คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4
“ใครโทรมาวะ” ผมงัวเงียขึ้นจากเตียง เอาแขนควานหาโทรศัพท์ที่ผมวางไว้ตรงโต๊ะวางโคมไฟข้างเตียง
“ฮัลโหล”
‘พี่น้ำตาล’ ผมเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูหน้าจอว่าใครโทรมา ไอ้น้องชายผมนี้เอง ว่าแต่มันโทรมาทำไมดึกๆดื่นๆนี้ก็ตั้งเที่ยงคืนกว่าแล้ว หรือจะมีเรืองด่วนอะไร
‘ปู่เรากับปู่โจ๊กกำลังจะไปหาพี่นะ’ มันเฉลยคำตอบที่ผมสงสัยออกมา หา! ปู่มาหาเหรอ
“ตอนนี้เนี่ยนะ!”
‘ก็ใช่น่ะสิ ออกจากบ้านตั้งแต่ตอนเย็น เกือบถึงคอนโดพี่แล้วอีกประมาณครึ่งชั่วโมง’
“เฮ้ย! ทำไมจู่ๆก็มาไม่บอกไม่กล่าวละ” คุณปู่ทั้งสองท่านมาเยี่ยมพวกผมบ้างเป็นครั้งคราวครับ แต่เวลาจะมาจะโทรมาบอกก่อนทุกครั้ง แล้วทุกครั้งที่ปู่มาไอ้เพ้งมันจะงดออกล่าเหยื่อยามราตรีเพราะมันกลัวโดนปู่โจ๊กด่า ซวยแล้วไงมันกลับห้องมายังเนี่ย ไม่เห็นมันตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว
‘ก็เห็นปู่โจ๊กบอกว่าอยากมาเซอร์ไพรส์วันเกิดพี่เพ้ง ตามจริงปู่ไม่ให้น้ำหวานบอกใครนะ แต่หวานรู้หรอกว่าพี่เพ้งชอบแอบเที่ยวเลยโทรมาเตือนก่อน’
เยี่ยมมากไอ้น้องชาย น้องผมมันเข้าใจครับว่าความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างผมกับไอ้เพ้งเป็นยังไง แต่ไอ้นี้มันไม่เคยเข้าข้างอะไรผมหรอกเพราะมันกับไอ้เพ้งไปแอบซี้กันตอนไหนไม่รู้ เห็นเวลาเจอกันทีไรคุยกันได้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย เวลาผมถามว่าคุยอะไรกันไอ้น้ำหวานมันก็หันมาบอกว่า คุยเรื่องของผู้ชาย แล้วกูไม่ใช่ผู้ชายเหรอไงวะ!
“ใครขับรถ หวานใช่ปะ”
‘จะใครละถ้าไม่ใช่หวาน มากันแค่สามคนสองคุณปู่กับหนึ่งหนุ่มหล่อ’ นี้มึงติดเชื้อหลงตัวเองมาจากไอ้เพ้งใช่ไหม
“งั้นพยายามขับช้าๆถ่วงเวลานะ ไอ้เพ้งมันอยู่ไหนก็ไม่รู้” ผมเดินมาเคาะห้องไอ้เพ้ง ไร้ซึ่งสัญญาณตอบรับ เลยเดินไปดูรองเท้าตรงชั้นวาง นั้นไง! รองเท้ามันไม่อยู่
ตืดดดดดดดดดด
ตืดดดดดดดดดด..ตืดดดดดดดดดดดดดดดด..ตู๊ดๆๆๆๆๆๆ
“โว้ยยยยยยยยยยย ไอ้บ้าเพ้งมัวทำอะไรอยู่วะไม่รับโทรศัพท์”
ผมกดปุ่มรัวกระหน่ำโทรไปหามันเป็นครั้งที่สิบได้แล้ว ที่ต้องโทรตามมันไม่ใช่ห่วงว่ามันจะโดนปู่โจ๊กด่าหรอกนะครับ แต่เวลาคืนวันศุกร์แบบนี้ไอ้เพ้งมันจะกลับเอาซะเช้า และสภาพที่กลับมานะ มันต้องมีรอยบ่งบอกความเป็นสตรีเพศตามเสื้อผ้ามัน ไม่ว่าจะเป็นรอยลิปสติก ไม่ก็กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิง บางครั้งถึงขนาดมีรอยข่วนกับรอยจ้ำๆตรงต้นคอ ถ้าปู่เห็นเป็นเรื่องสิครับ ไม่มันหรอกที่จะโดนซักคนเดียว ผมจะถูกเชิญเป็นผู้ให้ปากคำไปด้วย เรื่องมันจะวุ่นวายไปซะเปล่าๆ
ตืดดดดดดด..ตืดดดดดดดด..ตืดดดดดดด..
‘ฮัลโหล’ อ้า! รับแล้วๆ แต่ทำไมเสียงมันแปลกๆ
“เพ้ง..” ผมกรอกเสียงลงไปเพื่อความแน่ใจว่าคนที่ผมกำลังคุยด้วยใช่ไอ้เพ้งจริงๆรึเปล่า
‘เธอเป็นใคร’ ไม่ใช่ไอ้เพ้งนี้หว่า นี้มันเสียงผู้หญิงชัดๆ
“ผมเป็นเพื่อนเพ้งครับ..ขอคุยกับเพ้งหน่อยมีเรื่องด่วน”
‘เพ้งหลับไปแล้ว..อื้อออ..เพ้ง’ จะครางทำไมวะ
“ปลุกมันมาให้หน่อยครับ..เรื่องด่วนจริงๆ”
‘ก็บอกว่าเพ้งหลับไปแล้ว ไม่รู้เรื่องเหรอไง..อ๊ะ!..อื้ออ..เพ้ง!” เฮ้ยๆเสียงแบบนี้มัน..
‘ใครเหรอ..’ นั้นเสียงไอ้เพ้ง! ก็ไหนบอกว่าหลับไง
“ไอ้เพ้งๆ ไอ้เชี่ยเพ้ง!!!” ผมตะโกนลงไปในสาย
‘พวกโรคจิตน่ะค่ะ อย่าสนใจเลย ต่อกันดีกว่า’
ตู๊ดๆๆๆๆๆ
ตัดสายไปแล้ว! ฮึ่ย! กำลังเล่นจ้ำจี้กันอยู่นี้เอง ไอ้บ้าเอ้ย! ผมกระหน่ำโทรไปอีกรอบแต่ปรากฏว่ามันปิดเครื่องไปแล้ว ถึงคราวซวยของมึงแล้วไอ้เพ้ง จะหาว่ากูไม่ช่วยไม่ได้นะ ซักพักไอ้หวานก็โทรบอกให้ผมลงไปรับคุณปู่ข้างล่าง พอเจอหน้าผมสองคุณปู่กับหนึ่งหนุ่มหล่อก็พากันจ้องหน้าผม กว่าผมจะคิดได้ว่าหน้าผมมีอะไรผิดปกติรึเปล่าทำไมจ้องกันจัง ก็ตอนที่ปู่ผมถามนั้นละว่าหน้าไปโดนอะไรมา ไอ้ผมก็ลืมไปเลยว่าเพิ่งโดนไอ้พี่นุหมัดหนักซัดมาเมื่อเย็น เลยรีบโกหกไปว่าเดินสะดุดหน้าเลยไปฟาดกับประตู ปู่ผมมองผมแบบไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่คงไม่อยากถามอะไรมากเลยไม่ซักต่อ
“ไอ้เจ้าเพ้งมันหายไปไหนละ” พอมาถึงห้องปู่โจ๊กก็ถามหาหลานรักเลยครับ ผมก็ได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ เอาไงดีวะ
“ยังไม่กลับครับ”
“ดึกขนาดนี้เนี่ยนะ!”
“อ๋อ..เอ่อ..อาจไปค้างบ้านเพื่อนมั้งครับ ช่วงนี้เห็นบ่นว่างานเยอะ” กูอุตส่าห์ผิดศีลห้าข้อสี่เพื่อช่วยมึงเลยนะไอ้เพ้ง
“เอาน่าๆ..เดี๋ยวหลานมันก็มา เราก็มาไม่ได้บอกก่อนเองนั้นแหละ” ปู่ชาของผมเดินไปตบไหล่ปู่โจ๊กให้ใจเย็นๆ ดูหน้าปู่โจ๊กก็รู้ครับว่าท่านคงเป็นห่วงไอ้เพ้งที่ดึกป่านนี้แล้วยังไม่กลับ นี้ถ้าปู่โจ๊กรู้ความจริงว่ามันไปทำอะไรนะ ไอ้เพ้งโดนเละ
“เดี๋ยวปู่เข้าไปนอนพักผ่อนก่อนนะครับ” ผมเดินพาปู่ทั้งสองไปนอนพักผ่อนในห้องผม ปกติถ้าปู่มาค้างด้วย ผมต้องอพยพโยกย้ายไปนอนห้องไอ้เพ้งครับ เคยโดนปู่ถามเหมือนกันว่าทำไมไม่นอนห้องเดียวกัน ไอ้เพ้งมันก็ตอบแบบสุภาพบุรุษไปว่า มันต้องอยู่ทำงานดึกๆกลัวผมจะนอนไม่หลับ ปู่เลยไม่สงสัยอะไรอีก
“หวานไปนอนพักไป ขับรถมาเหนื่อย เข้าไปนอนห้องไอ้เพ้งแล้วกัน” ผมเอากุญแจสำรองไปไขห้องไอ้เพ้ง ให้หวานเข้าไปนอน ไอ้หวานมันก็ชอบมาเล่นกับผมบ่อยๆครับเวลามีวันหยุด ที่นอนมันก็ห้องไอ้เพ้งบ้างห้องผมบ้าง
“ตามพี่เพ้งไม่ได้เหรอพี่” ไอ้หวานมันถาม พลางกระโดดล้มตัวลงไปนอนบนเตียง
“โทรไปเป็นสิบรอบแล้ว..แต่สาวมันรับ..แบบว่ากำลังเล่นจ้ำจี้กันอยู่ แล้วก็ตัดสาย พี่ช่วยได้แค่นี้แหละ ให้มันหาข้ออ้างกับปู่เองแล้วกัน” ไอ้น้ำหวานมันผิวปากมองผมยิ้มๆ ผมเลยหันไปค้อนมัน รู้ครับว่าอาการแบบนี้มันกำลังจะแซวผม
“หึงใช่ปะละ หน้าบึ้งเชียวตอนพูดน่ะ”
“หึงบ้าอะไร อย่างไอ้เพ้งไม่มีค่าควรแกการหึงหวงหรอก นอนได้แล้ว ห่วงกันจริงนะไอ้เพ้งน่ะ กูเป็นพี่แท้ๆละไม่เคยเข้าข้าง” ผมเขกหัวไอ้น้องชายไปหนึ่งที ขณะสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มเอนตัวลงนอนข้างๆไอ้น้ำหวาน ที่บ้านที่ต่างจังหวัดผม เนื่องจากบ้านเราพื้นที่ไม่มาก ผมกับไอ้หวานเลยต้องนอนห้องเดียวกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้วครับ พอได้มานอนกับน้องแบบนี้อีกทำให้คิดถึงบ้านยังไงไม่รู้
“พี่น้ำตาล..” ผมกำลังจะหลับไอ้หวานก็เอามือมาสะกิด มันมองหน้าผมเหมือนจะถามอะไรแต่ก็ไม่ยอมพูด อาการแบบนี้มีเรื่องเดียวแหละที่มันจะถาม
“ไอ้แทนสบายดี” ผมตอบมันพลางขำกับหน้าไอ้หวานที่แม้จะอยู่ในความมืดแต่ผมว่ามันต้องแดงแน่ๆ ตั้งแต่ที่ผมเรียนปีหนึ่งตอนไอ้หวานมาเยี่ยมผมแล้วเจอไอ้แทน มันก็เอาแต่พูดถึงไอ้แทนให้ผมฟังไม่หยุดว่า พี่แทนน่ารักอย่างนู้น พี่แทนน่ารักอย่างงี้ แล้วทุกครั้งที่มันมาเยี่ยมผม จะมีคำถามเกริ่นเป็นเชิงบอกผมว่าอยากเจอไอ้แทนคือ ‘พี่แทนสบายดีมั้ย’
“รู้ได้ไงว่าหวานจะถามถึงพี่แทน” ทำมาเป็นกลบเกลื่อน สายตามันฟ้อง เวลามันจะพูดถึงไอ้แทนทีไรตามันจะเยิ้มๆ
“ไม่รู้เลยมั้ง..ทำหน้าเคลิ้มฝันซะขนาดนั้น บอกกี่ครั้งแล้วว่ามันมีแฟนแล้ว รักกันมากด้วย แล้วไอ้แทนไม่ชอบเด็ก” ผมบอกประโยคนี้ให้น้องผมฟังไม่ต่ำกว่าสิบครั้งแล้วครับ ทำไมจะไม่รู้ว่าไอ้น้ำหวานมันชอบไอ้แทน ผมก็อยากเชียร์นะ แต่ทำไงได้ไอ้แทนมันมีแฟนแล้ว และมันยังเคยบอกผมด้วยว่าคนที่มันจะคบต้องเป็นผู้ใหญ่กว่า แต่ไอ้น้ำหวานมันแค่เด็กมอห้า มอห้ากับปีสอง อายุน้อยกว่าตั้งสามปี แต่เรื่องที่ไอ้หวานชอบมัน ไอ้แทนไม่รู้หรอกครับ มันแค่คิดไปในทางหลงตัวเองว่ามันมีความเป็นพี่ดีกว่าผมหวานเลยชอบคุยด้วย
“จะบอกทำไม..ไม่ได้จะจีบพี่เขาซะหน่อย..” มันทำหน้าบึ้งก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้ผม ไอ้เด็กปากแข็งเอ้ย!
“พี่น้ำตาลๆ..ตื่นๆๆ” ผมกระพริบตาปริบๆเพื่อปรับแสงให้ชินกับแสงของดวงอาทิตย์ยามเช้าที่สาดเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดทิ้งเอาไว้ระบายอากาศ
“เร็วๆเลยพี่..งานเข้าพี่เพ้งแล้ว”
น้ำหวานมันลากผมลงมาจากเตียง ผมก็สลึมสลือเดินตามมันไป แต่พอออกมานอกห้องภาพที่เห็นทำเอาผมตื่นเลยละครับ ก็ปู่โจ๊กกำลังจ้องไอ้เพ้งตาเขม่งด้วยสายตาที่ผมไม่คิดว่าคนใจดีๆอย่างปู่โจ๊กจะทำหน้าดุแบบนั้นได้ ส่วนไอ้คนถูกจ้องก็หน้าซีดยืนค้างมองปู่มันอย่างตกใจด้วยสภาพที่แบบว่า..
ไอ้เพ้งเอ๊ย! มึงจะช่วยจัดการกับสภาพร่างกายมึงให้เรียบร้อยก่อนกลับได้ไหม เสื้อเชิ้ตสีขาวที่มันใส่เที่ยวมีรอยลิปสติกเต็มไปหมด แล้วกระดุมน่ะก็ช่วยติดให้มันครบหน่อยเถอะ จะเปิดแหวกอกทำไม เห็นรอยจ้ำๆแดงๆ กับรอยข่วนหมดแล้ว!
ใครไม่รู้ว่ามันไปทำอะไรมาก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ ยิ่งเจอคุณปู่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนตั้งหลายปี จะเอาข้อแก้ตัวอะไรมาอ้างก็ไม่พ้น
“เข้าไปคุยกับปู่ในห้อง” ปู่โจ๊กพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ แต่ผมว่ามันน่ากลัวจนขนลุก ปู่ผมเดินไปบอกให้ปู่โจ๊กค่อยๆพูดกับไอ้เพ้ง แต่ปู่โจ๊กก็ยกมือห้ามเป็นเชิงว่า เรื่องนี้อย่าเพิ่งยุ่ง
เสร็จแน่ๆไอ้เพ้ง ปู่โจ๊กถึงจะใจดีแต่เวลาดุก็ดุซะจนน่ากลัวครับ ผมว่าอารมณ์นิสัยคงคล้ายๆปู่ชาของผม ถ้าเราทำตัวดีท่านก็จะใจดีเอ็นดูเรา แต่ถ้าเราทำผิดท่านก็ต้องสั่งสอนเราไปตามหน้าที่
“น้ำตาล..มึง..” ไอ้เพ้งมันเดินเข้ามาจะคุยกับผมด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
“ตามมาเดี๋ยวนี้!..ไม่ต้องหาตัวช่วย” มันชะงักแล้วจำใจเดินตามปู่โจ๊กเข้าไปในห้อง
เฮ้อ..โชคดีว่ะเพ้ง กูพยายามช่วยมึงแล้วนะ แต่คิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน ให้ปู่โจ๊กเทศน์มันซะให้มันเข็ดไม่กล้าเที่ยวอีกเลยก็ดี ผมก็ไม่รู้สึกชอบใจเท่าไหร่หรอกนะที่รู้ว่ามันไปกับผู้หญิงคนอื่นน่ะ เป็นคุณจะทำใจได้ไหมละถ้ารู้ว่าสามีไปนอนกับคนอื่น! นี้ผมไม่ได้หึงไอ้เพ้งมันนะ แค่ทำตามหน้าที่ภรรยาที่ดีว่าควรจะรู้สึกยังไงเท่านั้นเอง
“น้ำตาลมาช่วยปู่ชงกาแฟหน่อยลูก” ปู่เรียกผมที่กำลังมองตามหลังไอ้เพ้งเดินตามปู่โจ๊กไป ผมหันไปยิ้มให้ปู่นิดๆ ก่อนจะเดินตามเข้าไปในครัว ผมนั่งมองปู่ตักตวงส่วนผสมใส่แก้วระหว่างรอน้ำที่ต้มอยู่ให้เดือด
“สบายดีไหม” ปู่ถามแต่สายตายังจ้องอยู่ที่ผงกาแฟ
“สบายดีครับ ปู่ไม่ต้องห่วง”
“แล้วกับเพ้งละ”
“ก็..ต่างคนต่างอยู่” ผมตอบไปตามความจริง ปู่เดินไปยกกาน้ำร้อน รินน้ำร้อนใส่แก้วที่ผสมกาแฟไวแล้วส่งให้ผม
“มีอะไรรึเปล่าครับ” ผมเงยหน้าถามปู่ที่กำลังมองหน้าผม ยิ้มๆ
“ไม่แปลกใจเหรอไงว่าทำไมปู่ถึงให้น้ำตาลกับเพ้งแต่งงานกัน ทั้งๆที่เป็นผู้ชายทั้งคู่”
“สงสัยสิครับ แต่ปู่ก็บอกแล้วนิว่าอยากให้ทวดหมดห่วง”
เหตุผลที่ผมกับไอ้เพ้งต้องแต่งงานกัน ที่สำคัญอีกประการคือ คุณปู่ทั้งสองบอกว่าฝันเห็นทวดของผมกับทวดของไอ้เพ้ง บอกว่ายังห่วงเรื่องที่เคยสัญญากันไว้แต่ก็ไม่เป็นจริงซักที ด้วยความจงรักภักดีต่อบรรพบุรุษอยากให้ท่านทั้งสองหมดห่วงเพื่อจะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่านี้ ผมกับไอ้เพ้งเลยยอมแต่งงานกัน ผมก็ไม่ค่อยเชื่อหรอกนะครับ แต่เพื่อความสบายใจของผู้อาวุโสเลยต้องยอม
“ฮ่าๆๆ..เชื่อเหรอ” ปู่ผมหัวเราะพร้อมกับเอามือโยกหัวผมไปมาพลางพูดเบาๆว่า เด็กๆนี้หลอกง่ายจริง
“เดี๋ยวๆ..ปู่..หัวเราะอะไร แล้วหลอกอะไร..” ปู่ไม่ตอบเอาแต่นั่งหัวเราะ ตกลงปู่มีอะไรปิดผมกันแน่ ชักจะเริ่มไม่ไว้ใจ
“อยากรู้รอซักครู่..ให้ปู่โจ๊กจัดการหลานเขาเสร็จก่อน” ปู่เอามือจุ๊ปากเหมือนเรื่องที่ผมอยากรู้มันเป็นความลับสำคัญระดับชาติ
“ขอตัวนะครับ” ผมบอกปู่พร้อมกับลุกออกจากห้องครัวเมื่อโทรศัพท์ที่สอดไว้กับกระเป๋ากางเกงสั่น ครืดๆ หยิบมาดูนึกว่าใครที่ไหนไอ้เพื่อนหน้าหวานของผมเอง
“โทรมาทำไมแต่เช้า” ผมกรอกเสียงลงไปทางโทรศัพท์ ไอ้คนปลายสายบ่นเสียงหงุงหงิง
‘โทรไม่ได้เหรอไง’ แน่ะ ทำเป็นงอน อะๆ ง้อมันหน่อย
“ไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่กระผมอยากทราบว่าคุณแทนมีเรื่องด่วนอะไรรึเปล่า”
‘ก็..คือ..’
“มีไรวะแทน” ผมถามอย่างเป็นห่วง คนอย่างไอ้แทนถ้าอึกอักจะพูดแบบนี้แสดงว่ามีเรื่องไม่สบายใจ
‘มึงว่างปะวันนี้’
“ปู่กูมาว่ะ”
‘อ้อ..เอ่อ..งั้นไม่เป็นไร อยู่กับปู่มึงนั้นละ นานๆท่านจะมาที ไว้เจอกันวันจันทร์ บาย’
“เฮ้ย! แทน เดี๋ยวๆ” ผมมองจอโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไปอย่างกังวล ปกติไอ้แทนมันเป็นคนร่าเริงถึงขั้นเกือบบ้าได้ทุกสถานการณ์ แต่วันนี้มันแปลกๆ หวังว่าคงไม่เป็นอะไรมากหรอกนะ
“เพ้ง มาดื่มกาแฟร้อนๆสิลูก ปู่ชงไว้ให้” ผมหันไปตามเสียงที่ปู่ผมเรียกไอ้เพ้ง ถึได้งรู้ว่ามันโดนปู่โจ๊กเทศน์มาเสร็จแล้ว มันหันไปขานรับปู่ผมพร้อมกับยิ้มให้อย่างสุภาพ แต่ยังสู้อุตส่าห์ปั้นหน้าเป็นยักษ์แยกเขี้ยวใส่ผมตอนที่เดินผ่าน
“น้ำตาล ปู่ขอคุยด้วยหน่อย” ปู่โจ๊กที่เดินตามไอ้เพ้งออกมาเดินมาตบบ่าผมเบาๆ พร้อมกับยิ้มให้ ผมพยักหน้าแล้วเดินตามท่านไปนั่งที่โซฟาหน้าทีวี
“เอ้า! ทำไมลงไปนั่งข้างล่าง” ปู่โจ๊กถามเมื่อเห็นผมลงไปนั่งกับพื้นบนผ้านุ่มๆที่ผมปูเอาไว้ประจำ ผมได้แต่หัวเราะแหะๆ อ้างว่ามันสบายกว่าก่อนจะยันตัวขึ้นไปนั่งข้างคุณปู่บนโซฟาที่นั่งประจำไอ้เพ้งมัน ลืมตัวไปเลยว่าไม่ได้อยู่กับไอ้เพ้งแค่สองคน
“มีอะไรรึเปล่าครับปู่”
“เรื่องที่ให้น้ำตาลแต่งงานกับเพ้ง” ผมได้แต่มองหน้าปู่ รอว่าท่านจะพูดอะไรต่อไป รอไปซักพักก็ยังไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากคุณปู่ มีแค่เสียงถอนหายใจเหมือนกับกังวลอะไรบางอย่างอยู่
“น้ำตาลอยู่กับเพ้งสบายดีครับ ไม่อึดอัดอะไร” ผมบีบแขนนวดให้ปู่โจ๊กผ่อนคลายพร้อมกับฉีกยิ้มเป็นการยืนยันว่าการที่ผมมาอยู่กับไอ้เพ้งไม่ได้ลำบากแต่ประการใด
“เหตุผลที่ให้แต่งงาน..”
“จริงๆแล้วคงไม่ใช่เรื่องวิญญาณคุณทวดใช่ไหมครับ..เอ่อ..ขอโทษครับ” ผมต่อประโยคให้ปู่โจ๊ก ลืมนึกไปเลยว่าเสียมารยาทที่พูดแทรกผู้ใหญ่ เลยรีบขอโทษ
“ไอ้ชาคงเปรยๆให้ฟังแล้วสินะ” ผมพยักหน้า ตอนนี้อยากรู้แล้วว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ผมกับไอ้เพ้งต้องมาแต่งงานกัน
“จริงๆแล้วเหตุผลที่ปู่วางแผนให้เพ้งแต่งงานกับน้ำตาล มันออกจะเป็นเหตุผลที่เห็นแก่ตัว” ปู่เหม่อไปทางครัวที่ไอ้เพ้งนั่งดื่มกาแฟอยู่กับปู่ชาแล้วก็ไอ้หวาน ก่อนจะพูดต่อ
“ปู่รู้มาว่าไอ้เพ้งมันค่อนข้างดื้อ ก็ดูอย่างวันนี้สิ กลับบ้านมาตอนเช้า แล้วสภาพก็แบบว่าคนอาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างปู่รู้อยู่แล้วว่ามันไปทำอะไรมา ก็เข้าใจนะว่าเด็กผู้ชายก็แบบเนี่ย แต่อย่างไอ้เพ้งนี้มันมากไป ปู่กลัวมันจะไปพลาดทำใครเขาท้อง” ปู่โจ๊กพูดแค่นั้นแล้วก็มองหน้าผม คล้ายๆเป็นการให้ผมระลึกเอาเองว่าเหตุผลที่ปู่ให้ไอ้เพ้งแต่งงานกับผมคืออะไร ซึ่งผมก็พอจะเดาๆออก
“ก็เลยให้ผมแต่งงานกับเพ้ง เพื่อที่มันจะได้หยุดเที่ยวงั้นเหรอครับ” ปู่โจ๊กส่ายหน้า
“คนอย่างไอ้เพ้งมันไม่หยุดง่ายๆหรอก ขนาดปู่เคยว่ามันไปแล้วหลายรอบ มันก็ฟังปู่นะแต่ไม่เคยทำตาม ฮ่าๆ” ขนาดปู่มันยังไม่ฟัง คู่กัดอย่างผมมีเหรอมันจะฟัง
“ที่ปู่ให้เพ้งแต่งงานกับน้ำตาลน่ะ เพราะจะให้น้ำตาลช่วยดูๆมันให้หน่อย คอยปรามๆมันบ้าง เป็นหูเป็นตาให้ปู่หน่อย ถ้าทำให้มันเลิกนิสัยที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้จะดีมากๆ” อ้อ เป็นอย่างงี้นี้เอง ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่าทวดเกิดอยากจะไปเกิดอะไรตอนรุ่นพวกผม อันที่จริงผมว่าบรรพบุรุษของผมไปเกิดตั้งนานแล้วละครับ
“น้ำตาลคงห้ามอะไรมันไม่ได้หรอกครับ แต่ก็จะคอยเป็นหูเป็นตาให้ปู่แล้วกัน” ผมยิ้มให้ปู่โจ๊กสบายใจ
“ขอบใจน้ำตาลมากนะ ลำบากน้ำตาลแท้ๆ แต่เรื่องนี้เหยียบให้มิด อย่าให้ไอ้เพ้งมันรู้เชียวนะ”
“แน่นอนครับ” ผมยิ้มอย่างมีความสุข ที่มีความสุขเพราะอะไรเหรอครับ ปู่โจ๊กพูดถึงขนาดนี้ก็แสดงว่าผมสามารถคอนโทรลไอ้เพ้งมันได้โดยมีคุณปู่ชักใยอยู่เบื้องหลัง โดยที่ไอ้เพ้งมันไม่รู้ตัว ฮ่าๆ แค่คิดจะดัดนิสัยมันก็สนุกแล้ว ปู่มึงขอกูมาเองนะเพ้ง หลานสะใภ้ที่ดีอย่างกูก็ต้องสนอง
..รักไม่บังคับใจ..
ความคิดเห็น