คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2: เป็นไปตามแผน
HUNZ talk
ความจริงผมก็ไม่ได้คิดว่าเรื่องมันเลยเถิดขนาดนี้หรอกนะ ไม่ใช่ว่าที่มีข่าวกับเจ้าเด็กนั่นจะทำให้ผมสบายตัวซะหน่อย...เพราะพี่เอกกี้โทรมาวีนตั้งแต่เช้าตรู่หูผมแทบดับกันเลยทีเดียว แต่ฟังๆไปที่เหมือนร้ายแรงเพราะผมไปทำให้ชื่อเสียงของเจ้าเด็กแกงส้มเสียหาย ผมไม่เข้าใจ....ทำไมไม่มีคนห่วงผมเล้ยยยยย!!! เสียงมือถือผมดังเป็นรอบที่สิบ... “เหยื่อ” คือชื่อบนหน้าจอที่แสดง ตอนนี้คงเต้นเป็นเจ้าเข้าแล้วสิ ผมลงทุนเอาหนังสือและนั่งปริ๊นคอมเม้นท์ในอินเตอร์เนตไปให้เชียวน่า มีไม่กี่คนหรอกที่ได้รับความใส่ใจขนาดนี้ แกงส้ม...นายควรจะภูมิใจนะเนี่ย!!!
“คอยไปก่อนนะน้อง” ผมพูดกับมือถือตัวเองเบาๆ ก่อนจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ไอ่บ้านั่นไม่ยอมรับโทรศัพท์ผม.... มีเรื่องแบบนี้นายยังมีหน้ามาทำตัวนิสัยเสียได้อีกรึไงห๊ะ!!! นี่มันเป็นข่าวฉาวที่สุดในชีวิตผมเลยนะ แถมยังมารัดทนกับการถูกส่งเสริมให้มีอะไรจริงๆกันซะอีก บรรดาแฟนคลับที่รักของก็เป็นไปกับเค้าด้วย ทำไมทำกันแบบนี้ โอ๊ยยยยยย!!!ผมโยนมือถือลงบนโซฟาด้วยความโมโห
“คนเดียวเท่านั้นเลย สามารถเปลี่ยนโลกเดิมๆ---” โทรศัพท์ดังขึ้นมาเมื่อเห็นชื่อผมรีบรับอย่างด่วนจี๋
“ครับพี่ม้า...พี่ม้าครับผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ---” ผมรีบออกตัวเพราะกลัวว่าจะถูกพี่ม้าดุเอา
“ใจเย็นลูกใจเย็น----แกงส้มมันไม่ร้ายแรงอะไรขนาดนั้นหรอก” สถานการณ์กลับไม่ย่ำแย่อย่างที่คิด เมื่อน้ำเสียงโอบอ้มฟังสบายของพี่ม้าลอยกระทบหู
“แต่ดูข่าวสิครับ----ผมไม่อยากเป็นข่าวแบบนี้เลย” ผมโอดครวญกับพี่ม้าทันทีที่รอดพ้นจากการลงดาบ เพราะนายหื่นนั่นเดียว...ชีวิตผมอยู่แบบสงบๆเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แล้วเชียว ดันมาทำให้ผมต้องมีมลทิน นายฮั่น......ชั้นเกลียดนายโว้ยยยยยยยย!!!!
“มันไม่มากมายหรอก ช่วงนี้กระแสแบบนี้มันมาแรง ต้องเข้าใจหน่อยลูก” อ้าวๆๆๆๆ ท่าทางมันชักจะจบไม่สวยซะแล้ว ทำไมน้ำเสียงพี่ม้ามันมีความภูมิอกภูมิใจอยู่ในนั้นนะ ไม่นะ---อย่าไปเห็นดีเห็นงามกับคนอื่นนะครับพี่ม้า!!!
“ไม่เอาอ่ะ...ผมไม่เอาแบบนี้นะพี่ม้า” ผมเริ่มงอแงทันทีเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ปลอดภัย
“เออน่า---พี่จัดการเอง แค่นี้นะ อย่าคิดมากๆ” แรกๆผมก็คิดไม่มากเท่าไหร่หรอก พอได้ยินน้ำเสียงมีความสุขของพี่ม้านี่แหละ ไมเกรนผมแทบขึ้น มีลางสังหรณ์ว่าชีวิตผมต้องวุ่นวายแสนสาหัสแน่ๆ!!!
“นายฮั่น ไอ่ตัววุ่นวาย ถ้าชั้นไม่มีนายชีวิตชั้นไม่ต้องมาลำบากแบบนี้หรอก ยังๆๆ ยังมีหน้ามาทำหน้าแป้นทะเล้นอีก จัดสักทีมั้ย??? ต่อยกันหลังตึกมั้ย???อ๊ากกกกกก!!!” เหอะๆ ผมแค่ด่าในใจเท่านั้นแหละครับ แต่ถ้าใครได้มาเห็นหน้าแป้นแล้นของอีตาหื่นทั้งที่สร้างเรื่องราวใหญ่โตไว้กับผม ก็ต้องโมโหทุกคนนั่นแหละ
“รอบนี้ดังใหญ่เลยนะพี่ฮั่น...” กลุ่มแดนเซอร์หนุ่มร้องแซวเมื่อเดินผ่าน ทำเอาผมอายแทนแทรกแผ่นดินหนี
“เรื่องนี้ต้องโทษความฮอตของพี่เลยไอ่น้อง” ดูปากเค้าสิครับ.... ผมต้องทนอยู่กับคนแบบไหนเนี่ย??? ระยะเวลาเพียงสิบนาทีที่ผมนั่งรอให้บอสใหญ่เคลียร์กับผู้จัดการส่วนตัวของเราทั้งสองคน นายคนนี้ไม่ได้ทีท่าทีสลดหรือสำนึกในความผิดแต่อย่างใด กลับทำตัวเริงร่าทักคนนู้นทีคนนี้ที
“กัดปากมองหน้าพี่ทำไมจ๊ะน้องแกงส้ม” บ่นในใจไม่ทันจะขาดคำ...เอาแล้วไง หันมาจู่โจมผมแล้วไง ผมเมินหน้าหนีไม่ตอบ ทำเป็นมองนู่นมองนี่ไม่สนใจคนที่ทำให้ขุ่นมัว
“อ้าวๆๆ...แอบมองแบบนี้มีใจก็บอกมาเหอะ” ร่างสูงล่ำเดินก้าวเข้ามาทรุดตัวนั่งเก้าอี้ติดกับผม ผมรีบลุกขึ้นทันที...ไม่ได้หวงเนื้อหวงตัวนะ แต่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ผมก็ต้องระวังตัวเองไว้บ้าง!!!
“พูดด้วยไม่พูดด้วย หยิ่งนะเราอ่ะ” สายตากรุ่มกริ่มมองหน้าผมจนมันน่าหงุดหงิดนัก
“เป็นอะไรมากมั้ย???” ผมหันไปถามน้ำเสียงขุ่น เพื่อให้รู้ซะบ้างว่าผมไม่สนุกด้วย
“ขนาดเหวี่ยงยังน่ารักน่าเอ็นดูนะเนี่ย??? พ่อแม่ให้กินอะไรจ๊ะ” แต่ก็ไม่ได้ทำให้นายหน้าเป็นคนนี้สลดได้เลย
“แล้วนายล่ะ พ่อแม่ให้กินอะไรทำไมกวนประสาทแบบนี้ เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอคนอะไรมันน่านัก!!!” ผมไม่สนแล้วว่าจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องอะไร ยิ่งไม่ตอบโต้ยิ่งเอาใหญ่ แบบนี้มันต้องสู้กันสักตั้ง
“อะไรนะน่ารักงั้นเหรอ??? ไม่ต้องชมชั้นขนาดนั้นหรอก ชั้นรู้ตัว”
“นายนี่มัน!!! ----โอ๊ยยยย!!! ” ผมไม่รู้ว่าจะร้องออกมาเป็นภาษาอะไร แต่ประตูก็เปิดออกมาสงครามก็เป็นอันสิ้นสุดในทันที พี่ม้ายิ้มออกมาด้วยสีหน้าระรื่นส่วนพี่เอกกี้ทำหน้าตาเหมือนคนไม่ได้หลับมาสามวันเต็มๆ
“บอสว่าไงครับ???” ผมปรี่ตัวไปตามทันที ส่วนนายฮั่นเลิกคิ้วมองเหมือนไม่ใช่เรื่องของตัวเอง...
“แกงเอ๊ยยยย!!!” พี่เอกกี้ร้องออกมาเหมือนเวทนาผมอย่างสุดซึ้ง ใจคอผมเริ่มไม่ดีละ...ไม่นะ มันต้องไม่เป็นแบบนั้น ดวงผมไม่ได้กุดขนาดนั้นหรอก...ชีวิตผมต้องหลุดพ้นจากความเลวร้ายทั้งปวงสิ ไม่จริง ไม่จริ๊งงงงง!!!
“จากนี้เราจะปั่นกระแสคู่จิ้นให้ติดตลาด แกงส้มกับฮั่นต้องทำให้มันสำเร็จ” คนหนึ่งที่มีความสุขบนความทุกข์ของผม คือพี่ม้าหรือนี่.... หมดกัน---เพราะนายคนเดียว ไอ่หื่นฮั่นนนนนนนน!!!
HUNZ talk
ผมเห็นเด็กน้อยแกงส้มแล้วชักสงสารขึ้นมาตะหงิดๆ แต่แค่ตะหงิดๆนะ เพราะแวบเดียวมันก็หายไป คือว่า...ผมไม่เข้าใจไง ว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงรังเกียจผมนักหนา ผมพูดดีๆด้วยยังมาทำบึ้งตึง แถมว่าผมเสียๆหายๆว่ากวนประสาทงี้ ไอ่เราก็อุตส่าห์ชมว่าน่ารักน่าเอ็นดู ต้องบอกว่าน่าเกลียดรึไงกันถึงจะชอบ แปลกคน!!!
“เพราะนายคนเดียวเลย!!!” ระหว่างที่ผมเดินไปที่รถเสียงตะโกนดังมาจากด้านหลัง
“เพราะนายคนเดียวที่ทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้” ร่างสูงโปร่งก้าวเข้ามาหาผม ใบหน้าเกือบร้องไห้นั้นทั้งน่าสงสารและน่าขันปนกันไป
“ยังมีหน้ามายิ้มอีก” เสียงสูงของแกงส้มทำให้คนอื่นหันมามอง ผมเลยต้องคว้ามือต้นเสียงหลบไปที่บันไดหนีไปเพื่อหลบเลี่ยงสายตาคนอื่น... เห็นแบบนี้ผมก็อายคนเป็นนะ ยิ่งเด็กแกงส้มพร้อมที่จะระเบิดโฮออกมาตลอดเวลาแบบนี้ด้วย
“โหยยยยย...แค่ต้องเข้าใกล้ชั้น ทำให้นายสะเทือนใจขนาดนั้นเลยเหรอ???” ผมเท้าเอวถามอย่างอ่อนใจ เมื่อเห็นกระต่ายน้อยตื่นตูมร้อนใจอยู่เบื้องหน้า
“นายไม่เป็นชั้นไม่รู้หรอก...” แกงส้มตวัดหางเสียงสูง พร้อมค้อนนิดๆ ทำเอาผมหัวเราะออกมา
“ชั้นก็คนธรรมดานะเนี่ย เข้าใกล้ก็ไม่คันนะจะบอกให้ มะ..เอามือมาจับดู” ว่าแล้วผมก็คว้ามือเรียวมาวางไว้ที่ใบหน้าของตัวเอง แกงส้มยืนอึ้ง ก่อนจะรีบชักมือกลับ
“เพราะนายน่ากลัวแบบนี้ไง” แกงส้มสะบัดเสียงใส่ก่อนทรุดตัวนั่งลงที่ขั้นบันได
“เอาน่า...ในเมื่อมันเป็นคำสั่งจากเบื้องบน นายเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วก็ทำๆไป ชั้นเองก็ไม่ได้มีความสุขที่จะทำนักหรอกนะ” ผมแกล้งตีหน้าขรึม...ทั้งที่ความจริงแล้วในใจกับรู้สึกตื่นเต้นอย่างที่สุด ก็บอกแล้วไงครับ... คนที่วิ่งหนีผมมันหายาก แล้วผมก็อยากจะเอาชนะเด็กหนุ่มหน้าใสที่วิ่งหนีผมอย่างเอาเป็นเอาตายคนนี้ที่สุด แกงส้มเงยหน้ามองผม สายตาหยั่งเชิงก่อนจะมีท่าทางอ่อนลง โธ่ๆๆๆ...พ่อลูกกวางน้อย ผมมารยาเข้าน้อยหลงกลนิ่งลงทันทีเชียว
“จริงเหรอ???” แกงส้มถามผมเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ผมพยักหน้าก่อนทรุดตัวนั่งลงข้างๆ แกงส้มเองก็ไม่ได้ขยับตัวหนี
“วันนั้นนายก็ได้ยิน...ว่าบรรดาสาวๆของชั้นวุ่นวายขนาดไหน แค่เรื่องตามท้องตลาดชั้นก็ปวดเศียรเวียนเกล้ามากพออยู่แล้ว ทำไมชั้นต้องเอาเรื่องนายเข้ามาสร้างปัญหาให้ชีวิตชั้นด้วย” โลกนี่คือโรงละคร...มันเป็นโลกของผู้แข็งแกร่งกว่า เด็กน้อยเอยยย...เจ้าต้องเรียนรู้โลกนี้อีกมาก
“นั่นสินะ” เป็นไง...แกงส้มคล้อยตามโดยทันใด สาลิกาลิ้นทองที่ไหนจะสู้ลิ้นเลี่ยมเพชรอย่างฮั่น ฮอต ฮาร์ต ได้ละครับ ฮ่าๆๆๆ
“ชั้นต้องขอโทษนายด้วยนะทีทำให้เรื่องนี้มันบานปลาย นายไม่ต้องเรียกชั้นว่าพี่ก็ได้ ถึงชั้นจะแก่กว่านายก็ตาม เพราะสิ่งที่ชั้นทำมันเลวร้ายจนไม่น่าให้อภัย” ลื่นครับลื่น คราวนี้เป็นบทสำนึกผิด อันนี้ผมเล่นบ่อย เอาไว้ง้อสาวๆที่ขยันงอนกันเหลือเกิน
“ผมขอโทษพี่เหมือนกันที่ทำตัวไม่มีสัมมาคารวะ เรื่องนี้เราก็คงต้องช่วยกันแก้ปัญหาสิ ผมก็ดันมาโทษพี่จนลืมไปว่ามันไม่ใครอยากให้เกิดขึ้น” บอกแล้วไงครับว่า...ฮั่นเคลียร์ได้!!!
“ยิ้มอะไรคะฮั่น...แอนนี่รอคุณสั่งอาหารอยู่นะค่ะ” เสียงหวานปลุกผมออกจากโลกแห่งความสุข ผมเองก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงมีความสุขกับเรื่องเด็กหนุ่มหน้าหวานคนนั้น ผมส่งยิ้มให้สาวสวยที่ดูน่าเบื่อถนัดตาทั้งที่เพิ่งจีบได้ไม่นานนัก
“แล้วแอนนี่สั่งอะไรไปบ้างแล้วครับ” ผมยื่นหน้ามองเมนูก่อนถามแอนนี่นักแสดงสาวดาวรุ่งด้วยเสียงหวานๆ
“ก็มียำผักบุ้งกรอบ กระเพาะปลาน้ำแดง แกงเลียง ไม่รู้ว่าจะสั่งอะไร แอนนี่ไม่ค่อยคุ้นกับอาหารไทยเท่าไหร่”
“งั้นผมสั่งแกงส้มครับ...”
ปล. เรื่องนี้ไรต์ยังรับไม่ค่อยได้กับความ....ของพี่หื่น เอ๊ย!!! พี่ฮั่น ยังไงก็ติดตามกันด้วยนะจ๊ะ ว่าน้องแกงจะหลุดพ้นเงื้อมือเสือร้ายของนายฮั่นได้รึเปล่า อย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจให้กันด้วยน้า^^
ความคิดเห็น