ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มนุษย์ล่องหน, เพราะว่าไม่มีใครมอง(เห็น)เค้า

    ลำดับตอนที่ #5 : ไม่มีมนุษย์ล่องหน หากเขาเป็นเพื่อนบ้านของคุณ

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ย. 49


                      ใครเป็นลูกใคร ใครเป็นพี่น้องกับใคร ชื่ออะไร ทำอะไรอยู่ เราจะไม่พลาดข่าวสารเหล่านี้ ไม่มี ไม่มีทาง....

                      ทุกๆ ข่าวสาร จะรวมอยู่ที่นี่

                      ณ หมู่บ้านเล็กๆ ในชานเมือง บ้านหลังเล็ก ตึกหลังน้อย เรียงอย่างเป็นระเบียบตามซอยต่างๆ ร้านขายของชำล่วย แน่นไปด้วยเด็กๆ ที่มุ่งซื้อขนม ลูกอม       เจ้าของร้าน  แม่ค้าผู้มีอายุ นั่งโบกพัดไปมา มองดูลูกค้าตัวน้อยๆ อย่างเอ็นดู     นอกจากเด็กๆแล้วยังมีลูกค้ารายอื่นอีก เดินเข้ามาในร้านด้วยมือเปล่า แล้วเดินกลับออกไปพร้อมกับหิ้วถุงน้ำอัดลม ใส่น้ำแข็งเย็นๆ 
               
                      "ป้า ๆ เป๊ปซี่ใส่น้ำแข้งถุงหนึ่ง... "

                      ในช่วงระหว่างเที่ยงวันถึงบ่ายของวันปกติ ร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ ที่ตั้งอยู่หน้าซอย 1 กำลังครึกครื่น ที่โต๊ะอาหารมีลูกค้ากำลังนั่งกินข้าว และลูกค้าใหม่เพิ่งเข้ามา กำลังนั่งรออาหารที่เพิ่งสั่งไป เสียงแกร๊ก แกร๊ก ของตะหลิวที่กระทบกับกระทะอย่างไม่มีหยุด บ่งบอกว่า แม่ค้ากำลังโดนเร่งจากรายชื่ออาหารของลูกค้า และตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารอย่างเอาเป็นเอาตาย

                       "กระเพาหมู 2 ใช่ดาว 1 กระเพาหมูกรอบไม่เผ็ด 1"
                       "ราดหน้าเส้นหมี่ 1"
                       "กระเพาไก่ 1"

                   ในการสนทนาหนึ่งที่กลุ่มโต๊ะวัยรุ่นชาย 
                        "เฮ้ย เองไปเอาน้ำแข็งเพิ่มดิ!"
                        "มึงนั้นแหล่ะไปเอา ไอ้ J อยู่ใกล้สุดแล้ว!"
                        "เออ..อ... ก็ได้ว่ะ " หนุ่มที่ถูกใช้ให้ไปเอาน้ำแข็งเพิ่ม ลุกออกจาโต๊ะกินข้าว แล้วกลับมาในอีก 2-3 นาที โดยเข้าได้สังเกตุว่า มีคนเข้ามาในร้านเพิ่มขึ้นอีก
                        "หึ? ใครว่ะ"
                     ด้วยเสียงพูดพึมพัม ทำหน้าสงสัย เพื่อนที่อยู่ข้างๆ และที่นั่งฝั่งตรงข้ามโต๊ะพากันมองไปที่หน้าร้านตามสายตาของ J
                        "อ้อ.. นั้นหลานของคนซอยสาม เห็นแม่ข้าบอกมาว่า มาเยี่ยมยามที่นี่ตั้งแต่ตอนปิดเทอมใหม่ๆ "
                      คนๆนั้นคือ สาวรุ่นอายุราวๆ 16-18 เธอเข้ามาในร้านพร้อมกับเด็กหญิงรุ่นเดียวกันอีก 2-3 คน
                         "เพิ่งเคยเห็นหน้าว่ะ....."
                         "ข้าเคยเห็นแล้วครั้งหนึ่งว่ะ" เพื่อนชายอีกคนพูดเสริม "เมื่อ 2-3 วันก่อนที่หน้าหมู่บ้าน"
                       เพื่อนชายอีกคนพูดต่อทันที "ข้าได้ยินแม่ข้าคุยกับคนข้างบ้าน ว่าจะย้ายมาเรียนแถวนี้ตอนเทอมหน้าด้วยโว๊ย"

                       แน่นอน ไม่มี ไม่มีทางที่พวกเค้าจะไม่รู้อะไรเลย เป็นไปไม่ได้ ว่าพวกเค้าจะพลาดข่าวสารใดๆ ไป  ไม่มีคนใดที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่มีคนใดที่ไม่รู้จัก หรือแม้แต่คนที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ก็เถอะ   ข่าวสารไม่ได้ล่าช้าเลยซักนิด หลานใครลูกใคร เรารู้หมด      เจ้าตัวเองอาจนึกไม่ถึงเลยก็ได้ ว่าเรื่องของตัวเองเป็นที่รู้จักได้อย่างไร ถึงแม้จะยังไม่มีผลอันตรายต่อตัวเองใดๆ ก็ตาม มันทำความฉงนให้แก่เจ้าตัวไม่น้อย  เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อย อย่างเช่น ตอนนี้ที่หน้าร้านอาหารตามสั่ง..

                       เด็กชายตัวน้อยประมาณ 11 ขวบ นั่งรออาหารอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าร้าน โดยสั่งแบบห่อกลับบ้าน  สักพักเขาก็โดนเรียกชวนคุยจากแม่ค้าที่พัดอะไรบางอย่างในกระทะใบโต ถัดจากที่นั่งม้าหินเพียงเมตรสองเมตร

                            "ได้ข่าวว่าแม่อยู่ต่างประเทศเหรอ?"

                       เด็กคนนั้นหันไปมองแม่ค้าทันที ไม่แน่ใจว่า แม่ค้ากำลังพูดอยู่กับตัวเองหรือเปล่า เพราะเธอไม่ได้มองมาทางเค้า มัวแต่มองบนกะทะ พลางหยิบเครื่องปรุงใส่ แต่สิ่งที่เธอพูดไปเมื่อกี้ มันตรงกับเรื่องของตัวเอง  แม่ของเค้ากำลังทำงานอยู่ที่ต่างประเทศจริงๆ ถ้าเธอไม่ได้พูดกับเค้า แล้วเธอพูดกับใครล่ะ

                            "อยู่ประเทศไหนหรอ?" แม่ค้าคนนั้นเริ่มถามอีกครั้ง  เด็กชายลังเลที่จะตอบอยู่เล็กน้อย แล้วก็ตัดสินใจอ้าปาก...
                            "อยู่ญี่ปุ่นครับ"

                         เค้าได้ยินเสียงรับคำ  อื้มม..ม.... ของแม่ค้าคนนั้นแววๆ ทำให้เค้ารู้ว่า ตัวเองเข้าใจไม่ผิด แม่ค้ากำลังคุยอยู่กับเค้า   สักพัก หลังจากที่เธอใช้ตะหลิวตักอาหารในกะทะใส่ในจาน เอากะทะไปล้าง แล้วกลับมาเริ่มตั้งหน้าตั้งตาพัดอะไรอีก  เธอก็เริ่มพูดขึ้น

                             "ท่าทางบ้านรวยนิ  แล้วเราล่ะเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นบ้างเปล่า?"
                             "ยังไม่เคยครับ เห็นแม่บอกว่า ปิดเทอมครั้งหน้าจะมารับไปเที่ยว"     เพราะว่านานๆ ทีที่จะมาซื้อข้าวที่ร้าน และเพราะไม่เคยคุยอะไรเลย ไม่ได้สนิทอะไรกัน เด็กชายพูดเสียงต่ำทำคอตก ไม่กล้าถามว่ารู้เรื่องของเค้าได้ยังไง ทั้งๆ ที่ไม่เคยคุยอะไรกันมาก่อน ญาติก็ไม่ใช่
                     
                              "อืม.ม...ม....  ดีเนอะ    เอ่ะ ได้ล่ะ "   แม่ค้าพูดพร้อมๆ กับส่งถุงพลาสติกใส่กล่องโฟมอาหารที่เค้าสั่งมาให้เค้า  เธอยิ้มแล้วพูดขอบใจตามหลังมา หลังจากที่เด็กชายเดินออกจากร้าน พร้อมถุงกล่องข้าวในมือด้วยหน้าคิ้วขมวด  "เดินออกจากบ้านมาซื้อขาว 20 บาท ก็ถูกรู้อะไรหมดเลยหรอ ?"
     
                          ตกเย็น ในหมู่บ้านเริ่มดูมีชีวิตชีวามากขึ้น  หลังงานเลิกผู้คนกลับบ้าน  เด็กมาอยู่รวมกันในสนามเด็กเล่น ที่ชิ่งช้า ที่กระดานลื่น ที่กองดินหญ้า  และอีกกลุ่มคนที่มารวมเป็นปกติทุกเย็น  กลุ่มแม่บ้านที่พาลูกลูกมาวิ่งเล่นที่นี่ พวกเธอกำลังคุยเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารที่ตนรู้ และรอรับฟังข่าวสารจากเพื่อนคนอื่นๆ   หรือไม่พวกเธอก็กำลังนินทาใครอยู่ก็ได้  พูดให้ถูก  คุณแม่บ้านกลุ่มนี้กำลัง "ฟ๋อย" กันอยู่นั้นเองที่เป็นภาษาชาวบ้านสุดๆ แล้ว   

                           ในตอนนี้ไม่ได้มีเพียงแต่พวกคุณแม่กลุ่มนี้เพียงกลุ่มเดียว  ห่างจากสนามเด็กเล่นไม่ไกลนัก  ใต้ต้นไม้ใหญ่มีเก้าอี้ไม้ที่สร้างขึ้นเองโดยคนในละแวกนั้น สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจใต้ร่มไม้แห่งนี้  ขณะนี้มีกลุ่มแม่บ้านกำลังนั่งคุยกันอย่าเมามัน  นานครั้งก็มีแม่บ้านคนอื่นเดินออกมาจากตัวบ้าน มายืนสนทนาร่วมในกลุ่มด้วย  ในการสนทนานั้นจับใจความได้ว่า.....

                           หมาบ้านสุดซอย  ชอบออกมาขี้เรี่ยราดหน้าบ้านคนอื่น โดยขณะนี้ แม่บ้านสามคนกำลังนั่งคุยถึงการแก้ปัญหาอยู่บนเก้าอี้ใต้ต้นไม้ใหญ่นั้น แม่ย้านที่นั่งกลางสุดเริ่มย่นออกมาว่า เจ้าของบ้านไม่ยอมดูแลหมาที่ตัวเองเลี้ยงไว้ ปล่อยออกมาขึ้เรี่ยราดหน้าบ้านคนอื่น มันใช่ไม่ได้!  คนที่อยู่ริมซ้าย พูดไม่พอใจเพิ่มขึ้นอีกว่า พวกหมาบ้านนั้นไม่ได้มีแค่ปัญหานี้ปัญหาเดียว เสียงเห่าของมันก็ทำความน่าลำคาญใจด้วย  ซึ่งมันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้   -  -  แม่บ้านทั้งสามเริ่มเปลี่ยนการสนทนา

                           ที่แยกที่ 3 ทีแม่บ้านอีกหนึ่ง เดินออกมาจากซอย แล้วแวะเข้าชิดริมกำแพงที่หน้าซอยนั้นเพื่อเข้าไปคุยกับแม่บ้านที่ชื่อ p อีกคนที่นั้น
                               "เมื่อคืนดูหรือเปล่า!?"
                               "ดูดูๆ จะพลาดได้ยังไง......"  จากนั้นผู้หญิงที่เดินออกมาจากซอยแยกที่ 3 นั้น ก็เดินย้ายไปคุยในบ้านป้า k ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอายุอาวุโสที่สุดในซอย

                            แม่บ้านกลุ่มที่อยู่ใต้ต้นไม้  ตะโกนเรียนแม่บ้านหญิงที่เพิ่งเดินออกมาจากบ้านหน้าซอย 3 นั้น ให้ไปสนทนาด้วย
                                "ไง  วันนี้แกงอะไรล่ะ"
                                "ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่แกงจืดวุ้นเส้น กับผัดผักบุ้ง   จะแบ่งไปบ้างไหมล่ะ!"
                                "ไม่เป็นไรหรอก ที่ย้านมีแกงเขียวหวานอยู่แล้ว..."
                             ขณะนั้นมีรถยนต์คันหนึ่ง แล่นเข้ามาผ่านกลุ่มแม่บ้านใต้ต้นไม้นี้  รถความเร็วลงที่ปลายสุดของซอยนั้น กลุ่มแม่บ้านทั้งมหดที่อยู่ในระแวกนั้นก็มองตามรถไป  ชายร่างสูงหน้าตาดี แต่งตัวเรียบร้อยเข้าทรงคนหนึ่ง ลงมาจากรถในด้านหน้าฝั่งคนขับ  ชายคนนี้เป็นลูกของบ้านหลังโตสุดซอย มีฐานะร่ำรวยพอประมาณ  และแน่นอน เรื่องของเค้าเป็นที่รู้จักของทุกคนในหมู่บ้านอยู่แล้ว    -   -  ในเวลานี้เป็นเวลาเลิกงานปกติธรรมดา  หากเว็นแต่เย็นวันนี้  กับประโยคที่ว่า.......

                                "เดี๋ยวลูกชายบ้านนั้นก็เลิกกับนังศรีแล้ว!!.."

                              เป็นเสียงของป้า k ที่ดังออกมาจากตัวบ้าน ซึ่งนั่งคุยอยู่กับแม่บ้าน w หลอนอาศัยอยู่ในซอยแยก 3

                                "งั้นเดี๋ยวนู๋ไปทำกับข้าวให้ลูกก่อนนะป้า  ไปล่ะ.."  แม่บ้าน w เดินออกจากที่นั้ร เร่งฝีเท้าไปทางด้านหลัง แล้วเหลี่ยวหายไปที่หน้าแยกนั้น

                                "ว่าไงน่ะป้า..!!  "  
      
                              คราวนี้ เป็นเสียงตะโกนอย่างพร้อมเพียงจากต้นไม้ใหญ่ ข้ามไปยังบ้านของป้า k เป็นเสียงของกลุ่มแม่บ้านสี่คน  หนึ่งในสามที่นั่งอยู่บนโต๊ะไม้หัวไปถามกับแม่บ้าน p 
                                 "พี่ p คุยอะไรกันบ้างกับ พี่ w หรอ?"
                                 "หา?  ก็ไม่มีอะไรมากหรอก  แค่มาถามกับพี่ว่า เมื่อคืนดูช่อง 3 หรือเปล่า..."  
                               แต่ยังไม่ทันที่แม่บ้าน p จะพูดจบ  ทั้ง 3 คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ ต่างแยกย้ายกันไปอย่างรุกรีรุกราน  คนหนึ่งเดินไปทางต้นซอย แล้วเหลี่ยวหายไปที่แยกหนึ่ง  อีกคนเดินกลับบ้านไปทางสุดซอย   และคนท้ายสุดที่เพิ่งถามคำสุดท้ายกับแม่บ้าน p นั้นเดนหายเข้าไปในตัวบ้านป้า k พร้อมกับน้ำเสียงบ่นพึมพำ "ใครหรอ ใคร!!! นังศรีเนี้ย..

                                ณ ตัวบ้านของป้า k     ป้า k กำลังนั่งพับผ้าอยู่ในบ้าน
                                 "ว่าไงล่ะ m มีอะไรหรอทำหน้าแตกตื่นมาเชียว" ป้า k หงายหน้าจากกองผ้า "นั่งลงก่อน นั่งลงก่อน เดี๋ยวไปหาน้ำมาให้กิน"
                                 "โอ้ย ไม่ต้องแล้วป้า "  แม่บ้าน m โบกมือผ่านใบหน้าตัวเองไปมา "จริงเหรอป้า ที่ว่าลูกชายบ้านสุดซอยจะเลิกกับใครนะ  นางศรีอะไรนั้น"
                                 "อะไรน่ะ! ไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย"  ป้า k พูด แล้วลุกไปเก็บผ้าที่พับไว้ ใส่ในตู้เสื้อผ้าอีกด้านของตัวบ้าน "ลูกชายบ้านสุดซอย จะเลิกกับใคร?  ตอนนี้คบกับใครอยู่ ฉันเองยังไม่รู้เลย!!"
                                 "่อ้าว ป้า!.."

    ....................................................................................................................

                               เช้าตรู่วันต่อมา  สนามเด็กเล่นที่ซอยหนึ่ง เงียบสอบ  ชิงช้านิ่งไม่ไหวติงเป็นอย่างใด เสียงรถ ผู้คนตามซอย ดังน้อยกว่าช่วงอื่นๆ ในระหว่างวันหนึ่งวัน  เสียงที่เป็นจุดเด่นในยามเช้าแบบนี้ คงจะเป็นเสียงสวดมนต์ให้พร ของพระสงฆ์ ที่ออกบิณฑบาตรยามเช้า และในซอยหนึ่งขณะนี้  แม่บ้าน p และแม่บ้าน w กำลังนั่งยองๆ รอใส่บาตรอยู่ที่หัวซอยแยกที่สาม
                                 "เป็นไงบ้างล่ะ เป็นอย่างที่ป้า k บอกไว้เลย"
                                 "อื้มม!... เลิกกับนางศรีจริงๆ ด้วยล่ะ"
                                 "ดีนะที่เมื่อคืนไม่พลาด...."

                               ความวุ่นวายเล็กน้อยเกิดขึ้นตั้งแต่เย็นเมื่อวานนี้ หลังจากที่แม่บ้านกลุ่มหนึ่งได้ยินคำพูดของป้า k ถึงหญิงที่มีชื่อว่า "ศรี" แล้ว "นางศรีเป็นใคร?" ด้วยความสงสัย แม่บ้านสามคนที่นั่งอยู่ด้วยกันใต้ต้นไม้ใหญ่ ต่างกระวนกระวาย ทำไมตนเองถึงไม่รู้จัก? เธอเป็นใคร เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ในหมู่บ้านหรือเปล่า   แต่ป้าศรีบอกว่า เดียวก็เลิกกับลูกชายบ้านนั้นแล้ว  ไปเกี่ยวอะไรกันด้วยล่ะ   ด้วยเหตุที่ข้อสงสัยของตนต้องทำให้กระจ่าง  แม่บ้าน m ตัดสินใจเช้าไปถามป้า k โดยตรงในบ้านเืื่มื่อเย็นวันนั้น แม่บ้าน o ที่อาศัยอยู่ในบ้านของแญกซอยหนึ่งนั้น เลือกเดินไปถามเพื่อนบ้านข้างๆ ในละแวกของตัวเอง
                                 "นั่งศรีหรอ?  ใครล่ะ? แล้วลูกชายบ้านนั้นคบกับใครอยู่ ฉันก็ไม่รู้น่ะ เดี๋ยวจะไปถามพวกซอยสองอีกที"                   

                               และเ่ช่นเดียวกันกับแม่บ้าน t หลังจากที่ได้ยินคำพูดของป้า k แล้วก็เดินกลับไปทางบ้านของตนเองทางสุดซอย ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านหลังใหญ่ของชายหนุ่ม ผู้เป็นหนึ่งในหัวข้อสนทนาขณะนี้  แม่บ้าน t เองก็เลือกที่จะถามเพื่อนบ้านของตนเองในละแวกนั้น ถึงเรื่องคำพูดของป้า k
                                 "หา--?!  ลูกชายบ้านข้างๆ นี้หรอ  ฉันเองยังไม่รู้เลยว่าคบกับใครอยู่ ยังโสดอยู่ไม่ใช่เหรอ?  แล้วใครล่ะนั้น นังศรีน่ะ"
                               แม่บ้าน t และแม่บ้าน o ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ต่างกันมากนัก....

                               แล้วใครล่ะ หญิงที่มีนามว่า "ศรี" !!!

                               ตกเย็นในวันเดียวกันนั้น  ความอลหนของการตามหา "นังศรี" ในซอยหนึ่ง ได้ลุกลามไปถึงซอยสอง สาม และซอยสี่ ซอยสุดท้ายของหมู่บ้าน และในหนึ่งการสนทนา ณ สนามบอลขนาดเล็กที่ซอยสี่นั้น
                                 "ศรี!? ใครว่ะ  คนที่เมื่อวานเองบอกว่าเพิ่งย้ายมาใหม่หรือเปล่าว่ะ"
                                 "อืมมม... ไม่รู้ว่ะ"
                                 "ข้าว่าไม่ใช่หรอก คนที่เพิ่งย้ายมาใหม่ๆ จะไปคบอะไรกับบ้านเศรษฐีซอยหนึ่ง วะ?"
                                 "เออว่ะ เช่งเม่งเหอะ เล่นบอลต่อ!"

                               ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ต้องบุกถึงบ้านป้า k โดยตรง ถามให้รู้ไปเลยว่า "นังศรี" คือใครกันแน่  ในหัวค่ำวันนี้ ทุกอย่างจะถูกเปิดโปรง ณ บ้านป้า k ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน มีแม่บ้านมานั่งรวมกันอยู่ ห้าหก คนแล้ว   และยืนคุยกันอยู่ที่หน้ารั่วบ้านอีกสามคน
                                 "นี่นี่ m เค้ามาหรือยัง ยังไม่เห็นหน้าเลยน่ะวันนี้ เดี๋ยวก็ไม่รู้หรอกว่า นังศรีน่ะ....
                                 "โอ๊ยยย!  m เค้าไปต่างจังหวัดตั้งแต่เช้าแล้ว   กว่าจะกลับก็มืดค่ำหน่อย เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าก็ไปบอกก็ได้   อ่ะ! ป้า k ออกมาแล้ว!!"
                              
                               ป้า k เดินแบกหลังออกมาจากตัวบ้าน  สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นสถานการณ์บริเวณหน้าบ้านของตน  แล้วมันกำลังจะเริ่มขึ้น แม่บ้านทุกคนเริ่มเข้ามามุงที่รอบตัวป้า k แต่ละคนก็ต่างกันยิงคำถามใส่  เอาล่ะอีกนิดเีดียว อีกนิดเีดียวเท่านั้น "นังศรี" จะถูกเปิดเผย เค้าเป็นใครกัน  ที่ลอดพ้นผ่านสายตาของแม่บ้านทั้่งหลายไปได้ โดยไม่มีใครรู้เห็นอะไรเลย  แต่ไม่้ว่าจะเป็นใครมาจากไหนก็ตาม  ขณะนี้ล่ะที่ป้า k  จะเป็นผู้บอกทุกๆ อย่างตอนนี้ล่ะ
                                 "ใครหรอป้า ใคร!??"
                                 "......... อ้าว! ไม่ได้ดูช่องสองหรอ  หลังข่าว สามทุ่มไง"
                                 "ป้าๆ พวกฉันไม่ได้ถามถึงเรื่องละครหลังข่าว..."
                                 "อ่ะ  เรื่องนั้นฉันดูอยู่ .... อ้อ นังศรี  ที่เพิ่งเลิกกับพระเอกไปน่ะ คนเดียวกัน......"
                                 "อืม  ป้าก็หมายถึงนังศรีนั้นไง เมื่อวานเจ้า w เค้าเข้ามาถามถึงตอนต่อไป ว่าจะเป็นไงบ้าง"
                                 "แล้วป้าก็ตะโกนออกมา..."
                                 "เออ เออ"
                                 "ตะโกนออกมาว่า  เดี๋ยวลูกชายบ้านนนั้น ก็เลิกกับนังศรีแล้ว "
                                 "โธ่!!... ป้า!"
                                
    .....................................................................................................

                               ผิดหวังกันไปเป็นแถบๆ สุดท้าย "นังศรี" ที่ป้า k พูดถึงคือ หนึ่งในตัวละครหลังข่าวของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งเท่าั้นั้น  ในขณะที่ป้า k พูดคุยถึงละครนั้นกับแม่บ้าน w เป็นช่วงพอดิบพอดีที่ ลูกเศษรฐีบ้านสุดซอยผ่านมา แล้วก็มาพอดีกับประโยคที่ว่า "เดี๋ยวลูกชายบ้านนั้น ก็เลิกกับนังศรีแล้ว"  ทั้งๆ ที่นั้นเป็นการสนทนาเกี่ยวกับละครหลังข่าว เรื่องหนึ่งเท่านั้น
                               เช้าอีกวันต่อมา เรื่องอลหนทุกอย่างก็คลายลง  แม่บ้าน t กำลังเดินไปยังบ้านของแม่บ้าน m เพื่อบอกถึงเรื่องรางของ "นังศรี"

                                 "อ้าว  เพิ่งรู้หรอ ฉันรู้เรื่องนั้นแล้วล่ะ  ว่าป้า k แก่พูดถึงละคร"
                                 "อ้าว!!!..."
                                 "อื้ม!! ตอนนแรกที่ฉันถาม ป้าแก่ก็งงอยู่เหมือนกัน ฉันก็นึกว่าป้า k  เค้าคงแกล้งทำไม่รู้  แต่พอคุยไปคุยมา ป้าแก่ก็บอกว่า พูดถึงละครเมื่อคืน  ฉันก็นึกขึ้นได้......"


                               ไม่มีใครพลาดอะไรไปหรอก  เพียงแต่ว่า ตัวคุณเองที่(ฟัง)พลาดไป  สุดท้ายแล้วท้ายสุด "นังศรี" ไม่ได้มีตัวตนอยู่ในละแวก "เพื่อนบ้าน" ของพวกเค้า  พวกเค้าไม่ได้พลาดอะไรไป และไม่มี  ไม่มีใคร "ล่องหน" ผ่านไปได้หรอก และนั้นเรากบอกกับคุณไปตั้งแต่แรกแล้ว
                                 "เฮ้ย! เองรู้ยังว่ะ"
                                 "อ้อ นังศรีน่ะหรอ  เหอะๆๆ ละครหลังข่าว"
                                 "เออ โครตไร้สาระเลยว่ะ..."
                                 (พร้อมกัน)"ฮะ ฮ่ะ ฮาฮ้า...ๆๆๆ"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×