คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8 : ความจริงที่เจ็บปวด
FRAME talk
นานๆทีจะว่างจากการทำงานพิเศษที่ได้รับการมอบหมายจากพี่ชายให้คุมผับทั้งผับอย่างกะทันหัน ชั้นเลยเลือกมาเดินใช้เงินให้แก้กลุ้มสักหน่อย ความวุ่นวายมันเข้ามามากมายเหมือนน้ำเขื่อนแตก จะมองไปทางไหนก็มีแต่ปัญหา แต่ก็นะยังมีความโชคดีที่ชั้นกับพี่ฮัทเข้าใจกันมากขึ้น จากเมื่อก่อนที่รักกันเหมือนคู่รักทั่วไป ตอนนี้เรามีความเข้าใจในความรู้สึกของกันและกันมากขึ้น ไม่ต้องพบเจอกันบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อน แต่ทำให้ความรักของเราทั้งสองเติบโตอย่างงดงามและแข็งแรง
“ว่าไงคะ พี่ฮัท” แค่นึกถึงสายก็เข้า หรือว่าเราจะเป็นเนื้อคู่กันจริงๆเนี่ย
“อยู่ไหนทำไมเสียงดังจัง” พี่ฮัทถามเสียงเรียบตามๆสไตล์ จะให้คนนี้พูดหวานๆคงต้องรอจนแก่
“มาเดินซื้อของ พี่ฮัทมีอะไรรึเปล่าคะ” ชั้นถามกลับ พี่ฮัทนิ่งสักพักก่อนตอบกลับมา
“พี่คิดถึง อยากไปหาแต่ก็ทำไม่ได้ ขอแค่ได้ยินเสียงให้มันคลายความคิดถึงไปบ้าง” น้ำเสียงนั้นดูเศร้า แต่ทำไมชั้นถึงรู้สึกหัวใจพองโตแบบนี้นะ นี่คือข้อดีที่สุดของเรื่องวุ่นวายทั้งหมด พี่ฮัทแสดงความรักออกมาชัดเจนที่สุดตั้งแต่คบกันมา ถึงแม้จะไม่ได้เจอกันแต่มีคำพูดแบบนี้ให้ฟังทุกวันมันก็คุ้มแล้ว
“ขนาดนั้นเชียว เว่อร์ไปแล้ว” ชั้นแกล้งพูดขัดกลบเกลื่อนความอาย
“จริงๆนะ นี่ไม่เชื่อพี่เหรอ???” พี่ฮัทรีบยืนยันทันที เด็กน้อยจริงๆเลยแค่นี้ก็มองไม่ออกว่าเค้าเขิน!!!
“คร้าๆๆ เออ...เกือบลืมไปเลย เฟรมแน่ใจแล้วว่าแกงส้มอยู่ที่ไร่กับพี่ฮั่น” ชั้นรีบพูดเรื่องสำคัญก่อนที่พี่ฮัทจะขอวางสายไปซะก่อน
“จริงเหรอ...งั้นพี่ต้องโทรไปอธิบายเรื่องทั้งหมดให้พี่ฮั่นฟังก่อน” พี่ฮัทน้ำเสียงร้อนรนขึ้นมาทันที
“ไม่มีทางรับสายหรอก ขนาดเฟรมเป็นน้องแท้ๆ พี่แกยังไม่ยอมรับสายเลย ลามไปถึงพี่เอพี่บีด้วย เฟรมต้องโทรไปหาแม่บ้านถึงจะรู้ว่าแกงส้มอยู่ที่นั่น” ชั้นบอกกึ่งบ่น ก็มันน่าโมโหพี่ชายของตัวเองนัก
“แล้วแกงส้มเป็นไงบ้าง...” พี่ฮัทถามด้วยความโล่งใจมากขึ้น
“ไม่รู้เหมือนกัน แม่บ้านบอกว่าพี่ฮั่นให้ขึ้นไปทำความสะอาดแค่อาทิตย์ละสามวันทุกวันให้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมง และห้ามใครคุยกับแกงส้มทั้งไร่เลย” ชั้นบอกข้อมูลที่สืบมาทั้งหมด
“มันก็แปลกดีนะ เหมือนพี่ฮั่นพยายามปกปิดทุกอย่างมากกว่าจะซ่อนแกงส้ม” พี่ฮัทตั้งข้อสงสัย
“เฟรมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ถ้าเฟรมเคลียร์งานที่ผับเสร็จเมื่อไหร่ เฟรมจะไปตามถึงที่เลยคอยดู” ชั้นบอกพี่ฮัทด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ถ้าพี่ฮั่นทำอะไรเกินเหตุไป เรื่องนี้ถึงมือชั้นแน่!!!
HUNZ talk
ผมตื่นตอนเช้าหลังจากแต่งตัวเสร็จก็รีบเดินไปเคาะประตูที่ห้องนอนของแกงส้มทันที เพราะหลังจากเรื่องเมื่อคืนเราสองคนก็ยังไม่ได้พูดอะไรกันอีก แกงส้มหน้าแดงวิ่งหนีเข้าห้องไป
“แกงส้ม” ผมเคาะประตูเรียกชื่อแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากเจ้าของห้อง หรือว่าจะโกรธเราแล้วหนีไปแล้ว ผมเคาะประตูเรียกอยู่หลายครั้งแต่ก็ไร้วี่แวว ผมเริ่มร้อนใจขึ้นมาทันที ไม่น่าใจร้อนทำอะไรเกินเลยแบบนั้นเลย หรือที่ว่าหน้าแดง...จะเป็นเพราะความโมโหกันแน่ ผมทุบประตูด้วยความโมโหตัวเอง
“พี่ฮั่นเป็นอะไร” เสียงไอ่บีถามผม
“แกงส้มหายไป...เราต้องรีบตามหา” ผมหันไปสั่งทันที ไอ่บีหรี่ตาเล็กน้อย
“แกงส้มมันเลี้ยงนกอยู่หลังบ้าน” ไอ่บีพูดช้าๆ เน้นทุกคำ พร้อมชี้นิ้วไปทางหลังบ้าน
“เหรอ???” ผมถามสั้นๆ เพราะความอาย นี่ผมทำอะไรลงไปเนี่ย!!!
“ครับ” ยังไม่จบไอ่บีมีหน้าตอบผมอีก มันจะรู้มั้ยว่าผมอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ผมเดินไปสองก้าวเพราะความอายก่อนนึกขึ้นได้
“ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครเป็นอันขาด” ผมหันไปขู่อย่างเหี้ยมเกรียม ไอ่บีทำท่ารูดซิปปากแต่สายตาที่ดูวิบวับมีรอยยิ้มในแววตานั้น บอกตรงๆ ผมไม่ไว้ใจมันเลย เดินมาที่หลังบ้านมองดูแกงส้มจากระเบียงข้างบน แววตาอ่อนโยนทั้งดูมีความสุขกับลูกนก ทำให้ผมอดยิ้มตามไม่ได้
“กินเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ” แกงส้มพูดกับเจ้าบุญหลงอย่างเอ็นดู
“โตเร็วๆ มันก็บินได้เร็ว แล้วถ้ามันบินหนีไปล่ะ” ผมร้องถามหนุ่มหน้าหวานนั้น แกงส้มเงยหน้ามามองผม สีของใบหน้าจะเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ถ้าเค้าไม่อยากอยู่กับผม ผมก็ทำอะไรไม่ได้” แกงส้มตอบเสียงเบา ผมตัดสินใจเดินลงไปหาก่อนหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ แกงส้มอุ้มเจ้าบุญหลงวางไว้ที่รังก่อนปิดกรงเรียบร้อย และทำท่าเหมือนจะเดินไปทางอื่น ผมรีบคว้ามือของแกงส้มไว้ทันทีก่อนที่ร่างนั้นจะเดินหายไป
“โกรธพี่เหรอ???” ผมถามออกไป ร่างสูงโปร่งนั้นหันมามองหน้าผม
“เปล่าครับ” แกงส้มส่ายหน้าตอบทันที ผมจ้องหน้านั้นไม่วางตาจนแกงส้มต้องเบือนหน้าหนี
“แล้วทำไมต้องเดินหนีพี่ด้วย” ผมลุกขึ้นเพื่อให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกัน แกงส้มช้อนตามองผม
“ผมรู้สึกสับสน เรารักกันแต่ผมกลับจำไม่ได้เลย มันไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ไม่รู้ว่าเรารักกันแบบไหน ไม่...ผมไม่รู้อะไรเลย” แกงส้มพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาคล้ายกลั้นน้ำตาไว้
“สรุปว่าที่พี่ทำเมื่อคืน มันทำให้แกงรังเกียจพี่สินะ” ผมพูดออกมาอย่างเฉยชา แกงส้มนายจะรู้มั้ย ว่าทุกครั้งที่นายอาลัยอาวรณ์ถึงความทรงจำของนาย มันทำให้ชั้นเหมือนคนบ้า ไม่ใช่แค่นายที่ไม่รู้ว่าต้องทำตัวแบบไหน มันไม่ต่างกันเลย ชั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรลงไป ยิ่งตอนนี้ชั้นไม่แน่ใจว่าที่ชั้นทำไปมันเป็นการล้อเล่นกับความรู้สึกใครกันแน่...นายหรือตัวชั้นเอง ผมปล่อยมือแกงส้มอย่างช้าๆ
“ไม่ใช่แบบนั้นนะพี่ฮั่น ถึงผมจะสับสนแต่สิ่งเดียวที่ผมแน่ใจว่าผมไม่ได้รังเกียจจูบของพี่เลย” แกงส้มรีบพูดขึ้นมาทันที ผมหันไปมองหน้าคนพูดอย่างตกใจ แกงส้มไม่ได้รังเกียจงั้นเหรอ???
“ผมก็แค่ไม่เข้าใจตัวเอง มันไม่มีอะไรเหลือเลยสักอย่างในหัวผม” แกงส้มมองหน้าผมด้วยสายตาอ้อนวอนเพื่อให้ผมเข้าใจ ผมคว้าร่างนั้นมากอดไว้ในอ้อมแขน แกงส้มตวัดแขนกอดรับ
“แกงส้มจะเป็นอะไรมั้ย???...ถ้าต่อไปเราจะไม่คิดถึงอดีต เรื่องของเราจะมีแค่วันนี้ ตอนนี้ นาทีนี้และเส้นทางข้างหน้า อย่าหันกลับไปมองเรื่องราวเก่าๆเลยนะ พี่ขอร้อง” ผมพูดจากใจ.....ไม่น่าเชื่อว่าคนๆนี้จะมีอิทธิพลกับผมมากมายขนาดนี้
“ถึงผมจะไม่ใช่คนเดิมคนพี่งั้นเหรอ???” แกงส้มถามเพื่อต้องการความแน่ใจ
“ไม่ว่าคนเดิมของแกงส้มจะเป็นใครพี่ไม่สน แต่ตอนนี้พี่ต้องการคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเคียงข้างพี่เรื่อยไปเท่านั้น เข้าใจพี่มั้ย???” ผมยืนยันความต้องการของหัวใจให้คนคิดมากฟัง ซึ่งดูจากรอยยิ้มที่เริ่มปรากฏบนใบหน้านั้น ทำให้ผมสบายใจไปได้อีกวัน แกงส้ม นายช่วยลืมทุกอย่างแบบนี้ไปตลอดได้รึเปล่า...
หลังจากเคลียร์เรื่องราวที่ค้างคาในใจผมในวันนั้น ทั้งที่จูบนั้นมันทำให้ผมรู้สึกดีที่สุด แต่ผมก็อดสงสารพี่ฮั่นไม่ได้ที่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับคนรักที่จำอะไรระหว่าเราไม่ได้เลย ท่าทางของพี่ฮั่นบางครั้งดูเหมือนจะยังไม่ชินกับการมีชีวิตอยู่กับผมด้วยซ้ำ มันอดคิดไม่ได้ว่าพี่ฮั่นกำลังเหนื่อยและอึดอัดกับการรอคอยให้ผมกลับไปเป็นเหมือนเดิม ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มีกับพี่ฮั่นในตอนนี้คืออะไร...แต่ที่แน่ๆ ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้ชายคนนี้มีความสุข.....แม้จะเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวผมต้องเจ็บปวดเองก็ตาม
ผมใช้ชีวิตอยู่กับพี่ฮั่นหลังจากการพูดคุยด้วยความสุขแม้จะมีการเคอะเขินกันบ้าง แต่มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองล่องลอยเมื่อได้สบตา รู้สึกเหมือนโลกหมุนทุกครั้งที่ได้จับมือ โลกแห่งความรักคงอ้าแขนรับผมแล้วสินะ...
“แกงส้มทำอะไร” เสียงของคนที่คิดถึงดังมาจากบันไดหน้าบ้าน ผมรีบปิดสมุดวาดเขียนในมือทันที
“วางรูปไปเรื่อยเปื่อยครับ แล้วซื้ออะไรมามากมายขนาดนี้” ผมร้องทักเมื่อเห็นสองมือของพี่ฮั่นเต็มไปด้วยถุงมากมายจนแทบล้นมือ พี่ฮั่นวางลงที่ข้างโต๊ะก่อนอันเชิญตัวเองมานั่งข้างผม
“ไม่มีของแกงส้มหรอก” พี่ฮั่นพูดกับผมด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ผมขมวดคิ้วนิดหน่อย
“แล้วของใครกัน อย่าบอกนะว่าของพี่ฮั่นเอง เสื้อผ้าทั้งนั้นนี่น่า” ผมร้องขัดขึ้นมาเมื่อเห็นสิ่งของถนัดตา เท่าที่ผมจำได้เสื้อผ้าพี่ฮั่นเยอะมากแทบจะไม่เคยใส่ตัวไหนซ้ำ พี่ฮั่นเอามือตบเข่าทั้งสองข้างลุกขึ้นแล้วตะโกนเสียงดัง
“ไอ่เอ ไอ่บีชั้นมีของมาฝาก” สิ้นเสียงเรียกเท่านั้นแหละครับ เสียงฝีเท้าของพี่เอพี่บีดังตึงตังราวกับฟ้าถล่มก็ดังขึ้นพร้อมร่างสูงบึกบึนนั้น บางทีสองคนนี้ก็ทำตัวเหมือนเด็กชายซนๆ
“อันนั้นของแกไอ่เอ ส่วนนั่นของแกไอ่บี” พี่ฮั่นชี้นิ้วข้างซ้ายสำหรับของพี่เอ ข้างขวาสำหรับพี่บี
“พี่...มันเต็มตู้ผมเลยนะเนี่ย”พี่เอพูดอย่างตื่นเต้นมีความดีใจไม่น้อยในน้ำเสียง
“แต่นี่มันอะไร...” พี่บีสงสัยถามขึ้นมา พร้อมยกเสื้อที่ปักตัว “B” ตัวใหญ่ พี่เอค้นหาของตัวเองก็ปรากฏว่ามีตัว “A” ขนาดเดียวกันปักไว้เหมือนกัน
“ก็แกงส้มลำบากใจที่จำพวกแกสองคนไม่ได้สักที ชั้นเลยสั่งตัดพิเศษในพวกแก และขอสั่งในพวกแกใส่ชุดพวกนี้ทุกวันจนกว่าแกงส้มจะจำพวกแกได้” พี่ฮั่นสั่งอย่างเฉียบขาด ผมแทบจะร้องไห้ไม่ใช่เพราะความซึ้งใจอะไรหรอกนะครับ ถ้าเพราะความสงสารพี่เอและพี่บีต่างหาก
“พี่ฮั่น ผมสองคนดูเหมือนเด็กอนุบาลเลยนะ” พี่บีพูดด้วยน้ำเสียงวิงวอน พี่เอพยักหน้าเห็นด้วยกับคู่แฝด
“พี่ฮั่นมันเกินไปนะ ผมไม่ได้ลำบากขนาดนั้น” ผมหันไปช่วยพูดอีกแรง พี่ฮั่นเลิกคิ้ว
“พี่ไปอาบน้ำดีกว่า” พี่ฮั่นทำไม่รู้ไม่ชี้เดินจากไปโดยไม่ฟังเสียงทัดทาน
“พี่ผมขอโทษ ถ้าผมไม่โง่แบบนี้...” ผมขอโทษพี่ชายฝาแฝดด้วยใจจริงแต่พี่บีโบกมือให้หยุด
“ไม่เป็นไร...พี่เข้าใจ” พี่บีตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงปลงๆกับชะตาชีวิตของตัวเอง
“แต่ถ้าจะให้ดีกับพี่แกงส้มช่วยจำพี่สองคนให้ได้เร็วๆนะ” พี่เอเสริมอย่างสิ้นหวัง
“ครับ” ผมตอบอย่างรู้สึกผิด พี่ฮั่นนะพี่ฮั่นทำอะไรปรึกษากันก่อนได้มั้ย???
“พี่เอาของไปเก็บก่อนนะ” พี่บีบอกก่อนที่ลุกเดินไปที่บ้านพักทั้งสองคน ผมละปวดหัวกับพี่ฮั่นจริงๆ ไอ่เสื้อที่ปักชื่อผมไม่เท่าไหร่หรอกนะครับ แต่ที่น่าสงสารคือเสื้อแต่ละตัวสียังกะลูกกวาด ทั้งที่สองหนุ่มหน้าหล่อเข้มชอบใส่เสื้อผ้าเรียบๆ พี่ฮั่นเค้าคิดอะไรของเค้ากันนะ...ดูเหมือนจะได้เล่นสนุกมากกว่าที่จะทำเพราะเราจริงๆซะอีก ผมหยิบสมุดวาดเขียนมาเปิดอีกครั้งผมเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนวาดรูปเป็นเมื่อเห็นสมุดวาดเขียนเปล่าและดินสอวางอยู่ จึงถือวิสาสะหยิบขึ้นมาและมันก็ลื่นไหลอย่างเหลือเชื่อ
ผมจรดดินสอลงบนภาพที่วาดไม่เสร็จเพราะพี่ฮั่นเดินเข้ามาพอดี ผมมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มผมจะตั้งชื่อภาพนี้ว่า “ชายคนแรกในความทรงจำ” ใบหน้าดูดื้อรั้น สายตาแข็งกร้าวในครั้งแรกที่พบตื่นขึ้นมาเจอแต่มันก็เป็นใบหน้าที่ทำให้ผมรู้สึกถึงการเต้นไม่เป็นจังหวะของหัวใจ ยิ่งได้รู้ว่าตัวเองอยู่ในฐานะคนรักแล้ว มันช่างเหมือนฝันว่าคนอย่างผมจะได้ครอบครองหัวใจผู้ชายที่ทำให้ใจละลายในแรกเห็น....ทุกลายเส้นที่ผมตวัดลงไปมันเต็มไปด้วยความเปี่ยมสุข
“ทำอะไร” พี่ฮั่นถามผมเมื่อเห็นผมจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ในมือ ผมรีบเปิดสมุดก่อนซ่อนไว้ด้านหลัง
“เอามาดูสิ ซ่อนอะไรไว้” พี่ฮั่นจ้องผมตาเขม็งก่อนจะแย่งสิ่งที่อยู่ด้านหลังผม
“ไม่มีอะไรสักหน่อย” ผมรีบแก้ตัวทั้งที่รู้ว่ามันไม่ทันแล้ว...พี่ฮั่นพยายามแย่งจนสำเร็จ สมุดนั้นตกอยู่ในเมื่อพี่ฮั่นทันที พี่ฮั่นเปิดสมุดออกทีละหน้า... ผมอยากกลั้นหายใจแล้วหายไปจากตรงนี้ เพราะทุกรูปนั้นเป็นรูปของชายหนุ่มที่นั่งยิ้มมองภาพแต่ภาพอย่างละเมียดละไม พี่ฮั่นวางสมุดไว้บนโต๊ะเมื่อถึงหน้าทุกส้ายที่ผมวาดก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าผมไว้ก่อนจะประทับรอยจูบอย่างอ่อนหวานและนุ่มนวลกว่าทุกครั้งๆ หากแต่มันช่างเป็นรสจูบที่รัญจวนใจเหลือเกิน ปลายนิ้วที่ลูบไล้ไปตามใบหน้าผมทำให้ความรู้สึกวาบวามนั้นทวีขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายผมเหมือนกำลังจะรเหยเป็นไอด้วยแรงรักร้อนแรงของชายที่อยู่ตรงหน้า พี่ฮั่นถอนจูบขึ้น ผมเม้นปากอย่างเขินอายต่อสายตาที่ส่งความโหยหามาอย่างรุนแรง นิ้วมือเรียวยาวนั้นยังคงลูบไล้ตามใบหน้าอย่างรักใคร่
“พี่ฮั่น!!!” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งทำให้ผมกับพี่ฮั่นผงะออกจากกันทันที พี่ฮั่นดูตกใจกับการปรากฏตัวของหญิงสาวน่ารักคนนี้หรือว่า...พี่ฮั่นไม่ได้มีแค่เรางั้นเหรอ???
“เฟรม...มาได้ยังไง” พี่ฮั่นลุกขึ้นมาอย่างประหลาดใจที่สุด หญิงสาวคนนั้นมองหน้าผมอย่างข้องใจ
“พี่ฮั่นนี่มันเรื่องอะไรกัน” หญิงสาวที่ชื่อว่าเฟรมถามพี่ฮั่นเสียงดัง พี่ฮั่นลูบหัวผม
“แกงส้มรอพี่อยู่ตรงนี้นะห้ามไปไหน” พี่ฮั่นพูดพร้อมส่งแววตาที่ยากจะเข้าใจ แต่ผมก็พยักหน้าทำตามอย่างว่าง่าย....เมื่อมาถึงจุดๆนี้เราก็ต้องเชื่อใจพี่ฮั่น คนเดียวที่ผมจะเชื่อใจอย่างไม่มีเงื่อนไขไม่มีข้อสงสัยใดๆก็คือพี่นะ...พี่ฮั่น
FRAME talk
พี่ฮั่นเดินนำชั้นซึ่งเป็นน้องสาวมาจากตัวบ้านพอประมาณ คงเพราะเพื่อไม่ให้แกงส้มได้ยินเรื่องทุกอย่าง ชั้นมองหน้าพี่ฮั่นด้วยความเคืองขุ่นใจเป็นอย่างมากกับสิ่งที่ชั้นเห็น
“ช่วยทำให้เฟรมเข้าใจหน่อยได้มั้ยคะ” ชั้นถามพี่ชายเมื่อเห็นว่าพี่ฮั่นคงไม่เป็นคนเริ่มต้นบทสนทนาอย่างแน่นอน
“คือ...พี่ไม่รู้จะอธิบายยังไง” พี่ฮั่นถอนหายใจก่อนพูดประโยคนี้ซึ่งมันไม่ได้ทำให้ชั้นพอใจเลย
“ถ้าพี่ฮั่นไม่มีคำอธิบายต่อเรื่องนี้ทั้งหมด เฟรมจะพาแกงส้มกลับตอนนี้” ชั้นยื่นคำขาด
“อย่านะเฟรม...พี่ขอร้อง” พี่ฮั่นพูดน้ำเสียงอ้อนวอนอย่างที่ชั้นเองแทบจะไม่เคยได้ยิน
“พี่ฮั่นมันเกิดอะไรขึ้น พี่กับแกงส้มทำไมถึง....จูบกัน” ชั้นพูดคำสุดท้ายออกมาอย่างยากลำบาก
“ตอนแรกพี่ก็กะจะจับแกงส้มมาเพื่อให้ไอ้ฮัทมันร้อนใจเล่น แต่แกงส้มดันเกิดอุบัติเหตุความจำแกงส้มเลยหายไป” พี่ฮั่นอธิบายสั้นๆ แต่ทำให้ชั้นแทบล้มทั้งยืน...เรื่องราวมันบานปลายใหญ่โตกันเกินไปแล้ว
“พี่ทำแบบนั้นทำไม” ชั้นถามอย่างอ่อนแรง
“พี่ไม่ชอบที่เห็นไอ่ฮัทกับเด็กคนนี้เยาะเย้ยน้องพี่...มันเป็นสิ่งเดียวที่พี่ทนไม่ได้” พี่ฮั่นบอกเสียงดัง
“พี่ฮั่นพี่ทำผิดแล้ว....” และชั้นก็เริ่มต้นอธิบายเรื่องทั้งหมดในพี่ฮั่นฟัง ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่ฮัท ทุกเรื่องที่พี่ฮั่นเข้าใจผิด พี่ฮั่นทรุดลงนั่งที่ม้านั่งทันทีที่ฟังเรื่องทุกอย่างจบ
“ไม่จริง...” พี่ฮั่นพูดด้วยเสียงแหบพร่า ชั้นเข้าไปนั่งข้างๆ เอื้อมมือไปแตะหัวเข่าเพื่อเป็นกำลังใจ
“เราต้องพาแกงส้มกลับไปรักษาต่อนะพี่ฮั่น” ชั้นบอกอย่างอ่อนโยน
“ไม่...แกงส้มต้องอยู่กับพี่” พี่ฮั่นหันมาบอกชั้นเสียงเบาแต่ทว่าเด็ดขาดเป็นที่สุด
“เพื่ออะไรพี่ฮั่น พี่ทำแบบนี้เพื่ออะไร ทุกอย่างมันจะเลวร้ายลงไปนะ” ชั้นร้องอย่างเหลืออด
“แกงส้มต้องอยู่กับพี่ มันคือสิ่งเดียวที่พี่จะพูด” พี่ฮั่นช่างดื้อรั้นเหลือเกิน....
“พี่ฮั่น...ถ้าพี่ยืนยันจะทำแบบนี้เฟรมคงบังคับพี่ไม่ได้ แต่พี่รู้มั้ย??? ว่าสิ่งที่ตามมามันต้องทำให้พี่เจ็บปวด พี่เตรียมพร้อมรับมันไว้ซะ...ถ้าวันใดวันหนึ่งที่แกงส้มจำทุกอย่างได้ พี่เองเป็นคนที่ต้องเสียใจและทุกข์ทรมานที่สุด” ชั้นลุกเดินออกจากที่นั่นทันที... พี่ฮั่นพี่กำลังรักแกงส้มแต่มันเป็นความรักที่ไม่ถูกต้อง สักวันพี่ต้องเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป...พี่จะทนมันได้เหรอ???
HUNZ talk
น้ำตากำลังไหลออกจากหัวใจผม แกงส้มไม่ใช่คนรักของฮัท...ไม่ใช่มาตลอด แล้วทุกสิ่งที่ผมทำไปมันเป็นการทำร้ายที่แกงส้มไม่สมควรจะได้รับเลยสักนิด แต่ผมกลับหลังไม่ได้เพราะผมรู้ดีว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจผมมันไปไกลและลึกซึ้งเกินกว่าที่ผมจะตัดใจได้ มีเพียงฟ้าเท่านั้นที่จะรู้ว่าผมรักแกงส้มเพียงใด มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ผมไม่แน่ใจ พอรู้ตัวผมก็รักแววตาไร้เดียงสานั้นอย่างเต็มหัวใจ แต่มันเป็นความรักที่เห็นแก่ตัว ผมทำเพื่อความต้องการของตัวเองเพียงฝ่ายเดียว หากแกงส้มยังเป็นคนเดิม ผม...คงเป็นคนที่แกงส้มเกลียดที่สุด แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อตอนนี้ผมขาดแกงส้มไม่ได้จริงๆ เพียงแค่คิดว่าทุกเช้าไม่ได้ยินเสียงแกงส้ม ผมหัวใจผมก็แทบหยุดเต้น..... ถึงรู้ว่าผิดแต่ผมก็จะทำ!!!
“พี่ฮั่น พี่ร้องไห้ทำไม” เสียงทุ้มนุ่มร้องขึ้นพร้อมกับร่างโปร่งบางที่วิ่งเข้ามาหาผมด้วยความเป็นห่วง ผมกอดร่างนั้นไว้แน่นราวกับกลัวแกงส้มจะสลายหายไปในอากาศ แกงส้มลูบที่แผ่นหลังผมอย่างอ่อนโยนผมไม่สมควรได้รับสัมผัสที่อบอุ่นแบบนี้เลยสักนิด
“พี่ฮั่นเกิดอะไรขึ้น” แกงส้มถามผมอย่างอ่อนโยน
“แกงส้มถ้าพี่ทำร้ายแกงส้ม แกงส้มจะเกลียดพี่มั้ย???” ผมถามเมื่อตั้งสติได้ แกงส้มเอียงคออย่างงุนงง ผมจ้องตาเพื่อรอคอยคำตอบจากปากคนที่ผมรักสุดหัวใจ
“พี่ฮั่นไม่มีวันทำร้ายผม...ผมแน่ใจและเชื่อแบบนั้น” คำตอบนั้นทำให้ผมรู้สึกหัวใจสลาย ถ้าวันหนึ่งแกงส้มรู้ทุกอย่างว่าทุกลมหายใจของพี่มันคือทำร้ายแกงส้ม มันคือการเหยียบย่ำความไว้ใจที่แสนบริสุทธิ์นั้น แกงส้มจะยังกอดพี่แบบนี้มั้ย ทุกๆการรับรู้ความเป็นจริงมันคือมีดที่กรีดทำร้ายหัวใจผม แล้วถ้าแกงส้มรู้ความจริงล่ะ....เรื่องราวของเราจะเป็นอย่างไรต่อไป
ปล. อย่างรังแกคนที่ไม่มีใคร ด้วยการไม่เม้นเลยยยย...5555
ไรเตอร์พิมพ์แต่ละตอนนี่ 6-7 หน้าทั้งนั้นเลยนะ ช่วยเติมกำลังใจให้ไรเตอร์คนละสองสามคำคงไม่หนักหนาเกินไปนะจ๊ะ ถ้าไม่ชอบก็บอกกันได้ เม้นกันน้อย ไรเตอร์ก็นอยด์เป็นนะจ๊ะเดี๋ยวก็ดองเค็มซะเลยนี่5555 ^^
ความคิดเห็น