ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS8 (HKS) รัก- ลืม -ร้าย หัวใจพ่ายเธอ

    ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 15: การสูญเสียของแกงส้ม

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 55


     
                   
    HUNZ talk
    บอกตรงๆ ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมจะสงสารใครดี ทั้งเฟรมและฮัทต่างคนต่างก็เจ็บปวด ผมไม่เชื่อว่าคนอย่างฮัทจะทำเรื่องแบบนี้ได้ ผมรู้จักคนๆ นี้ดี และผู้หญิงที่ชื่ออลิซเธอเองถึงแม้ว่าจะเพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรกผมเองก็รู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ในแววตาคู่สวยนั้นมีความจัดเจนและเฉียบขาดอย่างแรงกล้า ฮัทเปิดประตูเข้ามาหลังจากวิ่งตามเฟรมไป สองตาของฮั่นบวมแดงบ่งบอกถึงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
    “ฮัท...เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ผมพูดกับฮัทก่อนที่ทุกอย่างจะเป็นไปตามเกมส์ของอลิซมากกว่านี้ ผมเดินนำร่างสูงนั้นเข้ามาให้ห้อง ฮัทเองก็เดินตามมาโดยไม่เอ่ยถามใดๆ
    “เล่าให้พี่ฟังได้มั้ย??? ทำไมเรื่องถึงเป็นแบบนี้” ผมนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า
    “พี่ฮั่นครับ...ผมขอโทษ เรื่องทุกอย่างมันแก้ไขไม่ได้แล้ว ผมยอมรับสิ่งที่มันจะเกิดได้ทุกๆอย่าง” ฮัทรูดตัวลงทรุดนั่งที่ประตู
    “ถ้ายังเห็นว่าพี่เป็นพี่ชายอยู่ บอกพี่มาว่าเรื่องอลิซมันคืออะไรกันแน่ พี่ไม่เชื่อว่าฮัทจะทำให้เฟรมเสียใจ” ผมยืนยันในความเชื่อใจที่มีต่อฮัท ถึงแม้ว่าตัวผมเองจะเคยเข้าใจผิดฮัทกับแกงส้มมาก่อนเพราะตอนนั้นผมเห็นเฟรมเสียใจจนผมอดแค้นเคืองไม่ได้ แต่เมื่อนึกดูแล้วฮัทรักเฟรมเกินกว่าจะปล่อยในอารมณ์ชั่ววูบทำลายความมั่นคงในรักได้ เรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน
    “พูดไปก็เหมือนผมเป็นหน้าตัวเมีย ผม...ยังไงก็ไม่มีทางเลือก ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ” ฮัทพูดออกมาด้วยสายตาเลื่อนลอยหมดความหวัง
    “ฮัท....พี่จะบอกอะไรให้นะ พี่รักแกงส้ม รักจนทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขอแค่เพียงต่อสักนาทีที่เราได้รักกัน ถึงแม้สักวันแกงส้มอาจจะเกลียดพี่ก็ได้ แต่ที่พี่ยอมเพราะพี่รักแกงส้มอย่างที่ชีวิตนี้พี่คงรักใครไม่ได้อีก พี่จะไม่ยอมให้ความรักพี่เป็นเพียงสายลมจับต้องไม่ได้ แล้วฮัทล่ะ...รักเฟรมพอที่จะสู้อีกสักครั้งรึเปล่า ถ้ามันมีหนทางฮัทก็ควรที่จะสู้ไม่ใช่เหรอ???” ผมเปิดใจพูดกับฮัทตรงๆ ความรักของผมไม่มีทางไปต่อแต่ผมก็ดื้อรั้น ส่วนความรักของฮัทถ้ามันเป็นเรื่องที่ให้อภัยได้ผมเองก็จะช่วยเต็มที่
    “อลิซวางยาผม...ทำให้ผมมีอะไรกับเค้า” ฮัทพูดออกมาในที่สุด ผู้หญิงสมัยนี้น่ากลัวจริงๆ ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่อลิซท้องก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นไปได้ ผมมองหน้าฮัทที่นั่งหมดท่าหัวพิงประตู ผมจะสามารถทำอะไรให้เรื่องนี้มันมีทางออกที่ดีกว่านี้นะ เรื่องให้ฮัทกลับไปทำงานที่ผับคงเป็นไปไม่ได้ มีแต่จะทำให้รอยร้าวระหว่างเฟรมกับฮัทเพิ่มขึ้น ตอนนี้ผมต้องปล่อยให้เฟรมอยู่แบบนี้ไปก่อน
    “เอาอย่างนี้ละกัน ให้สมายล์น้องสาวเราอยู่ที่นี่กับเฟรม ส่วนฮัทกับอลิซไปที่ไร่กับพี่ รอจนอลิซคลอดลูกแล้วเราค่อยตรวจดีเอ็นเอ ให้ฮัทรับผิดชอบตอนนั้นก็คงไม่สายถ้าเด็กเป็นลูกของฮัทจริงๆ” ผมคงต้องพึ่งแรงฝาแฝดให้สังเกตการณ์อลิซไม่ให้คาดสายตา ผู้หญิงคนนี้อาจจะทำอะไรที่คิดไม่ถึง...
    “แต่อลิซเค้าเคยคิดจะทำร้ายแกงส้มนะครับพี่ฮั่น ผมไม่ยอมให้แกงมันต้องมาเสี่ยงกับเรื่องนี้แน่ๆ” ฮัทรีบแย้งขึ้นมาทันที....
    “พี่เองก็ไม่ปล่อยให้แกงส้มเป็นอะไรไปเหมือนกัน ตอนนี้อลิซไม่มีลูกน้องเหมือนเมื่อก่อนแล้วแกงส้มเองก็แค่ความจำเสื่อมความฉลาดยังมีเต็มเปี่ยมเหมือนเดิมไม่ต้องห่วงหรอก” ผมยืนยันกับฮัท ชีวิตนี้ถ้าผมดูแลแกงส้มที่เป็นเหมือนดวงใจของผมไม่ได้อย่ามาเรียกผมว่า “อิสริยะ” เลย
     
    พี่ฮั่นนะพี่ฮั่นแอบไปเที่ยวคนเดียวแล้วปล่อยให้ผมนั่งรอนอนรออยู่นานแล้วนะ โทรหาก็ไม่รับ หรือว่าพี่ฮั่นแอบไปหาคนอื่น.... อย่าให้รู้นะว่ามีคนอื่นนอกจากผม จะเอาหอมหัวใหญ่โปะตาซะให้เข็ดเลย!!! แค่นึกถึงเสียงรถมาถึง ผมรีบวิ่งไปออกไปรับพี่ฮั่นที่หน้าบ้านทันที
    “พี่ฮั่นเอาอะไรมาฝากผมบ้างงงง” ผมตะโกนถามหาของฝากก่อนสิ่งอื่นใด แต่คนแปลกหน้าที่อยู่ตรงหน้าสองคนก็ทำให้ความเริงร่าของผมชะงักโดยทันที
    “แกงส้ม...เป็นยังไงบ้าง” ชายแปลกหน้าทักทายผมอย่างสนิทสนม ผมรู้สึกว่าคนๆนี้ คุ้นๆ เหมือนเคยรู้จักมาก่อน พี่ฮั่นหรี่ตามองผมว่าผมเองจะมีความทรงจำกับคนนี้มากแค่ไหน
    “คือ....” ผมพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าจะวางคนๆนี้ไว้ตรงจุดไหน
    “จำพี่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ แค่เห็นว่าแกงส้มแข็งแรงดีพี่ก็โล่งใจ” ชายแปลกนั้นส่งยิ้มให้ผมอย่างอ่อนล้า ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงดูยับเยินแบบนี้นะ...หรือว่าพี่ฮั่นไปลักพาตัวเค้ามาอยู่เป็นเพื่อนผม!!!
    “จะคุยกันอีกนานมั้ย???” เสียงสูงทำให้ผมหันไปสนใจเจ้าของซึ่งเป็นสาวสวยสะดุดตาคนหนึ่ง ถ้าผมต้องระวังผมจะต้องระวังแม่คนนี้... พี่ฮั่นเรามีเรื่องต้องเคลียร์กันยาว!!!
    “แกงส้มนี่พี่ฮัทกับอลิซเค้าจะมาอยู่ที่นี่” พี่ฮั่นเดินเข้าโอบไหล่ผมอย่างเอาใจ ซึ่งทำให้ผมสบายใจไปเปาะหนึ่ง อย่างน้อยๆพี่ฮั่นก็กล้าแสดงความรักกับเราต่อหน้าคนแปลกหน้าที่มาใหม่
    “พี่ฮั่นครับผมจะไปพักที่บ้านหลังเล็กกับพี่เอพี่บีนะครับ” พี่ฮัทพูดขึ้น สาวสวยที่มีชื่อว่าอลิซก็ขมวดคิ้วทันที
    “ทำไมล่ะ อลิซว่าอยู่หลังนี้ก็ดีอยู่แล้ว อลิซท้องนะจะให้ไปอยู่หลังเล็กๆได้ยังไง” อลิซเริ่มไม่พอใจ
    “อลิซก็อยู่ที่นี่แหละ ส่วนพี่จะย้ายไปอยู่ที่นั่นเอง” พี่ฮัทพูดอย่างรำคาญใจ ก่อนจะหิ้วกระเป๋าเดินไปที่บ้านหลังเล็กทันที
    “ส่วนเธอก็อยู่ที่นี่ละกัน” พี่ฮั่นพูดเสียงขุ่นกับอลิซ
    “อยากเก็บพี่ฮัทเอาไว้ให้น้องสาวตัวเองละสิ ถึงได้กีดกันชั้นแบบนี้” อลิซมองหน้าพี่ฮั่นตาลุกวาว
    “ชั้นแค่ไม่อยากเห็นไอ่ฮัทถูกเธอหลอก ถ้าเธอท้องกับฮัทจริงก็ไม่มีอะไรต้องกลัว” พี่ฮั่นหันไปตอบอย่างนิ่งเฉย นี่มันเรื่องอะไรกัน!!!....ทำไมบรรยากาศมันมาคุแบบนี้ ผมว่านะ ชีวิตสงบสุขของผมต้องมาพังเพราะสองคนนี้อย่างแน่นอน พี่ฮั่นคว้ามือผมเดินเข้าบ้านโดยไม่สนใจอลิซเลยแม้แต่น้อย
    “มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ???” ผมเอียงคอถามพี่ฮั่นด้วยความงุนงง
    “เรื่องมันยาวมากแกงส้ม พี่ไม่รู้จะเริ่มเล่าตรงไหน” พี่ฮั่นถอนหายใจอย่างอ่อนล้า
    “งั้นผมให้เวลาพี่ฮั่นไปเรียบเรียงละกันพรุ่งมาเล่าให้ผมฟัง หรือว่าจะเขียนเป็นเรียงความส่งก็ได้นะ”  ด้วยความอยากรู้อยากเห็นผมเลยเสนอทางออกให้กับพี่ฮั่น
    “อยากรู้ขนาดนั้นเลยเหรอ???” พี่ฮั่นถามพร้อมหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
    “แน่นอนสิ” ผมตอบพร้อมยักคิ้วให้ พี่ฮั่นจับหัวผมโยกไปมาอย่างเอ็นดู
    “แกงส้ม...รู้ตัวมั้ย??? ว่าน่ารัก” พี่ฮั่นจ้องตาผมทำตัวกรุ้มกริ่ม
    “รู้มาตั้งนานแล้ว” ผมจ้องตากลับทำหน้าทะเล้น  พี่ฮั่นดึงผมเข้ากอดหลวมๆ
    “อย่าทำตัวน่ารักมากนักเลย แค่นี้พี่ก็ทั้งรักทั้งหลงจนไปไหนไม่รอดแล้ว” พี่ฮั่นพูดก่อนจะโน้มตัวมาหอมหน้าผากผมเบาๆ ไม่ใช่แค่พี่เท่านั้น...ที่ไปไหนไม่รอด ผมเองก็รักพี่จนแทบบ้าแล้ว พี่เองจะรู้บ้างมั้ย???
    แทนที่กลับมาพี่ฮั่นจะได้พักผ่อนสบายๆ กลับต้องออกไปเคลียร์งานที่ไร่เพราะมีปัญหา ผมเลยต้องอยู่บ้านกับผู้หญิงที่ไม่ค่อยเป็นมิตรตามลำพัง แต่อาจจะเป็นโชคดีก็ได้ที่ป้าแม่บ้านขึ้นมาทำความสะอดห้องความอึกอัดในบ้านเลยเริ่มผ่อนคลาย ด้วยความช่างเจรจาของป้า
    “คุณอลิซอยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าคะ ป้ารู้ว่าคนท้องคนไส้ชอบกินอะไรแปลกๆ” ป้าถามอลิซที่นั่งพลิกนิตยสารอย่างเบื่อหน่าย
    “ไม่ละ ที่นี่หันไปทางไหนก็มีแต่ต้นองุ่น มีอะไรให้เที่ยวแก้เซ็งบ้างมั้ย???” อลิซถามอย่างหงุดหงิด...ผมไม่แน่ใจว่าไอ่ความหงุดหงิด ฉุนเฉียวไม่เป็นมิตรแบบนี้ มันเป็นเพราะอลิซกำลังท้องหรือว่านิสัยเป็นแบบนี้กันแน่ คนอะไรแทนที่จะทำหน้ายิ้มแย้มให้สมกับหน้าสวยๆ กลับชอบบึ้งตึงอย่างกะนารร้ายในละครทั้งวันแบบนี้
    “โอ๊ยยยย... เรื่องเที่ยวที่ไร่ยกให้นายน้อยเลยคะ ปั่นจักรยานไปนู้นนี่แทบจะทั่วไร่อยู่แล้ว นายห้ามก็ไม่ฟัง” ป้าแม่บ้านหันมาพยักเพยิดกับผม ผมยิ้มรับกับคำพาดพิง อลิซตวัดสายตามองผม
    “ผมยังไม่ได้ไปท้ายไร่เลยนะ คราวหลังจะแอบไปดูสักครั้ง” ผมแกล้วกระเซ้าเพราะรู้ว่าสำหรับผมแล้วท้ายไร่เป็นเขตหวงห้าม
    “อย่าได้คิดเชียวนะนายน้อย ไม่งั้นโดนลงหวายกันถ้วนหน้าแน่ๆ” ป้าแม่บ้านร้องขึ้นเสียงดัง
    “ท้ายไร่มีอะไรทำไมต้องห้ามไปด้วย” อลิซถามขึ้นมา ไม่นึกว่าจะฟังอยู่นะเนี่ย
    “เห็นว่ามีน้ำตก แต่เราก็ไม่เคยไปสักทีนะ” ผมหันไปตอบเพื่อกระชับมิตร อลิซพยักหน้ารับ
    “งั้นป้าไปก่อนนะคะ” ป้าแม่บ้านลาหลังจากทำความสะอาดเสร็จ
    “ป้าชั้นอยากไปเที่ยวไร่ ป้าช่วยนำเที่ยวได้มั้ย???” อลิซพูดขึ้นทั้งที่เมื่อกี้ไม่เห็นจะสนใจสักนิด ป้าพยักหน้าอย่างยิ้มก่อนจะเดินนำอลิซไป ผมเลยลุกมาให้อาหารบุญหลงก่อนที่จะมาเตรียมอาหารเย็น คิดว่าวันนี้คงไม่มีใครช่วย เพราะทุกคนต่างก็ยุ่งกับงานในไร่ ส่วนอลิซคงไม่อยากจะเข้าครัวเป็นแน่ ผมนั่งเล่นกับบุญหลงที่กำลังเริ่มโตเป็นหนุ่ม
    “บุญหลง พรุ่งนี้ชั้นจะปล่อยแกไปแล้วนะ แต่ถ้าหาอะไรกินไม่ได้ก็กลับมานะ” ผมคุยกับพี่ฮั่นแล้วว่าจะปล่อยบุญหลงให้อยู่กับธรรมชาติ เพราะบุญหลงเองก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะขังมันไว้ในกรงแคบๆแบบนี้
    “นายคุยกับใคร???” เสียงของอลิซดังมาจากด้านบน ก่อนร่างของเข้าของเสียงจะเดินลงมาจากบันได
    “คุยกับนก” ผมตอบไปก็หัวเราะออกมาเบาๆ เริ่มเหมือนคนไม่เต็มบาทแล้วนะแกงส้ม คุยกับนกเนี่ยนะ....
    “ทำไมไม่เลี้ยงนกสวยๆ นกตัวนี้ขี้เหร่ออก ตัวดำๆ” ท่องไว้แกงส้ม...คนท้อง คนท้อง คนอะไรปากยังกะผีเจาะปากมาพูด!!! บุญหลงอย่าไปสนใจเลยนะ...ถึงจะดำเราก็ดำเนียนเฟ้ยยยย
    “มันเป็นนกที่เรากับพี่ฮั่นเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่มันตัวเล็กๆแล้ว” ผมก็ยังมีกะจิตกะใจไปตอบนะ
    “เป็นพยานรักว่างั้น???” มันช่างเป็นน้ำเสียงที่น่าบีบคอนัก คนท้อง....แกงส้มท่องไว้
    “เราไปจะเข้าครัวแล้วนะ ไปด้วยกันมั้ย???” ผมจึงเปลี่ยนเรื่องพูด กลัวจะเหลืออดกับยคนท้องคนนี้
    “ไม่อ่ะ ชั้นไปอาบน้ำดีกว่า” อลิซพูดเสร็จก็หนุมตัวกลับขึ้นบ้านไปทันที
    “บุญหลงนี่คือตัวอย่างของคนไม่ดี ดูเอาไว้นะ” ผมสั่งสอนบุญหลงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ปล่อยไป ผมสงสัยจังว่าคนอย่างยัยอลิซจะมีคนคบกับเค้าบ้างรึเปล่า อยู่ด้วยกันแค่นี้ผมก็อยากจะบีบคอเอามีดแทงซะจริงๆ
     
    HUNZ talk
    การที่อลิซอยู่ในบ้านมันทำให้มวลความสุขที่เคยมีลดลงอย่างรวดเร็ว บรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็กลายเป็นความเงียบอย่างอึดอัด แกงส้มที่ร่าเริงก็มีสีหน้าเบื่อโลกอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ไอ่เอได่บีก็เหมือนจะหมดอารมณ์เฮฮาไปตามๆกัน
    “ที่พี่เอาอลิซมาอยู่ที่นี่ทำให้แกงส้มอึดอัดเหรอ???” เมื่อเข้ามาห้องนอนผมเอ่ยถามแกงส้มขึ้นมา
    “ไม่อึดอัดหรอก แต่มันน่าเบื่อมากกว่า” แกงส้มที่กำลังเตรียดเสื้อผ้าอาบน้ำหันกลับมาตอบ
    “พี่ขอโทษนะพี่ทำให้แกงส้มพลอยไม่มีความสุขไปด้วย” ผมนั่งลงที่เก้าอี้อ่านหนังสือมองร่างสูงบางนั้นเลือกชุดนอนอย่างเพลินตา
    “ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ แค่พี่ฮั่นเป็นห่วงผมแบบนี้ความสุขมันก็ล้นอกผมแล้ว” แกงส้มหันมาพูดหน้าทะเล้น แบบนี้จะไม่ให้ผมรักยังไงไหว รอยยิ้มแกงส้มเหมือนแดดยามเช้าทุกครั้งที่ได้เห็นก็มีแรงสู้กับทุกสิ่งที่ขวางหน้า เป็นกำลังใจที่ดีที่สุดสำหรับผม
    “รักเค้าอ่ะดิ...มองหน้าเค้าตาเยิ้มเลยนะ” แกงส้มล้อเลียนผมอย่างสนุกปาก ผมเลยใช้ความรวดเร็วดันแกงส้มติดกับตู้เสื้อผ้า กล้าล้อเล่นกับผมแบบนี้ต้องลงโทษกันสักหน่อยแล้ว
    “พี่ฮั่นผมไม่เล่น จะอาบน้ำ” แกงส้มทำจมูกย่นกับเสียงงอแง ผมเอาจมูกกดไปที่แก้มใสๆนั้นเบาๆ
    “ไม่ต้องอาบหรอกยังหอมอยู่เลย” ผมก้มลงกระซิบข้างหูดันตัวให้เบียดกับแกงส้ม แกงส้มช้อนตามองผมอย่างไร้เดียงสา เจ้าตัวจะรู้มั้ยนะ....ว่าแววตาแบบนี้ทำให้ผมยั้งใจไม่อยู่แทบทุกครั้ง ผมก้มลงจูบที่ไหล่แกงส้มไล่ขึ้นมาหยุดนิ่งที่ลำคอขาว
    “ไปอาบน้ำไป เคลิ้มละสิ...คิดไปถึงไหนแล้ว” ผมผละตัวออกจากแกงส้มที่ตอนนี้หลับตาพริ้ม ก่อนจะลืมตาอย่างฉุนเฉียว เสื้อผ้าที่ก่อนนี้อยู่มือ ร่วงลงข้างๆเท้าของแกงส้ม เจ้าตัวก้มเก็บอย่างโมโห
    “จำไว้เลยนะพี่ฮั่น!!!” แกงส้มชี้นิ้วขู่ผมก่อนจ้ำอ้าวเข้าห้องน้ำไปโดยมีเสียงหัวเราะของผมไล่หลังไป ไม่มีใครที่จะทำให้ผมหัวใจพองโตอย่างเป็นสุขได้เท่าแกงส้มอีกแล้ว...
    ผลหลังจากการแกล้งแกงส้มเมื่อคืนตอนนี้ผมถูกเนรเทศให้ลงมานอนบนพื้นตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา อาจเป็นเพราะเมื่อวานทำงานเพลียผมถึงไม่รู้สึกสักนิดเลยว่าแกงส้มได้ออกจากห้องไปแล้ว สงสัยจะโชว์ฝีมือทำอาหารแน่ๆเลย ช่วงนี้แกงส้มกำลังเห่อกับการเข้าครัวเนื่องจากเจอคู่แฝดเยินยอรสมือ ผมบิดขี้เกียจก่อนลุกไปจัดการตัวเองเพื่อลุยงานรับวันใหม่ ถึงการงานที่นี่จะเหนื่อยกายแต่เพราะลูกน้องที่ทำงานอย่างไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ไม่มีพวกขี้เมาคอยมีเรื่องมีราวหรือเด็กส่งยาที่คอยเอาของมาปล่อยในผับ ผมมีความสุขกับที่นี่มากกว่า โดยเฉพาะมีหนุ่มน้อยน่ารักที่คอยให้กำลังใจส่งข้าวส่งน้ำและส่งความสุขทุกวัน ผมรู้สึกว่าโลกนี้ได้หมุนรอบตัวผม...และความรักของเรา
    ผมเดินไปหาแกงส้มที่ห้องครัวเป็นอันดับแรกแต่ก็ไม่มีร่างสูงโปร่งนั้น โต๊ะอาหารก็ไม่มีอาหารเตรียมพร้อมเหมือนทุกวัน ความร้อนรนก็เข้ามาจู่โจมผมอย่างไม่ทันตั้งตัว แกงส้มไปไหน... ผมรีบวิ่งไปที่หลังบ้านเห็นแกงส้มนอนฟุบกับโต๊ะร่างนั้นกระตุกเบาๆ ผมค่อยๆก้าวไปหาอย่างเงียบๆ เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมถึงได้เข้าใจ...บุญหลงนอนแน่นิ่งอยู่ในกรง!!! ผมเอื้อมมือไปสัมผัสแกงส้มอย่างแผ่วเบา เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ...เมื่อวานบุญหลงยังแข็งแรงดีอยู่เลย แกงส้มที่ตอนนี้ตาบวมแดงเพราะการร้องไห้อย่างหนักเงยหน้ามามองผม น้ำตาที่หยุดไปแล้วก็ไหลพรากอาบหน้าอีกครั้ง
    “พี่ฮั่นบุญหลง... บุญหลงตายแล้ว ผมกำลังจะมาปล่อย แต่มันก็.....” แกงส้มร้องไห้โฮออกมาอย่างหมดอาย  ผมดึงร่างแกงส้มมาซบที่อก ไม่มีคำพูดใดๆที่จะปลอบโยน ผมหันไปมองนกน้อยที่ผมกับแกงส้มช่วยกันดูแลมาตลอด บุญหลงหลับให้สบายนะ ตอนนี้แกจะบินไปไหนก็ได้ อิสระอยู่ในปีกนั้นแล้ว....
    สายลมค่อนข้างแรงพัดปะทะร่างผมกับแกงส้มบนเนินเขา ดอกไม้ดอกเล็กสีเหลืองลู่ไปตามลมเกินจะทัดทานกระแสลมรุนแรงนั้น แกงส้มที่ตอนนี้หยุดร้องไห้แล้วแต่ร่องรอยความเสียใจนั้นอยู่ปรากฏบนใบหน้า ผมและแกงส้มพาบุญหลงมาอยู่ที่ต้นไม้ต้นแรกที่เราได้เจอบุญหลง บุญหลงจะได้นอนหลับที่นี่ไปตลอด
    “แกงส้ม...พี่จะหาคนทำมาให้ได้” ผมสัญญากับแกงส้มด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แต่แกงส้มกลับส่ายหน้า
    “เรื่องบางเรื่องไม่รู้ยังจะดีกว่า” แกงส้มลุกขึ้นยืนหลับตา แรงลมที่ปะทะร่างนั้นช่างดูทารุณกับคนรักของผม แกงส้มเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ การที่เห็นสัตว์ที่ตัวเองรักและทะนุถนอมถูกหักคอให้ตายอย่างโหดมันทำร้ายจิตใจเกินไป ไปเข้าไปกอดแกงส้มจากด้านหลังส่งผ่านความห่วงใยไปกับสัมผัสนั้น
    “พี่ฮั่น...ผม....” แกงส้มพูดออกมาอย่างยากลำบาก คงเป็นเพราะความเศร้าที่จู่โจมหัวใจอย่างไม่ทันตั้งตัว
    “พี่มียาคลายเครียดนะรู้มั้ย...สูตรพิเศษ” ผมทำเสียงให้แจ่มใสหมุนร่างแกงส้มมาให้รับการรักษา
    “ไม่ยักกะรู้ว่าพี่ฮั่นเป็นจิตแพทย์” แกงส้มเอียงคอพูดมองผมด้วยความสงสัย ผมโน้มตัวให้ปากสัมผัสกับริมฝีปากแกงส้ม มือเชยคางให้องศาใบหน้ารับกับการจูบที่แผ่วเบา ครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความต้องการในตัวแกงส้มอย่างที่ผ่านมา รอยจูบครั้งนี้เป็นสื่อถึงความห่วงใยที่ผมมีให้ผ่านความอ่อนหวานของร่างกาย แกงส้มหลับพริ้มเช่นเคย ร่างที่แข็งเกร็งค่อยๆผ่อนคลายในอ้อมกอดของผม มืออีกข้างโอบรัดเอวแกงส้มให้เข้ามาแนบชิดกับผมมากยิ่งขึ้น เข้าใจถึงสิ่งที่พี่ส่งไปให้ใช่มั้ย... พี่อาจจะไม่ใช่คนที่ปลอบใจเก่งนัก แต่ความรักที่พี่มีมันจะเยียวยาแผลใจของแกงส้มได้เอง...
     
    HUT talk
    ทันทีที่ผมรู้เรื่อง...ผมก็มุ่งหามาตามหาอลิซทันที ผู้หญิงคนนี้จะใจคอโหดร้านเกอนไปแล้วนะ แค่นกตัวเล็กๆ ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเธอก็เข่นฆ่าได้ลงคออลิซ...ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับพี่หญิงคนนี้จริง ยิ่งเห็นเธอนั่งอ่านนิตยสารแฟชั่นอย่างสบายใจโทสะของผมที่มีก็พุ่งสูงขึ้นโดยทันที
    “อลิซ...พี่รู้นะว่าเป็นฝีมือเธอ” ผมคว้านิตยสารออกจากมืออลิซทันทีที่ประชิดตัว
    “เรื่องอะไรคะ???” อลิซขมวดคิ้วทำหน้างุนงง ก่อนจะยิ้มอย่างเข้าใจ
    “เรื่องนกนั่นเหรอคะ???” น้ำเสียงที่อลิซพูดออกมาช่างดูเย็นชาจนน่ากลัว
    “ฝีมือเธอใช่มั้ย???” ผมถามอย่างเกรี้ยวกราด อลิซยิ้มมุมปากอย่างไม่สะทกสะท้าน
    “ใช่ แล้วจะทำไม” อลิซลอยหน้าพูดอย่างสะใจ ผมขว้างนิตยสารในมือลงพื้นข้างๆเท้าเธอ
    “นี่มันแค่เริ่มต้นอย่างเพิ่งโมโหสิคะ...ยังมีอีกเยอะ” อลิซตั้งใจจะยั่วโทสะผม ซึ่งมันก็ได้ผล
    “ไม่มีใครทำอะไรให้แล้วจะไปเที่ยวไล่ทำร้ายคนอื่นเค้าทำไม” ผมกีดฟันพูดเพราะไม่อยากจะตะโกนใส่ เพราะยังไงอลิซก็ถือว่าเป็นผู้หญิงถึงความร้ายกาจนั้นเกินที่จะให้อภัย
    “อย่าคิดว่าอลิซไม่รู้นะว่าที่คุณพ่อโดนจับเพราะใคร อลิซไม่ได้โง่!!!” อลิซตะคอกใส่หน้าผม
    “ใครที่ทำให้อลิซเป็นแบบนี้มันต้องได้รับการลงโทษอย่าสาสม รายแรกก็คนรักของพี่ฮัทยังไงละ...ตอนนี้คงเหมือนตกนรกทั้งเป็นหรืออาจจะแขวนคอตายไปแล้วรึเปล่าไม่รู้!!!” อลิซทำลายความอดกลั้นของผมหมดสิ้น ผมคว้าแขนอลิซอย่าแรงง้างมือจะฟาดไปที่หน้าสวยแต่น่ารังเกียจนั้น แต่ผมก็ชะงักไว้ทัน
    “ตบเลยสิคะ... ให้ลูกเราที่อยู่ในท้องได้รู้ว่าพ่อของเค้ารักคนอื่นกว่าครอบครัวของตัวเอง หรือถ้ามันลำบากนักอลิซจะไปเอาเด็กออกให้มัน ไหนๆคนเป็นพ่อก็ไม่ต้องการแล้ว” อลิซเชิดหน้าท้าทายผม ผมปล่อยมือจากร่างนั้นทันที เดินออกไปอย่างเจ็บใจ ถ้าผมควบคุมตัวเองได้ในวันนั้นเรื่องทุกอย่างมันคงก็จบได้สวยงามกว่านี้ ผมนึกไปถึงเฟรม...ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ ความทรมานของผมคือการได้รับรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำพลาดไปมันได้ทำร้ายคนที่เปรียบเสมือนดวงใจให้ตายทั้งเป็น...
     
    ปล. ทั้งที่ไรเตอร์เริ่มจะหมดไฟแต่งแต่มันก็ยาวมากๆเช่นเคย ช่วงนี้ใช้เวลาในการแต่งมากกว่าเดิมเยอะมาก รู้สึกไม่ค่อยเบิกบานเหมือนเมื่อก่อนเลย  อาจจะอัพไม่บ่อยเท่าเมื่อก่อนนะ แต่ถ้าอัพจะอัพเต็มตอนให้จ้าไม่ต้องกลัว อาทิตย์หนึ่งคงไม่น้อยกว่าสามตอน ถ้าอัพน้อยลงอย่าเพิ่งทิ้งกันนะถ้าสภาพไรเตอร์ดีขึ้นเมื่อไร่จะกลับมาอัพอลังการอีกครั้ง ถ้าชอบไม่ชอบก็เม้นติชมกันได้นะคะ เพราะไรเตอร์เข้าไปอ่านบ่อยๆ เห็นบางคนเม้นน่ารักดี ฮาๆ ชอบจ้า!!! ^^
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×