ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS8 (HKS) รักอันตราย นายมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 : ใจร้าว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.81K
      7
      3 เม.ย. 55

                    แสงแดดอ่อนๆ ส่องเข้ามาในห้องนอนแสนสบายที่ตอนนี้ผมเริ่มจะคุ้นเคย และที่คุ้นเคยจนจะกลายเป็นเสพติดคงเป็นร่างของหนุ่มหน้าโหดที่นอนกอดผมอยู่ข้างๆ  ผมแอบขยับแก้มเข้าไปใกล้จมูกโด่งเป็นสันของพี่ฮั่น ให้มันเหมือนหอมแก้มหน่อยๆ ฮ่าๆๆๆๆ..... นี่ก็เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วที่ผมเข้ามาใช้ชีวิตที่นี่ ถึงแม้ต่อหน้าคนอื่นๆ พี่ฮั่นจะดุผมตามแบบฉบับมาเฟีย แต่เหมือนพี่เอกะพี่บีจะรู้ใจเจ้านาย ว่าสายตาที่พี่ฮั่นมองผมมันไม่ใช่แค่ “เด็กตัวป่วน” เหมือนเมื่อก่อน นับตั้งแต่วันที่ได้รับบทโทษที่แสนหวานนั้น ทุกๆคืน ผมก็ได้หลับไปพร้อมๆอ้อมกอดกว้างที่แสนจะอบอุ่น ผมแอบนึกสงสัยนะ ว่าทำไมพี่ฮั่นยังแค่นอนกอดผม คิดแล้วก็อาย....แต่ผมตัดสินใจแล้วว่านับตั้งแต่วินาทีเป็นต้นไป ผมจะไม่ปฏิเสธหัวใจของตัวเองอีกแล้ว!!!

    “แกง” เสียงงัวเงียดังขึ้นข้างหู ผมจึงหันไปตามเสียงเรียก ทำให้หน้าผมกับหน้าพี่ฮั่นห่างกันไม่กี่นิ้ว จากนั้นผิวฝีปากผมก็ร้อนผ่าวด้วยรอยจูบที่นุ่มนวล มือของพี่ฮั่นยกขึ้นมาประคองแก้มผมเพื่อให้อยู่ในองศาที่ง่ายต่อการสวัสดีตอนเช้าที่แสนจะอ่อนหวาน ผมไม่ได้พยายามดิ้นรนออกจากวงกอดนั้นเลย

    “เคลิ้มเลยนะเรา” หลังจากถอนริมฝีปากของจากใบหน้าผม สายตาที่จ้องใบหน้าผมทำให้ผมลืมทุกอย่าง ก่อนจะพูดคำแรกของวันด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์

    “อะไรกันเล่า คราวหน้าอย่าหวังเลยนะ ผมจะลงไปนอนกับพื้นแล้ว” แค่นี้ผมก็เขินตัวเองจะแย่แล้ว ยังจะมาตอกย้ำว่าตัวเองทำให้ผมล่องลอยแค่ไหน พี่ฮั่นหลุดยิ้มออกมาก่อนที่จะดึงผมไปหอมแก้มฟอดใหญ่

    “พูดมากี่ทีแล้วแบบนี้ เป็นไงเช้ามาอีกวันก็เคลิ้มเหมือนเดิม” มันน่าหมั่นไส้จริงๆ ผมเลยแกล้งทำตัวยุกยิกเพื่อจะออกมาจากร่างนั้น แต่อ้อมกอดนั้นรัดแน่นขึ้นให้ร่างสูงบางกระชับเข้ากับอกกว้าง

    “พี่ฮั่น...ผมรักพี่นะ” ในที่สุด ผมก็พูดออกไป อ้อมกอดนั้นคลายออก ทุกอย่างเหมือนเริ่มหยุดเคลื่อนไหว ทำไมไม่มีเสียงตอบรับละ พี่ฮั่นมองหน้าผมด้วยแววตาที่ผมไม่อาจจะคาดเดาได้ แต่สิ่งที่ผมรู้คือข้างในตัวผู้ชายคนนี้กำลังมีการต่อสู้ในความคิดของเค้า นี่ผม..ทำอะไรผิดไป ผมทำไม่ถูกเหรอ???

    “พี่ว่าเราไปอาบน้ำได้แล้ว วันนี้พี่มีงานที่ต้องไปทำข้างนอก” น้ำเสียงยังคงนุ่มนวล แต่แววตาที่อ่อนโยนนั้นหายไป พี่ฮั่นหลบสายตา ผู้ชายคนนี้ไม่ยอมสบตาผม..... เจ็บมันเป็นแบบนี้นี่เอง

    “ผมเข้าใจแล้วครับ” เหมือนได้ยินเสียงตัวเองมาจากไกลๆ ทุกส่วนของร่างกายขยับเพื่อเดินไปประตูห้องน้ำเหมือนทุกๆวัน แต่หัวใจผมสิมันหายไปไหนกัน ที่ผ่านมาผมคงไม่สำคัญอะไรกับคนนี้เลย ผมมันมั่นใจไปเองว่าความรู้สึกที่เค้ามีคือ “ความรัก” มันไม่ใช่ ไม่แม้แต่น้อย มันเป็นแค่ความสนุกของคนก็เท่านั้นแหละ  ไม่มีเสียงใดๆ จากอีกคนที่อยู่ในห้อง ไม่แม้แต่เรียกชื่อ มีเพียงเสียงปัง! ที่บอกให้ผมรู้ว่ามีแค่ผมเดียวที่อยู่ตรงนั้น น้ำตามันไหลออกมาเองนะ ผมไม่ได้ร้องไห้หรอก...

     

    HUNZ talk

                    ผมเจ็บใจตัวเองจริงๆ สิ่งที่ผมทำไปคือการทำร้ายคนที่ผมรัก ครับผมพูดได้เต็มปาก “ผมรักแกงส้ม” รักมากกว่าทุกสิ่ง โลกของผมสดใสขึ้น โลกของผมมีเสียงหัวเราะ โลกของผมมีคนเป็นห่วงผมมากขึ้น เพราะเค้าที่ก้าวเข้ามาให้ชีวิต..... ผมมันเห็นแก่ตัว ผมอยากใกล้ อยากสัมผัส คิดว่าห้ามใจตัวเองได้ที่ไม่ล่วงล้ำความสัมพันธ์ไปเกินกว่านี้    แต่ผมไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของแกงส้มเลย ไม่คิดว่าสิ่งที่ผมโหยหาจากเค้า จะทำให้เค้ารักผม รักคนที่ชีวิตมีแต่ความเสี่ยง หากแค่ผมก้าวพลาด ผมก็เป็นต้นเหตุของหายนะของทุกคนที่อยู่รอบข้างตัวผมได้ แล้วจะให้ผมพาแกงส้มก้าวข้ามสะพานโลกที่แสนเรียบง่ายมาสู่โลกที่มีแต่อันตรายเหรอครับ  ....อดทนนะแกงส้ม เจ็บแค่วันนี้แหละ นายจะเจ็บแค่วันนี้  แล้วให้ชั้นเป็นคนทรมานไปตลอดชีวิตเอง...

     

    กว่าผมจะพาร่างกายกับใจที่ยับเยินของผมลงมาข้างล่าง ก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว มีกระดาษโน้ตติดที่ตู้เย็นเขียนด้วยตัวหนังสือยุกยิกที่อ่านยากมากถึงมากที่สุดของพี่เอถึงผมว่า

    “น้องแกง วันนี้เป็นวันเกิดพี่แคน นายช่วยเตรียมอาหารชุดใหญ่ให้หน่อยนะ ประมาณหนึ่งทุ่มสต๊อปจะพาพี่แคนมาที่นี่ แล้วเราจะมีปาร์ตี้กัน โย่วๆๆๆๆ”

                    ค่อยยังชั่วหน่อย ที่วันนี้มีงานวันเกิดพี่แคน ผมคงทำใจลำบากถ้าต้องอยู่กับพี่ฮั่นในบรรยากาศบ้านแบบเดิมๆ ผมค่อยๆ เปิดตู้เย็น อะไรเนี่ยทำไมไม่ซื้ออะไรมาไว้เลยนะ แล้วจะทำอาหารยังไงกัน ไหนๆ วันนี้ก็อกหัก พาตัวเองออกไปเลียแผลใจข้างนอกดีกว่า กว่าพวกนั้นจะกลับมาผมก็กลับมาก่อนแล้วหล่ะ คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก ผมจึงตัดสินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่จะแอบหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซด์ของพี่บี

                    จากนั้นผมก็ไปที่ตลาดใหญ่ที่ใกล้ที่สุด อาจจะเป็นเพราะการที่ผมอุดอู้อยู่ในรังของพี่ฮั่นร่วมเดือน ทำให้มีความรู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา เห็นสต๊อปว่าพี่แคนชอบกินปลา วันนี้ผมทำปลาทอดน้ำปลาเลยละนะ เมนูเดียวได้ทั้งสองปลา แล้วผมก็ซื้อเนื้อ ซื้อผักผลไม้อีกหลายอย่าง ผมหอบของพะรุงพะรังเอาไปไว้ที่รถ เรายังขาดสิ่งสำคัญนั้นคือของขวัญวันเกิด ผมมองไปรอบๆ มีร้านขายแก้วเจียระไนสะท้อนแสงแดดระยิบระยับเข้าผม ผมเลยเดินตรงไปที่ร้าน ...ในที่สุดผมก็ได้ที่ทับกระดาษแก้วเจียระไนเป็นรูปดาวที่ดูมีมิติและน่ารัก หลังจากนั้นผมก็มองเวลา นี่มันจะบ่ายสองแล้ว ต้องรีบกลับแล้ว ปัง!!! เสียงดังสนั่น ผมก้มหัวหลบในทันทีอย่างไม่ต้องมีใครมาบอก ผมเงยหน้าก็เห็นความวุ่นวายในตลาด แม่ค้าแม่ขายร้องกันอย่างตกอกตกใจ ผมเห็นต้นเหตุแล้ว เป็นผู้ชายสองคนใส่หมวกกันน็อคเต็มใบ ที่สำคัญมันเล็งปืนมาที่ผม ผมเลยลุกขึ้นวิ่งเข้าไปตรอกทันที ปัง!!! สองคนนั้นยิงพลาดไปอีกนัด แต่ยังไม่วายวิ่งตามผมมา ผมวิ่งไปสุดฝีเท้าจะวิ่งได้ แต่ก็มีคนโผล่มาตัดหน้าผม ในแวบแรกที่เห็นมันไม่เป็นผลดีกับผมเลย มันหยิบมีดพับขึ้นมา จ้วงแทงมาที่หน้าอกผมทันที เคราะห์ดีที่ผมเบี่ยงตัวหลบทันทำให้ปลายมีดแค่เฉี่ยวต้นแขนผมเป็นแผลยาว แต่ผมก็เสียหลักหกล้มลงไปที่พื้น พี่ฮั่น!!!  พี่อยู่ไหน ไหนเคยสัญญาว่าจะปกป้องผม หายหัวไปไหน

    ปัง!!!!!!!  นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนที่สติของผมจะหลุดลอยไป

    “ช่วยด้วย” ผมสะดุ้งขึ้นมา นี่ผมยังไม่ตายใช่มั้ย ผมกำลังอยู่บนรถ แผลที่ไหล่ซ้ายได้รับการทำแผลเรียบร้อย คนที่นั่งอยู่บนรถร่วมกับผมล้วนแต่เป็นคนที่ผมไม่รู้จัก

    “ฟื้นแล้ว โทรบอกพี่ฮั่นเลยนะ” คนที่นั่งเบาะด้านหลังข้างผมสะกิดบอกเพื่อนที่อยู่ด้านหน้า

    “ พี่ฮั่นครับ..... ครับ...... ปลอดภัยครับ...... อีกแปบก็ถึงแล้วพี่” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างหน้าคุยโทรศัพท์กับคนที่แค่ได้ยินชื่อ ผมก็ใจสั่น ทุกคนบนรถไม่มีใครพูดอะไรจนไปถึงที่ที่ผมควรจะอยู่

    “แกงส้ม เป็นไงบ้าง” เสียงแรกที่ได้คือพี่เอกับพี่บี สองคนนี้ดูเป็นห่วงเป็นใยผมมากจนต้องออกมารอที่หน้าตึก แถมยังแทบจะอุ้มผมเข้าไป แล้วคนคนนั้นละ แค่รู้ว่าผมยังไม่ตายก็คงพอใจแล้วแหละมั้ง พอเข้าไปข้างในบ้าน นี่มันอะไรกันระเบิดลงเหรอ ข้าวของทุกอย่างกระจัดกระจาย ดูเหมือนว่าจะถูกเหวี่ยง เขวี้ยง ปา อย่างไม่ปรานี สต๊อปยิ้มทันทีที่เห็นหน้าผม แต่พี่แคนกลับยกนิ้วชี้มาชิดปากบอกให้พวกผมเงียบ....

     

    HUNZ talk

    ผมกำลังจะเป็นบ้า เมื่อกลับมาผมไม่เจอแกงส้มรออยู่ที่บ้าน ยิ่งไอ่บีบอกผมว่ารถของมันหายไป ผมยิ่งเดือดดาลขึ้น ต้องรีบสั่งลูกน้องทุกคนของผมตามหาแกงส้มในทันที เค้าไม่รู้เลยใช่มั้ย ว่าชีวิตตัวเองตอนนี้มันอันตรายแค่ไหน ทุกอย่างที่ขวางหูขวางตาผมมันไปกองลงที่พื้นด้วยแรงความเป็นห่วง ถ้าวันนี้แกงส้มเป็นอะไรไป...ผมจะอยู่ยังไง เมื่อเช้าผมทำร้ายหัวใจเค้าอย่างไม่เหลือชิ้นดี ถ้าวันนี้ต้องจากกัน ผมจะมีชีวิตต่อไปได้เหรอ???

    “เป็นไงบ้าง เจอแล้วเหรอ” ทันทีที่มือถือดังขึ้นมา แล้วโชว์เบอร์ว่าเป็นลูกน้องผม

    “แล้วปลอดภัยดีรึเปล่า เป็นอะไรมั้ย” สิ่งแรกที่ผมต้องการรู้เมื่อปลายสายบอกคำตอบที่ผมพอใจผมเลยกำชับให้รีบมาด่วนที่สุด    แกงส้ม...ชั้นต้องทำยังไงกับนาย ชั้นเหนื่อยกับนายมากแล้วนะ ระหว่างที่ผมนั่งลงด้วยความโล่งใจ มือถือผมดังขึ้นอีกครั้ง แต่เป็นสายที่ไม่พึงประสงค์ คนที่ทำให้ผมต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ คนที่ทำให้ผมต้องเป็นคนใจร้ายกับคนที่ผมรักแบบนี้

    “ฝีมือแกใช่มั้ย ไอ่เต้” ผมคำรามลงไปในมือถือ แต่เสียงที่ตอบกลับมาคือเสียงหัวเราะอย่างเป็นต่อ
    “คิดถึงพี่จัง  ความจริงพี่ไม่น่าเอาสต๊อปไปด้วยเลยนะ ผมอยู่ที่นี่แล้วคิดถึงน้องจัง”  มันยังกวนโมโหผมไม่เลิก

    “แก อย่าได้มาแตะต้องน้องสาวชั้น ” อารมณ์ผมเหมือนคลื่นพายุที่รุนแรง

    “ผมรู้ครับว่าน้องสาวพี่เป็นบุคคลต้องห้าม พี่ถึงกันผมออกแล้วเอาไปยกให้ไอ่ฮัทแทน ผมก็เข้าใจนะพี่ ตั้งแต่พี่กลายเป็นลูกชายเจ้าสัว พี่มองเห็นคนจนๆ อย่างผมเป็นแค่ขยะเน่าๆ จะมีอะไรไปสู้กับไอ่ฮัทที่รูปหล่อพ่อรวยได้ ฮ่าๆๆ แล้วตอนนี้ที่ทุกอย่างที่พี่สร้างขึ้นทำเงินให้ผมได้เป็นกอบเป็นกำเชียว ผมก็นับวันรอวันที่พี่มาทวงมันคืน หึ...แล้วคนที่พี่ไว้ใจหนักหนาที่จะยกแก๊งค์ให้มัน สุดท้ายมันก็ทิ้งพี่ไปเมือกนอก พี่รู้สึกยังไงล่ะ ” สิ่งที่ไอ่เต้พูดออกมาคงเป็นความในใจที่มันเก็บกดมานาน

    “แกจะเอายังไงกับชั้น” ผมหมดความอดทนเต็มทีแล้ว อยากให้เรื่องมันจบๆ ไปสักที

    “ก็ไม่มีอะไร จะโทรมาบอกว่า น่ารักดีนะ ไอ่เด็กคนนั้นหน่ะ วันที่มาเต้นที่งานใหญ่ของผมยังไม่ได้สังเกต ถึงว่าสิพี่ถึงรักนักรักหนา ลงทุนเอาไปกกไว้ในถ้ำ” คำพูดที่มาตามสายทำให้ผมตกใจไม่น้อย

    “คนนี้สินะ ที่จะทำให้พี่ปวดหัวใจมากที่สุด” เสียงเยือกเย็นนั้นทำให้ผมแทบจะคลั่งตาย

    “ไอ่เต้ แกเข้าใจผิดแล้วละ ทุกอย่างที่ชั้นทำให้เด็กนั่นคือศักดิ์ศรีของชั้นที่ต้องรักษา สิ่งเดียวที่ชั้นรักคือสต๊อป ทุกอย่างไม่ว่าจะหายไปหรือตายชั้นก็ไม่แคร์ รวมทั้งไอ่เด็กแกงส้มด้วย” จุดอ่อนของผมที่มีตอนนี้คือ แกงส้มจริงๆ ความรักทำให้การใช้ชีวิตของผมลำบาก ผมควรจะทำให้จุดอ่อนนั้นหายไปจากใจใช่มั้ย.....

     

    ได้ยินมั้ยแกงส้ม คนที่แกรักนักรักหนา เค้าคิดยังไง หลังจากวางโทรศัพท์พี่ฮั่นก็หันหลังกลับมาเจอพวกผม ไร้คำทักทายใดๆ สายตาผมไม่ได้มีไว้มองคนคนนั้นอีกแล้ว ผมเจ็บจนจุก เกลียดร่างสูงแข็งแรงนั้น เกลียดเสียงทุ้มมีอำนาจเสียงนั้น เกลียดแววตาเย็นชาคู่นั้น ที่ผ่านมาผมมันโง่เอง น้ำตากรุณาอย่าไหลออกมาตอนนี้ ต้องเข้มแข็งได้แล้วเอาหัวใจเราคืนมา ในมือที่กำแน่นคือของขวัญวันเกิดสำหรับพี่แคน ผมอยู่ตรงนี้ต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ

    “สุขสันต์วันเกิดนะครับพี่แคน ขอโทษทุกคนนะครับที่ทำให้เดือดร้อน” ประโยคแรก ตาผมมองพี่แคน สองประโยคหันไปมอง พี่เอ พี่บีและสต๊อป ก่อนที่จะรีบสาวก้าวขึ้นมาบนห้องนอน แต่เสียงฝีเท้าที่วิ่งตามมาคงไม่ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวแน่ๆ

    “ที่นายออกไปเพราะของขวัญนั่นเนี่ยนะ” เจ้าของเสียงเกรี้ยวกราดไม่พูดเปล่ากระชากแขนผมจนแทบเซ ผมได้แต่เม้มปากหันหน้าไปทางอื่น ที่ไหนก็ได้ที่จะเห็นเสี้ยวหน้าคนๆนี้น้อยที่สุด

    “จะไม่พูดใช่มั้ย  หน้าชั้นนายก็จะไม่มองใช่มั้ย  ดี...ก็ไม่ต้องคุยกันแล้ว แล้วตอนอยู่บ้านก็อย่าเสนอหน้าจืดๆของนายมาให้ชั้นเห็นบ่อยนักนะ ชั้นเบื่อเต็มที” ทุกถ้อยคำเฉือนหัวใจผมเป็นชิ้น ก่อนที่จะปล่อยแขนผมแล้วหุนหันออกไป ...ผมคงต้องแพ้ให้กับน้ำตาแล้ว มันเจ็บลึกในหัวใจ ได้ทุกอย่างครับ.....พี่ฮั่น  พี่จะได้ทุกอย่างที่พี่ต้องการ สิ่งเดียวที่ผมขอ...ผมขอหัวใจของผมคืน จากนี้ ฮั่นนายจะไม่สำคัญกับชั้นอีกต่อไป

     

    ปล. เม้นเพื่อสร้างอารมณ์เขียนให้ไรเตอร์ คงไม่หนักหนานะจ๊ะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×