คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Chapter 16: หัวใจที่ไม่ชัดเจน
HUT talk
“ออกมาช้าอีก...อยากกลับบ้านจะตายชักอยู่แล้วเนี่ย” ผมบ่นกับพวงมาลัยรถคันหรูอยู่คนเดียว นี่มันเลยเวลาเลิกเรียนมาเป็นครึ่งชั่วโมงแล้วนะ รถคันหรูคันแล้วคันเล่าผ่านไป ผมยังไม่เห็นวี่แววยังเด็กบ้านั่นเลย.... เล่นตลกอะไรอีกรึเปล่าเนี่ย???---ว่าแล้วผมล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงโทรหายัยตัวป่วนเจ้าปัญหาทันที รอสักครู่ก็มีเสียงจากปลายสาย
“ฮัลโหล” เสียงหวานจากปลายสายไม่ได้ทำให้ผมคลายความหงุดหงิด
“เมื่อเช้าจะไม่มา แล้วตอนนี้จะไม่กลับรึไงกันห๊ะ ชั้นรอมาชาติกว่าๆแล้วนะ” ผมรีบต่อว่าทันที
“แปบนึง” เสียงใสนั้นตอบกลับมาสั้นๆ ก่อนวางไป--- ทำเสียงเป็นการเป็นงานเชียว อายุแค่นี้จะมีธุระอะไรนักหนานะ จากนั้นสักครู่ใหญ่ร่างแบบบางก็ค่อยๆเดินมาที่รถ สีหน้าเรียบเฉยนั้นทำให้ผมชักสงสัยแล้วว่าเด็กคนนี้ยิ้มให้ใครเป็นมั้ย???---นอกจากพี่ฮั่น
“จะนอนที่โรงเรียนรึไงกันห๊ะ!!!” ทันทีที่เด็กสาวเข้ามาใกล้พอได้ยิน ผมก็เริ่มกระบวนการบ่นทันที
“พูดมากน่า---ชั้นจ้างนายมาขับรถไม่ได้จ้างมาให้เป็นพ่อ”
“ผมเป็นบอดี้การ์ดครับ---ไม่ใช่คนขับรถ” ผมกระแทกเสียงใส่เจ้านายที่แสนจะน่าหมั่นไส้ ดูสิ...มาหาว่าเราเป็นคนขับรถ แบบนี้มันดูถูกกันชัดๆ
“เปิดประตูรถ” คำสั่งสั้นๆนั้น ทำให้ผมแทบจะจับยัยคุณหนูที่กำลังลอยหน้าลอยตาไม่รู้ไม่ชี้ตีก้นซะให้เข็ด แต่ก็นะ---ต่อความยาวสาวความยืดไปก็เท่านั้น เย็นไว้ๆ อย่าไปมีเรื่องมีราวกับเด็กมันเล้ยยยยย...
“เชิญครับ คุณนาย...” ผมเปิดประตูรถพร้อมโค้งจนหัวแทบจะชิดเข่า ร่างบางสะบัดหน้าก้าวเข้าไปนั่งที่เบาะหลังรถคันหรูด้วยความน่าหมั่นไส้---ที่โรงเรียนจะมีใครคบบ้างมั้ยว่ะเนี่ย???
“กลับบ้านเรา---รักรออยู่” ผมนั่งที่นั่งคนขับรถประจำตำแหน่งแล้วรถเพลงออกมาด้วยความเบิกบานใจ
“ใครว่าจะกลับบ้าน---ชั้นมีธุระที่อื่นต่อ” หล่อนใช้คำว่า “ธุระ” งั้นเหรอ??? เด็กมอ.ปลายใครเค้ามีธุระกัน---แบบนี้เค้าเรียกว่าหนีเที่ยวต่างหาก
“กลับบ้านไปทำการบ้านก่อนมั้ยครับ....คุณเจ้านาย ไว้ค่อยไปเที่ยวเล่นตอนวันหยุดดีกว่ามั้ย??? ควรจะรู้หน้าที่ตัวเองนะว่าควรทำอะไรก่อน” ผมอดไม่ได้ที่จะสั่งสอนเด็กบ้าที่รวยจนไม่รู้ว่าควรทำอะไร
“นายเลิกพูดแล้วรีบไปดีกว่า ทำไมพี่ฮั่นต้องส่งคนปากมากอย่างนายมาทำให้ชั้นต้องรำคาญด้วยนะ” พูดแล้วคุณหนูปิศาจก็เบือนหน้าหนี ผมถอนหายใจแรงๆ กระทบกระแทกร่างบางที่นั่งอยู่ด้านหลัง
“แล้วไปทางไหนล่ะ” ในที่สุดผมก็ต้องยอมแพ้ ยอมออกรถไปตามความต้องการเจ้านายสาวที่ท่าทางเบื่อโลกเสียเหลือเกิน...
ในบ้านหรูหราที่ดูแล้วเจ้าของบ้านฐานะไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้านายสาวของผม แต่บรรยากาศช่างแตกต่างกันเหลือเกิน บ้านหลังนี้ถึงจะใหญ่โตแต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกอ้างว้างเหมือนบ้านหลังนั้น หรืออาจเป็นเพราะชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นทายาทคนเดียวของบ้านและผู้ที่มีศักดิ์เป็นลูกผู้พี่ของคุณหนูสมายล์ที่ดูอ่อนโยนจนทำให้ทุกอย่างช่างละมุนละไม
“มีอะไรสงสัยมั้ย???....กับรายงานของไตรมาสนี้” สิ้นสุดธุระของคุณหนู (ผมไม่นึกว่ายัยคุณหนูตัวเปี๊ยกต้องรับผิดชอบอะไรเกินตัวขนาดนี้---พอเห็นว่าต้องมาทำอะไร ทำให้ผมรู้สึกอับอายที่ไปว่าเค้าซะเยอะแยะ) ชายหนุ่มที่ดูอบอุ่นเอียงคอถามผู้เป็นน้องด้วยความเอ็นดู เด็กสาวส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะเหลือบมาสบตาผม
“ถ้าไม่มีอะไรสงสัย—พรุ่งนี้พี่จะให้เลขาเอาสรุปรายงานนี้ไปให้ที่บ้านนะ เผื่อเราสงสัยอะไรจะได้เปิดดูได้เลย” ผมเริ่มสงสารเด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมาบ้าง... ที่เธอต้องทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ ต้องคิดอะไรเกินตัว---มันคงเป็นเพราะความรับผิดชอบที่มาเร็วกว่าที่ควร นี่สินะ...ถึงทำให้เธอยึดติดกับพี่ฮั่น---เพราะโลกของเธอมันช่างไม่สดใสเอาเสียเลยเมื่อเทียบกับเด็กสาวในวัยเดียวกัน พี่ฮั่นคงเป็นเหมือนที่พึ่งเดียวของเธอ.....
“ขอบคุณค่ะพี่กัน....งั้นสมายล์กลับก่อนนะคะ” ว่าแล้วคุณหนูก็กระพุ่มมือไหว้พี่ชาย
“ไม่ทานข้าวด้วยกันก่อนละ...ไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะเรา” คุณกันมองหน้าน้องสาวก่อนจะเอ่ยปากขึ้น
“แต่....”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่หาคุณแม่พี่ก่อนกลับซะหน่อยสิ---ท่านบ่นถึงเราทุกวันเลย ไปท่านอยู่ที่ห้องพักผ่อน” คุณกันเห็นว่าน้องสาวคงไม่ยอมอยู่ทานอาหารจึงบอกให้ไปหาคุณแม่ของคุณกัน คุณหนูยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ผมเองก็ขยับตัวตาม
“เดี๋ยวก่อนครับ----” เสียงคุณกันทำให้ผมชะงัก
“ครับ”
“ผมขอคุยกับคุณหน่อย”
ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วจริงๆหรือนี่.... ผมกับพี่ฮั่น เราลึกซึ้งกันไปแล้วอย่างนั้นเหรอ??? ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย??? ผมไม่ยอมลืมตาขึ้นมา กลัวว่า....สัมผัสอบอุ่นนั้นจะหายวับ กลัวกลิ่นกายหอมๆนั้นจะเป็นเพียงจินตนาการเพ้อเจ้อของผม อยากให้ทุกอย่างหยุดลงตรงนี้---ที่ๆมีเพียงผมกับพี่ฮั่น
“ลืมตาเถอะที่รักของพี่” เสียงกระซิบมาพร้อมลมหายใจร้อนปะทะหลังหู
“ไม่เอา...ผมไม่อยากตื่น ไม่อยากให้พี่ต้องหายไป” ผมร้องขอเบาๆ ร่างผมถูกรัดแน่น ริมฝีปากร้อนประทับลงที่ซอกคออย่างแผ่วเบา
“พี่ไม่หายไปไหนหรอกนะ---พี่จะไม่ทิ้งแกงส้มไปไหน ไม่มีทางอีกแล้ว....” เสียงอ่อนหวานแต่ทว่าหนักแน่นนั้น มันจะเชื่อถือได้อีกเหรอ??? ผมเจ็บช้ำมากี่ครั้งกี่หนแล้ว....
“ผมไม่กล้า---ผมไม่กล้ารักพี่แล้วพี่ฮั่น ผมกลัวเจ็บ ผมกลัวเสียใจ ผมไม่อยากร้องไห้อีกแล้ว.... มันต้องเป็นแค่ฝันสิ” ใช่....มันต้องเป็นความฝัน หลังจากวันนี้...ถ้าผมต้องเสียใจ ผมต้องทนไม่ไหว ผมเป็นของพี่ไปแล้ว ความรู้สึกผูกพันมันลึกซึ้งเกินกว่าที่ควบคุมได้ หากพี่เดินจากผมไป...หัวใจผมคงต้องสลายแตกเป็นเสี่ยงๆ
“แกงส้ม....มันคือความจริง พี่อยู่ตรงนี้ อ้อมกอดนี้เป็นของจริง...คำว่า “รัก” คำนี้มันคือความจริง ความจริงที่พี่หนีมันไปไม่ได้ ความจริงที่มันทำให้พี่ต้องทรมานทุกครั้งที่เห็นหน้าแกงส้ม...พี่รักแกงส้ม ได้ยินมั้ย??? รัก พี่รักแกงส้ม พี่รักแกงส้ม รัก รัก รัก...ยังไงก็รัก ไม่ว่ายังไงก็รัก” ร่างสูงเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อรัดผมแน่น น้ำตาของผมไหลออกมาช้าๆ...ผมควรจะมีความสุข ในอ้อมแขนนี้ แต่ทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้ามันโหดร้ายเหลือเกิน... หากพี่รักผมจริงๆ แล้วตอนนั้นพี่ปฏิเสธผมทำไม พอถึงเวลานี้กลับเรียกร้องหาเราเหมือนรักเรานักรักเราหนา...ผมควรจะทำยังไง
“แล้วทางข้างหน้าเราสองคนจะเป็นยังไงต่อไป...ผมรู้นะว่าพี่กับคุณหนู---” ผมพูดมันต่ออีกไม่ได้...มันละอายใจที่พาตัวเองกระโดดลงวังวนของความรักที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้
“พี่----” พี่ฮั่นอึกอัก คงไม่รู้เหมือนกันสินะว่าต้องทำยังไง???
“พี่จะให้ผมทำยังไง----ตัดใจหรือว่ารอต่อไป ผมต้องทนอยู่กับอะไร...พี่ช่วยบอกผมที ตอนนี้ผมกำลังสู้กับอะไร” ผมไม่รู้อะไรสักอย่าง....รู้เพียงแต่ว่าผมรักพี่ฮั่น และมันเป็นความรักที่เจ็บปวดอย่างที่ผมไม่เคยจินตนาการถึง
“ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของพี่เถอะนะ...เรื่องนี้พี่ต้องเป็นคนจัดการ แต่ยังไงก็ช่าง---พี่จะไม่ยอมปล่อยมือแกงส้มไว้อีกแล้ว พี่สัญญา...ต้องอดทนรอพี่นะ รอวันที่เรารักกัน” มือเรียวนั้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้าผม สายตานั้นเปี่ยมไปด้วยรัก...ผมเชื่อว่าพี่รักผม แต่ทำไมผมถึงระแวงเรื่องราวระหว่างเราเหลือเกิน...ผมกลัว กลัวไปเสียทุกอย่างๆ คำว่า “รัก” มันไม่ได้รับรองว่าจากนี้ผมจะไม่เสียใจ
.......แล้วผมต้องหลบๆซ่อนๆแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ผมค่อยมองใบหน้าหล่อเหลาที่เปลือยเปล่า พี่ฮั่นมีแววตาระริก ความไม่แน่ใจฉายออกมาอย่างชัดเจน ในใจผมนึกโกรธความไม่ชัดเจน แต่ผมจะทำอะไรได้...ในเมื่อมันไม่ชัดเจนมาตั้งแต่แรก ระหว่างผมกับพี่ฮั่นไม่เคยมีอะไรชัดเจนเลยสักอย่าง!!!
HUT talk
“ถึงบ้านแล้ว” ผมจอดรถเรียบร้อยก่อนร้องบอกเจ้านายสาวที่นั่งอยู่ด้านหลัง แต่สิ่งตอบรับกลับเป็นความเงียบ ผมเอี้ยวตัวไปมองมอง ร่างบางซุกตัวหลับตาพริ้มด้านหลังราวกับอ่อนล้าเสียเหลือเกิน....
“ยังไงก็ฝากดูแลน้องสาวผมด้วยนะ.... ยัยสมายล์เป็นเด็กน่าสงสาร ชีวิตไม่เคยมีความสุขเหมือนกับใครเค้า--- ความเอาแต่ใจมันเป็นแค่ฉากบังหน้าเพื่อปิดกั้นความอ่อนแอไม่เหลือใครก็เท่านั้น ถ้าผมมองคนไม่ผิด คุณเป็นคนที่จะดูแลน้องสาวผมได้....ได้โปรดใจเย็นด้วยนะ” ผมนึกถึงคำพูดของคุณกันที่เพิ่งพูดกับผมไป เด็กคนนี้...ความจริงก็น่ารักน่าเอ็นดูไม่น้อย เวลาหลับก็ดูอ่อนเยาว์ไร้เดียงสา
“เด็กน้อยเอ๊ยยยย” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ ร่างบางขยับตัวเล็กน้อยแต่ไม่มีวี่แววจะตื่น
“คุณหนู---คุณหนู---คุณหนูสมายล์” ผมเอื้อมมือไปสะกิดร่างบางนั้นเบาๆ จนสาวน้อยสะดุ้งน้อยๆกลืมตามองผมตาแป๋ว...ก่อนจะรู้สึกตัว รีบจัดท่าทางวางมาดเช่นเคย ผมแอบนึกขำในใจไม่รู้ว่าจะกลัวเสียฟอร์มไปไหน
“ใครใช้ให้นายแตะต้องเนื้อตัวชั้น...” นั่นไง ตั้งตัวได้ปุ๊บปากดีปั๊บเชียว
“ก็เห็นนอนน้ำลายยืดน้ำลายไหล...คือแบบว่าทนดูไม่ได้ก็เลยจำใจแตะเนื้อต้องตัวไง” ผมแกล้งกระเซ้าไป คุณหนูกัดปากก่อนจะกระฟัดกระเฟียดลงจากรถไปด้วยความหุนหัน ผมส่ายหน้าเบาๆก่อนจะหัวเราะออกเบาๆ เด็กคนนี้ดูๆไปก็ไม่ได้ร้ายกาจอย่างที่ใครๆเค้าว่ากันซะหน่อย....
ผมเดินตรงไปที่ห้องครัว เพราะยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เย็น... ร่างตะคุ่มๆนั้นสะดุ้งน้อยๆ เมื่อผมก้าวเข้าไปในห้องครัว
“แกงส้ม...” ผมเรียกชื่อเจ้าของเงาตะคุ่มนั้น ทันทีที่เห็นหน้าชัดพร้อมเอื้อมมือไปเปิดไฟ
“พี่ฮัท...ตกใจหมดเลย” แกงส้มที่มีสีหน้าเสียขวัญร้องออกมาเบาๆ ในมือมีแก้วน้ำ
“พี่ขอโทษ---ตกใจมากเลยเหรอ???” ผมถามกลั้วหัวเราะ แต่ภายใต้รอยยิ้มฝืนๆของแกงส้มมันทำให้ผมรู้สึกว่ามันมีความเปลี่ยนแปลงไป สายตานั้นดูครุ่นคิดมากกว่าที่ผมเคยเห็น...แค่ช่วงวันนี้ มันเกิดอะไรขึ้น!!!
“ก็นิดหน่อยครับ---ทำไมถึงกลับดึกนักครับ” แกงส้มถามสั้นๆ ซึ่งเหมือนเป็นการชวนคุยเรื่อยเปื่อยมากกว่าอยากรู้จริงๆ
“คุณหนูมีธุระ” แกงส้มพยักหน้ารับรู้ ก่อนก้มหน้ามองแก้วน้ำที่อยู่ในมือ
“แกงส้ม---ไม่สบายรึเปล่า???” ผมถามพร้อมสาวก้าวเข้าไปหา น้ำตาค่อยๆร่วงจากดวงตาคู่สวยนั้น
“พี่ฮัท...” แกงส้มร้องไห้สะอึกสะอื้น ผมรู้ดีว่าไม่ควรจะเอ่ยถามอะไรทั้งนั้น ผมเข้าไปกอดร่างสูงโปร่งนั้นไว้ แกงส้ม....พี่จะอยู่ข้างๆอย่างนี้ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นพี่ก็จะอยู่ตรงนี้เสมอ
ทำไมต้องร้องไห้ด้วยนะ...ความเจ็บปวดมันควรจะจบสิ้นหลังจากคำว่ารักของพี่ฮั่นแล้วไม่ใช่เหรอ??? แต่ทำไมผมถึงยังทรมานแบบนี้นะ ความไม่เด็ดขาดของพี่ฮั่นกำลังทำร้ายผม...ทำไมผมจะไม่รู้ว่าพี่ฮั่นทำแบบนั้นไม่ได้---พี่ฮั่นทิ้งคุณหนูไปไม่ได้ แต่พี่ฮั่นก็ไม่ยอมที่จะปล่อยผมไป... ไม่ใช่สิ---ผมเองที่ไม่ยอมจากไป ความหวังของเรามันมีจริงๆหรือพี่ฮั่น...หรือมันเป็นแค่การซื้อเวลา พี่เองยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจะทำอย่างไรเพื่อรักของเรา
“แกงส้ม...ใจเย็นๆนะ มีอะไรบอกพี่ได้ พี่พร้อมที่จะทำเพื่อแกงส้มทุกอย่าง” พี่ฮัทโอบร่างผมไว้ ความรักความหวังดีมันชัดเจนกว่าพี่ฮั่นอย่างเห็นได้ชัด... หากแต่หัวใจโง่ๆดวงนี้ มันปล่อยกายปล่อยใจเป็นของพี่ฮั่นไปแล้ว ตอนนี้ผมกำลังทำอะไรอยู่ ไม่ใช่แค่ล้อเล่นกับหัวใจตัวเองเท่านั้น ผมกำลังทำร้ายคนที่รักและหวังดีกับผม....คนที่โอบกอดผมไว้ตอนนี้
“พี่ฮัท...ผมขอโทษ”
ปล. ขอโทษที่มาอัพช้า เพื่อกลับมาจากรับปริญญาจ้า.... ยังไงก็เม้นเป็นกำลังใจให้กันนะจ๊ะ จะพยายามหาเวลาอัพทั้งสองเรื่องพร้อมๆกัน ยังไงก็ฝาก “รักใสๆ หัวใจแรกจิ้น” อีกเรื่องนะจ๊ะ ^^
ความคิดเห็น