ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS8 (HKS) รักร้าว ในเงามาร

    ลำดับตอนที่ #21 : Chapter 20 : ชั่ววูบ

    • อัปเดตล่าสุด 6 มิ.ย. 56


                    

    SMILE talk

    พี่ฮั่นจะปล่อยให้เราไปออกค่ายคนเดียวจริงเหรอเนี่ย???  จะโกรธเราไปถึงไหนกันนะ...นึกว่าการที่เรากำจัดครูสอนเปียโนนั่นออกไปได้ มันจะทำให้เรื่องทุกอย่างจบลงได้ แต่มันไม่จริงเลยสักนิด... พี่ฮั่นดูเหมือนหมดอาลัยตายอยากไปทุกวันๆ นี่เราทำถูกต้องแล้วจริงๆเหรอ???

    ไม่เลยสักนิด มันไม่ได้ทำให้เรามีความสุขแม้แต่น้อย....

     

    HUT talk

    ผมไม่ได้โกรธที่ยัยคุณหนูปิศาจทำให้แกงส้มเสียใจ เพราะมันเป็นเรื่องของหัวใจควบคุมไม่ได้อยู่แล้ว แต่การระรานขนาดนี้มันเกินไปนะ จะให้เด็กคนนั้นเจ็บช้ำกันไปให้ตายไปเลยรึไง ผู้หญิงอะไรจิตใจโหดร้ายจริงๆ

    ผมบิดคันเร่งไปยังสถานที่ที่ผมสืบมาได้ ไอ่พี่ฮั่นก็ช่างกล้าปล่อยให้ยัยคุณหนูนั่นออกต่างจังหวัดคนเดียว  แค่ระยะทางร้อยกว่ากิโลเมื่อมันมีพายุโทสะเป็นแรงขับ มันไม่ได้ทำให้ผมกลัวแม้แต่น้อย และแล้วผมก็ถึงน้ำตกชื่อดัง... สถานที่ยัยคุณหนูปิศาจมากับโรงเรียน

    เด็กสาวรุ่นเดียวกับยัยคุณหนูเดินเล่นกันหลายคน มองกวาดตาสายมองไปรอบๆแต่ไม่เห็นร่างบางที่คุ้นตา ผมขยับหมวกที่ใช้พรางใบหน้า เดินสาวก้าวเดินไปรอบๆเพื่อหาเป้าหมาย

    “นี่...ชั้นละหมั่นไส้ยัยสมายล์จริงๆ คนรวยมันเป็นแบบนี้กันหมดรึไงนะ” เด็กสาวคนหนึ่งบ่นขึ้นมาเสียงดังทันทีที่พบหน้ากลุ่มเพื่อน

    “แล้วเธอไปโดนอะไรมาละ...หาเรื่องตลอดเลยนะ”

    “นี่ชั้นก็แค่ไปเดินเล่นตรงนู่น ยัยนั่นนั่งเล่นอยู่ โหยยยย...ไล่ตะเพิดชั้นเฉยเลย สงสัยกลับบ้านคงหาทางซื้อที่นี่เป็นที่ส่วนตัวแน่ๆ” เพราะคำพูดนั่นทำให้ผมรู้ว่าเป้าหมายของผมของตรงไหน ผมจึงผละจากกลุ่มเด็กสาวที่กำลังหัวเราะร่าอย่างสนุกสนานเพื่อไปตามหายัยเด็กร้ายกาจคนนั่น ผมเบี่ยงตัวเองให้หลบหลังต้นไม้ใหญ่ คุณหนูปิศาจก้มหน้ามองมือถือก่อนจะคว้าหินข้างตัวโยนลงน้ำ ไม่รู้ว่าเวลาอยู่กับตัวเองแบบนี้....จะคิดอะไรอยู่นะ เรื่องการบ้าน เรื่องเพื่อน เรื่องละครดารา แต่สำหรับเด็กคนนี้ วันๆ คงคิดแต่จะทำให้ตัวเองสมหวังโดยที่ไม่สนใจว่าใครเค้าจะเจ็บปวดสินะ  ตอนนี้มันเสี่ยงไปสำหรับการลักพาตัว ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน...ผมถึงเชื่อว่าคืนนี้ ยัยเด็กสมายล์คนนี้ต้องปลีกตัวออกมาอยู่คนเดียวแน่ๆ

    ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ผมรอคอย เด็กสาวเป้าหมายของผมเดินออกมาจากงานรื่นเริงตามลำพัง วันนี้เธออยู่ในชุดฟูฟ่องสีม่วงหวาน ผมมวยต่ำลวกๆ ทำให้เครื่องหน้าน่ารักดูอ่อนโยนขึ้น แต่ร่างงามน่ารักนั้นไม่ได้ทำให้ความรังเกียจที่เดือดดาลในตัวผมดับลงไปแม้แต่น้อย ผมค่อยเดินตามร่างบางนั้นไปห่างๆ ในความมืด ความเป็นผู้ล่าได้ถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง ผมย่ำเท้าลงพื้นดินอย่างเงียบเชียบไร้เสียง ผิดกับคนอีกกลุ่มที่ซุ่มอยู่เช่นเดียวกัน ผมละความสนใจจากร่างบางไปหากลุ่มชายที่ซุ่มอยู่อีกฝั่ง ผมขยับตัวหลบต้นไม้อย่างระวังตัวมากขึ้น  ผมรู้ได้ในทันทีว่ากลุ่มคนนั่นไม่ใช่มืออาชีพอย่างแน่นอน เพราะพวกมันอยู่ในที่สว่างพอที่ผมสามารถมองเห็นใบหน้ามันได้อย่างชัดเจน และหนึ่งในนั้น....ผมจำมันได้ มันคือไอ่คนที่มาดักทำร้ายแกงส้ม!!!

    “พวกมันทำอะไรกันแน่” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ในเมื่อมันเป็นคนของยัยคุณหนูปิศาจแล้ว....มันจะมาซุ่มดูเด็กสาวคนนี้ทำไม ยกเว้นแต่ว่า....ผมเข้าใจเรื่องนี้ผิดไป!!! 

     

    SMILE talk

    ชั้นมาทำอะไรที่นี่.... น่าเบื่อชะมัด รู้ทั้งรู้ว่าการถอนหายใจหลายๆครั้ง มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น นึกว่าการทำทุกอย่างตามความต้องการของตัวเองจะทำให้เรามีความสุข แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย....

    เสียงกรอบแกรบจากด้านหลังเรียกชั้นให้หันหลังกลับไปมอง ชายสามคนปราดเข้ามา หนึ่งในนั้นเอามืดปิดปาดชั้นเอาไว้ ชั้นดิ้นสุดแรง...พยายามตะโกนหวังว่าจะดังไปถึงงานเลี้ยงที่ชั้นเพิ่งเดินออกมา ความกลัววิ่งเข้ามาจับขั้วหัวใจ ไม่มีพี่ฮั่นคอยช่วยเหลือ ไม่มีใครเลยสักนิด มันเป็นสิ่งที่ชั้นกลัวมาตลอดชีวิต!!!

    “พาไปทางนู้น...ไป เร็วๆเข้า” หนึ่งในพวกมันรวบขาชั้นขึ้น ก่อนจะลากตัวชั้นไปจากทางเดิน ยิ่งทำให้โอกาสที่คนมาเจอน้อยลงไปอีก ชั้นพยายามดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด มันทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว!!!

    “พลั่ก!!!” เสียงกระแทกดังมาจากด้านหลัง ร่างหนึ่งในพวกโจรถลาล้มหน้าคว่ำ ชั้นถูกปล่อยลงขากระแทกพื้น แต่ด้านบนถูกอีกคนรั้งพร้อมลากไปด้านหน้า ชั้นเห็นชายคนหนึ่งกำลังต่อยไอ่โจรคว่ำไป

    “พี่ฮั่น...” ชั้นร้องเรียกทันที เมื่อฝ่ามือหยาบนั่นหลุดออกจากปากเพื่อพยายามลากชั้นออกไปจากการต่อสู้  ทำให้ร่างสูงใหญ่นั้นเหวี่ยงมือตบเข้าแก้มชั้นอย่างแรง จนชั้นได้รสเลือดจากริมฝีปากตัวเอง  และไอ่โจรคนนั้นก็เหวี่ยงชั้นจนถลาลมไปกับพื้น เพื่อที่จะเผชิญหน้ากับชายหนุ่มในความมืดที่มาช่วยชั้น พี่ฮั่น...ต้องเป็นพี่ฮั่นแน่ๆ

    “เสือกไม่เข้าเรื่องนะมึง!!!” ไอ่โจรคำรามในลำคอ แววประกายท่ามกลางความมืดทำให้ชั้นรู้ทันทีว่า นั่น...คือมีด  พร้อมจ้วงแทงไปที่ร่างสูงทันที แต่ร่างสูงนั้นเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว ตวัดหน้าแข้งเข้าบริเวณช่วงท้องของไอ่โจรนั่น จนโจรร่างสูงกำยำล้มคว่ำไปเป็นท่า แล้วร่างสูงนั้นวิ่งเข้ามาประคองชั้นวิ่งหนีไปทันที ด้วยความที่แต่งตัวมางานเลี้ยง รองเท้าส้นสูงแสนสวยจึงเป็นปัญหาในการวิ่ง

    “ถอดรองเท้า!!” เสียงนั่น....ไม่ใช่พี่ฮั่น และมันก็เป็นเสียงที่ชั้นคุ้นเคย

    “นาย...” ชั้นตวัดเสียงสูงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าร่างสูงที่มาช่วยชั้นคือใคร แต่ร่างสูงนั่นไม่ได้สนใจกับน้ำเสียงของชั้น มือใหญ่นั่นถอดรองเท้าของชั้นในความมืดอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะฉุดชั้นให้วิ่งต่อ

    “โอ๊ย....ชั้นเจ็บเท้า” เมื่อเหลือแต่เพียงเท้าเปล่าเปลือย  เศษหิน เศษไม้ตามพื้นก็เป็นอุปสรรคใหญ่

    “เลือกเอาละกัน ระหว่างเจ็บเท้ากับไม่มีชีวิตกลับไปใส่รองเท้าอีกครั้ง!!!” จากนั้นมือใหญ่นั่นก็พาชั้นวิ่งเข้าสู่ป่าลึกเข้าไป.... แปลกจริง ทำไมความมืดมิด หรือแม้แต่ความตายที่วิ่งตามชั้นมา มันไม่ได้ทำให้ชั้นกลัวอีกต่อไป ใช่....ชั้นไว้ใจผู้ชายคนนี้ ความไว้ใจที่ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่ามันมี... เป็นความรู้สึกที่ชั้นไม่นึกว่ามันจะเกิดกับใครได้นอกจากพี่ฮั่น....

     

    HUNZ talk

    ผมเหยียบคันเร่งมิด ไอ่ฮัท....แกอย่าทำอะไรบ้าๆนะ หลังจากวางสายจากรุ่นพี่บอดี้การ์ดที่โทรมาบอกว่าฮัทตามหาที่พักที่คุณหนูสมายล์ไปพัก ผมต้องไปหยุดเค้าให้ได้....

    “คิดจะทำอะไรของแก...ไอ่ฮัทเอ๊ยยยย” ผมสบถเบาๆ นึกไม่ออกจริงๆ ว่าระหว่างคุณหนูสมายล์กับฮัทยังมีอะไรติดค้างกันอีก นายได้แกงส้มไปแล้ว....นายพาหัวใจชั้นไปแล้วนะ นายต้องการอีกจากพวกชั้นอีก!!!

     

    KANGSOM talk

    ผมเฝ้ามองประตูอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ พี่ฮัทหายไปค่อนวันหลังจากประกาศกร้าวว่าจะให้คุณหนูสมายล์ได้รับบทเรียนอย่างสาสม.... ผมควรจะสะใจไม่ใช่เหรอ??? แต่มันไม่ใช่เลยสักนิด ความไม่สบายใจมากมายเหตุผลสับเปลี่ยนมาทำให้ผมว้าวุ่นหัวใจ

    “ก๊อกๆๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ความวุ่นวายในหัวสลายไป ผมรีบเดินไปเปิดประตูรับพี่ฮัททันที

    “พี่ฮัทหายไปไหนมา----” ผมรีบถามออกไป---แต่ไม่ใช่พี่ฮัทที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม ใบหน้าขาวเข้มเบิกตากว้างจ้องผมด้วยความตกใจ หัวใจของผมหล่นวูบเมื่อสายตาปะทะกับแววตาเข้มขุ่นนั่น

    “พี่ฮั่น....พี่มาได้ยังไงกัน” ผมถามออกไป ร่างสูงสง่าเบียดตัวเข้ามาในห้อง  ผมหันตัวตามร่างสูงนั่นไป ริมฝีปากของผมถูกเม้มบางเฉียบด้วยความน้อยใจที่แล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจ--- ห่างเหินและเย็นชาเหลือเกิน... พี่ฮั่นผมคิดถึงพี่เหลือเกิน---แต่ผมคงกอดพี่ไม่ได้อีกแล้ว ไม่---ผมมันไม่มีสิทธิ์!!!

    “ผมไม่ได้อนุญาตให้พี่เข้ามาในห้อง...” ผมเปล่งเสียงออกไปอย่างเหินห่าง อย่าให้เค้ารู้ว่าเรายังรักยังแคร์เค้าอยู่--- อย่าให้เค้าหยามเหยียดหัวใจเรามากไปกว่านี้

    “พี่มาธุระ---พี่มาหาฮัท” น้ำเสียงนั่นช่างเย็นชา---พี่ไม่รับรู้บ้างเลยเหรอ???....ผมว่าอ่อนแอมากแค่ไหน อย่าทำร้ายผมด้วยความเย็นชาแบบนี้อีก พี่ได้ยินเสียงร่ำร้องจากหัวใจผมบ้างมั้ย???

    “พี่ฮัทไม่อยู่---ถ้าไม่มีอะไรพี่ก็กลับไปได้แล้ว” ผมขึ้นเสียงสูงท้ายประโยค เกินจะทนแล้วจริงๆหัวใจ เจ็บปวดจนเจียนตายอยู่แล้ว....เรายังมีผู้ชายคนนี้อยู่เต็มหัวใจ เรายังรักเค้าเหลือเกิน...

    “ทนเห็นหน้าพี่ไม่ได้เลยเหรอ???---หรือว่าหวงรังรัก คงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขสินะ” วาจานั่นช่างร้ายกาจ ผมเสียน้ำตาให้พี่ทุกๆคืน...นี่หรือ ที่พี่เรียกมันว่าความสุข ถ้าอย่างนั้นความสุขนั่นช่างทรมานเสียจริง!!!

    “พี่ไปได้แล้ว---เชิญ!!!” ผมพยายามกลั้นน้ำตาไว้....จะร้องไห้ไม่ได้!!!

    “พี่ไม่ไป---ฮัทอยู่ที่ไหน มันตามคุณหนูไปแล้วใช่มั้ย???” ร่างสูงนั่นปรี่เข้ามาคว้าแขนผมบีบเค้นถามอย่างแรง ผมสะบัดแขนออกทันที ไม่อีกแล้ว----มันไม่มีผมในหัวใจของพี่ฮั่นอีกแล้ว เค้าทำผมเจ็บเพราะคุณหนูสมายล์

    “ผมไม่จำเป็นต้องบอกพี่---พี่ออกไปได้แล้ว ผมไม่มีทางทรยศพี่ฮัทเด็ดขาด!!” ผมผลักร่างสูงนั่นออกจากประตู ก่อนจะฉวยโอกาสที่ร่างสูงนั่นพ้นประตู คว้าประตูเพื่อปิด แต่พี่ฮั่นเอาตัวเข้ามากั้นประตูไว้ แล้วแทรกตัวเข้ามาพร้อมปิดประตูล็อกโดยทันที ผมถอยหลังไปสามสี่ก้าวเพื่ออยู่ให้พ้นจากวงแขนของชายหนุ่มที่โกรธจัด

    “พี่ออกไปเถอะ---ผมไม่มีอะไรจะบอกพี่” น้ำเสียงของผมอ่อนลงหากแต่ยังคงเป็นน้ำเสียงที่แข็งกระด้างอยู่ดี ร่างสูงนั่นก้าวย่างสุขุมเข้ามาหาผม แววตาที่เคยหวานกลับลุกโชนด้วยความโกรธ....

    “แกงส้ม----ไม่เข้าใจอะไรเลยใช่มั้ย???” พี่ฮั่นพูดลอดฟันอย่างเคียดแค้น ร่างสูงค่อยๆอย่างก้าวเข้ามาหาผมอย่างๆช้าหากแต่ว่าช่างดูดุดันเหลือเกิน... ผมคว้าหนังสือเล่มหนาที่อ่านค้างไว้ขว้างไปที่ร่างสูงนั่นทันทีหนังสือเล่มหนากระแทกขมับเข้าอย่างจัง  พี่ฮั่นเซน้อยๆ ตาที่โชนความโกรธยิ่งกระพือโหมโทสะขึ้นไปอีก ผมรีบถอยห่างพี่ฮั่นด้วยความรู้สึกไม่ปลอดภัย... สายตาคมนั่นฉายความเดือดดาลเต็มที่ ผมจึงออกตัววิ่งเพื่อออกไปข้างนอก แต่ก็ถูกรวบตัวไว้จากทางด้านหลัง

    “ทำไมถึงเป็นแบบนี้...ทำไม---ตอบพี่สิแกงส้ม---ทำไม” พี่ฮั่นตวาดเสียงดังกร้าว สายตานั่นมีความน้อยใจเจือในความโกรธรุนแรง ผมเม้มปากเบี่ยงหน้าไปทางอื่น ไม่อยากเห็นใบหน้านี้อีกแล้ว... ยิ่งมองยิ่งเจ็บบาดลึกสุดใจ

    “แกงส้ม---มองหน้าพี่สิ----ตอบพี่สิ!!!” เสียงพี่ฮั่นสูงจัดบ่งบอกถึงความโกรธที่ทวีขึ้นจนถึงขีดสุด

    “พี่บอกให้มองหน้าพี่---พูดกับพี่ไง” พี่ฮั่นเน้นทุกคำอย่างช้า ราวกับพยายามอดกลั้นอย่างที่สุด แต่ไม่อีกแล้ว....ผมจะไม่กลัวพี่อีกแล้ว ผมจะไม่ทำตามความต้องการคนๆนี้อีกแล้ว เค้าได้ทุกอย่างไปหมดแต่ก็ไม่มีค่าในสายตาเค้าสักนิด สุดท้ายเค้าก็เห็นคุณหนูสมายล์ดีกว่าผม----ไม่ใช่เพราะความกระวนกระวายที่พี่ฮัทตามคุณหนูไปหรอกเหรอ....เค้าถึงได้ทำแบบนี้กับเรา มือแข็งแรงนั่น....บีบแขนผมจนแทบแหลกละเอียด แต่นั่นก็ไม่ได้สาหัสเท่ากับหัวใจที่แตกสลาย---อีกครั้ง มันเจ็บแบบนี้เพราะผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้กี่ครั้งแล้ว ผมรู้ซึ้งแล้ว...ไม่ใช่สิ ควรจะรู้ซึ้งได้แล้วต่างหาก ว่าเรามันไม่มีค่าสักนิด ความรู้สึกของเรามันไม่ได้สำคัญกับคนๆนี้แม้แต่น้อย มีแต่ร่างกายของเราต่างหากที่ตอบสนองเค้าได้.... คิดได้ยังกัน ว่า “เค้ารักเรา” ผมจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว ไม่ว่าหัวใจจะย่อยยับแค่ไหน ถึงเราจะไม่มีค่าในสายตาของผู้ชายนี้....แต่เราจะไม่ยอมให้เค้าย่ำยีหัวใจของเราได้อีกแล้ว---มันหมดเวลาแล้ว---หมดเวลาสำหรับพี่ฮั่นในหัวใจ.....

    “พี่จะไปตายที่ไหนก็ไป---นี่ไง...สิ่งที่ผมอยากพูดกับพี่ พอใจรึยัง????” 

    ปล. ตอนนี้เป็นการปูเรื่องในตอนหน้า อาจจะเนือยๆไปบ้าง แต่อะไรๆที่รอคอย (อะไรน้าาาาา) จะมีอยู่เต็มๆตอนหน้าเอาใจขาหื่น เฮ้ยยย!! เอาใจรีดเดอร์ 
            ติดตามและเม้นกันด้วยนะจ๊ะ เพื่อสุขภาพจิตของคนแต่ง 5555 ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×