คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่5 : ขูดรีดไถตังค์
หลังจากที่ตังค์มันกลับไปผมก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ตื่นมาอีกทีฟ้าข้างนอกก็มืดแล้ว อาการปวดหัวไม่มีหลงเหลือแล้วตอนนี้ ผมมันเป็นประเภทถ้าป่วยแล้วจะหายเร็วมากครับ แค่ได้นอนเต็มอิ่มร่างกายก็ฟื้นแล้ว ระหว่างรอแม่ทำกับข้าวผมเลยเปิดคอม เล่นเฟสซะหน่อย เห็นในโทรศัพท์แจ้งว่ามีสายไม่ได้รับตั้งเยอะ เป็นเบอร์ไอ้แก๊บกับไอ้โมนั้นละครับ แต่ว่ามันมีเบอร์แปลกๆอยู่เบอร์หนึ่งที่โทรเข้ามาตั้งสามสาย ก็อยากจะโทรกลับหรอกนะแต่เผอิญยอดเงินในมือถือยังไม่พอจะส่งข้อความออกด้วยซ้ำไป คุยมันทางเฟสบุ๊คนี้ละประหยัดดี ผมว่าพวกมันก็คงกำลังออนอยู่
‘เชี่ยโฟม นึกว่าตายห่าแล้ว’ นั้นไงเปิดได้ไม่ถึงสิบวิกล่องสนทนาก็เด้งขึ้นมา อันนี้ไอ้แก๊บครับ ทักเพื่อนโคตรจะเป็นมงคล
‘สาดดดดดดดด วันนี้กูโดนจับสายด้วย ไม่มีมึงแดกฟ้าทลายโจรนรกเป็นเพื่อนเลย’ อีกกล่องเด้งขึ้นมา อันนี้ไอ้โมครับ แต่ละคน ทักกูนี้เจริญหูกันจริ๊ง ด้วยความรำคาญที่จะต้องตอบคำถามพวกมันคนละทีผมเลยจัดการสร้างกลุ่มขึ้น ‘นกเขาจุ๊กกรู้’ ตั้งเสร็จก็จัดการเพิ่มมันสองตัวเข้ามาในกลุ่ม อย่าถามที่มาของชื่อเลยครับ มันไม่ได้จะผ่านการประมวลผลของสมองซักนิด
‘ใครมันตั้งชื่อกลุ่มวะ โคตรเสี่ยว’ ไอ้แก๊บมาเปิดซิงบทสนทนากลุ่มเป็นคนแรก
‘ตอนนี้นกเขากูมันยังไม่จุ๊กกรู้ว่ะ’ คิดได้แต่เรื่องแบบนี้มีไอ้โมคนเดียวครับ
‘@ไอ้แก๊บ สุดหล่ออยากกูตั้งเอง @ไอ้โม ในหัวมึงก็คิดแต่เรื่องแบบนี้ ชื่อกลุ่มแม่งเสื่อมหมด’ ผมตอบพวกมันไป
‘กูว่ามันก็เสื่อมอยู่แล้ว’ ไอ้แก๊บมันพิมพ์มา ไอ้โมส่งอิโมชั่นตัวเหลืองกลมๆที่เอามือทาบลงข้างหัวเป็นการเห็นด้วยว่าชื่อนี้มันเสื่อมสุดๆ แต่ผมไม่สนหรอก ตั้งมาแล้วเอาเป็นชื่อกลุ่มซะเลย ผมก็เล่าให้พวกมันฟังว่าทำไมถึงได้ไม่ไปโรงเรียน แต่ไม่ได้เล่าเรื่องที่ไอ้ตังค์มาอยู่กับผมเกือบทั้งวันหรอกนะครับ
‘กูก็นึกว่าแม่งตายไปแล้ว โทรมาบอกนิดหน่อยละไม่มี’ ไอ้แก๊บมันบ่น แต่ผมรู้ครับว่ามันห่วงผม
‘มึงจะหวังให้มันโทรหาทำไมวะแก๊บ โทรศัพท์แม่งมีไว้ถือเล่น ไม่เคยเติมเงินน่ะมัน’ ไอ้โมบ่นอีกคน
‘พวกมึงจะบ่นไรมากมายว่ะ ทำยังกับกูเป็นลูกพวกมึงงั้นแหละ เฮ้ยๆ ไม่ใช่กูไม่อยู่เนี่ยพวกมึงสองคนแอบสวีทวี้ดวิ้วกันเหรอว่ะ ใช่มั้ยครับ ปาป๊าแก๊บ มาม๊าโม ฮ่าๆๆๆ’
‘เดี๋ยวเหอะมึงไอ้โฟม อยู่ดีๆไม่ชอบหาเรื่องตาย กูไปเลี้ยงหมูละ’ ไอ้แก๊บมันด่า
‘เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย!!! กูไปช่วยในร้านละ’ ไอ้โมด่าเสร็จก็ออฟไลน์ออกไป บ้านมันขายโจ๊กครับ อร่อยโคตร ผมชอบไปกินที่ร้านมันบ่อยๆ เพราะไปทีไรได้กินฟรีทุกที แล้วพวกมันสองตัวก็หายหัวไปเลย
กลุ่มนกเขาจุ๊กกรู้เลยเหลือผมอยู่แค่คนเดียว ไม่มีไรทำเลยนั่งเปิดเฟสดูนั่นดูนี้ไปเรื่อย ไปส่องรูปไอ้พี่ชายแล้วหมั่นไส้เหลือเกิน ถ่ายรูปกับแฟนมันซะหวามเยิ้ม มันก็จะธรรมดาใช่มั้ยละครับถ้าแฟนมันไม่ใช่ผู้ชายน่ะ กล่องสนทนาอีกกล่องเด้งขึ้นมา แปลกใจนิดหน่อยครับตอนดูว่าคนทักเป็นใคร ไอ้แบงค์ครับ หัวหน้าห้องผมเอง ผมไม่ค่อยสนิทหรอกครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่คุยกันเลย แต่เรื่องที่คุยส่วนมากมันจะเป็นทางการมากกว่าคุยเล่นแบบเพื่อน
‘โฟม ทำไมมึงไม่มาเรียน ไม่สบายเหรอ กูโทรไปหาตั้งสามครั้งก็ไม่รับ’ ไอ้แบงค์มันทักมาครับ อ้อ ที่แท้ไอ้เบอร์แปลกๆก็เบอร์มันนี้เอง
‘พอดีไม่สบายว่ะ มึงมีอะไรรึเปล่า’ ปกติเวลาคุยกับมันจะเป็นเรื่องงานในห้องอะไรเทือกนี้
‘อ้อ กูต้องเช็คการมาเรียนของเพื่อนไง ไม่เห็นมีใบลา แต่กูเขียนปลอมให้มึงแล้ว ติดขาดมันไม่ค่อยดีว่ะ’ ช่างเป็นหัวหน้าห้องที่ประเสริฐอะไรเช่นนี้
‘เออๆ ขอบคุณว่ะ พรุ่งนี้กูคงไปเรียนได้แล้ว’
‘อืมๆ หายไวๆแล้วกัน’
‘คร้าบบบบบ’
‘^^’ เออ เพิ่งคุยนอกเรื่องกับมันก็วันนี้ละ ที่มันอวยพรว่าหายไวๆก็ถือว่านอกเรื่องแล้วครับ
กริ๊งงงงงงงง!!!!!! เสียงริงโทนมือถือผมเองละครับ เชยซะไม่มีใช่มั้ยละ แต่ผมชอบครับมันเบสิคดี แล้วดังทีก็ได้ใจด้วย
“โหลๆ สองโหลเท่ากับยี่สิบสี่” ไอ้ตังค์มันโทรมาครับ เริ่มหายไข้นิสัยเดิมๆเลยกลับเข้ามา ผมหมายถึงนิสัยปากไว กวนตีน จ้อเป็นต่อยหอย อันนี้อ้างอิงมาจากแม่ผมที่เคยบรรยายลูกชายคนสุดท้องหน้าตาดีอย่างผมไว้
‘กล้าเล่น หายไข้แล้วใช่ปะมึง เสียงใสเชียว’
“เออ มีไร”
‘โทรมาถามอาการเฉยๆ หายแล้วก็ดี เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้ากูไปรับ’
“ห่วงกูอะดิ๊” อยากกวนมันเฉยๆครับเลยถามแบบนี้ แต่ก็รู้สึกอายๆไงไม่รู้ จะมาอายอะไรกับมันวะ ทีกวนคนอื่นมากกว่านี้ยังไม่เห็นอายเลย
‘ไม่ห่วงมั้ง อุตส่าห์เสียเงินโทรมา’
“เอ่อ..” รู้สึกมีอะไรมาตันคออีกแล้วครับ มันก็แค่ห่วงเพื่อนเท่านั้นละน่า นิสัยไอ้ตังค์มันอ่อนโยนจะตาย
“เออ พรุ่งนี้เช้าอย่าลืมมารับกูด้วย แค่นี้นะ” พูดจบผมก็รีบกดว่างสาย อยู่ดีๆก็รู้สึกประหม่าเวลาคุยกับมัน สงสัยจะยังไม่หายไข้ดี
…
ผมเดินกระเผกๆเข้ามาในห้องเรียน ดีนะไอ้ตังค์มันไปลากผมจากเตียงตั้งแต่เช้าเลยมาโรงเรียนเร็ว ตอนเช้าๆคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ไม่งั้นกว่าผมจะเดินมาถึงห้องคงได้โดนสายตาสอดรู้สอดเห็นหลายคู่มองมาเป็นแน่ ยิ่งมีไอ้ตังค์เดินประคองมาตลอดทางแล้วยิ่งไปกันใหญ่
“เอาเงินมา ค่าข้าวเที่ยงที่มึงบอกจะเลี้ยง”
“โหย ขอบคุณซักคำละไม่มี” ก็ผมไม่ได้เอ่ยปากขอซักคำให้มันมาช่วยพยุง ไอ้ตังค์มันยื่นแบงค์ยี่สิบให้ผม ข้าวเที่ยงราคาเริ่มต้นในโรงอาหารมันก็ยี่สิบบาทนั้นละครับ แต่แค่นี้ไม่พอยาไส้ผม
“กูกินพิเศษยี่สิบห้า ค่าน้ำอีกห้าบาท ทั้งหมดก็สามสิบ นี้กูอุตส่าห์ลดค่าผลไม้กับขนมให้ตั้งสิบบาท” ใครจะว่าผมหน้าด้าน ขูดรีดไถ่เงินเพื่อนก็ว่าไปเถอะครับ แต่ที่ผมถูกตัดเงินก็เพราะมัน(ผมไม่เคยคิดจะยอมรับผิดหรอกครับ ฮ่าๆ) ลมปากมนุษย์มันกินไม่ได้ ใครจะว่าอะไรก็เชิญ ผมไม่สน แค่ผมกินอิ่มเป็นพอ
“สามสิบบาทขาดตัว มึงนี้จริงๆเล้ย วันนี้กูไม่ว่างกินข้าวด้วยว่ะต้องเคลียร์งานในสภานักเรียน ถ้าวันหลังว่างกูจะไปกินข้าวเที่ยงกับมึงแล้วกัน” กินข้าวเที่ยงกับผมเนี่ยนะ มันคงแปลกพิลึกที่หัวกะทิห้องกิ๊ฟเต็ดจะมานั่งแดกข้าวกับเด็กเกรียนหลังห้องแบบผม
“มึงจะมากินกับกูทำไม เรียนก็เรียนกันคนละห้อง กูก็มีเพื่อนคบนะเว้ย”
“อ้าว! นึกว่าไม่มี”
“เชี่ยกวนว่ะ” รู้จักกันแรกๆก็คิดว่าจะไปคนนิ่งๆเงียบๆ ที่ไหนได้ต่อปากต่อคำเก่งชิบหาย
“เออ ไม่อยากให้ไปกินด้วยก็ไม่ไป แต่ถ้ากูไปกินด้วยอาจจะแถมค่าผลไม้กับค่าขนมเพิ่มให้อีก” ฮึ่ย! เอาเงินล่อกูเหรอ ฝันไปเหอะ! ไม่มีทางซะละ!
“มึงรีบๆเคลียร์งานของมึงให้เสร็จวันนี้เลยนะ แล้ววันหลังก็มาแดกข้าวเที่ยงกับกูทุกวัน จนกว่าจะหมดสัญญาแล้วมึงจะไปแดกกับใครก็เชิญ กูอนุญาตแล้วนะ ยังไม่รีบขอบคุณอีก” ไม่มีทางซะละที่ผมจะปฏิเสธ ฮ่าๆ ได้มาอีกตั้งสิบบาท แค่กินข้าวกับมัน คุ้มสุดๆ มีแต่ได้กับได้ เงินซื้อผมไม่ได้หรอกนะครับถ้ามันไม่มากพอ
“อ้อ นี้กูต้องขอบคุณมึงใช่ปะเพิ่งรู้ ครับๆ กระผมขอบพระคุณเป็นอย่างสูงที่คุณโฟมกรุณาให้กระผมร่วมรับประทานมือเที่ยงด้วย”
“อืม ไม่เป็นไร รีบๆไปห้องมึงเถอะ กูจะเข้าห้องแล้ว” ฮ่าๆๆๆๆ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพระราชาที่มีไอ้ตังค์เป็นองครักษ์ ทำไมมันตามใจคนอื่นง่ายจังวะ แต่ก็ดี ผมจะได้ขูดรีดมันบ่อยๆ
“หายดีแล้วเหรอมึง” พอเข้ามาในห้องก็เจอไอ้แบงค์มันนั่งเรียงเอกสารอะไรของมันไม่รู้อยู่บนโต๊ะหน้าห้อง คือไอ้พวกเด็กหัวกะทิของห้องมันก็นั่งกันแต่ข้างหน้าละครับ หางกะทิแต่อร่อยรสดีอย่างผมก็จะสิงสถิตอยู่หลังห้อง เพราะโลเคชั่นมันเหมาะแก่การแอบหลับและปั่นงานค้างเวลาครูสอน
“ก็ยังเจ็บๆแผลบ้าง แต่ไข้หายแล้ว” ผมตอบมัน ก่อนจะเดินกระเผกๆไปที่ด้านหลังห้อง เพื่อนที่มาก่อนก็ทักผมไปตามทาง ผมก็ตอบเหมือนเดิมละครับ พอหย่อนก้นนั่งลงกำลังจะหยิบมือถือเอากีต้าร์ฮีโร่มานั่งจิ้มเล่น ไอ้แบงค์ก็เดินมาแล้วเอาชีทอะไรไม่รู้มากมายพร้อมกับสมุดอีกสองเล่มมาวางแหมะบนโต๊ะผม
“ชีทที่ครูแจกเมื่อวานกูเก็บไว้ให้ ส่วนนั้นสมุดเคมีกับฟิสิกส์ที่จดเมื่อวานกูให้มึงยืมไปจด” ไอ้แบงค์อธิบายที่มาที่ไปของกองกระดาษและสมุดตรงหน้า นี้วันเดียวครูสอนไปเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ชีทนี้เยอะได้อีก ผมเปิดสมุดดูก็จดตั้งหลายหน้า ครูเขาจะรีบสอนไปไหนกัน
“ขอบใจว่ะ เดี๋ยวกูเอามาคืนนะ ต้องคืนสมุดวันไหนอะ”
“อีกสองวันค่อยคืนก็ได้เพราะพรุ่งนี้ก็ไม่ได้เรียนวิชานี้ เออ วันศุกร์นี้ครูนัดสอบรายจุดประสงค์วิชาอังกฤษนะ” เฮ้ย! มันจะโหดไปมั้ยเนี่ย เปิดเทอมมาอาทิตย์แรกก็สอบเลยเหรอ!
“สอบเร็วจังวะ กูยังไม่รู้เรื่องเลย” เห็นแบบนี้เรื่องเรียนผมก็เครียดเป็นนะครับ ถึงจะไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไหร่แต่ผมก็ไม่ได้จะเหลวไหลทิ้งการเรียน เกรดผมสวยใช่เล่นนะไม่อยากจะโม้ คือจะได้ค่าขนมจากพ่อไงครับถ้าเกรดถึงเกณฑ์ที่พ่อผมกำหนด แต่ไอ้สี่จุดศูนย์ศูนย์นี้ผมไม่มีปัญญาหรอกครับแม้เงินรางวัลที่พ่อผมตั้งไว้จะสูงถึงห้าพันก็ตาม แต่ไอ้พี่ชายผมนี้สิ ได้แม่งทุกปี แล้วมันหมดเงินห้าพันไปกับอะไรรู้มั้ยครับ หมดไปกับไอ้ถ้วยฟูกระต่ายมาร์โซคิสม์นั้นไง ทั้งเปลี่ยนกรงให้ใหม่ ซื้อถาดใส่อาหาร ขวดใส่น้ำ ซื้อเบาะรองนอนนุ่มๆให้ไอ้กระต่ายสมควรตายนั้น ทีกับน้องกับนุ่งนี้ไม่เคยเจียดให้ซักบาท คงรู้เหตุผลที่ผมเกลียดไอ้กระต่ายโรคจิตมาร์โซคิสม์มากขึ้นแล้วใช่มั้ยครับ
“ไม่ยากหรอกแค่เรื่อง tense เอง” ไอ้เรื่องนี้ละโคตรเกลียด ใครมันคิดภาษาอังกฤษขึ้นใช้วะ ทำไมเวลาพูดจะต้องแบ่งอะไรมากมายหลายรูปแบบด้วยก็ไม่รู้ กริยาแม่งก็ผันอยู่นั้นละตั้งสามช่อง อย่าให้ภาษาไทยเป็นภาษาสากลบ้างนะ ทีนี้ละชาวโลกคงได้งงเป็นไก่ตาแตกกับครุ ลหุ คำเป็นคำตาย บาลีสันสกฤต ซึ่งผมที่เรียนรู้ภาษาไทยมาตั้งแต่เกิดก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน
“กูไม่ได้เก่งแบบมึงนี้หว่า”
“ให้กูติวให้ปะละ เย็นนี้หลังเลิกเรียนก็ได้”
“จริงดิ! เออๆ ขอบใจว่ะ งั้นเย็นนี้ก็ได้” ที่ผมตัดสินใจโหวตไอ้แบงค์เป็นหัวหน้าห้องนี้ไม่ผิดจริงๆ อันที่จริงไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะมีมันที่เป็นผู้ชายคนเดียวที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นหัวหน้าห้องนอกนั้นเป็นผู้หญิงหมด ถ้าให้พวกผู้หญิงกุมอำนาจของห้องนะเหรอ ยึ๋ย! แค่คิดก็สยองแล้ว แต่ดีที่ว่ามันหล่อ สูง ขาว ตี๋ รสนิยมพื้นฐานของพวกผู้หญิงเลย มันเลยชนะผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงต่ำแหน่งหัวหน้าห้องคนอื่นๆอย่างขาดลอย
“อืม มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้ สำหรับมึงกูว่างเสมอ”
“หา!”
“เปล่าๆไม่มีไร เย็นนี้เจอกัน” แล้วมันก็เดินกลับไปที่หน้าห้อง เมื่อกี้ผมว่าผมได้ยินอะไรทำนองว่า สำหรับผมมันว่างเสมออะไรเทือกนี้ แต่มันพูดซะเบา ผมคงหูฝาดไปมั้ง มันคงไม่มาปล่อยคำพูดเสี่ยวๆใส่ผู้ชายด้วยกันเองหรอก ไอ้แบงค์มันก็ดีกับเพื่อนในห้องเป็นห่วงเพื่อนในห้องอย่างนี้ทุกคนละ เอ๋ รึเปล่าวะ ผมก็ไม่แน่ใจซะด้วยสิ ช่างเถอะ กับคนอื่นจะอะไรยังไงก็ช่างมัน แค่มันทำดีกับผมก็นับได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีแล้ว
~~~~~ Nonsense รักนี้ไม่มีเหตุผล ~~~~~
ความคิดเห็น