ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สัญญาร้าย ของนายมาเฟีย ( Yaoi )

    ลำดับตอนที่ #3 : นายปากร้ายVSนายมาเฟีย

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 51


    ต้องขอโทดผู้อ่านทุกๆท่านด้วยน้าค้า คือว่า... [ ต้องหาข้อแก้ตัวก่อนซะแร้วล่ะเนี้ย จาโดนตืบป่าวว่ะตู  ] ผู้แต่งเกินอาการบ้า ติ๊งต๊อง ปัญญาอ่อน แระ... พอดีฝ่า น่ะค่ะ ก้อเรยต้องขอย้ายมาที่ไหม่น่ะค่ะ ขอโตดด้วยน้าค้า...  เอาล่ะบ้าบอกันมามากพอแระ มาอ่านกานเรยดีก่าเน้อออ~

     

     

     

     

     

     

     

    Chapter 1 นายปากร้าย VS นายมาเฟีย

     

     

     

     

    ผลัก!!

     

     

     

     

    โธ่โว้ย!!! วันนี้โคตรอารมณ์เสียที่สุดเล้ยยย!!!”

     

     

     

     

    ร่างบางผลักประตูห้อง แล้วสบถออกมาอย่างเสียงดัง แล้วเดินเข้าห้องพักไปอย่างหงุดหงิด ทันทีที่น้องตัวแสบของร่างบางได้เข้ามาแล้ว ร่างบางก็รีบปิดประตูห้องโดยเร็ว จึงทำให้เกิดเสียงที่ดัง จนน้องสุดแสบของเขาตกใจเล็กน้อย

     

     

     

     

    วันนี้เป็นวันอะไรของมันวะ โชคร้ายมาทั้งวันเลยว่ะ

     

     

     

     

    ร่างบางพูดเสียงดัง ด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด แล้วพยายามนึกคิดถึงเรื่องราวต่างๆในวันนี้ ที่เขาได้ไปเจอกับตัวเองว่าไปเจออะไรมาบ้าง

     

     

     

     

    ซึ่งขณะเดียวกันนั้นเองฟ้าผู้เป็นน้องก็รีบเข้าห้องนอนของตัวเองไป แล้วกดล็อคประตูทันที

     

     

     

     

    ขืนอยู่นาน ต้องตายแน่ๆง ฟ้าคิดได้ดั่งนั้นจึงรีบหาสำลีมาอุดหูทันที เพื่อที่จะไม่ได้ยินเสียงวีดของพี่ชายตนเอง

     

     

     

     

    เอ?...เอ๋? เอะ!? นะ...นึกออกแล้ว ต้องใช่แน่ๆ มันต้องใช่แน่ๆ และร่างบางก็นึกถึงหน้าของใครบางคน ที่เกียดที่สุด ถึงกับขนาด เกียดจนเข้าไส้กระดูกดำเลยก็ว่าได้ แล้วทำสีหน้าเคียดแค้นเป็นอย่างมาก

     

     

     

     

    นาย ทีม!! ตั้งแต่ฉันเจอนายตอนเช้า วันทั้งวันฉันก็ต้องเจอแต่เรื่องซวยๆตลอดทั้งวัน เพราะเวลาที่ฉันเจ็บตัว นายนั้นก็ต้องอยู่ด้วยทุกๆที ฮึ้ย!! นึกแล้วโมโหว่ะ ร่างบางนึกแค้นหนุ่มหล่อร่างสูง ที่ทำให้ตัวเองนั้นเจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ แถมยังเจ็บทั้งวัน [ เอ๋? แต่ว่ามันไม่เห็นจะเกี่ยวกับทีมเลยนี่นา ฝันนี่คิดไปเองรึป่าวเนี้ย!? :ผู้แต่ง]

     

     

     

     

    ถ้าไม่ได้เจอหน้านาย ป่านนี้ฉันคงมีความสุข และโชคดีมากกว่านี้แน่ ร่างบางเริ่มอารมณ์เสียขึ้นมาอีกครั้งจนได้

     

     

     

     

    อ่า...^-^ ผมขออภัยผู้อ่านทุกๆคนด้วยนะครับ พอดีอารมณ์เสียไปหน่อยน่ะครับ ขออภัยด้วยนะครับ [ ก้มหัวลงนึ่งที ( _ _ ) ] แต่ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวเองก่อนเลยนะครับ พอดีลืมน่ะครับ ผมชื่อ นาย จารุพักตร์ จิราภัทร์ภากร ชื่อเล่นว่า เพียงฝันครับ เรียกฝันเฉยๆ ก็ได้นะครับ เพราะถ้าเติมคำว่า เพียง เข้าไปมันแปลกๆน่ะครับ

     

     

     

     

    ปัจจุบันผมอายุ 18 ปีบริบูรณ์ อยู่กับน้องชายสองคนที่ห้องพัก น้องชายของผมชื่อ ภัตธนสัณต์ จิราภัทร์ภากร ชื่อเล่น เพียงฟ้า

     

     

     

     

    น้องผมไม่ชอบให้ผมเรียกเขาว่า เพียงฟ้า ครับ ผมว่าชื่อของเขาก็เพาะดีออก ดีกว่าของผมเสียอีก ผมเคยเรียกชื่อเขาว่า เพียงฟ้า นะครับ เขาวิ่งไล่เตะผมทั่วห้องเลยล่ะ ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่ชอบเหมือนกัน คงจะเหมือนผมล่ะมั่ง เพราะมันแปลกๆยังไงล่ะครับ

     

     

     

     

    ฟ้าอายุ 13 ปีกว่าๆ อีกไม่นานก็จะถึงวันเกิดของฟ้าแล้วล่ะ ผมคิดว่า ฟ้าคงรอวันนั้นอยู่แน่ๆเลย

     

     

     

     

    ผมเคยถามแม่ของผม ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่น่ะครับว่า

     

     

     

     

    ทำไมถึงตั้งชื่อของผม และน้องให้ขึ้นนำหน้าว่า เพียงด้วย รู้ไหมครับ ว่าแม่ของผมตอบว่าอะไร แม่ผมตอบว่า

     

     

     

     

    ‘…ก็ไม่รู้เหมือนกันนะจ๊ะ คงเป็นเพราะว่าแม่ชอบคำว่า เพียง มั้งจ๊ะ แม่ตอบผมเพียงแค่นี้ ผมถึงกับอึ้งตะลึงตึงตังไปเลยล่ะ แล้วผมก็ไม่ถามเรื่องชื่อของผม และน้องอีกเลย

     

     

     

     

    ครอบครัวของผมมีแต่ขึ้นว่า เพียง ทุกคนเลยล่ะครับ พ่อผมชื่อ เพียงเพียร แม่ผมชื่อ เพียงฝน นั้นแหละครับเพียงกับทั้งครอบครัว - -^

     

     

     

     

    แม่ของผมคงจะชอบคำว่า เพียง อย่างที่ท่านพูดจริงๆนั้นแหละ ถึงได้ตั้งชื่อผม และน้องของผมนำว่า เพียง

     

     

     

     

    ผม และฟ้าเรียนอยู่ที่เดียวกันคือที่ โรงเรียนมัธยมหมีน้อยวิปริตวิทยา เป็นโรงเรียนที่โด่งดัง และยังมีค่าเล่าเรียนที่แพงแสนแพงที่สุดในกรุงเทพฯเลย ผม และฟ้าจึงต้องทำงานพิเศษหลายๆที่ เพื่อที่จะเป็นค่าเล่าเรียน และค่ากินอยู่ทุกๆวันครับ

     

     

     

     

    ครอบครัวผมก็ไม่ใช่ว่าจะจนอะไรหรอกครับ ผมก็แค่ไม่อยากจะให้ญาติฝ่ายพ่อ และฝ่ายแม่ต้องมาเดือดร้อน และรับผิดชอบผม กับฟ้าก็แค่นั้นเอง

     

     

     

     

    ญาติฝ่ายพ่อ และฝ่ายแม่ต่างก็พยายามช่วยผมอย่างเต็มที่ แต่ผมกลับปฏิเสธมาโดยตลอด ถึงผมจะรู้ว่ามันไม่มีความหมายก็ตาม ญาติฝ่ายพ่อ และฝ่ายแม่ของผม ส่งเงินมาเดือนละ 10,000 บาท ผมบอกให้พวกเขาส่งเงินมาให้แค่ 5,000 ต่อเดือนก็พอ แต่พวกเขากลับไม่ยอมฟังอะไรผมทั้งนั้น แถมยังส่งเงินมาให้เยอะกว่าเดิมอีก

     

     

     

     

    คราวนี้ผมก็ปฏิเสธพวกเขาไม่ได้เสียอีก เพราะผมปฏิเสธทีไร พวกเขาก็ส่งเงินจำนวนเท่าเดิมมาให้ทุกๆครั้งที่ครบ 1 เดือน ผมจึงต้องรับเงินอย่างจำใจยอม [ แหมๆ ฝันคงไม่ได้จำใจยอมหรอกใช่ป่ะ จริงๆก็คงยังนึกเสียดายอยู่ใช่ไหมล่ะ เหอๆ : ผู้แต่ง ]

     

     

     

     

    แต่ผมก็ไม่ได้พึ่งพาเงินของญาติที่ส่งมาอย่างเดียว ผมได้หางานพิเศษทำยังไงล่ะครับ ซึ่งผมก็ได้งานแล้วอยู่ที่นึงน่ะครับ เงินดี งานสบายๆ ผู้จัดการร้านก็ให้เงินเป็นรายชั่วโมง ชั่วโมงละประมาณ 200 กว่าบาทได้น่ะครับ เป็นงานเสิร์ฟอาหารตามห้องคาราโอเกะธรรมดาๆน่ะครับ แต่ก็เล่นเอาผมเหนื่อยแทบขาดใจเลยล่ะ

     

     

     

     

    เอาล่ะครับ เหมือนว่าผมจะพูดมากไปหน่อยแหะ ( ไม่หน่อยแล้วล่ะ ) งั้นผมจะเล่าเรื่องที่ทำให้ผมอารมณ์เสีย ก่อนเลยนะครับ เรื่องมันก็มีอยู่ว่า...

     

     

     

     

     

     

     

     

    ย้อนกลับไป ณ เวลา 07.00น. ตอนที่ไก่พึ่งขันนั่นเอง

     

     

     

     

    เอ๊ก อี เอ๊ก เอ๊ก~  ตื่นสักทีซีโว้ย เจ็บคอแล้วนะเฟ้ย~

     

     

     

     

    เสียงนาฬิกาปลุกรูปไก่เพศชายดังขึ้นข้างๆหูของร่างบาง จึงทำให้ร่างบางลืมตาปรือขั้นมาจากการนอนด้วยอาการงัวเงีย แล้วเอื้อมมือไปกดปิดนาฬิกาปลุก

     

     

     

     

    ฮ้าววว =o=  ไอ้ไก่บ้าปลุกดีๆก็ไม่ได้ ต้องมาด่าฉันทุกๆเช้าเลยเหะ [ อ้าว!? ฝันท่าทางจะบ้าเหะ - - ก็เสียงมันเป็นอย่างงั้นอยู่แล้วนี่นา แล้วมันจะเปลี่ยนได้ยังไงกันล่ะ : ผู้แต่ง ] แต่เอ!?... ท่าทางฉันจะบ้าจริงๆเหะ มันจะเปลี่ยนเสียงได้ยังไงกัน แต่วันนี้เป็นวันอะไรกันน้า?...

     

     

     

     

    ร่างบางบ่นกระปอดกระแปด ที่นาฬิกาปลุกของตัวเองได้ปลุกเขาตื่นด้วยเสียงที่ไม่ค่อยเป็นมิตรซะเท่าไร แล้วทำหน้าครุ่นคิดอะไรสักอย่าง เอ...นึกไม่ออกเหะ ^^ ลองนึงอีกทีดีกว่า เมื่อวานนี้เป็นวันอาทิตย์นี่นา เพราะงั้น... วันนี้ก็ต้องเป็นวัน... จะ จันทร์ วันจันทร์น่ะซิ!! ว๊ากๆๆๆ!! สายแล้ว วันนี้เป็นวันแรกที่โรงเรียนเปิดด้วยนะ จะสายไม่ได้เด็ดขาด แย่แล้ว!!’

     

     

     

     

    ร่างบางคิดได้ดังนั้นจึงรีบออกไปจากห้องนอนของตัวเองทันที แล้วตรงไปที่ห้องนอนของฟ้าผู้เป็นน้องของตัวเอง และเคาะประตูเสียงดัง แล้วตะโกนเรียกน้องชายเขาให้ตื่นจากการนอน

     

     

     

     

    ปัง!! ปัง!! ฟ้า ฟ้า ตื่นได้แล้วมันจะสายแล้ว!!”

     

     

     

     

    ร่างบางตระโกนเรียกชื่อน้องชายของตัวเองออกไป พร้อมกับเคาะประตูเสียงดัง แต่สิ่งที่ร่างบางได้รับตอบกับมาก็คือ...ความเงียบนั้นเอง

     

     

     

     

    เฮ้!! ฟ้าตื่นได้แล้ว เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสายนะ วันแรกด้วยนะจะสายไม่ได้เด็ดขาด

     

     

     

     

    ร่างบางตระโกนเรียกผู้เป็นน้องอีกรอบ ซึ่งครั้งนี้มันได้ผล ประตูห้องค่อยๆเปิดออกมาอย่างช้าๆ พร้อมกับร่างบางของน้องชายตัวเอง

     

     

     

    อือ...ตื่นแล้ว หยุดตระโกนซะทีจะได้ไหมห๊า...

     

     

     

    ฟ้าพูดเบาๆ เพราะพิษจากการนอน แล้วบ่นกระปอดกระแปดที่พี่ชายของตนนั้นมาปลุกด้วยเสียงที่ดังไปถึงห้าบ้านแปดบ้านทันทีที่เปิดประตูออกมา

     

     

     

     

    กว่าจะตื่นได้นะ นานจริงๆ ให้เคาะประตูเรียกอยู่ได้ตั้งนาน

     

     

     

     

    ร่างบางยืนกอดอก แล้วทำหน้าเข้ม เพื่อให้ดูน่ากลัว แล้วหันไปมองน้องชายตนเองที่เพิ่งออกมาจากห้องนอน แล้วบ่นกระปอดกระแปดที่ต้องให้ตนเองนั้นต้องเรียกอยู่ตั้งนอนสองนอน

     

     

     

     

    พี่ก็น่าจะรู้นี่นา ว่าผมน่ะเป็นขี้เซาขนาดไหนน่ะ

     

     

     

     

    ใช่ฉันรู้ รู้ว่านายน่ะเป็นคนขี้เซามากจริงๆ ขนาดเมื่อตอนที่นายยังเป็นเด็ก แมวของฉันเข้าไปข่วนหน้านาย นายยังไม่ตื่นเลย แต่นี่นายตื่น ฉันว่ามหัศจรรย์จริงๆ ไม่รู้ว่าได้ความขี้เซามากจากไหนกันนะ ( จากแม่ไงจ๊ะ แหม...แอบนินทาแม่ด้วยแหนะ : ผู้เป็นแม่ที่อยู่ที่ที่ไกลแสนไกลฟัง แล้วคิดในใจ ) ร่างบางก็ได้แต่คิดในใจ ซึ่งไม่กล้าที่จะพูดออกมา กลัวว่าเดี๋ยวร่างบางตรงหน้างอนไม่ยอมไปโรงเรียนอีก

     

     

     

     

    เอ่อ...แต่ว่า...พี่ฝันนี่มันสายแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมยังมายืนอยู่หน้าห้องผมอีกล่ะ น่าจะไปอาบน้ำได้ตั้งนานแล้วนะ

     

     

     

     

    เออ!! จริงด้วยแหะ ไปแล้วโว้ยยย!!~’ ร่างบางคิดได้ดังนั้นจึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที โดยที่ไม่ลืมหยิบผ้าขนหนูสีฟ้าอ่อน ที่แขวนอยู่ในห้องนอนตัวเองไปด้วย

     

     

     

     

    15 นาทีผ่านไป

     

     

     

     

    เฮ้... ฟ้าฉันอาบน้ำเสร็จแล้วนะ ไปอาบต่อได้แล้ว เร็วๆเข้าล่ะเดี๋ยวจะไปสาย

     

     

     

     

    ร่างบางอาบน้ำเสร็จ จึงเก้าเท้าออกมาจากห้องน้ำ แล้วตะโกนบอกน้องชายให้รีบไปอาบน้ำต่อทันที

     

     

     

     

    รู้แล้วน่า... ฉันไม่อาบช้าเหมือนพี่หรอก

     

     

     

     

    ผู้เป็นน้องของร่างบางว่าพี่ตัวเองก่อนหนึ่งทีก่อนที่จะรีบเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำต่อทันที เพราะเขาเห็นหน้าพี่กำลังปั้นหน้ายักษ์ใส่เขาอยู่ ถ้าขืนร่างบางนั้นอยู่ต่อล่ะก็ มีหวังได้ไปเยี่ยมท่านยมบาลทันที

     

     

     

     

    เออ อีตาอาบน้ำเร็ว

     

     

     

     

    ร่างบางที่อยู่หน้าประตูห้องน้ำพูดประชดผู้เป็นน้องชายทันที ก่อนที่จะแล้วรีบเดินไปแต่งตัวที่ห้องของตัวเองโดยเร็วที่สุด

     

     

     

     

    15 นาทีผ่านไป

     

     

     

     

           ร่างบางที่ยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องของตัวเอง ก็แต่งชุดนักเรียนเสร็จ แล้วหันหน้าหันหลังส่องกระจกบานใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง สำรวจว่าการแต่งกายเรียบร้อยแล้วหรือยัง เมื่อร่างบางสำรวจแล้ว ว่าไม่มีสิ่งผิดปรกติอยู่ที่รอบๆตัวของเขา ร่างบางก็รีบออกจากห้องนอนตัวเองไปทันที

     

     

     

     

           เฮ้!! ฟ้าอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จแล้วหรือยังน่ะ

     

     

     

     

    ร่างบางตระโกนถามน้องชาย แต่คำตอบที่ได้กลับมาร่างบางถึงกับต้องตะลึงตึงตึงไปทันที

     

     

     

     

           เสร็จตั้งนานแล้ว พี่นั้นแหละช้าจริงๆเลย แล้วคิกจะมาว่าฉันช้าอีกหรือยังไงกัน

     

     

     

     

    ผู้เป็นน้องบ่นกระปอดกระแปด ในขณะที่นั่งตักข้าวใส่ปากที่โต๊ะตัวใหญ่สีน้ำตาลเข้มอยู่ ซึ่งในขณะเดียวกันร่างบางได้ตาค้างกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา เหมือนกับเห็นสัตว์ประหลาดอย่างงั้นแหละ

     

     

     

     

    พี่จะตะลึงไปอีกนานไหม รีบๆมากินข้าวเถอะ ผมเตรียมไว้ให้แล้ว เดี๋ยวมันจะเย็นหมดนะ

     

     

     

     

    แล้วเขาก็บ่นอีกรอบ แล้วใช้มือบางๆตบลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆเขาให้ร่างบางไปนั่งด้วย

     

     

     

     

           นี่นาย ทำไมอาบน้ำเร็วจังล่ะ

     

     

     

     

    ร่างบางหย่อนก้นนั่งลงตรงเก้าอี้ปุ๊บ ก็ซัดคำถามแรกถามน้องชายโดยทันที

     

     

     

     

           ก็ผมมันเก่งนี่ครับพี่ ฮ่าๆๆๆ ^O^”

     

     

     

     

    ฟ้าพูดอวดตัวเองก่อนจะหัวเราะปากกว้าง ขณะที่ข้าวยังอยู่เต็มปาก

     

     

     

     

    นายนี่นะเก่ง ฉันว่านายวิ่งผ่านน้ำมากกว่า ฮิๆๆ ^-^ ” 

     

     

     

     

    ร่างบางแซวผู้เป็นน้องทันทีที่น้องเขาอวดโอ้ตัวเอง แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ มันจึงทำให้ฟ้าผู้เป็นน้องอายจนหน้าเปลี่ยนสี เป็นสีแดง

     

     

     

     

           จะบ้าเหรอพี่ไม่ใช่สักหน่อย

     

     

     

     

    เขารีบแก้ตัวโดยทันที แล้วทำหน้างอนตุ๊บป่อง -^- ใส่ร่างบางที่นั่งข้างๆเขา นายนี่น้า โตแล้วยังงอนเหมือนเด็กๆไปได้นะ ^^’ ร่างบางคิดในใจ แล้วยิ้มออกมาอีกรอบ เพราะความที่น้องชายตัวเองทำตัวเหมือนเด็กๆที่ไม่รู้จักโตเสียที แล้วสักพักร่างบางกับฟ้าผู้เป็นน้องก็กินข้าวเสร็จ ร่างบางจึงพูดออกมาว่า

     

     

     

     

           ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสายเอานะ

     

     

     

     

    ร่างบางพูดจบก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที แล้วเอาจานข้าวของตัวเองไปเก็บ

     

     

     

     

           อือ นั่นซีนะ

     

     

     

     

    ฟ้าตอบอย่างเห็นด้วย แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเอาจานที่ตัวเองพึ่งกินเสร็จไปเก็บ พร้อมกับจานที่ใส่กับข้าวที่เหลือไว้อยู่น้อยนิด

     

     

     

     

           ไปรีบไปกันเถอะ

     

     

     

     

    ร่างบางว่าพลางเดินออกจากห้อง แล้วฟ้าผู้เป็นน้องก็เดินตามหลังมาติดๆ เมื่อฟ้าออกมาแล้ว ร่างบางก็จัดการปิดประตูแล้ว ล็อกประตุทันที

     

     

     

     

    ร่างบางกับฟ้าผู้น้องชายก็รีบเดินไปที่ลิฟต์ทันที แล้วกดลงอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาสักพักร่างบางกับฟ้าก็มาถึงที่ลานจอดรถด้านล่าง ที่เต็มไปด้วยรถยนต์ และรถมอเตอร์ไซค์

     

     

     

     

    ติ๋ง!!

     

     

     

     

    พอประตูลิฟต์เปิดออก ร่างบาง กับน้องชายก็รีบเดินไปที่รถโอโตเมติก ยามาฮ่า ฟีโน่คันงาม แถมเป็นรถยี่ห้อใหม่ล่าสุด

     

     

     

     

    กว่าฉันจะได้รถคันนี้มานะแถบขาดใจเลยล่ะ เพราะต้องเก็บเงินที่ญาติฉันส่งมาให้ทุกๆเดือน แถมเจ้าน้องชายตัวแสบนี่ยังไม่ช่วยเก็บเงินอีกต่างหาก ช่วยใช้เงินซะมากกว่า ร่างบางคิดอย่างภาคภูมิใจ ที่ตัวเองนั้นเก็บเงินซื้อเองได้

     

     

     

     

    รถโอโตเมติกของฉันก็มีลักษณะคล้ายๆกับ โอโตเมติกทั่วไปนั่นแหละ แต่ที่แปลกตากว่าก็คือ น้องของฉันจับไปแต่งซะมั่วหมดเลยน่ะซิ แต่ยังไงมันก็เท่กว่าเดิมเยอะเลยล่ะร่างบางยังคงนำเสนอผลงานต่อไปให้ผู้อ่านฟัง

     

     

     

     

    ร่างบางมาถึงที่รถ แล้วขึ้นค่อมรถ ในขณะเดียวกันฟ้าผู้เป็นน้องชายก็ขึ้นซ้อนท้ายร่างบางทันที หลังจากนั้นร่างบางก็รีบออกรถไปทันที

     

     

     

     

     

     

     

    ณ ที่โรงเรียนมัธยมหมีน้อยวิปริตวิทยา

     

     

     

     

    ร่างบางใช้เวลาไม่นานก็มาถึงที่โรงเรียน เนื่องจากร่างบางเป็นที่ชอบขับรถเร็วอยู่แล้ว จึงทำให้มาเร็ว และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่น่าคาดฝันก็เกิดขั้น

     

     

     

     

    เอี๊ยดดดด!!!!!

     

     

     

     

           เฮ้ยยยย!!!”<<<<<<หนุ่มน้อยร่างบาง ผู้เป็นน้องก็อุทานออกมาอย่างตกใจ

     

     

     

     

           “O[]O”<<<<<<< ร่างบางที่ตกใจกับเหตุการณ์ เมื่อสักคู่จนทำอะไรไม่ถูก จึงได้แน่ทำหน้าตกใจที่ซีดเผือก เหมือนไก่ต้ม

     

     

     

     

    ร่างบางเบรกรถกะทันหัน เมื่อรถบ้าที่ไหนก็ไม่รู้โผล่ออกมาเพื่อที่จะเข้าโรงเรียนเหมือนกัน ด้วยความรวดเร็ว

     

     

     

     

           ฝัน ฝัน พี่ฝันเป็นอะไรหรือป่าว

     

     

     

     

    ผู้เป็นน้องร้องอย่างตกใจ กับร่างบางที่เขาซ้อนท้ายมาด้วยนั้นหน้าซีดอย่างหน้ากลัว แล้วเขย่าตัวร่างบางอย่างแรง จนทำให้ร่างบางนั้นมึนหัวไปหมด

     

     

     

     

           มะ...ไม่เป็นไรหรอก

     

     

     

     

    ร่างบางตอบตะกุกตะกัก เพราะตอนนี้ร่างบางยังเกิดอาการมึนๆอยู่ เนื่องจากผู้เป็นน้องนั้นเขย่าตัวอย่างแรง ฉันจะเป็นก็เพราะแกนั่นแหละที่จะทำให้ฉันอ้วกแตกตายตรงนี้

     

     

     

     

    แล้ว...นายล่ะเป็นอะไรรึป่าว

     

     

     

     

    ร่างบางถามฟ้าผู้เป็นน้องออกไป เพราะร่างบางเองก็เป็นห่วงฟ้าเหมือนกัน

     

     

     

     

           ไม่เป็นไร แต่ไอ้รถบ้านั่นมันมาจากไหนกันว่ะ เล่นเอาพวกเราเกือบตายแน่ะ

     

     

     

     

    ฟ้าบ่นกระปอดกระแปด แล้วทำหน้าโกรธแค้นคนที่ที่ขับรถเบียดพวกเขา จนเกือบทำให้ทั้งสองนั้นไปเยี่ยมท่านยมบาลแล้ว ฟ้าผู้เป็นน้องของร่างบางทำท่าจะไปเอาเรื่องคนๆนั้นให้ได้ ซึ่งคนคนนั้นก็ได้เดินมาทางนี้เช่นกัน

     

     

     

     

           นายไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวฉันไปเอง

     

     

     

     

    ร่างบางพูดแค่นั่นแล้วรีบเดินไปตรงที่ที่รถอีกคันนึงทันที

     

     

     

     

    เอ่อ... รถนายเป็นไรมากป่ะ

     

     

     

     

    ร่างบางถามชายหนุ่มร่างสูง ผู้ชายคนนี้ ซึ่งพูดได้คำเดียวว่า หล่อ หล่อมากๆจริง ขนาดผู้ชายด้วยกันเองยังดูว่าหล่อเลย ซึ่งท่าทางเขาน่าจะเป็นเจ้าของรถจากัวร์สีดำสนิทคันนี้แหะร่างบางพูดกับตัวเองในใจ ขณะที่เขายังมองหน้าชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้านี่อยู่

     

     

     

     

    ไม่เป็นมากหรอก แต่นายน่ะหัดมองทางบ้างเซ่!!! รู้ไหมว่ามันอันตรายแค่ไหนน่ะห๊า!!!”

     

     

     

     

    อะไรว่ะ!! คนอุตส่าร์เป็นห่วง ( รถ ) มาตระโกนใส่หน้ากันอยู่ได้ แล้วฉันจะไปชมไอ้หมอนี่ทำไมว่ะ หน้าตาดี แต่ปากนี่ซิที่ต้องปรับปรุงเยอะมาก ชายหนุ่มร่างสูงตอบอย่างหาเรื่อง พร้อมปั้นหน้าดุใส่ร่างบางที่เดินมาขอโทษ ซึ่งตอนนี้ร่างบางก็ไม่อาจที่จะห้ามอารมณ์ความโกรธของตนเองได้แล้ว

     

     

     

     

    รู้เซ่!!! แต่นายต่างหากเล่าที่ขับรถไม่ดูตาม้าตาเรือบางเลย ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังจะเข้าโรงเรียนอยู่แล้ว แถมยังมีหน้ามาเบียดคนที่กำลังเลี้ยวเข้าโรงเรียนอีกหรอ ดีนะที่ฉันกับน้องน่ะไม่มีอันตราย ไม่งั้นฉันเล่นงานนายยับแน่

     

     

     

     

    ร่างบางว่าคนตรงหน้าด้วยความรวดเร็ว เพื่อไม่ให้คนที่อยู่ตรงหน้าเถียงได้แม้แต่คำเดียว ในขณะที่ชายตรงหน้าก็อึ้งอยู่สักพัก

     

     

     

     

    ปากดีนักนะ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ที่จะยับน่ะ เรื่องเงินน่ะ มันเล็กน้อยสำหรับฉันมากเลย

     

     

     

     

    หนุ่มร่างสูงพูดพลางยกคิ้วข้างเดียว เพื่อเป็นการยั่วให้อีกฝ่ายนึงโมโหเล่นๆ และท้าทาย

     

     

     

     

    ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ แถมยังยักคิ้วท้าทายอีกตั่งหาก ให้อภัยไม่ได้แล้ว อย่างงงงี้ต้องงงตายยย!!!’ ก่อนที่ร่างบางจะซัดหมัดเข้าปะทะหน้าอันหล่อเหลาของหนุ่มร่างสูงเข้า ฟ้าผู้เป็นน้องชายของร่างบางก็พูดขัดจังหวะขึ้นมาก่อน

     

     

     

     

    พอสักทีเถอะน่า พี่ฝันเรารีบไปกันเถอะ มันสายมากแล้วนะ

     

     

     

     

    ฟ้าพูดจบก็รีบดึงร่างบางขึ้นรถ แล้วขับรถออกไป เพื่อที่จะเข้าโรงเรียนทันที

     

     

     

     

    ฝากไว้ก่อนเถอะ อีตาบ้า!!!”

     

     

     

     

    ร่างบางตระโกนด้วยเสียงอันดังก้องออกไป จึงทำให้คนที่อยู่แถวๆนั้นต่างมองมาของ ร่างบาง และหนุ่มร่างสูง ฟ้าผู้เป็นน้องจึงรีบขับรถเข้าโรงเรียนไปอย่างรวดเร็ว เหอะฝากไว้ก่อนเถอะ อีตาโรคจิต ชิ~’

     

     

     

     

    ทางด้านของทีม

     

     

     

     

    น่าสนใจดีนี่ ถึงจะปากร้ายไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็น่าท้าทายดีจริงๆ แถมยังน่ารักด้วยแหะ

     

     

     

     

    ร่างสูงพูดเบาๆ เพื่อไม่ให้คนรอบข้างที่เดินผ่านไปผ่านมาในขณะนั้นได้ยินสิ่งที่เขาพูด ร่างสูงพูดแค่นั้นแล้วรีบขึ้นรถของเขา แล้วขับรถจากัวร์สีดำเข้าไปในโรงเรียนทันที



     

     

     

     

    คือว่า... ตอนนี้แต่งได้น้อยไปหน่อยอ่ะ ดี หรือม่ดียังไงก็เม้นมาบอกน้า เปงกามลางจัยหัยด้วยน้า... ฮึดๆ สูดลมหายใจเข้าลึก แล้ววว ชูมือขึ้นแร้วหมุนๆ   อ่า... ม่ะใช่แร้วล่ะ เอ้า!! เอาล่ะเตรียมตัวแต่งต่อดีกว่า ฮึดๆ  คร่อกกก~ <<< หลับคาคอมปัยเสียแร้ว



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×