ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS8 (HKS) รัก- ลืม -ร้าย หัวใจพ่ายเธอ

    ลำดับตอนที่ #22 : Chapter 21: การตัดสินใจ

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ค. 55



                   

    HUNZ talk

    ผมตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทราแต่ยังคงหลับตา... ร่างในอ้อมแขนผมยังคงหลับนิ่ง มีเพียงความเคลื่อนไหวจากการหายใจเท่านั้น  ผมไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวเพราะกลัวรบกวนแกงส้มในตื่นเร็ว ความสุขของผมมันมากมายจนไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดใดๆ กลิ่นหอมจากตัวแกงส้มยังลอยมาติดจมูกอยู่ ผมลืมตาเพื่อดูให้แน่ใจว่านี่มันไม่ใช่ความฝัน ร่างสูงโปร่งขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของผมทั้งคืนนั้น...คือ ความจริง และเป็นความจริงที่เป็นสุขยิ่งกว่าความฝันใดๆ ในโลกนี้ ผมค่อยบรรจงจูบลงไปที่หน้าผากใสๆ เพื่อต้อนรับแกงส้มสู่รุ่งอรุณวันใหม่ที่มีความรักล้อมรอบกาย ด้วยความเป็นคนรู้สึกตัวตื่นง่ายแกงส้มจึงขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะลืมตาใสๆไร้เดียงสามองผมอย่างเขินอาย

    “ตื่นแล้วเหรอ???” ผมทักทายคำแรกของวันทำให้แกงส้มหน้าแดงก่ำด้วยความเคอะเขิน

    “พี่ตื่นนานแล้วเหรอครับ” แกงส้มถามผมกลับ ผมยกมือมาลูบผมนุ่มนั้นอย่างรักใคร่

    “ตื่นสักพักแต่ไม่กล้าขยับตัวเห็นว่าแกงส้มกำลังนอนหลับสบาย” ผมตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แกงส้มขยับตัวเหมือนจะลุกขึ้นแต่ผมก็ใช้แขนที่โอบรัดแกงส้มอยู่นั้นกดเอาไว้

    “พี่ฮั่น...ปล่อยผมได้แล้วกอดมาทั้งคืนแล้วนะ ผมจะไปทำอาหารเช้าให้ไม่หิวเหรอ???” แกงส้มทำเสียงงอแงเหมือนเด็กน้อยที่อยากได้ขนม ซึ่งมันทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะกดจมูกลงที่แก้มใสๆนั้นเป็นการลงโทษในข้อหาที่บังอาจทำตัวน่ารักเกินไป

    “แปลกเนาะ เวลาหิวข้าวถ้าได้กินมันก็อิ่ม แต่ทำไมเวลาหิวแกงบางแกงมันถึงยิ่งกินยิ่งหิวก็ไม่รู้ อยากจะกินทั้งวันทั้งคืนเลย” ผมจ้องหน้าแกงส้มอย่างเจ้าเล่ห์ แกงส้มคงหมั่นไส้เลยยกมือมาบีบจมูกผมอย่างแรง

    “คนป่วยอะไรกันฤทธิ์มากฤทธิ์เยอะจริงๆเชียว.... ” แกงส้มทำเสียงเล็กเสียงน้อยที่น่าเอ็นดู ทำไมนะยิ่งรู้จักยิ่งใกล้ชิดมันไม่ได้ทำให้ผมเบื่อเลยสักนิดแต่ตรงกันข้ามความโหยหารักใครมันกลับเพิ่มขึ้นทวีคูณ

    “พี่หายใจไม่ออก” ผมแกล้งทำเหมือนคนขาดอากาศหายใจ ซึ่งทำให้แกงส้มเบิกตากว้าง ก่อนจะปล่อยมือให้ทันที ผมยกมือมาคลำจมูกแกงส้มยกมือมาประคองหน้าผมด้วยความเป็นห่วง

    “พี่ฮั่นผมขอโทษนะ...” แกงส้มพูดอย่างร้อนใจ ผมค่อยๆคลี่ยิ้มก่อนจะส่ายหน้าเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร แกงส้มคลายคิ้วที่ขมวดเข้าหากันอย่างโล่งใจ

    “แต่เล่นแรงแบบนี้มันต้องชดใช้กันหน่อยแล้วรู้มั้ย???” ผมจ้องตาแกงส้มอย่างจริงจัง

    “ชดใช้อะไร” แกงส้มถามผมด้วยน้ำเสียงไม่ไว้วางใจ

    “ทำพี่หายใจไม่ออกแบบนี้ต้องผายปอด” ผมขยับตัวไปใกล้หน้าห่างกันไม่กี่นิ้วก่อนชิงจังหวะก้มไปจูบตักตวงรสหวานจากริมฝีปากนั้นอย่างดูดดื่ม ส่วนแกงส้มที่ทำตัวแข็งขัดขืนก็ค่อยๆผ่อนคลายและคล้อยตาม มือของแกงส้มแตะที่ลำคอผมเบาทั้งสองข้าง พร้อมกับเงยหน้ารับสัมผัสอย่างคุ้นเคย ผมพลิกตัวดันให้แกงส้มขึ้นอยู่บนตัวผมแกงส้มถอนริมฝีปากออก เราสองคนสบตากันสื่อความรักส่งผ่านจากใจอีกดวงสู่อีกดวง แววตาอ่อนหวานของแกงส้มคู่นั้น...ยามสบตาเหมือนมีเสียงกระซิบรำพันฝากคำรักหวานข้างหู

    “พี่ฮั่น...พี่จะลืมอะไรผมไม่สน แต่พี่อย่าลืมผมนะ” แกงส้มสั่งผมเสียงเข้ม แต่แววตานั้นช่างอ่อนหวานนัก มันเป็นคำสั่งที่ผมต้องทำตามจนถึงลมหายใจสุดท้าย มันเป็นคำสั่งที่ไม่เหนื่อยที่จะทำ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวกับที่หัวใจผมสั่งตัวเองมาตลอด ไม่ว่าจะทั้งหัวใจหรือว่าความทรงจำทุกอย่างของผมนั้นอยู่ในมือของแกงส้มแล้ว

     

    ผมละอยากทึ้งหัวตัวเองจริงให้ตายเหอะ ทำไมเป็นใจง่ายแบบนี้นะแกงส้ม!!! ผมมานึกๆดูแล้ว ตอนนี้พี่ฮั่นความจำเสื่อม... แสดงว่าจำผมไม่ได้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้า แต่ผมดันไป...ไป....โอ๊ยยยยยยยย!!! แถมตื่นขึ้นมายังมาอยู่ในสภาพนอนให้เค้ากอดทั้งคืนเลยอีก อารมณ์ประมาณถูกหิ้วหลังจากโดนมอมเหล้าในผับยังไงยังงั้นเลยนะ ยับยั้งชั่งใจ....สะกดเป็นมั้ยแกงส้ม!!!  นี่ยังไม่พอนะยังไปเคลิ้มต่อกับคำหวานๆของพ่อหนุ่มความจำเสื่อมเจ้าคารมนั่นอีก ไปอ้อนเค้าเป็นเรื่องเป็นราว  “อย่าลืมผมนะ” พูดไปได้ทำไปได้ อ๊ากกกกกกก!!!

    “แกงส้ม....พี่หิว” ยังไม่ทันจะขาดคำ พี่ฮั่นก็ส่งเสียงมาแล้ว แค่ได้ยินเสียงความเขินก็พุ่งตรงมาแบบไม่แตะเบรก หิวอะไรอีกล่ะ...ทั้งเมื่อคืนทั้งเมื่อเช้า อุ๊บส์!!!

    “ทำไมต้องหน้าแดงด้วย” พี่ฮั่นมองหน้าผมที่กำลังเฉไฉมองหม้อเพื่อรอน้ำเดือด

    “เปล่า... พี่ฮั่นไปนั่งดูทีวีเหอะไป๊” ผมไล่ตัวก่อกวนสมาธิไปไกลๆ ก่อนที่จะทำอาหารผิดๆถูกๆ

    “แกงส้มไม่พอใจอะไรพี่รึเปล่า???.... ไม่เป็นไรนะคืนนี้พี่นอนคนเดียวได้ พี่ยอมนอนฝันร้ายดีกว่าต้องทำให้แกงส้มอึดอัด” พี่ฮั่นก้มหน้าพูด อ้าว....มาน้อยอกน้อยใจผมอีก เข้าใจแล้วว่าตอนที่พี่ฮั่นดูแลเราตอนเราความจำเสื่อมมันลำบากแบบนี้นี่เอง ความคิดคนที่ไม่รู้อะไรมันย่อมเตลิดไปไกลกว่า...

    “ไม่ใช่ครับ... ผมไม่เคยอึดอัดเลย แต่ตอนนี้ผมแค่อยากให้พี่ฮั่นไปพักผ่อน พอเราทานข้าวเสร็จจะได้ออกไปเยี่ยมบุญหลงกัน” ผมรีบเดินมาหาพ่อคนขี้น้อยใจแล้วจูงมือมานั่งที่โซฟานุ่มๆรอ พี่ฮั่นส่งรอยยิ้มที่ดูเหมือนโล่งอกขึ้นมาอีก ไร้เดียงสาแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบ หรือว่าจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปดีนะ....

    ตอนแรกก็กะจะให้พี่ฮั่นปั่นจักรยานขึ้นมาแต่เมื่อแลดูสภาพแล้วขากลับคงจะต้องพาเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ ผมเลยเลือกที่จะเป็นสารถีขับรถเพื่อพาคนป่วยมาหาบุญหลง...พยานรักของเรา พี่ฮั่นทำหน้าประหลาดใจเมื่อขึ้นมาถึงเนิน สายลมพักแรงจนเส้นผมของพี่ฮั่นตีกันกันยุ่งแต่ก็ไม่อาจทำให้ความหล่อมีเสน่ห์ลดลงไปได้เลย

    “ที่นี่สวยจัง...” พี่ฮั่นหันมาทำหน้าเด็กน้อยกับผม ผมส่งยิ้มให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพี่เลี้ยงเด็กยังไงก็ไม่รู้สิ ผมเดินเข้าไปคว้ามือพี่ฮั่นไปที่ต้นไม้ของบุญหลง

    “บุญหลง...พี่พาพี่ฮั่นมาหา บุญหลงอย่าโกรธพี่ฮั่นเค้านะที่เค้าไม่ทักทายเราเหมือนเดิม ตอนนี้พี่เค้ากำลังป่วย...แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พี่สัญญาว่าพี่จะดูแลพี่ฮั่นไม่ว่าความทรงจำของพี่ฮั่นจะกลับมาหรือไม่ก็ตาม” ผมแตะที่พื้นเพื่อบอกบุญหลง พี่ฮั่นวางมือลงบนมือผม

    “บุญหลง... ไม่ว่าความทรงจำของพี่จะเป็นยังไง แต่หัวใจของพี่ก็ได้ให้แกงส้มไปแล้ว โลกเปลี่ยน รักของพี่ไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะยังไงคนๆนี้ก็ไม่มีวันเดินหันหลังให้กับแกงส้ม แล้วแกงส้มละ...รักพี่บ้างรึเปล่า???” สายตาของพี่ฮั่นนั้นรอคอยคำตอบอย่างจดจ่อ

    “พี่ฮั่น...ผมรักพี่” แม้ผมจะได้พูดคำนี้ไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ผมก็พร้อมที่จะเอ่ยคำนี้ให้คนที่อยู่ตรงหน้าฟังตลอดไป พี่ฮั่นทำให้ผมรู้ว่า ไม่ว่าอดีตสองเราจะเกลียดกันหรือเริ่มต้นด้วยความเข้าใจผิดแค่ไหน แต่มันไม่สำคัญเลยเพราะ ณ เวลานี้หัวใจเราสองผูกพันธนาการด้วยความรัก ความรักที่หย่งรากลึกสู่ก้นบึ้งของหัวใจ แม้มีแระแสลมแห่งอุปสรรคดาหน้าเข้ามา แต่ความรัก...ก็ยิ่งใหญ่และมั่นคงมากพอที่จะผ่านทุกเรื่องราวมาได้ ต่อไปนี้ระหว่างเราสองคนจะมีเพียงความจริงใจและเรื่องราวดีๆที่สวยงาม ร้อยเรียงให้ความรักของเราแน่นเฟ้นขึ้น พี่ฮั่นคว้าตัวผมไปกอดไว้แน่น ผมเงยหน้าจูบปลายคางพี่ฮั่นเบาๆอย่างรักใคร่ ท่ามกลางลมแสด แดดที่เจิดจ้า ต้อนรับฟ้าวันใหม่แห่งความรัก

    “แกงส้ม... เหมือนเรากำลังสาบานรักในพิธีแต่งงานต่อหน้าบาทหลวงบุญหลงเลยนะ” พี่ฮั่นพูดอมยิ้ม ผมเองก็หัวเราะตามเมื่อพี่ฮั่นเปรียบเปรยซะเห็นภาพผมเลยผละออกมาจากอ้อมกอดนั้นหันหลังให้

    “บางทีพี่ก็ชอบทำให้เสียบรรยากาศ” ผมบ่นออกมาเบาๆ พี่ฮั่นจับตัวผมจากด้านหลังโยกไปมาอย่างเอ็นดูแล้วสวมกอดจากด้านหลังพร้อมความเร็วแสงในการขโมยหอมแก้มที่ดูเหมือนทักษะจะไม่หายไปพร้อมความทรงจำ

    “ทำไมความหื่นมันไม่หายไปพร้อมๆความจำนะ ความหื่นเนี่ยรักษามาตรฐานได้คงตัวจริงๆ” ผมแกล้งกระเซ้าพี่ฮั่นแล้วหัวเราะในลำคอ พี่อั่นเอาคางมาเกยที่ไหล่แล้วให้ใบหน้าของตัวเองคลอเคลียกับแก้มของผม

    “ความรักจ๊ะ เค้าเรียกว่าความรัก ยิ่งรักมากก็ยิ่งอยากกอด อยากหอม อยากจูบ อยากซุกไซร้ อยาก....” ผมรีบปิดปากพี่ฮั่นก่อนจะพูดอะไรเลยเถิดไปกว่านั้น

    “หมกมุ่นมากๆเลยนะ เอะอะอะไรก็โยงเข้าเรื่องบนเตียงตลอดเลย” ผมดุเสียงเฉียบ พี่ฮั่นคงจับความเปลี่ยนเปลี่ยนของน้ำเสียงได้จึงรีบรัดผมไว้แน่น

    “โธ่....แกงส้มพี่ก็รู้ว่าความรักไม่ใช่เรื่องบนเตียง....แต่จะลองในครัวหรือระเบียงบ้างก็ได้”

     

    HUNZ talk

    คนดีของผมหลับไปแล้วหลังจากที่พาผมตะลอนๆ เพื่อรื้อฟื้นความทรงจำ ผมเองก็แอบรู้สึกผิดที่ทำให้แกงส้มต้องเหนื่อยยากลำบากกายขนาดนี้ ผมมองนาฬิกาใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว ถ้าจะปลุกมาทำก็กลัวว่าจะเหนื่อย สงสารพ่อจอมกวนเป็นที่สุด แต่ถ้าแกงส้มตื่นขึ้นมาแล้วไม่มีอะไรทาน...ต้องแบกท้องมาทำอาหารเองอีกมันก็แย่นะ เอาไงดีๆ จะขับรถออกไปซื้อก็ดูจะเก่งกาจเกินบทหนุ่มความจำเสื่อมอีก โอ๊ยยยยย!!! เล่นละครเนี่ยมันยากไม่ใช่เล่นเลยนะ แล้วความคิดดีๆก็วิ่งปรู๊ดปร๊าดมาที่สมองผม แกงส้มโชว์ฝีมือจนลืมไปว่าที่นี่...มีแม่บ้าน ว่าแล้วผมจึงหยิบกระดาษมาจดรายการอาหารที่เป็นของโปรดแกงส้มทั้งหมดเพื่อเป็นการตอบแทน

    พอจัดการเรื่องปากท้องเรียบร้อยก็เลยแอบเปิดประตูย่องไปเฝ้าเจ้าชายนิทราที่ขดตัวนอนน่ารักบนเตียง ผมเหลือบไปเห็นสมุดวาดภาพประจำตัวที่วางข้างๆ ตัว ผมเดินไปหยิบมาดูภาพเรื่องราวต่างๆนับตั้งแต่วันที่แกงส้มความจำเสื่อม ผมยิ้มทุกครั้งที่เห็นหน้าของตัวเองบนแผ่นกระดาษ รู้สึกว่าช่างเป็นรูปที่ทำให้ดูดีกว่าตัวตนที่โลดแล่นบนโลกแห่งความเป็นจริง เพราะรูปพวกนั้นมันถูกถ่ายทอดจากมุมมองของความรัก  แต่เมื่อพลิกมาหน้าสุดท้าย มันคือรูปใหม่ล่าสุด... ผมหันไปมองร่างที่นอนอยู่อย่างรักใคร่ ผมวางสมุดภาพไว้ที่เดิม ก่อนที่จะขยับผ้าห่มมาคลุมให้ถึงหน้าอกคนรัก ใบหน้าอ่อนเยาว์นั้นดูมีความสุขในห้วงนิทรา ผมลูบไล้ผมของแกงส้มเบาๆ แกงส้ม...พี่จะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน ทำหน้าที่คนรักให้ดีสุดให้สมกับสิ่งดีๆที่แกงส้มทำให้พี่มาตลอด

    “พี่ฮั่น...ทำไมไม่ปลุกผม” เสียงงัวเงียดังมาจากด้านข้าง ทำให้ผมละสายตาจากหนังสือที่อยู่ในมือ

    “เห็นว่าหลับสบายก็เลยไม่อยากปลุก” ผมต้อนรับแกงส้มจากการรับฝันด้วยรอยยิ้มแสนหวาน แกงส้มขยับตัวมาใกล้ๆผมก่อนจะเอาหัวมาซบที่ตักผมที่นั่งเหยียดขายาวบนเตียงเหมือนแมวน้อยกำลังอ้อนเจ้าของ

    “เมื่อยไปหมดเลย...ตายแล้ว!!! ยังไม่ทำข้าวเย็นเลย พี่ฮั่นทำไมไม่ปลุกผม” แกงส้มทำเสียงอ้อน ก่อนจะนึกได้โวยวายกระโดดลงเตียงแทบไม่ทัน ผมเองก็ไม่คิดจะห้ามเพราะเห็นท่าทางแบบนี้แล้วตลกดี

    “อ้าว...มีแล้วก็ไม่บอก พี่ฮั่นถ้าผมหกล้มหัวร้างค่างแตกขึ้นมาจะทำยังไงห๊ะ!!!” แกงส้มวีนผมทันทีที่เห็นอาหารบนโต๊ะ ผมได้แต่กลั้นหัวเราะกับท่าร้อนรนกับเรื่องอาหารของแกงส้ม

    “พี่ขอโทษ...แต่ดูสิมีแต่ของโปรดแกงส้มทั้งนั้นเลย” ผมพูดเอาใจแต่.....ชิบหายล่ะ

    “ของโปรด” รอยยิ้มบนใบหน้าอ่อนนั้นหายไปในทันที ฮั่นเอ๊ยยยย....ตายน้ำตื้นจริงๆเลยนะ

    “แกงส้มพี่....” ผมนึกคำขอโทษไม่ออกสักอย่าง ใบหน้าแกงส้มเรียบเฉยจนน่ากลัว มันไม่มีความกลัวที่เด่นชัด ใบหน้านั้นเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง

    “ทำไมต้องหลอกผม ทำไมต้องโกหกกัน”

     

    ผมไม่อยากรู้สึกแบบนี้เลย แต่ทำไมนะ...ทำไมพี่ฮั่นต้องโกหกเราด้วย มันอีกครั้งแล้วนะ ผมไม่อยากจะเป็นคนคิดมากมายอะไร... อยากจะเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องตลก อยากจะมองข้ามแล้วมีความรักที่สมบูรณ์แบบอีกครั้ง แต่... ความจริงยังไงมันก็คือความจริง ผมตีโจทย์ทุกอย่างระหว่างความรักของเราแตกหมดแล้ว

    “แกงส้ม...พี่ขอโทษอย่าโกรธพี่เลยนะ” พี่ฮั่นร้องขออย่างน่าสาสาร

    “ผมไม่ได้โกรธพี่” นั่น...มันไม่ใช่คำประชดประชัน แต่ถึงเวลาแล้วที่เราต้องสะสางเรื่องระหว่างเราสักที

    “จริงเหรอแกงส้ม” พี่ฮั่นยิ้มออกมาอยากกระตือรือร้น ผมพยักหน้าแทนคำตอบ

    “เรื่องราวที่เกิดมันทำให้ผมรู้ว่าผมรักพี่แค่ไหน” ผมพูดความจริงในใจออกไป พี่ฮั่นกระโดดเข้ามากอดรัดผมไว้แน่นด้วยความดีใจ

    “ขอบคุณนะแกงส้ม ขอบคุณจริง” พี่ฮั่นเอ่ยคำขอบคุณแต่ยังไม่ปล่อยผมออกจากกอดแน่นนั้น

    “แต่มันก็ทำให้ผมรู้ว่า...พี่กับผมเราอยู่ด้วยกันไม่ได้ อย่างน้อยก็ตอนนี้” คำพูดของผมทำให้พี่ฮั่นนิ่งไปในทันที พี่ฮั่นขยับตัวออกห่างจากร่างของผม สายตาที่มองมานั้นมีแต่ความสงสัยไม่เข้าใจ

    “แกงส้ม...แต่เรารักกัน พี่รักแกง แกงรักพี่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้” พี่ฮั่นโวยวายอย่างเจ็บปวด ไม่ใช่แต่พี่ที่เจ็บปวดผมเองก็ราวรานในไม่น้อยไปกว่ากัน

    “คนเรารักกันมันไม่ได้มีแต่ความรัก...” ผมสุดจะกลั้นน้ำตา... พี่ฮั่นเองก็ตาแดงๆ

    “แกงส้ม...มันจะมีอะไรสำคัญกว่าความรักอีก ถ้าโกรธก็บอกพี่มาพี่จะง้อ ให้ตามง้อเป็นสิบๆปีพี่ก็จะตามแต่อย่าบอกกับพี่แบบนี้ อย่าบอกว่าเราอยู่เดียวกันไม่ได้ มันเป็นคำที่พี่ทนฟังไม่ได้จริงๆ” พี่ฮั่นเองก็พ่ายแพ้ต่อความเสียใจ พี่ฮั่น...อย่าร้องไห้เลยนะ มันยิ่งทำให้ผมเสียใจ

    “อย่าทำแบบนี้เลยพี่ฮั่น ความรักที่มีแต่ความรักมันจะไปรอดได้แค่ไหน เราสองคนไม่มีความจริงใจ ไม่มีความเชื่อใจ ไม่มีความศรัทธา ไม่มีแม้แต่ความเข้าใจ สักวันความรักของเราก็ต้องพังทลายลงมาอยู่ดี” ผมร้องไห้โฮออกมา เสียใจแต่มันคือความจริง

    “งั้นพี่ก็จะสร้างมันขึ้นมา แกงส้มอยากให้พี่เป็นแบบไหนพี่ยอม ยอมทุกอย่างจริงๆ ขอแค่อย่าไปจากพี่ก็พอ” พี่ฮั่นพยายามรั้งทุกอย่าง

    “พี่ฮั่นความรักของเรามันต่างกัน ผมต้องการใครสักคนที่ผมจะเชื่อใจและศรัทธา คนที่ทำให้ผมเชื่อมั่นกับทุกคำทุกการกระทำ แต่พี่...พี่ทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้เราอยู่ด้วยกัน ใช่...มันไม่ผิด แต่พี่คิดน้อยไป พี่ไม่คิดว่าผมจะรู้สึกยังไง พี่ทำทุกอย่างให้ผมไม่มีทางเลือกเพื่อที่จะมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ สำหรับผมแล้วมันเป็นความรักที่เห็นแก่ตัว มันซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนผมต้องยอมรับความจริงว่าผมคงไม่มีความสุขที่จะอยู่กับพี่ ผมไม่อยากมีความรักที่ต้องคอยระแวงว่าอีกคนที่ทำร้ายจิตใจเมื่อไหร่” ผมระบายทุกอย่างออกมาให้พี่ฮั่นรับฟัง

    “พี่ทำให้แกงส้มไม่มีความสุขงั้นเหรอ???” พี่ฮั่นหันมาถามผมทั้งน้ำตา

    “ถ้ามันเป็นแบบนี้...ใช่ครับ” ผมตอบไปตามตามตรง พี่ฮั่นร้องไห้ออกมาอย่างหมดอาย

    “เราต้องการเวลาทบทวนว่าความจริงมันเป็นยังไง...เราสองคนต้องเรียนรู้ใจตัวเอง” ผมพูดออกมาเบาๆ จะให้ผมบอกลาพี่ฮั่นตลอดไปมันทำร้ายหัวใจเกินไป ทั้งใจของพี่ฮั่นและหัวใจของผมเอง

    “เราเดินไปด้วยกัน..แล้วค่อยๆเรียนรู้ไม่ได้เหรอ???” พี่ฮั่นถามด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน

    “โธ่...พี่ฮั่น พี่ก็รู้ว่าแบบนั้นไมได้มีอะไรดีขึ้นมา รั้งไปนานมันก็เจ็บ ถ้าเราสองคนโตกว่านี้ นิ่งกว่านี้บางทีคำตอบมันอาจจะเปลี่ยนก็ได้นะ” นั่นคือสิ่งที่ผมหวัง ณ เวลานี้ความรักของเราไม่มีจุดตัดจุดบรรจบซึ่งกันและกัน พี่ฮั่นต้องการ ผมต้องการ... แต่มันคนละเส้นทางมันคนละวิธี ถ้าดันทุรังไปก็มีแต่เจ็บก็มีแต่จบ

    “ได้...ถ้ามันจะทำให้พี่มีโอกาส เมื่อไหร่ที่แกงส้มต้องการพี่ มาที่นี่นะ พี่จะรอ ทุกอย่างจะคงเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง รอคอยนายน้อยของมันกลับมา” พี่ฮั่นปาดน้ำตาที่ใบหน้าของตัวเอง แววตายอมแพ้นั้นทำให้ผมใจหาย แกงส้มในเมื่อพี่ฮั่นเค้ายอมทำอย่างที่ต้องการทำไมต้องปวดหัวใจมากขึ้นอีกนะ ที่เป็นแบบนี้เพราะความต้องการของเราเองไม่ใช่เหรอ... พี่ฮั่นเดินเข้าห้องไปเงียบๆ น้ำตาผมที่เริ่มเหือดหายก็พรั่งพรูออกมาอีกครั้ง เจ็บ... เจ็บเกินจะทนไหว การก้าวออกมาทั้งที่ยังรักกันมันช่างทรมาน แต่มันก็เป็นทางที่ผมเลือกเอง พี่ฮั่น...ผมขอโทษที่ทำให้พี่ต้องเจ็บปวดหัวใจ  น้ำตาของพี่ คือสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากจะเห็น....

     

    ปล. ติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะ ว่าพี่ฮั่น น้องแกง จะทำยังไง อย่ามาว่าไรเตอร์ใจร้ายนะ ก็พี่ฮั่นมันเจ้าเล่ห์กับน้องมากไป น้องเลยไม่ไว้ใจ ความผิดของพี่ฮั่นคนเดียวเลย 5555 (ขอสารภาพว่าเขียนสดๆ เรื่องมันเลยไม่ค่อยกลมกล่อมเท่าไหร่นัก เนื่องจากสมุดเขียนพล๊อตเรื่องหายตั้งแต่งกลางๆเรื่อง พอท้ายๆก็ลืมว่าเรื่องจริงมันเป็นไงหว่า5555 จำได้แต่ตอนบจบ)

    นับถอยหลังกับตอนจบได้แล้วนะจ๊ะ... เพราะว่าอีกสองตอนเท่านั้น!!!! ส่วนเรื่องหน้าเว้นช่วงอีกหน่อยเพราะไรเตอร์จะไปสัมภาษณ์งานที่ไปสอบไว้ (สอบข้อเขียนผ่านแล้ว โย่วววว) ตอนนี้กำลังเร่งปั่นเรื่องนี้ก่อนไป ไม่อยากดองไวเดี๋ยวอารมณ์ขาดตอน รีดเดอร์พาลจะหนีหายหน้ากันไปหมดละแย่เลย

    ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดๆ รับรองว่าถ้ายังมีคนอยากอ่าน ไรเตอร์ก็จะเขียนไปเรื่อยๆ แน่นอน รักนะจ๊ะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×