คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 : สิ่งที่หายไป...
HUNZ talk
ร่างที่เปียกชุ่มในอ้อมแขนนั้นทำให้ผมแทบจะบ้า ผมปาดเลือดที่ไหลมาด้านข้างอย่างไม่สนใจ แกงส้ม...ถ้านายเป็นอะไรไปชั้นจะทำยังไง ผมจับใบหน้านั้นอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าร่างแน่นิ่งนั้นมีลมหายใจอยู่ ผมโกรธตัวเองที่ทำให้เด็กคนนี้ต้องหนีเตลิดไปจนตกน้ำแทบจะเอาชีวิตไม่รอด ถ้าผมตามลงไปช่วยไม่ทันมันจะเกิดอะไรขึ้น เด็กโง่....ทำให้ชั้นเป็นห่วงอีกแล้ว
“พี่ฮั่นเลือดพี่ยังเลือดไม่หยุดเลย” ไอ่บีถามผมด้วยความเป็นห่วงจากที่นั่งข้างคนขับ
“ผมนับถือพี่เลยทั้งที่เด็กบ้าทำขนาดนี้ยังกระโดดไปช่วยมัน” ไอ่เอที่เป็นคนขับรถพูดอย่างนับถือ
“มันเป็นความผิดชั้นเอง” ผมพูดเบาๆกับตัวเองมากกว่าที่จะพูดกับคนอื่น ความเงียบปกคลุมไปทั่วรถทันที ก้มมองหน้าซีดเซียวนั้นอย่างเป็นกังวล พอถึงโรงพยาบาลแกงส้มก็ถูกพาไปยังห้องฉุกเฉินทันที
“ขอโทษนะคะ คุณเองก็บาดเจ็บเชิญทำแผลทางนี้นะคะ” พยาบาลเดินมาพูดกับผม แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าแกงส้มปลอดภัยจริงๆก็ไม่อยากจะไปที่ไหนทั้งสิ้น ผมมองที่ประตูห้องฉุกเฉินสลับกับหน้าพยาบาลอย่างลำบากใจ
“เดี๋ยวผมสองคนเฝ้าแกงส้มให้เอง พี่ไปทำแผลเถอะ” ไอ่เอรับอาสา อาจเป็นเพราะรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่
“ใช่....ขืนพี่ไม่ทำแผลนะมีหวังเลือดออกหมดตัวแน่” ไอ่บีเสริมคู่แฝด ผมจึงเดินตามพยาบาลผู้นั้นไป โดยที่ยังห่วงหนุ่มหน้าหวานที่ยังอยู่ด้านหลังประตูนั้น ผมกลับมาทันทีที่พยาบาลทำแผลเสร็จเมื่อกลับมาพบเพียงไอ่เอที่นั่งรออยู่
“พี่...เด็กนั่นปลอดภัยแล้ว แต่หมอในนอนค้างดูอาการสักสองคืน เค้ากลัวจะเป็นปอดบวมแทรกซ้อน” ไอ่เอรายงานผมทันทีที่จะเอ่ยปากถาม ผมเดินไปที่ห้องพักที่แกงส้มล่วงหน้าไปพักผ่อน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบร่างสูงโปร่งหลับไม่ได้สติบนเตียงคนไข้
“พี่ฮั่น....ผมว่าพี่กลับไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ เย็นๆพี่ค่อยมาเฝ้า ตอนนี้ผมจะดูแลก่อน” ไอ่บีบอกผม ผมเองก็ลืมไปว่าตัวเองก็ตัวเปียกปอนไม่แพ้กันกับแกงส้ม แต่ตอนนี้แกงส้มได้รับการเปลี่ยนชุดเช็ดตัวเรียบร้อยแล้ว...
“งั้นตอนเย็นชั้นจะมาเปลี่ยนแกนะ” ผมเดินไปมองหน้าแกงส้มที่มีเลือดฝาดมากขึ้น ผมถอนหายใจยาวอย่างโล่งอกที่เห็นคนที่อยู่ตรงหน้าอาการดีขึ้น....ถ้านายฟื้นนายจะได้ยินคำที่หลุดออกจากปากชั้นยากที่สุด คำว่า “ขอโทษ” จากใจ
ผมกลับมาที่ไร่โดยมีไอ่เอเป็นคนอาสาขับรถมาให้ ผมลูบบาดแผลที่แกงส้มใช้แจกันฟาดก่อนจะนึกขำ แกงส้ม....ไม่ว่าจะยังไง สถานการณ์แบบไหนนายก็แสบไม่มีการลดมาตรฐานเลยนะ โดนแบบนั้นยังอุตส่าห์ทำแบบนี้ได้ ชั้นละถูกใจนายจริงๆเลย.....
“พี่ฮั่นยิ้มอะไรครับ” เอถามผมด้วยน้ำเสียงมีเสศนัย
“ทำไมชั้นจะยิ้มบ้างไม่ได้เหรอ?” ผมตอบอย่างอารมณ์ดี
“ผมก็แค่คิดว่า ตั้งแต่ไอ่เด็กแกงส้มเค้ามาในชีวิตพี่ ดูพี่ยิ้มมากขึ้นหัวเราะมากขึ้น แค่นั้นเอง....” ถึงแม้ว่าจะพูดว่าแค่นั้น แต่ผมก็ดูออกว่าลูกน้องผมไม่ได้คิดแค่นั้นอย่างที่บอกผม
“ก็เด็กนี่มันมีอะไรให้ชั้นประหลาดใจอยู่ตลอดเวลานี่หว่า” ผมตอบลูกน้องที่ช่างสังเกตจนเกินเหตุ
“แต่ผมอยากเตือนพี่นะ ยังไงเด็กคนนี้มันก็เป็นของร้อน” รอยยิ้มของผมเลือนหายไปจากใบหน้า ผมเองก็เผลอตัวลืมไปบ่อยๆว่าแกงส้มเป็นคนรักของฮัท ผมจึงตัดสินว่า ถ้าแกงส้มออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ผมจะพาเข้ากลับไปสู่โลกของเค้า แกงส้ม...ชั้นทำกับนายมากเกินไปแล้ว จากนี้ไปชั้นจะก้าวออกไปจากชีวิตนายจริงๆ สักที มันถึงเวลาปล่อยนายให้มีความสุขแล้ว....
ผมกลับมาที่โรงพยาบาลกับเออีกครั้ง เมื่อเปิดประตูเข้าไปเห็นไอ่บีนั่งดูทีวีอยู่ ผมเดินช้าไปหาแกงส้มที่ยังคงหลับใหลบนเตียง
“ตื่นขึ้นมาบ้างรึยัง” ผมหันไปถามคนเฝ้า
“ยังเลยครับ” บีตอบกลับมาสั้นๆ ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง แกงส้ม...เมื่อไหร่จะตื่นขึ้นมาสักทีนะ เหมือนแกงส้มจะรอคอยการมาของผม เพราะผมเห็นเปลือกตาของแกงส้มขยับ
“แกงส้ม” ผมเรียกชื่อนั้นเบาๆ เอและบีเดินมาที่เตียงอย่างรวดเร็ว แกงส้มค่อยๆลืมตาขึ้น กระพริบตาถี่ๆ ปรับโฟกัส แล้วมองหน้าผม ไล่ไปที่เอกับบีตามลำดับการยืน แล้วร่างสูงบางนั้นก็ค่อยๆ ยันกายขึ้นมาเป็นกึ่งนั่งกึ่งนอน แกงส้มมองไปรอบๆ ใบหน้าตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ก่อนหันมามองหน้าผมอีกครั้ง น้ำตาแกงส้มไหลออกมาช้าๆ โดยที่ผมก็ไม่รู้เหตุผล
“นายร้องไห้ทำไม....ไม่มีใครทำอะไรนายแล้ว” ผมรีบปลอบทันที
“ผมเป็นใคร...” คำพูดนั้นมาพร้อมใบหน้าที่หวาดกลัวอย่างรุนแรง ผมนิ่งอึ้งอย่างนึกไม่ถึง นายพูดเล่นใช่มั้ย??? นายแค่แกล้งชั้นใช่มั้ย??? แต่ท่าทางของแกงส้มไม่ได้เป็นอย่างนั้น แกงส้มยกมือมาปิดหน้าร้องไห้
“ผม....ผมจำอะไรไม่ได้เลย” คำพูดนั้นเปล่งออกมาอย่างยากลำบากเมื่อมีเสียงสะอื้นเพราะความหวาดกลัวลึกสุดใจของคนที่อยู่ตรงหน้าผม
HUT talk
วันนี้ผมจะไปหาพี่ฮั่นที่ผับ ผมนั่งรอไม่ไหวแล้วจริงๆ แกงส้มหายไปสองวันแล้ว ไม่ผิดแน่...ยังไงก็ต้องเป็นพี่ฮั่นที่ทำเรื่องนี้ ผมขับรถมาจอกรถตรงหน้าผับ ตอนนี้ข้างในคงกำลังเตรียมตัวเปิดร้าน เสียงมือถือดังขึ้นมา ผมไม่อยากรับสายนี้แต่ก็ไม่อาจจะเพิกเฉยได้
“ครับ...อลิซ” ผมกรอกเสียงที่พยายามปิดบังความเบื่อหน่ายในน้ำเสียงเต็มที่
“ฮัท...อลิซอยากทานอาหารอิตาเลี่ยน แต่คุณพ่อสิคะท่านบอกว่ามันเลี่ยนแล้วไขมันสูง ท่านเลยบอกให้โทรชวนคุณแทน” น้ำเสียงที่ผ่านมาตามสายนั้นดูออดอ้อนหากแต่มันเป็นการบังคับ
“คือตอนนี้ผมไม่ว่างครับ” ผมไม่อยากปล่อยเรื่องแกงส้มให้บายปลายไปกว่านี้ ผมสงสารน้อง!!!
“ทำไมละคะ” ถึงจะเป็นคำพูดที่อ่อนหวาน แต่ด้วยน้ำเสียงที่แข็งขึ้นจนรู้สึกได้ ก็ทำให้รู้ว่าผู้พูดไม่สบอารมณ์กับการปฏิเสธของผม
“ผมกำลังตามหาน้องของผมที่หายไปครับ” ผมบอกเหตุผล ความนิ่งเงียบทำให้ผมอึดอัด
“อ่อ....เด็กคนนั้นเหรอคะ...นี่เค้ายังไม่กลับมาอีกเหรอ” อลิซถามกลับมาอย่างไม่เดือนร้อน
“ยังครับ...งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ” ผมรีบตัดบทวางสายออกไปทันที แล้วคว้ากระเป๋าเข้าไปในผับหรูที่ผมเคยทำงานอยู่ เมื่อผมก้าวเดินเข้าไปก็มีสายตาของคุ้นเคยจ้องมองมาอย่างไม่เป็นมิตร
“แกมีอะไร...ถึงได้มาที่นี่” พี่นัทถามผมเสียงดังอย่างหาเรื่อง
“ผมมาหาพี่ฮั่น” ผมตอบสั้นๆ พี่นัทพยักหน้าให้ลูกน้องคนสนิทมาค้นตัวผม ผมยกมือขึ้นทั้งสองข้างแสดงความบริสุทธิ์ใจ
“ค้นกระเป๋าด้วย....คนผับนั่นไว้ใจไม่ได้” น้ำเสียงที่ผมคิดถึงที่สุดดังออกมาจากหลังร้าน
“เฟรม!!!” ผมเรียกชื่อหญิงสาวเบาๆ แต่แววตานั้นที่เฟรมส่งมาหาผมนั้นช่างทารุณหัวใจผมสิ้นดี ไงล่ะ...อยากให้เค้าเกลียด ตอนนี้เค้าเกลียดสมใจผมแล้ว ผมตอกย้ำตัวเองในใจ ผมยื่นกระเป๋าสะพายใบใหญ่ในคนที่ค้นตัวผม สองคนนั้นค้นกระเป๋าผมกระจุย ก่อนกวาดของลงมาที่กระเป๋าผมอย่างลวกๆ
“มีธุระอะไรที่นี่” เฟรมถามผมอย่างเฉยชา ทั้งที่ทำใจมานานว่าต้องเป็นแบบนี้แต่ทำไมหัวใจผมถึงยังเจ็บแปลบๆ กับความเหินห่างนี้
“พี่มาหาพี่ฮั่น” ผมตอบกลับไปสั้นๆ
“ขอโทษนะ...ชั้นมีพี่ชายคนเดียว แล้วก็จะเรียกพี่เฉพาะคนที่จริงใจกับชั้นเท่านั้น เข้าใจใช่มั้ย?” เฟรมพูดเสียงสะบัด ก่อนเบือนหน้าหนีสายตาของผม
“ผมมาหาพี่ฮั่น” ผมเปลี่ยนสรรพนามอย่างที่หญิงสาวต้องการ พอใจรึยัง...สะใจรึยัง!!!
“พี่ฮั่นไม่อยู่” แต่คำตอบที่ได้มันไม่คุ้มค่าจริงๆ
“พี่... ผมแค่มาตามหาแกงส้ม” ผมบอกความต้องากรออกไป เฟรมหันมามองหน้าผม
“อ่อ แฟนหาย... แต่ชั้นไม่เห็นว่าจะเกี่ยวอะไรกับที่นี่และไม่เกี่ยวอะไรกับพี่ชายชั้น” เฟรมตอบ ผมอยากจะร้องบอกเฟรมไปว่าผมกับแกงส้มไม่มีอะไรกันนอกเหนือจากความเป็นพี่น้อง แต่ถ้าสิ่งนี้มันเป็นสิ่งที่ทำให้เฟรมคิดถึงผมน้อยลง และพี่ฮั่นก็ไม่ยอมรับฟังอยู่แล้ว มันก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องแก้ตัว
“พี่ฮั่น...เค้าตามตอแยแกงส้มมานาน” ผมพูดออกไป เฟรมขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ
“อย่ามากล่าวหาพี่ชายชั้นลอยๆ กลับไปได้แล้ว” เฟรมร้องอย่างเกรี้ยวกราดก่อนออกปากไล่ผม
“ขอร้องละ ให้พี่ทำอะไรก็ได้แค่เฟรมพอใจ พี่ยอมทุกอย่าง แต่แกงส้มไม่ผิดอะไร อย่าเอาเค้ามาเกี่ยวกับเรา” ผมพูดเสียงดัง ร่างบางที่เพิ่งหมุนตัวหันหลังก็หันตัวกลับมาทันที
“สิ่งที่ทำให้ชั้นมีความสุขได้...มันคงเป็นการตายของพี่ละมั้ง!!! อย่ามาพูดคำว่าเรากับชั้นอีก ไม่จบไปตั้งแต่พี่หันหลังให้ชั้นแล้ว” ถึงแม้น้ำเสียงนั้นจะดูโกรธแค้นแต่ไม่อาจปกปิดความเสียใจอันท่วมท้นในหัวใจดวงน้อยๆนั้นได้ ผมได้แต่มองร่างบางนั้นก้าวออกไปจากสายตา ทนอีกนิดเดียวนะ...แค่ลืมพี่แค่นั้นทุกอย่างมันจะดีเอง.... คนอย่างพี่มันไม่สมควรได้รักความรักดีๆจากเฟรมหรอก!!!
เสียงกดกริ่งยามเช้าปลุกผมออกจากที่นอนอย่างเสียไม่ได้ วินาทีแรกผมคิดว่าเป็นแกงส้มที่กลับมาแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าแกงส้มมีกุญแจ ความตื่นเต้นก็หายไปโดยทันที ผมเดินมาเปิดประตูก็พบร่างเล็กที่ผมนึกไม่ถึง
“สมายล์!!!” ผมเรียกชื่อนั้นอย่างตกใจ สมายล์ยิ้มอย่างเขินให้ผม
“รบกวนพี่รึเปล่าคะ” สมายล์ถามผมเมื่อผมเชิญให้เข้ามาในห้อง
“ไม่เลยจ๊ะ...จะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ที่นี่ยินดีต้อนรับ” ผมพูดพร้อมยกน้ำผลไม้มาให้แขกตัวน้อยน่ารัก
“ขอบคุณค่ะ” สมายล์มองแก้วน้ำผลไม้ก่อนขอบคุณผม
“แล้วมาที่นี่มีอะไรให้พี่ช่วย” ผมถามเพราะคิดว่าอยู่ สมายล์คงไม่คิดว่าเที่ยวเล่นที่นี่แน่
“สมายล์มาเตือน” สมายล์นิ่งเหมือนรวบรวมความกล้าก่อนพูดออกมา
“เตือนเรื่องอะไร” ผมถามออกไปอย่างสงสัย
“พี่อลิซเค้าไม่ปล่อยคนที่ชื่อแกงส้มไว้แน่ๆ” สมายล์บอกสิ่งที่ทำให้ผมตกใจ แกงส้มนายซวยเพราะพี่อีกแล้วนะ.... เรื่องพี่ฮั่นพี่ก็เคลียร์ให้ไม่สำเร็จ ยิ่งเรื่องนี้แล้วยิ่งยากเพราะถ้าผมพูดไปคนที่ลำบากก็คือสาวน้อยหน้าซื่อที่นั่งตรงหน้าผม... ปล่อยให้แกงส้มอยู่กับพี่ฮั่นยังปลอดภัยกว่าเพราะอลิซเธอเป็นลูกไม้หล่นใกล้ต้น ในเมื่อเธอพูดออกมาขนาดนี้แกงส้มก็ต้องตกที่นั่งลำบากแน่นอน...
FRAME talk
คนบ้า!!! ภาพที่เห็นตอนนี้เหมือนมีมีดมากรีดแทงกลางหัวใจ เมื่อวานยังเที่ยวตามหาแกงส้ม...คนรัก แต่วันนี้สาวน้อยร่างบางที่เพิ่งออกมาจากห้องมันคืออะไร ชั้นสมเพชตัวเองจริงๆ ที่รักคนแบบนี้ ในมือชั้นคือซองเอกสารสีน้ำตาลขนาดเท่าสมุดที่เค้าทำหล่นไว้ ชั้นแค่อยากรู้ว่าเค้าเป็นยังไง มีทางที่เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย???...จึงจะเอามาคืนด้วยตัวเอง แต่สิ่งที่เห็นมันทำให้ชั้นรู้ว่า คนๆนี้ไม่ใช่พี่ฮัทคนเก่าของชั้นอีกต่อไป
เมื่อวานหลังจากที่พี่ฮัทกลับไป ชั้นก็โทรไปหาพี่ฮั่นแต่พี่ฮั่นไม่รับ อีกทั้งสองแฝดนั้นก็พร้อมใจไม่รับโทรศัพท์อีก พอโทรเข้าที่บ้านในไร่ก็ไม่อยู่กัน ชั้นก็พอจะเดาออกแล้วว่าแกงส้มคนนั้นอยู่ที่ไหน... อย่าหวังว่าชั้นจะยอมบอกนายเลย แกงส้มเป็นอีกคนที่น่าสงสาร คนอย่างพี่ฮั่นก็คงไม่ทำอะไรรุนแรงทำร้ายจิตใจมากกว่าที่พี่ฮัทกำลังอยู่หรอก คนใจร้าย!!!
HUNZ talk
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์สุดช็อค ตอนนี้แกงส้มกำลังไปเช็คสมองโดยละเอียด ผม และสองแฝดนั่งรอที่ห้องอย่างร้อนอกร้อนใจ ผมทำลูกชายเค้าความจำเสื่อมนะครับ...มันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไหน
“ผมนึกออกละพี่ฮั่น ไฟช๊อต เอาไฟฟ้าซ๊อตเลย ผมเห็นในหนังรับรองว่าได้ผล” ไอ่บีเสนอทางออก
“จะบ้าเหรอ... ผมว่านะพี่ แกงส้มมันตกน้ำใช่มั้ย??? เราต้องโยนมันลงน้ำ สมองจะได้กลับอีกทีแล้วอาจจำความได้ก็ได้นะ” ไอ่เอก็พอกัน ผมยกมือมากุมขมับ
“ถ้าชั้นเป็นอะไร แกสองคนให้หมอรักษานะ อย่าพยายามช่วยชั้นเลย” ผมพูดเสียงเรียบ แต่ผมก็เข้าใจ สองคนนี้คงจะสติแตกน่าดู ที่เห็นแกงส้มเป็นแบบนี้ แต่วิธีที่พากันคิดขึ้นมาก็ไม่ไหวนะผมคงต้องดูแลเด็กคนนั้นอย่างใกล้ชิดก่อนจะถูกสองแฝดแอบพาไปรักษาเอง ประตูห้องถูกเปิดเข้ามา
“คุณหมอ เป็นไงบ้างครับ” ผมสามคนถามพร้อมกัน
“ผลการตรวจอย่างละเอียดสมองของคนไข้ไม่มีร่องรอยการบาดเจ็บหรือว่าเสียหายอะไรเลยนะครับ ผมเลยคิดว่าน่าจะเกิดจากภาวะตกอยู่ในเหตุการณ์ที่มีผลกระทบรุนแรงต่อจิตใจมากกว่า” คุณหมออธิบาย
“แล้วแบบนี้ มีทางกลับมาจำได้มั้ยครับ” ผมรีบถาม
“อันนี้มันแล้วแต่จิตใต้สำนึกของคนไข้นะครับ เพราะหมอคิดว่าคนไข้มีเหตุการณ์เลวร้ายหรือฝังใจแล้วจิตใต้สำนึกพยายามลืม แต่มันทำงานดีเกินไปเป็นผลให้คนไข้สูญเสียความทรงจำไป ถ้าอยากให้ฟื้นความทรงจำก็ต้องพาไปที่เดิมๆ ทำกิจกรรมเดิมที่เค้าเคยทำ แบบนี้ก็พอจะช่วยเรียกความทรงจำกลับมาเร็วขึ้น แต่หมอก็ไม่รู้นะครับว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่” คุณหมอผมพยักหน้ารับกับคำพูด
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวนะครับ เดี๋ยวสักพักพยาบาลก็คงจะพาคนไข้มา” ผมหันมามองหน้ากับลูกน้องทั้งสองก่อนเดินไปส่งหมอที่ประตู
“เอาไงต่อไปละพี่” ไอ่บีถามผมเสียงเครียด
“ชั้นจะมาทำไร่ที่นี่สักพัก ยังไงไอ่นัทก็กลับมาช่วยเฟรมที่ผับแล้ว” ผมพูดออกมา
“พี่หมายความว่ายังไง” ไอ่เอถามผมอย่างตกใจ
“ต่อไปนี้ชั้นเป็นแค่เจ้าของไร่องุ่นธรรมดา พวกแกมีหน้าที่แค่ตามน้ำไปเท่านั้น แล้วอย่าทำเสียเรื่อง” ผมบอกลูกน้อง ผมรู้แล้วว่าผมจะจัดการเรื่องนี้ยังไง!!! รอไม่นานนักแกงส้มก็นั่งรถเข็นมาพร้อมพยาบาล แกงส้มเดินขึ้นไปกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงก่อนมองหน้าพวกผมสามคนอย่างเก้อเขิน
“ผมขอโทษนะครับที่จำพวกคุณไม่ได้...ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรารู้จักกันรึเปล่า”แกงส้มเริ่มต้นประโยค
“เรารู้จักกัน มีอะไรถามชั้นได้” ผมเดินไปนั่งบนขอบเตียง
“ผมชื่อแกงส้มเหรอครับ???” แกงส้มถามผม ผมพยักหน้าให้แทนคำตอบ
“แล้วคุณเป็นใคร” แกงส้มชี้มาที่ผม
“ชั้นชื่อฮั่น....เป็นคนรักของนายไง” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ห๊ะ!!!!” เสียงซาวด์ที่ดังมาจากสองแฝดนั่นทำเอาแกงส้มหันไปมองอย่างตกใจ
“ผมกับคุณ...เรารักกัน” แกงส้มทำหน้าประหลาดใจ มองผมอย่างลังเลไม่มั่นใจ
“ใช่....เรารักกันมาก” ผมยืนยันคำพูดเดิมยิ้มให้แกงส้มอย่างอบอุ่น ก่อนหันไปมองสองแฝดที่ทำตาค้างราวกับเห็นผี แกงส้ม...ชั้นจะสร้างนายขึ้นมาใหม่ นายที่เป็นคนรักของชั้น เจ้าของไร่องุ่นที่มีชีวิตเรียบง่าย เราจะเริ่มต้นทุกอย่างใหม่นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ปล. นี่คือพล๊อตเรื่องที่แท้จริงของไรเตอร์ 55555 ไรเตอร์อยากลองเขียนอะไรแปลกๆใหม่บ้าง หวังว่ารีดเดอร์จะชอบหรือถ้าไม่ชอบก็ทนๆอ่านไปเหอะนะจ๊ะ... เขียนฉากโหดมาตั้งนาน ต่อไปนี้จะได้เขียนฉากหวานๆที่ถนัดซะที ^^
ความคิดเห็น