ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายใย...สึนามิ

    ลำดับตอนที่ #3 : ~ความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่~

    • อัปเดตล่าสุด 26 ธ.ค. 48


         ระเบียงห้อง 905 เวลา 10:33



      “นั่นไง น้ำขึ้นเท่าเดิมและ”สืบศักดิ์พูดพลางชี้มืออกไปยังท้องทะเล



      “เออว่ะ...เฮ้ยทำไมมันขึ้นเร็วงี้วะครึ่งชั่วโมงเองนะโว้ย”



      “เออ...นั่นดิวะ”



      “งั้นข้ากลับก้อนดีกว่าเป็นห่วงคนที่หาดว่ะ”



      “เออๆ...แล้วเจอกันโว้ยเพื่อน”



      ชาติชายเดินออกไปยื่นมือจับลูกบิดประตูแต่เสียงของสืบศักดิ์ก็เรียกเขาเอาไว้



      “เฮ้ย...ไอ้ชาติตายห่าแล้ว”สืบสักดิ์สปถออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตกใจสุดขีด



      ชาติชายวิ่งกลับเข้ามาในห้องแล้วมองออกไปยังน้องทะเล คลื่นลูกมหึมาถามโถมเข้าสู่ชายฝั่ง ผู้คนต่างวิ่งหนีตาย

      

      “เพ็ญ...ข้าจะไปหาเพ็ญ”ชาติชายวิ่งถลาออกไปนอกห้องน้ำตาไหลรินอาบแก้ม



      “ไม่ได้นะเว้ยไอ้ชาติ”สืบศักดิ์วิ่งมาคว้าตัวเพื่อเอาไว้



      “ต้องได้...ข้าจะไปหาลูก”



      “เอ็งไปตอนนี้ก็มีแต่ตาย...ห่วงชีวิตตัวเองก่อนสิวะ”



      “ไม่...ไม่ ถ้าไม่มีลูกกับเพ็ญข้าจะอยู่ไปทำไมวะ”



      “เอ็งอย่าเพิ่งคิดในแง่ร้ายขนาดนั้นสิวะ...ถ้าลูกกับเมียเอ็งรอดตายแล้วเอ็งเสือกวิ่งลงไปตายลูกกับเมียเอ็งจะอยู่ยังไง”



      ชาติชายสะอึกกับคำพูดของเพื่อน แล้ววิ่งกลับไปที่ระเบียง ภาพที่เขาเห็นถึงกับทำให้เขาเขาอ่อนแทบล้มทั้งยืน ชุมชนร้านค้าที่เคยมีชาวบ้าน

    และนักท่องเที่ยวซื้อหาจับจ่ายข้าวของกันอย่าพลุกพล่าน ต้นไม้ที่เคยขียวขจี ตอนนี้เหมือนกับที่ดินว่างเปล่า ราบเรียบ ไม่มีสิ่งมีชีวิตหลงเหลืออยู่ และสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น คลื่นยักษ์อีกลูกถูกพักเข้ามาหาฝั่ง

    ถึงชาติชายจะไม่ถูกคลื่นหรือแม้แต่ระอองน้ำถูกตัวเลยแม้แต่น้อยแต่ทว่าเขากลับเจ็บเหมือนกับโดนกระชากวิญญาณออกจากร่าง



      “เพ็ญ........”เขาตะโกนออกไปสุดเสียงร้องไห้ราวกับคนขาดสติ



      “ไอ้ชาติ...ใจเย็นเว้ย”สืบศักดิ์ทำอะไรไม่ได้มากกว่าจะปลอบใจเพื่อน



      “ดาว......เดือน......ไอ้ศักดิ์ลูกข้าอะ...ลูกข้าอยู่ข้างล่างนั่น”



      “เออข้ารู้...”สืบศักดิ์มองสภาพเพื่อนที่เหมือนกับคนตายทั้งเป็น ร่างกายของเขาลงไปกองอยู่กับพื้นไม่ขยับมีเพียงแต่น้ำตาลูกผู้ชายที่ยังคง

    ไหลออกมาไม่หยุดหย่อน



      “เฮ้ย...น้ำแห้งแล้ว โหดูสภาพเอ็งไม่ไหวแล้วว่ะ งั้นข้าจะไปดูเพ็ญกับหลานให้แล้วกันเอ็งอยู่ห้องข้าก่อน”



      “ไม่ๆ...ข้าจะไม่ทิ้งพวกเขาอีกแล้ว ข้าจะไปด้วย ข้ายังไหว”ชาติชายลุกขึ้นแล้ววิ่งลงบันได้ไปเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยมีสืบศักดิ์วิ่งตามไปติดๆ เขาวิ่งลงมาอย่างรวดเร็วแต่ดุเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนมาถึงชั้น 3 ของตึก น้ำทะเลเจิ่งนองไปทั่วร่างไร้วิญญาณมีให้เป็นอยู่ตามทางเดินยิ่งทำให้ใจของชาติชายแทบขาดลง เขายังคงวิ่งต่อไปจนถึงชั้นล่างสุด เขาหันซ้ายหันขวาเหมือนกับยังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเห็นร่างไร้วิญญาณของผู้คนมากมายรวมทั้งเศษข้าวของอีกมากมายกองทับกันอยู่ที่ริมฝาผนังของห้องโถงใหญ่ด้านล่างของโรงแรม ยิ่งทำให้เขาใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอดคิดถึงความรุนแรงของคลื่นไม่ได้

    เขาออกมานอกโรงแรมวิ่งไปที่(อดีต)บ้านพักที่เขาอยู่ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงพื้นทรายและซากสิ่งของรวมทั้งมนุษย์เกลื่อนกลาดไปหมด

    เขาวิ่งไปอย่างไร้จุดหมาย ปากก็ตะโกนเรียกคนในครอบครัว



      “เพ็ญ....เดือน....ดาว....พ่อครับ...แม่ครับ”



         เวลา 18:00น.



      “ไอ้ชาติ...ข้าว่า...”สืบศักดิ์ไม่กล้าที่จะพูดคำต่อไป



      “เอ็งจะเลิกหาก็ได้นะ...แต่ข้าจะไม่หยุดจนกว่าจะเจอลูกเมียข้า”ชาติชายพูดด้วยเสียงหนักแน่น



      “เฮ้ย...ไม่ได้ ถ้าเอ็งยังไม่เลิกหาข้าก็จะช่วยเอ็งต่อไป”สืบศักดิ์วางมือบนบ่าของเพื่อนเบาๆ



      “ขอบใจนะไอ้ศักดิ์”



      “ไม่เป็นไรเว้ย...เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนสิวะ”



      เวลาผ่านไปเกือบอาทิตย์สืบศักดิ์และชาติชายยังคงช่วยกันตามหาญาติ ทุกที่ที่มีหน่วยช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งสองต่างไปมาแล้วทั้งหมดและไม่ต่ำกว่าสองรอบ



      “ไอ้ศักดิ์...ข้าถอดใจแล้วว่ะ”ชาติชายบอกกับเพื่อนน้ำตาคลอ



      “พรุ่งนี้ข้าจะกลับบ้านแล้ว”เขาใช่มือของพ่ออันอบอุ่นที่เคยโอบกอดลูกปาดน้ำตาตัวเอง



      “ไม่เป็นไรนะเว้ย...ถึงยังไงพวกเขาก็ยังอยู่ใจใจเอ็งไม่ใช่หรอ...



         ที่บ้านของชาติชายใจกลางเมืองกรุงเทพ



      ชาติชายนอนเหม่อลอยอยู่บนเตียงเหมือนกับรอคอยอะไรบางอย่างที่คงจะไม่มีวันกลับมาหาเขาอีก



      “กริ๊ง.........ๆ.......ๆ”เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นภายในบ้านของเขา



      “สวัสดีครับ”ชาติชายเดินไปรับโทรศัพท์อย่างอ่อนล้า



      “คุณชาติชายรึเปล่าคะ”เสียงจากปลายสายถามขึ้น



      “ใช่ครับ”



      “เราโทรมาจากหน่อยช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามินะคะ”



      “ครับ”ชาติชายพูดด้วยน้ำเสียงมีความหวังและแววตาที่เปล่งประกาย



      “ทางเราพบ...ศพของญาติคุณแล้วค่ะ”



      “ครับ...” แววตาที่เปล่งประกายของเขาถูกบดบังด้วยน้ำตา



      เขาวางสายแล้วร่ำไห้กับการจากไปของผู้เป็นที่รัก
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×