ลองสัมผัส ชีวิตเด็กกสพท.ปี 2554 และนักศึกษาแพทย์

ลำดับตอนที่ #10 : บทความ “งด Facebook เพื่อ กสพท. จริงเปล่า ?”

บทความ “งด Facebook เพื่อ กสพท. จริงเปล่า ?” เขียนโดย NuPong Victory วันที่ 14 พฤศจิกายน 2554

                หลายคนอาจจะคุ้นๆ กับคำนี้เพราะมันเป็นคำที่อยู่ในภาพ Display ของหลายๆคนที่ตั้งบนโปรไฟล์บน Facebook ว่าจะเลิกเล่นเฟสเพื่อเตรียมตัวอ่านหนังสือไปสอบกสพท.  แต่ผมก็เชื่อว่าหลายๆคนทำตามที่ตั้งไม่ได้ ก็ต้องมีแอบแวะเข้าไปเล่น เข้าไปเช็คหน่อยว่ามีใครมาโพส มาไลค์อะไร มาแท็กภาพอะไรหรือเปล่า บางทีก็เม้นให้เพื่อนบ้าง คุยแชทนู่นนี่นั่น สุดท้ายก็เป็นชั่วโมง ทำให้อดอ่านหนังสือไปในวันนั้นไปเลย (ผมด้วย เสียเวลาไปเยอะกับเฟส)

                เป็นไปได้ยากมากสำหรับคนที่เล่นเฟสเป็นประจำแล้วจะมาเลิกเล่นไปเลย ไม่เข้าไปดูเลย เพราะนิสัยของคนเล่นเฟสส่วนใหญ่เมื่อเปิดคอมหรือมือถือแล้วต้องเช็คเฟสทุกวันอยู่แล้ว และเวลามีอะไรในใจ ก็มักจะตั้งสเตตัสระบายความในใจของตนเองทั้งนั้น ซึ่งผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ติดเฟสงอมแงม ซื้อ BB มาเพื่อเล่นโดยเฉพาะ ช่วงแรกๆนี่อัพเดทตลอดเวลาว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไร เอารูปลงตลอด แต่พ่อแม่ผมเตือนว่า เฟสมันเป็นสังคมสาธารณะ ไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวไปโพส เพราะสังคมภายนอกรับรู้ได้ หลังจากนั้นผมก็ไม่ค่อยอัพเดทอะไรแล้ว ส่วนมากจะเป็นการเข้าไปคุยกับเพื่อน หรือเช็คข่าวสารมากกว่า ผมบอกตรงๆ ณ จุดนี้เลย งด Facebook เพื่อ กสพท. เปลี่ยนเป็น ลด Facebook เพื่อ กสพท. ดูสบายใจกว่ามั้ย ก็แค่เช็คอัพเดท คุยกับเพื่อนๆ ซัก 10 นาทีก่อนนอน หลังอ่านหนังสือในวันนั้นเสร็จก็พอแล้ว ถ้าไม่เล่นเลย ข้อเสียก็คือเราก็จะรู้ข่าวสารช้ากว่าคนอื่น อย่างปีผมมีข้อสอบกสพท. เลข พวกแนวข้อสอบ แนวการอ่านต่างๆ มาแชร์กันทั่วในเฟส บางคนไม่รู้เลยเพราะปิดกั้นตัวเองจากสังคมออนไลน์ก็จะรู้แค่นั้น เพื่อนผมบางคนเลิกเล่นเฟสไปเลย แต่มันสอบไม่ติด นี่แสดงให้เห็นว่า การที่เราไม่เล่นเฟสเลยไม่ได้ช่วยให้เราสอบติด แต่ การแบ่งเวลาให้เป็น ต่างหากที่ช่วยให้เราสอบติด และช่วยให้เราใช้ชีวิตในมหาลัยได้ง่ายขึ้นด้วยเพราะ กิจกรรมจะเยอะมาก อีกทั้งเรียนหนักขึ้นดังนั้นต้องมีการจัดสรรเวลาแน่นอน

                เวลาเราอ่านหนังสือจนถึงจุดอิ่มตัว สมาธิหายหมดแล้ว ก็เข้ามาเล่นเฟสได้ ไม่มีใครว่าหรอก ผ่อนคลายสมองบ้าง ไม่จำเป็นต้องปิดกั้นตัวเองแต่ในกรอบ ชีวิตเรามันมียืดหยุ่น็