คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Seaside: Island of love
เกลียวคลื่นที่ 3
หาดทราย สายลม สองเรา
Island of love
“น้องตังค้าบบบบบบ พี่มารับแล้วพร้อมรึยังครับ?”
“ครับๆพี่ก้อง รอตังแปบนึงนะฮะ ตังขอปิดบ้านก่อน” ตังตะโกนออกมาพร้อมกึ่งแบกกึ่งลากเป้ใบใหญ่ออกมาด้วย
“โห แบกอะไรมาเยอะแยะครับเนี่ย มาๆพี่ช่วยถือ” คนอย่างเกริกฤทธิ์ไม่รอช้ารีบวิ่งมาแบกกระเป๋าใบโตแล้วยกไปไว้ที่ท้ายรถให้ทันที
“ขอบคุณครับ อ่าววันนี้ไปกระบะหรอฮะ?”
“แน่สิครับ น้องตังจะให้พี่เอาบิ๊กไบค์ไปลุยทรายหรอครับ หืม?”ก้องถามพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“อะ อ่า ครับๆตังลืม อ๊ะ...งื้ออออออ แล้วพี่ก้องจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆทำไมเนี่ยยยยยยย”
“ก็พี่...ชอบมองหน้าน้องตังนี่ครับ ยิ่งได้มองใกล้แล้วมันยิ่งน่า...” พูดยังไม่ทันจบเกริกฤทธิ์ก็ฉวยโอกาสขโมยหอมแก้มนิ่มของสารัชไปหนึ่งฟอดใหญ่ๆ
“งึ พี่ก้องอะทำบ้าอะไรเนี่ย ไปกันได้แล้วน่า อะไรก็ไม่รู้ ชิ” ตังว่าไปนั่นแล้วก็เดินลิ่วๆไปคอยก้องที่รถ
ตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนรถมาคนตัวเล็กที่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถอยู่นั้นไม่แม้แต่จะคุยกับคุณสารถีเลยซักนิด เอาแต่นั่งก้มหน้างุดทำหน้าเครียดเหมือนคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา
“น้องตังเป็นอะไรรึเปล่าครับ นั่งเงียบเชียว หรือว่า โกรธที่พี่หอ....”
“เปล่านะ!!! ตัง...ตังไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย ปก...ปกติดีม๊ากมากเลยฮะ” ตังรีบบอกปัดทั้งๆที่หน้ายังแดงไม่หาย
“555 คนปกติที่ไหนเค้าพูดติดๆขัดๆแล้วก็หน้าแดงเป็นตูดลิงขนาดนี้กันละครับ”
“ตังเปล่าพูดติดๆขัดๆนะ แล้วที่ตังหน้าแดง เอ้ย ไม่ๆไม่ได้หน้าแดงด้วย ตังแค่ เออ...ตังร้อนน่ะ หน้ามันเลยเป็นแบบนี้”
“อ๋อออออ หรอครับ พี่จะเชื่อละกันเนอะ ปะ ถึงท่าเรือแล้วครับ”
.
.
.
.
“แล้วนี่เราต้องนั่งเรือไปกันไกลแค่ไหนหรอครับ?” ตังที่นั่งมองทะเลมาซักพักถามและยกปากกาขึ้นเตรียมจดโน้ตเพื่อเป็นข้อมูลในการแก้โปรเจคให้ผ่าน
“เกือบๆกลางทะเลอะครับ นี่ไงถึงพอดีเลย แถวนี้ปลาชุกชุมครับ”
“อ๋อออออ” ตังพยักหน้าเล็กน้อยแล้วก้มหน้าจดยิกๆต่อไป ฝ่ายก้องก็เริ่มเตรียมอุปกรณ์ต่างๆมาทอดแห
“นี่นะครับน้องตัง เราต้องเริ่มทำแบบนี้ก่อน แล้วก็ค่อยๆเหวี่ยงแหออกไป แล้วเดี๋ยวคอยซัก 2-3 วันปลาก็มาติดเต็มแหแล้วครับ”
“อ๋อ เดี๋ยวครับๆพี่ก้อง นั่น...ใช่พายุรึเปล่าครับ?”
“อ่า ครับ แปลกแฮะปกติช่วงนี้ไม่มีพายุซะหน่อย แต่น้องตังไม่ต้องห่วงนะครับพายุผิดฤดูอย่างนี้ อย่างมากก็เป็นแค่ฝนไล่ช้าง ไม่รุนแรงครับ เรือเราเอาอยู่ เหวอออออออออ พี่ว่าเอาไม่อยู่แล้วแหละครับ น้องตังเข้าไปหลบฝนข้างในที่มีหลังคาก่อนนะครับ” ยังไม่ทันที่ก้องจะได้พูดจบดีจู่ๆลมพายุก็พัดฝนเข้ามาที่เรืออย่างหนักจนเรือโคลง
“แล้วพี่ก้องไม่เข้ามาหลบหรอครับ?” ตังตะโกนแข่งกับเสียงฝน
“เดี๋ยวพี่ขอลากแหขึ้นมาก่อนนะครับ ปล่อยไว้แบบนี้มีหวังขาดหายไปแหง่ๆ” ก้องตะโกนกลับ “แย่แล้วละครับ แหมันไปพักกับใบพัดเรือจนใบพัดมันหักซะแล้ว แบบนี้คงต้องปล่อยให้เรือมันแล่นไปเองซะแล้ว” ก้องพูดพร้อมวิ่งเข้ามาหลบด้านใน
เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงง จู่ก็มีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นใกล้กับเรือ
“กรี๊ดดดดด” ทันทีที่ก้องได้ยินเสียงกรี๊ดดังออกมาจากเรือก็รีบวิ่งเข้าไปดูทันที
“เกิดอะไรขึ้นครับน้องตัง!!!” เขาก้มลงไปนั่งข้างๆคนที่ขดตัวๆสั่นระริกด้วยความหวาดกลัวอยู่กับมุมๆหนึ่งของห้องคนขับ
“ฮึก พี่...พี่ก้องฮะ ตัง...ตังกลัวเสียงฟ้าผ่า ตัง ฮึก ไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย” ตังพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“พี่ขอโทษนะครับ พี่ไม่น่าพาตังมาเจออะไรแบบนี้เลย เป็นความผิดของพี่แท้ๆ แต่น้องตังไม่ต้องกลัวนะครับ พี่ขอสัญญาว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พี่จะต้องพาน้องตังกลับฝั่งอย่างปลอดภัยให้ได้ น้องตังเชื่อใจพี่ก้องนะครับ” ก้องพูดปลอบพร้อมกอดน้องไว้แนบกายที่เปียกชื้นของทั้งคู่
“ฮะพี่ก้อง ตัง...ฮึก ตังจะเชื่อใจพี่...ฮึก พี่ก้องครับ” ตังตอบพร้อมกอดพี่ก้องไว้
ทั้งคู่กอดกันไว้อย่างแนบแน่นท่ามกลางพายุที่ไม่มีทีท่าจะสงบลงง่ายๆตลอดทั้งคืน
.
.
.
.
“อื้มมมมมม” ก้องค่อยๆลืมตาขึ้นและพบว่าเรือของตนถูกซัดมาติดที่เกาะแห่งหนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเกาะร้าง เพราะเขาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเกาะและทะเลแถบนี้ไม่เคยเห็นเกาะนี่มาก่อน
“น้องตังครับ ตื่นได้แล้วนะครับ พายุสงบแล้ว นี่ก็สายแล้วด้วย” พี่ก้องสะกิดผม
“อื้อออออ ที่นี่ที่ไหนอะครับ” ผมถามขึ้นด้วยความงัวเงียทั้งๆที่หัวก็ยังคงซบอยู่บนอกแกร่งของอีกคน
“น่าจะเป็นเกาะไหนซักเกาะแถวนี้แหละครับ เรือเราคงถูกพัดมาติด เดี๋ยวพี่จะลงไปสำรวจเกาะดู น้องตังรออยู่บนเรือนะครับ”
“ไม่เอาฮะ ตังจะลงไปด้วย ตังไม่อยากอยู่บนนี้คนเดียว” ผมพูดพร้อมเกาะแขนพี่ก้องไว้แบบอ้อนๆ ‘แต่เดี๋ยวนะ ทำไมผมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย จะไปทำหน้าอ้อนใส่พี่เค้าทำไม เออ แต่ช่างเหอะผมยังง่วงอยู่ แล้วมันก็คงไม่ดีแน่ๆ ถ้าให้ผมหลับคาอยู่บนเรือคนเดียว เผื่อมีตัวอะไรโผล่มาจากทะเลมาง่ำเรือไปผมก็ตายอะดิ สู้ให้ผมฝืนง่วงเดินไปกับพี่เค้าดีกว่า อย่างน้อยก็อุ่นใจกว่า เอ๊ะ เดี๋ยวๆผมอุ่นใจเวลาอยู่กับพี่ก้องงั้นหรอ ผมเป็นอะไรเนี่ยยยยยย แล้วทำไมเวลาผมคิดถึงเรื่องเกี่ยวกับพี่ก้องหน้าผมมันต้องร้อนด้วยเนี่ยยยยย ผมเป็นบ้าหรอเนี่ยยยย แล้วผมจะเนี่ยทำไมหลายๆรอบเนี่ยยยยย เห้ออออผมคงเมาทะเลแหงๆ’
“...ตัง น้องตังครับ ได้ยินพี่มั้ย” พี่ก้องสะกิดเรียกผมด้วยใบหน้างงๆ
“ฮะๆครับ อะไรนะครับ?”
“ตังเป็นอะไรรึเปล่า พี่เรียกตั้งหลายรอบ แล้วนี่ทำไมจู่ๆหน้าแดงขนาดนั้นละครับ?”
“อ๋อ เออ เปล่าครับ ตังไม่ได้เป็นอะไร ปกติดี เราลงไปสำรวจเกาะกันเถอะครับ”
.
.
.
.
“โหยยยย พี่ก้องเกาะนี้มันไม่เห็นมีอะไรเลยนอกจากต้นไม้ ต้นไม้ แล้วก็ต้นไม้ น่าเบื่อชะมัด”
“เอ้า ไม่งั้นมันจะถูกเรียกว่าเกาะร้างได้ยังไงละครับ ถ้ามันมีอย่างอื่นน่ะ” ผมพูดโดยไม่ได้หันไปมองหน้าอีกฝ่ายเพราะกำลังพยายามปีนไปเก็บลูกมะพร้าวอยู่
“5555555พี่ ก้องเหมือนลิงเลยอะ”
“ว่าพี่เป็นลิงเลยหรอ เดี๋ยวเถอะๆ งั้นมะพร้าวนี่น้องเพนกวิ้นตังก็ไม่ต้องกินละกันนะครับ” ผมพูดแล้วเอาลูกมะพร้าวยัดเข้าไปในเสื้อ
“ไรอะพี่ก้อง มาหาว่าตังเป็นเพนกวิ้นหรอ ตังเหมือนตรงไหนห๊า ไม่ต้องลงมาเลยนะ อยู่มันไปบนนั้นแหละ เชอะ” ว่าแล้วตังก็หันหลังเดินหนีห่างออกไป
“เดี๋ยวสิครับ พี่ล้อเล่นน่า มาๆพี่ยกมะพร้าวให้หมดเลย ถือว่าเป็นของมาง้อ” ด้วยความที่ว่ากลัวน้องจะงอนผมเลยกระโดดลงมาจากต้นมะพร้าวแล้วเอามะพร้าวลูกเมื่อกี้ที่ยัดไว้ในเสื้อออกมาง้อ
“ไม่ต้องเลยพี่ก้อง ไม่ต้องมาง้อเลย ตังไม่ได้งอนซะหน่อย มาง้อทำไม”
ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาตังที่กำลังเดินหนี จู่ๆตังก็หันหลังกลับมาอย่างรวดเร็วและผลักผมล้มลงไปในทะเล แล้วก็ขำอย่างสะใจ
“55555 สมน้ำหน้า แบร่ พี่ก้องลิงตกน้ำๆๆ”
“หนอยยยย มานี่เลย มาให้พี่เอาคืนซะดีๆ” ผมกับน้องวิ่งไล่กันลมลุกคลุกคลานลงน้ำบ้างวิ่งขึ้นฝั่งบ้างจนเริ่มเหนื่อย แต่ผมก็มีความสุขนะ อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมกับน้องได้มีช่วงเวลาดีๆร่วมกัน ได้เห็นรอยยิ้มของเค้า ได้เห็นท่าทีที่มีความสุข ซึ่งเป็นความสุขที่ผมสร้างขึ้นมา ถึงสถานที่มันจะไม่คอยดีซักเท่าไหร่ก็เถอะ
“พอแล้วๆพี่ก้อง ตังเหนื่อยแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆยอมๆ” ตังพูดแล้วก็ล้มตัวลงไปนอนแผ่หลาอยู่ที่หาดทราย “ทะเลที่นี่สวยจังเนอะ ตังคงไม่มีโอกาสได้เห็นทะเลกว้างๆแล้วก็ฟ้าสวยๆแบบนี่ที่ไหนได้อีกนอกจากที่นี่แล้วก็หลังบ้านพี่” ตังหันหน้ามายิ้มให้ผม แล้วก็ต้องรีบหันกลับด้วยความเขิน เพราะอะไรหน่ะหรอ ก็เพราะผมส่งยิ้มละลายใจให้เขาอยู่ก่อนแล้วไงล่ะ
(บรรยากาศที่ก้องกับตังเห็นบนเกาะ)
“จ๊อกกกกกกกก” “555555 ขอโทษครับ ตังคงเล่นมากไป” ตังยิ้มเจื่อนๆให้ผม
“นั่นสินะ นี่ทั้งวันเราก็ยังไม่ได้กินอะไรกันเลยนี่ เดี๋ยวพี่ลองไปหาอะไรบนเรือมาให้กินแล้วก็เอาน้ำมะพร้าวที่เก็บมามาให้กินนะ”
“พี่ก้องฮะ แล้วคืนนี้เราจะนอนที่ไหนกันหรอ?” ตังถามพลางหยิบน้ำมะพร้าวมาดื่ม
“พี่ว่าช่องหินตรงนั่นที่คล้ายๆถ้ำคงพอให้เราไปนอนได้อยู่” ผมชี้ไปยังช่องหินใกล้กับที่พวกเรานั่งอยู่
เราเดินไปสำรวจช่องหินที่จะต้องเป็นที่พักสำหรับคืนนี้ และจัดเตรียมที่หลับที่นอนให้เรียบร้อย
“ตังมีถุงนอนติดมาด้วยเดี๋ยวเราเอามานอนด้วยกันนะครับ” ตังชูถุงนอนขึ้นแล้วพูดไปด้วย
“ไม่เป็นไรหรอครับ ตังใช้ไปเถอะ นอน 2 คนมันจะอึดอัด อ๋อ แล้วเดี๋ยวน้องตังเข้าไปนอนข้างในถ้ำนะครับ เดี๋ยวพี่จะนอนเฝ้าข้างนอนเอง จะได้คอยเติมไม้กันกองไฟดับด้วย”
“แต่ตังว่า...”
“ไม่มีแต่ครับน้องตัง แค่นี้พี่ก็ทำน้องตังลำบากมามากพอแล้ว” ผมกดเสียงต่ำเพื่อให้ดูดุเล็กๆเหมือนที่เคยเห็นเถ้าแกทำ
“ครับ...” แปลกที่ครั้งนี้ไม่มีเสียงโวยวายกลับมาเหมือนทุกครั้งเวลาที่เถ้าแก่ดุน้องตัง
ตกดึก ขณะที่ผมกำลังนั่งเหม่อมองเปลวไฟที่กำลังลุกโชติช่วงอยู่บนกองไม้ที่เพิ่งไปหาไม้มาใส่เพิ่ม จู่ๆก็มีแรงอะไรบางอย่างโถมลงมาที่แผ่นหลัง ผมหันหลังด้วยความตกใจ แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อพบว่าสิ่งที่ทำให้ตกใจนั่นไม่ใช่อะไรที่ไหนแต่เป็นตังที่ห่อตัวเองเป็นหนอนอยู่ในถุงนอนค่อยคลานกระดึ๊บๆมานอนพิงอยู่ที่ด้านหลัง
“ทำไมยังไม่นอนอีกครับ แล้วนี่ออกมาทำไมสภาพแบบนี้” ผมหันไปหาเจ้าตัวแล้วถามขึ้น
“ตังนอนไม่หลับฮะ แล้วก็...กลัวพี่ก้องนั่งอยู่คนเดียวแล้วจะเหงาเลยออกมานั่งเป็นเพื่อน”
“ไม่ต้องก็ได้ครับ น้องตังกลับเข้าไปนอนเถอะ” เอาจริงผมก็แอบดีใจนะที่น้องตังเค้าเหมือนจะเป็นห่วงผม กลัวผมเหงาเลยมาอยู่เป็นเพื่อน แต่ถ้าผมจะขอให้อยู่เป็นอย่างอื่นที่มากกว่าเพื่อนจะได้มั้ยเนี่ย 5555555 ผมนี่บ้าเนอะ
“พี่ก้องว่า เราต้องติดอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหนหรอฮะ?” ตังยังคงนั่งอยู่ที่เดิมและเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยแทน
“พี่ว่าคงประมาณ 2-3 วันแหละครับ ปกติเวลาพี่ออกมาหาปลากันกว่าจะกลับเข้าฝั่งก็ประมาณนี้ กว่าจะมีคนผิดสังเกตว่าเราหายไปก็คงหลังจาก 2-3 วันไปแล้ว แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ พี่จะพยายามหาทางกลับทางอื่นให้ได้ น้องตังจะได้ไม่ต้องมาทนลำบากอยู่ที่นี่นานๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ อยู่กับพี่ก้องตังไม่ลำบากเลย พี่ก้องดูแลตังอย่างดีตลอดมา ตั้งแต่วันที่ป๊าฝากให้พี่ก้องไปรับตังที่มหาลัยวันแรกจนถึงวันนี้ เป็นฝ่ายตังมากกว่าที่ทำให้พี่ก้องลำบากมาตลอด ตังขอโทษแล้วก็ขอบคุณพี่ก้องมากๆนะครับ ที่ทนลำบาก ทนเหนื่อยมาตลอด” สารัชเอ่ยพร้อมระบายยิ้มอ่อนๆบนใบหน้า
เมื่อบรรยากาศพาไปขนาดนี้แล้ว ผมเลยตัดสินใจเริ่มพูดอะไรบางอย่าง บางอย่างที่อยากพูดมานานแต่ไม่เคยมีโอกาส และความกล้าที่มากพอ
“ไม่ครับ พี่ไม่เหนื่อยเลย พี่อยากให้ตังรู้ไว้นะ ว่าทุกสิ่งที่พี่ทำให้ตังพี่เต็มใจ พี่อยากเห็นตังยิ้ม อยากเห็นตังมีความสุข พี่ชอบรอยยิ้มของตัง พี่ชอบแววตาที่ดูเป็นประกายของตัง มันทำให้พี่มีความสุข มีแรงที่จะใช้ชีวิตในวันต่อๆไปของชีวิต พี่อยากให้ทุกรอยยิ้มของตังเกิดจากพี่ มันอาจจะดูว่าพี่หวังมากไปนะ แต่พี่อยากเห็นรอยยิ้มของตังในทุกเช้าที่พี่ตื่นขึ้นมา อยากได้ยินเสียงหัวเราะที่ดูสดใสของตังในทุกๆวัน” ก้องค่อยๆเอื้อมมือไปสัมผัสที่แก้มของตังแล้วไล้ลงมาเรื่อยๆจนถึงริมฝีปาก “พี่อยากมองแววตาที่เปล่งประกายของตังทุกคืนก่อนที่พี่จะหลับตาลงนอนแล้วตื่นขึ้นมาเจอหน้าตังเป็นคนแรกในวันรุ่งขึ้น” แล้วเอามืออีกข้างขึ้นมาลูบๆบริเวณดวงตาของตังแล้วเลื่อนลงมาไว้ที่ริมฝีปากเหมือนอีกข้าง “และอีกอย่างที่ตังอาจจะยังไม่รู้ พี่ตกหลุมรักตังตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน รักมาตลอด นับตั้งแต่วันนั้นหัวใจพี่ก็ไม่เคยอยู่กับตัว มันไปอยู่กับคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าพี่ตอนนี้ ตังครับ...พี่รักตังนะ รัก...รักมาก รักที่สุดเท่าที่ผู้ชายธรรมดาคนนึงจะรักได้ พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้ตังต้องเสียใจหรือร้องไห้เพราะพี่ พี่สัญญาว่าทุกๆวันของเราต่อไปนี้จะมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ตัง...เป็นแฟนกับพี่นะ”
ตาเรียวของสารัชเบิกโพลง เขาไม่คิดว่าจะถูกคนตรงหน้าสารภาพรักแบบยาวยืดขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกว่าสิ่งที่พี่ก้องทำมันมากว่าคำว่าพี่น้อง และใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลย หลายครั้งที่เขารู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นกับตัวเขาเวลาที่เขาอยู่กับพี่ก้อง แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร จนในวันนี้เขาได้รู้แล้วว่าสิ่งที่เขารู้สึกนั้นเป็นสิ่งเดียวกับที่พี่ก้องรู้สึก สิ่งๆนั้นมันถูกเรียกว่า ‘ความรัก’
“ตกลงฮะ ตัง...จะเป็นแฟนกับพี่” แล้วทั้งคู่ก็ยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกที่อิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก สำหรับก้องแล้วมันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับการเหวี่ยงแหออกไปกลางทะเลเพื่อหวังว่าจะจับได้ปลาตัวพิเศษตัวหนึ่งที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดระยะเวลานาน มีปลาหลายตัวที่ว่ายเข้ามาติดแห แต่ก็ไม่ใช่ตัวที่เขาต้องการจนวันหนึ่งเมื่อทุกอย่างถึงเวลาของมัน ปลาตัวพิเศษตัวนั้นตัวที่เขาเฝ้ารอคอยมาตลอดก็ว่ายเข้ามาในแหให้เขาจับอย่างง่ายดาย ส่วนสำหรับตัง มันเหมือนการนั่งเหม่อลอยอยู่บนโขดหินวันแล้ววันเล่าแล้วจู่ๆก็มีปลาตัวหนึ่งกระโดดขึ้นมาหาเขา ปลาตัวนี้ไม่ได้ดูสวยงาม หรือน่าสนใจกว่าปลาตัวอื่นๆที่เขาเคยพบเจอ แต่เมื่อเขานำมันกลับมาเลี้ยงได้สังเกตมันอย่างถี่ถ้วนด้วยหัวใจ เขาก็ได้พบกับความพิเศษที่ไม่มีปลาตัวไหนเทียบได้ มันช่างพิเศษเหลือเกิน ที่คนสองคนได้มาพบกัน...
นี่ก็ผ่านมา4วันแล้วที่ก้องกับตังมาติดอยู่ที่เกาะแห่งนี้
“พี่ก้อง...นี่ก็วันที่ 4 แล้วนะ ทำไมยังไม่มีใครตามหาเราอีก”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ไอพี่เอ็มมันไปทำอะไรอยู่นะ ทำไมถึงไม่รู้ตัวซะทีว่านี่มันนานเกินไปแล้วที่พี่หายไปจากโรงงานแล้วก็บ้าน”
“เฮ่อออ ตังไปเดินเล่นแถวนี้แปบนึงนะฮะเดี๋ยวมา”
“ให้พี่ไปด้วยมั้ย เผื่อมีอะไรพี่จะได้ช่วยทัน?” ก้องทำท่าจะลุกแต่ตังก็ห้ามเอาไว้
“ไม่เป็นไรฮะ ตังไม่ไปไหนไกลหรอก ตังรู้ว่าพี่ก้องเป็นห่วงตังแค่ไหนน่า”
“ครับๆน้องเพนกวิ้นที่รักของพี่ งั้นกลับมาเร็วๆนะครับ พี่คิดถึง เดี๋ยวพี่จะหาอาหารเย็นไว้คอย”
“คร้าบๆพี่ลิง”
ขณะที่ตังเดินมองทะเลไปเรื่อยจู่ๆเท้าของเขาก็ไปเหยียบเข้ากับอะไรบางอย่าง
“โอ้ยยยยย อะไรเนี่ย” เมื่อตังยกฝ่าเท้าออกมาดูก็พบว่าเท้าของตนชุ่มไปด้วยเลือดเนื่องจากไปเหยียบเข้ากับเศษเปลือกหอยคมๆ แต่ยังไม่ทันที่จะได้คิดทำอะไรต่อก้องก็วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าแตกตื่น
“น้องตังเป็นอะไรครับ ใครทำอะไรน้องตัง ไหนเจ็บตรงไหน โหยยยย เลือดออกเยอะเลย ไปเหยียบอะไร เจ็บมากมั้ยครับ ใจเย็นๆนะครับ ไม่ต้องตกใจ พี่ก้องอยู่นี้แล้วนะ” ก้องจับหัวน้องมาซุกที่อกแล้วลูบหัวปลอบ
“เอ่อ...พี่ก้อง...ตังยังไม่ได้ตกใจหรือว่าเป็นอะไรมากมายเลยนะ มีแต่พี่แหละ โวยวายอะไรอยู่คนเดียว”
“55555 อ่าวหรอ ก็พี่เป็นห่วงตังนี่” ก้องว่าขำๆแล้วก้มลงมาดูแผลให้ “ต้องล้างแผลก่อน แต่จะใช้น้ำทะเลล้างคงไม่ดีแน่ๆ เดี๋ยวกลับไปล้างที่เรือละกันเนอะ น่าจะพอมีน้ำอยู่บ้าง มาๆขึ้นหลังพี่มาเลย” ก้องย่อตัวลงให้ตังปีนขึ้นมาเพื่อขี่หลัง
“เออ...เอางี้เลยหรอฮะ ตังหนักนะ”
“ไม่ต้องห่วง ต่อให้ตังหนักเท่าเพนกวิ้นทั้งฝูงพี่ก็ไหว ขึ้นมาได้เลยครับ” ตังทำท่าเหมือนจะปฏิเสธแต่ก็ต้องยอมเพราะทนสายตาที่แทบจะกินเขาเข้าไปทั้งตัวหากเขาไม่ปฏิบัติตามไม่ไหว
... “พี่ก้อง ตังขอบคุณนะครับ ขอบคุณในทุกๆอย่างที่พี่ทำให้ตัง รักจังเลย...” ตังว่าพร้อมกอดคนด้านหน้าไว้แนบกายแล้วระบายยิ้มจางๆออกมา
หลังจากที่ทั้ง 2 ทำแผลเสร็จแล้วตังก็อาสาไปหาฟืนมาใส่กองไฟเตรียมทำอาหารมื้อเย็น แม้ว่าก้องจะพยายามห้ามและหาข้ออ้างต่างๆนานายื้อไว้เนื่องจากแผลของเจ้าตัวยังไม่หาย แต่อย่างไรเพนกวิ้นตัวน้อยก็ไม่มีท่าทีว่าจะยอมง่ายๆ เอาแต่โวยวายว่าอยากช่วยบ้างแล้วก็แกมวิ่งแกมกระโดดหนีออกไปเลย ก้องเห็นว่าตังหายออกไปนานแถมนี่ก็มืดแล้วจึงตัดสินใจจะออกไปเดินหาด้วยความเป็นห่วง แต่ยังไม่ทันได้ลุกยืนเต็มตัวก็มีเสียงของคนที่เขาก็ลังจะไปตามหาตัวดังขึ้นมา
“พี่ก้องงงงงงงง มาดูนี่สิ มาเร็วๆพี่ก้องอยู่ไหนอะ มาๆๆ”
“อะไรตัง มีอะไร เรียกพี่ทำไมเกิดอะไรขึ้น”
เมื่อก้องวิ่งมาถึงตรงที่ตังยืนอยู่ก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบกับความน่าอัศจรรย์ของท้องทะเลที่เขาไม่เคยคาดคิดว่าชีวิตนี่จะที่โอกาสได้เห็น ทะเลที่ใครๆก็ว่าสวยอยู่แล้วบัดนี้สวยขึ้นกว่าเดิมยิ่งนักผืนน้ำสีฟ้าครามแปรเปลี่ยนเป็นสีฟ้าสว่างสดใสเรืองรองไปทั่วท้องทะเล ทุกครั้งที่คลื่นโถมมากระทบฝั่งเจ้าแสงสีฟ้านี่ก็จะเปล่งแสงออกมาราวกับว่ากำลังแข่งกันเรืองแสงกับดวงดาวบนท้องฟ้า ภาพตรงหน้าเหมือนกับเป็นความฝันหรือกำลังอยู่บนสวรรค์ก็มิปาน จะมีซักกี่คนกันนะที่มีโอกาสได้ชื่นชมความงามที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นมาเคียงคู่กับคนรักที่งามไม่แพ้กัน ทำไมเขาช่างเป็นคนที่โชคดีเช่นนี้ รู้สึกอยากขอบคุณใครซักคนบนฟากฟ้านั้นเหลือเกินที่ทำให้เขาได้มีโอกาสได้พบเจอกับอะไรดีๆมากมายขนาดนี้ เขาจะไม่มีวันลืมภาพความสุขครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้ได้เลยจริงๆ
“สวยเนอะพี่ก้อง ตังไม่เคยคิดเลยนะ ว่าชีวิตนี้จะได้มีโอกาสมาเห็นอะไรที่สวยขนาดนี้”
“ครับสวย สวยมากจริงๆ แต่ก็สวยได้ไม่เท่าแฟนพี่หรอก” ก้องพูดไปตามที่คิดแล้วค่อยๆเอื้อมมือไปโอบเอวคนรักไว้หลวมๆ
“โหย มาเสี่ยวอะไรตอนนี้ครับ” ตังพูดแล้วหันหน้าไปทางอื่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นว่าเขากำลังเขินแค่ไหนกับประโยคสุดเลี่ยนเมื่อกี้ แต่ก็ไม่วายที่อีกฝ่ายดันเห็นซะก่อน
“ไม่ต้องหลบหรอครับ พี่รู้ว่าตังเขิน ชอบที่พี่พูดอะไรแบบนี้ก็บอกมาเถอะครับ” ก้องว่าพลางหันไปจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาหวานเยิ้ม ก่อนจะพูดอะไรที่ทำให้คนตรงหน้าต้องอายม้วนแทบละลายลงทะเลไปอีกรอบ “ตัง พี่รักตังนะ รักมาก รักที่สุด รักจนไม่อาจรักใครได้อีก ตอนนี้พี่ไม่เหลืออะไรแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างพี่ให้ตังไปหมดแล้ว ทั้งรางกายและหัวใจของพี่ พี่ฝากตังช่วยดูและมันให้ดีๆด้วยนะครับ” ก้องเงียบไปซักพักแล้วพูดคำๆหนึ่งออกมาด้วยเสียงเรียบๆ “พี่ขออนุญาตนะครับ” ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้พูดหรือทำหน้าสงสัยตอบกลับมาคนตัวโตก็ทำการจรดริมฝีปากหนาลงบนริมฝีปากบางที่ไม่ทันตั้งตัวจนเกือบล้ม แต่ก็ยังเอามือประคองไว้ได้ทัน ก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือมาไว้ที่ท้ายทอยเพื่อให้อีกคนรับสัมผัสได้อย่างง่ายดาย ความคิดที่จะขัดขืนในตอนแรกถูกกลืนลงไปพร้อมกับแรงจูบ ดวงตาเล็กที่เบิกกว้างค่อยๆ หลับลงเพื่อรับความรู้สึกที่แปลกใหม่ มือน้อยๆที่เกร็งอยู่ข้างลำตัวค่อยๆ ผ่อนคลายและเอียงหน้ารับสัมผัสอันแสนอบอุ่นนั้นอย่างเต็มใจในที่สุด
คนตัวเล็กครางเสียงอื้ออึ้งในลำคอเมื่อรู้สึกว่าลมหายใจของตนและเรี่ยวแรงที่มีกำลังหมดลง ร่างที่ดูโตกว่าของอีกฝ่ายจึงค่อยๆ ถอนจูบออกมา ตาคมมองร่างอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ทำให้ใครหลายๆคนอาจตกหลุมรักได้โดยง่าย แล้วค่อยๆผลักให้อีกฝ่ายนอนราบลงกับพื้นทราย แต่จู่ๆก็มีแสงไฟสว่างวาบส่องผ่านมายังบริเวณที่พวกเขาอยู่
“เออ...พี่...พี่ก้อง นั่น...นั่นใช่ ระ...ระ...เรือมั้ย” ตังค่อยๆพูดออกมาช้าๆแบบตะกุกตะกัก
“ชิ” ก้องแอบจิ๊ปากเบาๆ “ตังอยู่นี่นะเดี๋ยวพี่ไปจุดไฟเรียกเรือนั่นว่ามีคนติดอยู่ที่เกาะนี่ก่อน” ยังไม่ทันได้พูดพร่ำทำเพลงอะไรก้องก็วิ่งออกไปก่อนทิ้งให้ตังนั่งเหวอกับทุกสิ่งเกิดขึ้น ช่างรวดเร็วเหลือเกิน แต่ถึงแม้ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเร็วแค่ไหนก็คงไม่เร็วเท่าใจของตังที่เต้นอยู่ตอนนี้หรอก
“ตังครับ เป็นอะไรมากมั้ย มาๆพี่พาไปขึ้นเรือ” เป็นฝ่ายเอ็มที่เดินเข้ามาจะพาตังลุกขึ้น
“ไม่ต้องเลยพี่ ห้ามแต่ตัวน้องตังเลยนะ ผมพาตังขึ้นเรือเองได้ คนของผม” ก้องพูดพลายจัดแจงอุ้มตังมาไว้ที่อก
“พี่ก้อง!!!” ตังได้แต่ก้มหน้างุดอยู่ที่อกก้องด้วยความเขินอาย
“เหยๆอะไรกัน ติดเกาะไม่เท่าไหร่มีอะไรคืบหน้าไปถึงไหนแล้วเนี่ย แล้วไอก้องน้องเค้ามีพ่อนะ แถมพ่อเค้านะเจ้านายพวกเรานะเว้ย ทำอะไรไปก็รับผิดชอบด้วยนะ”
“อะไรพี่ ผมยังไม่ได้ทำอะไรน้องเค้าเลย ก็แค่เป็น ‘แฟน’ กันเฉยๆน่า” ก้องพูดเน้นคำ “แล้วไอที่ว่าติดเกาะไม่เท่าไหร่ของพี่เนี่ย เกือบอาทิตย์บ้านพี่เรียกว่าไม่เท่าไหร่หรอ!!! ไปอยู่ที่ไหนมาถึงออกมาตามหาเอาป่านนี้ ถ้ามาช้ากว่านี้ผมกับน้องตังมีหวังแห้งตายคาเกาะกันพอดี”
“เออน่าๆพี่ขอโทษ พี่ลืมเอ็งไปแล้ว พอดีพี่ไปอยู่กับตั้มมา”
“โอโหยยยยยย ไอ...ไอ...ไอ อื่อหือ ไอพี่บ้า ติดแฟนจนลืมน้อง”
“น่าๆไงๆพี่ก็มาช่วยทันแล้วไง แล้วถามจริงเหอะพี่มาช้าๆนี่ไม่ดีรึไง แม้งจะมีที่ไหนอีกวะเนี่ยติดเกาะแล้วได้แฟน555555555” เอ็มพูดแซวแล้วเดินขึ้นเรือไป
“น้องตังคิดดีแล้วใช่มั้ยครับที่มาคบกับไอนี่ ระวังมันไว้บ้างก็ดีนะ มันน่ะเจ้าชู้สุดๆไม่มีใครเกิน” พี่เอ็มกระซิบกับตัง แต่ก็ดังพอที่ก้องจะได้ยิน
“เหยๆอะไรพี่ เจ้าชู้อะไรไม่มีแล้ว ผมเลิกหมดแล้ว ตอนนี้มีแค่น้องตังคนเดียวนี่แหละ เชื่อใจพี่ได้นะครับ”
“แรกๆก็พูดงี้ทุกคนแหละ เออไอก้อง นี่โทรศัพท์เอ็ง มีคนเก็บได้ที่ท่าเรือ”
“แต้งมากพี่” ก้องเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเสื้อโดยไม่ได้มองว่ามีข้อความขึ้นอยู่ที่หน้าจอ
.
.
.
.
‘พี่ก้องหายไปไหนคะ เดี๋ยวนี่ไม่ติดต่อมาหาแคทตี้บ้างเลย ยุ่งหรอคะ งั้นเดี๋ยวมะรืนนี่แคทตี้ไปหาที่มอน่ะค่ะ คิดถึงมากๆน่ะค่ะ จุ้บจุ้บ’
.
.
..
(บรรยากาศที่ก้องกับตังเห็
เธอ นางแคทตี้ โผล่มาทำไมยะ เค้าเพิ่งจะเป็นแฟนกัน มารมาขัดขวางตัลหลอด เบื่อ :(
ส่วนอิพี่ก้องเคลียร์ผู้หญิงให้หมดนะ! ไหนบอกจะไม่ทำให้น้องตังเสียใจ (คือพี่ยังไม่ได้ทำอะไรหรอก) รักษาสัญญาด้วยค่ะ
ปล. ไม่ต้องสงสัยนะ ว่าทำไมแคทตี้ถึงใช้ภาษาไทยผิดๆ เพราะตั้งใจ ตั้งใจให้นางใช้แบบผิดๆ เหมาะกับนางดี
ความคิดเห็น