รักเราเป็นไปได้ไหม
เรอิต้องบินไปทำงานต่างประเทศคนเดียวในวัย 21 ปี และเมื่อได้ฝึกงานที่ค่ายเพลงทำให้เธอตกหลุมรักศิลปินในค่ายเพลงทำให้เรื่องมากมายเกิดขึ้นหลังจากนี้....
ผู้เข้าชมรวม
51
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
แท็กนิยาย
รักเราเป็นไปได้ไหม
เรอิเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นเธอ แม่เป็นคนญี่ปุ่น พ่อเป็นไทย เกิดที่โฮกายะมาประเทศญี่ปุ่น มีเพื่อนสนิทชื่อริกิ ที่รู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาลจนถึงประถม ได้ไปเป็นศิลปินที่ประเทศเกาหลีใต้ หลังจากที่แม่ของเรอิเสียชีวิตด้วยโรคร้าย ทำให้เรอิต้องย้ายมาเรียนมัธยมที่ประเทศไทยเนื่องด้วยเรอิเป็นคนที่ขยันและมีความฝันที่ชัดเจนคือการที่จะทำงานเลี้ยงตัวเอง
ทำให้เรอิตัดสินใจสอบเทียบและเรียนภาษาที่สี่เพื่อที่จะหาหนทางที่จะได้งานเร็วขึ้นเธอจึงตัดสินใจสอบวัดระดับภาษาเกาหลีขั้นสูงสุดและก็ผ่านด้วยดี เธอจึงลองสมัครงานค่ายเพลงแห่งหนีงในหน้าที่ล่าม
เช้าวันหนึ่งวันที่อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปอดโปร่ง ราวกับว่าจะมีเรื่องที่ดีเกิดขึ้น
เรอิตื่นขึ้นมาพร้อมกับหน้าตาที่สดใสเพราะวันนี้คือวันประกาศผลรับสมัครรับเข้าทำงานนั่นเองทันใดนั้นก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น
“โอ๊ะ นั่นเสียงแจ้งเตือนจากอีเมล์หรือป่าวหน่ะ” เรอิรีบลุกจากที่นอนด้วยความตื่นเต้น
“ใช่จริงด้วย!!!โอ้มายก็อด ทำไมตื่นเต้นอย่างนี้ มือสั่นไปหมดแล้ว แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรเราก็จะยอมรับมัน” แล้วเรอิก็คลิกเข้าไปดูอีเมล์ทันที
“ยินดีด้วยค่ะ คุณได้ผ่านเข้าทำงานกับทางเราค่ายเพลง You play จะ..จะ.จริงเหรอเนี่ยฉันได้งานแล้วนี่ไม่ใช่ความฝันใช่มั้ย เย้ๆๆ” เรอิกระโดดโลดเต้นในห้องนอนของตนเองด้วยความดีใจ
อีกไม่กี่วันเรอิก็ต้องบินไปทำงานที่ต่างประเทศแล้วเลยรีบเก็บกระเป๋าเดินทางใจนึงก็ดีใจอีกใจนึงก็กังวลว่าจะสามารถอยู่ตัวคนเดียวได้หรือไม่ เรอินึกขึ้นได้จึงโทรไปบอกพ่อเรื่องข่าวดีและบอกลาพร้อมกันถึงการบอกลาครั้งนี้จะทำใจลำบากแต่พ่อเรอิก็ยินดีเละอวยพรให้เรอิในทุกเรื่อง
ไม่กี่วันต่อมาเรอิก็ได้ถึงโซลประเทศเกาหลีใต้
“ที่นี่สวยจัง อากาศวันนี้เย็นกำลังพอดีเลย ถึงเวลาที่เราต้องเผชิญโลกคนเดียวแล้วสินะ”
เรอิเดินทางไปที่หน้าค่ายเพลง You play เดินไปที่เค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์อย่างเก้ๆกังๆ มีพี่คนหนึ่งเดินมาพอดี
“สวัสดีค่ะ พี่ชื่อเอินจะเป็นคนดูแลน้องเรอิในตลอดช่วงเวลาการฝึกงาน”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ จะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ฝากตัวด้วยนะคะ”เรอิตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
หลังจากได้ทักท้ายกัน เอินหัวหน้าฝ่านล่ามไทยก็ได้พาเรอิไปแนะนำค่ายเพลงเล็กน้อยเนื่องจากเป็นวันแรกเธอจึงให้เรอิกลับไปผักพ่อนก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเริ่มงานกัน
เช้าวันต่อมา เรอิตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้าทำงานวันแรก ช่างเป็นวันที่หน้าตื่นตาตื่นใจสำหรับเธอมากเลยทีเดียว
“เรอิ ต่อไปนี้งานของเธอคือเป็นล่ามส่วนตัวของ นักร้องซุนยองนะ เมื่อมีอีเวนต์ของลูกค้าชาวต่างชาติ สัมภาษณ์งานต่างๆ หรือคอนเสิร์ต สำหรับแฟนๆชาวไทยและญี่ปุ่น ถ้ามีอะไรสงสัยก็สามารถถามพี่ได้ตลอดนะจ๊ะ”
“รับทราบค่ะ พี่เอินว่าแต่คุณซุนยองเนี่ยเขาเป็นคนยังไงเหรอค่ะ”
“ก็..เท่าที่รู้มาเนี่ยก็เป็นศิลปินที่นิสัยดีเลยทีเดียว ใส่ใจพนักงาน สต๊าฟทุกคนเลยไม่ถือตัวเป็นคนสบายๆประมาณนี้หน่ะจะ
“อ่ออค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ” เรอิคิดในใจว่าอยากรู้จักกับศิลปินคนนี้แล้วว่าตัวจริงจะเหมือนกับที่เขาบอกกันไหม
“วันพรุ่งนี้จะมีคอนเสิร์ตรวมศิลปินนักร้องหลายท่าน พี่จะให้เรอิไปช่วยงานที่นั่น”
“ห้ะ! หนูเหรอค่ะ เข้าใจแล้วค่ะจะไม่เป็นภาระของคนอื่นแน่นอนค่ะ” เรอิพูดด้วยความตกใจ
ณ ที่จัดงานคอนเสิร์ต เรอิทั้งตื่นเต้นทั้งประมาทมากเพราะนี่คือการทำงานครั้งแรกของเธอและเธอยังไม่ค่อยรู้จักใครเลย อยู่ดีๆตอนที่เธอกำลังเช็คว่าศิลปินในงานมาครบไหม เรอิก็เจอกับริกิเพื่อนสมัยเด็กของเธอแต่ในสถานการณ์ตอนนั้นมีแฟนคลับรออยู่ด้านหน้าเยอะเธอเลยไม่กล้าทักก่อน
“โอ๊ะ เธอใช่เรอิรึป่าว มาทำอะไรที่นี้เหรอ” ริกิพูดขึ้นด้วยความตกใจ
“ไม่ได้เจอกันนานเลย ตั้งแต่เธอย้ายไปก็ไม่ได้เจอกันเลยนะ สบายดีไหม”
“เอ่อ..อืม ฉันมาทำงานที่นี่หนะ ก็สบายดีแต่ทำเป็นไม่รู้จักฉันก็ได้นะเดี๋ยวแฟนคลับนายเห็นจะเข้าใจผิด” เรอิรีบตอบด้วยความกังวล
“เรอิมาช่วยงานตรงนี้หน่อย”พี่เอินพูด
“ฉันต้องไปแล้วไว้มีโอกาสค่อยคุยกันนะ”เรอิพูดกับริกิ
“มาแล้วค่ะพี่เอิน”
“นี่ไงเรอิคนที่ฉันเล่าให้ฟังว่าจะมาเป็นล่ามส่วนตัวให้คุณซุนยอง”
“อ๋อ ยินดีที่ได้รู้จักครับผมควอนซุนยองหรือเรียกสั้นๆว่าซุนยองก็ได้ครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”เรอิได้เห็นหน้าซุนยองครั้งแรกก็ตกหลุมรักทันที
หลังจบคอนเสิร์ตจะมีกินเลี้ยงไว้ไปทำความรู้กันเพิ่มเติมที่นั่นก็ได้หนิดีเลย
พอจบคอนเสิร์ตทุกคนก็พากันไปกินเลี้ยงเรอิกับซุนยองบังเอิญได้นั่งโต๊ะเดียวด้วยความที่เรอิเป็นคนขี้อายซุนยองเลยชวนคุยก่อนอย่างเป็นธรรมชาติทำให้เรอิไม่อึดอัดกันทำให้ทั้งสองคนได้คุยทำความรู้จักกันมากขึ้นปรากฎว่าทั้งสองคนมีความชอบ งานอดิเรกคล้ายๆกัน แนวความคิดก็ค่อนข้างเหมือนกันจึงคุยกันได้อย่างลื่นไหลวันนั้นจึงวันที่ดีมากสำหรับทั้งสองคนหลังจากวันนั้นต่อมาเรอิก็เริ่มทำงานกับซุนยองอย่างจริงจังเวลาเป็นเวลาหลายปีไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต อีเวนต์ มีงานเรอิก็ต้องไปด้วยในหลายที่พอทำงานไปด้วยกันเรื่อยๆซุนยองก็เริ่มประทับใจในตัวของเรอิเพราะว่าเธอนั้นตั้งใจทำงานมากไม่ว่าจะต้องเดินทางไกลแคไหนก็ไม่เคยจะบ่นคอยช่วยงานพี่ๆทุกคนจนลืมดูแลตนเองทำให้ซุนยองเป็นห่วงอยากดูแลเธออยู่ใกล้ๆแต่ก็ได้แค่มองเพราะงานของซุนยองก็ยุ่งไม่แพ้กัน โดยที่ไม่รู้เลยว่าเรอินั้นแอบชอบเขาอยู่ตั้งนานแล้วแต่ไม่กล้าที่จะสารภาพออกไปได้ ไม่นานซุนยองก็ขอเรอิคบแต่เรอิต้องการให้ปิดเป็นความลับเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวอาจส่งผลกระทบต่องานของเขาทั้งสองได้เวลามีเวลาว่างจากงานก็จะออกไปกินข้าว เดินเล่นกันแต่ก็ไม่ง่ายเลยเมื่อจะต้องลบซ่อนจากแฟนคลับหรือนักข่าวเพราะเขานั้นมีชื่อมากแต่เรอิก็ไม่เคยเสียใจเลยทีต้องมีความสัมพันธ์ที่ต้องลบซ่อนแบบนี้กลับเขาใจดีว่าซุนยองนั้นมีความสำคัญกับแฟนคลับมากขนานไหนเมื่อเธอได้เห็นแฟนคลับในงานต่างๆหรือในงานแจกลายเซ็นเหมือนกับว่าความรักครั้งนี้จะราบรื่นแต่ซุนยองบอกเรอิว่าเขาจะประกาศเปิดเผยความสัมพันธ์ในทัวร์คอนเสิร์ตอำลาวงการของเขาที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้แต่เรอิไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมากเพราะเธอกลัวว่าจะทำให้แฟนคลับไม่พอใจ หรือไม่พร้อมยอมรับมันก็ได้ทำให้ทั้งสองทะเลาะกันช่วงนึง และผลสรุปคือเรอิก็ยอมที่จะให้ซุนยองบอกความสัมพันธ์กับแฟนๆได้รู้เพราะว่าซุนยองเชื่อใจในแฟนๆของเขา
“ถ้าแฟนคลับไปรู้จากที่อื่นก่อนจะทำให้พวกเขาเสียใจมากๆเลยนะจะดีกว่าถ้าพี่รวบรวมความกล้าไปบอกด้วยตัวเองพี่ว่าเขาน่าจะเข้าใจและยอมรับมันมากกว่า ถึงแฟนคลับจะสำคัญกับพี่แต่เรอิก็สำคัญกับพี่ไม่แพ้กัน”ซุนยองพูดด้วยเสียงเศร้า
“พี่เป็นรักแรกและรักสุดท้ายของฉันไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นฉันจะอยู่ข้างพี่เสมอขอบคุณที่ให้ความสำคัญกับฉันขนานนี้”เรอิพูดเสร็จซุนยองก็เข้ามากอดในทันที
วันที่ทัวร์คอนเสิร์ตอำลาวงการมาถึงคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นคอนเสิร์ตที่ใหญ่มากซุนยองตื่นเต้นมากหลังจากร้องเพลงสุดท้ายจบซุนยองก็เริ่มพูดขึ้นว่า
“ผมมีเรื่องจะประกาศอย่างเป็นทางการครับแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี ผมมีคนคนนึงที่รักมากเลยครับและจะแต่งงานในอีกไม่นาน ผมก็อยากจะบอกให้แฟนๆได้รับรู้ในความสัมพันธ์ครั้งนี้เพราะไม่อยากปิดบังเรื่องนี้กับคนที่ผมรักเหมือนกันก็คือแฟนคลับทุกคนของผมครับที่ผ่านมาขอบคุณที่รักผมสนับสนุนผมในทุกๆเรื่องหวังว่าทุกคนจะเข้าใจผมนะครับ อยากจะขอบคุณและขอโทษด้วยอีกทีครับ สำหรับคอนเสิร์ตอำลาครั้งนี้ขอบคุณที่มากันนะครับการที่ได้ร้องเพลงให้แฟนๆทุกคนได้ฟังเป็นช่วงที่ดีที่สุดในชีวิตผมแล้วครับ ผมซุนยองขอตัวลาไปก่อนนะครับ” ซุนยองพูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้นเรอิที่ฟังอยู่หลังเวทีก็ร้องไห้ตามไปด้วยแต่เรอิตกใจมากที่ซุนยองประกาศเรื่องแต่งงานเพราะไม่เหมือนที่คุยกันไว้
หลังจบคอนเสิรต์ซุนยองรีบไปหาเรอิทันทีและยื่นซองจดหมายที่เขาได้เขียนเองกับมือสำหรับขอ
เรอิแต่งงาน
“ฉันจะคว้าดาวจากท้องฟ้ายามค่ำคืนมามอบให้กับเธอ
เพราะว่าฉันรักเธอเลยยิ่งมีความหมายสำหรับฉัน
อยากตะโกนออกไปว่าต้องเป็นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
ขอเพียงแค่เธออยู่ข้างๆฉันอย่าจากไปไหน
ฉันได้มาพบเธอท่ามกลางผู้คนมากมาย
ฉันเลยอยากจะมีความสุขและไม่อยากร้องไห้อีกเป็นครั้งที่สอง
ในสายตาของฉันมีเพียงแค่เธอได้โปรดรักและดูและฉัน
ต่อจากนี้ไปจะไม่เดี่ยวดายอีกแล้วเพราะมี เรา อยู่ด้วยกัน แต่งงานกันนะเรอิ”
เรอิพูดกับซุนยองว่า
“วันที่ได้พบพี่ครั้งแรกฉันรู้สึกประหม่าเอามากๆเลยล่ะเพราะรู้สึกเหมือนถูกจับได้ว่าแอบชอบพี่อยู่ห่างๆเหมือนฉันแทบจะหยุดหายใจจนพูดอะไรไม่ออกแล้วพี่ก็ส่งยิ้มมาโดยไม่พูดอะไรพร้อมกับกุมมือฉันเอาไว้ ต่อจากนี้ไปจะไม่เดี่ยวดายอีกแล้วเพราะมี เรา อยู่ด้วยกัน ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตฉันนะคะ”
งานแต่งซุนยองและเรอิเลือกทีจะจัดเป็นงานเล็กๆที่มีแต่คนสนิท ในงานแต่งมีริกิ พี่เอิน ทีมงานค่ายYou playและพ่อของเรอิมาแสดงความยินดีด้วย หลังจากแต่งงานซุนยองและเรอิก็ได้ย้ายไปใช้ชีวิตที่ประเทศแคนนาดาอย่างมีความสุข
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ เเบคโฮรัง ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เเบคโฮรัง
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น