ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักไม่บังคับใจ(yaoi)

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 55


     









                     ผมถอนหายใจออกมาอีกสองสามรอบเมื่อคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา  อายุสั้นลงไปอีกกี่ปีก็ไม่รู้  เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับร่างของไอ้เพ้งที่ออกมาในชุดเสื้อเชิ้ตคอปกสีดำตัดกับผิวขาวๆของมันพร้อมกับกางเกงยีนขาเดฟอวดเรียวขายาว

                     มันเดินผิวปากหวือมานั่งแหมะบนโซฟาหน้าทีวี  โดนมีผมนอนอยู่บนผ้าที่ปูตรงพื้นหน้าโซฟานั้นละ  มันเหมือนเป็นที่ประจำของพวกผมไปแล้วละครับ  เวลาดูทีวีไอ้เพ้งมันจะนั่งที่โซฟาส่วนผมจะเอาผ้ามาปูนอนดูทีวี  ดูเหมือนแบ่งชนชั้นแต่มันเป็นความชอบส่วนตัวแล้วก็ความสบายใจส่วนบุคคลด้วยครับ 

                    “รีบไปเปลี่ยนเสื้อเลยมึงจะหนึ่งทุ่มแล้ว  มันเอาเท้ามาเขี่ยๆตัวผมพร้อมกับแย่งรีโมทไปกดเปลี่ยนช่อง 

     

                    “เอ๊ะ! ไอ้น้ำตาล  หูหนวกเหรอไง  บอกให้ไปเปลี่ยนเสื้อ  มันดึงผ้าห่มที่ผมเอาขึ้นมาคลุมโปงออก  ผมจิ๊ปากใส่มันก่อนจะยอมดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน

     

                    “ทำไมกูต้องช่วยมึงด้วย  ไหนมึงลองบอกมาสิว่ามันใช่ธุระอะไรของกูไหมที่ต้องไปหลอกว่าเป็นแฟนมึง  เพื่อให้สาวที่มาติดมึงหนีไปน่ะ 

     

                    ผมกระโดดขึ้นไปนั่งข้างๆมันบนโซฟา  วันนี้มันบอกให้ผมไปช่วยหลอกว่าเป็นแฟนมันกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มาติดมัน  ไอ้เพ้งมันเป็นพวกไปทั่วน่ะครับ  ใครเข้ามามันเล่นด้วยหมดแต่มันไม่จริงจังกับใครซักคน  ถ้ามีใครมาติดเนี่ยเป็นต้องเดือดร้อนผมทุกที  ตั้งแต่มาอยู่กับมันผมต้องปลอมเป็นแฟนมันมาสามครั้งแล้ว  และสิ่งตอบแทนที่ผมได้น่ะเหรอ..

     

                    “กูทำความสะอาดห้องให้หนึ่งอาทิตย์ 

     

                    นี้ละครับค่าจ้างของผม  ไม่ต้องทำความสะอาดตั้งหนึ่งอาทิตย์สบายจะตาย  ปกติผมกับมันจะแบ่งกันทำความสะอาดห้องคนละอาทิตย์ครับ

     

                    “ออ! อีกอย่างมึงเป็นภรรยากูถึงจะในนามก็เหอะ  ต้องมีหน้าที่ไปแย่งสามีกลับคืนมาไง

     

                    “หลงตัวเองเหอะ!  สามีอย่างมึงใครอยากได้เอาไปเลย  กูยกให้  ผมเบะปากใส่มัน 

     

                    “แล้วไอ้บ้าที่ไหนวะเดินมาบอกชอบกู  ปากไม่ตรงกับใจนะมึง  มันเอามือมาผลักหัวผมพลางยิ้มอย่างภาคภูมิใจ  โคตรจะหลงตัวเองเลย

     

                    “บอกแล้วไงตอนนั้นกูหูหนวกตาบอด  ราหูครอบงำเลยเห็นกงจักรเป็นดอกบัว 

     

                    “นี้มึงด่ากูนิ!

                   

                    “เออดิวะ!  แค่นี้ก็ไม่รู้โง่นี้หว่า

     

                    “เฮ้ย!” 

     

                    จะไม่ให้ตกใจได้ไงครับ  ก็ไอ้บ้าเพ้งมันเล่นกระโดดมาทับตัวผมแถมยังกอดผมซะแน่น  แล้วยังยื่นหน้ามาใกล้กับหน้าผมจนจมูกแทบจะชนกันอยู่แล้ว  ดวงตาคมๆของมันจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของผม  ใบหน้าของคนที่ผมแอบชอบมาเกือบปีอยู่ใกล้แค่นี้ทำเอาใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ  ถึงจะบอกว่าไม่ชอบมันแล้วแต่เวลามันอยู่ใกล้ขนาดนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยละครับว่าผมก็แอบเขินเหมือนกัน

     

                    “พะ..เพ้ง  ผมรีบร้องเตือนสติมันเมื่อไอ้เพ้งค่อยๆยื่นหน้าของมันเข้ามาใกล้ผม  แต่เหมือนเสียงของผมจะไม่ทำให้มันรับรู้เลยเพราะนอกจากมันจะไม่หยุดยื่นหน้าเข้ามาหาผมแล้วมันยังเอามือมาลูบแก้มผมเบาๆอีก  หน้าผมร้อนไปหมดแล้วละครับ  และไม่รู้ว่าด้วยสัญชาตญาณหรืออะไรทำให้ผมเผลอหลับตาลง

     

                    ..ป๊อก!..

     

                    “โอ๊ย!

     

                    “ฮ่าๆๆๆ..เคลิ้มเลยดิมึง  ยังชอบกูอยู่ก็บอกมาเหอะ 

                   

                    ผมได้แต่ลูบหน้าผากตัวเองที่ถูกไอ้เพ้งมันดีดพลางมองหน้าไอ้ตัวต้นเหตุที่กำลังหัวเราะอย่างเคียดแค้น  ฮึ่ย!  เผลอเคลิ้มไปตามมันได้ไงวะ

     

                    “บอกว่าไม่ชอบก็ไม่ชอบดิ!”  ผมรีบค้าน  ไม่อยากให้มันได้ใจครับ  ไอ้นี้ยิ่งชอบหลงตัวเองอยู่

     

                    “เออๆ..กูไม่เซ้าซี้ละ  อย่ามัวโอ้เอ้รีบๆไปแต่งตัว  เดี๋ยวไปไม่ทัน  มันพูดตัดบทก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับรายการในทีวี  ผมเลยได้แต่หายใจฟึดฟัดขัดใจเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อ 

                    “เพ้งกูถามไรหน่อยดิ  ผมหันไปถามไอ้เพ้งที่มันกำลังควบคุมพวงมาลัยขับรถอยู่  รถนี้คุณปู่ทั้งสองก็ออกให้อีกละครับ  แต่พวกผมนานๆใช้ทีเพราะน้ำมันมันแพง  อย่างเวลาไปมหาลัยพวกผมก็จะขึ้นรถเมล์ไปครับประหยัดไปได้เยอะ

     

                    “มีไร  ถ้าจะถามว่ากูพิศวาสมึงบ้าง”ฆฒคำตอบคือไม่มีวันซะละ  มันหันมายักคิ้วพร้อมกับยิ้มกวนๆให้ผม 

                   

                    นี้ถ้าไม่ติดว่ามันขับรถอยู่ผมจะกระโจนไปบีบคอมันให้ตายคามือผมไปเดี๋ยวนี้ละ  คนอะไรไม่รู้จะพูดจะคิดอะไรสำคัญตัวเองไปซะหมด

     

                    “มึงนี้จะเลิกหลงตัวเองซักวินาทีก็ไม่ได้เนอะ  กูแค่สงสัยว่า  มึงเกลียดพวกแบบ..เอ่อ..แบบกูอะ  ที่มึงบอกมึงไม่ชอบพวกผิดเพศ  แล้วมึงจะให้กูแกล้งเป็นแฟนมึงเนี่ยนะ

     

                    “มันเป็นวิธีที่จะสลัดเหยื่อได้ง่ายกว่า  ถ้ากูหาผู้หญิงมาแกล้งเป็นแฟนกู  เหยื่อก็ยังอาจจะสู้คิดแย่งกูกลับไป  แต่ถ้าเอามึงมาแกล้งเป็นแฟน  เหยื่ออาจจะรับไม่ได้ที่กูคบกับผู้ชายแล้วยอมปล่อยกูไป  แค่นี้ก็คิดไม่ได้นะมึงเนี่ย  เรื่องชั่วๆแบบนี้มีแต่มึงนั้นแหละที่คิดได้คนเดียว

     

                    ไอ้เพ้งพาผมเดินเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่งบรรยากาศก็ค่อนข้างดีครับ  เหมาะแกการมานั่งเดท  ผมมองดูรอบๆเห็นคู่รักหนุ่มสาวมานั่งทานอาหารกันก็ค่อนข้างเยอะ  ไอ้เพ้งมันคุยโทรศัพท์คงถามเหยื่อมันนั้นละว่านั่งอยู่ตรงไหน  ผมหันไปทางทิศที่มันโบกมือให้ผู้หญิงคนหนึ่ง  แต่พอเห็นหน้าเหยื่อมันเท่านั้นละผมรีบดึงแขนมันไว้ทันที

     

                    “เพ้ง  คนนี้กูขอบายวะ  ผมบอกมันพลางเพ่งมองหน้าเหยื่อไอ้เพ้งอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าผมไม่ได้จำผิดคน 

     

                    “เป็นอะไร

     

                    “ก็เหยื่อมึงคนนี้น่ะ  น้องคณะกู 

     

                    “แล้วไง  ดูมันถาม  ไม่ได้จะตระหนักถึงความวุ่นวายที่จะตามมาเลยนะมึง

     

                    “ก็เรียนคณะเดียวกันถึงจะคนละปีก็เถอะ  มันต้องมีโอกาสเจอกันบ้างสิวะ  เกิดน้องเจอกูขึ้นมาไม่ซวยเหรอ  นี้ละครับที่ผมกังวล  ผู้หญิงรายก่อนๆที่ผมไปหลอกให้ไอ้เพ้งมีแต่อยู่คนละคณะกับผมไม่ก็อยู่คนละมหาลัย

     

                    “คณะมึงคนเยอะจะตาย  กูว่าน้องเขาไม่รู้จักมึงหรอก  มึงแค่คนธรรมดาๆไม่ได้ป๊อปขนาดจะมีคนมารู้จัก 

     

                    คิดอีกทีก็จริงของมัน  คณะผมคนเยอะมากครับโอกาสเจอกันคงยาก  แล้วที่มันบอกว่าน้องคงไม่รู้จักผมก็น่าจะถูก  แต่ที่ผมรู้จักน้องเพราะน้องคนนี้ผมจำได้ครับว่าเป็นรองดาวคณะ  ดูไอ้เพ้งมันสอยมาแต่ละคนดิมีแต่ระดับเกรดเอบวกๆๆๆๆ  คนก่อนๆของมันเนี่ยนางฟ้าทั้งนั้นครับ

                    “เอ๋  หรือว่ามึงห่วงกู  กลัวว่าความจะแตกแล้วน้องเขาจะมาติดกูอีก  มันหันมายิ้มให้ผม  โอ้ยๆๆ สาบานได้ตั้งแต่เกิดมาจะยี่สิบปียังไม่เคยเห็นใครคนไหนที่หลงตัวเองเท่ามันมาก่อน

     

                    “กูกลัวน้องเขาจะไปทึ้งฉีกอกกูถึงคณะน่ะสิ  ภาพพจน์กูเสียหมด

     

                    “ไม่มีไรหรอกน่า  มึงแค่ไปนั่งเงียบๆอยู่เฉยๆเหมือนครั้งก่อนๆ  เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง  มันเอามือมาโอบไหล่ผมแล้วเดินตรงไปหาเหยื่อของมัน  ผมปัดมือมันออกจากไหล่เพราะสังเกตว่าโต๊ะข้างๆเริ่มมอง  แต่ไอ้บ้าเพ้งมันก็หันมาด่าบอกว่าเดี๋ยวไม่เนียนแล้วก็เอามือมาโอบเอวผมซะแน่น

     

                    “ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ  ไอ้เพ้งมันรีบเปลี่ยนร่างจากซาตานเป็นเทพบุตรแบบที่ผมเคยหลงผิดมาก่อน

     

                    “ไม่เป็นไรค่ะ  สำหรับพี่เพ้งนานแค่ไหนฝ้ายรอได้  น้องฝ้ายฉีกยิ้มหวานเยิ้มให้ไอ้เพ้ง  แหวะ!  อย่าไปพูดให้มันหลงตัวเองไปมากกว่านี้เลยครับน้อง  ไอ้นี้น่ะมันซาตานชัดๆ  อย่าได้เห็นผิดเป็นชอบ

     

                    “แล้วนั้น..”  น้องฝ้ายมองมาที่ผมแต่ผมว่าน้องมองไปที่มือไอ้เพ้งที่กำลังโอบเอวผมมากกว่า

     

                    “อ้อ..นี้น้ำตาล  เพ้งมันแนะนำผมให้เหยื่อของมันรู้จักพลางเลื่อนเก้าอี้ให้ผมนั่ง  น้องฝ้ายมองผมแปลกๆ  น้องเขาคงคิดได้ว่าผู้ชายเลื่อนเก้าอี้ให้กันนั่งมันปกติซะที่ไหน

     

                    “สวัสดีครับน้องฝ้าย  ผมฉีกยิ้มไปให้น้องเขา  น้องแค่ยิ้มตอบแล้วพยักหน้าให้นิดๆ

     

                    “สั่งอาหารกันดีกว่านะครับ  ไอ้เพ้งมันยกมือเรียกขอเมนูจากพนักงาน

     

                    “น้ำตาลกินอะไร..เอาต้มยำไหม  เอ๋..  แต่น้ำตาลกินเผ็ดไม่ค่อยได้นิ 

     

                    ไอ้เพ้งมันเริ่มทำตามแผนของมัน  โดยการเปิดเมนูแล้วชวนผมกินนั้นกินนี้  แต่ขอโทษเถอะ  กูกินเผ็ดไม่ได้ตอนไหนวะไอ้เพ้ง  มึงนี้แหลไปได้ตลอดจริงๆ

     

                    “ไม่เป็นไรถ้าเพ้งอยากกินก็สั่งมา  น้ำตาลพอทานได้  เป็นไง  ผมก็เล่นละครเก่งเหมือนกันนะครับ  เพื่อความแนบเนียน  เพราะจากครั้งก่อนๆไอ้เพ้งมันบอกว่าให้มันเหนื่อยอยู่คนเดียวผมไม่ช่วยอะไรมันเลย  มันเลยลดค่าจ้างผมเหลือแค่มันทำความสะอาดให้ห้าวัน  ดูสิครับว่ามันขี้โกงขนาดไหน

     

                    “จะดีเหรอเดี๋ยวน้ำตาลก็แสบท้องอีก  เพ้งเป็นห่วง  มันทำเสียงนุ่มๆเล่นเอาผมเกือบเคลิ้ม 

     

                    “เอาต้มยำทะเล  ผัดฉ่าหอยลาย  ผัดกระเพราะหมูกรอบ  ผัดเผ็ดปลาช่อน 

                    น้องฝ้ายหันไปสั่งอาหารกับพนักงาน  ฟังจากเสียงสั่งเหมือนเธอจะไม่ค่อยพอใจ  ผมเลยเงยหน้าจากเมนูอาหารขึ้นไปดูซะหน่อย  พอเห็นหน้าน้องฝ้ายผมแทบอยากจะมุดหายเข้าไปในเมนูอาหาร  น้องเขาเล่นมองผมซะตาขวาง  แต่พอไอ้เพ้งเงยหน้าไปมองกลับฉีกยิ้มซะหวาน  น้องเขาคงหมั่นไส้พวกผมน่ะครับว่ากะอีแค่ต้มยำถ้วยเดียวนี้ก็หยอดกันซะต้มยำจะหวานแล้ว  ดูเมนูที่น้องสั่งแต่ละอย่างเผ็ดๆทั้งนั้น  ผมไม่ได้โง่ขนาดไม่รู้ว่าน้องเขาจงใจแกล้งผมหรอก  แต่ขอโทษอาหารรสชาติอะไรผมกินได้หมด ฮุๆ

     

                    “เอาต้มยำทะเลอีกที่ไม่เผ็ดนะครับแฟนผมเขากินเผ็ดไม่ได้  แล้วผัดเผ็ดปลาช่อนก็เอาอีกที่แต่ลอกหนังปลาออกด้วยนะครับแฟนผมเขาไม่ชอบหนังปลา

     

                    ..ฉึ่ง!.. 

     

                    ถ้าสายตาน้องฝ้ายที่มองมาเป็นมีดป่านนี้ผมคงถูกหันเป็นชิ้นๆแล้วละครับ  มันรู้สึกไม่ดีเลยนะโดนผู้หญิงจิกตาใส่แบบนี้

     

                    “พี่เพ้งกับพี่น้ำตาลคงเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆเลยนะคะ  น้องฝ้ายยิ้มหวานถามไอ้เพ้ง  ทีเมื่อกี้ยังจิกตาใส่ผมอยู่เลย  เปลี่ยนโหมดเร็วมากครับน้อง 

     

                    “หืม..  ใครบอกฝ้ายว่าพี่กับน้ำตาลเป็นเพื่อนกัน  ไอ้เพ้งมันทำหน้าแบบแปลกใจได้หน้าตบมากๆครับ  เสแสร้งสุดๆ  แต่เล่นทำเอาน้องฝ้ายหน้าเจื่อนไปเลย

     

                    “แล้วเป็น..”น้ำเสียงน้องฝ้ายดูจะขาดหายไป

     

                    “เป็นแฟนกันครับ..พี่กับน้ำตาลเป็นแฟนกัน  ใช่ไหมที่รัก  แหวะ!  กูจะอ้วก  ผมแอบหันไปทำหน้าพะอืดพะอมใส่ไอ้เพ้ง  มันก็ทำหน้ายักษ์ใส่ผมเป็นเชิงบอกว่าเนียนๆหน่อย

     

                    “อืม 

                   

                    ผมเสแสร้งปั้นหน้ายิ้มหวานใส่ไอ้เพ้ง  พลางเอนตัวไปซบกับไหล่มัน  มันก็เพิ่มความเสมือนจริงด้วยการก้มลงมาจูบหน้าผากผม!!!  ไม่ใช่น้องฝ้ายคนเดียวหรอกครับที่ทำหน้าเหวอ  ผมก็อ้าปากค้างตาโตตกใจเหมือนกัน  รีบดันตัวออกมาอย่างเร็วแต่ไอ้เพ้งมันก็จับหัวผมกดไว้ที่เดิม

     

                    “แหม..แค่นี้ทำเขินนะน้ำตาล  อยู่ที่ห้องมากกว่านี้ก็เคยมาแล้วยังไม่ชินอีกเหรอ 

                   

                    มากกว่านี้บ้านมึงดิไอ้เพ้ง  ค่าจ้างคราวนี้ผมต้องเก็บมันเพิ่ม  ค่าที่มันใช่ร่างกายผมซะเปลือง  แต่ทำไมใจผมมันต้องเต้นรัวขนาดนี้ด้วยเนี่ย

                    “พี่เพ้ง!”  คราวนี้น้องฝ้ายปรับโหมดอยู่ในโหมดเดียวแล้วครับ  โหมดหน้ากลัวตาจิกขวาง  จ้องผมกับไอ้เพ้งไม่วางตาเลย

     

                    “ว่าไงครับ  มันตอบหน้าระรื่น  ไอ้นี้มันด้านจริงๆ  ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย

     

                    “พี่เพ้งจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ..ฮึก..ฮือๆ  อ้าวเวร!  น้องเขาร้องไห้แน่ะครับ  ผมมองหน้าไอ้เพ้งอย่างขอความเห็นรู้สึกไม่ค่อยดียังไงไม่รู้  ผู้หญิงคนก่อนๆไม่เห็นจะน้ำตาแตกแบบนี้เลย  ก็แค่โวยวายนิดหน่อยแล้วก็จากไป  แต่น้องฝ้ายเล่นสะอื้นซะหนัก 

     

                    ไอ้เพ้งมันยกมือบอกผมเป็นเชิงให้อยู่เฉยๆ  เดี๋ยวมันเคลียร์เอง

     

                    “ฝ้าย..ฮึก..ฝ้ายเป็นของพี่เพ้งแล้ว..ฮึก..ฮือๆ  ผมรู้สึกสงสารน้องขึ้นมาเลยละครับ  นี้ไอ้เพ้งมันไปหลอกฟันน้องแล้วทิ้งนี้หว่า  แต่ไอ้ตัวต้นเหตุมันนั่งถอนหายใจทำหน้าเซ็งสุดชีวิตอย่างไม่คิดจะรับผิดชอบ

     

                    “เพ้ง!”  ผมขึ้นเสียงเหมือนไม่พอใจเมื่อไอ้เพ้งมันสะกิดให้ผมเล่นละครต่อ

     

                    “นี้เพ้งเอาอีกแล้วเหรอ..ฮึก..เพ้งมีน้ำตาลแค่คนเดียวไม่ได้เหรอ..ฮึก..ฮือๆ  เป็นไงละบทเจ้าน้ำตานี้ผมแอคติ้งเป็นเลิศ  เห็นไอ้เพ้งมันแอบขำก่อนจะรีบเล่นละครต่อ

     

                    “ตอนนั้นเพ้งเมา..เพ้งขอโทษ..”  มันรีบดึงผมเข้าไปกอดลูบหลังปลอบประโลม

     

                    “พี่เพ้งพี่เพ้งต้องรับผิดชอบฝ้ายนะ!”  น้องฝ้ายปาดน้ำตาทิ้ง  มองไอ้เพ้งอย่างเอาเรื่อง  โชคดีมากๆที่ทำเลที่พวกผมนั่งอยู่ค่อนข้างจะเปลี่ยวเลยห่างไกลผู้คนเขาหน่อย  แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีใครไม่เห็นนะครับ  โต๊ะแถวๆนั้นเขาก็มองมาเหมือนกันว่าไอ้โต๊ะนี้มันเป็นอะไร

     

                    “ฝ้ายครับ  พี่ก็บอกก่อนแล้วไม่ใช่เหรอว่าแค่สนุกเท่านั้น  น้องฝ้ายเงียบไปซักพักเหมือนกำลังคิดหาวิธีโต้ตอบ

     

                    “เพราะมันใช่ไหม!”  น้องเขาชี้มาที่ผม  งานเข้าแล้วไหมละ  ผมก็รีบทำหน้าบ๊องแบ๊วอย่างไม่คิดตอบโต้  ปล่อยให้สามี  เอ้ย!  ไอ้เพ้งมันจัดการ รู้สึกวันนี้ผมจะทำงานเกินค่าจ้างไปเยอะแล้วอยู่เฉยๆดีกว่า

                   

                    “ช่วยให้เกียรติแฟนพี่ด้วยนะครับ  เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับน้ำตาล  ถึงพี่จะไปนอนกับใครแต่คนที่พี่รักมีคนเดียวเท่านั้นคือน้ำตาล  นี้ถ้าผมเป็นแฟนมันจริงๆเจอมันบอกรักแบบนี้ผมไม่ได้จะดีใจเลยนะครับตรงกันข้ามจะเขาไปบีบคอมันมากกว่า  พูดมาได้ถึงจะไปนอนกับใครก็รักน้ำตาลคนเดียว  มันเป็นคำพูดที่เห็นแก่ตัวสุดๆ

                    “ตกลงพี่เพ้งเห็นไอ้ตุ๊ดนั้นมันดีกว่าฝ้ายใช่มั้ย  อ้าวๆๆๆ  มาเรียกกันแบบนี้ก็ขึ้นสิครับ  ผมได้แต่ชำเลืองไปมองหน้าน้องฝ้ายนิดหน่อยก่อนจะก้มหน้าลงเหมือนเดิม  ขี้เกียจตอบโต้ครับเดี๋ยวเรื่องจะยาว  ไม่อยากมีปัญหา  แค่นี้น้องเขาก็อาฆาตผมไม่รู้กี่ชาติแล้ว

     

                    “พี่ขอบอกอีกครั้งว่าคนที่พี่รักคือน้ำตาล

     

                    “ทำไม!  พี่เพ้งเป็นเกย์เหรอ  นั้นไงเข้าแผนไอ้เพ้งแล้ว

     

                    “รู้ว่าพี่เป็นเกย์ก็เลิกยุ่งกับพี่เถอะครับ

     

                    “ไม่!  ถ้าพี่เป็นเกย์แล้วจะมานอนกับฝ้ายทำไม  ฝ้ายว่าพี่แค่หลงเสน่ห์ไอ้ตุ๊ดนั้น  น้องคนนี้ไม่โง่เว้ย  แต่ทำไมต้องมาพาดพิงผมด้วย 

     

                    “ใช่พี่หลงพี่รักน้ำตาลมากๆ  ไอ้เพ้งมันยืนยันคำเดิม

     

                    “กรี้ด!!!  ทำไมพี่ถึงเลือกมัน  ฝ้ายดีกว่าไอ้ตุ๊ดนั้นตั้งหลายเท่า  ทั้งสวยทั้งรวย  ทำไมพี่เพ้งถึงเลือกไอ้ตุ๊ดถึกนั้น 

     

                    เฮ้ย! นี้มันจะมากไปแล้วนะ  ไอ้เพ้งมันหันมาใช้สายตาปรามๆผม คงรู้ละครับว่าผมเริ่มขึ้นแล้ว  ผมไม่ได้ถึกซะหน่อย  ก็แค่ผมสูง  สูงพอๆกับไอ้เพ้งละครับ  ผมไม่ใช่ผู้ชายบอบบางตัวเล็กผิวขาวน่ารักๆ  ตรงกันข้าม  ผมตัวสูงหุ่นมีกล้ามเนื้อบ้างเล็กน้อยเพราะผมชอบเล่นกีฬา  ผิวไม่ขาวแต่ก็ไม่ดำออกเหลืองๆผิวคนไทย  หน้าก็ไม่ได้หวาน  ก็หน้าตาแบบผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง

     

                    “พี่เลือกคนที่จิตใจครับ  น้ำตาลเขาเข้าใจพี่เสมอ  เป็นคนที่รู้ใจพี่มากที่สุด  ไอ้เพ้งก็ยังคงโกหกต่อไปอย่างไม่รู้สึกผิด  ถ้าไม่ติดว่าปากน้องฝ้ายไวไปหน่อยผมก็รู้สึกเห็นใจน้องเขานะครับ

     

                    “ตกลงพี่เพ้งเลือกมันใช่ไหม  ฝ้ายจะทำให้พี่รู้ว่าพี่คิดผิด!”  น้องฝ้ายทิ้งคำขู่ไว้ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้

     

                    “ส่วนแกไอ้ตุ๊ดถึก  แล้วเราจะได้เห็นดีกัน  น้องเขาหันมาฝากฝังคำอาฆาตไว้กับผมแล้วเดินจากไป

     

                    “งานเข้ากูแล้วไง  ผมรีบผละจากอกไอ้เพ้ง  ที่มันยังนั่งทำหน้าไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไร  แต่ผมเริ่มรู้สึกไม่ดีแปลกๆ  รู้สึกเหมือนว่าจะมีเรื่องวุ่นวายตามมา

     

                    “มึงก็คิดมาก  ไม่มีอะไรหรอก  น้องเขาจะทำอะไรได้  ก็แค่ขู่เท่านั้น  มันพูดจบก็ลงมือทานอาหารที่พนักงานเอามาเสิร์ฟ

     

                    “ถามจริงเพ้ง  มึงไม่รู้สึกผิดอะไรเลยเหรอวะ  ตอนน้องเขาร้องไห้กูยังแอบสงสาร

     

                    “มึงน่ะมันอ่อนต่อโลก  กูจะรู้สึกผิดกับคนที่กูเห็นว่าควรรู้สึกด้วย  กูจะเล่นกับใครกูก็ดูก็เลือกนะเว้ย  ไม่ใช่ไปจับสาวบริสุทธิ์เวอจิ้นไร้เดียงสามาฟัดแบบไม่เลือก  คนที่กูเล่นด้วยนะโชกโชนทั้งนั้น  อย่างน้องฝ้ายเนี่ยผ่านมาไม่ต่ำกว่าสิบหรอกกว่าจะมาถึงกู

     

                    “แต่กูกลัวน้องเขาเอาจริงวะ  ดูจะแค้นมากเลย  ผมกังวลจริงๆนะครับ  ดูน้องจะกัดไอ้เพ้งไม่ปล่อยเลย  ผู้หญิงคนก่อนๆไม่เห็นเป็นแบบนี้  แล้วคนที่ซวยถูกเล่นงานจะเป็นใครละคถ้าไม่ใช่ผม  นี้ผมไปเกี่ยวอะไรด้วยต้องมานั่งรับกรรมแทนมัน

     

                    “มึงก็กังวลเกินไป พอๆกินๆ

     

                    “ถ้ากูเป็นไรมามึงรับผิดชอบไหมละ”  หาหลักประกันไว้ก่อนครับ

     

                    “ภรรยาทั้งคน  สามีดีๆอย่างกูจะไม่ดูแลรับผิดชอบได้ไง 

     

                    “อึ้งๆ  หน้าแดงๆ  มึงอย่าเหลิง  ถ้ามึงเป็นไรไปปู่กูเอากูตาย  มันโยกหัวผมเล่นไปมา  หัวเราะที่เห็นผมหน้าแดง  แต่ว่าผมเขินจริงๆนะครับ  ไอ้นั้นก็พูดได้ไม่อายปาก  ฮึ่ย!!!  ทำเอามันได้ใจอีกละ









    ..รักไม่บังคับใจ.. 











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×