอง..
“อูยอง..ไปซื้อของกันเถอะ..”จุนโฮเคาะประตูก่อนเยี่ยมหน้าเข้ามาด้วยรอยยิ้มที่แปลกไปจากเคยนับตั้งแต่แยกจากชานซอง..เพื่อนเขาคนนี้ก็ไม่เคยยิ้มได้เหมือนแต่ก่อน ไม่เคยเลย..
และมันก็ผ่านไป..สามวันแล้วที่คนพวกนั้นไม่อยู่
“พี่เจย์ไปด้วยหรอ..”อูยองหันมามองหน้าอีกนิดยิ้มตอบ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี้..ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าที่ไหน ขนาดเขาเป็นคนเกาหลีเขาเองก็ยังมีที่ที่ไม่รู้เหมือนกันล่ะน่า
“ไม่หรอก พี่เขาให้เราไปกันสองคนแหละ..ไปไม่ไกล หน้าหมู่บ้านนี่เอง”จุนโฮตอบเล็กน้อย พยายามชักชวน อาจจะด้วยความเบื่อหรืออย่างไร สามวันมานี้ได้แต่อยู่บ้านไม่ก็ไกลสุดสวนหน้าบ้าน
“อ้าว..อย่างงี้ไม่อันตรายหรอ..”ใบหน้ากลมเอียงคอสงสัยเล็กน้อย ปกติแจบอมแทบจะไม่ให้เขาคลาดสายตาแม้แต่นาทีเดียว
“ไม่รู้ซิแต่ไม่เห็นพี่เขาว่าอะไรนี่ ก็คงได้แหละ ฉันอยากกินไอติมน่ะจุนโฮยิ้มตาหยี บ่งบอกความอยากของตัวเอง มือที่เกาะเกี่ยวประตูไว้บิดเสียจนเกร็งกับการลุ้นในคำตอบของเพื่อน จนอดไม่ได้ที่อูยองจะแอบขำน้อยๆ
“ไปก็ไปดิ..ยืนบิดอยู่นั้นแหละ ถ้าพี่เขาไม่ว่าก็โอเค..แต่นายเหอะมีตังค์หรอ..”อูยองมองหน้าอีกรอบ..แม้ว่าการมาอยู่นี้จะทำให้การเป็นอยู่เขาไม่ขัดสนแต่เขาก็ไม่กล้าไปรบกวนพี่แจบอมมาก แม้ว่าเขาจะบอกว่านั้นเป็นเงินของนิชคุญก็ตามที กระนั้นเองก็ยังเกรงใจ
“นี่ไง..ฉันมี ก็ตั้งแต่ออกจากบ้านมันตอนนู้นก็มีเงินติดมาเยอะอยู่ไม่ได้ใช้อะไรเลย..ไปเถอะ..เผื่อเขามีขายอะไรอย่างอื่นน่ากิน จะได้ซื้อมากินตอนเย็นด้วย”จุนโฮเดินเข้าไปเกาะแขนเพื่อนตัวเองเล็กน้อย ไม่รอให้ลุ้นจนเหนื่อยแล้ว ออกแรงดึงไปด้วยกันนี่ล่ะหมดเรื่องหมดราว รอนานแล้วนะจะบอกให้
“โอเคๆๆ..“ตอบได้เท่านั้นจริงๆก็โดนลากไปด้วยกันแล้วเนี่ย..
บอกกันตามตรงเลยก็ได้ว่า บ้านที่ตอนนี้เขาย้ายกันมาอยู่ เป็นบ้านหลังเล็กที่มีสวนเล็กๆเช่นกัน บ้านหลังน้อยๆที่ดูออกแนวยุโรปหน่อยๆนั้น ให้เช่าในราคาที่สมน้ำสมเนื้อดี ตัวบ้านสีเหลืองอ่อนและขอบหน้าต่างไม้สีขาวทำใหมันดูเข้ากันและหน้าอยู่ไม่น้อย ห้องนอนสามห้องนอน แล้วก็ห้องครัวที่พอใช้ทำอาหารได้ก็ดูดีจนอยู่ได้อย่างสบายๆ
แต่พอเอาเข้าจริงๆ การนอนคนเดียวในสถานการณ์แบบนี้มันค่อนข้างไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่ พวกเขาสามคนเลยมานอนกองรวมกันอยู่แค่ห้องเดียว ไม่ก็ผลัดกันนอนห้องจุนซูก็อูยอง ส่วนห้องของพี่แจบอม เขาไม่อยากเข้าไปเท่าไหร่นัก อย่างเรกพี่เขาโตกว่า อย่างที่สอง อาจจะเจอปืนผาหน้าไม้ของสำคัญ เลยคิดว่าแค่สองห้องก็คงเกินพอ
“อูยอง นายอยากกินอะไรตอนเย็น”จุนโฮถามขึ้นน้อยๆ ใบหน้านั้นยังคงระบายด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม คงเพราะจะได้กินขนมสมใจ
“ไม่รู้ซิ เข้าไปดูก่อนก็รู้..”อูยองยักไหล่น้อยๆ พลางสังเกตคนข้างทางที่มองเขาด้วยสายตาแปลกไป อาจเป็นด้วยเขายังใหม่กับคนแถวนี้ หมู่บ้านเล็กๆก็อย่างนี้..ไม่เหมือนในเมือง ที่ใครๆก็ต่างไม่สนใจกัน
“จุนโฮ นายไม่คิดหรอว่าคนกำลังมองเรา..”
“คิดดิ..แต่ก็แค่ยิ้มๆไว้ เขาก็ไม่สนใจเองแหละ อย่างงี้ไง”ว่าแล้วก็ยิ้มให้กับคนที่ผ่านไปจนคนแถวนั้นยิ้มตอบ
“เออ..ท่าทางจะดีจริง”อูยองลองทำตามดูบ้างและผมก็ออกมาดี เกินคาด
หากตอนนี้เดินมาไม่ไกลมากนัก ทั้งสองคนก็มาถึงร้านค้าที่เป็นร้านเล็กๆหน้าหมู่บ้าน แถมตรงแถวนั้นเองยังมีร้านค้าอื่นๆอย่างพวกของสด ของแห้งอีกสองสามร้าน และนอกนั้นก็เป็นพวกแผงลอยอีกสามสี่แผง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นของกิน หากมองดูดีๆ เดินไปอีกประมาณซักสามสี่กิโลก็จะเป็นตัวเมืองพอดี ซึ่งก็จะทั้งใหญ่ และมีของขายเยอะกว่านี้..
ทำเอาเจ้าคนที่ออกมาอยากไปมากกว่าแค่หน้าหมู่บ้านน่ะซิ..
..................................
....................
.........
หลังจากที่สองแสบได้ล่ำลาจากพี่ชายคนใหม่ของทั้งคู่แล้วทั้งคู่จึงขอตัวออกมาเสียที ทิ้งให้แจบอมนั่งต้มกาแฟกินขนมปังดูข่าวสารไปคนเดียว นอนรอพิซซ่ามาส่งแน่นอน..แจบอมเองก็คิดว่าที่นี้ไกลมากพอที่ใครก็คงคาดไม่ถึงแม้แต่ตัวเขาเอง..
ปิ่งป่อง...
เมื่อลับหลังน้องชายทั้งสองออกไปได้ไม่นาน เสียงออดประตูดังขึ้นจนทำให้คนที่เพิ่งคล้อยหลังจะมานั่งๆนอนรอเจ้าน้องชายต้องลุกกลับขึ้นมาอีกครั้ง..
“ใครครับ..”แจบอมถามออกไปน้อยๆ เพราะความที่ระแวดระวังของเขาต้องปลอดภัยไว้ก่อน
“พิซซ่ามาส่งคร้าบ~~~”เสียงคนด้านนอกบอกออกมาเล็กน้อย หากคนด้านในก็ยังไม่วางใจ เลยแบบแง้มผ้าม่านที่อยู่ตรงบ้านประตูออกเล็กน้อยเพื่อดู เห็นหมวกสีแดงสลับขาวของคนส่งเลยค่อยวางใจ..
“อ่า...เท่าไหร่ครับ..”ชายหนุ่มถามเล็กน้อยก่อนจะหยิบเงินอกจากกระเป๋า
“พิซซ่าราคา..สามล้านวอนครับ..”คนส่งพิซซ่าว่าราคาค่อนข้างสูง ทำให้คนที่กำลังหยิบเงินถึงกับชะงัก จนต้องรีบเงยหน้าขึ้นดู พร้อมกับเปลี่ยนเป็นกระชับปืนด้านหลัง
“น...นาย!!!”
*******************************************************
ในขณะที่พ่อสองหน่อนั้นเองก็ตัดสินใจเดินเข้าเมือง แม้จะไม่ใหญ่แต่ก็ถือว่าเป็นตลาดเล็กๆที่มีของครบครันหน้าซื้อละกันน่า..ไอ้สองคนที่แหกกฏเลยดูลั่ลล้าขึ้นมาอย่างถนัดตา เดินจับมือกันร้องเพลงแกว่งไปมาอย่างสำราญใจ มีความสุขเสียเหลือเกิน
“นี่ๆ นายดูซิ ตรงนั้นมีขายของเต็มเลย..มีอะไรให้ซื้อเยอะกว่าหน้าหมู่บ้านอีก”อูยองที่ไม่ใช่คนชวนแต่ตอนนี้ดูตื่นเต้นกส่าเพื่อนอีกแฮะ
“จริงด้วย..สงสัยคงต้องขนซื้อทีเดียว เพราะคิดว่ากว่าจะได้ออกมาคงอีกซักพักเลยแหละมั้ง”จุนโฮทำหน้าเหมือน่าไม่รู้อนาคตข้างหน้าเขาจึงต้องทำอะไรที่รอบคอบอีกซัดนิด
“เออเนอะ..งั้น รีบซื้อแล้วรีบกลับเหอะ..เดี๋ยวพี่เจย์เป็นห่วง มานี่ก็ไม่ได้ใช้โทรศัพท์ด้วย..เพราะถึงมีก็ใช้ไม่ได้”อูยองว่าด้วยรอยยิ้มก่อนจะเปลี่ยนเป็นกระชับมือเพื่อนให้วิ่งตามไปด้วยกัน
ทั้งคู่เข้าร้านนั้นออกร้านนี้ด้วยความรวดเร็วก่อนจะวิ่งไปดูนั้นดูนี้ไปเสียทุกอย่าง ราวกับเด็กที่ได้มาแปลกถิ่น เพราะของบางอย่างที่หาดในเมืองไม่ได้อย่างพวกร้านโชว์ห่วย ข้าวของทำมือ หรือร้านขายของสดอย่างปลาหมึกสดที่ว่ายไปว่ายมาในบ่อเล็กนั้นก็หาดูได้ยากเช่นกัน..
อย่างว่าในเมือง..แค่เข้าซุปเปอร์มาเก็ตก็มีของมากมายให้จับจ่ายแล้ว..ตอนนี้ทั้งคู่เลยมีของเต็มไม้เต็มมือเลยแหละ..
“นี่ๆๆๆ จุนโฮนั้นอะไรไปดูกัน..”อูยองร้องบอกน้อยๆ ก่อนจะวิ่งนำหน้าเพื่อนตัวเองไป โดยอีกคนที่ยิ้มน้อยๆแล้วจึงเดินตามเพื่อนไป..
“รอด้วยซิ..ไหนๆๆๆ”จุนโฮร้องบอกน้อยแล้วจึงเดินตามเข้าไป
“นี่ไงๆๆ..จุนโฮ..มาดูซิ..”อูยองที่ตะโกนกลับไปอีกครั้งแล้วจึงเดินหน้าเข้าไปในร้านขายของขนมเก่าๆที่น่าสนใจแบบที่ตอนเด็กเขาชอบกินที่หาไม่ได้แล้วในสมัยนี้..
“จุนโฮ...รีบ...มา...อ้าว...จุนโฮ....จุนโฮ...นายไปไหนเนี่ย..”อูยองที่เห็นว่ามันเงียบไปจึงหันกลับไปมองเพื่อน หากตอนนี้ คนที่ต้องเดินตามหลังเขามากลับหายไป..
เหลือเพียงความว่างเปล่า..กับคนอีกคนที่ก้าวเข้ามาแทนที่..
................................
.................
.........
“อื้อ!!!!!!!!!!”แรงดังและมือที่ปิดปากเอาไว้ทำให้เจอตัวออกแรงดิ้นอย่างสุดแรงเกิด เขาเองที่กำลังจะเดินตามเพื่อนไปนั้นจู่ๆก็มีมือประหลาดมาอุดปากเอาไว้ แล้วลากเข้ามาในช่องของซอกตึกทันที..
ความกลัวที่มีทำให้น้ำตานั้นเริ่มคลอหน่วยน้อยๆ แต่ความหวังนั้นยังคงมีอยู่ เลยออกแรงต่อสู้อ่างสุดกำลังแต่นั้นก็ยิ่งริบหรี่เมื่อดูเหมือนว่ามันจะไม่ช่วยอะไรเลย..ข้าวของที่ซื้อมานั้นกลับกองลงอยู่กับพื้นบางส่วนนั้นก็เสียหายไปมาก หากนั้นไม่สำคัญเท่ากับชีวิตของเขาในตอนนี้เลย..
เขาได้แต่ภาวนา..ว่าใครซักคนจะมาช่วย..
“หยุด..อย่าขยับ..นี่คือการปล้น!! ฉันจะปล่อยนาย..แล้วก็หันมาช้าๆ”เสียงเข้มนั้นดังมาน้อยๆ ทำให้คนที่ดิ้นอยู่นั้นหยุดชะงักทันที ก่อนที่แรงบีบที่ต้นแขนนั้ลดลง ก่อนที่อีกคนจะทำตาม..
หากพอทั้งผู้ร้ายและคนโดนปล้นหันมาเผชิญหน้ากัน..ผู้เสียหายกลับวิ่งเข้าไปกระโดดกอดเจ้าโจรนั้นอย่างเต็มรักทันทีอย่างไม่ต้องรอให้ข่มขู่อีกรอบเลย..นี่ซิที่แปลก
“ไอ้คนบ้า!! ไอ้คนขี้แกล้ง!! เล่นอะไรบ้าๆ!!!!!!!!”น้ำตาที่มาจากความกลัวตอนนี้เลยกลายเป็นว่ามาจากความดีใจเสียแทน..
“อ้าว..กะว่าจะให้ตกใจเสียหน่อยไหงเป็นอย่างนี้นา..”มือใหญ่ที่รวบอีกฝ่ายเข้ามาก็เช่นกัน เขายิ้มกว้างขึ้นมาอย่างไม่ปกปิด เพราะเขารอเวลานี้มานานเหลือเกิน
“คิดถึงฉันไหม..จุนโฮ”ชายหนุ่มกดปลายจมูกโด่งที่แก้มขาวเปื้อนน้ำตาของอีกคนเบาๆ สูดกลิ่นหอมอ่อนที่เขาเคยสัมผัสทุกวัน เช้า กลางวัน และเย็น
“คิดซิ..ใช่..นายจริงหรือ ชานซอง..”จุนโฮพูดทั้งน้ำตา.เอามือเรียวทั้งสองข้างประคองหน้าอีกคนเอาไว้ มองดูอีกฝ่ายว่าไม่ผิดตัวแล้วจริงๆ กลัวเหลือเกินว่าจะแค่คิดไปเอง..หรือว่านี้จะคือภาพลวงตา..
ดวงตาใสที่ลื่นน้ำนั้นมองเข้าลึกลงไปในดวงตาคมกล้าของอีกคนซึมซับถ้อยคำหวานที่ไม่มีคำพูดไหนจะถ่ายทอดมันได้ดีเท่าสายตาคู่นี้อีกแล้ว ตอนนี้..หากว่าแค่เขาฝันไปแล้วล่ะก็..คงไม่อยากตื่นอีกเลย
มือหนาที่กอดเอวของคนตัวเล็กกว่าเอาไว้ปลดมันออกเพียงข้างเดียวก่อนจึงมือที่จับหน้าเขาเข้ามากดจูบเบาๆ จูบมันทุกๆปลายนิ้ว ย้ำให้อีกคนรู้ว่าเขามีตัวตน..และความอบอุ่นนี้ก็เป็นของจริง..
“เชื่อหรือยัง..ว่าตัวจริง..”เสียงทุ้มนุ้มที่เขาจำมันได้ดีนั้น ไม่ว่าจะห่างแค่ไหน แค่เพียงคำพูดเดียวนั้นเขาก็จำมันได้ บอกออกมาย้ำเตือนอีกครั้ง
“เชื่อซิ...แต่ข้อร้องได้ไหม..ครั้งสุดท้ายแล้วที่จะขอ แต่อย่าไปไหนอีกเลยนะ..”จุนโฮช้อนมือเอาไว้แนบมันลงกับแก้มของเขา เก็บไอแห่งความรักและอบอุ่นนี้เอาไว้ ทดแทนไปเมื่อครั้งที่มันขาดหายไป แล้วจึงเอ่ยบอกความปรารถนาสุดท้าย ที่จะไม่มีสิ่งใดต้องการอีก
ชายหนุ่มยิ้มออกมาน้อยๆ เอานิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาที่ดูท่าจะหยุดไหลยากนั้นออกเบาๆ ถนอมสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเหมือนเมื่อก่อน..เหมือนเมื่อวันที่เขาพยายามทำให้คนตรงหน้าห่างไกลจากคำว่าอันตรายทั้งมวล
“สัญญาซิ..สัญญาเลย..ต่อไปนี้จะไม่ไปไหนอีกแล้ว..รักขนาดนี้..ไปไหนไม่รอดหรอก..”ชานซองบอกน้อยๆ ก่อนจะกระชับกอดให้แน่นมากขึ้น
“พูดแล้วเอาคืนไม่ได้แล้วนะ..รู้ไหม.. ส่วนฉันรักนายไปแล้ว..เอาคืนไม่ได้แล้วเหมือนกัน รู้รึเปล่า..เพราะงั้นนายต้องรับผิดชอบ”จุนโฮเองก็กอดอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเช่นกัน
“...ไม่เอาคืนทั้งสองอย่างเลย..ถึงมาขอคืนก็ไม่ให้”ชายหนุ่มว่าอย่างติดตลกกดจูบที่แก้มนั้นอีกครั้ง จนอีกคนหัวเราะออกมาเบาๆด้วยความสุขก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง..
“ว่าแต่เราลืมอูยองไปหรือเปล่าเนี่ย!!!”จุนโฮตาเหลือกทันทีที่นึกขึ้นได้..
“เรื่องของอูยองน่ะช่างเถอะ..เดี๋ยวคนอื่นเขาก็จัดการกันเอง..”
.............................
................
....
“นาย!!!!!...ไอ้เหยินนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”เสียงร้องตะโกนออกมาดังๆ นั้นไม่ได้สนใจบ้านใกล้เรือนเคียงเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ดวงตาเล็กๆนั้นเบิกกว่างเสียจนดวงตาข้างในนั้นจะแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าแล้วแหละนั้น หากตอนนี้เขายังไม่ได้ขยับไปไหนเลย..จนอีกคนแทบหลุดขำออกมากับท่าทางที่ตลกๆนั้น
“ก็เออดิ แกคิดว่าใครล่ะว่ะ..”ว่าแล้วก็โชว์ยิ้มฟันเรียงกันใหญ่เลยแฮะ
“เฮ้ย...กลับมาไมไม่บอกก่อน...หัวใจเกือบวายตาย..ไอ้เหยินนี่..เดี๋ยวปั๊ดด่าให้เลย ไอ้แมวยักษ์ฟันใหญ่”แจบอมที่พอเริ่มตั้งสติได้ก็ตั้งท่าด่าเข้าให้แม่มเลยนี่แน่ะ
“อ้าวๆๆ นี่ไปรบกลับมานะเว้ย..เจอหน้ากันแทนที่จะถาว่าเป็นไง อะไรบ้าง ประเคนฝีปากมาก่อนเลยนะ”คนตัวใหญ่บ่นเล็กน้อยก่อนอันเชิญตัวเองเข้าบ้านพร้อมกล่องพิซซ่าที่อีกคนสั่งเข้ามาด้วย
“ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ เล่นบ้าๆเองนี่หว่า..”นี่ก็อุบอิบพอกัน จนแทคยอนอดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามาขยี้หัว
“เขาเรียกว่าเซอร์ไพรซ์ไง..โธ่เอ้ย ถ้ามาแบบธรรมดาก็ไม่ใช่พระเอกซิ..”คนพูดยักคิ้วน้อยๆ ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวยาว ซึ่งมันดูเล็กไปถนัดตาเมื่อเขานั่งลงไป
แจบอมมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มตื้นน้อยๆ รู้สึกดีอย่างประหลาดที่เห็นอีกคนนอนเอกเขนกต่อล้อต่อเถียงเขาอยู่อย่างนี้..ไม่เหมือนเมื่อวาน ที่มีเพียงเขาที่นั่งทานกาแฟอยู่ลำพังเลยแม้แต่น้อย
“เออ..ไอ้พระเอกฟันเยอะ!!! ว่าแต่เป็นไง..ไหนมาดูดิ บาดเจ็บตรงไหนบ้าง..”ว่าแล้วแจบอมเองก็เอาเท้าสะกิดให้อีกคนลุกขึ้นนั่ง แล้วจึงสำรวจพื้นที่เสียหายทันที
“โห ใช้ตรีนเลยหรอ...เออๆๆ ลุกก็ได้”เจ้าแมวยักษ์นั้นลุกขึ้นมาน้อยๆก่อนจะยื่นหน้ายื่นตัวเข้าใกล้อีกคนที่หย่อนก้นลงนั่งข้างๆกัน โดยที่คนมาใหมนั้นเอามือจับหน้าเขาไว้น้อยๆ
การคะเนจากสายตาของแจบอมแล้ว หัวคิ้วแตก ปากแตก ใต้ตาช้า เล็กน้อยถึงปานกลาง ภายในยังไม่ได้ดู แต่สังเกตจากการนั่งๆนอนขัดๆแล้ง ไม่ท้องก็อกคงโดนอะไรมาซักอย่าง
“เป็นไง เสียหายเยอะไหม” แทคยอนยิ้มทะเล้นให้กับสายตาจริงจังที่มองเขาเล็กน้อย จนอีกคนแอบย่นจมูกเล็กน้อยทำหลับคืนบ้าง
“ไม่มากเท่าไหร่..พอไหวอยู่..”แจบอมยักไหล่เล็กๆ ก่อนจะยิ้มออกตามมาบ้าง
“งั้นหรออออออออออ..ว้า!!!!!!!!! กะจะหาคนช่วยใส่ยาให้หน่อย งี้ก็อดดิ”ว่าแล้วก็เอกเขนกลงบนตักมันซะเลย..ไหนๆก็หลวมตัวมานั่งด้วยกันแล้วนี่
“อ้าว..แล้วจะนอนทำไมล่ะ..ก็ลุกดิ..จะได้ไปหยิบกล่องยา..”แจบอมเห็นอีกฝ่ายพูดอย่างนั้นแล้วจึงทำท่าจะลุกไปหยิบหาของมาใหทันที..หากยังไม่มันได้ลุกอีกคนกลับคว้าข้อมือเอาไว้ได้เสียก่อน
“เดี๋ยว..มีอะไรจะบอก กลับมาจะพูดแล้วยังไม่ได้พูดเลย”แทคยอนดึงอีกคนเอาไว้จนกลับกลายมาแบบภาพเดิมคือตัวเองนอนตักเหมือนเดิมไม่ไปไหน ฝ่ายคนโดนหยุดเองจึงได้แต่ก้มหน้ามองคนที่นอนหนุนด้วยสายตาสงสัย..หากคราวนี้แววตาขี้เล่นนั้นกลับเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา..
“แจบอม...ฉัน..ฉันรักแกว่ะ”สุดท้ายก็กลั้นใจบอกออกไปจนได้..แต่ไม่รู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง เพราะตอนนี้ทุกอย่างมันดูเงียบไปหมด...
“...............................”
แล้วก็เงียบไปอีก จนบรรยากาศชักเริ่มเปลี่ยนไป..แทคยอนเองยังคงนอนอยู่ที่เดิม จ้องมองใบหน้าขาวของอีกคนที่หันหนีไปอีกทางตั้งแต่เขาบอก
“เอ่อ...//เอ่อ..”พอจะพูด..ก็กับพูดพร้อมกัน
“นายพูดเถอะแจบอม..ถ้าจะปฏิเสธ..ก็...”
“ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้...”หากยังไม่ทันจบอีกคนกลับสวนขึ้นมาเสียก่อนที่ชายหนุ่มร่างโตคนนี้จะได้พูด
“ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้ล่ะ..รู้ไหมเนี่ย ฉันนึกว่าต้องรอจนไปแก่ตายแล้วซะอีกนะ ไอ้เหยินโง่เอ่ย!!!..”บอกจบก็ยิ้มโชว์ฟันขาวมันทุกซี่อวดอีกคนไปซะเลยซินะ..
..............................
..................
......
ถ้าหากช่วงเวลที่ผ่านมาของชีวิต..จะเป็นเรื่องเลวร้ายแล้วละก็... นี่คงเป็งช่วงที่ดีที่สุดของชีวิตของเขาก็ว่าได้...
“รอนานไหม..”เสียงทุ้มบอกน้อยๆ ให้คนที่ยืนค้างอยู่นั้นขยับไปไหนไม่ได้..
ราวกับกาลเวลานั้นหยุดเดินนับจากที่เขาสบตาคนตรงหน้า..รอยยิ้มเดิมๆที่เขาเคยเห็นนั้นยังคงติดตาเหมือนกับภาพซ้อนของเมื่อวันวาน หากแตกต่างก็คงจะตรงที่..วัน เวลา และสถานที่ที่เราพบกันอีกครั้งนั้นเปลี่ยนไป จากที่ที่เราเคยได้เจอกันในวันแรก..หรือวันที่เราต้องจากกัน
”กลับมาแล้วหรอฮะ”ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี..หากนี้คงถือเป็นคำตอบรับที่ดีได้หรอกนะ
เหมือนหนึ่งเสียงรอบข้างนั้นเงียบลง ภาพของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเป็นเพียงแค่ภาพมัวสีขาว ภาพร้านค้า เสียงคนพูดคุย และทุกๆอย่าง หรือแม้แต่ดิน ฟ้า อากาศ...
หากมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ชัดเจน คือภาพของคนคนนี้
ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ ใบหน้าที่มีร่องรอยถูกทำร้ายตรงมุมปากนั้นยังมีให้เห็น หรือบาดแผลตรงข้างแก้ม ที่เป็นแนวนั้น ก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ความรักทำให้เวลา และนาฬิกานั้นหยุดลงจริงๆ มีเพียงแค่เราสองคนจริงๆซินะ..
“กลับมาแล้วนะ”ชายหนุ่มตอบรับคำถามของเขา อย่างว่า..ความห่างไกลและอะไรอีกมากมายแยกเราให้ห่างจากกัน จนวันนี้เวลานำพาให้เขากลับมาถึงเสียที..
สิ่งที่เรียกว่า...บ้านหลังสุดท้าย..
“เจ็บมากไหม..”มือบางเอื้อมไปจับที่บริเวณบาดแผลน้อยๆ ลูบมันเบาๆอย่างที่กลัวาคนตรงหน้าจะเจ็บ หากอีกคนกลับส่ายหน้าเป็นคำตอบ
และพอเมื่อได้สัมผัสกัน กระแสความรู้สึกต่างๆมันกลับถาโถมเข้ามาอย่างมาก..ทั้งความรู้สึกที่ว่านี่ไม่ใช่สิ่งหลอกลวง ไม่แค่เพียงคิดไปเอง หรือหลอกตัวเองให้คิดเข้าข้างตัวเอง
ทั้งน้ำเสียง ทั้งสายตา ทั้งความอบอุ่น ความคิดถึง ความห่วงใย ความรัก..แม้เวลาจะผ่านไปไม่นานนัก แต่ราวกับชั่วกาลนาน จนมันล้นเอ่อออกมา ยากเหลือเกินที่จะบรรยาย ไม่มีใครเข้าใจมันได้เลยเว้นเสียแต่..
คงมีเพียงเราเท่านั้นที่จะเข้าใจ
นิชคุณให้เวลาอีกคนไม่มากเท่าไหร่นัก ความโหยหาในกลิ่นกาย รสสัมผัสและความรู้สึกนั้นกำลังร้องเรียกให้เขาเข้าหาอย่าเชื่องช้า แม้ว่าเราสองคนจะได้อยู่ร่วมกันไม่นาน และแม้ว่าเราจะรู้จักกันน้อยเกินไป แต่โชคชะตากลับผูกมัดเราสองคนแน่นเกินกว่าที่ใครจะทำให้มันขาดได้แล้ว..
หากอูยองเองก็เช่นกัน การรอคอยที่ยาวนานนั้นจบลงเสียที บอกลาความเจ็บปวดที่ผ่านเข้ามาอย่างเต็มตื้น แทนที่มันด้วยความคิดถึง และความสุข
เพราะความห่างไกลนั้นยิ่งทำให้เราได้รู้..ว่าเรารักกันมากเท่าไหร่..
“ไม่เจ็บ..ที่ตรงนี้..แต่เจ็บตรงนี้ เพราะคิดถึง”ชายหนุ่มดึงมือบางนั้นออกเลื่อนจากใบหน้ามาแนบตรงบาดแผลที่ใครบางคนเคยฝากมันเอาไว้..จนถึงวันนี้..มันยังคงอยู่ ต่อให้ร่องรอยแม้จะจาง แต่ยังคงชัดเจน คอยย้ำเสมอว่ายังมีใครบางคนรอคอยอยู่
“กลับมาแล้วจริงๆใช่ไหมฮะ..”อยากจะรู้อีกครั้งเหลือเกิน
“กลับมาแล้ว...”และนี่คือคำตอบ พร้อมกับการรวบตัวอีกคนมากอดเอาไว้ ในเวลาเดียวกันกับที่น้ำตาเม็ดใสนั้นทิ้งตัวลงไปตามข้างแก้มอย่างช้าๆ
ลมหายใจ และเสียงหัวใจที่ได้ยินนั้นยืนยันการมีชีวิตของอีกคนอยู่..ความอบอุ่นจากเนื้อกายนั้นก็เช่นกัน มันบอกให้รู้ว่า คนตรงหน้าคือคนที่เคยกอดเขาเอาไว้ในวันที่เราเคยเคียงใกล้
“พี่กลับมาทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับนาย...ขอโทษที่ปล่อยให้คอย”ชายหนุ่มจุมพิตลงที่กลุ่มผมนุ่มนั้นเบาๆ โอบไหล่บางที่สั่นสะท้านเอาไว้
อย่างแนบแน่น ราวกับกลัวว่าใครจะมาพรากมันออกไป
“ช้าไปไหม..ถ้าพี่จะบอกว่ารักนายมากเท่าไหร่ อูยอง”นิชคุณบอกน้อยๆ กระซิบที่ข้างหูบาง ให้เป็นคำพูดที่เขาจะบอกแค่เพียงคนๆเดียวๆ ให้มีแค่เพียงเขาและอูยองเท่านั้นที่จะได้ยินมัน..
เด็กหนุ่มเพียงแค่ส่ายหน้า ทั้งน้ำตา ส่งรอยยิ้มที่มีความสุขที่สุดให้เป็นการตอบแทน..
ไม่มีอะไรแล้วที่อูยองต้องการ ไม่มีอีกแล้ว..เพราะสิ่งที่เขาได้รับในวันนี้..ตอบคำถามที่เขาสงสัยมานานว่า ถ้อยคำที่มันแตกสลายไปพร้อมกับเศษแก้วพวกนั้น...
คือคำว่าลาก่อน..คงเหลือไว้แต่คำว่ารักเท่านั้น..
****************************************************************
ความคิดเห็น