ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC 2PM]DESTINY ME [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #16 : [SF 2PM]DESTINY ME : PART 12

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 53









     

    Part 12

     

    เสียงความวุ่นวายนั้นทำให้เขาหนาวไปทั้งตัว เสียงปืนกลิ่นคาวเลือดในบ้านของตัวเอง..เลือดบนราวบันได ศพที่กองอยู่หน้าพรมเช็ดเท้า มัจจุราชที่กำลัง ประหักประหารเขากำลังถือเคียวก้าวเดินมาอย่างเชื้องช้า ทว่าเงียบงัน เขาพยายามทำตัวเองให้เงียบที่สุด จนแทบจะกลืนไปกับกำแพงมนุษย์ที่ล้อมรอบเขาเอาไว้

     

    เชว มินกี ไม่เคยกลัวเท่านี้มาก่อน..เขาเคยแต่เป็นคนออกใบสั่งตายให้กับผู้อื่น..แต่วันนี้ ใบสั่งตายนั้นลงนาม ผู้ฆ่าและจ่าชื่อใบมรณะว่าเป็นเขาคนนี้

    มัจจุราขที่บิดาเขาสร้างมากับมือ กลุ่มคนที่เติบโตมาพร้อมกับเขา นักฆ่าที่เป็นที่หนึ่ง...บุคคลอันตรายที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้อีกต่อไปแล้ว

     

    “บอสครับ..เราเสียคนมากเกินไป..ยังไง เราต้องหาทางหลบออกไปจากตรงนี้ให้ได้..”หนึ่งในลูกน้องคนสนิทของเขาบอก หากแต่ก็หน้าแปลกที่เขาไม่เห็นแม้กระทั้งเงาของเลขาฯของตัวเองเลย

     

    ปัง!!!!!!!!!!!!

     

    เสียงปืนนั้นดังใกล้เข้ามาจนใจที่เคยหยิ่งผยองนั้นลีบเล็กลงจนน่ากลัวว่ามันจะแบนหายไปตามช่องอก..ก้อนเนื้อในอกเต้นระรัวอย่างน่าอัศจรรย์ และไม่น่าเชื่อเลย..

     

    วูบ...........

     

    อีกครั้งที่ไฟถูกตัด..แน่นอนว่าห้องๆนี้มืดสนิทเสียจนไม่เห็นแม้กระทั้งมือของตัวเอง...ความตายกำลังคลืบคลานมาอย่างไม่รู้ตัว เหมือนกับการที่มีใครซักคนมาเคาะที่หน้าประตูบ้าน..

     

    ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

    “อ้ากกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!

    “ช่วยด้วย!!!

    “แก...อ้า!!!!!!!!

     

    เสียงร้องที่มาจากรอบกายนั้นยิ่งทำเอาแข้งขาอ่อน..เขากลัวมากเกินกว่าจะแล่งเสียงออกมา..กลัวมากจนไม่กล้าแม้แต่จะหาบใจดัง อยากลืนกินตัวตนไปกับความมืดมิด คาดหวังว่านี้จะไม่ใช่ลมหายใจสุดท้ายของตัวเอง..

    แสงของไฟตามกระบอกปืนทุกครั้งที่กระสุนนั้นออกจากรังเพลิงไม่ได้ช่วยให้มองเห็นอะไรไปได้เลย น้องแสงไฟนั้นเคลื่อนที่อย่ารวดเร็ว...จนมองตามแทบไม่ทัน จนเมื่อเสียงรอบกายนั้นสงบลง...

     

    จริงหรือ...

     

    แกร๊ก!!!...กริ๊ก!!!

     

    แว่วยินเสียงบางอย่าง..ก่อนที่วัตถุของแข็งเย็นฉียบจะสัมผัสโดนด้านหลังของศีรษะ..บางสิ่งที่ขาคุ้นเคย..มาตลอดชีวิตของตัวเอง..แสงไฟนั้นสว่างวาบขึ้นแทบจะทันทีที่มันสัมผัสกับตัวเอง

     

    “สวัสดีครับ..บอส..ไม่ได้เจอกันตั้งนานคิดถึงผมไหม”แทคยอนพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ และรอยยิ้มพิมพ์ใจที่ตอนนี้ดูท่าจะไม่ได้เรียกเสียงหัวเราะอย่างมันควรจะเป็นอีกแล้ว

     

    เสียงหัวเราะจากซาตานในนรก

     

    ..................................

    .......................

    ............

     

    “พวกแก..ต้องการอะไร..”น้ำเสียงที่สั่นพร่าถามขึ้นมาจากความกลัว ของบุคคลที่ตอนนี้โดนมัดติดกับเก้าอี้ทรงหลุยซ์ที่กลางเก็บของห้องในชั้นใต้ดิน ทำให้ทั้งสามคนกระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์ พลางมองหน้าอดีตเจ้านายของตัวเองอย่างไม่เหลือรอยแห่งความเคารพ

     

    “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้..แก ไอ้จุนซู ไอ้คนทรยศ..”มินกีมองหน้าเลขาฯของเขาที่ยืนอยู่มุมห้อง ซึ่งอีกฝ่ายก็มองมาด้วยสายตาที่ว่างเปล่าโดยไม่มีแล้วซึ่งคำตอบ

    “ผมก็เป็นเพียงเรือจ้างเท่านั้นครับ..”ชายหนุมคงตอบได้ดีมากที่สุดทนั้นจริงๆ

     

    “ตกลง..พวกแกต้องการอะไร..”อีกครั้งที่เขาหันกลับมาองคนที่เคยเป็นลูกน้อง

    “ผมหน้าจะถามบอสมากกว่า..ว่าตามฆ่าพวกผมทำไม..”ชานซองถามขึ้นเล้กน้อย เดินมาประจันหน้ากันอีก แต่คราวนี้ไม่มีความนอบน้อมหลงเหลืออยู่เลย

     

    “.....ฉันไม่ได้จะฆ่าพวกแก..”คนถูกถามเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงตอบออกมาเบาๆ นั้นทำให้ทุกคนนิ่งไป..

     

    “แต่ฉัน...จะฆ่ามัน!!!!!!!”เขาหันไปมองคนที่ยืนพิงขอบประตูไม่พูดไม่จานั้น ใบหน้าที่สวยราวรูปสลัก..หากความจริงกลับดูแข็งแกร่งนั้นเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย..

     

    นัยตาของมินกีประกาศกร้าวขึ้นมา..ว่ารังเกียจและอย่างทำให้เขาตายไปเสียจริงๆ

     

    “แก..แกมันน่าจะตายตายไปซะ..”ชายหนุ่มกดเสียงต่ำอย่างเคียดแค้น นัยตาที่เคยเป็นมิตรนั้นแปลสภาพไปไม่เหลือเค้าเดิมอีกแล้วจนน่าใจหาย...หมดพันธะที่เคยที่เคยมีซึ่งกันและกัน

    “ทำไม..”นิชคุณเพียงแค่ถามกลับมาเท่านั้น..เขาออกจะตกใจไม่น้อยหากก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมามห้ได้เห็นมากมาย ทั้งๆที่ในใจนั้นยังสงสัย..

     

    ทั้งๆที่โตมาด้วยกันแท้ๆ ทั้งๆที่เคยเป็นเหมือนพี่น้องกันแท้ๆ แต่ทำไมถึงต้องทำกันขนาดนี้ด้วย

     

    “ฮึ..แกมันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ ว่าแกก็เป็นหนึ่งในตัวเลือก ที่จะขึ้นเป็นบอสเหมือนกัน..ฮึ..เขากำลังจะเขี่ยฉันทิ้งแล้วไง ขนาดฉันเป็นลูกแท้ของเขา แล้วคนที่เขากำลังจะเอาขึ้นมาแทนที่ฉัน คนนั้นที่ขึ้นมามันเป็นแก..ไอ้นิชคุณ แกมันไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง!!!!”มินกีตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสนเจ็บปวด

     

    แน่นอน ทั้งๆที่เขาเป็นลูกชาย และเขาเองก็เพิ่งขึ้นมาทำงานได้แค่ไม่กี่ปี แต่คนเป็นพ่อก็จะสั่งปลดเขา แล้วให้ไอ้ลูกบุญธรรมที่ไม่เคยเหลียวแลนี่ขึ้นมาทำ..ใช่ซิ เพราะมันเก่งไปหมดทุกด้าน มันแทบจะถอดแบบพ่อของเขามาทุกอย่าง สติปัญญา ท่าทาง หรือแม้แต่ความสุขุมที่มันมี..

     

    แต่นี่มันมากจนรับไม่ไหว...เพราะยังไง...เขาก็เป็นลูก

     

    หากคนฟังทั้งสามได้แต่นิ่งอึ้ง ไร้ซึ่งความปิติยินดี มีแต่เพียงเสียงเงียบงันและลมหายใจเข้าออก ของเวลาที่หยุดนิ่ง...เงียบแต่ไม่สงบ เพราะความจริงที่ได้รับรู้มันยังค้ำคออยู่เลย

     

    “เป็นไปไม่ได้..”เสียงอุทานเบาๆแว่วเข้ามาเล็กน้อย สายตาของแทคยอนที่พูดนั้นกลับจับจ้องไปที่เพื่อนร่วมงานคนสนิท..นิชคุณ

     

    หากเวลาเองก็มากพอที่จะใช้คิดทบทวนอะไรบางอย่าง..อย่างเช่นว่า ที่ผ่านมานี้มือของพวกก็เปื้อนเลือดมามากเกินพอแล้ว ทุกวัน ต่อให้อาบน้ำชำระล้างร่างกายเท่าไหร่ ล้างมือที่มันเปื้อนคราบคาวนั้นร้อยหนพันครั้ง และมันก็เคยสะอาดขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียวในความรู้สึก

     

    ถ้าต้องให้ไปยืนอยู่ในจุดนั้น..มันคงไม่มีทางที่จะล้างออกอีกเลยชั่วชีวิตเป็นแน่

     

    แล้วดูเอาเถอะ..ทั้งที่เคยมีความรักให้กัน..อำนาจ บารมี และเงินทอง  ความอยากได้อยากมี อยากเป็น ที่ไม่เคยพอ ทำให้คนเราลืมไปเลยว่ารสชาติของข้าวหม้อเดียวกันนั้นเป็นอย่างไร ถ้าหากมันจะมีค่ามากมาย..

     

    สิ่งเหล่านั้นคงมีค่าแค่เพียงเศษซากศพที่กองอยู่ด้านในตัวบ้านเท่านั้น

     

    “ถ้าหากเป็นอย่างนี้...”นิชคุณมองไปยังคนที่ถูกมัดด้วยสายตาที่คนถูกมองเองก็ไม่เข้าใจ

    “ก็ช่วยให้พวกผมหายไปจากชีวิตคุณเถอะ..”

     

    ปัง!!!!!!!!!!!!

     

    .................................

    ......................

    .............

     

    เพล้ง!!!!!!!!!!!!!

     

    “เฮือก!!!!!!

    “เสียงอะไรน่ะ..”แจบอมที่วิ่งขึ้นมาดูที่ชั้นสองของตัวบ้านเช่าทันทีเพราะเสียงแก้วแตกที่ดังจนคนได้ยินทั้งบ้านนั้น ซึ่งที่มาของเสียงกลับมาจากห้องของอูยอง ในขณะที่จุนโฮเองก็ตามเช่นกัน

    “อูยองนายเป็นอะไรมากไหม..เกิดอะไรขึ้น”

     

    “ค..คือ..แผ่นสลักของผมที่ผมกำลังนั่งทำอยู่น่ะฮะ..”อูยองว่าพลางก้มลงมองของที่ตัวเองเผลอทำหลุดมือลงไป ด้วยสายตาเสียดาย..

     

    จะว่าเพราะว่างงานมากก็ได้ที่ต้องมานั่งๆนอนๆอยู่เฉยๆ จะออกไปไหนก็ต้องคอยระแวดระวังเสมออย่างนี้ เพราะงั้นเขาจึงหาเวลาว่างมานั่งกัดแผ่นกระจกให้เป็นรูปเป็นร่าง ว่าจะเสร็จแล้วแต่กลับกลายเป็นว่า หลุดมือแตกไปให้ได้เสียของก่อน..เด็กหนุ่มมองของบนพื้นด้วยความเสียดาย คร้านจะทิ้งก็ไม่อยากทิ้งจริงๆ

     

    “ว่าแต่นายไม่โดนแก้วบาดใช่ไหม มาเดี๋ยวฉันช่วยเก็บ เนี่ย นายอย่าเพิ่งเดินนะ เดี๋ยวแก้วบาดขา ฉันจะไปเอาไม่กวาดมากวาด ไปจุนโฮมาช่วยกัน”แจบอมถามออกมาน้อยๆ ก่อนอาสาไปเอาเครื่องทำควมสะอาด พรอมกับพยักหน้าไปที่จุนโฮที่อยู่ข้างๆ

    “ไม่ครับไม่..เอ่อ..เดี๋ยว พี่เจย์ จุนโฮ แค่เอาไม่กวาดมาก็พอ..ผมยังไม่อยากทิ้งมันเลย..”อูยองยิ้มน้อยๆให้กับความห่วงใย เวลาบอกให้รู้ว่า แจบอมและเพื่อนตาตี่นั้นจริงใจกับเรา

     

    จนเปรียบเหมือนครอบครัวเดียวกันมากแค่ไหน..

     

    “แต่นายฉันว่าอย่าเก็บเอาของที่มันแตกแล้วไว้เลย มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอก มันเป็นลางไม่ค่อยดีน่ะ อย่าเก็บไว้เลยนะเชื่อฉันเถอะ”จุนโฮบอกน้อยๆ ใส่รองเท้าเดินบ้านเข้ามาหาอย่างไม่กลัวไม่วายเอื้อมมือไปหยิบอีกคู่เพื่อที่อีกคนจะได้ไม่โดนเศษแก้วตำขาเอา เพื่อความรอบคอบ

     

    “มันคือลางไม่ดีหรอ..จุนโฮ..”อูยองค่อยๆใส่รองเท้าอย่างระมัดระวัง ก่อนจะมองเศษกระจกที่อยู่พื้นอีกครั้งเพื่อดูหรือหาอะไรบางอย่างพร้อมทั้งทำท่าหนักใจ

    “อื้อ...เขาว่ากันอย่างนั้นนะ..เหมือนแก้ว จานหรือชามไง..ของแตก ของร้าวนะ..เขาไม่เก็บกันหรอก..ว่าแต่นายสลักข้อความสำคัญอะไรไว้หรอ..ถึงได้ดูเสียดายมากขนาดนี้เนี่ย อูยอง...”จุนโฮมองตามเพื่อนตัวเล็กที่มีวี่แววกังวลในหน้าก็ทำให้อดนึกเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ

     

    “งั้น..ใครจะตอบได้ล่ะ...ว่าข้อความที่มันแตกไปแล้ว...จะเป็นคำว่ารัก...หรือลาก่อน..กันแน่”

     

    **********************************************************

    TBC

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×