คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : การเดินทางของพี่เลี้ยงสาว
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------
ยามเช้าที่แสนสดใสของผู้ชื่นชอบบรรยากาศตะวันทอแสง
หากใครก็ตามในดินแดนเวอเนีย เดินผ่านคฤหาสน์รั่วสีเงิน จะพบแม่บ้านที่อายุน้อยที่สุดกำลังจัดแต่งสวนในคฤหาสน์ด้วยรอยยิ้มและความใจเย็น
ถ้าสามารถมองผ่านทะลุเข้าไปภายในคฤหาสน์หลังนั้นได้
จะพบหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังทานอาหารเช้าอย่างสบายใจ
เซน่ารู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ เพราะเธอรู้สึกว่าเรื่องดีๆกำลังจะเกิดขึ้นกับเธอ แต่อีกใจหนึ่งเธอก็รู้สึกเหมือนลืมอะไรสักอย่าง แต่เธอพยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก จึงไม่สนใจกับความคิดนั้น และหันหลับมาสนใจกับอาหารตรงหน้าต่ออย่างเอร็ดอร่อย
หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เซน่าลุกเดินไปรอบคฤหาสน์หลังนี้ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเธอ ตั้งแต่เธอเสียพ่อและแม่ไป เธอเดินผ่านห้องต่างๆและมาหยุดอยู่หน้าห้องที่มีบานประตูสีขาว เธอผลักประตูบานนั้นเข้าไป
ภายในห้องปรากฏเครื่องดนตรีมากมาย ทั้ง ฮาร์ฟ เปียโน ไวโอลิน วิโอล่า ขลุ่ยแก้ว ฟลุ๊ท คาริเน็ต เชลโล่ และพริเนีย เครื่องดนตรีทุกชนิดมีอย่างละ 2 เครื่อง ฮาร์ฟสีขาวและสีทอง เปียโน
ไวโอลิน และวิโอล่ามีสีขาวและดำ ฟลุ๊ทและคาริเน็ตสีทองและสีเงิน
ส่วนเชลโล่มีสีน้ำตาลและสีแดง
ยกเว้นขลุ่ยแก้วและพริเนียที่มีเพียงเครื่องเดียว
เธอเล่นเป็นทุกเครื่องเพราะพ่อและแม่ของเธอสอนการเล่นเครื่องทุกชิ้นมาตั้งแต่เด็กๆ แต่อาจจะไม่เรียกได้ว่าเล่นเก่ง แค่พอเล่นได้เพียงเท่านั้น
เครื่องดนตรีชิ้นแรกที่เธอจับคือเปียโนเมื่ออายุ 3ขวบ เธอยังคงจำเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับพ่อและแม่ได้เป็นอย่างดี
และเธอรู้ดีว่าเธอต้องรับผิดชอบในการดำเนินชีวิตของตัวเองให้ได้ เพื่อให้ผู้คนที่คอยดูแลเธออยู่รู้สุกภูมิใจ
และไม่ลำบากเพราะเธอ เธอจึงมั่นฝึกฝนตัวเองให้มีความสามารถในทุกด้าน เธอฝึกเวทย์ ซ้อมดาบ อ่านหนังสือ
ทดลองการทำไหม
และเล่นดนตรีเป็นประจำ
เซน่าตัดสินใจเดินไปที่ฮาร์ฟสีทอง และบรรเลงโน้ตที่เธอแต่งขึ้นเองสดๆ เสียงเพลงที่บรรเลงฟังไพเราะและอ่อนนุ่ม
มีสะดุดบ้างบางจังหวะที่เธอคิดทำนองไม่ทัน เสียงดนตรีนั้น ทำให้พี่เลี้ยงที่ตอนนี้กำลังจะออกไปด้านนอกต้องลอบยิ้มออกมากับสดใสของคุณหนูของเธอ ภายในใจของเวลล่าได้แต่ภาวนา ขอให้คุณหนูของเธออย่างต้องเจอกับเรื่องร้ายอีกเลย คิดได้ดังนั้นจึงเดินขึ้นรถลากของเซอเรนที่รออยู่นานแล้ว ก่อนจะออกคำสั่งให้ไปในที่ที่เธอต้องการ
วันนี้เธอยังต้องเดินทางอีกหลายที่และไกลกันมาก ทั้งนี้ก็ต้องกลับมาให้ทันช่วงเย็นของวันนี้
แต่เรื่องเวลาไม่ใช่เรื่องน่าห่วงเท่าไรสำหรับเธอเมื่อสัตว์ที่ลากรถของเธอมีความสามารถสูงซะขนาดนี้
เวลล่าใช้เวลาเพียงไม่นานเธอก็เดินทางมาถึงสถานที่ที่ต้องการที่แรก
เธอจึงสั่งให้เซอเรนหยุด ประตูของราชวังเปิดออก เธอสามารถเข้าออกวังหลวงของดินแดนเวอเนียได้โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนมากมาย เพราะเธอเป็นตัวแทนของคฤหาสน์ลูเซเลอร์มาตั้งแต่คุณท่านเสียไป และเป็นที่รู้กันของทั่วดินแดนว่า มีเพียงรถลากคฤหาสน์ลูเซเลอร์เท่านั้นที่สัตว์เทียบรถเป็นสมิงดำ
สัตว์ใหญ่ที่ใกล้จะสูญพันธุ์หรือตอนนี้อาจจะสูญพันธุ์ไปแล้วก็ไม่มีใครรู้ได้ เพราะไม่เคยพบสมิงดำอีกเลย
เมื่อเข้ามาถึงเขตพระราชฐานส่วนใน
เวลล่าจึงสั่งให้เซอเรนหยุดรอ และตัวเธอเดินตรงเข้าไปยังส่วนในของพระราชวัง
โดนระหว่างทางก็มีนางกำนันคอยทำความเคารพอยู่ตลอดทาง
นางกำนัลที่มาใหม่คนหนึ่ง สงสัยกับการกระทำของนางกำนัลรุ่นพี่ เพราะตนไม่เคยเห็นหญิงสาวคนนี้มาก่อน
แต่เมื่อเห็นรุ่นพี่ที่มาด้วยกันทำความเคารพหญิงสาวผมน้ำตาลแดงที่เดินผ่านไป จึงถามด้วยความสงสัย
“ท่านหญิงคนสวยที่เดินผ่านไปนั้นเป็นใครหรอ”
“เจ้าพึ่งมาคงไม่รู้เรื่องละซิ
หญิงท่านนั้น คือ ท่านเวลล่า ตัวแทนจากคฤหาสน์ลูเซเลอร์ ตระกูลเก่าแก่หนึ่งในสองตระกูลที่มีความสำคัญกับราชวงศ์ของดินแดนแห่งนี้”
“โห... ทำไมยังสาวจังเลย สวยด้วย ชาติตระกูลก็ดี น่าอิจฉาจัง” หญิงนางกำนัลพูดชมด้วยความปลาบปลื้มแบบซื่อตรง
“หึ ที่เจ้ารู้ยังน้อยไป นางเป็นคนรักของเจ้าชายเวอครัส เจ้าชายรัชทายาทที่จะขึ้นครองราชย์เป็นองค์ต่อไป” เมื่อจบคำพูดของนางกำนัลรุ่นพี่ เธอถึงกับเบิกตาโตอย่างประหลาดใจ
เจ้าชายเวอครัสทรงเป็นองค์รัชทายาทที่สมบูรณ์แบบ งามทั้งรูป
งามทั้งวิชา งามทั้งจิตใจ
ทรงเป็นที่ปลาบปลื้มแก่ประชาชนและผู้พบเห็นทั่วไป แต่ทั้งนี้
พระองค์ก็มิเคยมีข่าวความสัมพันธ์กับหญิงสาวใดเลย พระคู่หมั่นเหมือนองค์ชายแดนอื่นก็ไม่มี ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่จากตระกูลต่างๆและเหล่าขุนนางคาดหวังจะได้สานสัมพันธ์ แต่ข่าวเรื่องหญิงสาวคนนี้คงจะรู้กันแค่ภายในจริงๆ
“จริงเหรอ นี้คงเป็นเหตุผลที่ดินแดนของเรายังไม่มีข่าวดีเรื่องการอภิเษกของเจ้าชายแห่งดินแดนเวอเนีย”
“ข้าเองก็ไม่รู้แน่ชัดหรอก ไปทำงานดีกว่า ไปเถอะ”
นางกำนัลทั้งสองคนเดินจากไปโดยไม่รู้เลยว่าบทสนทนานั้น ได้ลอยไปเข้าหูของผู้ที่ถูกกล่าวถึงเต็มๆ
เวลล่าได้แต่เดินหน้าแดงและส่ายหัวช้าๆกับความคิดของพวกนั้น เธอไม่ได้เป็นคนรักขององค์ชายบ้านั้นสักหน่อย นี้คงไปทำอะไรให้คนอื่นเขาเข้าใจผิดไว้อีกละสิ หวังแค่ว่ามาวันนี้เธอจะไม่ต้องเจอกับเขาหรอกนะ
เวลล่าเดินตรงไปยังห้องที่เธอได้นัดกับคนสำคัญของดินแดนไว้ หน้าห้องนั้นยังมีทหารองค์รักษ์อยู่หลายนาย พอเธอเดินไปถึง ก็มีนายทหารคนหนึ่งเปิดประตูให้เข้าไป ซึ่งภายในห้องนี้ มีเครื่องประดับตกแต่งห้องเพียงเล็กน้อย และมีโต๊ะทำงานโต๊ะพร้อมกับโซฟาที่นั่ง 1 ชุด โดยมีคนสำคัญของดินแดนนั่งอยู่บนที่นั่งฝั่งยาว และมีองครักษ์คนสนิทยืนอยู่ข้างหลังอีกคน เวลล่าย่อกายทำความเคารพเจ้าแผ่นดิน
“ถวายบังคมเพค่ะ ฝ่าบาท”
“อย่าเป็นทางการมากเลย คนกันเอง
นั่งสิเวลล่า”
กษัตริย์ยิ้มกว้างต้อนรับหญิงสาวที่ตัวเขาเองนั้นรู้จักดี
“ขอบพระทัยเพค่ะ ฝ่าบาท ” แล้วเวลล่าจึงนั่งลงบนโซฟาที่นั่งทางซ้ายมือของกษัตริย์เวอเรส กษัตริย์แห่งดินแดนเวอเนียซึ่งมีลักษณะของชายสูงวัยและดูใจดี เนตรสีเทาที่แสนอบอุ่นและเกศาสีเทาเงางาม เครื่องแต่งกายที่บ่งบอกฐานะซึ่งเจ้าตัวคงไม่ค่อยเต็มใจใส่เท่าไร
เมื่อนั่งลงแล้ว เวลล่าจึงหันหน้าไปยิ้มทักทาย เทรรี่ ชายร่างใหญ่ที่คงมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับองค์กษัตริย์
องครักษ์ประจำตัวของกษัตริย์ที่ทุกคนรู้จักกัน แล้วจึงหันมาพูดกับกษัตริย์เวอเรส
“หวังว่าพระองค์ทรงทราบเหตุผลที่หม่อมฉันมาในวันนี้
และได้เตรียมของที่ทางคฤหาสน์ลูเซเลอร์ต้องการไว้แล้ว
พระองค์ทรงเมตตา”
“แน่นอน ว่างๆเจ้าพานางมาหาข้าบ้างสิ ข้าอยากพบนาง ลูกของเซกดริกและเอนีร่า” เพราะตั้งแต่เซกดริกและเอนีร่าจากไป
เขาไม่ค่อยได้เห็นหน้าเด็กคนนั้นเลย ทั้งภารกิจมากมายในหน้าที่กษัตริย์
ทำให้ห่างหายจากการพบเจอหลานสาวคนนี้ไปนาน เสียจนเกรงว่านางอาจจะจำหน้าเขาไม่ได้แล้ว
“เพค่ะกระหม่อม
แต่อาจจะไม่ใช่ในเร็วๆนี้ หม่อมฉันคงต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า เนื่องจากคุณหนูไม่ค่อยออกมาด้านนอกคฤหาสน์บ่อยครั้งนัก แต่หม่อมฉันรับรองว่าจะพามาพบพระองค์อย่างแน่นอนเพค่ะ” เวลล่ารับปากด้วยความเคารพและสัตย์จริง
“เอาเถอะ ข้าเข้าใจ ส่วนของที่เจ้าต้องการข้าได้เตรียมไว้แล้ว
เทรรี่เอาเอกสารมาให้ข้าหน่อยสิ” องค์เวอเรสรับคำ เพราะเขารู้ดีว่าเซน่านั้นยังมีทางเดินของตนเองอีกมากทั้งที่เลือกเองและต้องเลือก ประโยคหลังองค์เวอเรสหันไปสั่งเทรรี่ องครักษ์ไม่หนุ่มเดินไปหยิบเอกสารเพียงชุดเดียวที่ใส่ซองบนโต๊ะทำงานมาส่งให้แก่องค์เวอเรส แต่ไม่ทันได้กลับไปยืนที่เดิมก็ถูกองค์เวอเรสสั่งให้นั่งลงบนอีกที่นั่งหนึ่ง
“เจ้าอย่ามาทำเป็นทำหน้าที่ตอนนี้เลย
จะยืนไปทำไมกัน” เมื่อในที่นี้ก็มีแต่คนที่รู้จักกันทั้งนั้น แล้วองครักษ์ของเขาจะยืนให้เมื่อยไปทำไมนะ องค์เวอเรสคิดพร้อมกับส่ายหน้าอย่างหน่ายใจ
“ท่านเป็นอย่างนี้เสมอเลยนะ เวอครัส ทำไมชอบทำให้ข้าลืมหน้าที่ของตัวเองตลอดเลยนะ สวัสดีเวลล่า” พอค่อนแคะเพื่อนที่ไม่ค่อยรู้ฐานะตัวเองเสร็จ
จึงหันมาทักหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้วย ซึ่งหญิงสาวก็ทักทายกลับอย่างเป็นกันเอง
“สวัสดีค่ะท่านน้า”
“ทำไมกับเทรรี่เจ้ายอมเรียกว่าน้า แต่กับข้าเจ้าไม่ยอมเรียกว่าพ่อสักที” หลังสิ้นคำของเวอเรส
ทั้งกษัตริย์และองครักษ์ต่างหัวเราะออกมาอย่างลืมวัยของตนเอง
ส่วนหญิงสาวนั้นนั่งหน้าแดงพูดไม่ออกไปแล้ว องค์เวอเรสจึงหันมาพูดกับเวลล่าอีกครั้งหลังจากหัวเราะจนพอใจแล้ว “เอาเถอะๆ ข้าจะรอต่อไปแล้วกัน”
“อย่าสนใจคนแก่อย่างพวกข้าเลย
เจ้าไปทำงานของเจ้าเถอะ ยังต้องเดินทางต่ออีกมิใช่รึ” เทรรี่พูดเหมือนจะช่วยเวลล่า แต่เขาคงลืมไปว่าเมื่อกี้เขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอต้องมานั่งหน้าแดงอย่างนี้
เมื่อได้โอกาสเธอจึงขอตัวลาทำธุระต่อทันที
“อย่างนั้นหม่อมฉันคงต้องขอตัวก่อน ขอบพระคุณในความกรุณาของพระองค์อีกครั้ง ที่ให้ความช่วยเหลือตลอดมาเพค่ะ” เวลล่าหันไปพูดประโยคหลังกับกษัตริย์ของดินแดน
แล้วลุกขึ้นย่อตัวทำความเคารพและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่รอให้องค์กษัตริย์อนุญาตก่อน โดยไม่เกรงว่าจะดูเหมือนไม่ให้เกียรติพระองค์ แต่เวลล่ารู้ ถ้าเธออยู่ต่อ เธออาจจะโดนแกล้งมากกว่านี้ก็เป็นได้
หลังจากเวลล่าเดินออกจากห้อง เธอเดินตรงไปยังที่ที่จอดรถลากไว้
โดยเร่งฝีเท้าให้เร็วเพื่อที่จะไม่ต้องเจอกับคนบางคน และเหมือนวันนี้โชคจะเข้าข้างเวลล่า
เพราะระหว่างทางที่เดินกลับมาที่รถนั้น เธอบังเอิญได้ยินนางกำนัลคุยกันว่า คนบ้าบางคนที่นางไม่อยากเจอออกไปทำอะไรสักอย่างข้างนอกราชวัง
เวลล่ายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถลากและสั่งให้เซอเรนออกเดินทางต่อ ใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าๆเธอก็มาถึงเมืองหน้าด่าน เมืองแรกที่ทุกคนต้องผ่านเพื่อเข้าไปยังดินแดนเวอเนีย ในขณะเดียวกัน ชาวเวอเนียก็ต้องผ่านเมืองนี้เพื่อจะออกสู่ดินแดนอื่นเช่นกัน
โดยจะมีเรือโดยสารเพื่อผ่านไปยังดินแดนต่างๆรอบๆเกาะธีเรเนเลียอีกด้วย
โดยจะแบ่งออกเป็นสามประเภท คือ เรือโดยสารเทรส เรือคันใหญ่ที่รับผู้โดยสารทีละมากๆ
ลงตามจุดท่าเรือที่สำคัญ เรือโดยสารเบเรส
เรือสำหรับผู้โดยสารเฉพาะกลุ่มที่ต้องการท่องเที่ยวซึ่งสามารถลงได้หลายสถานที่ตามต้องการคล้ายกับการเหมา
ซึ่งราคาก็จะแพงมากขึ้นหลายเกล* และเรือที่แพงที่สุดคือเรือเคเวส เป็นเรือสำหรับเลือกจอดเฉพาะสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่ง และเป็นเรือที่เดินทางเร็วที่สุด
*เกล สกุลเงินของอาณาจักร ลักษณะเป็นลูกกลมๆสีทอง และกลีเป็นสกุลเงินย่อย มีลักษณะเป็นลูกกลมๆสีเงิน โดยที่ 1 เกล เท่ากับ 100 กลี
เวลล่าเลือกใช้เรือเคเวส โดยสถานที่ที่เวลล่าจะไปก็คือเกาะธีเรเนเลีย ใช้เวลาเพียงไม่นานนักในการเดินทางข้ามสายน้ำธีเดอร์ แม่น้ำที่ล้อมรอบเกาะธีเรเนเลีย และเมื่อถึงที่หมายเวลล่าจึงหันมาจ่ายเงินค่าเดินทางทั้งหมดเก้าร้อยเกลให้แก่คนขับเรือ
แล้วเธอจึงเช่ารถลากของที่นี้
เพื่อเดินทางต่อไปยังที่หมาย โดยสถานที่นัด
คือ ร้านน้ำชาแห่งหนึ่ง เมื่อเดินเข้าไปในร้านจึงพบกับคนที่นัดไว้ นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าสุดริมขวามือ
คนที่เธอนัดไว้สวมเสื้อคลุมสีดำมีผ้าปิดหน้า
เห็นเพียงดวงตาคู่สีน้ำเงินเข้มจากดวงตาคู่คมเท่านั้นที่บ่งบอกว่าคงเป็นเพศชาย เมื่อเขาเห็นว่าคนที่นัดกับเขาไว้ได้นั่งลงแล้ว จึงทักทาย
“สวัสดี พี่เวลล่า
ท่านดิกลาสให้ผมเอาเอกสารมาให้พี่แทนท่าน เพราะท่านติดประชุม ท่านฝากผมมาขอโทษพี่ด้วยที่ท่านไม่สามารถมาเองได้” ชายคนนั้นพูดพร้อมส่งเอกสารที่ได้รับฝากมาให้แก่หญิงสาว ซึ่งเวลล่าก็รับเอกสารนั้นไว้
“ขอบใจนะ คาล เจ้าดูสบายดีนะ” เมื่อเก็บเอกสารหลังจากขอบคุณชายหนุ่มเสร็จ จึงหันมาถามสารทุกข์สุขดิบต่อ
“ผมสบายดี พี่ละไม่เจอซะนานเลย
แต่วันนี้พี่ว่าร้อนๆมั้ย ผมร้อนจัง”
ชายหนุ่มที่ฟังจากเสียงน่าจะอายุประมาณยี่สิบปี ถามอย่างสงสัย เอ๊ะ...หรือเขาจะร้อนคนเดียวกันนะ
“จะไม่ร้อนได้ยังไง ดูแต่งตัวเข้าสิ
จะไปขโมยลูกสาวบ้านไหนนะ” เวลล่าเอ่ยแซวชายหนุ่มที่บ่นว่าร้อน โดยไม่ได้ดูการแต่งกายของตัวเองเลย
แล้วชายหนุ่มที่เวลล่าเรียกว่าคาลก็ก้มลงมองการแต่งกายตนเอง แล้วจึงพบว่าที่หญิงสาวพูดนั้นถูกต้อง
“เออ ลืมไป ก็ท่านอาจาร..เอ้ย
ท่านดิกลาสสั่งมาว่าให้แต่งตัวให้เรียบร้อย ให้มิดชิดหน่อยนิน่า
“ท่านอาจจะหมายถึงการแต่งตัวให้ดูเป็นผู้เป็นคนมากกว่ามั้ง
เอาละๆ พี่ต้องไปแล้ว เดี๋ยวจะกลับไปไม่ทัน ดูแลตัวเองด้วยนะ ถ้ามีโอกาสคงเจอกันอีก”
“ครับผม บายบายครับ”
ชายหนุ่มโบกมือลาหญิงสาวที่ลุกแล้วเดินจากไป พรางคิดในใจว่า คงต้องรีบกลับไปเปลี่ยนชุดให้เร็วที่สุด
เมื่อเวลล่าเดินออกมาจากร้านแล้ว จึงเดินทางกลับเหมือนวิธีที่ใช้มานั้นคือนั่งเรือเคเวส แล้วเรียกให้เซอเรนมารับกลับคฤหาสน์ ไปทำอาหารเย็นให้คุณหนูทาน
สิ่งที่เธอทำอยู่ทุกอย่าง ก็เพื่อให้คุณหนูคนสำคัญของเธอได้มีอนาคตที่ดีที่สุด
ไม่ได้เดินทางไกลๆอย่างนี้มาเกือบ2ปีแล้วสินะ
แสงแดดอ่อนๆที่บ่งบอกว่าเวลากำลังจะผ่านไปอีกวัน
ทำให้เด็กสาวที่อยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่รั่วสีเงิน เดินออกจากห้องซ้อมเวทย์และขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่
เพื่อชำระล้างร่างกายหลังจากได้ออกแรงฝึกการใช้เวทย์และอาวุธมาทั้งวัน (หลังจากที่เล่นดนตรีไปเมื่อเช้า) เมื่ออาบน้ำเสร็จเซน่าได้เปลี่ยนจากชุดที่ทะมัดทะแมงมาเป็นชุดนอน เพราะตั้งใจว่าวันนี้จะนอนเร็วกว่าเดิม
ชุดที่เซน่าเลือกใส่เป็นชุดนอนสีขาวธรรมดา เพราะเสื้อผ้าส่วนใหญ่ของเธอจะเป็นสีขาว ไม่ใช่เพราะชอบหรือถูกใจสีขาว
แต่เพราะพี่เลี้ยงสาวจัดไว้ให้แค่นี้ต่างหาก
ซึ่งเธอก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้วดีกว่าให้เธอออกไปเลือกซื้อเอง
ไม่อย่างนั้นคงจะเลือกไม่ถูกใจพี่เลี้ยงสาว หรือไม่ก็มีแต่กางเกงแน่นอน
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เซน่าก็ลงมาที่ห้องอาหารที่พี่เลี้ยงสาวได้จัดเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว
แต่วันนี้พิเศษตรงที่มีเค้กก้อนใหญ่ตั้งอยู่บนโต๊ะด้วย
ซึ่งถ้าเป็นเค้กที่เธอทานปกติจะไม่ใหญ่ขนาดนี้ เพราะถึงเธอจะอยากกินแต่พี่เลี้ยงสาวก็ไม่ยอมให้กินเยอะอยู่ดี
แล้วทำไมวันนี้ถึงเป็นเค้กก้อนโต้ได้นะ
หรือว่าสิ่งที่เธอลืมวันนี้... แล้วเซน่าก็นึกขึ้นได้ว่า
วันนี้มัน... วันเกิดเธอ !!
______________________________________________
ขอบคุณทุกกำลังใจที่ยังคงติดตามชีวิตของเซน่า
จากไรต์เตอร์ผู้อืดอาดเหมือนเต่า >^<
ความคิดเห็น