คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่3 : จีบ 100%
“มึงชอบกูเหรอ” คำถาม สี่พยางค์ของปี่ทำเอาลมหายใจของผมแทบจะหยุดลงกะทันหัน บอกคำเดียวว่ากลัวมากครับ กลัวมันจะรับไม่ได้ กลัวมันโกรธ กลัวมันตัดเพื่อน อย่างน้อยถ้ามันได้รู้จากปากผมเองว่าผมชอบมันก็น่าจะดีกว่านี้ แต่นี้อะไรกัน ผมไม่น่าสะเพร่า ออนเอ็มทิ้งไว้เลย!
“เออ...” ผมกำลังคิดหาคำพูด แต่คิดเท่าไรก็ดูเหมือนมันจะใบ้รับประทานมากเท่านั้น ไอ้ปี่ก็เอาแต่จ้องหน้าผม แววตามันฉายแววสงสัยสุดๆ เอาวะ! ไอ้นัท ลูกผู้ชายซะอย่าง กะอีแค่ บอกชอบผู้ชายด้วยกันมันจะเป็นไรไป ผมพยายามปลอบตัวเอง แต่ ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เพื่อนสนิทที่คบกันมาหกปีก็คงไม่ยากขนาดนี้หรอก ถ้าเป็นคนอื่นแค่บอกชอบไปถ้าเค้าปฏิเสธก็คงไม่เป็นไรแต่นี้ เป็นเพื่อน นอกจากจะเสียใจและผิดหวังแล้ว คำว่ามิตรภาพที่อุตส่าห์ฝั่งแน่นมานาน อาจจะสลายไปเพียงในเวลาไม่กี่วินาที แต่ไหนๆปี่มันก็รู้แล้ว แล้วผมจะปิดบังต่อไปเพื่ออะไร
“มาม่าเสร็จแล้ว มึงบอกหิวไม่ใช่เหรอ” แต่ผมก็ยังไม่กล้าอยู่ดีครับ ก็ไอ้จะไปบอกชอบใครน่ะมันง่ายซะที่ไหนเล่า ผมวางถ้วยมาม่าลงบนโต๊ะเขียนหนังสือข้างๆโต๊ะคอม แต่ไอ้ปี่มันก็เอาแต่จ้องผมอยู่นั้นละ ไม่พูดอะไรซักคำ มึงช่วยพูดไรบ้างก็ได้นะปี่กูกดดัน
“ไม่กินเหรอ เดี๋ยวเย็น”
“ตอบคำถามกู!” มันขึ้นเสียง หน้าตาเริ่มแสดงอาการไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ผมถอนหายใจลากเก้าอี้ อีกตัวไปนั่งตรงหน้ามัน ค่อยๆเอื้อมมือไปกุมมือของไอ้ปี่ มองหน้ามัน พยายามคิดทบทวนในหัวว่าความรู้สึกที่มีให้มันมาตลอดเกินคำว่าเพื่อนจริงไหม และแทบไม่ต้องคิดคำตอบก็คือ
ผมรักมันมาก ผมมองหน้าไอ้ปี่ เวลาโกรธหน้ามันจะป่องๆ หน้าใสๆ ผิวเหลืองๆดูมีเลือดฝาด ตา ออกจะโตหน่อยๆ ปากก็บางยังกับผู้หญิง ตัวเนี่ยเล็กนิดเดียว ผอมอีกต่างหาก กล้ามเนื้อแบบที่ผู้ชายควรจะมีก็ไม่มี ผมว่ารูปร่างลักษณะอย่างมันเนี่ย เหมาะจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายซะอีก
“กูไม่ได้ให้มึงมาจ้องหน้า” สงสัยผมจะจ้องหน้ามันเพลินไปหน่อย เฮ้ออออออออ ขอถอนหายใจอีกรอบเถอะครับ คิดว่ายังไงซะก็คงไม่มีทางแถได้แล้ว
“กูชอบมึง” รู้สึกใจสั่นบอกไม่ถูก ผมรู้สึกร้อนๆที่ใบหน้า นี้หน้าผมคงจะแดงเถือกไปแล้ว แต่ผมยังคงจ้องหน้าไอ้ปี่อยู่อยากรู้ว่ามันมีปฏิกิริยายังไง แต่มันยังคงทำสีหน้านิ่งเฉย ใจแป้วเลยครับ
“ตั้งแต่ตอนไหน”
“มะ มะ มอ4” ทำไมเสียงผมมันถึงได้ตะกุกตะกักแบบนี้ ไอ้ปี่ก็ทำหน้าโหด ยังกับผมเป็นคนร้ายที่ถูกมันสอบสวนยังไงอย่างงั้น
“แล้วทำไมไม่บอกกู”
“ก็กูกลัวมึงโกรธ กลัวมึงรับไม่ได้ กลัวเสียเพื่อน ถ้าบอกแล้วมึงไม่เป็นเพื่อนกู กูทำใจไม่ได้หรอกนะที่จะไม่ได้คุยกับมึงไม่ได้อยู่ข้างๆมึง เพราะ เพราะ กู เออ กูรักมึงมากปี่” ผมพูดความในใจออกไปอย่างรวดเร็ว รีบก้มหน้า หลบหน้ามัน เตรียมตัวรับชะตากรรมที่กำลังจะเกิด
“แค่นี้ใช่ไหม” ผมพยักหน้า ไอ้ปี่ก็ยังคงทำหน้านิ่งๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“มึงไปนอนเถอะดึกแล้วไม่ต้องรอกู” พูดจบก็ลุกไปถือชาม มาม่าออกจากห้อง แบบนี้ถือเป็นการปฏิเสธใช่ไหมครับ
ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะทานข้าวในครัว พร้อมกับนั่งขำแล้วยิ้มอยู่คนเดียว นึกถึงหน้าไอ้นัทเมื่อกี้แล้วโคตรตลกเลยครับ หน้ามันซีดมาก พูดก็ตะกุกตะกัก มือมันที่กุมมือผมเนี่ยชุ่มเหงื่อไปหมด ไอ้คนนิสัยดีอย่างผมเลย แอ๊บโหดหน้านิ่ง เกือบไม่รอดแหนะครับ ดีที่มีจังหวะหนึ่งที่ไอ้นัทมันก้มหน้าลง ผมเลยแอบขำได้ ป่านนี้มันคงคิดว่าผมโกรธมันอยู่มั้ง ผมไม่ได้โกรธเลยซักนิดตรงข้ามกลับรู้สึกดีมากๆด้วยซ้ำ ใครจะปฏิเสธละครับว่ามีคนมาบอกชอบแล้วจะไม่รู้สึกดี กับไอ้นัทยอมรับว่าผมรู้สึกดีกับมันมากๆ ผมแคร์มัน ห่วงมัน แต่ผมว่าความรู้สึกผมที่มีให้ไอ้นัท มันจำกัดอยู่แค่คำว่าเพื่อน ไม่เหมือนความรู้สึกที่ผมมีให้ไม้ แม้ตอนนี้ความรู้สึกที่มีให้ไอ้นัทจะดีกว่าความรู้สึกที่มีให้ไม้มากกว่าหลายร้อยเท่าก็ตาม แต่คำว่าเพื่อนกับแฟนมันก็ต่างกันมากเหมือนกันนิครับ
ผมเดินเข้ามาในห้องอีกครั้งหลังจากกินมาม่าเสร็จ คิดว่าไอ้นัทคงหลับไปนานแล้วเพราะผมจงใจนั่งเล่นอยู่ข้างล่างต่ออีกหนึ่งชั่วโมง แต่ผิคคาด ไอ้นัทมันยังคงนั่งอยู่ที่เตียง ผมที่กำลังยิ้มอยู่เนี่ย แอ๊บโหดแทบไม่ทันตอนมันหันมามอง
“จะตีสองแล้วทำไมยังไม่นอน” พูดเสร็จก็เดินไปที่เตียงล้มตัวลงนอน มันเห็นผมนอนมันก็เลยล้มตัวลงนอนด้วย เออ นอนเองไม่เป็นเหรอไงวะ
“ปี่”
“กูง่วง” หึๆๆ ป่านนี้คงหน้าเสียใหญ่แล้ว โทษวะไอ้นัท กูกำลังสนุก ได้ผลครับ มันเดินไปปิดไฟ แล้วกลับมานอนข้างๆผมเงียบๆ คิดว่ามันคงจะหลับแล้วแหละ ผมก็หลับบ้างดีกว่า ผมนอนหลับตาอยู่แต่อันที่จริงก็ยังไม่หลับหรอกครับ จะหลับลงได้ไง ก็ไอ้คนนอนอยู่ข้างๆเนี่ยมันเพิ่งบอกชอบผมไปเองนะ ผ่านไปนานพอสมควรแต่ผมก็ยังไม่หลับ สงสัยตอนกลับมาจากที่เรียนนอนมานานแล้ว อยู่ดีๆก็รู้สึกเหมือนมีคนมาจ้องหน้า เฮ้ย! ขนลุกครับ ไอ้ปี่กลัวผีนะ!
“ปี่” แต่เสียงมันคุ้นๆแฮะ อ้อ เสียงไอ้นัท ผมว่ามันคงเช็คว่าผมหลับยัง ผมเลยแกล้งหลับซะเลย ดูซิมันจะทำอะไรต่อ ซักพัก ก็รู้สึกถึงแรงที่กระชับอยู่ที่รอบเอว แล้วก็ปลายจมูกของไอ้คนข้างๆที่สัมผัสเบาๆตรงแก้ม ทำไมหัวใจผมมันเต้นแรงแบบนี้เนี่ย หวังว่าไอ้คนที่กอดผมอยู่มันจะไม่รู้สึกนะ
“ฮึก!” เสียงสะอื้น! ผมรู้สึกได้ถึงน้ำตาอุ่นๆที่เปียกอยู่ที่หลัง ไอ้นัทมันซุกหน้าอยู่ที่หลังของผม มันร้องไห้! ร้องสะอื้นจนตัวสั่น นี้ผมแกล้งมันแรงไปรึเปล่าเนี่ย แต่ไอ้ปี่ยังสนุกอยู่ครับ
“กูขอโทษปี่ อย่าโกรธกูนะ ฮึก กูรักมึงรักมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮึก มึงอย่าโกรธกูนะ” มันร้องไห้ไปสะอื้นไป ก็พูดไป พอได้ยินมันบอกว่ารัก ใจผมมันก็รู้สึกดีไงไม่รู้ ไอ้นัทกอดผมแน่นกว่าเดิม ซุกหน้าที่หลังผมแล้วก็ร้องไห้ เฮ้อ ชักใจอ่อนแล้วละครับ
“นัท” ผมพลิกตัวกลับมาหามัน หน้ามันเหวอไปเลยครับ รีบเอาผ้าห่มคลุมหัวเลย ฮาวะ นี้ตลกมึงสิบแปดเหรอเด็ก แปดขวบวะเนี่ย
“มึงจะหลบกูทำไมเนี่ย” ผมกระชากผ้าห่อมที่มันคลุมอยู่ออก
“มึงไม่ได้หลับอยู่เหรอ”
“หลับ แต่กูฝันว่าใครไม่รู้มากอดกูแล้วก็ร้องไห้ แถมยังบอกรักกูอีก” ผมยิ้มให้มัน
“มึงไม่โกรธกูเหรอ” สีหน้ามันดีขึ้นมากครับ
“กูจะโกรธมึงเรื่องไร”
“ก็เรื่องที่กู เออ ที่ กูชอบมึง” เสียงแผ่วอีกแล้ว ไอ้ลูกหมาเอ้ย
“มีคนบอกชอบก็ต้องดีใจดิวะ จะโกรธทำไม” ทีแบบนี้ ยิ้มหน้าบานเลยนะมึง
“มึงไม่โกรธกูจริงนะ” ถามมาก เดี่ยวโกรธจริงซะเลยนิ
“แล้วตกลงมึงจะรับรักกูได้ไหม” ถามได้ตรงมาก ผมหน้าแดงเลยครับ ก็มันอายนิมีคนมาขอความรักแบบนี้ เขินนะ
“ กูเพิ่งอกหักมานะ ให้ทีแฟนใหม่มันเร็วไปไหม” ตอบตามความรู้สึกจริงๆครับ
“ทีไอ้ไม้ยังมีใหม่เลย มึงไม่ชอบกูก็บอกมาตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม” โฮ! มีงอน มึงกำลังขอกูเป็นแฟนนะนัท มางอนได้ไง
“ไม่ใช่แต่กู...”
“นั้นไง! แสดงว่ามึงชอบกู!” ไอ้มัดมือชก กูยังพูดไม่จบเฟ้ย
“ฟังก่อน! คือ กูก็ชอบมึงนะแต่แบบเพื่อนมากกว่ามึงก็รู้ว่ากูยังรู้สึกยังไงกับไอ้ไม้ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ กูอาจจะรู้สึกดีกับมึงเกินเพื่อนก็ได้ ถ้าตอนนี้กูคงรับรักมึงยังไม่ได้วะนัท ขอโทษ” ผมก้มหน้า ไม่อยากมองหน้ามันกลัวมันร้องไห้แล้วสงสารครับ ยิ่งเป็นคนแพ้น้ำตาคนง่ายๆอยู่ ไอ้นัทเอามือมาลูบหัวผมเบาๆ
“กูเข้าใจ” ผมเงยหน้ามองมัน เห็นมันยิ้มออก ก็รู้สึกสบายใจแล้วครับ
“แต่...” เกลียดที่สุด ไอ้คำนำหน้า main idea ตามหลักภาษาไทยเนี่ย
“แต่มึงบอกว่าอนาคตอาจจะรู้สึกกับกูเกินเพื่อน งั้นกูจะจีบมึง ทำให้มึงรู้สึกแบบนั้นกับกูให้ได้”
“อ้ะ!” พูดจบมันก็ขโมยหอมผมไปฟอดหนึ่ง ก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วเอาผ้าห่มคลุมหัว ผมเอามือลูบหน้าตัวเอง รู้สึกร้อนๆที่หน้า ใจมันเต้นแปลกๆ นี้ผมเขินเหรอเนี่ย!
เช้าวันต่อมา ผมกับไอ้นัทก็ไปโรงเรียนพร้อมกัน พอเข้าห้องมาเท่านั้นละ ไอ้เพื่อนสามตัวที่น่าจะเป็นคนแต่ปากเนี่ย เป็นไอ้ตัวที่เดินสี่ขาหูตั้งหางชี้น่าจะเหมาะกว่า
“วี้ด วิ้วๆๆๆๆๆๆๆ”
“วู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“ว้าววววววววววววว” เออ วอแหวนติดคอพวกมึงกันเหรอครับ
“เมื่อคืนเป็นไงครับคุณนัท ลีลาไอ้คุณปี่เนี่ยได้ใจปะ” ไอ้ต่อมันถามไอ้นัทหลังจากส่งเสียงทักทาย ไอ้นัทก็เอาแต่ยิ้ม นี้มึงจะพูดบ้างอะไรบ้างก็ได้นะ ยิ้มแบบนั้น ไอ้พวกสามตัวที่สมองมีแต่เรื่องแบบนั้นมันคิดจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนแล้วมั้ง
“โถ่ๆๆๆๆๆๆ น่าเสียดาย ไอ้นัทแม่งคาบน้องปี่ไปกินแล้ว แบบนี้พี่บอสรับไม่ได้” เอ้า ไอ้นี้
ไอ้บอสมันทำท่าปาดน้ำตา
“แล้ววันนี้มึงจะนั่งเรียนได้ไหมเนี่ย ท่าจะเจ็บ
“พวกมึงหยุดได้แล้ว กูกับไอ้นัทไม่ได้มีไรกันเฟ้ย! มึงก็เหมือนกันนัท ยิ้มอยู่นั้นแหละไม่คิดจะช่วยกันปฏิเสธเลย” ไอ้พวกสามตัวมันรีบวิ่งไปนั่งประจำที่ของมันเมื่อฝ่ามือของผมกำลังจะไปเขกกะโหลกหัวเกรียนๆของพวกมัน
“ปี่”
“หืม” ผมกำลังเอาการบ้านคณิตศาสตร์มานั่งลอกต้นฉบับของไอ้ต่อที่มันไปลอก ไอ้หนึ่งเพื่อนคนหนึ่งในห้อง ซึ่งมันไปหลอกไอ้เกม ไอ้เด็กเรียนของห้องมาอีกที
“วันนี้ไม่ต้องไปเรียนพิเศษนะ” ไอ้ปี่บอก แล้วก็เอาต้นฉบับของผมออก ก่อนจะสอดสมุดของมันมาให้ผมลอกแทน นี้มันทำตอนไหนวะ เมื่อคืนก็ยังอยู่ด้วยกัน อ้อ มิน่าละมันตื่นมาทำไมตั้งแต่ตีสี่ มาทำการบ้านนี้เอง
“ทำไมวะ”
“กูจะย้ายเวลา แล้วมึงก็ต้องย้ายตามมาด้วย ค่าใช่จ่ายกูออกให้”
“ย้ายทำไม เสียเงินเปล่าๆ”
“มึงน่าจะรู้นะว่าเพราะอะไร” นี้คิดว่ากูตรัสรู้ได้เหรอไงวะ เอ๋ คิดอีกทีอ้อ รู้แล้ว
“หึงกูเหรอวะมึง” เป็นไงมึง เงียบเลย 5555
“อืม หึง” ทำไมรู้สึกหน้าร้อนๆวะ ผมเงยหน้าจากสมุด ก็เห็นไอ้นัทมันจ้องอยู่นั้นแหละ เออ กูก็เขินเป็นนะมึง ไปลอกที่อื่นดีกว่าเขินนนนนน
“ไอ้นัททำไรเมียมึงวะ” ไอ้พีที่กำลังลอกการบ้านอยู่เช่นกัน ตะโกนถามไอ้นัท เพราะผมย้ายสถานที่ให้พ้นจากรัศมีสายตาของไอ้บ้านัทที่มันเอาแต่จ้องผมอยู่นั้นแหละ
“พี่ปี่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เสียงโคตรรรรรรรรรรรแหลมมมมมมมมของใครคนหนึ่งดังมาจากทางประตูห้องเรียน สายตาของทุกคนจ้องไปที่ไอ้น้องแก้ว น้องรหัสผมเองครับ มันยิ้มก้มหัวขอโทษ แล้ววิ่งมาที่ผม
“โฮ้ย! พี่ปี่อะ น้องอุตส่าห์มาหา ไม่สนใจกันเลย” ยายแก้วโวยวายเมื่อผมมัวแต่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาลอกงาน ไอ้น้อง เข้าใจหน่อย การบ้านสำคัญกว่า
“เออๆๆ มีไรจะเลี้ยงขนมใช่ไหมละ ไว้ตอนเที่ยงนะพี่ลอกงานอยู่”
“พี่ปี่อะ ไม่เคยคิดจะเลี้ยงกันบ้างใช่ไหมเนี่ย เฮ้อ หล่อแต่ งกวะ” ไอ้น้องแก้วทำหน้างอนๆ น่ารักตายละแม่คุณ แต่ มันก็น่ารักจริงๆแหละครับ แต่ตัวมันเล็กมากๆ สูงร้อยห้าสิบกว่าๆเอง น้ำหนักสี่สิบจะเหยียบรึยังก็ไม่รู้
“ให้พี่เลี้ยงก็ได้นะครับน้องแก้ว ไอ้ปี่น่ะมันต้องเลี้ยงคนอื่น” ไอ้ต่อเสนอหน้ามากับเข้าวงสนทนาด้วยทั้งที่เมื่อกี้มันยังไปนั่งดูคลิปอยู่ที่มุมห้องอยู่เลย ไอ้หน้าม้อ นี้น้องรหัสกู
“เลี้ยงใครคะ พี่นัทมีแฟนแล้วเหรอ สาวคนไหนช่างโชคร้าย” ประโยคนี้มันแปลกๆนะ เหมือนถูกลอกด่าไงไม่รู้
“ไม่ใช่สาวที่ไหนหรอกครับ คนแถวๆนี้” ไอ้ต่อบุ้ยหน้าไปทางโต๊ะที่ไอ้นัทมันนั่งอยู่
“ไหนไม่เห็นมีใครเลย เห็นแต่พี่นัท” ไอ้น้องแก้วหันหน้าไปทางไอ้นัท
“ก็ไอ้
”
“แก้วมาหาพี่มีไร” รีบตัดบทครับ ไอ้พวกนี้ชักจะมากไปแล้ว เดี่ยวยายแก้วรู้ มันแยกออกที่ไหนละว่าไหนเรื่องจริงเรื่องเล่น น้องรหัสผมยิ่งสาววายสุดขั้วอยู่
“คือแก้ว เออ พี่นัทไม่สบายรึเปล่าพี่ปี่” ฮืม ไอ้นัท? ผมหันไปทางไอ้นัทที่อยู่แถวๆกลางห้อง คือตอนนี้ผมนั่งอยู่ท้ายห้องครับเนื่องจากพื้นที่กว้างสบายโลเคชั่นเหมาะแก่การลอกงาน เออ แต่หน้าไอ้นัทนี้สิ ทำไมมันทำหน้าบึ้งๆ แถมจ้องผมด้วยสายตา ที่เด็กปอหนึ่งเห็นแล้วต้องวิ่งร้องไห้ไปหาแม่แน่นอน มึงทำหน้าดุไมวะ กูกลัว
“ไม่รู้ดิ แล้วแก้วมีไร” สุดท้ายก็ลอกเสร็จครับ ผมเลยเงยหน้าขึ้นมาคุยกับน้องแก้วได้
“ก็ หลานรหัสไง” อ้อ จะมาบอกว่าหลานรหัสเป็นใครนี้เอง ที่โรงเรียนผมเนี่ย มอปลายจะมีสายรหัสตามห้องน่ะครับ การมีสายรหัสตอนแรกผมคิดว่า มีทำไมยุ่งยาก แต่พอได้มาอยู่ในสายแล้ว ทำให้รู้ว่ามีสายรหัสเนี่ยก็ดีมากๆนะครับ ก็รุ่นพี่สายผมมีแต่เทพๆทั้งนั้น สมุดงานการบ้าน บันทึกแลปทุกอย่างเอาให้ผมหมดไอ้ปี่เลยสบาย ลอกซะ ฮาๆๆๆๆๆๆ แถมมีคนเลี้ยงขนมตอนเที่ยงบ่อยอีกต่างหาก ดีสุดๆๆๆๆๆๆ
“ผู้หญิงผู้ชาย”
“ผู้ชาย!”
“จับไงให้ได้ผู้ชายเนี่ย!” ก็อยากได้หลานรหัสผู้หญิงน่ารักๆ เอาไว้ม้อ เอ้ย เอาไว้ดูแลนิครับ
“อะไรๆๆๆ ผู้ชายน่ะดีแล้ว แก้วกรี้ด สุดๆเลย น้องโคตรหล่อเลยพี่ปี่ ชื่อน้อง เฟิร์ส หล่อโคตรๆๆๆๆ” ไอ้แก้วมันเพ้อ ดูเหมือนภูมิใจเต็มที่ ที่ได้น้องรหัสหล่อ แต่ผมไม่ปลื้ม หล่อได้แต่ห้ามเกินหน้าเกินตาผม
“สู้พี่ไม่ได้หรอก”
“ใครว่าพี่ปี่หล่อ อย่างพี่น่ะเค้าเรียกน่ารัก”
“อืม เดี๋ยวพี่จะลองไปทักดู”
“ไม่ต้องๆๆๆ แก้วนัดน้องเค้าไว้ตอนเที่ยงกินข้าวด้วยกันนะทั้งสายเลย” อีกแล้ว ให้กูเลี้ยงอีกแน่ๆ
“รู้นะคิดไรอยู่ งกจริงเลย น้องเขาบอกจะเลี้ยง” ช่างรู้ใจพี่จริงๆไอ้น้อง
“ตกลง” แบบนี้พลาดได้ไง
“ทีแบบนี้ละเร็ว” ไอ้แก้วส่ายหน้าแบบระอานิดๆ
“เออแก้ว อันที่จริงโทรบอกพี่ก็ได้ทำไมต้องมาหาถึงห้อง” สงสัยตั้งแต่มันเข้ามาแล้วครับ เวลามันมีธุระจะคุยกับผมเนี่ย สะกิด ขอย้ำ สะกิด หาตลอด เวลานัดกันทีไรผมเนี่ยต้องเดินไปหามันตลอด ใช้สิทธิสตรีเต็มที่ แต่วันนี้มาหาถึงห้องมีไรรึเปล่าเนี่ย
“เปล๊า!” แน่ะมีขึ้นเสียงสูง แต่มันก็ยังไม่ออกจากห้อง
“แล้วยังไม่รีบไปอีก จะเข้าแถวแล้วเนี่ย” ไล่ๆ มันไปครับรู้สึกสายตาผู้ชายห้องผมจะจ้องไอ้น้องแก้วมากเกินไปแล้ว
“คือเออ
” มันอ้ำๆอึ้งๆ หน้าดูเขินๆไงไม่รู้
“น้อง เออ น้อง ปออะ” อ้ออออ นึกว่าอะไร ไอ้ปออีกละ
“ชอบเหรอ” พูดให้ซะเลย ไม่งั้นคงอีกนานกว่ามันจะยอมพูด
“ชอบมากๆๆๆๆๆ น้องปอ โคตรหล่อเลยอะพี่ปี่ ไม่น่าเชื่อจะมีพี่หน้าตาแบบพี่ปี่นะเนี่ย มันคนละเรื่องกันเลย น้องปอ ออกจะเท่ๆ หล่อ สูง กรี้ดดดดดดดดดดดด คนอะไรช่างดูดีขนาดนี้!” พอพูดออกละ ยาวเลยนะ เอ๋ แต่เหมือนถูกหลอกด่าอีกละ
“เออๆๆ เดี๋ยวจะขอเบอร์ให้เป็นของขวัญเปิดเทอม” 55555 นี้ไงไม่ต้องลงทุนเลย ผมว่าถ้าผมเอาเบอร์ไอ้ปอไปขายเนี่ยท่าจะได้เงินเยอะนะ เดี๋ยวต้องสำรวจกลุ่มลูกค้าซะหน่อยแล้ว
“เชอะ! เค้ามีแล้วยะคุณพี่ ทั้งเบอร์ทั้งเมลล์เลย” ใบ้รับประทานครับ แม่งโคตรเร็วเลยวะแก้ว
“แล้วมาหาพี่ทำไมอีก” สงสัยจริงๆ ขนาดได้เบอร์มาแล้วคิดว่า จะจีบมันคงไม่ยากเท่าไหร่หรอกมั้ง
“ก็แหม่ พี่ปี่ไม่รู้ไร น้องปออะ สาวจ้องเยอะจะตาย แค่อยากให้พี่ปี่ ช่วยทำตัวเป็นพ่อสื่อ ก็ไม่ไรมาก ถ้ามีสาวไหนมาเกาะแกะน้องปอ ก็ยุให้น้องปอเลิกยุ่ง นอกนั้นเดี๋ยวแก้วจัดการเอง!” เออ น่ากลัวจริงๆ ผู้หญิงเวลาจะรุกเนี่ย
กริ๊งงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เสียงสวรรค์ พักเที่ยงแล้วครับบบบบบ ผมรีบเก็บปากกา ใส่กระเป๋า เตรียมตัวจะไปกินข้าวฟรีที่โรงอาหาร ฮึๆ ผมเดินฝ่าฝูงนักเรียนที่หลั่งไหลเข้าสู่โรงอาหาร กลิ่นอาหารลอยเตะ จมูก อ้า ยั่วน้ำลายดีจริงๆ ผมมองหายายแก้วที่มันโทรมาบอกว่านั่งอยู่โต๊ะติดๆกับฝั่งสระน้ำ คือโรงอาหารโรงเรียนผมเนี่ยเป็นตึกที่อยู่เหนือสระน้ำขนาดใหญ่ของโรงเรียนครับ ที่นั่งในโรงอาหารก็จะมีฝั่งหนึ่งที่ข้างๆจะเป็นสระน้ำให้บรรยากาศในการกินข้าวไปอีกแบบ
“พี่ปี่!!!!!!!!!!!” เสียงความถี่สูงจนค้างคาวยังได้ยินแบบนี้ มีคนเดียวที่ส่งเสียงได้ ผมเดินไปหาน้องแก้ว ก็เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ยอมรับว่า สะดุดตามากครับ มันตัวขาวๆใส่แว่นลายสีม่วงเท่ๆ ผมรองทรงแถมยังสูงมาก สูงกว่าไอ้ปออีก แน่ใจนะว่ามอสี่ ผมว่าไอ้น้องเฟิร์สมันดูดีกว่าไอ้ปอมากๆเลยนะ ทำไมไอ้น้องแก้วมันไม่จีบน้องเฟิร์สวะ หรือผู้หญิงเค้าจะมีคติแปลกๆอย่างไม่กินคนในสายรหัสตัวเอง
“พี่ปี่ นิ่งเลยตะลึงในความหล่อของน้องเค้าอะดิ” ไอ้น้องแก้วได้ทีแซวใหญ่ จะมีใครยัดเยียดผู้หญิงให้ผมบ้างผมก็ไม่ว่าหรอกนะ
“แหะๆ” ไม่รู้จะพูดไรเลยหัวเราะแห้งๆพร้อมส่งยิ้มหวานให้น้องเค้า
“สวัสดีครับพี่ปี่” ไอ้น้องเฟิร์สยกมือไหว้ผม มีมารยาทจริงๆ ผมเลยนั่งลงข้างๆไอ้แก้วตรงข้ามกับน้องเฟิร์สพอดี
“เฟิร์สจะเลี้ยงข้าวใช่ไหม” ไม่รู้จะพูดไรครับ มันเงียบเกินไป
“เห็นไหมพี่บอกเฟิร์สแล้วพี่ปี่อะงก”
“ครับๆ เดี๋ยวเฟิร์สเลี้ยงครับ” น้องเฟิร์สพูดแล้วก็หัวเราะ น้องเฟิร์สพี่ไม่ได้งกอย่าเข้าใจผิดครับ แค่ชวนคุยเฉยๆ
“อะไรนะ! ไวรัสกิน ได้ไง อ้ายยยย อุตส่าห์นั่งทำทั้งคืน!” อยู่ดีๆ น้องแก้วก็โวยวายดังลั่น คนเกือบทั้งโรงอาหารหันมามอง ขายหน้าจริงๆ น้องใครวะ
“พี่ปี่ น้องเฟิร์ส คือ คงทานข้าวด้วยไม่ได้แล้วละเพื่อนโทรมาบอกว่า ไฟล์งานที่จะนำเสนอบ่ายเนี่ยอยู่ดีๆ ไวรัสแดก” พูดจบไอ้น้องแก้วก็วิ่งออกจากโรงอาหารไปเลย สงสัยจะงานสำคัญจริงๆ
“พี่ปี่จะทานไรครับ”
“คิดก่อนนะ อ้อ กิน กวยจั๊บดีกว่าอร่อยนะกินปะ”
“พี่ปี่กินไรผมก็กินนั้นแหละครับ” พูดจบก็ยิ้ม ขยันยิ้มจริงๆนะไอ้น้อง
หลังจากที่กินข้าวเที่ยงเสร็จ น้องเฟิร์สก็ขอให้ผมพาชมโรงเรียน น้องเค้าเป็นเด็กใหม่ครับ ไม่ค่อยรู้ที่ ผมเลยทำหน้าที่ลุงรหัสที่ดีพาชมซักหน่อย ไม่ได้เห็นแก่คอนเน็ตโต้ 22 บาท ที่น้องเค้าเลี้ยงเลยนะครับ จริงๆนะ ผมพาน้องเดินมานั่งเล่นตรงบริเวณลานกว้างที่มีโต๊ะม้าหินอ่อนมากมายท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่และดอกไม่ที่ขึ้นเต็ม สดชื่นจริงๆ ขนาดเที่ยงๆอากาศร้อน แต่ตรงนี้ ร่มรื่นและเย็นสบายมากเลยครับ
“เลอะหมดแล้วครับพี่ปี่ กินเหมือนเด็กเลย” น้องเฟิร์สเอาทิชชูมาเช็ดแก้มผมที่เปื้อนไอศกรีม
“เฮอๆ เดี๋ยวพี่เช็ดเอง” ผมรีบดึงทิชชูจากมือน้องเฟิร์สมาเช็ดเอง ให้คนเช็ดแก้มให้มันแปลกๆไงไม่รู้
“พี่ปี่น่ารักดีนะครับ”
“ฮะ!”
“ผมหมายถึงชื่อพี่น่ะครับ ปี่ ชื่อน่ารักดีนะครับ” น้องเฟิร์สมองหน้าผมแล้วก็ยิ้ม ไม่เมื่อยปากบ้างเหรอไงเนี่ย ยิ้มตลอดเลยแต่ก็น่ารักดีนะ อิๆ
“อ้อ พ่อแม่ตั้งชื่อ ให้คล้องกับพี่สาวพี่ พี่สาวพี่ชื่อ ปิ่น พี่ชื่อปี่ แล้วน้องชายก็ชื่อปอ”
“พี่ปี่เป็นพี่ไอ้ปอเหรอครับ” ผมพยักหน้า รู้จักปอด้วยแฮะ
“หน้ากวนๆอย่างมันไม่คิดว่าจะมีพี่หน้าตาน่ารักๆ”
“ใช่ๆๆๆๆ พี่ออกจะน่ารักแต่ไอ้ปอเนี่ยหน้าตาไม่ได้เรื่อง” นานๆทีจะมีคนส่งเสริมให้ผมดูดีกว่าไอ้ปอ โคตรดีใจเลย
“พี่ปี่เหมือนเด็กเลย 55555555+” หัวเราะอีกแล้ว จะมีความสุขอะไรนักหนาเนี่ย
“หน้าเด็กใช่ไหมละ” มันจะมีเหตุผลไหนที่ผมเหมือนเด็กอีกละครับ
“ใครบอก นิสัยต่างหาก กินก็เลอะ แถมตัวก็หอมด้วย” ตัวหอม? น้องเฟิร์สเอามือของมันขึ้นมาดมแล้วทำหน้าเคลิ้มๆ
“ดูสิเช็ดแก้มให้เมื่อกี้ยังหอมติดมือเลย” เออ มันชักแปลกๆ
“เห็นพี่ปี่แล้วผมชักอยากจะเป็นพระอภัยมณี”
“ทำไมละ”
“ก็จะได้เป่าปี่ไงครับ”
“เออ...”ไร้คำพูด ผมว่ามันแปลกจริงๆนะ
เลิกเรียนแล้วครับพี่น้อง! ไอ้ปี่มีความสุข ไหนๆ ก็ย้ายรอบเรียนพิเศษไปเรียนวันเสาร์อาทิตย์แล้ว เย็นนี้ก็ว่าง ชวนไอ้นัทไปกินน้ำแข็งใสดีกว่า
“นัทไปกินน้ำแข็งใสป่าวมึง” ชวนมันหน่อย เพราะไปกับมันทีไรมันออกให้ตลอด 5555
“......” เงียบ มันเก็บของใส่กระเป๋าไม่สนใจผมซักนิด แปลกๆตั้งแต่บ่ายแล้ว มันแทบไม่พูดกับผมเลยตั้งแต่ขึ้นเรียนคาบบ่าย ถามอะไรก็แค่พยักหน้า ไม่ก็ถามคำตอบคำ
“ตกลงว่าไงกูอยากกินจริงๆนะ” ก็มันอยากกินจริงๆนะครับ แต่มันก็เงียบ ไม่แม้แต่จะหันมามอง
“เฮ้ย นัทเย็นนี้ว่างไหมไปเล่นบาสป่าวมึง” ไอ้พีเดินถึงลูกบาสมาชวนไอ้นัท
“เอาดิ กูว่าง กำลังเซ็งๆ” อ้าว ไอ้นี้
“ไอ้..” มันไปแล้วครับเดินออกจากห้องไปเฉยเลย ไปไรวะแม่ง! ไอ้พีมองหน้าผม ประมาณว่าพวกมึงมีไรกัน
“ไปเล่นด้วยกันปะวะปี่” เออ ขอบคุณที่ยังชวนกู แต่มึงก็น่าจะรู้ว่ากูเล่นไม่เป็น ไอ้ด้านกีฬาเนี่ย ผมไม่สันทัดจริงๆนะครับ ก็ไปเล่นทีไรก็โดนเค้าผลักล้มกลิ้งทุกที แต่... ผมอยากรู้ว่าไอ้นัทมันเป็นบ้าไร
“เออ เล่นด้วย” ผมตอบตกลง ไอ้พีทำหน้าแปลกใจหน่อยๆ แล้วผมกับไอ้พีก็พากันเดินไปที่สนามบาส
พอไปถึงสนามบาสก็มีแต่พวกผมครับ มีผม ไอ้ต่อ ไอ้พี ไอ้บอส แล้วก็ไอ้บ้านัท ที่มันก็ไม่สนใจผมอยู่ดี เหตุที่สนามมันว่างเพราะ สนามนี้มันกลางแจ้งครับ คนส่วนมากเค้าจะไปเล่นสนามที่มีโดม พวกผมเลยครองสนามซะเลย
“มีห้าคนจะแบ่งทีมไงวะ” ไอ้ต่อเอยขึ้น
“จะยากไร กู มึงไอ้ต่อ ไอ้พี อยู่กันสามคน ให้ไอ้นัทกับไอ้ปี่ สองผัวเมีย อยู่กันสองคน” เออ มึงแบ่งได้ยุติธรรมมากเลยไอ้บอส
“กูไม่อยู่กับไอ้ปี่”
“เป็นเชี่ยไรวะนัท ปกติเห็นมึงติดไอ้ปี่จะตาย” ไอ้ต่อถาม ทุกคนมองหน้ามันอย่าง งงๆ ผมนี้สิ งง มากกว่าอีก เมื่อคืนยังบอกว่าจะจีบ หรือนี้คือวิธีจีบของมันวะ ถ้าใช่จะบอกว่า มึงโรคจิตมากนัท แล้วมึงก็ไม่มีวันจีบกูติด
“พวกมึงจะเล่นกันไหมเนี่ยถามมาก พวกมึงอยู่แม่งสี่คนเลยเดี๋ยวกูอยู่คนเดียว” ไอ้นัทพูดแบบอารมณ์เสีย เห็นมันบ้าแบบนี้ ผมชักจะหงุดหงิดเหมือนกันนะ เออ แม่ง ไม่สนกันใช่ไหม เอาดิ๊ กูก็จะไม่สนมึงเหมือนกัน!
“เออ พวกมึงอยู่ทีมกู ให้ไอ้บ้าแม่ง มันอยู่คนเดียว กูจะเล่นงานแม่งให้น่วมเลย อวดเก่ง!” ไม่ได้ประชดนะครับ แต่มันหงุดหงิด
“พอๆๆๆๆๆๆ พวกมึงสองตัวนี้ เป็นไรกันวะ เอางี้ พวกมึงสามคน มึง ไอ้ปี่ ไอ้พี ไอ้บอส อยู่ทีมเดียวกัน เดี๋ยวกูอยู่กับไอ้นัท” ไอ้ต่อจัดแจงทีมให้เรียบร้อย
ระหว่างเล่น ผมแทบไม่ได้แตะลูกเลยครับวิ่งตามลูกอย่างเดียว นี้ก็เล่นมาได้ยี่สิบกว่านาทีแล้วมั้ง ผมได้จับลูกแค่สองครั้งเอง ทีมไอ้ต่อกับไอ้นัท นำทีมผมอยู่สองลูก เฮ้อ เหนื่อยแล้วครับ
“ไอ้ปี่!!! เฝ้าห่วงๆๆๆ” ไอ้บอสตะโกนมาจากอีกฝากของสนาม ผมอยู่เฝ้าห่วงครับ เหนื่อยแล้วขี้เกียจวิ่ง ไอ้นัทมันกำลังเลี้ยวงลูก มาจะชู้ทแล้ว
“ไอ้ปี่กัน ไอ้นัท!” ไอ้พีตะโกนสั่ง เออ แล้วทำไมพวกมึงไม่พากันวิ่งมากันเองวะ ตัวผมแค่เนี่ยจะไปกันอะไรไอ้นัทได้ เหมือนเคยเรียนมาว่าให้ยกมือไว้เวลากันห่วงนะ ผมก็เลยยกมือ กระโดด เหย่งๆ คิดว่ามันน่าจะพอกันไอ้นัทได้ มั้ง
“มึงกันประตูหรือเต้นวะ ท่าแม่งโคตรฮา” ไอ้นัทครับ เป็นประโยคที่มันพูดกับผมยาวที่สุดตั้งแต่ตอนบ่าย แต่มึงไม่พูดจะดีกว่านะ มันวิ่งมาหยุดเลี้ยงลูกอยู่หน้าผมครับ ไม่ชู้ทซักที คือพวกผมเล่นบาสกันเนี่ย กติกาไม่สนหรอกครับ
“ปากดีนะมึงผ่านกูไปให้ได้เหอะ” มันยิ้มทีมุมปากนิดๆ
“กูจะชู้ทแล้วนะมึงเตรียมกันดีๆละ” มันพูดแล้วก็ยิ้ม เป็นยิ้มที ประมาณว่า หน้าอย่างมึงกันกูไม่ได้หรอก ฮึ่ยยยยยยย ไอ้นัททททททททท อย่าท้าๆๆ ไม่รู้เหรอเวลากูของขึ้นแล้วเป็นไง
“เฮ้ยยย ไอ้นัท รีบชู้ทดิมึง!” เสียงไอ้ต่อตะโกนมาจากอีกฟากสนาม พวกมันสามคนยืนพัก กันอยู่อีกฟากสนามครับ ไม่คิดจะมาช่วยกูเลย
“เค้ากำลังจีบกันเชี่ยต่อ มึงเงียบๆเลย! เดี่ยวกูอดดูหนังสดกลางสนามบาส” เสียงไอ้พีครับ แม่งตะโกนซะดัง ทำเอานักเรียนที่เดินอยู่แถวนั้นหันมาทางสนาม ไอ้สามตัวก็หัวเราะอยู่นั้นแหละ
“พวกมึงมากันเองเลย กูขี้เกียจเล่นแล้ว!” ผมตะโกนบอกพวกมันก่อนจะเดินมานั่งพัก ใต้ต้นก้ามปู ข้างๆสนามบาส ไม่ไหวแล้วครับเหนื่อยโคตร ไม่ได้เล่นทุกวันจน อึด แบบพวก เพื่อนมัน แล้วไอ้สี่ตัวมันก็ยังคงเล่นกันต่อ ผมก็นั่งมองพวกมันเล่น อันที่จริงเรียกว่า จับตาดูไอ้นัทมากกว่า ไม่ใช่ผมสนไรมันหรอกนะ แค่ผมจะดูว่ามัน เมินผมคนเดียว หรือว่าอารมณ์เสียกับคนอื่นด้วย แต่เวลามันเล่นกับ ไอ้ต่อ ไอ้พี ไอ้บอส มันก็หน้าตา ยิ้มแย้ม ปกติ นี้ผมทำอะไรให้มันโกรธเนี่ย คิดๆไปผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ โรคจิตวะเชี่ยนัท!
“น้ำไหมครับพี่ปี่ เหงื่อท่วมเลยนะ” เอ๊ะ! เสียงคุ้นๆ
“เฟิร์ส!” ตกใจสิครับ อยู่ดีๆ ไอ้น้องเฟิร์สโผล่มาจากไหนไม่รู้ ตอนนี้มันก้มหน้ามาแทบจะชิดกับหน้าผม ยิ่งเห็นหน้ามันชัดๆ บอกได้คำเดียว แม่ง หล่อแสดดดด
“อ๊ะ!” น้องเฟิร์สมันเอาขวดน้ำเย็นๆ มาแตะหน้าผม แล้วก็ยืนหัวเราะ แกล้งพี่นี้มันน่าหัวเราะมากเลยใช่ไหมครับน้อง
“นี่แน่ะ!”
“เฮ้ยยยย!”
ผมกระชากแขนน้องเฟิร์สที่มันยื่นขวดน้ำมาให้ กะจะให้มันล้มหัวทิ่ม 5555+ อยากแกล้งพี่ก่อนเอง แต่ เฮ้ยยยยยยยยยยยย ผิดคาด ผมก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าแผนผมมันพลาดตอนที่ตัวเองรู้สึกจุกๆนี้แหละ ก็ไอ้น้องเฟิร์ส แทนที่มันจะล้มหัวทิ่มพื้นดันมาล้มทับผมซะได้ ไอ้ปี่โคตรจุก
“พี่ปี่ ขอโทษๆๆ เจ็บปะพี่” ไอ้น้องเฟิร์สมันรีบถามผม แต่ ช่วยลุกออกไปจากตัวพี่ก่อนได้ไหมไอ้น้อง
“ไม่เป็นไรๆ ลุกๆๆพี่จุก” ผมรีบบอกไอ้น้องเฟิร์ส แม่งกรรมตามทันกูเร็วจริง จะแกล้งหลานรหัสหน่อยก็ไม่ได้ โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรม
“โอ้ย!!!!” ไอ้น้องเฟิร์สร้องซะลั่น รู้สึกวันนี้มันจะอะไรนักหนาเนี่ย มีเรื่องให้เจ็บตัวตลอด แล้วสายตาผมก็หันไปเห็นต้นเหตุที่ทำให้ไอ้น้องเฟิร์สร้องโอ้ยซะลั่น ก็ไอ้ลูกบาสสีส้มๆมันกำลังกลิ้งอยู่ข้างๆผมเนี่ย เฮ้ย! น้องกู โดนลูกบาสอัดหน้าเลยเหรอวะ!
“เฮ้ย! เฟิร์สเจ็บปะไหนๆพี่ดูหน่อย” เฟิร์สมันเอามือปิดหน้าแถวๆตา แว่นกรอบม่วง ตกอยู่ข้างๆ โฮ ขาแว่นเบี้ยว เลนส์ร้าวเลย หน้ามันไม่แหกหมดแล้วเหรอวะ
“เขียวเลยเฟิร์ส” ตรงแถวๆใต้ตากับข้างๆตา ขวามันเขียวเลยครับ มีรอยถลอกเลือดซึมหน่อยๆด้วย สงสัยจะโดนกรอบแว่นกระแทก
“โอ้ย! พี่ปี่เบาๆ” ไอ้น้องเฟิร์สสะดุ้งเมื่อผมเผลออามือแตะแผลมัน
“ปี่ๆๆๆๆๆๆ น้องเป็นไรไหมวะกูเห็นที่สนามยังเจ็บแทน ไอ้นัทแม่งขว้างซะแรง” ไอ้ต่อ ไอ้บอส ไอ้พี วิ่งหน้าตื่นมาดูสภาพน้องเฟิร์ส
“ตาเขียวเลยวะ เลือดซึมด้วย งานเข้าแล้วไอ้นัท” พีมันจับหน้าน้องเฟิร์สส่ายไปมา
“มึงว่าใครทำนะ ไอ้นัทเหรอ” ผมมองหาตัวการโน้นครับ มันเล่นชู้ทบาสอยู่คนเดียว ไม่ได้จะมารับผิดชอบอะไรเลย
“ก็มันจะส่งบอลมาให้กู แต่ไม่รู้มันเกิดตาบอดกะทันหันรึไงก็มิทราบ ดันขว้างมาทางมึงได้ คนละทางกันแท้ๆ” ไอ้บอสอธิบาย แบบนี้จงใจชัดๆ
“เฟิร์ส รออยู่นี้เดี๋ยวพี่พาไปห้องพยาบาล พวกมึงฝากดูน้องด้วย” ผมเดินตรงไปหาไอ้ตัวการที่มันยังคงกระโดดชู้ทบาสเล่นอย่างสบายใจ นี้มันจะมากไปแล้วนะครับ เล่นถึงขนาดเลือดตกยางออกแบบนี้
“มึงทำน้องทำไม!” ผมปัดลูกบาสออกจากมือมันอย่างแรง จ้องหน้ามันอย่างหาเรื่อง นี้กูโกรธจริงๆแล้วนะนัท
“กูไม่ได้ตั้งใจแค่มือมันไปเอง” มันพูดหน้าตาเฉย หน้าตาก็ไร้อารมณ์
“งั้นมึงไปขอโทษน้องเฟิร์สเดี๋ยวนี้”
“มึงจะโวยวายแทนน้องทำไมวะ เจ้าทุกข์เขาไม่เห็นจะเอาเรื่องอะไรกูเลย”
“ก็น้องเค้าหลานรหัสกู กูก็ต้องดูแล แล้วที่สำคัญมึงทำน้องเขาหน้าเขียวเลือดซึม ไม่คิดจะไปขอโทษบ้างเหรอไงวะ”
“เหอะ! แน่ใจนะว่าแค่หลานรหัสไม่ได้คิดเป็นอื่นมากกว่านั้น”
“มึงหมายความว่าไง!”
“ก็หมายความว่ากูหึงมึงไง!”
~~~~~ รักนะรู้ปะ!~~~~~
ความคิดเห็น