คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SF NoRitz รอคำว่า...รัก (ตอนที่1)
SF โน่ริท
รอคำว่า...รัก ตอนที่ 1
“พี่โน่..ริทรักพี่นะ”
“อื้ม..”
อื้ม...เป็นคำที่ผมชินแล้วหล่ะครับ ผมกับพี่โน่เราคบกันมาแล้ว5ปี ผมบอกรักพี่เค้าทุกวัน แต่คำว่ารักของพี่เค้าผมยังไม่ได้ยินเลย มีแค่ตอนที่พี่เค้าขอผมคบตอนนั้นตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้ยินอีกเลย ผมคงไม่ได้ยินอีกแล้วสินะไอ้คำคำนี้ ผมเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าพี่เค้ายังรักผมหรือป่าว หรือตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันพี่โตโน่...ไม่เคยรักผมเลย...
ผมคบกับพี่โตโน่มาตั้งแต่เรียนปี 1 จนตอนนี้ผมเรียนจบมีงานทำ ผมก็ทำงานที่บริษัทพี่เค้านี่แหละแต่ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบุคคล บริษัทนี่เป็นของคุณพ่อพี่เค้า ถามว่าผมกับพี่โตโน่คบกันได้ด้วยหรอ ทางบ้านพวกเรารับได้มั้ย? ทางครอบครัวเราสองคนไม่ว่าอะไรครับ แค่ลูกมีความสุขก็พอแล้ว...
พี่โตโน่เป็นที่เงียบๆ เจ้าระเบียบ คนอื่นอาจจะมองว่าพี่เค้าหยิ่งๆ แต่สำหรับผมพี่เค้าเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดเฉยๆ ก็เพราะไอ้ที่ไม่พูดเนี่ยแหละที่ทำให้ผมอึดอัดจนจะเป็นบ้า แต่ผมก็ไม่อยากที่จะถามเพราะว่า...กลัว...กลัวว่าจะทะเลาะกันแล้วพี่เค้า...จะเลิกกับผม...
“สวัสดีครับคุณริท วันนี้มาแต่เช้าเลยนะครับ”
เสียงของคุณทัต รองผู้จัดการฝ่ายการตลาดทักผม ปกติเวลาผมเข้ามาทำงานก็จะมีพวกพนักงานมาทักทายผมอย่างงี้แหละครับ แต่เฉพาะตอนที่ผมมาคนเดียวนะครับ ถ้ามากับท่านประธานอย่างพี่โตโน่คงไม่มีใครมาทักผมแบบนี้ เพราะว่าทุกคนในบริษัทต่างก็กลัวพี่เค้า ผมไม่เข้าใจว่าจะกลัวอะไรหนักหนา จนผมได้เข้าทำงานที่นี่ ตอนที่ผมกำลังจะไปชวนพี่เค้าทานข้าวตอนพักเที่ยง ก็ได้ยินพี่เค้าดุพนักงาน ดูจากน้ำเสียงแล้วมันเย็นชาสิ้นดี ทั้งโมโหที่พนักงานทำงานพลาด จนถึงขั้นไล่ออก ถ้าผมไม่เข้าไปห้ามป่านนี้พนักงานพวกนั้นจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ จนทุกคนในบริษัทตอนนี้ก็ต่างรักและเคารพผม
“สวัสดีครับผู้จัดการ” ผมทักทายตอบไป
“วันนี้มาคนเดียวหรอครับ แล้ว..” นี่คงจะกลัวโดนพี่โตโน่ว่าสินะ
ก็พี่เค้าประกาศห้ามพนักงานทุกคนคุยกับผมในทางที่สนิทสนม ถ้าใครทำจะไล่ออก แต่ไม่ต้องห่วงผมบอกพวกพนักไงไว้ว่างคุยได้ถ้าตอนท่านประธานไม่อยู่ ...
ยังไม่ทันที่ผู้จัดการจะพูดจบก็เห็นร่างสูง ใบหน้าหล่อเหลาในชุดสูทสีดำ บ่งบอกถึงอำนาจที่น่าเกรงกลัว ทำให้พนักงานทุกคนต่างก้มหน้า
“ทำไมรีบเดินจังละ” พี่เค้าเดินเข้ามาถามผม
“ริทรีบมาเอาเอกสารหน่ะ เดี๋ยวจะออกไปพบลูกค้า”
ผมตอบเค้าออกไปเพราะพอพี่โตโน่จอดรถผมก็รีบเดินเข้ามายังตัวอาคารทันที
“ที่ไหน?” พี่เค้าถามผม เพราะทุกครั้งเวลาไปพบลูกค้าผมต้องรายงานเค้าทุกครั้ง พี่เค้าบอกว่าถ้าผมเป็นอะไรจะได้ช่วยทัน
“โรงแรมพี่อ่ะแหละ” อ่อผมลืมบอกไปว่าพี่เค้ายังมีโรงแรมเป็นของตัวเองอีก อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรงนี้สักเท่าไหร่
“งั้นรีบไปเถอะ” พี่โตโน่บอก
“ครับ” ผมจึงรีบไปเอาเอกสารที่ห้องทำงานตัวเองแล้วขับรถไปพบลูกค้า เพื่อเจรจาเรื่องงานต่างๆ
18.00น.
ตอนนี้ผมอยู่คอนโดครับ ก็ตั้งแต่ออกไปพบลูกค้าเมื่อตอนเช้า ผมก็ไม่ได้เข้าไปบริษัทอีกเลย เพราะไม่มีงานอะไรที่จะต้องทำแล้ว
ในขณะที่ผมกำลังทำอาหารอยู่นั้นก็มีลำแขนมากอดผมจากทางด้านหลัง
“อุ้ย” ผมร้องอย่างตกใจ จะใครส่ะอีกหล่ะครับ ก็พี่โน่เนี่ยแหละ
“ตกใจอะไร พี่เอง” พี่โตโน่พูด
“ทำไมกลับช้าจังละครับวันนี้” ผมถามพี่โตโน่ เพราะวันนี้ไม่ใช่วันศุกร์ทำไมกลับช้าจัง พี่เค้าจะกลับช้าแค่วันศุกร์วันเดียวเพราะที่บริษัทจะประชุม
“พี่เคลียร์เอกสารเพลินไปหน่อยนะสิ” พี่เค้าตอบด้วยเสียงเหนื่อยๆ
ก็จะไม่ใช่เหนื่อยได้ยังไงพี่เค้าเล่นทำงานสองที่ ทั้งที่บริษัทกับโรงแรม แต่โชคดีหน่อยที่โรงแรมมีแม่พี่เค้ายังช่วยๆดูอยู่ ส่วนพ่อพี่เค้าตอนนี้ดูกิจการอยู่ที่ต่างประเทศ รวยใช่ย่อยเลยครอบครัวแฟนผม.
“ไปนั่งพักสิ เดี๋ยวริททำกับข้าวก่อน” ผมไล่พี่เค้าให้ไปนั่งพักเพราะทำงานมาเหนื่อยๆ
“ไม่เอาอะ อยากช่วยริททำด้วย”
“อยากจะช่วยก็ช่วย” ผมไม่อยากขัดพี่เค้า พี่เป็นคนที่ดื้อ อยากจะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ โตแล้วยังทำตัวเป็นเด็กอีกนะ
“วันนี้ไปดูพบลูกค้าเป็นไงบ้าง” พี่เค้าถามผมขณะที่กำลังจะลงมือทานข้าวกัน พี่เค้ามักจะถามแบบนี้เสมอๆเวลาที่ผมไปพบลูกค้า
“ก็ไม่อะไรนะ สบายๆ เออ! วันนี้ริทเจอกันด้วยนะ”
“ที่ไหน!!” พี่เค้าหยุดกินข้าวก่อนจะขึ้นเสียงใส่ผม
“พี่จะเสียงดังทำไมละ พูดดีดีก็ได้” ผมพูดบอกเค้าเพื่ออยากให้เค้าเย็นลง พี่โตโน่เป็นแบบนี้ทุกทีเลยเวลาผมเล่าอะไรแล้วมีผู้ชายคนอื่นด้วย หึงหวงไม่เข้าเรื่องเลยนะ
“แล้วทำไมถึงเจอกัน”
“ก็เค้าเป็นลูกค้าบริษัทเราหน่ะ ตอนแรกเจอก็ตกใจอยู่นะ แต่พอมาคิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน จะได้พูดง่ายๆเนอะ” ผมพูดออกไปยิ้มๆเพราะผมกับกันเคย..เอ่อ..จะคบกันแต่ก็ไม่ได้คบ แต่เราก็ตกลงกันว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แล้วที่สำคัญกันบอกว่าปีหน้าจะแต่งงานแล้ว
“ก็ใช่ไง กลับไปเจอแฟนเก่าใครจะไม่ดีใจละ” พี่โตโน่พูดออกมาก่อนจะลุกและเดินออกไปจากโต๊ะกินข้าว เป็นอย่างงี้ทุกทีเลย ผมก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะ เอาใจไม่ถูกเหมือนกันเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่ว่าผมหมดรักนะ แต่ผมท้อ
“พี่จะลุกไปไหน? เป็นอย่างงี้ทุกทีเอาแต่ใจตัวเอง ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ไม่สนใจว่าริทจะรู้สึกยังไง” ผมตะโกนออกไป สีหน้าพี่โน่ตอนนี้เหมือนจะโกรธและโมโหมาก เพราะเวลาที่ทะเลาะกันผมไม่เคยขึ้นเสียง มีแต่บอกให้เค้าใจเย็น แต่ครั้งนี้ผมเหนื่อย...เหนื่อยจริงๆ
อีกไกลแค่ไหนจนกว่าฉันจะใกล้บอกที ̴
เป็นโทรศัพท์ขอผมเองที่ดังขึ้นมา พี่โตโน่เดินไปดูด้วยใบหน้าเรียบเฉยและเย็นชา ก่อนจะหยิบขึ้นมาโชว์ให้ผมดู
กัน
“พี่ว่าริทต่างหากละ ที่ไม่สนใจความรู้สึกของพี่ คบกับพี่แต่ให้แฟนเก่าโทรมา หึ”
สวัสดีค้าาาา
เป็นยังไงบ้าง SF สนุกมั้ย? เม้นต์บอกด้วยนะจะได้ปรับปรุง
นี่ลงตอนที่1ให้ก่อนนะ เรื่องนี้มีไม่เกิน 6 ตอนโดยประมาณ
ไรท์ถนัดแต่ง SFมากกว่า เพราะไรท์ชอบแต่งเรื่องสั้นๆ
ยังไงก็ฝากด้วยนะ
เรื่องม่าหน่อยๆ นะ แต่จะเขียนไม่ให้มันม่าจนเกินไป
เจอกันตอนต่อไป
18/08/2556
ความคิดเห็น