ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรเอสเธอร์โรงเรียนแห่งเทอร์เรีย

    ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบทแห่งตำนาน

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 57


    ปฐมบทแห่งตำนาน

           ภายในห้องโถงขนาดใหญ่ปรากฎร่างของเหล่าชายหนุ่ม(ที่ไหน)ทั้งหลายในอิริยาบทที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบ่งบอกได้ว่าตอนนี้ทุกคนกำลังเคร่งเครียดกันขนาดไหน
           ปัง!!!
           เสียงเปิด(กระชาก)ประตูอย่างแรงดังขึ้นทำลายความเงียบที่ก่อตัวขึ้นหายไปจนหมด ตรงประตูปรากฎร่างบอบบางของหญิงสาวที่มีนามว่าโรเนียร์ราชินีแห่งดินแดนคาเรนเซียซึ่งเป็นคนเปิดประตู นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคลอไปด้วยน้ำตา ใบหน้าสวยมอมแมมเพราะเหตุบางอย่าง
           "มันถึงเวลาแล้วเนียร์"เคโรเลส ราชาแห่งดิแดนคาเรนเซียกล่าวกับภรรยาของตนด้วยน้ำเสียงและแววตาซึ่งเจ็บปวดไม่แพ้กัน
           "ถ้างั้นให้เอวาไปด้วยได้มั้ย"โรเนียร์เอ่ยถึงลูกชายคนกลางของเธอ
           "พวกนายคิดว่าไง"เคโรเลส เอ่ยถามเพื่อนของตน
           "ก็ได้ถือว่าคอยคุ้มกันอีกแรงไง"เรเดียส ราชาแห่งโนเนสเวียเอ่ยขึ้น
           "ใช่ ถือว่าคอยกันผู้ชายคนอื่นให้ลูกชายฉันไง"คีเอส ราชาแห่งเทอร์เรียเอ่ยถึงคาอิลบุตรชายคนเดียวของตนที่เย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็ง แต่พออยู่กับเนวาเรียกับอ่อนโยนผิดกันคนละคนเลย
           "ฮึ่ม! มันใช่เวลามั้ย"เคโรเรียสถาม
           "แล้วหนูเนวาเรียต้องไปวันนี้เลยเหรอ"เวเรียร์ ราชินีแห่งเวราเคียถามโรเนียร์เพื่อนสาวของตน
           "อืม"โรเนียร์ ตอบรับ
           "แล้วเราจะหนีจากนายนั่นไปนานแค่ไหนล่ะ"ไรต์ ราชาแห่งวาร์เนียถามอย่างเอางานเอาการ
           "มันยังไม่ถึงเวลาต่างหากล่ะ เพียงแต่ตอนนี้เราต้องให้เนวาอยู่ในที่ที่ปลอดภัยที่สุดเผื่อมีการเคลื่อนไหวจากฝั่งนู้นเกิดขึ้น"เคโรเลส เอ่ย
           "ถึงเวลาแล้วล่ะเราไปส่งเนวาเรียกับเอวากันเถอะ"เอสโร ราชาแห่งเวราเคียเอ่ยบอกเพื่อน
           "อืม"จบคำทุกคนก็พากันทยอยเดินออกจากห้องไปท่ามกลางความคิดที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของแต่ละคน'หวังว่าเนวาเรียจะสามารถทำให้เค้าคนนั้นกลับมาเป็นคนๆเดิมได้นะ'


            สวนดอกไม้ภายในรั้วปราสาทบ้านคาเรนเซีย
           ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกลีบดอกไม้และกลิ่นหอมอ่อนๆของมันปรากฎร่างของเนวาเรียเด็กสาวอายุราวๆเจ็ดขวบผมสีดำขลับที่ยาวเหยียดตรงสยายไปตามแรงลมอ่อนๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่ถอดแบบมาจากผู้เป็นแม่กลับคลอไปด้วยน้ำตา มือทั้งสองข้างโอบกอดตัวเองไว้แน่น
           "เนียว์"เสียงของคาอิลดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ
           "คาล"น้ำเสีงและสัมผัสอันอ่อนโยนที่คุ้นเคยทำให้เด็กสาวหันไปกอดอย่างหวงแหน
           "เป็นอะไรไป"เด็กหนุ่มถามพลางเช็ดน้ำตาให้เนวาเรียอย่างอ่อนโยน
           "เราจะได้เจอกันอีกมั้ย"เนวาเรียถาม
           "แน่นอนสิ เราต้องได้เจอกันอีกแน่"คาอิลตอบ
           "แล้วคาลจะจำเราได้มั้ย"คำถามที่ดูซื่อของเนวาเรียทำให้เด็กน้อยยิ้นยากอย่างคาอิลถึงกับยิ้มออกมา เพราะไม่ว่าอย่างไรคนที่สามารถทำให้คาอิลยิ้มก็มีเพียงเนวาเรียคนเดียวเท่านั้นแหละที่ทำได้
           "ได้สิ จำได้แน่ๆสัญญา แล้วเนียว์ล่ะ"คาอิลสัญญาพร้อมถามกลับ
           "สัญญาเหมือนกัน"เอ่ยตอบพลางยกนิ้วก้อยมาเกี่ยวกัน
           "นี่มีอะไรจะให้"คาอิลพูดพลางหยิบสร้อยข้อมือเส้นเล็กประดับด้วยบุษราคัมเม็ดเล็กๆดูบอบบางเหมาะกับเนวาเรียเป็นอย่างมาก แล้วนำไปสวมให้ทันที
           "ให้เหรอ"เนวาเรียถาม
           "อืม ชอบมั้ย"คาอิลถาม
           "ชอบสิ สวยมากๆเลย"เนวาเรียตอบพลางยิ้มกว้าง
           "ไปกันเถอะได้เวลาแล้ว"คาอิลพูดพลางพากันเดินออกไป ไม่นานพวกเขาก็มาถึงหน้าปราสาทซึ่งมีพวกท่านพ่อและท่านอาของตนยืนอยู่แถมพ่วงด้วยพี่ชายจอมห่วง(หวง)น้องสาวทั้งสอง
           "แล้วเจอกันนะเนวาเรีย"คีเอสบอกพลางเข้าไปกอด หลังจากนั้นทุกคนก็เข้าไปกอดลาจนเหลืออยู่เพียงสองคนสุดท้ายซึ่งก็คือ โนวาพี่ชายคนโตของเนวาเรียและคาอิล
           "โชคดีนะเนวาเรียน้องสาวคนเดียวที่พี่รัก"โนวาเอ่ยพลางเข้าไปกอดอย่างแนบแน่นเป็นการจากลา
           "ค่ะท่านพี่"เนวาเรียพูดพลางคลายอ้อมกอดออกแล้วหอมแก้มพี่ชายไปฟอดใหญ่
           "น้องขี้โกงพี่ไม่เห็นได้เลย"เอวาโวยวาย
           "งั้นนายอยู่นี่เดี๋ยวฉันไปกับเนวาเอง"โนวาพูด
           "โอเค ผมยอมแล้วครับพี่"เอวาเอ่ย
           "เคียวนายออกเดินทางได้เลย แล้วดูแลลูกฉันด้วยล่ะ"เคโรเลสบอกกับเคียว เครทอเซียอดีตองครักษ์ของตน
           "ดูแลน้องด้วยนะ"โรเนียร์เอ่ยกับเอวา
           "ครับ"เอวาเอ่ยพลางขึ้นรถม้าไป
           "อย่าลืมสัญญานะคาล"เนวาเรียบอกพลางหอมแก้มเบาๆแล้วรีบขึ้นรถม้าไป
           "หึ ยัยแสบ"คาอิลบ่นพึมพำพลางยกยิ้มเบาๆพร้อมกับรถม้าที่เคลื่อนตัวออกไป


            ที่ที่ห่างไกลกันออกไปภายในห้องโถงอันมืดมิดไร้แสงไฟมีเพียงแสงทอจากดวงจันทร์เท่านั้นที่พอเห็นลางๆ ปรากฎร่างของชายหนุ่มภายใต้ผ้าคลุมสีเทาผืนหนา
           "เป็นไงบ้างได้เรื่องไหม"ชายหนุ่มเอ่ยถาม
           "ไม่มีความเคลื่อนไหวเลยครับท่านเอเดน"ชายหนุ่มนามเพียตเอ่ยตอบ
           "อืม"เอเดนตอบรับ
           "จะให้ตามต่อมั้ยครับ"เพียตถาม
           "ไม่ต้อง เจ้าไปได้แล้ว"เอเดนบอก
           "ครับ"เพียตตอบรับพลางเดินออกไป
           "เพราะมันยังไม่ถึงเวลาน่ะสิ"เอเดนบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโหยหา ความเดียวดายและโดเดี่ยวสุดท้ายก็จบลงที่เคียดแค้น

    ----------------------------------------------------------------------------


      ถ้าไม่สนุกก็ต้องขอโทษด้วยนะคะพึ่งหัดแต่งค่ะ ^^
      และก็ขอบคุณที่ติดตามด้วยนะคะ

     บังเอิญมีการเปลี่ยนนิดหน่อยค่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×