ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★☆ StorySeasideSoulmate ☆★ « TONJAY | KONGTANG | MTUM 」

    ลำดับตอนที่ #14 : Seaside: Present Perfect Continuous Tense

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 58


    เกลียวคลื่นที่ 5

    ดุจทานตะวันผู้ไม่เคยหันมองใครนอกจากดวงอาทิตย์

    Present Perfect Continuous Tense

     

    ครืดดดดดด ครืดดดดดด ครืดดดดดด

    ฮัลโหล ว่าไงเจ โทรหาพี่มีอะไรรึเปล่า อยู่กรุงเทพหรอ อ๋อได้สิ ไม่เป็นไรพูดมาเถอะ อืม ได้พี่ยินดีช่วย 55555 ไม่ต้องห่วง พี่โอเค ก็ทำใจไว้นานแล้วแหละ แล้วนี่มีแผนรึยัง จะเอายังไงก็บอกพี่นะ โอเคๆ งั้นไว้เที่ยงๆเจอกันธีรศิลป์วางสายจากเพื่อนรุ่นน้องแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาไม่ค่อยแน่ใจนักว่าสิ่งที่เขาตัดสินใจไปนั้นมันจะดีกับตัวเขาจริงๆหรือเปล่า แต่มันก็คงทำอะไรไม่ได้แล้วในตอนนี้ ในเมื่อเขาตอบตกลงกับอีกฝ่ายไปแล้ว เขาส่ายหน้าน้อยๆแล้วเดินไปหาสารัชที่ง่วนอยู่กับการรื้อหาอาหารเช้าในตู้เย็น

    เอาไงพี่ มอร์นิ่ง กินไรยังสารัชเผยยิ้มน้อยๆจนตาหยีกลบเกลื่อนแววความเศร้าไว้อย่างชัดเจน

    พี่ยังไม่หิว ตังกินข้าวเสร็จแล้วว่างรึเปล่า พี่มีเรื่องอยากคุยด้วย

    ตังมองคนตรงหน้าด้วยสีหน้างงๆ ก็ ว่างนะพี่ มีอะไรหรอ จริงๆคุยเลยก็ได้นะ

    ไม่เป็นไรๆตังกินก่อนก็ได้ ท่าจะหิวนี่ ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวาน ไม่ทันจบงานดีก็ดันรีบออกมาก่อนแล้วก็ขึ้นมากรุงเทพเลย กินเสร็จแล้วไปหาพี่ด้วยนะมุ้ยพูดแล้วเอามือไปขยี้กลุ่มผมนุ่มของอีกคนเล่นแล้วเดินจากไป

    มีเรื่องอะไรของเค้านะถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกหิว แต่พอเอาอาหารที่อุ่นจากไมโครเวฟมาวางไว้ตรงหน้าความอยากอาหารเมื่อครู่กลับหายไปเสียดื้อๆ เขานั่งเขี่ยอาหารในจานไปมาสักพักจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาอีกคนที่นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น

    พี่มีอะไรจะคุยกับผมหรอสารัชกล่าวพร้อมนั่งลงข้างๆคนเป็นพี่

    พี่รู้ว่าเรื่องนี้มันไม่ควรพูดในเวลานี้ แต่ถ้าพี่ไม่พูดมันออกไปพี่คงไม่มีโอกาสได้พูดมันอีกแล้ว ตังรู้ใช่มั้ยว่าพี่คิดยังไงกับตัง ...เอาเป็นว่าไม่ว่าตังจะรู้หรือไม่ก็ตาม พี่อยากให้ตังรู้เอาไว้ พี่รักตังนะ รักมาตั้งนานแล้วด้วย พี่รู้ว่าเรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้ เพราะตังมีคนของตังอยู่แล้ว แม้ว่าตอนนี้จะมีเรื่องไม่เข้าใจกันบ้าง พี่เชื่อว่าเราสองคนต้องผ่านมันไปได้ พี่ก็แค่อยากบอกความในใจของพี่ให้ตังรู้เอาไว้ก็เท่านั้นแหละ พี่ทนเก็บมันมาตลอดเพราะกลัวว่ามิตรภาพความเป็นพี่น้องของเราจะจบลงถ้าพี่พูดคำนั้นออกไป แต่วันนี้พี่ตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องบอกให้ตังได้รู้ ตัง...ยังเป็นน้องของพี่ได้อยู่รึเปล่า...

    พี่มุ้ย...ตังขอโทษนะ ที่คิดกับพี่แบบที่พี่คิดกับตังไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเพราะตังมีใคร แต่เพราะความรู้สึกที่ตังมีให้พี่มันเป็นได้แค่พี่น้องเท่านั้นจริงๆ พี่ไม่ต้องกลัวว่าอะไรจะเปลี่ยนไปนะ ไม่ว่ายังไงพี่ก็ยังจะเป็นพี่ชายที่แสนดีของตังเสมอ ตังขอบคุณในความรู้สึกดีๆที่พี่มอบให้ตัง แต่ตังก็ขอโทษด้วยที่ตังรับมันไว้ไม่ได้จริงๆ

    ไม่เป็นไร แค่ตังยังเรียกพี่ว่าพี่ ยังให้พี่ได้เป็นพี่ชายของตังอยู่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับพี่ พี่...เออ...ขอกอ...

    ยังไม่ทันที่มุ้ยจะได้พูดอะไรต่อ ตังก็โผเข้ากอดเขาจนเกือบเซ

    พี่ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ผมเชื่อนะ ว่าซักวันพี่จะต้องได้เจอกับใครที่พี่รัก และเค้าก็รักพี่ตังค่อยๆคลายอ้อมกอดออกจากพี่ชายช้าๆ

    พี่ว่า พี่คงรักใครไม่ได้อีกแล้วล่ะมุ้ยเอื้อมมือไปขยี้ผมของน้องเบาๆแล้วเปลี่ยนมาลูบเล่นแทน

    เวอร์น่าพี่ อย่าให้เห็นว่าวันไหนเดินควงใครมานะ จะแซวให้หน้าหงายเลยคอยดูเดะสารัชพูดติดตลกและทั้งสองคนก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน

    แล้วเรื่องตังอะ ว่าไง หืม ได้ข่าวว่าหนีเขามาอีกแล้วหรอจู่ๆมุ้ยก็เปลี่ยนเรื่องเอาเสียดื้อๆจนคนถูกถามเปลี่ยนสีหน้าแทบไม่ทัน

    พี่ไปรู้มาจากไหนเนี่ยตังถามกลับ

    เออ...ก็รู้มาละกันน่า พี่มีสาย แต่ประเด็นหลักมันไม่ได้อยู่ตรงนี้ มันอยู่ตรงที่ว่าตังหนีทำไมอีก แล้วเมื่อไหร่จะคุยกันรู้เรื่อง อย่ามีทิฐิต่อกันให้มันมากนักเลย ลองให้อภัยเค้าดูสักครั้งนะเชื่อพี่

    เฮ่อออออ ไม่รู้ดิพี่ ผมพร้อมฟังคำอธิบายของพี่ก้องนะ ถ้ามันมีเหตุผลมากพออะ แต่ผมยังไม่พร้อมเจอหน้าพี่เค้า ผมกลัวตัวเอง ทุกครั้งที่ผมเห็นหน้าเค้าใจผมมันเต้นรัวไปหมดเลย ผมกลัวว่าผมจะเผลอใจอ่อนยอมยกโทษให้พี่เค้าง่ายๆแล้วพี่เค้าจะทำแบบเดิมซ้ำอีกอะพี่มุ้ย แต่ให้ผมอยู่ห่างกับพี่ก้องนานๆมันก็ทรมานนะพี่ ผมคิดถึงพี่เค้าอะ ผมควรทำยังไงดีเนี่ยยยยยยยตังทำหน้าเครียดจนคิ้วขมวดจนแทบผูกเป็นโบ

    แค่ไม่ต้องเจอหน้าก็โอเคแล้วใช่มั้ยมุ้ยแสร้งถามขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าตังจะทำตามแผนที่เค้าวางเอาไว้

    ก็คงงั้นแหละพี่...พี่มุ้ย ตังอยากไปเดินห้างตังตัดจบเรื่องของตัวเองไปง่ายๆแล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปเป็นอย่างอื่นแทน

    เปลี่ยนเรื่องนะเรา จะไปไหนล่ะมุ้ยไม่ได้อยากจะคาดคั้นอะไรน้องต่อ เลยยอมเปลี่ยนเรื่องตามแต่โดยดี

    .

    .

    .

    .

    บรื๋ออออออ แอร์ที่นี่เย็นเนอะพี่ ผมไปเข้าห้องน้ำแปบนะผมแยกตัวออกมาจากพี่มุ้ยหลังจากที่เรามาเดินห้างกันได้ซักพัก ทันทีที่ผมเดินกลับออกมาจากห้องน้ำผมดันเดินมาเจอกับโจทก์เก่า คนที่ผมไม่อยากเห็นหน้ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากพี่ก้องในตอนนี้ ยายแคทช่าซ่าสุดๆที่ไปนัวกับพี่ก้องที่คณะวันนั้น...

    นาย เจอกันก็ดีละ มานี่ซิยัยนั่นกวักมือเรียกผมยิกๆ นี่เป็นนางกวักหรือไงกวักเรียกซะ พอเธอเห็นผมไม่ยอมเดินไปหาซะทีเลยเดินมาลากผมไปด้วยตัวเธอเอง

    เรื่องมากจริง เดินมาหาแค่นี้เดินเองไม่ได้รึไงยะ ชั้นมีเรื่องจะคุยด้วยจะบ่นอะไรกันนักหนาเนี่ย จริงๆตอนแรกผมก็ไม่ได้อยากจะคุยด้วยเท่าไหร่หรอกนะ แต่คิดอีกที่คุยๆเคลียๆให้มันจบไปเลยดีกว่า ไหนๆเจ้าตัวเค้าก็โผล่หน้ามาขอเคลียเองด้วยแล้วนี่เนอะ

    มีไรล่ะ

    นาย...เป็นแฟนพี่ก้องจริงดิเออ จริงๆยัยนี่ก็ดีอย่างนะ มีอะไรก็พูดออกมาตรงๆ แต่บางทีก็ตรงไปป่ะ

    ตอนนั้นก็ใช่ แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว ผมพูดไปตามความจริงที่ว่าตอนนี้ผมกับพี่ก้องเรา...นั่นละ ผมไม่ค่อยอย่าพูดคำๆนั้นเลย

    เอ้า ทำไมละ นายนี่มันโง่หรือบ้าเนี่ย ทิ้งผู้ชายแบบนั้นได้ยังไงยัยนี่ อะไร จู่ๆก็มาด่าผม

    ทำไมผมถามออกไปด้วยความสงสัย

    นายรู้มั้ยวันนั้นหลังจากที่นายเดินออกไปแล้วชั้นเจออะไรบ้าง...

    *

    *

    *

    *

    พี่ก้องคะ คนเมื่อกี้ใครหรอคะ แล้วเค้าเป็นอะไรอะคะ แคทตี้ไม่เห็นเข้าใจเลยแคทยังคงเกาะแขนก้องไม่ปล่อย

    ปล่อยพี่เดี๋ยวนี้แคท ไม่อย่างงั้นอย่าหาว่าพี่ไม่เตือน พี่ไม่อยากทำร้ายผู้หญิงหรอกนะก้องพยายามแกะมือแคทออกจากแขนตัวเองอย่างยากลำบาก

    ทำไม พี่จะห่วงอะไรมันนักหนา ปล่อยมันไปเถอะพี่ก้อง พี่เป็นบ้าไปแล้วรึไง มันก็ผู้ชายพี่ก็ผู้ชาย มันไม่มีวันเป็นไปได้ สู้อยู่กับแคทตี้ไม่ดีกว่าหรอ แคทมีให้พี่ก้องได้ทุกอย่างนะเธอยังคงตื้อก้องไว้

    เธอไม่มีสิทธิเรียกคนของพี่ว่ามัน แล้วพี่ก็ไม่สนว่าตังจะเป็นใครเป็นผู้หญิงหรือเป็นผู้ชาย เรื่องของความรักมันไม่มีข้อกำหนด ถ้ารักก็คือรัก และพี่ก็รักตัง รักมากด้วย ไม่มีวันจะไปรักคนอื่นได้อีก แค่นี้ก็น่าจะชัดเจนพอแล้วนะ ออกไปจากชีวิตพี่แล้วก็ตังซะ เมื่อก้องพูดจบก็เดินหนีแคทไปเลยในทันที

    *

    *

    *

    *

    ผมกำลังช็อคครับ คือหลังจากที่ยัยนี่สารภาพความผิดออกมาว่าจริงๆเป็นฝ่ายรุกเข้าไปหาพี่ก้องเองทั้งๆที่พี่ก้องไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ ความรู้สึกผิดแล่นผ่านทั่วร่าง ผมค่อยๆตั้งสติแล้วถามยัยรองเท้านักเรียนหญิงนั่นอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ พี่ก้องพูดแบบนั้นจริงๆหรอ

    นายนี่ แน่สิ ชั้นจะโกหกนายทำหอยขมอะไรเล่า เอ้อ ชั้นละไม่เข้าใจพี่ก้องจริงๆรักคนเพี้ยนๆอย่างนายไปได้ยังไง ชั้นต้องไปละ ไงก็ขอให้ดีกันเร็วๆละกัน นายมันบ้า พี่ก้องก็บ้าที่ไปรักนาย เหอะอย่างว่าคนบ้าต้องอยู่กับคนบ้า คนสวยๆอย่างชั้นจะไม่ยุ่ง ไปละ บายยัยนั่นทำท่าจะเดินไป แต่ผมไม่ยอมให้เธอไปง่ายๆหรอก ผมคว้าแขนเธอเอาไว้ก่อน

    ยังไงก็...ขอบคุณนะที่เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังก็นะ คนเค้าดีมาเราก็ต้องดีตอบ ไม่ต้องชมผมหรอก ผมรู้ว่าผมเป็นคนดี

    หลังจากที่ผมกลับมาจากเดินห้างกับพี่มุ้ย ซึ่งขากลับพี่เค้าไม่ได้กลับมากับผมด้วย พี่เค้าบอกว่ามีธุระด่วนพอดี เลยให้ผมกลับมาคอยที่ห้องก่อนได้เลย... นี่พี่มุ้ยก็ออกไปทำธุระข้างนอกได้ซักพักแล้ว เหลือผมนอนซังกะตายอยุ่คนเดียวในห้อง เฮ่อ น่าเบื่อชะมัดเลย

    ติ้งต่อง’ หืม ใครมาหาพี่มุ้ยรึเปล่านะ ผมเดินไปส่องดูที่ตาแมว แต่ปรากฏว่ามองไม่เห็นใครซักคน เอาละสิสารัชอยู่ห้องคนเดียวด้วยไง ใครมันเล่นอะไรแบบนี้เนี่ย ยังไม่ทันที่ผมจะหันหลังกลับเสียงออดก็ดังขึ้นอีกครั้ง ผมมองลอดออกไปอีกรอบหนึ่งแต่ก็ไม่พบใครอยู่ดี เลยตัดสินใจเปิดประตูออกไปดู เอาวะ กลางวันแสกๆไม่มีอะไรหรอกมั้ง มือที่สั่นน้อยๆค่อยๆเอื้อมไปเปิดประตูออกช้าๆ...แอดดดดด

    ปึ้ง!!!’ ประตูถูกปิดลงอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือของผมเอง ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าใครยืนอยู่หน้าห้อง แล้วก็รู้ด้วยว่าทำไมผมถึงมองลอดตาแมวออกไปไม่เห็นใคร คนที่ห่างกับผมแค่ประตูกั้นคือพี่ก้อง พี่เค้ายืนถือช่อดอกทานตะวันช่อหนึ่งอยู่หน้าประตูห้อง

    ตัง ฟังพี่อธิบายหน่อยได้มั้ยเสียงพี่ก้องพูดกับผมลอดมาจากช่องเล็กๆข้างประตู

    มีไรก็ว่ามา แต่ห้ามเข้ามานะผมพยายามหุบยิ้มและเก็บอาการดีใจที่พี่ก้องลงทุนตามมาง้อผมถึงที่นี่ไว้ด้วยการพูดตอบพี่เค้ากลับไปด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

    โอเคครับๆ แค่ตังยอมฟังพี่ๆก็โอเคแล้วเสียงของคนอีกฝั่งกำแพงฟังดูดีขึ้นมากจากตอนครั้งล่าสุดที่คุยกัน ผมเดาว่าพี่เค้าคงยืนยิ้มอยู่หน้าประตูเพราะผมยอมฟังพี่เค้าอธิบายแน่ๆ

    เอา จะพูดอะไรก็พูดมาสิ ไม่งั้นผมจะเดินไปแล้วนะขอแกล้งหน่อยละกัน55555555

    คือจริงๆแล้วพี่กับแค...

    ผมไม่อยากได้ยินชื่อนั้น...ผมพูดขัดขึ้นมาก่อน ก็ผมหงุดหงิดนี่หน่าเวลาได้ยินชื่อยัยรองเท้านักเรียนหญิงนั่นอะ

    เรียกว่ารองเท้าซะผมได้ยินพี่ก้องพูดอะไรซักอย่างประมาณว่า ‘ห๊ะ’ แต่ก็ยอมเล่าเรื่องต่อแต่โดยดี ทุกคนเชื่อผมมั้ยผมต้องพยายามกลั้นขำแทบตายเวลาที่พี่ก้องพูดถึงชื่อถึงยัยนั่นแต่เป็นคำว่ารองเท้าแทน เรื่องที่พี่ก้องเล่ามาตรงกับที่ผมได้ฟังจากปากของยัยแคทช่าทั้งหมด นั่นหมายความว่าพี่ก้องไม่ได้โกหกผม พี่ก้องไม่ได้ผิดจริงๆ และผมเชื่อใจพี่ก้องได้ ผมเลยตัดสินใจเปิดประตูออกไปหาพี่ก้องแล้วเล่าเรื่องที่ผมไปเจอกับยัยแคทช่ามาแล้วยัยนั่นก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังแล้ว ผมขอโทษพี่เขาสำหรับความคิดงี่เง่าของผม พี่ก้องค้อนผมน้อยๆที่ผมแกล้งทำเป็นโกรธพี่เขา แต่พอผมอ้อนเข้าหน่อยพี่เค้าก็หาย พี่ก้องบอกกับผมว่าพี่เค้าไม่อยากโกรธผม เพราะไม่อยากเสียช่วงเวลาดีๆระหว่างผมกับเขาไปให้กับความโกรธหรือความเสียใจของฝ่ายได้ฝ่ายหนึ่ง แฟนผมคนนี้น่ารักชะมัดเลยทุกคนว่ามั้ย ผมสัญญากับพี่ก้องว่าต่อไปนี้ผมจะมีเหตุผลให้มากกว่านี้ จะไม่ใช้อารมณ์ของตัวเองตัดสินปัญหา จะไม่เชื่อแค่ในสิ่งที่ตาเห็นแต่จะพิสูจน์ให้ดีซะก่อน และสัญญาว่ามีอะไรจะถามพี่ก้องตรงๆจะได้ไม่ต้องเก็บมาคิดบ้าคิดบอคนเดียวแบบครั้งนี้อีกแล้ว พี่ก้องก็ขอโทษผมที่ประมาทไม่เคลียร์ปัญหาเก่าของตัวเองให้เรียบร้อยจนมียัยแคทช่ามาทำให้ปัญหาครั้งนี้ของเราเกิดขึ้น จากนั้นพี่มุ้ยแล้วก็เจกับต้นก็เดินมาหาพวกเราที่ห้อง พี่มุ้ยบอกว่าจริงๆแล้วมันเป็นแผนที่พี่มุ้ยคิดขึ้นมากับพวกพี่ก้องแล้วก็ต้นเจเพื่อให้ผมยอมฟังพี่ก้องอธิบาย เพราะพี่มุ้ยเองก็ไม่รู้ว่าผมไปเคลียร์กับโจทก์ผมมาแล้ว เรา 4 คนลาพี่มุ้ยกลับใต้ในเช้าวันถัดไป หลังจากที่กลับมาถึงไม่กี่วันต่อมาพี่ก้องก็เริ่มไปทำงานที่โรงงานของป๊าอย่างเต็มตัว ผมก็มีเข้าไปช่วยบ้างบางวัน แค่บางวันนะ เพราะยังไงๆผมก็ไม่ค่อยชอบนั่งอุดอู้อยู่ในคอกโต๊ะแคบๆนั่นจริงๆ

     

    วันนี้วันที่ 30 พฤษภาคม เป็นวันเกิดของที่รักผมเองครับ ผมมีบางอย่างที่อยากจะมอบให้กับเขาเป็นของขวัญวันเกิด ผมเตรียมสิ่งนี้ไว้ให้เขานานมากแล้ว ผมหวังว่าตังจะชอบสิ่งที่ผมให้นะครับ

    ตังงงง เดี๋ยววันนี้ออกไปข้างนอกกกับพี่หน่อยสิ พี่ต้องไปหาลูกค้าข้างนอก ผมบอกตังที่กำลังนั่งเล่นเกมอยู่ที่โต๊ะเล็กข้างๆโต๊ะทำงานของผม

    ไรอะพี่ก้อง ตังไม่อยากไปอะ วันนี้วันเกิดตัง ต้องพาตังไปเลี้ยงสิไม่ใช่ไปหาลูกค้า วันๆเอาแต่ทำงาน น่าเบื่อชะมัดเลยเอาละสิ ถ้าตังไม่ยอมไปแผนผมต้องล่มแน่ๆเลย

    นะๆไปกับพี่หน่อย เดี๋ยวหลังจากไปหาลูกค้าแล้วพี่พาไปเลี้ยงก็ได้ผมพยายามหาข้ออ้างให้ตังยอมออกไป

    อะๆก็ได้ แต่ต้องพาไปเลี้ยงจริงๆนะ ห้ามหลอกตังนะ

    พี่เคยหลอกตังที่ไหน ไปกันเถอะครับผมพาตังขึ้นเรือมายังที่ๆหนึ่ง ผมว่าผมเกริ่นมาขนาดนี้ทุกคนน่าจะพอรู้แล้วนะว่าผมพาตังไปที่ไหน ใช่ครับ ผมพาตังมาที่เกาะที่เราเคยมาติดอยู่ด้วยกัน แต่บัดนี้มันได้แปรสภาพเป็นเกาะเซฟเฮาส์เล็กๆไปเรียบร้อยแล้ว ผมพาตังขึ้นมาจากเรือแล้วไปหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง

    เป็นไงครับ ชอบมั้ยผมถามน้องตังที่ตอนนี้มัวแต่ตกตะลึงกับภาพตรงหน้า

    สวยฮะ สวยมากเลย ก่อนหน้านี้เกาะนี้มันก็สวยอยู่แล้ว ยิ่งมีบ้านหลังนี้เข้ามามันยิ่งสวยเข้าไปอีก

    บ้านของเราไงครับ พี่มาซื้อเกาะนี้แล้วก็ให้คนมาสร้างบ้านไว้ได้ซักพักแล้ว วันนี้วันดีพี่เลยขอยกเกาะๆนี้ให้ตัง สุขสันต์วันเกิดนะครับผมพูดพร้อมกับยื่นช่อดอกทานตะวันที่ผมแอบหยิบมาด้วยไปให้

    ขอบคุณครับพี่ก้อง ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง

    ตังรู้มั้ยว่าทำไมพี่ถึงชอบให้ดอกทานตะวันแทนที่จะเป็นดอกอย่างอื่นแบบที่คนทั่วไปเขาชอบให้กัน เพราะดอกทานตะวันเป็นดอกไม้ที่แทนสัญลักษณ์ของความเชื่อมั่น ความมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง รักเดียวใจเดียว และยังหมายถึง รักของฉันมั่นคงและภักดีต่อเธอเสมอดุจดั่งทานตะวันที่ไม่เคยหันมองผู้ใดนอกจากดวงอาทิตย์ เป็นไง ความหมายดีมั้ย

    ตังไม่ได้ตอบอะไรกลับมาแต่ส่งรอยยิ้มหวานๆมาให้แทน ผมพาตังเข้าไปดูในตัวบ้านแล้วเราก็เดินเล่นรอบๆบ้านกันจนเย็น

    ตังอยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ย ผมถามน้องตังหลังจากที่เรากลับเข้ามาในตัวบ้าน

    พี่ก้องจะทำหรอเอาล่ะสิ ผมเดาไม่ผิดจริงๆว่าต้องโดนถามคำถามนี้

    พี่ขอโทษนะ พี่ทำอาหารไม่เป็นหรอก เมื่อก่อนเวลาอยู่บ้านก็ได้ไอพี่เอ็มทำให้กินตลอด ที่พี่ทำเป็นก็มีแต่ต้มมาม่านี่หละ ผมสารภาพกับน้องไปตรง

    ไม่เป็นไรฮะ เดี๋ยวเราโทรสั่งเอาก็ได้ ว่าแต่พี่ก้องตั้งชื่อเกาะนี้รึยังฮะเพราะความน่ารักแบบนี้แหละครับ ผมถึงไปรักใครไม่ได้อีก

    ยังเลย แต่พี่ว่านะเกาะนี้เป็นของตัง พี่ให้ตังตั้งเองดีกว่า

    เอางั้นหรอ อืมมมมมมมมม ชื่ออะไรดีล่ะ อ๊ะ นึกออกแล้ว มารีน ตังจะตั้งชื่อว่าเกาะมารีน เพราะมารีนแปลว่าอะไรที่เกี่ยวกับทะเล ตังหันมาพูดกับผมแล้วยิ้มให้จนตาปิดกันสนิท

    เช้าวันถัดมาเราสองคนก็กลับออกมาจาเกาะ จริงๆแล้วถ้าไม่ติดว่าผมต้องกลับมาเคลียร์งานผมคงอยู่ต่ออีกซัก3-4วัน ถือว่าฮันนีมูนไปในตัว พอกลับมาถึงบ้านตังก็เล่าเรื่องเกาะให้เถ้าแก่ฟังใหญ่เลย เถ้าแก่ท่านก็ได้แต่ยิ้มให้กับลูกชายตัวดีของท่าน

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ผมกับตังใช้ชีวิตแบบเรียบๆง่ายๆกันมาเรื่อยๆจนปีนี้เข้าปีที่ 6 แล้วหลังจากที่เราคบกัน ผมยังคงทำงานอยู่ที่โรงงานของเถ้าแก่ ซึ่งตอนนี้เป็นของผมเองแล้ว ส่วนตังก็ไปเปิดร้านขายของฝากเล่นๆเป็นงานแก้ว่างเขาไป ร้านก็ไม่ใช่จากไหนหรอกครับ บ้านหลังเล็กๆที่ผมเคยพาตังไปตรงหลังบ้านผมนั่นแหละครับ ถ้าทุกคนยังจำได้ผมเคยบอกกับตังไว้ว่าผมอยากให้ที่นั้นเป็นร้านขายของฝาก แต่พอผมต้องมาเป็นผู้จัดการผมเลยไม่มีเวลาไปทำตามความฝันของผม แต่ก็ยังดีที่ได้ตังมาช่วยสานต่อความฝันของผม...

    กริ้งงงงงงงงง

    ว่าไงครับตัง โทรหาพี่มีอะไรหรอ

    พี่มุ้ยมาฮะ ตังอยากไปรับที่สนามบิน เออ พี่ก้องจะไปด้วยกันมั้ย

    ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปด้วย เดี่ยวพี่เข้าไปรับที่ร้านนะ

    คร้าบบบบบบ แล้วเจอกันนะ จุ้บๆ 5555555รักพี่ก้องจัง

    ครับๆพี่ก็รักตัง รอแปบนึงนะพี่กำลังออกไปแล้ว

    ตั้งแต่ผมไปรับตังที่ร้านจนนั่งรถมาถึงสนามบินตังเอาแต่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตลอดเวลา เหอะ มันทำให้ผมหงุดหงิดชะมัดเลย แค่พี่มุ้ยจะแวะมาหามันต้องดีใจออกนอกหน้าขนาดนั้นมั้ยห๊ะเพนกวิ้น ถึงเรื่องมันจะผ่านมานานแล้วผมก็ยังอดระแวงพี่มุ้ยไม่ได้อยู่ดี ก็คนมันเคยชอบนี่ ผมก็ต้องระแวงเป็นธรรมดา แต่สิ่งที่ผมเห็นเมื่อมาถึงสนามบินทำให้สิ่งที่ผมกังวลมาตลอดหายไปในทันที พี่มุ้ยเดินมากับผู้ชายคนนึงด้วยท่าทางสนิทสนม

    ไงครับพี่ มากับใครอะ แฟนหรอผมแกล้งแซวไปขำๆ แต่สิ่งที่ได้กลับมาทำเอาผมแทบขำไม่ออก

    ตอนนี้ยังไม่ใช่หรอก แต่ต่อไปก็ไม่แน่หลังจากพี่แกพูดจบก็โดนคนข้างๆฟาดเข้าให้ป้าบใหญ่ ผมละเจ็บแทน

    ขอโทษๆ พูดเรื่องจริงหน่อยทำเป็นเขินนะเรา พี่ยังไม่ได้แนะนำให้เราสองคนรู้จักเลย นี่ อุ้ม ว่าที่แฟนพี่เอง ที่พี่มานี่ก็เพราะอุ้มนี่หละ แล้วก็จะมาลาทุกๆคนด้วยช็อคดิครับท่านผู้ชม กะแซวเล่นดันเป็นเรื่องจริงไปซะนี่

    พี่มุ้ยจะไปไหนหรอตังที่เงียบมานานพูดขึ้น

    พี่จะย้ายไปอยุ่กับอุ้มที่บุรีรัมย์...

    เราคุยกันไปหลายๆเรื่องแต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของแฟนของพี่มุ้ย พี่มุ้ยเล่าให้ฟังว่าเจอกับอุ้มเพราะอุ้มมาเที่ยวที่กรุงเทพแต่ดันหลงทางเลยมาขอให้พี่มุ้ยช่วย แล้วก็ปิ้ง เกิดเป็นความรัก 555555555 เรื่องพี่มุ้ยมันนิยายมากๆอะ ผมละไม่อยากเชื่อจริงๆว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในชีวิตคนปกติได้จริงๆ หลังจากนั้นพี่มุ้ยก็พาอุ้ม(ผมบอกรึยังว่าเรารุ่นเดียวกัน และนั่นก็หมายความว่าโตกว่าตัง) ไปไหว้สวัสดีเถ้าแก่ที่โรงงานแล้วก็พากันออกไปเที่ยวเล่นแถวทะเลกันต่อ

    ตังว่ามั้ยว่าเรื่องของพี่มุ้ยกับอุ้มเนี่ยเหมือนอ่านนิยายเลยเนอะ

    ใช่ๆ หยั่งกะนิยายแจ่มใสที่ตังเคยไปเอาของเจมาอ่านเลย 5555555555

    อีกไม่นานก็คงจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งเนอะ แล้วเรื่องของเราล่ะ ตังอยากให้มันเป็นแบบไหน?

    ตังไม่อยากให้มันมีตอนจบ ตังอยากให้มันเป็นตลอดไปเลย

    พี่ว่าไม่ต้องเป็นคำว่าตลอดไป แต่ให้มันเป็นคำว่าเสมอๆในทุกๆวันดีกว่านะ

     

     “ก็ดีเหมือนกันฮะ ตังรักพี่ก้องเสมอนะ

     “พี่รักตังเสมอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยครับ



    End.





    พี่ก้องหวานละมุนไม่เกรงใจหน้าตาพี่เล้ยยยยยย ไม่อยากให้มีตอนจบ อยากให้มีตลอดไป เอ๊ะ อยากให้มีเสมอๆไปในทุกๆวัน อิ้อิ้
    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาจนถึงตอนจบ เป็นฟิคโปรเจคเรื่องแรก ที่แต่งจบ 55555555555 ถ้ามีโปรเจคหน้า ติดตามน้าาาาาาาา
    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×