คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 11 : ทำร้าย
ทำร้าย
บ้านดรีม...
ฟ้าไปมหาลัยแต่เช้าโดยที่ไม่รอฉันเลย คนที่อยากให้รอกลับไม่รอ คนที่ไม่อยากให้รอกลับมารอ ฉันก็งงๆ นะ มารอฉันตั้งแต่ฉันยังไม่ตื่น
“บอกมาว่าเราไปอยู่กับมันได้ยังไง?” พี่โซลถามพร้อมยื่นไอโฟนในมือมาทางฉัน นี่ตั้งหน้าตั้งตามาหาฉันแต่เช้าเพราะเรื่องนี้เหรอเนี่ย แล้วทำไมต้องทำเหมือนหวงฉันด้วยล่ะ? ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย -3-
“ไมค์พาดรีมไปทานไอศกรีมน่ะพี่โซล”
“พี่รู้! แต่ทำไมต้องไปด้วยล่ะ? หรือว่าเราชอบมัน?”
“ใช่..ดรีมชอบไมค์” ฉันตอบไปตามความจริงก็มันไม่มีอะไรต้องปิดบังนิ พี่โซลเป็นคนอื่น...คนอื่นที่ขโมยจูบแรกของฉันไป
“ทำไมเราถึงกล้าพูดได้เต็มปาก?”
“แล้วทำไมดรีมจะพูดไม่ได้? ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกัน อย่ามาทำตัวเป็นเจ้าของดรีมไปหน่อยเลย” เป็นครั้งแรกที่ฉันกล้าต่อปากต่อคำกับพี่โซล ทำไม? ฉันจะชอบใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่โซล
“ไม่มาหาไม่กี่วันเราดื้อขนาดนี้เลยหรอ?”
“ดรีมไม่ได้ดื้อแต่นี่มันเรื่องส่วนตัวของดรีม พี่โซลไม่มีสิทธิ์มายุ่งนะ” แล้วในที่สุดฉันก็อดไม่ได้ที่จะเรียกร้องความเป็นส่วนตัวของตัวเองคืน บอกตรงๆ ว่าฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจพี่โซลเลย ตั้งแต่ที่เขากลับเข้ามาในชีวิตฉันเขาก็ตามมาแกล้งฉันแบบที่ทุกคนเห็นแถมยังแกล้งแบบแนบเนื้ออีกด้วย
ยอมรับว่าบางทีก็มีหวั่นไหวบ้างแต่พอลองกลับมาคิดอีกทีที่พี่โซลทำไปก็แค่เพราะฉันเป็นของเล่นของเขาเท่านั้นแหละ อยากจะมาก็มาอยากจะหายก็หาย แล้วนี่อะไรอีก! จะมาทำตัวเป็นเจ้าของฉันอีกหรอ? มันไม่เกินไปหน่อยหรอแบบนี้น่ะ
“ส่วนตัว?” พี่โซลเลิกคิ้วมองฉันเหมือนกับสะกิดใจกับคำนี้มาก “หึ! ถ้าอย่างนั้นก็ทำให้มันกลายเป็นเรื่องของเราสองคนไปเลยดีกว่าไหม?”
“พี่โซลจะทำอะไร” ฉันถึงกับถอยหลังหนี เพราะคำพูดของเขาแสดงถึงความไม่พอใจและต้องการทำอย่างที่เจ้าตัวพูดจริงๆ พี่โซลก้าวขาตามฉันมาแล้วดึงฉันเข้าไปโอบกอดในระยะปะชิด ทำเอาฉันถึงกลับกลืนน้ำลายไม่ลง หายใจติดขัดเพราะฉันไม่รู้เลยว่าคนตรงกำลังคิดอะไรอยู่
พี่โซลโน้มลงมาหาฉันเพื่อที่จะทำสิ่งที่เขาต้องการ ฉันเลยหันหน้าหนีแล้วพยายามผลักร่างกายของเราให้ห่างกันแต่มันก็ไม่มีผลเลย พี่โซลมืออีกข้างประคองหน้าฉันเอาไว้อย่างรู้ทัน ก่อนจะประกบริมฝีปากตามลงมาเพื่อไม่ให้ฉันหนีได้อีก
ฉันพยายามดิ้น ทั้งทุบ ตี จิก และข่วน แต่เหมือนมันไม่มีความหมายยิ่งฉันพยายามดิ้นมากเท่าไหร่ พี่โซลก็ยิ่งกดทับริมฝีปากลงมารุนแรงกว่าเดิน แรงจนฉันรู้สึกเจ็บ แสบ และปนไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
“อย่าพูดว่าชอบคนอื่นอีก!” พี่โซลสั่งหลังจากที่ละริมฝีปากออกไป ทำไม! ฉันจะชอบหรือไม่ชอบใครแล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับพี่?
“พี่โซลไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้นะ! ปล่อยดรีม!” มันถึงเวลาแล้วล่ะที่ฉันจะเลิกหนี ยิ่งฉันหนีเขาก็ยิ่งได้ใจเพราะฉะนั้นมันก็ถึงเวลาที่ฉันจะต้องลุกขึ้นมาปกป้องพื้นที่ส่วนตัวของฉันบ้าง!
“ทำแบบนี้มันไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลยนะ! ดรีมมีแต่แย่ลงไปกว่าเดิม!”
“อยู่ใกล้พี่โซลนั่นแหละที่จะแย่ไปมากกว่าเดิม!” ฉันเค้นแรงทั้งหมดที่ตัวเองมีแล้วผลักพี่โซลออกไปก่อนจะสะบัดเรียวๆ ลงบนหน้าพี่โซลอย่างเหลืออด “ทำไมต้องทำแบบนี้! ดรีมจะชอบใครหรือไปทำอะไรกับใครมันก็เรื่องของดรีม! พี่โซลจะมายุ่งทำไม!”
“หึ! ปากเก่งแบบนี้ก็ดี!” พี่โซลบอกก่อนจะกระชากแขนฉันแล้วเหวี่ยงร่างฉันกับโซฟาและตามมาคร่อมร่างฉันเอาไว้ได้ภายในเวลาไม่กี่นาที ไม่นะ! เขาจะน่ากลัวเกินไปแล้ว
“พี่โซลปล่อยดรีมนะ! ไม่อย่างนั้นดรีมจะร้องให้คนช่วย!” พี่โซลแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์จนฉันถึงกับทำอะไรไม่ถูก “ช่วย....”
พี่โซลไม่ปล่อยให้ฉันได้ร้องขออิสระเจ้าตัวจัดการปิดริมฝีปากฉันอีกครั้ง ใครก็ได้ช่วยฉันที! ช่วยให้ฉันหลุดจากฝันร้ายแบบนี้สักที ฉันพยายามดิ้นรนแต่ผละกำลังของฉันมันไม่สามารถต่อกรกับคนตรงหน้าได้เลย เขี้ยวคมๆ ของพี่โซลบาดกับริมฝีปากฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนฉันสัมผัสได้ถึงกลิ่นสาบๆ ของเลือด
ฉันไปทำอะไรให้พี่เจ็บแค้นน้ำใจถึงขนาดนั้นนะ พี่ถึงได้มาทำร้ายความรู้สึกของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนอย่างพี่มันใจร้ายที่สุด น้ำตาของฉันเริ่มไหลซึมออกมามากขึ้นเรื่อยๆ นาทีนี้ฉันไม่มีแม้แต่สติ สิ่งที่ฉันทำได้ตอนนี้ก็คือปล่อยให้น้ำไสๆ ไหลออกมาโดยไม่อาจหยุดยั้ง ความรู้สึกมากมายที่โถมกระหน่ำเข้ามาจนฉันไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
“ครั้งนี้แค่เตือน แต่ครั้งหน้าถ้ายังดื้อกับพี่อีกมันจะยิ่งกว่านี้!” เมื่อละริมฝีปากออกไปพี่โซลก็ออกคำสั่งก่อนจะเดินออกไปโดยที่ไม่สนใจสภาพจิตใจของฉันแม้แต่น้อย
“ดรีมไปทำอะไรให้พี่เกลียดนักรึไง ทำไมต้องทำกับดรีมแบบนี้ด้วย” ฉันบ่นกับตัวเองก่อนจะปาดน้ำตาอย่างหมดแรง วันนี้ฉันคงไปมหาลัยไม่ไหวแล้วแหละ แรงจะลุกฉันก็แทบจะไม่มี การที่เขากลับมาหาฉันมันไม่ต่างอะไรไปจากฝันร้ายจริงๆ สินะ...
P’SOUL TALK
“โธ่เว้ย!” ผมสบถกับตัวเองในรถ นี่ผมเผลอทำร้ายดรีมอีกแล้วเหรอเนี่ย? ผมไม่ได้ตั้งใจนะ แต่ยิ่งเห็นดรีมดื้อกับผมเพราะผู้ชายคนอื่นมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้ผมหมดความอดทนมากขึ้นเท่านั้น ผมไม่สามรถอธิบายความรู้สึกของตัวเองได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น คุณอาจจะมองว่าผมเห็นดรีมเป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่ง
แต่สำหรับผมดรีมมีค่ามากกว่านั้น ผมรู้! ถ้าผมไม่รู้จักดูแลของเล่นพอถึงเวลามันก็อาจจะพังได้ แต่เรื่องนี้ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ ต่อจากนี้ดรีมคงจะเกลียดผมมากขึ้นกว่าเดิม หึ! ถ้าดรีมจะเกลียดผมก็เอาเถอะ ยังไงซะผมก็จะไม่เลิกยุ่งกับดรีมเด็ดขาด! เพราะเธอเป็นของผม!
~♬ ♫~
ผมก้มมองโทรศัพท์ในมือที่มีเบอร์ของผู้จัดการของผมโชว์หราอยู่บนหน้าจอแบบไม่สบอารมณ์นัก วันนี้มันวันพักผ่อนของผมนะ!
“ครับพี่ม่อน” แต่ยังไงซะผมก็ต้องรับสายเพราะมันเป็นมารยาทเราไม่ควรจะเกี่ยงงานนะ งานคือเงิน เงินคืองาน
(น้องโซลอธิการบดีของมหาลัยเราติดต่อพี่ให้เราไปร่วมกิจกรรมของมหาลัย)
“กิจกรรมอะไรเหรอครับ?”
(เห็นว่าเป็นการเก็บตัวของนางนพมาศน่ะ เขาจะให้เราไปเป็นคนดูแลสาวๆ งานการกุศลด้วยสิ พี่ก็ไม่ค่อยอยากจะรับ แต่เป็นมหาลัยน้องโซลพี่ก็เลยมาปรึกษาน้องโซลก่อน)
“นางนพมาศ?”
(ใช่จ้ะ! เอาแบบนี้แล้วกันเดี๋ยวพี่จะส่งใบปลิวนางนพมาศที่มหาลัยส่งมาให้น้องโซลในไลน์นะคะ แล้วจะเอายังไงน้องโซลก็ไลน์มาคอมเฟิร์มกับพี่อีกทีแล้วกันนะ)
“ตกลงครับ” ผมกดวางสายพี่ม่อนแล้วรอพี่ม่อนส่งรูปมาให้
ตี่ดิ่ง ตี่ดิ่ง
ผมเลื่อนดูข้อความในไลน์แล้วกดรูปเพื่อจะเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆ มีทั้งอธิบายการทำงานของผมที่ต้องคอยเอาใจสาวๆ แล้วก็กิจกรรมต่างๆ รูปถัดมาคือโฉมหน้าของผู้เข้าประกวดทั้งหมดสิบห้าคน มือของผมหยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนนั้น
‘ตกลงครับ’ ผมส่งข้อความไลน์กลับไป แบบไม่ต้องคิด ถึงจะไม่ได้ค่าตอบแทนก็เถอะ แต่การอยู่ใกล้กับผู้หญิงคนนั้นมันก็เป็นค่าจ้างที่แสนวิเศษแล้วล่ะ
END P’SOUL TALK
ความคิดเห็น