ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : มูลค่าของชีวิต
"อย่าหนีนะ ไอ้เด็กขี้ขโมย\"
เสียงผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ
เสียงผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ
พร้อมกับมีเด็กคนหนึ่งกับผู้หญ ทั้งแม่และฉันหันไปดูทันเห็นหน \"อ้าว นั่นป้าร้านขายของไม่ใช่เหรอ\" \"ใช่จ้ะแม่ แกวิ่งไล่ใครกันละ\" ป้าคนนั้นชื่อว่า \'ป้าหนอม\' เป็นแม่ค้าขายของชำสารพัดอย มีฐานะจัดว่าดีกว่าแม่ค้าคนอื่นๆ ในละแวกเดียวกัน และเป็นที่รู้จักกันว่าแกเป แถมปากจัดที่สุดในตลาดอีกด้วย ใครต่อราคาของมากเกินไป หรือถามราคาแล้วไม่ซื้อ ป้าแกจะโวยวายชนิดต้องรีบเผ เสียงเอะอะดังมากขึ้น ฉันหันไปมองป้าหนอมจับข้อมือเด 12-13 ขวบ ไล่เลี่ยกับฉันซึ่งกำลังดิ แม่จึงเดินเข้าไปถาม \"พี่หนอม มีไรหรอคะ\" \"ก็ไอ้เด็กเวรนี่นะสิ มันมา ทำทีขอซื้อยาแก้ปวดกับยาธาตุ พอฉันหยิบส่งให้ มันก็วิ่งหนีมาเลย เงินก็ไม่จ่าย\" พูดจบป้าหนอมก็ตบหัวเด็กคนนั และคงจะมีตามมาอีกหลายทีแน่ถ \"ตายแล้วพี่หนอม อย่าถึงกับลงไม้ลงมือกันเลยนะ แล้วนี่จะทำไงต่อ\" แม่รีบตัดบทเพราะเห็นว่าเรื \"เรียกตำรวจมาเอามันไปเข้าค ยังเด็กตัวแค่นี้ก็ริจะเป ฉันสะกิดแม่ทันทีพร้อมกับมองพลาง แม่มองฉันแล้วมองเด็กคนนั้น ซึ่งท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้ แม่นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันไปพูดกับป้าหนอมว่า \"อย่าให้ถึงอย่างนั้นเลยนะพี เอาเป็นว่าฉันจ่ายให้ละกันนะ กี่บาทกันละ\" ในที่สุดเรื่องก็จบลง โดยการที่แม่ยอมจ่ายเงินค่ายาแก แล้วแม่ก็จูงเด็กคนนั้นออกมาจากต \"ใจดีกับเด็กขี้โขมยแบบนี้ ระวังจะเสียใจทีหลังนะเธอ\" แม่ไม่ได้ตอบอะไร แต่พอเดินห่าง จากร้านพอสมควรแล้วก็ถามว่า \"ทำไมหนูขโมยของป้าเขาละ\" เด็กคนนั้นเงยหน้าที่เต็มไปด \"แม่ผมปวดท้องมากเลยครับ แล้วแม่ก็ไม่มีเงินไปหาหมอ ผมก็เลยต้อง...\" แม่มองหน้าเด็กคนนั้นอยู่ครู่หน แล้วยื่นผลไม้ที่ซื้อมาให้เด \"ทีหลังอย่าโขมยของใครนะ ถ้าไม่มีเงินมาขอเงินน้าไปซื้อก น้าชื่อสมพรเปิดร้านเย็บผ้าอยู รู้จักน้าแทบทุกคนเลยแหละ เอ้า...เอา ส้มไป ฝากคุณแม่ซิ คนป่วยนะต้องกินผลไม้มากๆ จะได้หายไวๆ รู้มั้ย\" แม่เสริมพร้อมกับยิ้ม เด็กคนนั้นอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะรับส้มพร้อมกับพูดขอบค หลังจากนั้นพอกลับมาถึงบ้าน ฉันก็ถามแม่ทันที \"ทำไมแม่ต้องช่วยเด็กคนนันด แม่ยิ้ม แล้วตอบฉันว่า \"ไม่รู้จักหรอก แต่แม่เห็นเด็กคนนั้นรับจ แต่แกคงจำแม่ไม่ได้หรอก แม่ซื้อขนมแกอยู่ไม่กี่ครั้งเอง \"แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะต ฉันถามต่อ แม่มองหน้าฉันแล้วพูดว่า \"แม่เชื่อว่าเด็กที่เคยหาเงินด จะต้องเป็นเด็กที่มีความรับผ รู้คุณค่าของเงินทุกบาททุกสตางค และคนที่มีความรับผิดชอบนะ จะไม่มีทางขโมยของใครนอกจากจะจำเ เมื่อเขาไม่มีทางอื่นให้เลือกแล ฉันฟังแล้วก็ถามแม่ต่อว่า \"แล้วต่อไปถ้าเขามาขอเงินแม \"ให้สิลูกถ้ามันไม่มากไม \"แล้วแม่ไม่เสียดายเงินหรอ บ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนบ \"ถึงแม่จะไม่มีเงินทองมากนัก แต่การที่ได้ช่วยเหลือคนที่กำล มันทำให้แม่มีความสุข แล้วยังได้บุญอีกด้วยนะ แค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว ไม่อยากได้อะไรตอบแทนหรอก\" แล้วแม่ก็พูดต่ออีกว่า \"จำไว้นะลูก คนเรานะ ต้องรู้จักให้อภัยและให้โอกาสคนอ อย่างเด็กคนนั้น..แม่มั่นใจว แม่ถึงช่วยแกเอาไว้\" แล้วแม่ก็พูดต่อว่า \"ลูกอาจจะบอกว่าขโมยเป็นสิ่งที แต่บางครั้งคนเราก็ต้องมองด้านอ อย่าคิดแต่เรื่องทรัพย์สินเง ตอนนี้ลูกอาจจะยังฟังไม่เข้าใจ แต่แม่เชื่อว่าสักวันลูกจะเข หลังจากนั้น ฉันกับแม่ก็หันไปคุยเรื่องอื่นๆ กันต่อ ฉันเองไม่เคยคิดเรื่องนี้อีกเลย จนเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ทำให้ฉันต้องย้อนกลับมาคิดถึงเร หลังจากนั้นฉันเรียนจบระดับปร แล้วฉันก็ได้งานทำในโรงงานแห เงินเดือนก็พอประมาณ สามารถเลี้ยงดูแม่ได้โดยไม่ข ฉันก็เลยขอร้องให้แม่หยุดรับจ เพราะอยากให้แม่พักผ่อนบ้างหล ปีเพื่อส่งฉันเรียน แม่ยอมปิดร้าน แต่ก็ยังรับงานเล็กๆ น้อยๆ ของเพื่อนบ้านมาทำบ้างโดยไม่ค แม่บอกว่าถ้าไม่ได้ทำอะไรเลยจะร ฉันทำงานอยู่ประมาณ 2-3 ปี แม่ก็เริ่มรู้สึกไม่สบาย เริ่มจากปวดหัวบ่อยขึ้น ช่วงแรกๆ ไม่กี่วันก็หาย หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นนานขึ ฉันบอกให้แม่ไปหาหมอ แล้วฉันก็พาแม่ไปหาหมอในเมือง หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่ทำงานหนักมากเกินไป หมอให้ยามาชุดหนึ่งพร้อมกำชับให จะได้หายเร็วๆ หลังจากกินยาตามที่หมอสั่ง อาการปวดหัวของแม่ก็หายไป ฉันเริ่มสบายใจขึ้น แต่หลังจากไปหาหมอได้ประมาณหนึ คราวนี้เป็นหนักมากกว่าครั้งที ยาที่เคยกินแล้วได้ผลมาก่อนก็ไม ฉันกังวลใจมาก พอถามหมอ หมอก็บอกว่าต้องไปตรวจที เพราะว่าเครื่องไม้เครื่องมือพร หลังจากนั้นฉันรีบพาแม่ไปกร หลังจากหมอตรวจแล้วบอกว่ามีเนื หากปล่อยทิ้งไว้อาจไปทับเส หรือถ้าผ่าตัดไม่ทันก็อาจร ฉันตกใจมากขอให้หมอผ่าตัดให้ท แต่หมอบอกว่าโรงพยาบาลที่มีหมอผ ซึ่งมีชื่อเสียงมากกว่า ดังนั้นหมอจึงต้องส่งตัวคนไข ฉันก็ตกลง หลังจากถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลด แม่ก็ถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดท ทั้งเรื่องอาการป่วยของแม่ และจากคำพูดของหมอที่ทิ้งท้ายไว หมอบอกให้ทำใจไว้บ้าง เพราะการผ่าตัดสมองเป็นการผ่าต โอกาสที่คนไข้จะเสียชีวิตมีมาก แม้การผ่าตัดจะประสบความสำเร็จก อีกเรื่องก็คือค่าใช้จ่ายในการผ เมื่อรวมกับค่ายา ระหว่างพักฟื้น คิดแล้วน่าจะต้องใช้เงินราวๆ ห้าแสนบาท ฉันได้ยินแล้วแทบลมจับ ฉันจะไปหาเงินห้าแสนบาทมาจากไหน ลำพังเงินเก็บของฉันกับแม่ยังม แต่ยังไงฉันก็ต้องรักษาแม่ให้หาย ส่วนเรื่องเงินไว้คิดทีหลัง หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นลง เป็นโชคดีของแม่ที่การผ่าต และไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ ทางโรง พยาบาลบอกให้พักฟื้นประมาณหนึ ทางโรงพยาบาลแจ้งรายการค่าใช้จ ปรากฎว่าเป็นเงินจำนวนไม่ถึงหนึ ฉันแปลกใจมาก จึงสอบถามกับนางพยาบาล นางพยาบาลบอกว่าคุณหมอที่เป และเป็นเจ้าของไข้บอกไม่ให้ค โดยที่ทางโรงพยาบาลก็ไม่ทราบสาเห นางพยาบาลบอกว่าหลังจากเสร็จค แต่คุณหมอได้ฝากจดหมายไว้ให้ฉ โดยกำชับกับทางโรงพยาบาลให ของทางโรงพยาบาลในวันที่แม เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันกับแม่ก็เปิดอ่านจดหมายของค เมื่ออ่านจบทั้งฉันและแม่ก็ร เนื้อความในจดหมายมีดังนี้ \'ข้าพเจ้านายแพทย์เดชา ทองวิจิตร แพทย์ผู้ผ่าตัด นางสมพร ภู่จันทร์ ขอสรุปค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดทั ค่าผ่าตัด 0 บาท ค่ายาทั้งหมด 0 บาท ค่าใช้จ่ายอื่นที่เหลือ 0 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 0 บาท ป.ล. ค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้รับแล้ว เมื่อยี่สิบปีก่อนด้วยยาแก้ปวด ยาธาตุ ส้มหนึ่งถุง ขอให้สุขภาพแข็งแรงไปอีกนานๆ นะครับคุณน้า นายแพทย์เดชา ทองวิจิตร\' |
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น