ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลองสัมผัส ชีวิตเด็กกสพท.ปี 2554 และนักศึกษาแพทย์

    ลำดับตอนที่ #4 : บทความ “สูตรการเปลี่ยนแรงกดดันเป็นแรงฟิตสู้”

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.9K
      5
      9 พ.ย. 54

    บทความ สูตรการเปลี่ยนแรงกดดันเป็นแรงฟิตสู้เขียนโดย NuPong Victory วันที่ 9 พฤศจิกายน 2554

                    เชื่อว่าเด็กที่สอบหมอและหวังว่าต้องติดหมอจริงๆ ต้องมีอารมณ์เครียด กดดัน เจอปัญหามั่งแหละ โดยเฉพาะปัญหายอดฮิตเลยที่ผมเจอกับตัวมามีดังนี้

    -                    คิดว่าตัวเองอ่านไม่ทัน ทั้งๆที่เวลาก็ยังพอมีอยู่บ้าง ของผมใช้ 2 เดือนสุดท้าย อาการโคม่าหน่อย แต่ก็รอดมาได้ ซึ่งจุดที่จะทำให้เครียดที่สุดเลยคือ เทียบกับคนอื่นว่าคนอื่นอ่านเยอะ เราอ่านน้อย ทำไงดี คนที่อ่านเยอะไม่ใช่คนที่จะสอบแล้วได้ชัยนะ คนที่อ่านแต่เข้าใจต่างหาก ผมมักจะโดนถามอยู่เสมอว่า อ่านจบยัง กี่รอบแล้วซึ่งถ้าคนที่อ่านเยอะแล้วก็แล้วไป ส่วนคนที่อ่านน้อยอย่างผมสิ จะรู้สึกกดดันขึ้นมาเลย แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่าเราอ่านน้อย ถ้าเราอยากติด เราก็อ่านให้มากขึ้นสิ เรื่องมันก็มีแค่นี้ 555

    -                    โดนไซโค อันนี้เจอบ่อยสุดๆล่ะ มันเป็นการที่คู่แข่งด้วยกัน สร้างคำพูดบั่นทอนกำลังใจเรา อย่างตอนที่ผมเจอมา ก็มีถามคะแนนเฉพาะ แล้วก็อวดว่าได้เยอะกว่าประมาณนี้  ถามว่าทำข้อสอบ ENT 15 พ.ศ. กี่รอบแล้ว จะไหวหรอ เด็กเตรียมฯ มีข้อสอบกสพท.อยู่นะ เด็กเตรียมฯกับมหิดล สายวิทย์ นี่ หาคนไม่เข้าหมอแทบนับได้เลย  อีกอย่างข่าวลือลวงโลกสุดๆ ที่มีว่า  ข้อสอบกสพท.ปี 54 วิชาเลข จะออกเป็นอัตนัยหมด จะบ้าหรอ อย่างนี้ถ้าทำไม่ถึง         30 % ก็ชิบหายเลยดิ แต่เอาง่ายๆ เราก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่มันพูดออกมาเป็นจริงหรือเปล่า  เราสู้กับตัวเราเองพอ จิตใจเราไม่มีใครควบคุมได้นะ พวกคู่แข่งกสพท. ก็ไม่ใช่นักสะกดจิต พวกเล่นของซะหน่อย

    -                    แรงกดดันตัวเอง อันนี้ผมขอทำความเข้าใจก่อนนะ ว่าสิ่งที่เอามาเล่านี้ไม่ใช่เป็นการอวดตัวเองแต่อย่างใด ถ้าคิดว่าผมอวดตัวเองก็ไม่ต้องอ่าน ข้ามหัวข้อนี้ไป เริ่ม คือผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะเรียนเก่งถ้าเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน สอบได้อันดับที่ 1-2 ของห้อง ประมาณที่ 10 กว่าๆของชั้น และเคยสอบได้ที่ 1 ของชั้นตอนม.5 อีกทั้งเคยทำชีทเก็งข้อสอบให้น้องๆ มันเป็นการกดดันโดยอัตโนมัติว่าถ้าไม่ติดหมอจะอับอายแค่ไหน อีกอย่างผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะมั่นใจในตัวเองเกินไป ทำให้หลายๆคนไม่ชอบ รวมถึงครูด้วย ดังนั้นจะสอบหมอก็ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างผม เพราะมันจะเป็นการเพิ่มแรงกดดันทำลายตัวเองเปล่าๆ

    -                    ทำข้อสอบไม่ได้แล้วกังวล อย่างที่ผมเจอมาตอนที่เห็นเพื่อนกำลังทำข้อสอบเลข กสพท.ปี 53 อยู่ ซึ่งผมลองทำดูจาก 25 ข้อทำได้ไม่ถึง 5 ข้อ จะเป็นการทำให้ตัวเองเสียกำลังใจ วิธีแก้คือทำความเข้าใจประเด็นนั้นซะ ส่วนเรื่องเลขนั้นมีอะไรที่มันสนุกกว่านี้อีก เดี๋ยวจะไว้ค่อยเล่าทีหลัง

    -                    เก็บประเด็นไม่ครบทุกจุด มันไม่แปลกหรอก ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะ Perfect 100% มันก็ต้องมีจุดขาดตกบกพร่องบ้าง สังเกตไม่เห็นมีใครได้คะแนนรวม กสพท. 100 เต็มเลย สูงสุดของแพทย์จุฬาก็ 80 กว่าๆ อย่าไปเครียดถ้าอ่านได้ไม่ครบ เอาแค่ที่เราเก็บได้ก็พอแล้ว แต่ก็ควรจะอุดรอยรั่วให้น้อยที่สุดก่อนเข้าไปสอบนะ

                    เอาละ ผมเล่ามาเยอะแล้ว ปัจจัยต่างๆที่เป็นผลเสียต่อเรา เราต้องเปลี่ยนครับ ทีวิชาฟิสิกส์ยังเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน พลังงานจลน์เป็นพลังงานศักย์ได้เลย ทำไมเราจะทำไม่ได้ เราก็แค่ใช้สมอง เปลี่ยนพวกปัจจัยแย่ๆ เหล่านี้ให้มันกลายเป็นแรงฮึดสู้ซะ เมื่อมันทำอะไรจิตใจเราไม่ได้แล้ว ตอนวันสอบเราจะได้เปรียบมากครับ และเชื่อว่ามีหลายๆคนโดยปัจจัยบ้าๆบอๆ เหล่านี้ตามไปหลอกหลอนในห้องสอบจนทำข้อสอบไม่ได้  สำหรับผมแล้ว ตั้งสติในห้องสอบได้พอประมาณ แล้วก็เริ่มมาสติแตกตอนหลังสอบ (อันนี้เป็นกันทุกคน 555+) สู้ๆนะน้อง เราทำได้อยู่แล้ว ขอแต่สติ สตางค์นิดหน่อย ติดชัวร์ครับ

                   



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×