ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS8 (HKS) รักอันตราย นายมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 13 : แตกหัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.46K
      7
      23 เม.ย. 55

    นี่ผมตายรึยังเนี่ย...ทำไมตามันลืมไม่ขึ้นเลย ปวดระบมไปทั้งตัว แล้วพี่ฮั่นจะปลอดภัยรึเปล่านะ เท่าที่จำได้คือผมกระโดดด้วยแรงทั้งหมดไปปัดปืนจากมือคนร้ายคนนั้นที่กำลังจะยิงพี่ฮั่น แต่สิ่งที่นึกไม่ถึงคือนอกจากปืนแล้ว ไอ่บ้านั้นดันมีมีดอยู่ ท้องผมเลยกลายเป็นที่ลับมีดจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย ผมพยายามจะลืมตาขึ้นมา เปลือกตาเจ้ากรรมก็ช่างหนักเหลือกเกิน

    “แกงส้มมมม  ฟื้นแล้วเหรอลูก” เสียงแม่ดังขึ้นก่อนที่ผมจะเห็นหน้าแม่ซะอีก ความรักความห่วงใยของแม่มากมายล้นออกมาจนผมเองสัมผัสได้ พอสายตาปรับโฟกัสได้ผมก็เห็นใบหน้าที่ผมคิดถึงมากตลอด ครอยครัวของผมล้อมรอบเตียง ผมมีความสุขจนอดยิ้มไม่ได้

    “ทำเอาใจหายใจคว่ำเลยนะ ไอ่ตัวแสบ” พี่สาวผมยังคงความกัดจิกเหมือนเดิม แต่รู้นะว่าเป็นห่วงอ่ะ

    “เจ็บตรงไหนบ้างลูก” พ่อเยี่ยมหน้าออกมาคุยกับผม ผมยิ้มให้อีกที

    “ตรงท้องครับ” ผมรู้สึกตึงๆ บริเวณบาดแผล แต่ทำไมพี่ฮั่นไม่อยู่ตรงนี้เนี่ย ไปไหนของเค้าอยู่ในห้องน้ำหรือเปล่านะ จะขอบคุณสักหน่อยที่พาผมมาเจอกับคนที่ผมรัก

    “คนที่พาผมมาส่งละครับ เค้าไปไหนแล้ว” ผมถามขึ้นมาทุกคนมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ

    “คนที่ลูกช่วยไว้นั่นเหรอลูก” แม่เอียงคอถามผม ผมช่วยใครเอาไว้อย่างผมเน้นเป็นภาระไม่เน้นปกป้องใคร หรือว่าพี่ฮั่นจะไม่ได้บอกความจริงพ่อกับแม่ นั่นสินะ...ถ้าบอกไปได้มีคนเป็นลมแน่ๆ

    “ครับ...แล้วเค้าไปไหนละครับ” ผมเลยเล่นตามน้ำไป ว่าไงก็ว่าตามกันสิ

    “เค้ากลับไปสักพักแล้วล่ะลูก เดี๋ยวเค้าจะมาใหม่ ว่าเป็นแล้วแม่หนูเค้าก็น่ารักดีนะ ถ้าลูกไม่ไปช่วยอาจจะโดนทำมิดีมิร้ายก็ได้” แม่บอก แม่หนูไหนเนี่ย....

    “เออใช่...ดีแล้วหละลูกคนเราต้องช่วยเหลือกันสังคมจะได้สงบสุข แต่..คราวหน้าก็ใช้วิธีอื่นนะ อย่าห้าวหาญอย่างนั้นอีก โดนโจรแทงมาแบบนี้มันไม่คุ้ม” พ่อบอกอย่างอารมณ์ดี ผมพอจะจับเรื่องราวได้แล้ว ทางบ้านผมคงเข้าใจว่าสต๊อปถูกจะโจรทำร้าย แล้วผมเข้าไปช่วยแน่ๆ เลย โยนบทพระเอกมาให้กันเลยทีเดียว แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้ ผมก็ต้องมาอยู่ที่บ้านแล้วนะสิ ถามว่าดีใจมั้ย...ดีใจครับ แต่ในช่องท้องมันโหวงเหวงแปลกๆ ผมต้องห่างกับพี่ฮั่นแล้วเหรอ??? รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก แต่ไม่เป็นไรหรอกเนาะ เพราะยังไงผมต้องหาทางไปเจอพี่บ่อยๆ อยู่แล้ว คราวนี้แหละเราจะได้ออกไปไหนมาไหนด้วยกันได้สักที คราวนี้ผมก็จะเป็นคนที่มีความสุขที่สุด มีทั้งครอบครัวที่ผมรัก การเรียนในสิ่งที่ผมรักและความฝันที่ผมจะได้ทำต่อ ตอนนี้มีเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งสิ่ง คือ...คนรัก ที่ผ่านอะไรต่างๆมาด้วยกัน พี่ฮั่นผมรักพี่นะ....

     

     

    HUNZ talk

    ความทรมานเป็นอย่างไร ผมเพิ่งจะเข้าใจวันนี้ครับ แกงส้มยังอยู่ที่โรงพยาบาลหัวใจของผมก็เฝ้าวนเวียน ณ ที่ตรงนั้น  ผมขอร้องให้สต๊อปและไอ่แคนไปเยี่ยมแกงส้มแทนผมทุกๆวัน สต๊อปไม่พอใจที่ผมหนีแกงส้มมาเฉยๆ ไอ่แคนถึงแม้จะไม่พูดอะไรแต่ก็คงไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้แน่นอน ไม่มีใครเข้าใจผมหรอกครับ ว่าการที่เห็นคนรักเจ็บปางตายเพราะตัวเองมันเป็นยังไง ชีวิตเราสองคนมันแตกต่างกันมาก แล้วทางข้างหน้ามันจะเกิดอะไรขึ้นผมก็ยังไม่รู้ แล้วถ้าเกิดพลาดละ ถ้าไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้ ผมคงจะตายทั้งเป็น มันยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องสะสาง แล้วถ้ามันต้องมาคุกคามชีวิตแกงส้มอีกละ ข้างหน้ามันตอบไม่ได้ ชัยชนะวันนี้มันไม่ได้หมายความว่าผมจะต้องอยู่รอดตลอดไป ถ้าผมย้อนกลับไปได้ผมจะไม่เลือกเดินทางนี้ ทางที่มีอันตรายและหายนะ ผมจะเลือกทางที่ผมสามารถจูงมือแกงส้มเดินไปพร้อมกัน แต่ชีวิตผมตอนนี้ มันบังคับให้ผมต้องปล่อยมือคนที่ผมรัก ไม่ต้องมีใครมาเข้าใจผมหรอกครับ ไม่ต้องเข้าใจพี่นะแกงส้ม แค่รับรู้ถึงอณูความรักของพี่ที่ไหลเวียนรอบกายตัวเราว่ามันมากมายและมั่นคงแค่ไหนเป็นพอ

     

    นี่ก็หนึ่งอาทิตย์แล้วนะ ที่ผมนอนอยู่ที่โรงพยาบาลโดยไร้เงาพี่ฮั่น มันน่าน้อยใจนักทั้งที่พี่เอพี่บี พี่แคน สต๊อป ไม่เว้นแต่คนที่เพิ่งรู้จัก พี่ฮัทและเฟรม ก็ผลัดกันมาเยี่ยมทุกวัน พอถามถึงพี่ฮั่นทุกคนก็บอกตรงกันว่าต้องสะสางเรื่องทุกอย่าง อะไรกันเนี่ย...มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ??? ถ้ากลับมานะจะงอนซะให้เข็ดเลย วันนี้ผมต้องออกจากโรงพยาบาลแล้ว มันหวิวๆที่ไม่ได้ไปนอนที่นั่นอีกแล้ว เฮ้อออ!!! แต่เมื่อแลกกับการได้อยู่กับที่บ้านก็คุ้มอยู่ งั้นเอาไว้วันหลังถ้าแผลหายแล้วผมจะไปงอนถึงที่เลยนะพี่ฮั่น 5555

     “แกงส้มมมม...” เสียงสต๊อปดังมาจากประตู ผมหันไปตามเสียงเรียก

    “เก็บของเสร็จยัง” พี่แคนถามพลางจับนู่นนี่ พร้อมจะเก็บของไปที่รถ วันนี้พี่แคนกับสต๊อปอาสารับผมกลับบ้าน ที่บ้านเลยไปเตรียมห้องหับให้ผมหลังจากที่ไร้คนไปนอนค้างอ้างแรมมาสองเดือนกว่าๆ

    “เสร็จแล้วครับ” อีกครั้งที่พี่ฮั่นไม่มา พี่แคนมองหน้าผมเหมือนรู้ว่าผมชะเง้อมองหาใคร

    “ไอ่ฮั่นมันติดงาน แต่มันฝากพี่ดูแลเราเป็นอย่างดี มันเป็นห่วงเรามากนะ” พี่แคนเริ่มแก้ตัวแทนเพื่อน ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงน้อยใจไปแล้วแหละ แต่ทุกๆอย่างพิสูจน์มาแล้วว่าพี่ฮั่นรักผมมากแค่ไหน

    “ถ้ามานะ จะงอนจะไม่คุยด้วยเลย” ผมก็พูดเล่นไปงั้นๆ แต่พี่แคนกับสต๊อปกลับหน้าเสีย มองหน้ากันอย่างลำบากใจสุด ทุกคนคงลุ้นคู่ผมมากสินะ

    “พูดเล่นนะครับ เอาพอหอมปากหอมคอ” ผมเลยแก้คำพูดเล็กน้อย สต๊อปยิ้มฝืดๆ กลับมา

     

    หลังจากที่ผมกลับมาบ้าน ทุกคนก็มาเยี่ยมผมน้อยลง ก็ต่างคนต่างมีอะไรต้องทำ ผมเข้าใจครับ แต่ที่ไม่เข้าใจ ไอ่พี่ฮั่นหายไปไหนนะ นี่ก็ครึ่งเดือนแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน โทรไปก็ไม่ติด ไปหาที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่ คุยเรื่องนี้กับใครเค้าก็เหมือนไม่อยากตอบ นี่ผมเริ่มคิดมากแล้วนะเนี่ย หรือว่าพี่ฮั่นบาดเจ็บนะ มีปัญหาอะไร พี่ฮั่นถ้าพี่กลับมาผมจะไม่งอนพี่ ผมจะน่ารัก ผมจะไม่ดื้อ อย่าทำแบบนี้นะ กลับมาหาผมเถอะ ผมเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะ อย่าทิ้งผมไว้คนเดียวแบบนี้ พี่รู้มั้ยว่ามันแย่แค่ไหนที่เราคิดถึงใครสักคน แต่คนๆนั้นกลายเป็นบุคคลล่องหน ไม่สามารถจับต้อง ได้ยินเสียง หรือรับเรื่องราวได้เลย....

    “ปี๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!” เสียงแตรรถดังขึ้นทำเอาผมสะดุ้ง ใครกันนะ ผมเปิดประตูออกไปที่ระเบียง เห็นรถญี่ปุ่นคันหรูจอดอยู่หน้าบ้านของเพื่อนบ้านผมที่อยู่ตรงกันข้าม ได้ข่าวว่าย้ายออดแล้วนะ ทำไมถึงเอารถมาจอดไว้หน้าบ้านก็ไม่รู้ ลมโชยเย็นๆกับกลิ่นดอกไม้ที่พ่อปลูกไว้ลอยมาปะทะจมูกผม ทำให้จิตใจสบายขึ้น ผมเดินเข้าไปเอากีต้าร์มาเล่นที่นอกระเบียง ไม่อยากคิดเรื่องพี่ฮั่นมาก ยิ่งคิดยิ่งเครียด ยิ่งเครียดยิ่งเศร้า ไม่เอาๆ แกงส้ม ห้ามคิดมาก ห้ามหวั่นไหว ร้องเพลงดีกว่า

    “ก็มันไม่อยากรู้ ก็มันไม่อยากรัก ไม่มีเวลาที่จะคิด ที่จะสนใจ แต่พอได้เจอะเธอ ก็ดูชีวิตมันผิดเพี้ยนไป ฉันกลายเป็นคนอ่อนแอ ไม่ชอบเลยเมื่อไรที่อยู่ใกล้เธอ ฉันรู้สึกราวกับเคลิ้มไป ไม่เป็นตัวเอง ไม่เหมือนเคยแต่พอเธอห่างหายไป คิดจะลืมยังไม่ได้เลย ทำไมต้องเป็นไม่เข้าใจ.....”

     

    HUNZ talk

    ผมห้ามมันไม่ได้จริงๆ ความคิดถึงที่ผมมีต่อแกงส้มมันมากมายเหลือเกิน ผมซื้อบ้านหลังนี้ไว้เพื่อจะจอดรถไว้มองคนรักของผมอย่างนี้ไว้ผมอยากเห็นแค่เพียงว่าห้องของแกงส้มปิดไฟนอนเมื่อไหร่ แค่เห็นเงาผ่านทางหน้าต่างก็ทำให้หัวใจของผมก็ไหวระริก ผมทำร้ายความรู้สึกตัวเองเกินจะทน แต่ผมก็ทนมาได้ถึงป่านนี้ ทำไมไม่มีใครจับผมไว้ ห้ามไม่ให้ผมทำอะไรแบบนี้ การรอคอยที่มั่นคงของแกงส้ม ทำให้ผมอยากเข้าไปกอดแน่นๆอยากจูบที่ริมฝีปากนั้นไว้เนิ่นนาน ไม่อยากให้ร่างนั้นห่างผมเลยแม้แต่น้อย แกงส้มพี่ต้องไปแล้วจริงๆนะ พี่ต้องจากเราไปไกลคนละซีกโลก พี่คงทำใจไม่ได้ถ้าต้องเห็นสิ่งเดิมๆ ที่มีความทรงจำเกี่ยวกับแกงส้ม ไอ่ฮั่นแกทำอะไรลงไป แกต้องการอะไรกันแน่ ทำไมแกต้องสับสนแบบนี้ ทำไมไม่ทำตามความคิดตัวเอง ยอมแพ้ความรู้สึกแบบนี้ แกไม่เคยเป็นแบบนี้

    “ปี๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!” ผมโมโหตัวเอง ระบายอารมณ์กับพวงมาลัยรถเป็นเหตุให้เสียงแตรดังลั่น ผมหันไปมองทางห้องของคนที่ผมคิดถึงตัวเองเป็นที่สุด สิ่งที่หัวใจผมรอคอยได้ก้าวออกมา ใบหน้านั้นที่ผมคิดถึงมากที่สุด แกงส้มเปิดประตูระเบียงออกมา คงเป็นเพราะเสียงแตรรถเมื่อกี้

    “แกงส้ม...พี่รักเรานะ พี่อยู่ตรงนี้ หันมามองพี่บ้างสิ” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ริมฝีปากยิ้มออกมาแบบไม่รู้ตัว เหมือนกับน้ำตาที่ไหลมาเป็นทางที่ผมไม่อาจห้ามจริงๆ ผมนั่งมองแกงส้มนั่งเล่นกีต้าร์ร้องเพลงที่ระเบียง ใบหน้านั้นดูเศร้า คงเป็นเพราะพี่สินะ พี่ขอโทษจริงๆ....

     

    สุดท้ายเวลาที่ผ่านไปสามเดือนนั้น ไม่มีแม้แต่ร่องรอยข่าวคราวของพี่ฮั่น ผมพยายามไม่คิดเรื่องอะไรทั้งนั้น ผมไม่ถามหาพี่ฮั่นกับใครอีกแล้ว ผมไม่อยากให้ทุกคนลำบากใจ ผมมองออก ตอนนี้ผมก็เปิดเทอมแล้ว ก็ยังดีที่มีเรื่องเรียนเข้ามาให้ชีวิต ผมไม่มีเวลาคิดเรื่องเครียดมากเหมือนเมื่อก่อน แต่ทุกครั้งที่ล้มตัวลงนอนก็ต้องมีน้ำตาทุกๆ คืน  มีแต่คำถามอยู่ในหัวผม เป็นคำถามที่ไม่อาจหาคำตอบได้ เป็นคำถามที่มีเพียงคนๆเดียว สามารถตอบได้ แต่เค้าหายไปไหน หายไปตามสายลม....พี่ฮั่น พี่ไม่คิดถึงผมเหรอ พี่หมดรักผมแล้วเหรอ ผมยังมีความหวังที่จะรอคอยพี่นะ พี่อย่าทำให้ผมต้องรออยู่แบบนี้ได้มั้ย ผมรักพี่นะ ได้ยินมั้ย??? กลับมาหาผมเดี๋ยวนี้นะ ผมรักพี่นะ...พี่ฮั่น

    “เฮ้ย!!! ร้องไห้ทำไม”เพื่อนผมเข้ามาทักอย่างตกใจ ผมร้องไห้เหรอ ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย

    “ง่วง น้ำตามันเลยไหล” ผมตอบแบบขอไปที เฉไฉเก็บของที่อยู่บนโต๊ะ เพื่อนผมยังไม่คลายความสงสัย

    “เออ...วันนี้จะไปเที่ยวกัน ไปมั้ย ช่วงนี้แกดูเครียดๆ ผ่อนคลายหน่อยสิ” เพื่อนผมตบบ่าอย่างเป็นห่วง ผมเลยหันไปยิ้มหวานให้หนึ่งที เป็นเครื่องตอบเทนความห่วงใยที่จริงใจ

    “ขอบใจที่ชวนนะ แต่รู้สึกไม่ค่อยสบาย ขอบายก่อนนะ” ผมบอกออกไป แค่อยากกลับไปที่บ้านเท่านั้น ยิ่งเห็นผู้คนมากมายแทนที่ผมจะดีขึ้น มันทำให้ผมคิดถึงเรื่องเก่าๆ ทุกที

    “เออๆ ตามใจ แต่มีอะไรเครียดก็บอกนะ อย่าเก็บไว้คนเดียวทุกคนเค้าเป็นห่วงนะเว้ย ไปก่อนละ” เพื่อนผมบอกก่อนที่เดินออกไปหากลุ่มเพื่อนกลุ่มใหญ่ ผมเดินไปที่ลานจอดรถเพียงลำพัง เสียงมือถือดังขึ้น

    “ฮัลโหล” ผมกรอกเสียงไปตามสาย ที่โชว์ว่าเป็นพี่สาวคนสวยของผมโทรมา

    “อยู่ไหนเนี่ย เค้าอยากกินเค้ก ซื้อกลับมาหน่อย” ประโยคแรกที่ถามคือตามมารยาทครับ ประโยคต่อมาคือความต้องการของเจ้เค้า จริงๆเลยนะเนี่ย

    “ทำไมไม่ออกมาซื้อเองล่ะ” ผมถามไป ที่บ้านก็มีรถทำไมต้องมาใช้ผมด้วยเนี่ย เปลืองตังค์!!!

    “เค้าไม่อยากออกไป ตัวอยู่ข้างนอกอยู่แล้วก็ซื้อมาสิ” เสียงอ้อนของเจ้ ทำเอาผมใจอ่อน

    “อื้มๆๆ ไหนว่าจะลดความอ้วน กินเค้กเนี่ยนะ คงจะผอมเนาะ” ผมประชดเล็กๆ น่ารักๆ ก็พี่สาวผมสาบานกับตัวเองทุกวันว่าจะลดความอ้วน อย่างนู้น อย่างนี้ แล้วก็เป็นแบบนี้ตลอด คงผอมได้อ่ะนะ

    “ตัวก็ซื้อที่มันแคลอรี่น้อยสิ” เสียงเจ๊แกออกแนววีนๆ เล็กเพราะผมไปขัดคอ

    “จ้าๆๆ เอาเค้กอะไร สั่งมาเลยคร้าบบบบบ” ผมเลยตอบเอาใจสักหน่อย เดี๋ยวจะมางอนผมจริงๆ

    “เอาครัมเบิลเค้ก  เค้กนมสด แล้วก็เวนิสช็อกโกแล็ตเค้ก”  บร๊ะเจ้า!! แต่ละสิ่งอันแคลอรี่น้อยมาก

    “พอเหรออ???” ผมประชดไป ผมเลยโดนบ่นและทวงบุญคุณตั้งแต่สมัยเก่าก่อน นี่แหละใครเค้าให้เกิดมามีพี่สาว เฮ้อ!!!  ยังไงผมก็ไม่ยอมลำบากมากเพื่อพี่สาว ถ้ามีร้านเบเกอรี่ริมทางผมก็คงแวะเลยแหละ นี่ไง!!!  ผมเห็นป้ายร้านแล้ว “Bloody Sweetie” ชื่อแปลกมาก พอจอดรถเห็นการตกแต่งร้านอยากบอกว่า เท่มาก เหมือนปราสาทของแดร็กคูล่า สีแดงดำตัดกันสวยทำให้ร้านดูโดดเด่นกว่าร้านในบริเวณเดียวกัน

    “สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับครับ” เสียงชายหนุ่มที่ผมรู้สึกคุ้นเคยดังออกมา

    “แกงส้ม” พี่เอครับ พี่เอในชุดสีดำที่ดูเรียบ หรู หล่อ ร้าย หลังเคาท์เตอร์

    “พี่เอ นี่ร้านพี่เหรอ...” ผมถามขึ้น พี่เอพยักหน้าและยักคิ้ว ผมเดินเข้าไปกอดทันที พี่บีเดินออกมาจากหลังยิ้มกว้างทันทีที่เห็นผม ก่อนที่จะเข้ามากอดผมเหมือนกัน

    “ถึงว่าสิ เห็นบ่นว่ายุ่งๆ ที่แท้แอบซุ่มเปิดร้านนี้เอง” ผมแซวพี่เอพี่บีหัวเราะเบาๆ

    “เพิ่งเปิดได้สองอาทิตย์เอง ยังไม่ได้จัดงานเปิดเลย ก็ว่าชวนมางานวันนั้นแหละ” พี่บีตอบ ผมหันไปมองบรรยากาศร้าน ร้านตกแต่งแบบน่ากลัว เท่ๆ แต่ลูกค้านี่สิครับ มีแต่สาวๆ

    “ร้านนี้ สาวๆ เต็มร้านเลย” ผมหันไปคุยกับพี่เอ พี่เอที่กำลังง่วนกับการชงกาแฟหันมามองหน้าผม

    “แปลกใจอยู่เนี่ย ความจริงว่าจะเปิดให้ชาวร็อคมากินนะ แต่ไหงเป็นสาวๆก็ไม่รู้” ก็แหม...เจ้าของร้านฝาแฝดทั้งหล่อทั้งเท่ แค่นี้ก็เกินพอแล้ว ไหนจะรสชาติที่ผมเคยชิมอีก กินขาด เฮ้ย...อะไรนะ!!! พี่คิดว่าชาวร็อคจะมานั่งชิมทานเค้ก จิบกาแฟเหรอ...คนอย่างพี่สองคนไม่ได้หาง่ายแบบนั้นนะครับ

    “แล้วตอนนี้แกงส้มเป็นไงบ้าง ทำอะไรอยู่” พี่บีถามผมเมื่อมือว่างแล้ว

    “ก็เรียนหน่ะครับ ยุ่งมากๆ” ผมตอบแล้วดูดนมเย็นฝีมือเจ้าของร้านสุดหล่อ

    “คิดถึงเรามากเลยเนี่ย แต่พี่ก็ยุ่งเหลือเกิน” พี่บีพูดแกมบ่น พี่เอที่เตรียมเค้กให้ผมเดินมายื่นกล่องเค้กให้  ผมหยิบกระเป๋าเงินเตรียมจะจ่าย

    “หยุดเลยนะ ไม่ต้องจ่าย” พี่เอพูดเสียงดุ ผมเลยยิ้มแห้งๆไปให้

    “ดีครับไม่ต้องเปลือง” ผมเลยพูดเล่นไปสักหน่อย พี่เอพี่บีมองหน้าผมเหมือนหาร่องรอยอะไรบ้างอย่าง ไม่มีหรอกครับความเจ็บปวด มันอยู่ในใจครับพวกพี่มองมันไม่เห็นหรอก

    “พี่นะเบื่อมากเลย พี่ต้องตื่นมาเจอไอ่เอคนเดียว ทะเลาะกับมันทุกวัน คิดถึงเรามาก พี่ฮั่นด้วยไปแอลเอได้สองเดือนกว่าแล้ว โอ๊ย!!!” พี่บีพูดอะไรออกมานะพี่ฮั่นไปอเมริกาเหรอ? ไม่ร่ำลาเราสักคำนี่นะ ผมพยายามสะกดตัวเองไม่เห็นแสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา พี่เอมองหน้าพี่บีอย่างโกรธจัด

    “ผมกลับก่อนนะครับ” ไม่รอฟังอะไรทั้งสิ้น ขอออกไปจากตรงนี้... พี่ฮั่นพี่ใจร้ายมากเลยรู้มั้ย ผมมองพี่ในแง่ดีมาตลอด ไม่เคยโกรธมีเพียงความน้อยใจ แต่ผมไม่เคยคิดว่าพี่จะทำร้ายผมได้ลงคอ ผมไม่โกรธไม่โทษใคร เพราะผมเองนี่แหละ... ที่ทำให้ตัวเองต้องเจ็บปวดแบบนี้ ไม่ใช่แค่น้ำตาที่เป็นหลักฐานยืนยันความทรมานของผม ผมปล่อยโฮอยู่นอกร้านไม่สนใจใครอีกแล้ว โง่เองนิ สมน้ำหน้า คิดว่าเค้าจะรักตัวเองจริง คิดว่าตัวเองเป็นคนครองหัวใจเค้า คิดว่าตัวเองสำคัญ การที่เค้าทิ้งขว้างมาสามเดือนยังไม่ทำให้รู้เนื้อรู้ตัวใช่มั้ย ต้องถูกตอกย้ำแบบนี้ถึงจะสำเหนียกตัวเอง แกงส้มแกมันโง่!!!  ความสุขที่หายไปเพื่อรอแลกกับความหวังลมๆแล้งๆ เจ็บมั้ย...ตกลงมาเจ็บมั้ย โดนหักหลังเจ็บมั้ย หัวใจเหรอตอนนี้มันกลายเป็นเศษผงธุลีไปแล้ว พี่ฮั่น พี่ทำแบบนี้กับผมได้ยังไง พี่มันไม่มีหัวใจ พี่มันไม่มีความรู้สึก ผมจะลืมพี่ให้ได้ ผมจะไม่โง่งมงายแบบนี้อีกแล้ว ในเมื่อพี่ไปจากชีวิตผมอย่างไม่แคร์อะไร พี่ก็ไปจากหัวใจผม ไปจากความทรงจำผม ไม่มีอีกแล้ว ชีวิตของผมจะไม่มีคนที่ชื่อ “ฮั่น” อีกต่อไป......

     

    ปล. โอ๊ยยยย!!! ชีวิตจริงเค้าพรากจากกันไม่พอ ยังจะมาซ้ำเติมในฟิคอีก ไรเตอร์นี่มันน่าตบนัก!!!

    ด่าตัวเองแล้วนะ อย่ามาว่าเค้านะ>>>>>>> อ่านแล้ว เม้นให้หน่อยนะจ๊ะ เป็นกำลังที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว ^^

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×