ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★☆ StorySeasideSoulmate ☆★ « TONJAY | KONGTANG | MTUM 」

    ลำดับตอนที่ #5 : Seaside: Heartbeat

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 58


    เกลียวคลื่นที่2:

    หัวใจเต้นผิดจังหวะ

    Heartbeat

     

    "ไอก้อง วันนี้เอ็งมีเรียนป้ะ?" พี่เอ็มตะโกนถามขึ้นขณะที่ผมกำลังง่วนอยู่กับการยัด?ของต่างๆลงกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวไปมหาวิทยาลัย เช้านี้ผมตื่นสาย สงสัยเพราะเมื่อคืนนอนเพ้อถึงน้องตังนานไปหน่อย 5555555

    "มีดิวะพี่ ผมสายแล้วเนี่ย พี่มีอะไรป้ะ" ผมถามกลับโดยที่มือก็ยังคงยัดของต่อไป

    "อ่ะนี่ เบอร์น้องตังของแก วันนี้ไปม.ก็ลองไปหาๆส่องๆน้องเค้าดู เรียนคณะเดียวกันด้วยหนิ" เชรดได้เบอร์มาแล้วหรอวะ เร็วจริง นี่สิพี่ที่ดีของน้อง

    "เออๆ ขอบคุณมากพี่ แต่ถ้ามันหากันง่ายขนาดนั้นผมก็คงหาเจอนานล่ะ เรียนมาจนจะจบอีกรอบแล้วเนี่ยไม่เคยหากันเจอ" จู่ๆผมก็คิดขึ้นมาได้ว่าผมเรียนคณะเดียวกับน้องเค้ามาจะ ปีแล้วแต่ก็ไม่ยักกะเคยเจอน้องเค้าเลย น่าแปลกจริงๆ หรือว่า!!!บางที่ผมกับน้องเค้าอาจจะไม่ใช่เนื้อคู่กัน ผมเลยไม่เคยเจอน้องเค้าเลย ไม่น้า ผมรีบสะบัดความคิดบ้าๆออกจากหัวก่อนที่ผมจะคิดมากจนไปเรียนสาย

    "เอ้อเอ็งบอกว่าเอ็งสายใช่ป้ะ วันนี้ก็เอาบิ๊กไบค์ที่ซื้อมาดองไว้ตั้งนานไปใช้ซะสิ ทิ้งไว้นานๆเดี๋ยวสนิมขึ้นกันพอดี เผื่อมีสาวๆกรี้ดด้วย"

    "กรี้ดเกริ้ดอะไรพี่ไม่เอาด้วยหรอก ผมเลิกหมดแล้ว ไม่มองใครแล้วพี่ ตอนนี้สายตาผมมองได้แค่น้องตังคนเดียว ไปเรียนแล้วเว้ย เจอกันตอนเย็นพี่!"

    ให้มันจริงละกันล่ะ เอ็งนี่มันน่าหมั่นไส้ชะมัด--“ ข้าล่ะอยากจะอ้วก

    -คณะบริหาร-

    "เมื่อไรต้นจะมาเนี่ย รอนานแล้วนะ" คนตัวเล็กที่เอาแต่ชะเง้อมองไปหน้าตึกคณะจนคอจะยาวเป็นยีราฟบ่นขึ้นหลังจากที่ยืนรอสุดที่รักของตัวเองมาราวๆครึ่งชั่วโมง

    "เอาน่าเจ ตังว่าต้นกำลังรีบมา เรียนกันคนละคณะ เจอย่าใจร้อนสิ" ผมพยายามปรามเพื่อนที่ขี้ใจร้อน โดยเฉพาะกับเรื่องคนของเจ้าตัว ไม่รู้จะหวงกันไปถึงไหน ผมละไม่เข้าใจอารมณ์คนมีแฟนจริงจรี๊ง

    "ก็ตังไม่รู้ไง ว่าต้นมันเจ้าชู้แค่ไหน ไปหลีสาวอีกแหง" คนตัวเล็กหันขวับมาค้อนให้ผมหนึ่งที่แล้วกับไปทำหน้าที่คอยีราฟดังเดิม

    "อะไรกัน มาช้านิดเดียวโทษว่าไปหลีสาวเลยหรอพี่เจ เดี๋ยวจะโดน!" เจ้าตัวการร้องขึ้นจากด้านหลังขณะยืนหอบด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อนจากการวิ่งจากตึกคณะของตนมายังอีกคณะที่อยู่ห่างกันพอสมควร

    อะไร มาช้าแล้วยังจะมาทำอะไรอีก!” เจพูดขึ้นพร้อมเอามือท้าวเอว

    ก็จะโดน แบบนี้ไงฟอดดดดดดดด ร่างสูงก้มลงไปกอบโกยความหอมจากแก้มคนที่รักเต็มปอด

    วันนี้แก้มหอมจัง ไหนขอดมอีกข้างซิครับ

    ไม่ต้องเลยต้น พอเลย นี่มันหน้าคณะนะ แล้วตกลงไปไหนมา ทำไมมาช้า...ยังไม่ทันที่เจจะพูดจบประโยคเสียงโทรศัพท์ของใครอีกคนก็ดังขึ้น

    -กรี๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง-

    "ครับป๊า ไม่เป็นไรครับตังกลับบ้านเองได้ ครับๆ" ผมเก็บโทรศัพท์เครื่องหรูลงกระเป๋ากางเกง

    "ไงคุณหนูพี่ตัง อาป๊าไม่มารับหรอ อะ...โอ้ย! พี่เจหยิกผมทำไม" ไอต้นนี่ รู้งี้น่าจะปล่อยให้เจเดือดต่อจะได้โดนเล่นงานหนักๆ ไม่น่าไปช่วยมันเลย

    "ก็ต้นชอบแซวตังอ่ะ แล้วนี่ตังจะกลับบ้านไง" เจถามผมขณะที่มือก็ยังดึงหูต้นค้างไว้

    "ก็เดี๋ยวคงต้องหามอไซค์แถวนี้กลับบ้านเองอะ เจไปเที่ยวกับต้นเถอะ" ผมบอกปัดไปเพราะไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วงจนไม่ได้ไปเที่ยวกับแฟน

    "เฮ้ยย ได้ไง เจไม่ทิ้งตังให้อยู่คนเดียวนะ" เจทำหน้าตาจริงจังต่างกับต้นที่หน้าตาเหยเกราวกับมันพยายามบอกผมว่าให้คุยกันให้เสร็จเร็วๆเจจะได้ปล่อยมือจากหูมันเสียที

    "คนเดียวอะไร หน้าคณะมีคนตั้งเยอะแยะ" ถึงแม้มันจะเริ่มน้อยลงแล้วก็เหอะ

    "แต่นี่มันใกล้มืดแล้วนะ..." เจยังคงทำท่าที่เป็นห่วงผมและไม่ยอมไปง่ายๆก็นะเจกับผมเป็นเพื่อนรักกันมานาน จะเป็นห่วงกันมากก็คงไม่แปลก

    "ไม่เป็นไร ตังอยู่ได้จริงๆผมยืนยันคำเดิมด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นขึ้น

    "อ่า เจไปก็ได้ กลับถึงบ้านโทรมาหาเจด้วยนะ บ้ายบาย ไปละ" เจค่อยๆเดินห่างออกไปแต่ก็ยังหันหน้ามามองผมเป็นระยะๆด้วยสายตาเป็นห่วง

    "เฮ้ออออ เอาไงดีล่ะทีนี้ นั่งทำงานก่อนละกัน กว่าจะเคลียเสร็จป๊าอาจจะเสร็จงานแล้วมารับทัน" ขาเรียว?ค่อยๆก้าวไปยังโต๊ะหินอ่อนตัวหนึ่งหน้าคณะ

    19.00 น.

    "กลับบ้านเลยดีกว่า" ในขณะที่ตังกำลังเก็บข้าวของเพื่อที่จะได้กลับบ้าน ก็มีหนุ่มส่วนสูงชายไทย?เดินเข้ามาหา

    "น้องตัง ยังไม่กลับบ้านหรอครับ?" เป็นเสียงของก้องที่ทักขึ้น

    "อ้าว สวัสดีฮะพี่ก้อง คือตังอยู่เคลียงานแล้วก็ยังไม่รู้จะกลับยังไงด้วยอ่ะ"

    "แล้วเถ้าแก่?" ก้องถามขึ้นด้วยท่าทีสงสัย แล้วเดินเข้าไปช่วยตังเก็บของ

    "อ๊ะ ขอบคุณครับ พอดีป๊ามีงาน เมื่อกี้ตังโทรไปหาแล้วแต่ป๊าไม่รับสาย"

    "งั้นให้พี่ไปส่งก็แล้วกัน ตังโอเคใช่มั้ยถ้าพี่จะไปส่ง" ก้องถามแล้วยืนดูท่าทีอีกฝ่ายก่อน

    "ขอบคุณครับพี่ก้อง แต่ตังก็เกรงใจ"

    "ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ" เมื่ออีกฝ่ายตอบตกลงก้องจึงเดินนำไปที่รถ

    "อ้าว พี่ก้องไม่ได้เอารถกระบะมาหรอครับ" ตังถามขึ้นเมื่อมองไปรอบๆไม่พบกับรถกระบะคันเก่าที่เจ้าตัวเคยนั่ง

    "อ๋อออ วันนี้พี่ตื่นสาย รีบน่ะ เลยเอาบิ๊กไบค์มา ตังนั่งได้มั้ย?" ก้องถามด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าน้องที่ดูติดจะเป็นลูกคุณหนูนิดๆจะไม่เคยนั่งมอเตอร์ไซค์

    "ได้ครับ ไม่มีปัญหา" ตังตอบกลับแล้วยิ้มให้จนตาเรียวปิดกันสนิท

    "ถ้างั้นก็ขึ้นมาเลยครับน้องตัง" จากนั้นก้องก็ยื่นหมวกกันน็อกไปให้ตัง

    "อ้าว แล้วของพี่ก้องล่ะครับ"

    "พี่มีใบเดียว น้องตังใส่ไว้เถอะ พอดีปกติพี่ไม่ได้ให้ใครซ้อนรถพี่หรอก"

    "อ่าาาาา ตังก็ซ้อนรถพี่คนแรกเลยหรอฮะเนี่ย พี่ก้องไม่เก็บไว้ให้แฟนพี่ซ้อนหรอ?"

    "ก็แฟนพี่ก็ซ้อนอยู่นี่ไง" พี่ก้องพูดด้วยน้ำเสียงติดจะจริงจังนิดๆแต่แล้วหัวเราะกลบเกลื่อน

    "ฮะ?" -////- ทำไมเราต้องเขินด้วยเนี่ย

    "พี่ล้อเล่นๆ อย่าคิดมาก"

    "ฮ่าๆ พี่ก็ทำผมงง" เอ้า ไอพี่ก้องบ้า ทำผมเขินเก้อ

    "เลิกงงได้แล้ว เอาล่ะ พี่จะไปแล้ว เกาะแน่นๆนะครับ"

    บรื๊นนนนนนน~

    ยิ่งใกล้ถึงที่หมายเท่าไร ก้องยิ่งเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนกับว่าจะรีบไปให้ถึงจุดหมาย แต่หามีใครรู้ไม่ว่า ความต้องการแท้จริงแล้วสิ่งที่เขาต้องการคืออ้อมกอดจากคนตัวเล็กที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังมากกว่า 

     

    "พี่ก้อง!! พี่ขับช้าๆไม่ได้หรือไง จะรีบไปไหน บ้านตังก็อยู่แค่นี้" ร่างเล็กที่นั่งตัวเกร็งอยู่ด้านหลังเริ่มโวยวายขึ้นหลังจากที่เขาเริ่มรู้สึกว่าทัศนียภาพสองข้างทางผ่านไปเร็วจนเขามองไม่ทัน

    "อ้าว พี่ก็บอกแล้วไงครับ ว่าพี่จะพาซิ่ง เกาะให้แน่นๆน้า~" พูดจบก้องก็บิดแฮนด์รถแล้วเร่งความเร็วรถ

    "งื้อพี่ก้อง" คนตัวเล็กร้องขึ้นพร้อมตวัดมือไปโอบกอดคนข้างหน้าไว้ด้วยความกลัวว่าตัวเองจะตกลงไปนอนกลิ้งอยู่ที่พื้นซะก่อนที่จะถึงบ้าน

    สารถีตัวโตที่อาสามาส่งคนตัวเล็ก แทนที่จะลดความเร็วลงตามคำร้องขอของคนด้านหลัง กลับรักษาความเร็วรถเท่าเดิม และยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว

    เอี๊ยดดดดดด!

    "ถึงแล้วครับน้องตัง เป็นไง สนุกมั้ย?"

    "สนุกบ้าอะไรล่ะ ตังหัวใจจะวายอยู่แล้วนี่" คนตัวเล็กโวยขึ้นอีกคราเมื่อรถมอเตอร์ไซค์คันโตมาจอดนิ่งสนิทอยู่ที่หน้าบ้าน

    "อ่าวหรอ พี่ว่าออกจะสนุกดี ไม่ได้ซิ่งแบบนี้มาตั้งนานแหนะ"

    "ตังไม่สนุกด้วยหรอก ตังกลัวแทบตาย อ้ะ...ป๊าเดินมาแล้ว ตังเข้าบ้านก่อนดีกว่า" คนตัวเล็กพยายามทรงตัวให้ตรงหลังจากก้าวขาลงรถมาทั้งๆที่ตัวยังสั่นอยู่น้อยๆ

    "เดี๋ยวๆ อาตี๋น้อย ทำไมถึงมากับไอก้องได้ละ เออแต่ก็ดีเลยป๊ามีเรื่องจะคุยกับเรากับก้องอยู่พอดี อย่าเพิ่งเข้าบ้าน"

    "มีอะไรหรอครับเถ้าแก่" เป็นคนที่นั่งคร่อมอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์คันเก่งที่ถามขึ้นก่อนจะข้างขาตามอีกคนลงมายืนคุยกับคนที่มีศักดิ์เป็นเจ้านายเพื่อความสุภาพ

    "คือ อาทิตย์หน้าฉันต้องขึ้นไปคุยกับลูกค้าใหม่ที่กรุงเทพอาทิตย์นึง ถ้าไปได้สวยเค้าตกลงก็อาจจะต้องไปคุยกับรายใหญ่ที่พม่าต่อน่ะ แล้วก็ต้องเอาคนขับรถที่บ้านไปด้วย เลยอยากวานให้เอ็งช่วยไปรับอาตี๋น้อยแทนฉันหน่อยนะ ได้มั้ย เดี๋ยวเพิ่มค่าแรงพิเศษให้

    อ่า ได้ครับเถ้าแก่ ช่วงนี้ผมก็ไม่ได้มีงานอะไรมากมายอยู่แล้ว เรื่องค่าแรงเพิ่มไม่ต้องก็ได้ครับ ถือว่าผมอาสาเอง เป็นการตอบแทนเถ้าแก่ที่ช่วยผมมาในหลายๆเรื่องละกันครับ แค่นี้เล็กน้อย

    เอ้อๆๆ ถ้างั้นก็ดีเลย ขอบใจเอ็งมาก เริ่มงานพรุ่งนี้ได้เลยนะ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    นี่ก็ปาเขาไปวันที่6แล้วที่ก้องอาสามารับตังที่มหาลัย วันนี้เขากะจะพากะตัวเล็กไปเที่ยวที่ๆนึงที่เป็นสถานที่สุดท็อปซีเคร็ตของนายเกริกฤทธิ์ ขณะที่ค่อยๆก้าวขาเข้ามายังตึกคณะ ก็พบคนที่กำลังคิดถึงนั่งหน้าจ๋อยอยู่ที่ม้าหินหน้าตึกคณะ

    อ้าว เป็นอะไรไปครับน้องตัง ทำไมมานั่งทำหน้าเป็นตูดอยู่คนเดียวตรงนี้ละ ต้นกับเจไปไหนครับ?”

    ต้นกับเจกลับไปตั้งแต่เที่ยงๆแล้วฮะ เพราะจริงๆวันนี้ตังแค่มามหาลัยเพื่อส่งงานเฉยๆ แต่โปรเจคที่ตังส่งไปกลับไม่ผ่าน เลยต้องมานั่งแก้อยู่คนเดียวนี่ล่ะฮะ แต่แก้ยังไงก็ไม่ผ่านซะที ตังเหนื่อยแล้วอะครับคนตัวเล็กพูดด้วยท่าทีเศร้าๆ มือเรียวท้าวไว้ที่โต๊ะแล้วฟุบหัวลงไปที่ท่อนแขน

    แย่จังนะครับ แต่งั้นดีเลยวันนี้พี่ว่าจะพาตังไปเที่ยวที่ๆนึงอยู่พอดีเลย ไปกับพี่นะครับ ถือว่าไปพักผ่อนคลายเครียด จะได้หายเหนื่อยก้องย่อตัวลงไปหาน้องแล้วระบายยิ้มอ่อนๆเพื่อแสดงถึงความเป็นห่วง

    ที่ไหนหรอครับพี่ก้องตังเงยหัวขึ้นมาคุยกับคนเป็นพี่อีกครั้งแต่สีหน้าก็ยังไม่ค่อยสู้ดีนัก

    ไปถึงก็รู้เองแหละครับ มันเป็นสถานที่ท็อปซีเคร็ตของนายเกริกฤทธิ์ครับ ยังบอกตอนนี้ไม่ได้ แต่พี่รับรองว่าไม่ใช่ที่ๆอันตรายแน่ๆก้องยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วยิ้มให้น้องอีกครั้ง

    ครับๆไปก็ได้ ถ้ามันจะพอทำให้ตังหายเหนื่อยได้จริงตังก็ยิ้มตอบเช่นกัน

    งั้นไปกันเถอะครับก้องกล่าวพร้อมเนียนเอามือไปจับมือน้องตังจูงไปที่บิ๊กไบค์ของตนที่จอดอยู่หน้าคณะ

    .

    .

    .

    .

    ถึงแล้วคร๊าบบบบบ

    พี่พาตังมาบ้านใครหรอครับ?” ผมเปิดฉากถามคำถามทันทีที่รถมาจอดถึงหน้าบ้านใครบางคน ดีที่วันนี้พี่ก้องขับรถไม่เร็วนัก ผมเลยไม่ต้องเกร็งมากเหมือนคราวที่แล้ว

    อ๋อ บ้านพี่กับพี่เอ็มเองแหละ แต่วันนี้ไอพี่เอ็มมันไม่อยู่ คงไปนั่งกุ๊กกิ๊กอยู่กับลูกเจ้าของมหาลัยที่มอตามเคยแหละพี่ก้องพูดแขวะพี่เอ็มนิดๆแล้วเดินไปเปิดรั้วบ้าน

    ลูกเจ้าของมหาลัย.....อ๋อ ตั้มหรอครับ ตังเคยเห็นเค้าอยู่บ้างนะ โหยยยยย พี่เอ็มเล่นของสูงอะ นี่พี่เค้าคบกับตั้มแล้วหรอฮะ สุดยอดเลย ว่าแต่บ้านพี่ก้องนี่มันเป็นท็อปซีเคร็ตตรงไหนครับ บ้านอยู่ติดถนนเลย ใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องเห็นหมดแหละแถมบ้านมันออกจะเก่าๆนิดๆด้วยแฮะ หรือว่าบ้านพี่ก้องจะมีทางเชื่อมไปอีกมิติหนึ่งของโลก ฮะๆคงไม่มั่ง ผมคงอ่านนิยายมากไป

    ไม่ใช่ตรงนี้ครับน้องตัง พี่หมายถึงที่อื่นตังหาก แต่ว่าก่อนถึงตังต้องหลับตาก่อนนนะ เดี๋ยวมันไม่เซอร์ไพรส์ แล้วก็จับมือพี่ไว้ด้วยจะได้ไม่หลงไปเดินชนนู้นชนนี้บ้านพี่ยิ่งรกๆอยู่เมื่อพี่ก้องพูดขนาดนั้นผมเลยเอื้อมมือไปจับข้อมือของพี่ก้องไว้หลวมๆ ทำไมจู่ๆหน้ามันก็ร้อนๆวูบๆแปลกแฮะ สงสัยตอนนั่งมอไซค์มาแดดมันแรง

    ฮะ ฮะ ฮะ น้องตังกลัวหลงขนาดนั้นเลยหรอครับพี่ก้องพูดไปยิ้มไปแบบฟีลลิ่งชีวิตดี๊ดีสุดๆ

    โหยพี่ก็ตังไม่เคยมาบ้านพี่เลยนะ จะให้มาเดินเชิบๆได้ไงเดี๋ยวหลงพอดี แถมให้ตังหลับตาไว้อีกผมพูดแล้วหลับตาลงอีกครั้ง

    อย่าว่าแต่ตังไม่เคยมาเลยครับ ไม่ว่าใครพี่ก็ยังไม่เคยพามาทั้งนั้นแหละ ตังเป็นคนแรกเลยนะที่พี่พามาบ้านแล้วก็พาไปสถานที่ท็ฮปซีเคร็ตของพี่น่ะ

    ปะ เราไปกันเถอะครับ ค่อยๆเดินนะพี่ก้องเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายกุมมือผมไว้แทนก่อนที่จะค่อยๆจูงไปช้าๆ เขินๆเหมือนกันแฮะ คงเป็นเพราะไม่เคยมีผู้ชายคนไหนมาพาเดินจูงมือแบบนี้มั้ง

    .

    .

    .

    .

    ใกล้ถึงรึยังครับ?” ผมถามหลังจากที่เราเดินกันมาซักพัก

    ถึงแล้วครับๆลืมตาได้พี่ก้องพูดแล้วปล่อยมือผมออก ทำไมมันรู้สึกเสียดายนิดๆก็ไม่รู้นะ

    โหยยยยยย โคตรสวยเลยอะครับพี่ พี่เอาของดีขนาดนี้มาแอบไว้ที่นี่ได้ไงเนี่ย แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าหน้าบ้านที่ดูเก่าๆโทรมๆจะมีอะไรแบบนี้ซ่อนอยู่ได้ผมมองไปรอบๆเพิงเล็กหลังหนึ่งที่ถูกตกแต่งประดับประดาไปด้วยโมบายเปลือกหอยนาๆชนิดห้อยอยู่ทุกบานหน้าต่างของบ้าน เมื่อมีลมพัดมาทีนึงมันก็กระทบกันไปมา ประกอบกับเสียงคลื่นที่โถมเข้ามาอย่างเป็นจังหวะยิ่งทำให้มันฟังดูไพเราะราวกับเสียงเพลงจากท้องทะเลสีฟ้าคราม

    อะไรกันครับน้องตัง หน้าบ้านพี่มันดูเก่าขนาดนั้นเลยหรอครับ

    ตัง...ตัง แค่เปรียบเทียบให้เห็นภาพเฉยๆน่ะครับผมพูดทั้งๆที่ตายังคงมองไปรอบบ้านหลังนี้

    5555 แต่ก็นะที่พี่เลือกซื้อบ้านหลังนี้ก็เพราะที่นี่แหละ พี่มาเจอมันตอนมาดูบ้านหน่ะ ตอนนั้นนะ มันทั้งเก่าทั้งโทรม มีผักบุ้งทะเลขึ้นรกเต็มไปหมด แต่อะไรก็ไม่รู้แหละดลใจให้พี่รู้สึกถูกชะตากับมันตั้งแต่แรกเห็น พี่เลยตั้งใจบูรณะมันขึ้นมาใหม่จนเป็นอย่างที่น้องตังเห็นนี่แหละครับ พี่กะว่าในอนาคตอาจจะเปิดเป็นร้านขายของฝาก เป็นไงเราชอบมั้ย

    ชอบมากเลยฮะ พี่ก้องอย่างเจ๋งอะ

    ถ้าชอบ ก็มาได้บ่อยๆเลยนะครับ บ้านเล็กๆหลังนี้จะคอยเปิดต้องนับน้องตังเสมอ เป็นไงบ้างครับ หายเหนื่อยไปบ้างรึยังเอ่ย?”

    หายเป็นปลิดทิ้งเลยครับพี่ ที่นี่สวยมากเลย ขอบคุณมากเลยนะครับที่พาตังมาเห็นสถานที่สุดวิเศษแบบนี้

    เห็นตังยิ้มได้แบบนี้พี่ก็สบายใจครับ อ๊ะ เดี๋ยวคอยพี่แปบนึงนะครับ พี่มีอะไรจะให้

    ห๊ะ อะไรครับพี่ก้อ..ง..ง อ่าว หายไปไหนซะละ ไวจริงๆผมละสายตาจากสิ่งสวยงามเบื้องหน้าเพื่อหันไปคุยกับพี่ก้อง แต่ไม่ทันซะแล้ว พี่ก้องหายไปไหนก็ไม่รู้

    มาแล้วคร๊าบๆ อะ น้องตังหันหลังหน่อยสิครับพี่ก้องพูดและกับบรรจงสวมอะไรบางอย่างให้กับผมที่ยืนหันหลังให้ มันเป็นสร้อยหนังสีน้ำตาลด้านๆที่มีจี้เป็นก้อนหินก้อนเล็กสีเขียวอมฟ้า

    พี่...ให้ตังทำไมครับ

    พี่อยากให้มันเป็นตัวแทนของพี่ แล้วก็สถานที่แห่งนี้ เวลาที่น้องตังมีเรื่องเครียด หรือไม่สบายใจอะไรที่อยากให้ตังมองมาที่มัน แล้วนึกถึงพี่ นึกถึงสถานที่แห่งนี้ ที่ๆทำให้ตังสบายใจ ที่ๆทำให้ตังยิ้มได้

    ขอบคุณมากเลยนะครับพี่ก้องผมหันไปยิ้มให้พี่ก้องจนตาปิด

    ว่าแต่ เมื่อกี้ที่น้องตังส่งโปรเจคไม่ผ่านนี่น้องตังทำโปรเจคเรื่องอะไรหรอครับ พอจะบอกพี่ได้มั้ย เผื่อพี่จะช่วยอะไรได้บ้าง?”

    ตังทำเรื่องธุรกิจส่งออกปลานี่หละครับ ก็นึกว่ามันจะง่ายเพราะตังเห็นป๊าทำงานนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เกิดมาก็ได้ยินแต่เรื่องปลาๆ จริงๆมันก็ผ่านหมดทุกอย่างแล้วแหละครับ ติดอยู่ที่เดียวคือเรื่องการออกเรือจับปลา ตังไม่เคยสนใจเรื่องนี้ แล้วก็ไม่คิดว่ามันจะจำเป็นกับโปรเจคนี้ขนาดนั้นเลยแค่หาข้อมูลจากกูเกิ้ลใส่ลงไปแค่นั้นอะครับ แต่มันดันทำให้โปรเจตตังไม่ผ่านซะที

    น้องตังครับ เรื่องการออกเรือเนี่ยเป็นเรื่องสำคัญมากๆเลยนะครับ น้องตังลองคิดดูสิ ถ้าเราไปจับปลาในที่ๆไม่มีปลาเราจะได้ปลามั้ย แล้ววิธีการจับอีกละ งั้นเอางี้มั้ยครับ พรุ่งนี้น้องตังมีเรียนรึเปล่า พรุ่งนี้พี่ต้องไปออกเรือแต่เช้าพอดี น้องตังอยากไปดูการทำงานจริงมั้ยล่ะครับ บอกเลยนะว่าไปครั้งนี้คุ้มมากเพราะได้ไปกับหนุ่มชาวประมงสุดหล่อผู้เชี่ยวชาญด้านการออกเรือจับปลาที่สุดในน่านน้ำนี้แล้วหล่ะครับ ว่าไง สนมั้ยครับ?”

    สนครับสน สนมากๆเลยครับ พี่ก้องของตังใจดีที่สุดเลยยยยยย ในที่สุดโปรเจคตังก็จะได้ผ่านซะทีผมถลาเข้าไปกอดพี่ก้องด้วยความดีใจและลืมตัว

    โอ๊ะ ขอโทษครับพี่ก้องตังลืมตัว แหะๆ

    ไม่เป็นไรครับ ลืมตัวบ่อยเลยก็ได้

    ห๊ะ ว่าไงนะครับ?”

    อ๋อ เปล่าๆครับ เรากลับกันเถอะครับ นี่ก็ใกล้มืดแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องออกเรือกันแต่เช้า เดี๋ยวพี่ไปส่งตังที่บ้านแล้วพรุ่งนี้พี่ไปรับนะครับ"

    ระหว่างที่ผมนั่งซ้อนอยู่บนรถ ครั้งนี้ผมไม่ได้นั่งมองบรรยากาศข้างทางเหมือนที่ผ่านมา แต่สายตากลับจับจ้องไปที่แผ่นหลังกว้างของคนที่ทำหน้าที่เป็นสารถีขับรถไปรับไปส่งผมมาตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ แล้วจู่ๆก็มีความคิดแว้บขึ้นมาในหัว 
    ทำไมเมื่อกี้ตอนที่กอดพี่ก้องผมถึงได้ใจเต้นแรงขนาดนี้ แรงราวกับว่าจะหลุดออกมาจากอกเลยด้วยซ้ำ นี่ยังไม่นับเวลาพี่เค้าพูดอะไรเสี่ยวๆ เวลาที่พี่เค้ายิ้ม รอยยิ้มที่ดูอบอุ่น รอยยิ้มที่เหมือนกับว่ามีเพียงผมคนเดียวที่มีโอกาสได้รับมัน นี่ผมเป็นอะไรกันแน่ ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกัน หรือว่าผม...จะ...


    คู่นี้น้องตังเริ่มใจเต้นแปลกๆ ความรู้สึกนี้มันอะไรกันนะ เอ๊ะ หรือว่า ความระ..?
    เกลี่ยวคลื่นที่ 3 coming soon!!


    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×