ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS8 (HKS) รักอันตราย นายมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 : ของขวัญจากฟ้า

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 55


    HUNZ talk

                    หลังจากจัดการทุกอย่างเรื่องแกงส้มตัวป่วนเสร็จเรียบร้อย ฝาแฝดรุ่นน้องผมก็กระซิบกระซาบแล้วเหล่มอง ผมที่กำลังนั่งฟังเพลงอยู่หลายครั้ง บางทีความอดทนของผมมันก็ขาดง่ายยังกะด้ายว่าวนะครับ

                    “มีอะไรข้องใจก็พูดมา ชั้นชักจะรำคาญไอ่ท่างุงิๆครุคริๆ ของแกสองคนเต็มที” ในที่สุดผมก็ตัดสินใจเปิดทางให้สองตัวพี่น้องได้มาสัมภาษณ์ด้วยความรำคาญ สองพี่น้องฝาแฝดหันมายิ้มเจื่อน แล้วเดินออกจากบาร์เครื่องดื่มมาหาผมที่โซฟา

                    “พี่ครับ คือในเมื่อพี่ส่งคนไปรักษาที่บ้านและคนในครอบครัวไอ่น้ำแกงเกือบสิบคน แล้วทำไมพี่ต้องเอาไอ่น้ำแกงมาซุกไว้ที่นี่ด้วยละ” เอ แฝดผู้พี่พูดขึ้นก่อน หน้าตาบ่งบอกถึงความไม่เข้าใจอย่างแรง

                    “คืออย่าว่าผมอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะพี่ฮั่น คือผมไม่ชอบขี้หน้ามันอ่ะ ก็ไม่อยากให้ไอ่เด็กบ้านี่ตายอะไรหรอกนะพี่ แต่เก็บมันไว้ใกล้ตัวผมกลัวผมนี่แหละจะฆ่ามันเอง กวนติ๊ดได้ไร้เดียงสามาก” บีสาธยาย ตามมาติดๆ แต่ผมก็ยังจิบเครื่องดื่มราคาแพงอย่างไม่สะทกสะท้าน

                    “เอางี้พี่ ผลขอเหตุผลพี่สักสามข้อละกัน ถ้ามันมีเหตุผลดีๆจะไม่ขัดพี่เลย” เอ พูดอย่างหมดสิ้นความหวัง การขอเหตุผลของสองคนนี้คือการเอาไปทำใจเพื่ออยู่ร่วมกับตัวป่วนที่บุคลิกแปลกได้ง่ายขึ้น

                    “แต่ชั้นมีข้อเดียววะ” ผมหันมามองหน้าสองคนอย่าเต็มตา หน้าตาสองแฝดที่ตั้งใจฟังผมนั้นทำให้ผมอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้ ว่ามือขวากับมือซ้ายของผมนั้น มีมุมความน่ารักน่าเอ็นดูแค่ไหน

                    “เอาพี่ ข้อเดียวผมก็เอา” บี พูดห้วนอย่างหมดความอดทน

                    “เหตุผลคือ...ชั้นไม่มีเหตุผล” แล้วผมก็เดินขึ้นมาที่ห้องนอน ซึ่งเมื่อก่อนเคยเรียกว่าห้องส่วนตัว แต่เดี๋ยวนี้มีคนมาแบ่งปันพื้นที่ความเป็นส่วนตัวที่ผมแสนจะหวงนัก แต่ไม่เป็นไรถ้าเป็นเด็กคนนี้......ผมยอมได้

    ------------------------------------------------------------------------------

                   

    ห้องมาเฟียในจินตนาการของผม ต้องเป็นโทนสีแดงไม่งั้นสีดำ มีอาวุธเรียงกันเป็นตับ ชนิดว่าถ้าใครบุกเข้ามาลูกน้องสักสามสิบคนสามารถมาหยิบอาวุธที่ห้องนี้ได้ครบมือ แต่ที่นี่...มันไม่ใช่แบบนั้นเลย ห้องเป็นห้องนอนที่ดูสบายตา ผ้าม่านสีขาวผืนยาวพลิ้วตามสายลมที่พัดมาอ่อน เตียงนอนที่ดูหนานุ่มคลุมด้วยผ้าปูสีน้ำตาลอ่อนที่ดูอบอุ่น ชั้นหนังสือมีหนังสือวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ นี่มันห้องของเจ้าชายรูปงามชัดๆ

                    “ทำไรอยู่” เสียงทุ้มถามขึ้น ทำเอาผมสะดุ้งละสายตาจากวิวที่ระเบียงหันมามอง ต้นเสียงยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงสบายๆ แต่ทำไมมันดูดี น่าหลงใหล เอาซะผมพูดไม่ออก

                    “ไหนว่าจะขึ้นมาอาบน้ำไง”พี่ฮั่นเลิกคิ้วถามผม คนอะไรเท่ไปทุกท่าทุกทาง ผมเนี่ยแทบละลาย

                    “ไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนอะครับ ” ผมเดินเข้ามาในห้องเลยเจ้าของห้องไปพิงผนังหน้าห้องน้ำ แล้วก็แคะเล็บไปตามเรื่องตามราว เงยหน้ามาอีกที  เฮ้ย!!!!! พี่ฮั่นๆๆๆ ทำไรอ๊า พี่ฮั่นก้มหน้าลงมาใกล้ผม อย่าทำสายตาจริงจังแบบนั้นสิ คิ้วเข้มขมวดน้อยๆเอื้อมมือมาที่ไหล่ผมจับเบาๆ ก่อนจะ.........ดันผมไปด้านข้าง

                    “ทำไมต้องมายืนขวางทางตู้เสื้อผ้าด้วย” เสียงเข้มเชียวนะ ใครจะมันจะรู้ว่าที่พิงอยู่เนี่ยมันตู้เสื้อผ้าเล่า เพิ่งมาครั้งแรกนี่หว่า ผมเลยแอบส่งสายตาค้อนขวับ (ได้แค่แอบนั้นแหละ หุ่นแบบนี้หักคอผมตายด้วยมือเปล่าแน่ๆ) พี่ฮั่นหยิบชุดนอนลายทางพร้อมกับผ้าเช็ดตัวสีขาวนุ่มฟูสะอาด ส่งมาให้ผมพร้อมหน้าตาที่แสนจะเย็นชา โอยยย หน้าตาก็หล่อดีอยู่หรอก แต่ทำไมถึงชอบทำหน้าบึ้งจริงจังตลอดเวลาด้วยนะ

                    “รีบๆ ไปอาบห้ามโอ้เอ้นะ ชั้นจะได้เข้าไปอาบต่อ หรือว่าจะอาบพร้อมกัน” ผมตาเหลือกกับไอ่คำสุดท้ายเนี่ยแหละ เจ้าตัวทำท่าทางเหมือนจะเดินมาหาผมอีกต่างหาก อ๊ากกกกกก!!!!

                    “สามนาทีพี่ สามนาที รอหน่อยเหอะนะ พี่ฮั่นคร้าบบบบ” ผมลนลานเข้าไปในห้องน้ำ ได้ยินแต่เสียงหัวเราะตามหลัง  ไอ่พี่ฮั่น!!! อย่าได้ให้แกงส้มคนนี้มีโอกาสนะ จะเอาให้จำไปจนตายเลย  

                    ผมออกมาจากห้องน้ำในเวลาที่เกินกว่าที่ลั่นปากไปนานโข ทำเอาเสียวสันหลังวาบ ไอ่เจ้าของห้องจะเอาข้อหาไหนมารังแกผมอีกนะ แต่สิ่งที่เห็นร่างสูงที่นอนเหยียดขายาวมือถือหนังสือแปลเล่มหนาวางอยู่บนอก เสื้อเชิ้ตสีดำ กับถุงมือหนังถูกถอนออก เหลือแต่เสื้อกล้ามที่เน้นรูปร่างท่อนสวยงามดั่งรูปปั้น ทำหัวใจผมเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ชายคนนี้มีอะไรกันนะที่ส่งผลต่อจิตใจของผมขนาดนี้ เป็นความรู้สึกที่ผมไม่คิดว่ามันจะเกิด ผมค่อยเดินเข้าไปหาร่างนั้น ค่อยๆ หยิบหนังสือเล่มหนาออกจากอก แต่...มือแข็งแรงคว้าหมับที่มือผมตายังหลับพริ้ม แต่มุมปากกลับยิ้มน้อยๆ พ่อคู้นนนนนน จะสั่นหัวจิตหัวใจกันไปถึงไหน

                    “ทำอะไร นี่นายบังอาจจะลักหลับชั้นเลยเหรอ”  หมดกันเทพบุตรรูปงามเมื่อกี้ เหลือแค่ไอ่พี่โจรหน้าตาดีที่แสนจะปากร้ายคนหนึ่ง ช่างคิดได้เนาะ ว่าผมจะลักหลับ ก็แค่ลืมตัวนิดหน่อยแค่นั่นเอ๊งงงงงง!!!

                    “จะมาปลุกไปอาบน้ำต่างหาก พูดอะไรกันพี่ แมนๆ กันทั้งคู่ วุ้ยยยยย” ท้ายประโยคเอาเสียงสูงซะหน่อยจะได้สมจริง เนียนๆ พี่ฮั่นลุกขึ้นมานั่งหน้าแทบติดกับผมอยู่แล้วเชียว แถมทำสายตาเจ้าเล่ห์จนทำให้ผมต้องหลบตา มือหน่ะไม่ปล่อยสักที แต่ผมแอบยอมรับนะว่าชอบสัมผัสนี้ มันช่างน่าหลงใหลและเย้ายวน

                    “แกงส้ม นายคือสิ่งที่ฟ้าส่งมาให้ชั้นจริงๆ เลยนะ” คำพูดสั้นๆ ที่ฟังดูจริงใจอบอุ่น เป็นการกระซิบที่หวานไปถึงหัวใจ ก่อนที่พี่ฮั่นจะเอาผ้าเช็ดตัวที่ผมคล้องที่คอ มาเช็ดหัวผมอย่างเบามือ แต่แววตานั้นกลับมาดุดันแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างชนิดที่ว่าผมตั้งตัวไม่ทัน พี่ฮั่นลุกขึ้นมาเปิดประตูห้องน้ำไปอย่างเงียบๆ

                     “อะไรของเค้ากันนะ” ผมบ่นของผมอยู่คนเดียว ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนที่เตียงนุ่มอุ่นแสนสบาย กลิ่นน้ำหอมอ่อนที่ผมได้กลิ่นตอนมาที่นี่และเรื่องวุ่นวายทั้งหมดวันนี้ทำให้ผมหลับสนิทอย่างง่ายดาย.....

     

    HUNZ talk

    แสงแดดส่องทะลุหน้าต่างเข้าตาผม ถึงเวลาต้องตื่นแล้วสินะ ผมค่อยๆ ยันกายขึ้นมา เพื่อนร่วมเตียงผมไม่ได้อยู่ในห้องแน่ๆ หลังจากการกวาดสายตาสำรวจของผม ไม่รู้ว่าแกงส้มจะคิดยังไงกับท่าทีของผมเมื่อคืน ผมยอมรับนะว่าผมผ่านอะไรมาเยอะ ยิ่งเรื่องความรักแล้ว ผมเชื่อว่าผมคุยกับตัวเองรู้เรื่อง ผมไม่เคยสนว่าคนที่ผมรักจะเป็นใคร ยังไง หรือเพศอะไร แค่ผมรู้สึกว่าผมต้องการเค้าให้มาอยู่เคียงข้างมันก็พอใจแล้ว แต่สำหรับแกงส้ม เหมือนทุกๆอย่างในตัวเค้าทำให้ผมอยากเปิดใจและรักใครใหม่อย่างจริงจัง แต่ผมก็จะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว ชีวิตของคนๆนั้น มีความสุขที่เรียบง่าย ชีวิตที่ไม่ต้องมาเสี่ยงกับเรื่องเลวร้าย เส้นทางและความฝันอันสวยงามรอเค้าอยู่ ถ้าผมลากเค้าเข้ามาในชีวิตผม แล้วเด็กคนนั้นต้องสูญเสียความสุขตลอดชีวิต ผมยอมอยู่อย่างไม่มีใครซะยังจะดีกว่า.....

    หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ ผมเดินลงบันไดมาที่ห้องโถงชั้นล่าง เสียงเปียโน และเสียงร้องเพลงอย่างสนุกสนานทำเอาผมแปลกใจ เฮ้ย!!! ไอ่เอกะไอ่บีที่ประกาศผกับว่าเกลียดแกงส้ม ไม่ชอบขี้หน้านักหนา กำลังหัวเราะอย่างเริงร่ากับเด็กหนุ่มที่เล่นเปียโนนั่น แกงส้มเหลือบมาเห็นหน้าผมเสียงเปียโนหยุดลงทันที

    “ตื่นแล้วเหรอครับ เด๋วผมไปเอาข้าวต้มมาให้กิน” เสียงกังวานทักทายผม เจ้าตัวเองก็ขยับจะลุก

    “ไม่ต้องหรอก เด๋วพี่จัดการเอง พี่ฮั่นไปรอที่โต๊ะเลยครับ” บีรีบกดแกงส้มให้นั่งลง น้ำเสียงที่พูดกับแกงส้มแสดงเอ็นดูราวกับน้องชายคลานตามกันมา แล้วเดินหายเข้าไปในห้องครัว ระหว่างที่ผมหลับอยู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่!!!  ผมเดินไปที่โต๊ะมองดูแกงส้มสอนไอ่เอเล่นเปียโน

    “มาแล้วครับพี่ฮั่น ข้าวต้มกุ้งที่แกงส้มมันโชว์ฝีมือไว้” บียกชามข้าวต้มมาเห็น ผมสังเกตเห็นเข็มกลัดวงกลมสีฟ้าที่มีอักษรบีติดอยู่บนเสื้อยืดดำตัวเท่ของมัน แฟชั่นอะไรของมันว่ะนั้น

    “สงสัยอะดิ คือผมกะไอ่เออยากให้ไอ่แกงมันจำเราได้ไงครับ แต่ไม่รู้จะใช้วิธีไหน ก็เลยซื้อไอ่นี่มา” บีอ่านแววตาที่ผมมองเข็มกลัดสีหวานออก พอให้ไปมองเอ เข็มกลัดของมันเป็นสีชมพู ผมจะบ้าตาย!!!

    “ไหนพวกแกว่าเกลียดมันไง แล้วทำไมเป็นแบบนี้ไปได้” ผมตัดสินใจถามมันออกไป

    “ก็น้องมันเป็นเด็กดีนี่หว่า เมื่อเช้ามันลงมาที่ครัวแต่เช้ามืดเลยนะ ทำอาหารใส่บาตรพอผมไม่ให้ไป มันบอกว่าให้ผมกะไอ่เอไปใส่ให้หน่อย ทำบุญร่วมกัน เกิดชาติหน้าจะได้มาเจอกันอีก พี่ฮั่นรู้มั้ย น้ำตาผมแทบไหล ขนาดผมกับไอ่เอยังไม่อยากเกิดมาเจอกันอีกเลย มันจิตใจดีอ่อนโยนจริงๆผมยอมแพ้” เหอะๆๆๆ ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง แกงส้มก็กลายเป็นขวัญใจของสองแฝดได้ ผมอดยิ้มกับความน่ารักของเด็กคนนี้ไม่ได้จริงๆ ผมบอกแล้วไง แกงส้มเป็นของขวัญจากฟ้าจริงๆ

     

    หลังจากที่ผมอยู่ที่นี่มาสักพัก ผมก็เริ่มคุ้นเคยกับพวกพี่ๆ มากขึ้นพี่เอกะพี่บีใจดีกับผมมากๆ รู้สึกเหมือนมีพี่ชายเพิ่มขึ้นมาอีกสอง แต่ตัวลูกพี่นี่สิ ทำไมดูไม่ค่อยอยากจะเข้าใกล้ผมสักเท่าไหร่ แต่ช่างเถอะเป็นอะไรก็ปล่อยเค้าไป คนนี้ผมตามอารมณ์ไม่ค่อยทันจริงๆ เดี๋ยวก็ปรี๊ด เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย ถ้าผมใส่ใจมากๆ มีหวังเส้นเลือดฝอยแตกตายกันพอดี ตอนนี้ก็สิบเอ็ดโมงแล้ว ผมอยากโชว์ฝีมือทำอาหารเที่ยง เดี๋ยวจะหาว่าผมอยู่เปล่าๆ

    “พี่ครับอยากทานอะไรกัน เดี๋ยวเที่ยงนี้ผมโชว์ฝีมือเอง” ผมตะโกนขึ้นมา สายตาพี่ฮั่นละจากหนังสือเงยหน้ามามองผม  ขมวดคิ้วเล็กน้อยตามแบบฉบับมาเฟีย

    “ทำเยอะๆหน่อยนะ เด๋วมีแขกมา” พี่ฮั่นบอกผมเสียงเข้ม อะไรจะวางมาดขนาดนั้น ผมเห็นพี่แกแล้วเหนื่อยกล้ามเนื้อหน้าแทน เอ๊ะ! เมื่อกี้พี่ล่ำแกบอกว่ามีแขกนี่หว่า นี่มันรังโจรนะ

    “ใครจะมาอ่ะพี่ ” ผมเดินไปโซฟาไปคุยกับพี่ฮั่นใกล้ๆ สายตาที่มองกลับเอาซะขนลุกขนชัน รังสีอำมหิตพุ่งเข้าในรูขุมขนแทบทุกรู ถ้าจะดุจะเหี้ยมขนาดนี้...มีลูกละขอตัวนึง

    “คนพิเศษ” สามคำสั้นๆอย่างเท่ๆ แล้วลุกเดินขึ้นบันไดไป อั้ยยะ!!! คนพิเศษ เป็นใครเนี่ยอยากรู้จริงๆ สงสัยจะเป็นพวกยัยสาวไฮโซ นมตู้ม กระเป๋าแบรนด์ ชอบพูดจาแล้วทำปากเหมือนกินพริกมาทั้งสวนแน่ๆ เลย ชิชะ.... นี่กล้ามาตอนกลางวันเลยเหรอเนี่ย!!!  ที่สำคัญ ผมไม่ใช่คนครัวนะครับ จะเอาเกลือโรยข้าวให้กระอักพ่นใส่ไอ่พี่โจรฮั่นให้รู้แล้วรู้รอดไป

    จากนั่นเที่ยงกว่าๆ อาหารทุกอย่างจากฝีมือผม ก็ตั้งโต๊ะอย่างน่าทานเพื่อรอรับแขกพิเศษของพี่โจรฮั่นของผม เฮ้ย!!! ไม่ใช่ของผม ลืมตัวไปหน่อย อาหารทุกอย่างผมทำสุดฝีมือ แต่ข้าวกับน้ำของคนพิเศษของพี่ฮั่นนี่สิ ขอบอกสามคำ “จัด หนัก หนัก” ไม่เตลิดอย่ามาเรียกผมแกงส้มคร้าบ ไม่รู้ละ...อยากมาทำให้ผมหมั่นไส้ทำไมละ บอกไว้เลยนะว่า ผมเอาให้ตายกันไปข้างแน่ๆ  ฮ่าๆๆๆๆๆ (หัวเราะอย่างสะใจ)

     

    ปล. มาอัพอีกตอนแล้วนะคะ ตอนนี้เน้นหนักไปทางพี่โจรฮั่น ตัวป่วนอย่างแกงส้มเลยไม่ค่อยได้แผลงฤทธ์เท่าไหร่ แต่ตอนหน้าน้องแกงจัดหนัก คอมเฟิร์ม!!!!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×