ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS8 (HKS) รักร้าว ในเงามาร

    ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 15: คำรักแผ่วๆ

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 56



                   

    HUT talk

    ผมตื่นมาตั้งแต่เช้าเพราะต้องมาส่งยัยคุณหนูปิศาจนั่น.... แต่ต้องมายืนหงุดหงิดเพราะยัยเด็กบ้านั่นมัวแต่ละเลียดข้าวต้มช้าๆ ส่งสายตาท้าทายผมจนผมหงุดหงิดแทบคลั่ง...

    “โรงเรียนเคารพธงชาติบ่ายสามรึไงห๊ะ!!!” ผมร้องออกมากลางโต๊ะอาหาร สาวใช้ที่ชื่อเพลินสะดุ้งโหยง สาวนเจนจิราถลึงตาใส่ผมราวกับผมทำอะไรผิดนักหนา

    “ไม่เห็นรึไงว่าคุณหนูทานอาหารเช้าอยู่” เสียงเรียบวางอำนาจของเจนจิราดังขึ้น ใบหน้าของคุณหนูมีรอยยิ้มสะใจเล็กๆ

    “ไม่เห็นรึไงว่าผมคุยกับคุณหนู คุณมาเกี่ยวอะไรด้วย” ผมหันหน้าไปสบตากับเจนจิรา

    “นายนี่มันไร้มารยาทจริงๆ” ความเกรี้ยวกราดของเจนจิราไม่สามารถปิดบังด้วยเครื่องสำอางที่บรรจงแต่งอย่างสวยงาม ผมรังเกียจผู้หญิงคนนี้

    “คุณเองก็สอเสือใส่เกือกจริงๆ” ผมพูดเสียงเรียบก่อนจะหันไปมองหน้าคุณหนูที่เบิกตากว้างมองหน้าผม

    “ผมนับหนึ่งถึงสิบ ถ้าคุณหนูไม่ลุกออกจากโต๊ะอาหารนี่ ผมจะอุ้มคุณหนูขึ้นรถเอง” ผมยื่นคำขาด แววตาของคุณหนูตระหนกเล็กน้อย

    “นายบ้ารึไงห๊ะ!!!” เสียงใสส่งเสียงขึ้นมาทันที ก่อนจะวางช้อนกัดปากมองผมโมโหจัด

    “หนึ่ง.... สอง....สาม....สี่....ห้า........หก....เจ็ด...แปด...แปดแล้วนะ....เก้า..สิบ!!!” ว่าแล้วผมก็เข้าไปฉวยข้อมือของร่างเล็กนั้น แล้วช้อนร่างบางนั้นขึ้นตามที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้

    “ไอ่บ้า...ปล่อยชั้นนะ” ยัยคุณหนูหน้าเสีย แต่ก็ไม่วายแผลงฤทธิ์ทั้งทุบทั้งตีไม่กลัวว่าตัวเองจะร่วงไปกระแทกพื้นแม้แต่น้อย ผมเดินตรงไปที่รถโดยไม่สนใจกับเสียงวี๊ดว๊ายของเจนจิราและคนสนิท

    “พูดดีๆสิ พี่ฮัทปล่อยหนูหน่อยสิคะ พูดแบบนี้เป็นมั้ย???” ผมแกล้งยั่วโมโหร่างบางที่ถูกอุ้มอยู่ ใบหน้าใสนั้นแดงระเรื่อ ไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรือเพราะว่าเขินกันแน่

    “ปล่อยชั้น....ปล่อยนะ ไอ่บ้าฮัทททททท ปล่อยยยยยยย...” ร่างเล็กบางดิ้นไม่ยอมหยุดจนผมกลัวว่าร่างนั้นจะตกลงไปจริงๆ

    “บอกให้หยุดดิ้นไง...คุณหนู—หยุดสิ หยุด!!! ร่วงไปผมไม่รับผิดชอบนะ” ผมกระชับร่างนั้นแน่นขึ้น ร่างนิ่มๆเบียดกับผมจนความรู้สึกแปลกมันเกิดขึ้น คุณหนูเองก็คงรู้สึกไม่ต่างกันเพราะเธอหยุดดิ้นแล้วหลบสายตาผม... มีมุมแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย???

    “นายปล่อยชั้นลงได้แล้ว ชั้นจะไปโรงเรียนสาย” เสียงอ่อยๆที่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงทำให้ผมนึกเห็นใจเด็กสาวคนสวยที่อยู่ตรงหน้า ผมค่อยๆวางร่างบางนั้นลง

    “ไปโรงเรียนได้แล้ว...หรือว่าต้องให้อุ้มขึ้นรถ” ผมได้ทีขู่ร่างบางที่ดูตกใจไม่น้อย พอร่างนั้นนิ่งเม้มปากมองผม ผมจึงแกล้งขยับเหมือนจะจู่โจมอีกครั้ง ทำให้ร่างนั้นรีบเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถทันที ผมมองร่างบางที่กระฟัดกระเฟียดหงุดหงิดก่อนจะวนไปทำหน้าที่คนขับรถท่ามกลางสายตาของสาวใช้และคนสนิทของคุณหนู

     

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น ...ผมวางมือจากกีต้าร์ก่อนจะเกิดอาดๆไปเปิดประตู ใบหน้าหล่อเหลานั้นทำเอาผมชะงัก “พี่ฮั่น” มายืนอยู่ตรงหน้า ผมเม้มปากฝืนใจข่มไม่ให้ร้องไห้ น้ำตามันคือสัญลักษณ์ของคนอ่อนแอ ไม่มีอีกแล้ว....ผมจะไม่อ่อนแอให้พี่ฮั่นเห็น ผมจะไม่ยอมเป็นทาสหัวใจให้พี่ฮั่นทำอะไรกับผมตามใจชอบอีกแล้ว

    “พี่มาทำไม” ผมถามเสียงแข็ง พี่ฮั่นชะงักนิดหน่อยแต่ก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมถาดอาหาร

    “เห็นว่าไม่ลงไปกินข้าว...เลยยกมาให้” ร่างสูงก้มมองที่ถาดอาหารราวกับกลัวว่ามันจะหายไปในนาทีใดนาทีหนึ่ง

    “ขอบคุณ...พี่เองก็กลับไปได้แล้ว” ผมเปิดประตูรอให้พี่ฮั่นเดินจากไป ผมจะไม่ปล่อยให้หัวใจตัวเองต้องหวั่นไหวอีกแล้ว อยู่ไกลเท่าไหร่ยิ่งดี!!!

    “ทำไม---เดี๋ยวรับความหวังดีได้แค่คนเดียวงั้นสิ” น้ำเสียงระคนน้อยใจนั่นมันทำให้ผมรู้สึกโกรธอย่างไมมีเหตุผล---ผมต่างหากที่ควรใช้น้ำเสียงแบบนั้น

    “ใช่---ผมรับความหวังดีได้จากคนที่หวังดีจริงๆเท่านั้น...พี่ออกไปได้แล้ว” ผมขึ้นเสียงใส่พี่ฮั่น ร่างสูงนั้นกระชากผมเข้าไปไกลๆ ใบหน้านั้นดูสับสนปนความโกรธ น้ำตาของผมไหลออกมาอย่างสุดกลั้น มันกำลังจะกลับไปสู่จุดเดิมๆอีกครั้งเหรอ???

    “พี่ปล่อยผมนะ—ในเมื่อพี่เลือกที่จะไปก็ไปให้ไกลสิ จะมายุ่งวุ่นวายกับผมทำไมกัน อย่าให้ผมต้องเกลียดพี่ไปมากกว่านี้เลย” ผมกัดฟันพูดกับคนตรงหน้าด้วยความเจ็บปวด ผมไม่ไหวแล้วนะ...พี่อย่าทำแบบนี้กับผมเลย

    “เกลียดงั้นเหรอแกง---ตอนนี้เกลียดพี่แล้วเหรอ??? ห๊ะ—พี่ถามไง เกลียดพี่จริงเหรอ!!!” พี่ฮั่นเขย่าร่างผมไปมาอย่างรุนแรง จังหวะสุดท้ายพี่ฮั่นเหวี่ยงผมไปที่เตียงก่อนจะสาวก้าวไปล็อกประตู

    “พี่จะทำอะไร---ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ผมเกลียดพี่ ได้ยินมั้ย??? เกลียดที่สุด!!!” ผมทั้งร้องไห้ทั้งทุบตีร่างสูงนั้นเพื่อผลักไสไปให้พ้นร่างกายของผม

    “เกลียดกัน!!! พูดอะไรออกมา หรือว่าตอนนี้มีไอ่ฮัทแล้วลืมพี่ไปแล้วงั้นเหรอ??? มันทำอะไรบ้างล่ะ กอด จูบ หรือว่ามากกว่านั้น มากกว่าที่พี่เคยทำใช่มั้ย??? ให้มันไปหมดแล้วใช่มั้ย!!!” พี่ฮั่นโถมตัวทับผมที่กำลังจะลุกหนีจากเตียง ร่างสูงแข็งแรงแทรกกายเบียดแน่นทั่วร่างกายของผม ริมฝีปากนั้นบดขยี้อย่างไร้ความปราณี

    “มันเร้าใจแบบที่พี่ทำรึเปล่า???” น้ำเสียงเย้ยหยันกระทบโสตประสาทหากแต่ที่เจ็บคือขั้วหัวใจ เค้าเห็นผมเป็นเพียงของเล่นสนองความต้องการเท่านั้น... ทุกอย่างที่ผ่านมาไม่ได้มีค่าอะไรกับเค้าเลยเพียงเศษเสี้ยวหัวใจ ผมผลักไสร่างสูงนั้นจนหนีออกมาได้ แต่ร่างสูงก็คว้าผมแทบจะในทันทีเช่นเดียว มือผมทั้งสองข้างถูกตรึงแน่นด้วยฝ่ามือนั้นเพียงข้างเดียว ใบหน้าของพี่ฮั่นซุกไซ้ไปตามซอกคอผม แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่ฮั่นทำแบบนี้กับผมแต่ความรู้สึกมันช่างแตกต่าง มีเพียงความรุนแรงเกรี้ยวกราดเท่านั้นที่ผมสัมผัสได้

    “ปล่อยผมนะ...อย่าทำแบบนี้กับผม” ผมร่ำร้อง  กลิ่นหอมที่ผมคิดถึงทำไมต้องมาพร้อมกับการกระทำที่ย่ำยีกัน... พี่ฮั่นผมรักพี่---แต่พี่ต้องทำร้ายกันขนาดนี้เลยเหรอ??? สงสารใจผมบ้าง... จะทำร้ายกันให้เจ็บสักแค่ไหน เสียงลมหายใจหอบถี่บ่งบอกความต้องการของร่างสูงนั้นได้ดี...ใช่---มันคือความต้องการ มันไม่ใช่ความรัก พี่ฮั่นค่อยๆลดจังหวะลง มือร้อนผ่าวลูบไล้ภายใต้เสื้อยืดตัวเก่งของผม ท่อนขาแน่นเบียดแทรกทับท่อนขาผม เป็นการรุกล้ำอย่างที่ไม่เคยมาก่อน....บทรักพี่ฮั่นรุนแรงและเร้าร้อน ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆถอนออกจากซอกคอ สายตาเราทั้งสองประสานกัน ไม่มีคำพูดใดๆระหว่างเรา...แต่ทำไมนะ---ผมถึงไม่รังเกียจ ทำไมหัวใจของผมถึงยังเพรียกพร่ำร้องหาคนๆนี้เหมือนเดิม สัมผัสรักของพี่ฮั่นค่อยๆนุ่มนวล ฝ่ามือที่เคยตรึงไว้ค่อยๆกลายเป็นประสานจับมือกัน  มืออีกข้างสอดใต้ท้ายทอยเพื่อเชยใบหน้าให้รับกับรสจูบที่แสนหวาน พี่ฮั่นขบริมฝีปากเบาๆคล้ายหยอกเย้ายั่วอารมณ์ซึ่งมันได้ผล ความสติของผมล่องลอยหายไป...ทุกสัมผัสที่ไล้ไปตามเรือนร่างช่างร้อนแรง เสียงครางจากลำคอค่อยๆถี่ขึ้น...พร้อมๆกับไฟอารมณ์ในตัวผมที่ลุกโชนเกินหักห้ามมันได้อีก

    “แกงส้ม...ถอดเสื้อสิ...” เสียงสั่นน้อยๆของพี่ฮั่นกระซิบแผ่วเบาหากแต่มันก้องในหัวผม พี่ฮั่นปลดกระดุมเสื้อตัวเองทีละเม็ดอย่างช้าๆในขณะที่แทรกกายเข้ามาในตัวผม ร่างกายเราสองแนบชิด ไฟร้อนของสองเราคล้ายกำลังเผาไหม้เสื้อผ้าที่กั้นกลาง พี่ฮั่นสะบัดเสื้อเชิ้ตหรูพ้นร่างก่อนจะเอื้อมมือมาช่วยผมดึงเสื้อออก ท่อนบนเราทั้งสองเปล่าเปลือย พี่ฮั่นก้มลงพรมจูบไปทั่วร่าง ความซาบซ่านทำให้ผมต้องขบริมฝีปากแน่นเพื่อไม่ให้ส่งเสียง เข็มขัดของผมค่อยถูกปลดโดยร่างที่อยู่ด้านบน พี่ฮั่นโลมเลียร่างกายผมด้วยสายตา...เพียงเท่านั้น ความร้อนในร่างกายของผมก็แผดเผาอารมณ์ได้อย่างประหลาด ความรู้สึกที่เคยรับรู้มลายหายไปหมดสิ้น เหลือเพียงผมกับพี่ฮั่นเท่านั้น...ที่กำลังโลกแล่นบนบทรักที่รุนแรงแต่ทว่าหอมหวาน ในที่สุด...ร่างของผมก็เปลือยเปล่าท้าทายสายตากระหายของพี่ฮั่น ใบหน้านั้นช่างดูเย้ายวนเหลือเกิน สายตาที่ไล่เรียงมองไปทั่วร่างทำให้ผมหลงใหล ความต้องการของผมมันช่างรุนแรงเหลือเกิน....ไม่ใช่แค่พี่ฮั่น ตอนนี้ผมเองก็ไม่อาจต้านทานความต้องการของส่วนลึกได้

    “พี่ฮั่น....” ผมเรียกชื่อชายหนุ่มที่พยายามรุกล้ำเข้ามาในร่างกาย ทุกจังหวะที่พี่ฮั่นขยับร่างกายสร้างความลึกล้ำในอารมณ์รัญจวนอย่างเร้าร้อน เสียงหอบจากร่างสูงคลอเคล้าไปกับเสียงครางครวญของผม.... ตามการขยับร่างของพี่ฮั่น ....ผมรักพี่นะ อย่าจากผมไปเลย... ผมให้พี่ไปทุกอย่างแล้วพี่ฮั่น ผมเป็นของพี่ทั้งร่างกายและหัวใจอย่างสมบูรณ์ อย่าทิ้งผมไว้อีกนะ... ผมค่อยๆโอบร่างนั้นด้วยความรักล้นหัวใจตอบรับบทรักที่พี่ฮั่นมอบให้.....

     

    HUNZ talk

    ใบหน้าอ่อนใสหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอดผม... นี่มันคือเรื่องจริงใช่มั้ย??? ผมได้ครอบครองแกงส้มอย่างสมบูรณ์แบบ ร่างเปลือยเปล่าของเราสองใต้ผ้าห่มหนาให้ความอบอุ่นมากกว่าที่ผมเคยวาดฝัน เสียงครางหวานยังตรึงใจ ผมค่อยๆโน้มตัวประทับจูบลงบนหน้าผากเกลี้ยงเกลาอย่างแสนรัก แล้ว....มันจะเป็นอย่างไรต่อไป ในเมื่อทุกอย่างผมมาไกลเกินกว่าผมจะควบคุมได้ น้ำตาของแกงส้มมันทำให้ผมรู้ว่าบาดแผลในใจของแกงส้มมันแสนสาหัส... ไม่อีกแล้ว---พี่จะไม่ให้แกงส้มต้องเจ็บปวดเพราะเรื่องนี้อีก แต่ผมจะทำอย่างไร---ผมจะปกป้องแกงส้มได้อย่างไรกัน ร่างสูงโปร่งขยับตัวภายใต้อ้อมแขนของผมเล็กน้อย ผมก้มมองพบว่าสายตาใสไร้เดียงสากำลังจ้องมองใบหน้าผม ท่อนแขนผมกระชับร่างนั้นให้แนบชิดยิ่งขึ้น

    “แกง....” ไม่รู้ว่าจะพูดกับใบหน้าอ่อนใสนั้นอย่างไร จะมีคำพูดใดแทนความรู้สึกที่ผมมี...

    “ผม---ผมอยากอาบน้ำ” น้ำเสียงอ่อนหวานหากแต่มีร่องรอยความน้อยใจระคนปนอยู่ไม่น้อย พร้อมกับอาการดิ้นขลุกขลักทำให้ผมรู้ว่าแกงส้มยังมีความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัยในความสัมพันธ์ระหว่างเราที่เพิ่งเกิดขึ้น ไม่แปลกหรอก---ที่แกงส้มจะรู้สึกแบบนั้น ในเมื่อสิ่งที่ผมทำมันเลวร้ายเกินกว่าที่จะให้อภัยโดยง่าย

    “แกง---คุยกับพี่ก่อนนะพี่ขอร้อง” ผมอ้อนวอนจากหัวใจ โอบรับร่างสูงโปร่ง ไม่อีกแล้ว....พี่จะไม่ปล่อยให้แกงไปไหนอีกแล้ว----แกงเป็นของพี่แล้ว....พี่ไม่ยอมให้ใครพรากเราสองคนจากกันเป็นอันขาด

    “ไม่---ผมไม่อยากเจ็บอีกแล้ว... ปล่อยผมไปเถอะนะ” น้ำตาแห่งความเจ็บปวดของแกงส้มไหลออกมาอีกครั้ง เสียงสะอื้นของคนที่ผมรักมากที่สุดมันช่างทรมานใจผมเหลือเกิน

    “แกงส้ม...ฟังพี่ก่อน” ผมพยายามขืนตัวไม่ให้แกงส้มดิ้นหลุดจากอ้อมกอด พี่ไม่ให้แกงไปไหนทั้งนั้น แกงส้มร้องไห้ตัวสั่น เสียงสะอื้นขาดเป็นช่วงๆเพราะเจ้าตัวพยายามกลั้นมันไว้.... ร้องไห้เถอะคนดี พี่รู้ว่าตลอดเวลาแกงส้มต้องเจ็บปวดแค่ไหน หัวใจดวงน้อยๆคงร้าวรานมากสินะ...เพราะคนที่มันไม่กล้ายอมรับความจริงในใจของตัวเอง คนขี้ขลาดที่ไม่พยายามต้องสู้เพื่อคนที่รัก เพราะพี่—แกงส้มถึงต้องขมขื่นมากมายอย่างนี้

    “พี่อย่าทำแบบนี้อีกเลยพี่ฮั่น---ผมเจ็บจนหายใจไม่ไหวแล้ว.... เรื่องวันนี้ผมมันใจง่ายเอง จากนี้ไปก็ลืมมันไปซะ---ผมจะไม่จำ จะไม่ทวงถามอะไรทั้งนั้น... แต่พี่อย่าล้อเล่นกับความรู้สึกของผมอีกเลย ผมขอร้อง.... ---พี่ปล่อยผมไปเถอะ” แกงส้มดิ้นรนที่จะผลักไสผมออกไปห่างตัว เสียงร่ำไห้คงมากจากหัวใจที่บอบช้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมไม่ต้องการเห็นมันอีก...

    “คนดีของพี่ฟังพี่นะ---อย่าไปจากพี่เลยนะ พี่รักแกงส้ม...ได้ยินมั้ย??? พี่รักแกงส้ม รักมาตลอด” ในที่สุดคำว่า “รัก” ก็หลุดออกไป ผมไม่รู้ว่าจากนี้ไปชีวิตของผมจะยุ่งยากสักเพียงไหน...แต่ผมปล่อยให้แกงส้มจมอยู่กับความเจ็บปวดไม่ได้อีกแล้ว แกงส้มต้องได้รับสิ่งที่ควรจะได้รับ...คนที่ผมรัก ต้องไม่เจ็บปวดอีก ผมยอมแลกทุกสิ่งเพื่อให้ใบหน้าอ่อนๆที่แสนน่ารักมีรอยยิ้มอีกครั้ง

    “พี่ฮั่น...เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรนะ” แกงส้มนิ่งไปทันทีที่ได้ยิน... ใบหน้าหวานช้อนตามองผม เบิกตากว้าง แววตานั้นบ่งบอกถึงความประหลาดใจ ผมคลี่ยิ้มให้กับแกงส้ม โน้มตัวประกบริมฝีปากลงที่เรียวปากกลิ่นหอมหายใจหอมละมุนที่ผมเฝ้าฝันมาตลอดกระทบใบหน้า ผมสอดมือโอบแกงส้มราวกับกลัวว่าร่างนั้นจะหายวับไป ริมฝีปากเราสองประกบแนบกันเนิ่นนาน หากแต่มันไม่เท่ากับเสี้ยวของความโหยหาในใจของผม รสหวานจากริมฝีปากของแกงส้มมันทำให้ผมแทบคลั่ง อยากจะกลืนกินเจ้าของริมฝีปากนั้นไปทั้งเนื้อทั้งตัว ทำไมผมถึงรักแกงส้มได้มากมายขนาดนี้...มากจนไม่อาจใช้เหตุผลข้อใดมาหยุดยั้งความรู้สึกนี้ได้

    “พี่รักแกงส้มนะ” นี้เป็นเสียงกระซิบสุดท้าย ก่อนที่ผมจะลิ้มลองรสชาติแห่งความรักที่ผมโหยหามาตลอด พี่จะประคองแกงส้มไว้ด้วยอารมณ์รักแบบนี้ตราบเท่าที่ลมหายใจของคนๆนี้จะทำได้.....แกงส้มที่รัก

     

    ปล. ในที่สุดก็เสร็จสักที (หมายถึงตอนนี้นะ ไม่ได้หมายความว่าใครเสร็จใคร!!!) แต่งยากอ่ะเพราะไม่ได้แต่งมากตั้งนานเป็นเดือนๆ ยังไงก็ให้อภัยกันหน่อยนะถ้ามันไม่สมกับที่รอคอย ทั้งที่เป็นฉากเด็ดแท้ๆเชียว แต่ยังไงทั้งสองเค้าก็เรียบร้อยกันเรียบร้อยแล้ว....ฮ่าๆๆๆๆ ฝากติดตามกันด้วยน้า ทั้งเรื่องนี้กับเรื่องรักใสๆ หัวใจแรกจิ้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×