ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS8 (HKS) รักใสๆ หัวใจแรกจิ้น

    ลำดับตอนที่ #4 : chapter3: ย้ายมาอยู่???

    • อัปเดตล่าสุด 26 ม.ค. 56




                   

    HUNZ talk

    “เล่ามาเดี๋ยวนี้นะพี่ฮั่น...พี่ฮั่น พี่ฮั่นอย่าเดินหนีแกรนด์สิ” แกรนด์เดินตามผมมาตั้งแต่เจอหน้ากันเพื่อวนเวียนถามเรื่องที่เกิดขึ้นในระหว่างผมกับแกงส้มที่เป็นข่าวในขณะนี้

    “ก็บอกว่าไม่มีอะไรไงเล่า...มันเป็นอุบัติเหตุ มันเป็นเรื่องบังเอิญ เมื่อไหร่แกรนด์จะเชื่อพี่” ผมเฉไฉไม่ยอมตอบ แกรนด์เองก็ไม่มีทีท่าว่าเชื่อเลยแม้แต่น้อย

    “ไม่ต้องเลยนะพี่ฮั่น ไม่มีทางว่าแกงส้มจะหลงผิดไปสนิทกับพี่หรอก แกรนด์รู้ว่าแกงมันฉลาดพอ” แกรนด์ส่ายพร้อมคำยืนยันที่แสนหนักแน่น ผมทอดหายใจยาวเพราะไม่รู้ว่าแกรนด์ตั้งใจชมแกงส้มหรือว่าแอบว่าให้ผมกันแน่ ทำไม...การคบกับผมกับความฉลาดมันไปด้วยกันไม่ได้รึไงห๊ะ???

    “บอกไม่มีอะไรก็ไม่เชื่อ ต้องการอะไรละครับคุณน้อง พี่ชอบแกงส้ม...แบบนี้เหรอถึงจะพอใจ” ผมตอบปัดไปอย่างน้อยใจ แกรนด์เบิกตากว้าง

    “อย่าคิดอะไรกับน้องมันแบบนั้น... ไม่เอาอ่ะ แกรนด์ไม่อยากให้พี่ฮั่นเข้าใกล้น้องของแกรนด์ ไม่เอาๆๆๆๆ” แกรนด์ร้องโวยวายเสียงดัง ทำไมทุกคนต้องทำท่าทางแบบนี้กับผมด้วยนะ... ผมก็น้อยใจเป็นนะเนี่ย

    “แกรนด์เธอไม่คิดว่าพี่จะลำบากใจบ้างรึไงห๊ะ!!! มีแต่คนห่วงเจ้าเด็กแกงส้มนั่น แล้วพี่ละไม่คิดว่าพี่จะถูกล่อลวงบ้างรึไงกัน” ผมค้อนคู่ดูโอ้ด้วยความน้อยใจ แต่แกรนด์กลับเมินหน้าหนีคล้ายๆรำคาญใครสักคน

    “หึหึ...กล้าถาม เป็นห่วงเสือร้ายอย่างพี่เนี่ยนะ!!! พี่คิดว่าแกรนด์เป็นเด็กอมมือรึไง” นี่คือคำพูดสุดท้ายก่อนที่แกรนด์กับผมจะขึ้นเวทีเพื่อแสดงคอนเสิร์ตท่ามกลางกรี๊ดดังลั่นสลั่นฮอลล์

     

    “ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ” ผมขอบคุณทีมงานอีเว้นท์ที่ผมมาออกหลังจากงานเสร็จสิ้น วันนี้เป็นการทำงานที่ทำให้ผมชักละเหี่ยใจขึ้นมา เพราะมีป้าย “ฮั่นแกง” มาเป็นหย่อมๆ เอาน่า....แกงส้ม นายไม่ใช่คนเดียวที่ลำบากใจ พี่ฮั่นเองก็ดูจะมีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ดูพี่ม้าสิ..ยิ้มแป้นแล้นมีความสุข

    “ดูสิ...โหยยยย ดังคู่เหมือนกันนะเราอ่ะ ฮั่นแกงๆ เต็มเลย” พี่ม้าพูดด้วยความปลาบปลื้มโดยไม่สนใจสีหน้าผม นี่ใจคอจะยัดเยียดให้ผมกับพี่ฮั่นเป็นแฟนกันจริงๆใช่มั้ย???

    “มันต้องเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ครับเนี่ย???...คือผมไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่” ผมบอกความในใจออกไปแต่ดูเหมือนจะเป็นการขัดบรรยากาศของผู้จัดการซะมากกว่า เพราะมีเสียงจิ๊จ๊ะรำคาญใจทำให้ผมเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ บอกตรงๆ ผมชักรู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมาแล้วสิ...เหมือนกับว่าเรื่องนี้มันต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตของผมไปอย่างที่ผมเองก็คาดไม่ถึง แต่...ในเมื่อเรากับพี่ฮั่นไม่ได้มีอะไรกันแบบนั้นซะหน่อย เอาน่า...เดี๋ยวคนเค้าก็ลืม ข่าวสมัยนี้ไปไวมาไวจะตายไป...คิดมากไปแหละแกงส้ม อย่ากังวลไปนักเลย เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง....

     

    ““คนเดียวเท่านั้นเลย สามารถเปลี่ยนโลกเดิมๆที่เคยซึม ที่เคยเศร้า---” ว่าแล้วเจ้าตัวก็โทรเข้ามาพอดี

    “โทรมาทำไม---” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ ยอมรับว่าผมรู้สึกว่าไม่ค่อยวางใจคนๆนี้เท่าไหร่นัก... แต่เค้าก็ลำบากเพราะเรื่องบ้าๆแบบนี้อย่างที่เค้าบอกเหมือนกันนั่นแหละ ผมถึงพยายามทำใจให้ญาติดีด้วยทั้งที่ประสบการณ์ตรงกับผู้ชายคนนี้มันเข้าข่ายเลวร้าย....

    “ครับ---” ผมกรอกเสียงขณะไขประตูห้องของคอนโดทางต้นสังกัดให้ผมผมย้ายเข้ามาอยู่

    “นายอยู่ไหนเนี่ย???” เสียงนั้นตวัดราวกับไม่พอใจ อะไรของเค้านะ...ผมจะอยู่ไหนมันเกี่ยวกับอะไรกับเค้าเนี่ย---น้ำเสียงที่ถามก็ดูมู้ดดี้สุดๆ

    “กำลังจะเข้าห้อง” ผมเริ่มพูดจาไม่หางเสียงกลับ---เหนื่อยก็เหนื่อยยังมาทำตัวเซ้าซี้อีก

    “เหรอ---ดีๆๆ” แล้วจู่ๆพี่ฮั่นก็วางสายไปดื้อๆ

    “บ้าบอจริงๆเลย” ผมบ่นกับมือถือก่อนจะทุ่มตัวดันประตูห้องเข้าไปพร้อมปิดประตูเบาๆ ผมก้มถอดรองเท้าคู่โปรดไว้บนชั้นวางรองเท้าด้วยความทนุถนอม---และถืออีกข้างไว้มองอย่างชื่นใจ

    “ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ใครมาเคาะประตูตอนสองทุ่มเนี่ย??? พี่ม้าจะเอาของรึเปล่านะ ผมยืดตัวตรงมองผ่านตาแมว แต่หน้าห้องก็ว่างเปล่า.... ผมควรจะเปิดออกไปมั้ย??? แต่ถ้าไม่ใช่คนละ---ว่าแล้วขนผมก็ลุกชูชันขึ้นมาทันที ผมกอดรองเท้าด้วยความหวั่นใจ!!!

    “ก๊อกๆๆๆ” อีกครั้ง...ที่เสียงประตูดังขึ้น ผมรีบส่องตาแมวทันที แต่สิ่งที่พบคือ....ความว่างเปล่า!!!

    “อย่ามาหลอกอย่ามาหลอนลูกช้างเล้ยยย” ผมกลอกตาไปตามเพดานห้องด้วยความหวาดกลัว

    “ปังๆๆๆ” จากเสียงเคาะเบาๆก็กลายเป็นเสียงทุบประตู ผมสะดุ้งสุดตัวถอยห่างจากประตูด้วยความตกใจสุดชีวิต นี่มันอะไรกันเนี่ย....ผมไม่เคยลบหลู่อะไรนะครับ---คุณผีมาผิดห้องรึเปล่าครับเนี่ย???

    “หึหึหึหึ ปังๆๆๆ” มีเสียงหัวเราะด้วยว่ะเฮ้ยยยยยย!!! จะเฮี้ยนไปหนายยยยยย...แค่เคาะประตูผมก็กลัวแล้วคร้าบบบบบบ--- ผมยืนมองประตูด้วยความกลัว แต่เมื่อนึกว่าต้องเป็นแบบนี้ทั้งคืน ความฮึดก็วิ่งเข้ามาสู่หัวใจ (ถึงแม้ว่าจะน้อยกว่าความกลัวไปก็ตาม) ขืนเป็นแบบนี้นอนไม่หลับแน่ๆ... เราต้องหน้าใสๆไปหาแฟนคลับที่รัก เป็นไงเป็นกัน...ผีก็ผีว่ะ!!! เร็วเท่าความคิดผมเปิดประตูไปทันที หน้าห้องไม่มีอะไร แต่พอตวัดสายไปมองไปรอบๆเท่านั้นแหละ ปลายทางเดินมีร่างตะคุ่มๆ ผมยาวรกรุงรัง ร่างสูงหน้ากลัวนั้นค่อยๆหันมา ใบหน้าเละเต็มไปด้วยเลือด!!!

    “อ๊ากกกกกกก!!! ผมร้องลั่น ร่างนั้นวิ่งเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว!!! ผมหันหลังวิ่งหนีตายแต่ด้วยความร้อนรนร่างผมจึงกลิ้งหลุนๆเพราะวิ่งสะดุดเท้าตัวเอง เมื่อพลิกตัวกลับผมเห็นซอมบี้ที่อยู่ผิดที่ผิดทางปรี่เข้ามา... แล้วถ้ามันกัดผม ผมจะกลายเป็นซอมบี้มั้ย???.... งั้นผมก็หมดอนาคตแล้วสิ พ่อแม่ครอบครัวผมก็ต้องจำไม่ได้ อ๊ากกกกก....ผมจะไม่ได้กินต้มข่าไก่อีกแล้วววววว!!! ผมเขวี้ยงสิ่งที่อยู่ในมือไปที่ร่างซอมบี้นั่นหวังว่าจะเป็นการถ่วงเวลา ถึงแม้จะสู้ไม่ได้อย่างน้อยผมก็ขอสู้ตายก่อน ผมจะไม่มีวันเป็นซอมบี้ด้วยความเต็มใจหรอก!!!

    “พลั่ก!!!!-----โอ๊ยยยยยย!!!!” เย้!!!----ได้ผล ดูเหมือนว่าจะเข้าเป้า..... เฮ้ยยยยย ซอมบี้อะไรจะร้องโอ๊ย ตลกละ!!! ผมค่อยๆลืมตามองซอมบี้ที่ตอนนี้กุมหัวร้องโวยวาย ผมรุงรังกองอยู่ข้างๆรองเท้าข้างโปรดของผม ผมพิจารณาไอ่คนพิเรนทร์ที่ปลอมเป็นซอมบี้มาหลอกผม สูง ผิวขาว ทรงผมแบบนี้..... ไอ่พี่ฮั่น!!!

    “เล่นอะไรบ้าบอจริงเชียว-----เป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย???” อย่าคิดว่าผมถามพี่ฮั่นด้วยความเป็นห่วงเป็นใยนะครับ... ประโยคแรกใช่!!! ประโยคหลังผมหมายถึงรองเท้าผมต่างหากเล่า!!! ผมเดินไปหยิบรองเท้าด้วยความเป็นห่วง โดยไม่สนในร่างสูงที่คลำหัวด้วยความเจ็บ

    “คนเจ็บจะตาย แต่นายเป็นห่วงรองเท้านี่นะ” ร่างสูงนั้นค่อยๆถอดหน้ากาก ก่อนเท้าเอวอุทธรณ์ ผมมองร่างสูงนั้นด้วยความฉุนเฉียว ยังมีหน้ามาเรียกร้องความสนใจนะ!!!

    “ยังไม่ตายนิ” ผมตอบกลับไป ใจจริงๆอยากจะต่อว่าให้เจ็บๆแสบด้วยซ้ำ แต่ผมคิดว่าการทำแบบนั้นมันทำให้ผมตกในอันตรายซะมากกว่า...นายคนนี้เหมือนชาวบ้านชาวช่องซะที่ไหนกัน

    “นายนี่มัน----โว๊ะ!!!” นายพี่ฮั่นสะบัดหัวอย่างเหลืออด ผมเบิกตากว้างทำตาแป๋ว ทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ แต่ความจริงแล้วผมแทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้แทบจะไม่ไหว ที่เห็นนายคนนี้พูดไม่ออก...

    “แล้วที่มาเนี่ยมีธุระอะไร----อย่าบอกว่าแค่มาแกล้งผมนะ แบบนี้มันเข้าข่ายโรคจิตเลยนะ คุณอยากไปหาจิตแพทย์บ้างมั้ย??? เพื่อนพ่อผมก็มีอยู่นะที่น่าจะรักษาคุณได้อ่ะ” ผมจัดการร่ายยาว ทำเอานายพี่ฮั่นเอามือลูบหน้าผากกลอกลูกตาไปมา

    “ใจคอนี่จะหาว่าชั้นโรคจิตอย่างเดียวเลยใช่มั้ยห๊ะ!!! นายนี่มันจริงๆเลยนะ” คำต่อว่าชั้นดูไม่ดุดันอย่างที่เคยเป็น แต่ที่น่ากลัวคือการสาวก้าวเข้ามาหาผมเรื่อยๆมากกว่า ผมค่อยๆถอยจนหลังชนประตู---แกงส้มเอ๊ยยยยยย!!! ถอยหนียังถอยไม่ถูกทิศถูกทางแล้วจะเอาตัวรอดได้ไงวะเนี่ย???

    “ใกล้เกินไปแล้ว----อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นได้จูบรองเท้าผมอีกครั้งแน่ๆ” ผมไม่พูดเปล่ายกรองเท้าขึ้นมาขู่ด้วย---ไม่รู้แหละ ใครจะหาว่าผมวิตกจริตกับการคุกคามของนายคนนี้ก็เหอะ แต่กันไว้ก่อนมันก็ดีกว่าหนีไม่ทันไม่ใช่เหรอครับ แต่ร่างสูงนั้นกลับหัวเราะออกมาราวกับมีอะไรน่าขำนักหนา นี่ผมจริงจังนะเนี่ย....

    “นายนี่มันเหลือเกิน---เกิดมายังไม่เคยเห็นใครหวงเนื้อหวงตัวขนาดนี้มาก่อน ยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก---ทำไม...เข้าใกล้ชั้นแล้วมันทำไม” อ้าวๆๆๆ ผมรีบชูรองเท้ามาบังหน้า หลับปี๋เพราะนายคนนั้นโน้มหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ลมหายใจนั้นค่อยปะทะที่ลำคอ ผมต้องทำไง---อ๊ากกกกก!!! นี่ผมทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ???

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” อยู่ๆเสียงหัวเราะลั่นก็ดังขึ้นมา อีกแล้วเหรอเนี่ย???....ผมถูกนายคนนี้แกล้งปั่นหัวอีกแล้วเหรอเนี่ย??? ...ไอ่บ้า---ไอ่คนโรคจิต---ไอ่บ้ากาม----ไอ่---โอ๊ยยยยยย---ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาว่ามาด่านายคนนี้แล้ว!!!

    “ไปไกลๆเลยนะ” ผมผลักนายคนนั้นให้ห่างตัว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์คลี่ออกมาจากริมฝีปาก ผมหันหลังจะเปิดประตูเพื่อเข้าไปในห้อง แต่ไม่ทันจะได้ไปไหนหรอกครับ แขนของผมก็ถูกคว้าโดยมือแข็งแรงนั้น

    “จะไปไหน---ยังไม่ได้คุยธุระกันเลยนะ” เสียงลากยาวปลายเสียงหวานที่ดูเป็นต่อนั่น ทำให้ผมหงุดหงิดอย่างน่าประหลาด คนๆนี้มีพรสวรรค์เรื่องทำให้คนอื่นปวดเศียรเวียนเกล้ารึไงกัน!!!

    “รีบๆพูดมา---ผมอยากพักผ่อนเต็มที่แล้ว” เสียงผมสะบัดไปพร้อมๆแขนที่สะบัดให้หลุดออกจากอุ้งมือนั้น แต่ดูเหมือนการที่ผมทำอะไรไม่ได้จะทำให้คนๆนั้นบันเทิงใจเหลือเกิน ผมถูกดึงเข้าไปไกลตัวมากยิ่งขึ้น แววตานั้นดูสนุกกับการรังแกผมเสียเหลือเกิน....

    “ทำหน้าดีๆหน่อยสิจ๊ะ” นั่งไง---ไม่พูดเปล่า นายคนนั้นเอานิ้วมาสะกิดที่คางผมราวกับกำลังหยอกเอินคนรักยังไงอย่างนั้น---น่ารักนะ.....แต่มันไม่ใช่กับผมมมมมมมมมมม นายคนนี้ลวนลามร่างกายผมมากเกินไปแล้วนะ!!!  เร็วเท่าความคิผมกระแทกเท้าหมายจะให้เหลียบลงบนเท้านายพี่ฮั่นเพื่อเป็นการตอบโต้แต่ดูเหมือนจะถูกรู้ทัน...เพราะนายพี่ฮั่นยกเท้าขึ้นหลบได้อย่างเฉียดฉิว!!!

    “มุขเดิมๆนะจ๊ะ มาใช้กับพี่แบบนี้ มันไม่ได้ผลหรอกจ๊ะ!!! แบบนี้มันต้องลงโทษซะละม้างงงง” แววตานั้นดูทะลึ่งทะเล้นจนไม่น่าไว้ใจ ร่างสูงคว้าเอวผมในขณะที่อีกมือยังไม่ปล่อยแขนผม ท่าแบบนี้มันอีโรติกไปนะ....อ๊ากกกกกก!!!

    “ผมขอโทษ---ขอโทษๆๆๆ” ผมรีบขอโทษเพราะมันน่าจะเป็นทางเดียวที่ทำให้ผมหลุดจากอุ้งมือเสือร้ายอย่างนายคนนี้ได้ ไหนว่าอึดอัดไง----แล้วไหงมาทำแบบนี้อีกเนี่ย??? หรือว่าผมจะถูกนายคนนี้เล่นละครตบตา!!! แกงส้มเอ๊ยยยยยยย....ไม่น่าโง่หลงเชื่อนายคนนี้เลยจริงๆ

    “ยกโทษให้” ว่าแล้วนายคนนั้นก็ปล่อยผมให้เป็นอิสระทันที ผมเบิกตากว้างหายใจหอบเพราะความตกใจที่ตกอยู่ในสภาพราวกับคนกำลังจะถูกข่มขืน อะไรของเค้าอีกเนี่ย??? เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ตามอารมณ์ไม่ทันเลยจริงๆ ผมคงแสดงความสับสนออกมาทางสีหน้า เมื่อเค้าค่อยยิ้มแย้มให้ผมด้วยท่าทางอ่อนโยนลง

    “ชั้นมาที่นี่...ชั้นมีเรื่องจะขอร้อง” นายพี่อั่นเว้นจังหวะมองหน้าผม ผมพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อแสดงออกว่ากำลังฟังอยู่

    “ชั้นขอมาอยู่คอนโดนายได้มั้ย????” ห๊ะ!!!!!!!  อะไรนะ---ผมไม่ได้ยินผิดไปใช่มั้ย???

     

    ปล. ยังไงก็เม้นเป็นกำลังให้กันด้วยนะจ๊ะ อาจจะนานไปอีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์นะจ๊ะ ดูจากตารางชีวิตแล้วไม่ค่อยว่างเลย ยังไงก็จะกลับมาอัพต่อไม่ทิ้งแน่นอนจ้า ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×