ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลองสัมผัส ชีวิตเด็กกสพท.ปี 2554 และนักศึกษาแพทย์

    ลำดับตอนที่ #28 : บทความ “ประสบการณ์วันสอบจริง กสพท. วันที่สอง”

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.44K
      1
      5 ม.ค. 55

    บทความ ประสบการณ์วันสอบจริง กสพท. วันที่สองเขียนโดย NuPong Victory วันที่ 4-5 มกราคม 2555

                    เช้าวันที่ 23 มกราคม 2555 วันที่สองพี่ตื่นมาสายกว่าวันแรกนิดหน่อย อาจจะเป็นเพราะตื่นเต้นน้อยลงหรือไม่ก็หลับสบายขึ้น วิชาวันนี้เป็นวิชาวิทย์ โดยรวม 3 ตัวฟิสิกส์ เคมี ชีวะในฉบับเดียวกัน โดยจะมีฉบับเช้าและฉบับบ่าย ให้เวลา 2 ชั่วโมง เริ่มสอบ 9-11 โมง พัก 1 ชั่วโมงกว่าๆ แล้วก็กลับมาสอบอีกฉบับ เที่ยงครึ่งถึงบ่าย 2 ครึ่ง เห็นรุ่นพี่ปี 53 บอกว่าฉบับเช้าจะง่ายแนวๆ O-NET ส่วนฉบับบ่ายจะยากยิ่งกว่า A-NET ซึ่งตอนพี่ไปทำพี่ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างของข้อสอบมากเท่าไรนัก ตอนคะแนนออกก็ประกาศรวมทั้ง 2 ฉบับ ไม่แยกเป็นวิชาให้ด้วย ดังนั้นพี่ก็เลยไม่รู้เลยว่าพี่ทำตัวไหนได้มากเท่าไร แต่ก็ถือว่าคะแนนโดยรวมก็ดีเหมือนกัน

                    แม่พี่ขับรถมาส่งที่สนามสอบช้ากว่าวันแรกประมาณ 15 นาที แต่ก็ยังมีเวลาทบทวนก่อนจะเข้าสนามสอบตอน 8 โมงครึ่งได้ซักเกือบชั่วโมงเลยทีเดียว ในเป้พี่ตอนนี้มีหนังสือชีวะพี่เต๊น หนังสือตะลุยโจทย์เคมี อ.อุ๊  หนังสือสรุปสูตรฟิสิกส์ Ondemand แล้วก็พวกชีทแนวข้อสอบปี 53 ที่รุ่นพี่ทำให้ (สไตล์เดียวกับที่พี่ทำให้น้องในปี 54 ที่ผ่านมานี้) พี่นั่งอ่านตรงเชิงบันไดก่อนเข้าตึก เพื่อนพี่กลุ่มเดิมทยอยมา พร้อมกับพวกเด็กมหิดลเพื่อนเก่าๆ ทั้งหลาย เพื่อนๆเริ่มทำลายบรรยากาศความเครียดลงโดยการชวนคุย ให้เลิกอ่าน บอกว่าเอาฮา ขำๆ พอ ซักพักพี่ไปเช็คคำตอบเลขกับเด็กมหิดล คิดว่าพอมีหวังว่าจะได้เกิน 14 ข้อจากเมื่อวาน แต่กลับไม่ได้เพิ่มเลย พวกมันปลอบพี่แบบขำๆว่า กูติดวิศวะจุฬาแล้ว กูมาสอบหมอเล่นๆ น่ะ กูไม่แย่งมึงหรอกเว้ย ฮ่าๆ พี่ก็คิดว่า เออ ขอให้จริงเหอะ หุหุ พอถึงเวลา คนเริ่มไปออกันตรงหน้าประตูสนามสอบแล้ว พี่ก็ตามไป แต่พอพี่ลงจากเชิงบันได พี่ไม่เห็น มีคางคกตัวนึงอยู่ พี่เหยียบมันตายคาที่เลย เพื่อนๆบอก เฮ้ย มึงทำแบบนี้เป็นลางอะไรเปล่าวะ พี่ก็ตกใจนิดๆ เลยสวดอุทิศส่วนกุศลให้มัน หวังว่าการกระทำกรรมของพี่คงไม่น่าจะส่งผลให้พี่สอบไม่ติดหรอก คือพี่ว่าลางบอกเหตุพวกนั้น เอาจริงๆมันก็ไม่ได้มีผลอะไรมาก ทุกอย่างอยู่ที่การกระทำของเราในห้องสอบเป็นส่วนมาก พวกความเชื่อ ไสยศาสตร์ ของขลังพวกนั้นช่วยได้ในสถานการณ์อื่นๆ เช่น มั่วถูก โชคดี ไรประมาณนี้ ไม่ใช่ว่าเรามีลางนิดเดียวแต่กลับไปคิดว่าตนเองจะไม่ติด มันไม่ใช่เรื่องเลย ดังนั้นเรื่องพวกนี้มันก็พิสูจน์ไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่จริง ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ มีฝันมาบอกเหตุพี่หลังจากสอบเสร็จด้วยอันนี้ไว้ค่อยเล่าในตอนหน้าๆ เอาเป็นว่าขอให้น้องๆเต็มที่ในวันสอบจริง อย่าไปวอกแวกกับเรื่องอื่นๆมากมายนัก แล้วที่สำคัญย้ำสุดคืออย่าลน ค่อยๆทำ มีสติ ปีพี่ข้อสอบ 65 ข้อ ต้องบริหารเวลาเอาเอง ของปีน้องข้อสอบเกือบร้อยข้อ ดังนั้นรับรองได้ว่ามีคนลนแน่นอน อย่าไปเปิดจุดอ่อนตรงนั้นให้พวกที่ไม่อ่านมาถือโอกาสชิงคะแนนเอาชนะเราไปนะครับ

                    พี่ได้ข้อสอบชุดแรกมาเรียบร้อยแล้ว ลงมือทำ พี่ลุยที่ชีวะก่อนอันดับแรกเพราะพี่ว่ามันน่าจะง่ายที่สุด (แต่ปรากฏว่าปีพี่ เคมีง่ายสุด ฟิสิกส์ยากสุด  ยากกว่าเลข) พี่ทำได้แบบลื่นๆและคล่องตัวกว่าวันก่อน เพราะพี่อ่านมาดี ถึงบางข้อจะไม่ได้ พี่เว้นไปบ้าง ไว้ค่อยกลับมาทวนทีหลัง พี่ทำชีวะจนถึงจุดอิ่มตัวแล้วพี่ก็เริ่มพลิกไปทำเคมีบ้าง พี่รู้สึกว่าเคมีออกง่าย บางข้อเอาคะแนนมาแจกถึงที่ แต่บางข้อก็ยากเหมือนกัน พี่รู้สึกว่าเคมีพี่ทำแล้วพี่มั่นใจที่สุด ส่วนชีวะ พี่ก็รู้สึกไม่มั่นใจเพราะคำตอบมันไม่ตายตัว บางข้อเราจะฟันธงว่าถูกก็ไม่ได้ พลิกไปทำฟิสิกส์ พี่เองตอนอยู่โรงเรียนก็ได้ฟิสิกส์เกรดดีมาตลอด ชุดแรกฟิสิกส์มี 15 ข้อ เน้นเรื่องกลศาสตร์ พี่รู้สึกว่า กรรมจริงๆ ตอนม.4 ไม่ตั้งใจเรียน พี่ก็ทำได้ประมาณ 7-8 ข้อซึ่งพี่คิดว่าน่าเสียดาย น่าจะตั้งใจเรียนตั้งแต่ ม.4 (กลศาสตร์ม.4 พี่ไม่ได้เกรดสี่ แต่ตั้งแต่ ม.5 จนจบได้สี่ทุกเทอม) แต่อย่างน้อยฟิสิกส์มันเป็นข้อสอบคำตอบปลายปิด ตายตัวอยู่แล้ว พี่ทำเสร็จเรียบร้อย พี่คิดว่าชุดแรกยังโชว์ศักยภาพได้ไม่ค่อยเต็มที่ ซักประมาณ 55-60 เองโดยรวม พอออกจากห้องสอบ เนื่องจากข้อสอบจำนวนเยอะเลยเช็คคำตอบไม่ได้เยอะเท่าไรนัก พี่กะว่าเดี๋ยวค่อยกลับไปเช็คในเวปเด็กดี บอร์ดแอดมิชชั่นละกัน ยังไงก็มีคนเอามาเฉลยพูดคุยกันแน่นอน พี่ออกมาก็ไปกินข้าวเที่ยง เจ้าเดิม ข้าวหมูเกาหลี CP ของเซเว่นมากิน พี่อ่านหนังสือที่เอามาเตรียมทำวิทย์ฉบับบ่ายแล้วก็เช็คคำตอบบางข้อไปในตัวด้วย ผลที่ได้คือมีทั้งถูกและผิด พี่ไม่สามารถบอกตัวเองได้เป๊ะๆแต่พี่คิดว่าโดยรวมน่าจะไม่ต่ำกว่า 55 ถ้าไม่โดนวิทย์ฉบับบ่ายมาฉุดไปซะก่อนนะ

                    พี่นั่งกินข้าว พร้อมกับทบทวนวิทย์ไปด้วย แฟนสาวพี่ก็มาอยู่เป็นเพื่อนเหมือนวันแรก แฟนพี่ซื้อโดนัทคริสปี้ครีมยอดฮิตตอนนั้นมาให้พี่กล่องนึง พี่ก็กินแล้วแบ่งแจกจ่ายให้เพื่อนๆที่อยู่รอบๆ แต่พวกมันไม่ค่อยกินกันเพราะคงเครียดจากข้อสอบชุดแรก พี่ก็กินไปซัก 2-3 ชิ้น รู้สึกว่าตนเองกินไม่ค่อยลงแล้ว คงเป็นเพราะความรู้สึกเครียด กลัวไม่ติดด้วยแหละ คือพี่ว่าพี่ทำดีแล้วนะ แต่มันอาจจะยังดีไม่พอ เด็กหัวกะทิเพียบ มันคงเขี่ยเรากระเด็นไปไกล พี่นั่งทบทวนจนหัวสมองเริ่มสั่งว่าพอได้แล้ว พี่ก็ไม่ค่อยคุยกับแฟนมาก ส่วนใหญ่พี่ก็จับมือแฟน เหมือนกับขอกำลังใจอันอบอุ่นเพื่อการสอบวิทย์ฉบับสุดท้ายแล้ว จะได้หลุดพ้นจากห้วงเวลาที่เครียดและทรมานเช่นนี้ซะที พี่พูดตรงๆว่า สติพี่มันก็จะแตกอยู่แล้ว พี่พยายามอดทนอยู่ พ่อแม่ให้กำลังใจ ครูให้กำลังใจ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พร สิ่งที่พี่ได้ไปบนบานไว้ เพื่อนๆที่บอกว่า เป็นหมอให้ได้นะมึง และสุดท้ายแฟนที่อุตส่าห์มาอยู่เป็นเพื่อนและปลอบพี่ทุกวันเวลาพี่รู้สึกท้อแท้ล่ะ จะมาสติแตกไม่ได้ อย่างน้อยทำข้อสอบฉบับสุดท้ายเสร็จเดินออกมาตะโกนร้องโวยวายเป็นคนบ้าก็ยังทัน พอใกล้เวลา พี่ก็จูงมือแฟนไปหน้าสนามสอบ พี่กำมือแฟนไว้แน่นๆก่อนจะหยิบซองใสออกมาแล้วก็ค่อยๆปล่อยมือแฟนลง ฉบับสุดท้ายละ จริงๆจะได้หลุดพ้นจากข้อสอบหฤโหดนี่ซะที

                    ข้อสอบวิทย์ฉบับบ่าย พี่ว่ามันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากกับตอนเช้า แค่เนื้อหาที่ออกเป็นเรื่องที่ไม่ได้ออกในตอนเช้าเท่านั้นเอง ฟิสิกส์ก็ยากขึ้น เน้นไฟฟ้าเป็นส่วนมาก คือจริงๆก็ไม่ได้ยากมาก แต่พี่จำสูตรไม่ได้เอง อย่างพวกหม้อแปลง ดอปเปลอร์ ไฟฟ้ากระแสสลับ เกรตติ้ง เข้าไปพี่ก็ลืมหมดแต่ยังดีที่จำชีวะกับเคมีได้เป็นส่วนใหญ่ เคมีออกยากกว่าตอนเช้านิดๆ แต่พี่ก็ศิษย์อาจารย์อุ๊ ยังไงก็ทำได้แน่นอน พี่ก็รู้สึกว่ามันก็คงช่วยดึงของตอนเช้าขึ้นไม่ได้แล้ว คงทำได้เพียงแค่ประคับประคองไว้ไม่ให้ฉบับบ่ายไปฉุดฉบับเช้าลงเหวก็พอแล้ว หลังจากสอบเสร็จพี่ก็รู้สึกเสียดายฟิสิกส์ไปหลายข้อที่ทำไม่ได้เพราะตอนพี่มาทำชีทให้น้องๆเนี่ยพี่ก็ทำได้นะ สบายๆเลย ดังนั้นสำคัญคือสติ มุขเดิมๆ หลายคนรู้แต่ทำไม่ได้เพราะลน แต่โดยรวมแล้ว ทุกวิชาจนสอบเสร็จ พี่คุมสติได้ดีมากและพี่มั่นใจว่าดีกว่าเพื่อนๆพี่หลายๆคนด้วย เพราะเพื่อนพี่ที่ไปสอบ ประมาณ 40-50 คน ติดประมาณ 12 คน (กสพท.) แต่โดยรวมรุ่นพี่ติดรวมโควตาและสอบตรงเบ็ดเสร็จประมาณ 18 คน บางคนเตรียมตัวดีกว่าพี่ แต่มันยังไม่ติดเลย นั่นแหละคือสิ่งที่พี่ว่ามันพิสูจน์ได้ของจริง

                    หลังสอบเสร็จพี่ก็เดินกับแฟนออกมาหน้าถนนราชดำริ และเดินไปนั่งพักตรงป้ายรถเมล์ พี่นั่งพักนานพอสมควร เนื่องจากความรู้สึกเหนื่อยและเครียดจากการสอบทุกวิชา แฟนพี่นั่งอยู่เป็นเพื่อน หลังจากนั้นพี่ก็เริ่มคิดต่อไปว่า วันต่อไปต้องทำไรบ้าง วันจันทร์พี่โชคดีได้หยุดไปยืนยันสิทธิ์รับตรงจุฬาฯ ส่วนวันอังคารกับวันพุธ สอบ Final วันพฤหัสยิงยาวไป 5 วันไปเขาชนไก่ ตอนนั้นพี่รู้สึกว่าหัวสมองมันเบลอมากเหมือนไปทำสงครามมาจริงๆ

                    น้องๆหลายคนอาจจะคิดว่าสอบเสร็จก็จบ แต่ที่จริงมันยังไม่จบนะครับ อุปสรรคต่อไปคือความเครียด ความกลัว และการลุ้นผลที่จะออกมา คนส่วนมากที่หวังอยากจะเป็นหมอจริงๆยังไงก็ต้องเครียดแน่นอน เพื่อนพี่บ่นกันว่า สอบเสร็จ ใครบอกว่าหายเครียดวะ ? ซึ่งตอนต่อๆไปที่พี่จะเขียนจะเป็นเรื่องราวหลังจากที่พี่สอบเสร็จแล้วว่ามันต้องเจอกับอะไรบ้าง เวลาที่ลุ้นที่สุดในชีวิตมันเป็นยังไง การเตรียมสอบ O-NET และอะไรอีกมากมาย อย่าลืมติดตามนะครับ

    ปล. ตอนนี้พี่อยู่หอและไม่ค่อยสะดวกที่จะมี Internet ใช้พี่เลยออกมาใช้ที่อาคาร 1 ของมหาลัยเพื่ออัพขึ้นให้น้องได้อ่านทันก่อนสอบวิชาสามัญ สทศ. ในวันที่ 7-8 นี้ หลังจากน้องอ่านบทความนี้จบแล้วให้น้องไปตั้งใจเตรียมตัวสอบอย่างเต็มที่ แล้วไว้สอบวิชาสามัญเสร็จพี่จะทยอยอัพบทความวิชาเฉพาะ และพวก O-NET อีกมากมาย ไว้รอหลังวันที่ 8 ม.ค.55 ก่อน ขอให้น้องๆทุกคนโชคดีในการสอบนะครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×