ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : มนุษย์ล่องหน, อาจารย์ในโรงเรียนของเรา(คุณครูล่องหน)
                เด็กคนนั้นเดินผ่านอาจารย์ที่เข้าเวรยามเช้าไปเฉยๆ โดยไม่ทักทายอะไรเลยสักคำ ที่จริงกลุ่มอาจารย์พวกนั้นเองก็มัวแต่ฝอยกันอยู่ ไม่ได้สนใจนักเรียนที่ผ่านประตูโรงเรียนเข้ามาเลยด้วยซ้ำ เอาเป็นว่า อาจารย์อย่างพวกเราจะถูกให้ความสำคัญมากเพียงไหนกัน สำหรับเด็กรุ่นใหม่ในสมัยนี้ อย่างมากก็ขอแค่ คำทักทายตอนเช้า \"สวัสดี\" “อรุณสวัสดิ์\" บ้างก็ดีอยู่หรอก  แต่ในตอนนี้กลับ.......
                \"ฮ้ะะะ ..ๆๆๆ ฮะ จริงเด่ะ! \"
                \"เออ ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่ะ ว่ายายนั้นจะทำได้ \"
                \"ฮ้าาาๆๆๆ ฮะะ ฮะ ..!! ! ! \"
                ไอ้พวกข้างๆ นี้ก็ด้วย อาจารย์นั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคน โวยวายไม่เกรงใจกันเลย เช้าๆ ขอนั่งกินข้าวอย่างสงบๆ หน่อยได้ไหม ใครเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของพวกเธอเนี้ย
                \"เอ้อนี่ๆ คิดว่า อ.Z จะเข้าโฮมลูมเช้านี้ปะ ?\"
                \"อืมมม...  ไม่รู้อะ \"
                \"เราว่าไม่อะ `จานแก่เองก็ขี้เกียจล่ะน่าา... \"
                นี่พวกเธออ่านความคิดคนอื่นได้หรือไงกัน หรือเป็นแค่ความบังเอิญที่พวกเธอพูดถึงอาจารย์ที่ปรึกษาของตัวเองขึ้นมา โดยไม่รู้ว่ามีคนข้างเธอถามเธออยู่ในใจ แต่ไม่ว่าพวกเธอจะทำได้หรือไม่ได้ก็ตาม นิสัยชอบนินทาของพวกเธอไม่เปลี่ยนเลย เด็กสมัยนี้ชอบจับผิดอาจารย์ซะจริง
                อาจารย์ชายท่านหนึ่ง นั่งทานข้าวทำหน้ามุ้ยอยู่ในโรงอาหารยามเช้า เวียงโหวกแหวกในยามเช้า คงสู้กับตอนกลางวันไม่ได้ แต่เช้าๆ แบบนี้ ท่านคงจะอยากทานข้าวอย่างสงบๆ มากกว่ามานั่งฟังเสียงนักเรียนที่คุยข้ามหัวไปมาอย่างไม่เกรงใจกัน อาหารจานโปรดที่ท่านเลือกเป็นประจำ ก็ต้องมาเจอกับอาการเบื่ออาหารที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว ท่านทนนั่งทานไปจนหมดจาน แล้วรีบออกจากที่นั้นทันที
                หน้าที่ของพวกเราคือสั่งสอนศิษย์ผู้มีประสบการณ์อันน้อยนิด อบรมและดูแลเค้า ให้พวกเค้าได้ดี ให้พวกเค้าเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า เป็นบุคลากรที่สมบูรณ์แบบในสังคม
                หน้าที่ของพวกเราคือ ผู้รับคำปรึกษา สำหรับศิษย์ผู้มีปัญหาไร้ทางแก้ไข เราจะนั่งฟังเค้าเงียบๆ และเสนอหนทางการแก้ปัญหาให้แก่พวกเค้า ตามที่เราได้มีประสบการณ์มา ด้วยความเข้าใจ ด้วยความสนิทสนม
                หน้าที่ของ ครู อาจารย์ อย่างพวกเรา จะสอนศิษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เรื่องทุกเรื่องที่อาจารย์รู้ พวกศิษย์ควรจะได้รับรู้เท่าๆ กัน เราจะไม่ปิดกั้นหรือหวงวิชาของตนเอง
                หน้าที่ของครูคนที่สองรองจากพ่อและแม่ อย่างพวกเรา จะลงโทษศิษย์ใดใดที่ไม่เชื่อฟัง ระเมิดกฏ และเพื่อให้เค้าเป็นคนดีในอนาคต เราจะเข็มงวดต่อพวกเค้า
                และทั้งๆ ที่พวกเรารู้อยู่แก่ใจเช่นนั้น ทำไมคุณค่าของพวกเราถึงไม่ปรากฎบนสายตาของนักเรียน บางคนที่ยังทำตัวขาดความเคารพนับถือ เราจะทำอย่างไรกับศิษย์เหล่านี้ดี  อ่ะ! นั้นก็อีกราย นั่งไขวห้างอย่างสง่าอยู่หน้าห้องปกครอง คนข้างๆ คงเป็นผู้ปกครองล่ะซิ ไปก่อเรื่องอะไรอีกล่ะ ไม่ใช่เพียงแค่อาจารย์อย่างพวกเราเท่านั้นที่ต้องแบกรับปัญหานี้ ผู้ปกครอง พ่อแม่ของเด้กก็ด้วย พวกเค้าก็ทุกข์ใจไม่แพ้กัน แต่ดูเหมือนรายนี้จะเอาหนักเอาการเป็นพิเศษ ตรงที่ตัวผู้ปกครองเองก็.....
                \"เป็นไปไม่ได้!! ลูกฉันไปทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง!! \" เธอสวมชุดผ้าไหมคล้ายๆ กันกับชุดที่ใส่ไปงานราตรีของพวกไฮโซ มีกระเป๋าหิ้วใบเล็กกระทัดลัดอยู่ในมือข้างหนึ่ง อีกข้าง กำลังทุบโต๊ะ ปัง! ปัง! อย่างไม่พอใจ \"มีสิทธิอะไรมากล่าวหาลูกชั้น!!? \"
                \"ใจเย็นๆ คะคุณแม่ ทางอาจารย์เองไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด...\"
                \"แล้วนี้อะไรล่ะ?! เมื่อกี้ยังมาว่าลูกชายชั้นว่าไม่เกเรใคร!!... \"
                เสียงดังขึ้นกว่าเดิม มีบางรายเหมือนกันที่เป็นแบบนี้ ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมีพ่อแม่ที่เชื่อและเข้าข้างลูกอยู่ได้ตลอด  อยากให้หันมาฟังเสียงของอาจารย์บ้างก็ดี แต่ที่แย่กว่านั้นก็ยังมีอีก ไม่ว่าจะเป็น...  พลั้ก!
                \"โอ๊ย!\"
                พอหันหลังกลับไปดูก็วิ่งหายหัวไปแล้ว อะไรกัน ชนอาจารย์ทั้นคนวิ่งหายไปเฉยๆ ไม่ขอโทษสักคำ อย่างนี้ต้องสั่งสอน
                อาจารย์ชายผู้นั้นกำลังโมโหเมื่อโดนนักเรียนคนหนึ่งวิ่งชนกระแทกไปโดยไม่ขอโทษอะไรเลย ท่านคิดที่จะตามไปสั่งสอนเด็กคนนั้น จึงวิ่งตามไป แต่มันไม่ง่ายดายขนาดนั้น เด็กคนนั้นวิ่งนำไปไกลแล้ว ยากนักที่จะตามทันก่อนคลาดสายตา อาจารย์เริ่มเร่งฝีเท้าขึ้นอีกด้วยความโกรธ ไม่มีมารยาท ไม่มีมารยาท  เด็กคนนั้นก็เร่งฝีเท้าวิ่งนำหน้าไปไกลขึ้นอีกเหมือนกัน ราวกับว่ารู้ตัวดีว่ากำลังถูกไล่ตามอยู่ อาจารย์วิ่งผ่านทุกอย่างที่เด็กนักเรียนคนนั้นวิ่งผ่านไปเพื่อต้องการไล่ไปให้ถึงที่สุด ผ่านพุ่มต้นไม้ ผ่านกลุ่มนักเรียนที่เดินคุยกันอย่างไร้จุดประสงค์  ขึ้นอาคารเรียนไปชั้นสอง ผ่านห้องเรียน ผ่านบันไดไปชั้นสาม เอาล่ะใกล้แล้ว ใกล้แล้ว ท่านก้าวขาออกจากบันใดขั้นสุดท้าย เด็กนักเรียนคนนั้นหายเข้าไปในห้องเรียนแล้ว นั้นไม่ได้คลาดสายตาของอาจารย์คนนี้ไปซักนิด ห้องที่สามเอาล่ะ ท่านวิ่งตรงไปที่ห้องที่นักเรียนคนเมื่อกี้หายเข้าไปทันที แล้วก็มาถึงหน้าห้อง ท่านเตรียมที่จะตะโกนเรียก แต่...
                \"นี่!!... \"
                เสียงหายไปกลางคำพูด ในห้องเรียนนั้น ที่โต๊ะนักเรียนทุกตัวมีนักเรียนนั่งกันอยู่ครบ กำลังฟังอาจารย์ที่ปรึกษาโฮมลูมอยู่ และเด็กเมื่อกี้ล่ะ อาจารย์ชายยืนหอบและทำหน้างงงันอยู่หน้าห้องเรียนนั้น ท่านเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองมัวแต่วิ่งไล่ตามหลัง ไม่ได้เห็นหน้าตาเลยสักนิด แล้วเด็กคนเมื่อกี้อยู่ไหนล่ะเนี้ย ท่านคิด เด็กนักเรียนในห้องไม่มีใครสงสัยอะไรว่า จู่ๆ ทำไมมีอาจารย์มายืนเอามือกุมอก หอบอยู่หน้าประตู จะมีก็แค่นักเรียนสองสามคนที่ชี้มาทางประตูและกระซิบกัน
                \"มีธุระอะไรหรือคะ? อาจารย์ B\"
                อาจารย์ในห้องนั้นหันมาถามระหว่างการโฮมลูม
                \"อะ อาา-- เออ... ไม่มีอะไรครับ \"
                พูดอะไรออกไปไม่คอยชัด เป็นเพราะเหนือย และเจ็บที่หน้าอก และเพราะวิ่งมาตลอด กลับกลายเป็นว่า ท่าไม่สามารถรู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร เดินออกมาจากที่นั้นด้วยท่าทางอารมณ์เสียมากขึ้นเป็นหลายเท่า นี่เรากำลังทำอะไรอยู่
                ให้ตาย! ทำให้โมโหแต่เช้า ยังดีวันนี้มีสอนน้อย แค่คาบเช้าวิชาหนึ่งและก็คาบบ่ายอีกคาบหนึ่ง เอาล่ะ ไปเตรียมตัวสอนคาบแรกก่อนดีกว่า  ผู้รับหน้าที่สอนสังคมอย่างเรา มีอีกกี่คนที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เริ่มจาก....ชั่วโมงแรก..
                \"เงียบ! แล้วหยุดฟังได้แล้ว!! \"
                เสียงตะโกนเพื่อปราบปรามพวกศิษย์ให้เลิกคุย แล้วหยุดฟังสิ่งที่กำลังสอนของเราไม่ได้ผลสักนิด ได้ตรงมุมหลังห้องยังโยนหนังสือไดอารี่ไปมา เพื่อแกล้งเพื่อนนักเรียนอีกคนไม่หยุด ไอ้พวกเริมหน้าต่างก็มัวแต่เหม่อไปข้างนอก สุดท้ายก็ต้องทำเหมือนทุกๆ ครั้ง เขียนเนื้อหาเพิ่มเติมนอกจากในหนังสือทิ้งไว้บนกระดาน ให้แบบฝึกหัดหรือการบ้านเอาไว้ พวกที่ใฝ่เรียนก็ทำตามบ้างล่ะ แต่ไอ้พวกที่ยังทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวเวลาอาจารย์อยู่ในห้องนี่ซิ จะจัดการยังไงดี วิชาสังคมมันน่าเบื่อมากหรือไงกัน?
                ชั่วโมงสอนชั่วโมงสุดท้ายของวันนี้ในช่วงบ่าย นักเรียนห้องนี้อยู่ระดับชั้นเรียนสูงกว่าห้องเมื่อเช้า เป็นอย่างที่คาดไว้ ไม่มีเสียงดังโหวกแหวกโวยวายเหมือนไอ้พวกเมื่อเช้านี้ ดีอย่างนี้ค่อยสอนง่ายหน่อย เป็นอย่างที่คิดไว้ ทุกคนนั่งเงียบ เรียบร้อยกว่า.... เงียบเกินไป
                \"พวกเธอฟังที่กำลังอธิบายอยู่หรือเปล่า?! \"
                นี่มันเงียบเกินไปแล้ว! และไม่เห็นจำเป็นต้องนั่งฟังโดยผงกหัวขึ้นลงแบบนั้นนี้!? ทุกคนในห้องทำหน้างัวเงียเหมือนเพิ่งตื่นนอน บางคนก็ฟุบหลับไปแล้ว บางคนก็ใช้แขนยันคางอันดูหนักแสนหนักของตัวเองไว้บนโต๊ะเรียน โตขนาดนี้แล้วยังทำตัวเป็นเด็กที่ต้องนอนกลางวันหลังอาหารหรือไง บางคนไม่ได้มองมาทางกระดานดำหน้าห้อง เอาแต่ก้มหน้าก้มตาขีดเขียนอะไรบางอย่าง  แน่ล่ะไม่ใช่เรื่องเรียนหรอก ถ้าเดาไม่ผิดล่ะก็ กำลังเร่งลอกการบ้านของวิชาต่อไปอยู่แน่แน่ พูดอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้เพราะพวกเธอคงไม่ได้ยิน พวกเธอคงไม่ฟัง แล้วก็ต้องเลือกวิธีอย่างเมื่อเช้าเหมือนเดิม เขียนอะไรทิ้งเอาไว้ ให้แบบฝึกหัดเก็บคะแนน ทำอยู่แค่นั้น....
                                มนุษย์ล่องหน,  ความเคารพต่อครูบาอาจารย์ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ทำความเคารพต่อท่านเมื่อเจอท่าน เมื่อเดินผ่านท่าน
                                มนุษย์ล่องหน,  เพื่อให้ผลการเรียนของพวกคุณดีขึ้น จงทำการบ้านที่เขาให้ไป
                                มนุษย์ล่องหน,  ฟังสิ่งที่เขากำลังสอนพวกคุณด้วย พวกเขาหวังดีต่อคุณ
                สิ้นสุดชั่วโมงการสอน โรงเรียนเลิกแล้ว ทุกคนกำลังทยอยกลับบ้าน กลุ่มนักเรียนที่ยังไม่กลับจับกลุ่มนั่งคุยกันอยู่ก็มี ตามโรงอาหาร ตามห้องเรียน สอนย่อมหลังโรงเรียน หรือจะเป็น พวกที่ยังอยู่เพื่อซ้อมกีฬา และนี้ก็อีกกลุ่มที่ยังไม่กลับบ้าน ได้ยินเสียงกระซิบเป็นข่าวลือว่า เย็นนี้มีนักเรียนหญิงจับกลุ่มกันอยู่หลังโรงเรียนเพื่อท้าตบ  เป็นการทะเลาะเบาะแว้งอันซ้ำไปซ้ำมา รุ่นแล้วรุ่นเล่า  อาจารย์ที่อยู่ไกล้บริเวณนั้นที่สุด และได้รับรู้ข่าวลือนี้เป็นคนแรกก็คือเราซะด้วยซิ ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้อยู่แล้ว ต้องไปห้าม!!!!...
     
                พวกนักเรียนหญิงกำลังมุมล้อมกันอยู่ มีนักเรียนชายอยู่บ้างสองสามคน และที่ใจกลางกลุ่มนั้น มีนักเรียนหญิงห้าหกคนยืนประชันหน้ากัน ดีล่ะมาทันเวลา เหมือนยังไม่เริ่มอะไร อาจารย์ชายคิด แต่เมื่อเริ่มเร่งฝีเท้าก้าวแรก เสียงโวยวายก็ดังขึ้นที่กลางกลุ่มเด็กนักเรียนนั้น การทะเลาะตบตีเริ่มขึ้นแล้ว
                \"พวกเธอออ!!..  หยุดเดี๋ยวนี้!! \"
                เสียงตะโกนของอาจารย์ชายถูกกลบโดยเสียงเชียร์โห่ร้อง ในบริเวณนั้นไม่มีอาจารย์คนอื่นอยู่ด้วย มีเพียงท่านคนเดียว ท่านตัดสินใจฝาเข้าไปในกลุ่มนั้น แต่ก็ไม่ได้ผล กลุ่มนักเรียนที่ล้อมกันอยู่ หนาแน่นกว่าที่คิด อาจารย์ชายถูกพลักกระเด็นออกมา หลังจากที่พยายามเบียดเสียดแทรกตัวเข้าไป ตอนนี้กลับมานอนหงายหมดท่าอยู่กับพื้น เสียงโห่ร้องของนักเรียนยังเป็นเหมือนเดิม ไม่แรงขึ้นไม่เบาลง ในใจกลางกลุ่ม มีนักเรียนหญิงคู่หนึ่งกำลังตบตีกันอย่างเมามัน มีนักเรียนอีกสามสี่คนยืนกอดอกดูอยู่ข้างๆ
                \"หยุดเดี๋ยวนี้!!.. \"  อาจารย์ชายเริ่มตะโกนอีกครั้ง \"พวกเธอทำอะไรกันอยู่รู้ตัวบ้างไหม!!! ครูจะเรียกผู้ปกครองให้หมด!!! ”
                นักเรียนทุกคนที่อยู่ที่นั้นยังอยู่ในสภาพปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูเหมือนเสียงโห่ร้องเริ่มดังขึ้นเล็กน้อย ในใจกลางกลุ่มหนึ่งในนักเรียนหญิงที่ดวลฝ่ามือกันอยู่นั้น ล้มลงไปกองกับพื้น เสื้อขาดรุงรังเล็กน้อย ที่ใบหน้าและตามแขนมีลอยขีดขวน เพื้อนที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดอะไรกันบางอย่าง  อาจารย์ชายยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะห้ามเด็กพวกนี้ ท่านลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว แล้วเริ่มตะโกนใส่กลุ่มนั้นอีกครั้ง ในเมื่อเข้าไปห้ามตรงๆ ไม่ได้ล่ะก็....
                \"ครูจำหน้าพวกเธอได้นะ! ครูจะจดชื่อของทุกคนไว้ให้หมด! พวกเธอจะโดนเรียกผู้ปกครองแน่! หยุดเดี๋ยวนี้! ตามครูไปห้องปกครองเดี๋ยวนี้! ทุกคนเลย!!! \"
                ท่านตะโกนเสียงสุดแรงด้วยความโกรธของความโกรธ แต่พอสิ้นเสียงและตั้งสติลืมตาขึ้น ภาพนักเรียนกลุ่มใหญ่ที่เคยโวยวายอยู่ข้างหน้าก็หายไป ตอนนี้เบื้องหน้าของอาจารย์ชายไม่มีนักเรียนใดอยู่แล้ว เสียงโหร้องก็หายไป ท่านมองซ้ายมองขวาเพื่อย้ำความแน่ใจ สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบกายก็เป็นบริเวณหลังโรงเรียน เหมือนไม่มีอะไรผิดพลาด ท่านหันหลังกลับไปที่ฝั่งตึกเรียน เห็นกลุ่มนักเรียนเดินกระจัดกระจายกันไปอยู่ตามใต้ถุ่นอาคาร นั้นมันเด็กกลุ่มเมื่อกี้นิ ท่านยินอึ้งคิดอยู่คนเดียว ตาเปิดกว้างอ้าปากค้าง มองพวกนักเรียนที่ยืนมุงเชียร์คนตบตีกันเดินกลับไปเมื่อกี้นี้  บุคคลที่ถูกปล่อยทิ้งไว้อยู่บนสถานที่เดิมนั้นก็คือตัวท่านเอง ท่านหันไปมองรอบตัวอีกครั้ง ไม่ใช่เรื่องโกหก ตอนนี้เหลืออาจารย์ชายอยู่คนเดียวแล้ว นักเรียนทุกคนกลับกันไปหมดแล้ว การทะเลาะนัดตบครั้งนี้จบลงแล้ว.....
                                                                                                                            \"นี่เรามาทำอะไรที่นี่?!..\"
                \"ฮ้ะะะ ..ๆๆๆ ฮะ จริงเด่ะ! \"
                \"เออ ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่ะ ว่ายายนั้นจะทำได้ \"
                \"ฮ้าาาๆๆๆ ฮะะ ฮะ ..!! ! ! \"
                ไอ้พวกข้างๆ นี้ก็ด้วย อาจารย์นั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคน โวยวายไม่เกรงใจกันเลย เช้าๆ ขอนั่งกินข้าวอย่างสงบๆ หน่อยได้ไหม ใครเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของพวกเธอเนี้ย
                \"เอ้อนี่ๆ คิดว่า อ.Z จะเข้าโฮมลูมเช้านี้ปะ ?\"
                \"อืมมม...  ไม่รู้อะ \"
                \"เราว่าไม่อะ `จานแก่เองก็ขี้เกียจล่ะน่าา... \"
                นี่พวกเธออ่านความคิดคนอื่นได้หรือไงกัน หรือเป็นแค่ความบังเอิญที่พวกเธอพูดถึงอาจารย์ที่ปรึกษาของตัวเองขึ้นมา โดยไม่รู้ว่ามีคนข้างเธอถามเธออยู่ในใจ แต่ไม่ว่าพวกเธอจะทำได้หรือไม่ได้ก็ตาม นิสัยชอบนินทาของพวกเธอไม่เปลี่ยนเลย เด็กสมัยนี้ชอบจับผิดอาจารย์ซะจริง
                อาจารย์ชายท่านหนึ่ง นั่งทานข้าวทำหน้ามุ้ยอยู่ในโรงอาหารยามเช้า เวียงโหวกแหวกในยามเช้า คงสู้กับตอนกลางวันไม่ได้ แต่เช้าๆ แบบนี้ ท่านคงจะอยากทานข้าวอย่างสงบๆ มากกว่ามานั่งฟังเสียงนักเรียนที่คุยข้ามหัวไปมาอย่างไม่เกรงใจกัน อาหารจานโปรดที่ท่านเลือกเป็นประจำ ก็ต้องมาเจอกับอาการเบื่ออาหารที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว ท่านทนนั่งทานไปจนหมดจาน แล้วรีบออกจากที่นั้นทันที
                หน้าที่ของพวกเราคือสั่งสอนศิษย์ผู้มีประสบการณ์อันน้อยนิด อบรมและดูแลเค้า ให้พวกเค้าได้ดี ให้พวกเค้าเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า เป็นบุคลากรที่สมบูรณ์แบบในสังคม
                หน้าที่ของพวกเราคือ ผู้รับคำปรึกษา สำหรับศิษย์ผู้มีปัญหาไร้ทางแก้ไข เราจะนั่งฟังเค้าเงียบๆ และเสนอหนทางการแก้ปัญหาให้แก่พวกเค้า ตามที่เราได้มีประสบการณ์มา ด้วยความเข้าใจ ด้วยความสนิทสนม
                หน้าที่ของ ครู อาจารย์ อย่างพวกเรา จะสอนศิษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เรื่องทุกเรื่องที่อาจารย์รู้ พวกศิษย์ควรจะได้รับรู้เท่าๆ กัน เราจะไม่ปิดกั้นหรือหวงวิชาของตนเอง
                หน้าที่ของครูคนที่สองรองจากพ่อและแม่ อย่างพวกเรา จะลงโทษศิษย์ใดใดที่ไม่เชื่อฟัง ระเมิดกฏ และเพื่อให้เค้าเป็นคนดีในอนาคต เราจะเข็มงวดต่อพวกเค้า
                และทั้งๆ ที่พวกเรารู้อยู่แก่ใจเช่นนั้น ทำไมคุณค่าของพวกเราถึงไม่ปรากฎบนสายตาของนักเรียน บางคนที่ยังทำตัวขาดความเคารพนับถือ เราจะทำอย่างไรกับศิษย์เหล่านี้ดี  อ่ะ! นั้นก็อีกราย นั่งไขวห้างอย่างสง่าอยู่หน้าห้องปกครอง คนข้างๆ คงเป็นผู้ปกครองล่ะซิ ไปก่อเรื่องอะไรอีกล่ะ ไม่ใช่เพียงแค่อาจารย์อย่างพวกเราเท่านั้นที่ต้องแบกรับปัญหานี้ ผู้ปกครอง พ่อแม่ของเด้กก็ด้วย พวกเค้าก็ทุกข์ใจไม่แพ้กัน แต่ดูเหมือนรายนี้จะเอาหนักเอาการเป็นพิเศษ ตรงที่ตัวผู้ปกครองเองก็.....
                \"เป็นไปไม่ได้!! ลูกฉันไปทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง!! \" เธอสวมชุดผ้าไหมคล้ายๆ กันกับชุดที่ใส่ไปงานราตรีของพวกไฮโซ มีกระเป๋าหิ้วใบเล็กกระทัดลัดอยู่ในมือข้างหนึ่ง อีกข้าง กำลังทุบโต๊ะ ปัง! ปัง! อย่างไม่พอใจ \"มีสิทธิอะไรมากล่าวหาลูกชั้น!!? \"
                \"ใจเย็นๆ คะคุณแม่ ทางอาจารย์เองไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด...\"
                \"แล้วนี้อะไรล่ะ?! เมื่อกี้ยังมาว่าลูกชายชั้นว่าไม่เกเรใคร!!... \"
                เสียงดังขึ้นกว่าเดิม มีบางรายเหมือนกันที่เป็นแบบนี้ ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมีพ่อแม่ที่เชื่อและเข้าข้างลูกอยู่ได้ตลอด  อยากให้หันมาฟังเสียงของอาจารย์บ้างก็ดี แต่ที่แย่กว่านั้นก็ยังมีอีก ไม่ว่าจะเป็น...  พลั้ก!
                \"โอ๊ย!\"
                พอหันหลังกลับไปดูก็วิ่งหายหัวไปแล้ว อะไรกัน ชนอาจารย์ทั้นคนวิ่งหายไปเฉยๆ ไม่ขอโทษสักคำ อย่างนี้ต้องสั่งสอน
                อาจารย์ชายผู้นั้นกำลังโมโหเมื่อโดนนักเรียนคนหนึ่งวิ่งชนกระแทกไปโดยไม่ขอโทษอะไรเลย ท่านคิดที่จะตามไปสั่งสอนเด็กคนนั้น จึงวิ่งตามไป แต่มันไม่ง่ายดายขนาดนั้น เด็กคนนั้นวิ่งนำไปไกลแล้ว ยากนักที่จะตามทันก่อนคลาดสายตา อาจารย์เริ่มเร่งฝีเท้าขึ้นอีกด้วยความโกรธ ไม่มีมารยาท ไม่มีมารยาท  เด็กคนนั้นก็เร่งฝีเท้าวิ่งนำหน้าไปไกลขึ้นอีกเหมือนกัน ราวกับว่ารู้ตัวดีว่ากำลังถูกไล่ตามอยู่ อาจารย์วิ่งผ่านทุกอย่างที่เด็กนักเรียนคนนั้นวิ่งผ่านไปเพื่อต้องการไล่ไปให้ถึงที่สุด ผ่านพุ่มต้นไม้ ผ่านกลุ่มนักเรียนที่เดินคุยกันอย่างไร้จุดประสงค์  ขึ้นอาคารเรียนไปชั้นสอง ผ่านห้องเรียน ผ่านบันไดไปชั้นสาม เอาล่ะใกล้แล้ว ใกล้แล้ว ท่านก้าวขาออกจากบันใดขั้นสุดท้าย เด็กนักเรียนคนนั้นหายเข้าไปในห้องเรียนแล้ว นั้นไม่ได้คลาดสายตาของอาจารย์คนนี้ไปซักนิด ห้องที่สามเอาล่ะ ท่านวิ่งตรงไปที่ห้องที่นักเรียนคนเมื่อกี้หายเข้าไปทันที แล้วก็มาถึงหน้าห้อง ท่านเตรียมที่จะตะโกนเรียก แต่...
                \"นี่!!... \"
                เสียงหายไปกลางคำพูด ในห้องเรียนนั้น ที่โต๊ะนักเรียนทุกตัวมีนักเรียนนั่งกันอยู่ครบ กำลังฟังอาจารย์ที่ปรึกษาโฮมลูมอยู่ และเด็กเมื่อกี้ล่ะ อาจารย์ชายยืนหอบและทำหน้างงงันอยู่หน้าห้องเรียนนั้น ท่านเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองมัวแต่วิ่งไล่ตามหลัง ไม่ได้เห็นหน้าตาเลยสักนิด แล้วเด็กคนเมื่อกี้อยู่ไหนล่ะเนี้ย ท่านคิด เด็กนักเรียนในห้องไม่มีใครสงสัยอะไรว่า จู่ๆ ทำไมมีอาจารย์มายืนเอามือกุมอก หอบอยู่หน้าประตู จะมีก็แค่นักเรียนสองสามคนที่ชี้มาทางประตูและกระซิบกัน
                \"มีธุระอะไรหรือคะ? อาจารย์ B\"
                อาจารย์ในห้องนั้นหันมาถามระหว่างการโฮมลูม
                \"อะ อาา-- เออ... ไม่มีอะไรครับ \"
                พูดอะไรออกไปไม่คอยชัด เป็นเพราะเหนือย และเจ็บที่หน้าอก และเพราะวิ่งมาตลอด กลับกลายเป็นว่า ท่าไม่สามารถรู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร เดินออกมาจากที่นั้นด้วยท่าทางอารมณ์เสียมากขึ้นเป็นหลายเท่า นี่เรากำลังทำอะไรอยู่
                ให้ตาย! ทำให้โมโหแต่เช้า ยังดีวันนี้มีสอนน้อย แค่คาบเช้าวิชาหนึ่งและก็คาบบ่ายอีกคาบหนึ่ง เอาล่ะ ไปเตรียมตัวสอนคาบแรกก่อนดีกว่า  ผู้รับหน้าที่สอนสังคมอย่างเรา มีอีกกี่คนที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เริ่มจาก....ชั่วโมงแรก..
                \"เงียบ! แล้วหยุดฟังได้แล้ว!! \"
                เสียงตะโกนเพื่อปราบปรามพวกศิษย์ให้เลิกคุย แล้วหยุดฟังสิ่งที่กำลังสอนของเราไม่ได้ผลสักนิด ได้ตรงมุมหลังห้องยังโยนหนังสือไดอารี่ไปมา เพื่อแกล้งเพื่อนนักเรียนอีกคนไม่หยุด ไอ้พวกเริมหน้าต่างก็มัวแต่เหม่อไปข้างนอก สุดท้ายก็ต้องทำเหมือนทุกๆ ครั้ง เขียนเนื้อหาเพิ่มเติมนอกจากในหนังสือทิ้งไว้บนกระดาน ให้แบบฝึกหัดหรือการบ้านเอาไว้ พวกที่ใฝ่เรียนก็ทำตามบ้างล่ะ แต่ไอ้พวกที่ยังทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวเวลาอาจารย์อยู่ในห้องนี่ซิ จะจัดการยังไงดี วิชาสังคมมันน่าเบื่อมากหรือไงกัน?
                ชั่วโมงสอนชั่วโมงสุดท้ายของวันนี้ในช่วงบ่าย นักเรียนห้องนี้อยู่ระดับชั้นเรียนสูงกว่าห้องเมื่อเช้า เป็นอย่างที่คาดไว้ ไม่มีเสียงดังโหวกแหวกโวยวายเหมือนไอ้พวกเมื่อเช้านี้ ดีอย่างนี้ค่อยสอนง่ายหน่อย เป็นอย่างที่คิดไว้ ทุกคนนั่งเงียบ เรียบร้อยกว่า.... เงียบเกินไป
                \"พวกเธอฟังที่กำลังอธิบายอยู่หรือเปล่า?! \"
                นี่มันเงียบเกินไปแล้ว! และไม่เห็นจำเป็นต้องนั่งฟังโดยผงกหัวขึ้นลงแบบนั้นนี้!? ทุกคนในห้องทำหน้างัวเงียเหมือนเพิ่งตื่นนอน บางคนก็ฟุบหลับไปแล้ว บางคนก็ใช้แขนยันคางอันดูหนักแสนหนักของตัวเองไว้บนโต๊ะเรียน โตขนาดนี้แล้วยังทำตัวเป็นเด็กที่ต้องนอนกลางวันหลังอาหารหรือไง บางคนไม่ได้มองมาทางกระดานดำหน้าห้อง เอาแต่ก้มหน้าก้มตาขีดเขียนอะไรบางอย่าง  แน่ล่ะไม่ใช่เรื่องเรียนหรอก ถ้าเดาไม่ผิดล่ะก็ กำลังเร่งลอกการบ้านของวิชาต่อไปอยู่แน่แน่ พูดอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้เพราะพวกเธอคงไม่ได้ยิน พวกเธอคงไม่ฟัง แล้วก็ต้องเลือกวิธีอย่างเมื่อเช้าเหมือนเดิม เขียนอะไรทิ้งเอาไว้ ให้แบบฝึกหัดเก็บคะแนน ทำอยู่แค่นั้น....
                                มนุษย์ล่องหน,  ความเคารพต่อครูบาอาจารย์ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ทำความเคารพต่อท่านเมื่อเจอท่าน เมื่อเดินผ่านท่าน
                                มนุษย์ล่องหน,  เพื่อให้ผลการเรียนของพวกคุณดีขึ้น จงทำการบ้านที่เขาให้ไป
                                มนุษย์ล่องหน,  ฟังสิ่งที่เขากำลังสอนพวกคุณด้วย พวกเขาหวังดีต่อคุณ
                สิ้นสุดชั่วโมงการสอน โรงเรียนเลิกแล้ว ทุกคนกำลังทยอยกลับบ้าน กลุ่มนักเรียนที่ยังไม่กลับจับกลุ่มนั่งคุยกันอยู่ก็มี ตามโรงอาหาร ตามห้องเรียน สอนย่อมหลังโรงเรียน หรือจะเป็น พวกที่ยังอยู่เพื่อซ้อมกีฬา และนี้ก็อีกกลุ่มที่ยังไม่กลับบ้าน ได้ยินเสียงกระซิบเป็นข่าวลือว่า เย็นนี้มีนักเรียนหญิงจับกลุ่มกันอยู่หลังโรงเรียนเพื่อท้าตบ  เป็นการทะเลาะเบาะแว้งอันซ้ำไปซ้ำมา รุ่นแล้วรุ่นเล่า  อาจารย์ที่อยู่ไกล้บริเวณนั้นที่สุด และได้รับรู้ข่าวลือนี้เป็นคนแรกก็คือเราซะด้วยซิ ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้อยู่แล้ว ต้องไปห้าม!!!!...
     
                พวกนักเรียนหญิงกำลังมุมล้อมกันอยู่ มีนักเรียนชายอยู่บ้างสองสามคน และที่ใจกลางกลุ่มนั้น มีนักเรียนหญิงห้าหกคนยืนประชันหน้ากัน ดีล่ะมาทันเวลา เหมือนยังไม่เริ่มอะไร อาจารย์ชายคิด แต่เมื่อเริ่มเร่งฝีเท้าก้าวแรก เสียงโวยวายก็ดังขึ้นที่กลางกลุ่มเด็กนักเรียนนั้น การทะเลาะตบตีเริ่มขึ้นแล้ว
                \"พวกเธอออ!!..  หยุดเดี๋ยวนี้!! \"
                เสียงตะโกนของอาจารย์ชายถูกกลบโดยเสียงเชียร์โห่ร้อง ในบริเวณนั้นไม่มีอาจารย์คนอื่นอยู่ด้วย มีเพียงท่านคนเดียว ท่านตัดสินใจฝาเข้าไปในกลุ่มนั้น แต่ก็ไม่ได้ผล กลุ่มนักเรียนที่ล้อมกันอยู่ หนาแน่นกว่าที่คิด อาจารย์ชายถูกพลักกระเด็นออกมา หลังจากที่พยายามเบียดเสียดแทรกตัวเข้าไป ตอนนี้กลับมานอนหงายหมดท่าอยู่กับพื้น เสียงโห่ร้องของนักเรียนยังเป็นเหมือนเดิม ไม่แรงขึ้นไม่เบาลง ในใจกลางกลุ่ม มีนักเรียนหญิงคู่หนึ่งกำลังตบตีกันอย่างเมามัน มีนักเรียนอีกสามสี่คนยืนกอดอกดูอยู่ข้างๆ
                \"หยุดเดี๋ยวนี้!!.. \"  อาจารย์ชายเริ่มตะโกนอีกครั้ง \"พวกเธอทำอะไรกันอยู่รู้ตัวบ้างไหม!!! ครูจะเรียกผู้ปกครองให้หมด!!! ”
                นักเรียนทุกคนที่อยู่ที่นั้นยังอยู่ในสภาพปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูเหมือนเสียงโห่ร้องเริ่มดังขึ้นเล็กน้อย ในใจกลางกลุ่มหนึ่งในนักเรียนหญิงที่ดวลฝ่ามือกันอยู่นั้น ล้มลงไปกองกับพื้น เสื้อขาดรุงรังเล็กน้อย ที่ใบหน้าและตามแขนมีลอยขีดขวน เพื้อนที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดอะไรกันบางอย่าง  อาจารย์ชายยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะห้ามเด็กพวกนี้ ท่านลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว แล้วเริ่มตะโกนใส่กลุ่มนั้นอีกครั้ง ในเมื่อเข้าไปห้ามตรงๆ ไม่ได้ล่ะก็....
                \"ครูจำหน้าพวกเธอได้นะ! ครูจะจดชื่อของทุกคนไว้ให้หมด! พวกเธอจะโดนเรียกผู้ปกครองแน่! หยุดเดี๋ยวนี้! ตามครูไปห้องปกครองเดี๋ยวนี้! ทุกคนเลย!!! \"
                ท่านตะโกนเสียงสุดแรงด้วยความโกรธของความโกรธ แต่พอสิ้นเสียงและตั้งสติลืมตาขึ้น ภาพนักเรียนกลุ่มใหญ่ที่เคยโวยวายอยู่ข้างหน้าก็หายไป ตอนนี้เบื้องหน้าของอาจารย์ชายไม่มีนักเรียนใดอยู่แล้ว เสียงโหร้องก็หายไป ท่านมองซ้ายมองขวาเพื่อย้ำความแน่ใจ สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบกายก็เป็นบริเวณหลังโรงเรียน เหมือนไม่มีอะไรผิดพลาด ท่านหันหลังกลับไปที่ฝั่งตึกเรียน เห็นกลุ่มนักเรียนเดินกระจัดกระจายกันไปอยู่ตามใต้ถุ่นอาคาร นั้นมันเด็กกลุ่มเมื่อกี้นิ ท่านยินอึ้งคิดอยู่คนเดียว ตาเปิดกว้างอ้าปากค้าง มองพวกนักเรียนที่ยืนมุงเชียร์คนตบตีกันเดินกลับไปเมื่อกี้นี้  บุคคลที่ถูกปล่อยทิ้งไว้อยู่บนสถานที่เดิมนั้นก็คือตัวท่านเอง ท่านหันไปมองรอบตัวอีกครั้ง ไม่ใช่เรื่องโกหก ตอนนี้เหลืออาจารย์ชายอยู่คนเดียวแล้ว นักเรียนทุกคนกลับกันไปหมดแล้ว การทะเลาะนัดตบครั้งนี้จบลงแล้ว.....
                                                                                                                            \"นี่เรามาทำอะไรที่นี่?!..\"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น