ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS8 (HKS) รักอันตราย นายมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 12 : ฝันร้าย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.33K
      7
      20 เม.ย. 55

    ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่านะครับ ว่าช่วงนี้พี่ฮั่น พี่แคน และพี่เอพี่บีดูยุ่งๆ เครียดๆ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมกับสต๊อปต้องช่วยกันทำอาหารเย็นเพื่อนเลี้ยงสมาคมลับ ลวง พราง มาตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา พี่แคนช่วงนี้ก็ดูจะมาที่นี่บ่อยเหลือเกิน ก็แน่นอนสิครับรักกันมาตั้งนานไม่บอกไม่เปิดเผย พอได้โอกาสบอกรักเท่านั้นแหละ ความหวานกระจาย เอาซะพี่ชายสุดโหดของสต๊อปแอบหมั่นไส้อยู่ไม่น้อย

                    “ไอ่แคนแกไม่มีที่อื่นกินข้าวรึไง เปลือง” พอนึกถึงก็มาพอดี เสียงพี่ฮั่นที่ออกอาการหวงน้องสาว

                    “ที่นี่กับข้าวอร่อย ชั้นก็เลยมา” ทั้งที่ปากคุยกับพี่ฮั่น แต่สายตามองมาทางผมกับสต๊อป สาวเจ้าก็ใช่ย่อยยิ้มกว้างตั้งแต่ได้ยินชื่อที่พี่ฮั่นเรียกแล้ว โอ๊ยยยยย!!! จะหวานไปไหนเนี่ย

                    “แกช่วยชั้นออกค่ากับข้าวเลยนะ” พี่ฮั่นเดินมานั่งข้างๆ ผม บ่นเป็นหมีกินผึ้งขณะที่เอนตัวลงเต็มที่

    “แกก็รวมไปกับค่าสินสอดเลย” พี่แคนตอบกลับอย่างทะเล้น พี่ฮั่นเด้งตัวขึ้นมาทันทีทันใด

    “เฮ้ยๆๆๆ ฝันไปไกลล่ะ น้องสาวชั้นยังเด็กอยู่ รอเรียนจบเอกสักสามใบแล้วค่อยแต่ง” พี่ฮั่นร้องโวยวายขึ้นมา พี่แคนแอบส่งยิ้มให้สต๊อปที่กวนโมโหพี่ชายมาเฟียขาใหญ่ได้

    “วันนี้มีอะไรกินจ๊ะ” พี่แคนนั่งลงถามสต๊อป ทั้งน้ำเสียงและแววหวานซะผมแทบจะละลายแทน

    “หลายอย่างค่ะ มีเมนูปลาของพี่แคนด้วยน้า สต๊อปทำเองเลย” สต๊อปเองก็เอียงคอน่ารักตอบ คู่นี้ไม่ไหวๆ ทำเอาผมอิจฉาตาร้อน ถ้าจะขนาดนี้นะไม่ต้องเสิร์ฟแล้วของหวาน นั่งแค่มองคู่นี้ก็เบาหวานขึ้นตาแล้ว

    “แกงส้ม พี่อยากกินน้ำพริกปลาทู” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาบ้าง อะไรของเค้าเนี่ย ทำเสียงออดอ้อนต่อหน้าคนอื่นเหรอ สงสัยอยากจะโชว์ว่าตัวเองก็มีคนเอาใจเหมือนกันละสิ...หึหึ ไม่จริงใจอย่ามาหวัง!!!

    “กับข้าวเยอะแยะ วันหลังค่อยทานนะ” ผมตอบอย่างเรียบเฉยก่อนจะหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน

    “ทำไมไม่สนใจกันเลย ไม่เอาแล้วไปอาบน้ำดีกว่า” พี่ฮั่นแอบเหวี่ยงเป็นเด็กๆ ผมก็ยังคงแกล้งไม่สนใจเหมือนเดิม พี่แคนกับสต๊อปนั่งหัวเราะคิกคักในท่าทางแอ๊บน่ารักแต่ไปไม่รอดของพี่ฮั่น

    “ตามมาถูหลังด้วย!!!” ประโยคนี้ทำเอาพี่แคนที่กำลังดื่นน้ำสำลักน้ำทันที ผมถึงขั้นฮาก๊ากออกมา สงสัยจะถูกผีน้อยที่ไหนเข้าสิงแน่ๆ เลย พี่แกถึงได้สวมวิญญาณเฒ่าทารกได้น่ารักและเนียนขนาดนี้ คงต้องตามไปไล่ผีซะหน่อยล่ะ...เปล๊า!!!(เสียงสูงงงงงง) ไม่ได้จะไปถูกหลังให้สักหน่อย อย่าคิดลึกสิ!!!! 55555

     

    FRAME talk

    เสียงเพลงเบาๆ ฟังสบายเท่านั้นที่จะเป็นเพื่อนของชั้นในตอนนี้ ชีวิตโดยรวมของชั้นตอนนี้ก็ดีขึ้นมา การที่มีสต๊อปเป็นเพื่อนอีกครั้ง ทำให้ความเครียดที่สะสมมาหายไปได้อย่างเหลือเชื่อ แต่สิ่งที่วนเวียนในความคิดคือ รอยจูบ...ของนายหน้าตี๋นั่น  คนบ้า!!! ไม่มีเหตุผลอะไรเลย ไม่แม้แต่จะรับฟัง นี่คงหลงรักสต๊อปมาก พอสต๊อปได้ลงเอยกับพี่แคนคงทำใจไม่ได้ แต่มันไม่มีความจำเป็นอะไรต้องมาโทษว่าเป็นความผิดเราทั้งหมด ความรักมันบังคับกันได้ที่ไหน โชคดีนะที่สต๊อปเลือกพี่แคน ขืนให้อยู่กับนายหน้าตี๋ปัญญาอ่อนนี่คงปวดหัวตายเข้าสักวัน

    “เฟรม...มีเพื่อนมาหาลูก” เสียงคุณแม่เรียก นี่มันทุ่มกว่าๆ แล้วใครมาหาเราตอนนี้กัน

    “คร้า เดี๋ยวเฟรมตามไปค่ะแม่” ชั้นลุกขึ้นส่องกระจกตรวจดูสภาพก่อนจะตามลงไป จากที่สงสัยว่าใครมาหา แทบอยากจะตบหน้าตัวเอง นี่ชั้นฝันไปรึไงนะ นายตี๋นั้นเหรอมาหาชั้น....

    “มาทำไม” ปากที่ไวเท่าความคิดก็หลุดออกไปอย่างไม่รักษาน้ำใจ แต่ก็ไม่ทำให้ใบหน้านั้นหวั่นไหวเลยแม้แต่นิด เห็นแล้วมันโมโห กล้ามากเลยนะ!!!

    “มาหาเธอไง ออกไปคุยข้างนอกกัน” ว่าแล้วนายฮัทก็เดินนำออกไป ไม่ถามชั้นสักคำเลย......

    “มีอะไรจะพูด ก็รีบๆพูดมา ไม่อยากเห็นหน้านานๆ” พอร่างสูงหยุดที่สวน ชั้นก็พูดขึ้นทันที

    “เราขอโทษนะ” อะไรนะ เมื่อกี้นายคนนี้ขอโทษเราเหรอ มาหาเราที่บ้านเพื่อที่จะมาขอโทษนี่นะ

    “อะไรของนาย” ชั้นโพล่งถามออกไป นายฮัทยิ้มน้อยๆ คงเพราะชั้นลืมเก๊กหน้าละมั้ง

    “เรามาขอโทษเธอ ที่เรา...”พอถึงคำๆนั้น นายฮัทก็หน้าแดงหยุดพูดไปดื้อๆ อย่าว่าแต่ตานั่นเลย เราเองก็หน้าแดงร้อนผ่าวอยู่ คิดถึงเรื่องนั้นแล้วมัน อร๊ายยยยยยย!!! บรรยายไม่ถูกจริงๆ

    “เห็นแก่ความจริงใจนะ แต่ใช่ว่าชั้นจะญาติดีกับนาย” ก็ไหนๆ เค้าก็มาขอโทษแล้วนิ แต่จะให้ทำดีกะอีตาบ้าคนนี้ไม่ไหวจริงๆ คนอะไรเอาแต่ใจ อารมรณ์รุนแรงชะมัด มันต้องมีใครดัดนิสัยสักหน่อย

    “อื้ม...ขอบคุณนะ เราเสียใจจริงๆเมื่อคืนนอนไม่หลับเลยมัวแต่คิดเรื่องเธอ” นั้นใช่เสียงตาบ้าที่อยู่ตรงหน้าเราเหรอ เพราะปรกติชอบทำเสียงเข้ม แต่ตอนนี้น้ำเสียงดูเหมือนคนขาดความมั่นใจ

    “พูดมากจัง ชั้นจะเข้าบ้านแล้ว นายกลับไปได้แล้ว” ความรู้สึกแบบนี้มันไม่ดีเลย รู้สึกดีกับนายนี่ได้ยังไงทั้งที่นายคนนี้ร้ายกาจจะตาย เฟรมเธอห้ามใจอ่อนเชียวนะ ศัตรู...ท่องเอาไว้

    “เฟรม...เราขอสมัครเป็นเพื่อนกับเธอได้มั้ย” นายฮัทพูดด้วยแววตาอ่อนโยน คงไม่แปลกหรอกถ้าสต๊อปเป็นผู้ได้รับแววตาแบบนี้ แต่ชั้นคนเดียวเพียวๆ ที่ได้รับสายตานี้ มันชวนขนลุกน่าดู

    “อะไรของนายเนี่ย ชั้นขนลุกหมดแล้วนะ” ชั้นพูดออกไปตรงๆ นายฮัทถึงขั้นหัวเราะออกมา ส่งยิ้มมาให้ก่อนจะเดินออกไปจากบ้านชั้นเฉยๆ อะไรของเค้านะ หรือเข้าใจว่าที่ทำมันเท่.......มันไม่จริงนะนาย!!!

     

    HUNZ talk

    พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่ผมต้องไปจัดการทุกๆอย่างให้เรียบร้อยสักที ผมต้องระดมลูกน้องทั้งหมดเพราะหวังพึ่งพาตำรวจไม่ได้ เนื่องจากไอ่เต้เอาเงินไปยัดไว้หมดแล้ว ผมต้องวางแผนกับพ่อของเฟรมอย่างรอบคอบมากที่สุด แกงส้มคงต้องอยู่ที่บ้าน ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าผมจะส่งตัวเค้ากลับบ้านแล้ว ไม่รู้ว่าเจ้าตัวดีจะรู้สึกยังไง แต่ผมสัญญาไม่ว่าชีวิตเราจะเปลี่ยนไปซักแค่ไหน ผมจะคงดูแลแกงส้มเท่าที่ชีวิตและลมหายใจของผมจะทำได้ ถึงอาจจะไม่เห็นแววตาตอนง่วงนอนที่แสนจะน่ารักทุกๆวัน แต่พี่จะเป็นคนที่ราตรีสวัสดิ์เราเป็นคนสุดท้ายในทุกๆ คืนนะ ต่อจากนี้ไปทุกลมหายใจของผู้ชายคนนี้จะเป็นคนเรานะ..แกงส้ม

    “พี่ฮั่น พรุ่งนี้จะกินน้ำพริกปลาทูเหรอ” เจ้าของหัวใจผมพูดขึ้น ทำให้ผมหลุดจากภวังค์

    “อยากกินวันนี้ พรุ่งนี้อยากกินแกงส้ม” ผมเลยพูดด้วยท่าทางกรุ่มกริ่มนิดๆ ทำเอาแกงส้มเบือนหน้าหนีด้วยความอาย ผมดึงมือให้มานั่งบนเตียงข้างๆ กัน เจ้าตัวก็ไม่ได้ฝืนตัวแม้แต่น้อย

    “พี่ฮั่นไปอาบน้ำได้แล้ว ผมง่วงแล้วเนี่ย” แกงส้มรีบไล่ผมไปอาบน้ำ

    “อย่าเพิ่งง่วงสิ กลับมาจากอาบน้ำ มาคุยกันต่อ” ผมกระซิบข้างหู แกงส้มหันมามองหน้าผมอมยิ้ม

    “คุยอะไรกันนักหนา ยังอยู่ด้วยกันอีกนาน ตอนนี้ที่ต้องไปทำคืออาบน้ำ” แกงส้มดุผม ผมเลยลุกเพื่อจะไปอาบน้ำตามคำสั่งของสุดที่รัก แกงส้มล้มตัวลงนอนก่อนที่ผมจะเข้าไปในห้องน้ำ น่ารักทุกท่าจริงๆ

    พออาบน้ำเสร็จ ร่างสูงโปร่งที่บอกให้ผมอาบน้ำตอนนี้หลับสนิท ผมเลยเดินไปปิดไฟ เหลือไว้เพียงแต่ไฟสลัวสบายตา อยากเห็นหน้าแกงส้มไปตลอดคืน ไม่อยากหลับและไม่อยากปลุก ผมลูบผมของแกงส้มอย่างเบามือ ตาที่หลับพริ้มดูเหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสายังคงสะกดใจผมให้ต้องมนตร์แห่งความรักไม่เสื่อมคลาย มือของแกงส้มควานสะเปะสะปะ มาหยุดที่มือของผมก่อนที่จะดึงไปแนบแก้ม

    “ยังไม่นอนเหรอ” ผมทอดตัวยาวขนานไปกับแกงส้มอกของผมแนบชิดสนิทกับแผ่นหลังของแกงส้ม ช่างเป็นสัมผัสที่อบอุ่นน่าสัมผัสเสียจริงๆ

    “หลับไปแล้ว แต่พี่ฮั่นไปตามผมในฝันว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ผมเลยตื่นขึ้นมานี่ไง” เจ้าตัวพูดทั้งๆที่หลับตาอยู่ แกงส้มเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกผมเสมอ ยอมไม่หลับเพื่อรอผมคุยด้วย จะไม่รักได้ยังไงล่ะ

    “แกงส้ม....พี่รักเรานะ หลับฝันดีนะครับ” ผมโน้มตัวไปกระซิบข้างหู แอบเห็นรอยยิ้มเล็กๆที่มุมริมฝีปากน่ารักนั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะด่ำดิ่งสู่ห้วงนิทราในอ้อมกอดของผมที่พร้อมจะปกป้องคนๆนี้เสมอ....

     

    วันนี้ทำไมที่บ้านเงียบแบบนี้เนี่ย พี่ฮั่นและพี่ชายแฝดของผมหายตัวอย่างไร้ร่องรอย ตั้งแต่ตื่นมายังไม่เห็นเงาของใครสักคน รถพี่ฮั่นหายไปคันเดียว สงสัยจะไปด้วยกัน แปลกนะเนี่ย เพราะไม่ว่ายังไงพี่ฮั่นต้องให้คนมาเฝ้าผมอย่างน้อยก็หนึ่งคน สต๊อปก็ไม่อยู่ ได้ข่าวว่าวันนี้จะไปหาเฟรมอะไรเนี่ยแหละ อิจฉาคนออกบ้านได้ ทำไมเราต้องนั่งเหงาอยู่คนเดียวด้วยนะ ขืนเป็นแบบนี้นานๆมีหวังกลายเป็นง่อยเข้าสักวัน ถึงจะมีความสุขมากเพราะพี่ฮั่นแต่การที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่เป็นตัวเองก็เบื่ออยู่พอสมควรเหมือนกัน คิดถึงเพื่อน คิดถึงทุกคนที่บ้าน คิดถึงการเต้น คิดถึงการร้องเพลง แต่จะพูดออกไปได้ยังไงล่ะ ถ้าพูดออกไปพี่ฮั่นก็จะเสียใจอีก.... พี่ฮั่นมีเรื่องต้องเหนื่อยมาเยอะ ผมเองต้องเป็นคอยเป็นกำลังใจให้ตลอด เสียงมือถือเรียกความสนใจของผม เบอร์ที่โทรเข้าเป็นเบอร์แปลกหน้า

    “สวัสดีครับ” ผมรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงดูมีมารยาท

    “แกงส้มใช่มั้ย” เสียงเข้มของชายหนุ่มที่ผมไม่คุ้นตอบกลับมา

    “ครับ มีธุระอะไรเหรอครับ” ผมไม่ค่อยวางใจใครสักเท่าไหร่ จะโทรมาขายประกันรึเปล่าเนี่ย

    “พี่ฮั่นถูกดักทำร้ายบาดเจ็บครับ อยากจะให้แกงส้มไปหาหน่อยครับ” โลกแตกเลยที่นี้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทั้งที่เจ้าตัวก็แข็งแรงมาก ลูกน้อยก็ไม่น้อยคนทำไมถึงถูกดักทำร้ายได้นะ

    “ที่ไหนครับ โรงพยาบาลไหนครับ” ผมรีบถามออกไปทันที ความเป็นห่วงพี่ฮั่นมาเหนือสิ่งอื่นใด

    “พี่ฮั่นไม่ยอมไปโรงพยาบาล ก็เลยต้องให้แกงส้มช่วยพูด” ตามสายพูดตอบมา พี่ฮั่นทำไมดื้อแบบนี้นะ รู้ว่าเก่งแต่ไอ่คนเก่งๆเนี่ยแหละมันจะตายเอาง่ายๆ ลูกน้องพี่ฮั่นบอกสถานที่แล้วก็วางสายไป ผมโทรหาสต๊อปแต่ไม่มีคนรับ จึงตัดสินใจส่งข้อความบอกเหตุด่วนที่เกิดกับพี่ฮั่น ก่อนที่ผมจะวิ่งไปเอากุญแจรถขับออกไป พอไปถึงที่นัดกลายว่าเป็นโรงงานเก่าๆ แต่ขนาดบ้านที่พี่ฮั่นกับผมอยู่ตอนนี้ข้างนอกก็ดูโทรมๆ ที่นี่ก็คงเหมือนกัน ผมเลยเดินเข้าไปข้างใน แต่ก็ไม่เห็นจะมีใครสักคน

    “พี่ฮั่น... พี่เอพี่บี” ผมตะโกนเรียกแต่ก็ไม่มีเสียงใคร ตอบกลับมาสักคน หรือว่าจะมีใครเล่นตลกกับผม ความรู้สึกไม่ปลอดภัยเข้ามายึดพื้นที่ในสมอง ผมจึงตัดสินใจหันหลังหันหลังกลับ

    “พลั่ก!!!” เสียงที่ได้ยินไม่อาจเท่าความรู้สึกต่อแรงกระแทกที่บริเวณท้ายทอย ผมทรุดตัวลงทันทีผมพยายามต่อสู้กับความมึนงง โครงร่างผู้ชายยืนอยู่ แต่ลางเลือนเหลือเกิน....จนทุกอย่างค่อยๆมืดดับไป

     

    HUNZ talk

    ไฟที่สุมในอกผมกำลังจะเผาตัวผมให้วอดวายไป แกงส้มอย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ รอพี่ก่อน หลังจากที่รับโทรศัพท์ของสต๊อป โลกทั้งโลกของผมกำลังจะแตก แกงส้ม...ไอ่เด็กโง่ เอ๊ยยยย!!! ทำไมถึงเป็นคนหลอกง่ายอย่างนี้ ทำไมไม่เอะใจโทรหาพี่ก่อน ถ้าแกงส้มเป็นอะไรไปผมจะอยู่ยังไง มันเป็นความผิดของผมเพียงคนเดียว ผมออกบ้านมาเพื่อดักจับการขนยาเสพติดของไอ่เต้ ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายของผมคือไอ่เต้ไม่ได้มาในคราวนี้ ผมไม่ได้นึกสังหรณ์ใจเลยว่าทุกอย่างจะมาลงที่แกงส้ม

    “ไอ่เอ ขับเร็วๆกว่านี้ได้มั้ย” ผมตะโกนใส่ไอ่เอ ต่อให้ตอนนี้ผมเหาะไปก็คงไม่ทันใจตัวเอง

    “ผมเหยียบมิดแล้วนะพี่ พี่ใจเย็นๆ แกงส้มมันอาจจะไม่เป็นอะไรก็ได้ เราตามมาเร็วมากนะพี่” ไอ่เอปลอบใจผม แม้แต่วินาทีเดียวที่แกงส้มอยู่ในอันตรายผมก็แทบบ้าแล้ว นี่ผมตามมาช้าเกือบครึ่งชั่วโมง ฝาแฝดทั้งคู่เงียบไปอีกครั้ง จนมาถึงที่ที่สต๊อปบอก ผมวิ่งเข้าไปในโรงงานทันที

    “ไอ่เต้...ออกมานะเว้ย” ผมร้องใจตะโกนออกไปสุดเสียง ผมเห็นรอยเลือดและทางลากเป็นยาวจึงเดินตามไปอย่างทันที ภาพที่เห็นคือแกงส้มนอนนิ่งไม่ได้สติพิงเสาอยู่ข้างๆนั้นคือ ไอ่เต้ที่แสยะยิ้มมาให้ผม

    “เป็นไงพี่ฮั่น รีบร้อนมาหาผมเชียวนะ” เสียงจากน้องชายที่ผมเคยรักมากที่สุดพูดอย่างสะใจ

    “ปล่อยแกงส้ม” ผมกัดฟันพูดเพื่อข่มโทสะเอาไว้ ไอ่เต้หันไปมองแกงส้มก่อนที่จะหันมาประจันหน้ากับผม

    “ง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอพี่ เอางี้ผมมีข้อเสนอ” ไอ่เต้หยิบปืนออกมา  แต่สิ่งที่ผมสนใจที่สุดคือแกงส้ม ตอนนี้แกงส้มเหมือนจะรู้สึกตัวขึ้นมา ค่อยๆขยับตัว ไอ่เต้ที่กำลังให้ความสนใจกับผมจึงไม่ทันเห็น

    “เอาไงว่ามา” ผมจึงรีบรับปาก ทุกทางที่จะทำให้แกงส้มปลอดภัยผมยอมทั้งนั้น

    “วัดใจกัน... ถ้าพี่ให้ผมยิงพี่หนึ่งนัด แค่นัดเดียว ระยะห่างเท่านี้ วัดกันระหว่างฝีมือของผมกับดวงพี่ ถ้าพี่รอดผมก็ถือว่าหายกัน ถ้าพี่ไม่รอดอย่างน้อยๆไอ่แกงส้มเด็กพี่มันก็ไม่ตาย” นี่มันจับแกงส้มมาเพื่อจะหาทางฆ่าผมนั้นเอง แกงส้มส่ายหน้าให้ผมเบาๆ แต่ทางเหลือมีอยู่แค่นี้ เพื่อแกงส้มผมทำได้

    “ได้” ผมตอบกลับไปสั้นๆ ไอ่เต้หัวเราะยกปืนเล็งมาที่ผม ผมหลับตา...อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดในเมื่อผมสัญญากับแกงส้มไว้ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน ว่าผมจะดูแลแกงส้มด้วยชีวิตของผม ถ้าวันนี้ลมหายใจผมหมดลงไป ผมก็ไม่เสียดาย.....

    “ปัง!!!!” เสียงปืนดังขึ้นแต่ผมกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ เมื่อลืมตาเห็นไอ่เต้ลฃเสียหลัก แกงส้มคงกระแทกตอนที่ลั่นไก ปืนของเต้หลุดออกจากมือไถลไปไกล แต่สิ่งที่ผมคาดไม่ถึงคือ ไอ่เต้ที่มีมีดอยู่ในมือคว้าคอเสื้อแกงส้มก่อนที่จะแทงไปบริเวณหน้าท้องหนึ่งครั้ง แกงส้มล้มลงทันทีเมื่อไอ่เต้ชักมีดกลับเลือดไหลทะลักของมาจากบาดแผล โลกของผมพังทะลายอยู่ตรงหน้า

    “ปัง!!!” เสียงปืนอีกนัด ไอ่เต้ทรุดลง ผมหันไปมองต้นเสียงคือเอ...ที่ยิงไปบริเวณขาของไอ่เต้

    “แกงส้ม” ผมรีบวิ่งไปประคองร่างนั้นทันที แกงส้มเราจะช่วยพี่ทำไม ทำแบบนี้ทำไม แกงส้มหลับตาใบหน้าซีดเซียว ร่างไร้สติเต็มไปด้วยเลือด บีวิ่งเข้ามาเปิดดูบาดแผลของแกงส้ม

    “ไม่น่าจะโดนจุดสำคัญ แต่เลือดไหลออกมากน่าจะถูกเส้นเลือดใหญ่ ต้องรีบไปหาหมอ”บีประเมินอาการแกงส้ม ผมถอดเสื้อออกเพื่อกดห้ามเลือด ก่อนที่แบกแกงส้มขึ้นหลัง

    “ฮ่าๆๆๆๆ ทุกคนรอบข้างพี่มีแต่หายนะ พี่สังเกตตัวเองบ้างมั้ย พี่มันตัวซวย” สิ้นเสียงไอ่เต้ผมก็ได้ยินเสียงของหนักกระทบกัน ไอ่เอชกปากไอ่เต้ ผมไม่สนอะไรทั้งนั้นรีบเอาแกงส้มขี่หลัง

    “คนที่พี่รักทุกคน ต้องไม่มีความสุขเพราะพี่ ตัวพี่เองก็รู้ ไม่มีใครเลยสักคน” แต่ประโยคนี้มันช่างทิ่มแทงหัวใจผม คนที่ผมรักทุกคนต้องลำบาก โดยเฉพาะแกงส้ม คนที่มีชีวิตดีๆมาตลอดต้องมาเหนื่อยมาลำบากเพราะผม ฮั่น...แกอย่าร้องไห้ให้ใครเห็น ผมแบกแกงส้มขึ้นมากระชับให้แน่นให้แน่ใจว่าจะตกลงไปขึ้นรถไป เออยุ่จัดการไอ่เต้เพื่อส่งตัวให้ตำรวจ ส่วนบีวิ่งมาเพื่อขับรถให้ผม ตั้งแต่ขึ้นรถมาไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาสักคำ ในใจผมจดจ่อกับร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขน เลือดออกน้อยลงแต่ไม่ทำให้ผมวางใจได้เลย บีเองก็ขับรถอย่างเร่งรีบทั้งปาดซ้ายปาดขวาด้วยความเป็นห่วงคนเจ็บที่อยู่ในอ้อมกอดผม พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะลืมตามามองพี่หน่อยสิแกงส้ม สักครั้งได้มั้ย พี่ขอร้องเถอะนะ พอรู้ตัวน้ำตาก็ไหลอาบแก้มผมแล้ว ตื่นมามองพี่ร้องไห้สิ ตื่นมาล้อพี่สิพี่กำลังร้องไห้ต่อหน้าเราอยู่นะ แกงส้ม...

    “พี่ฮั่นถึงแล้วครับ” เสียงบีบอกผมอย่างดีอกดีใจ ทันทีที่จอดรถบุรุษพยาบาลก็เข็นเปลมารับทันที

    “ไปที่ห้องฉุกเฉิกด่วน” เสียงพยาบาลคนหนึ่งร้อนรนมาก ดูจากน้ำเสียงคงน่าเป็นห่วง พอเข็นเปลไปสักพัก แพทย์เวรก็ตัดสินใจส่งแกงส้มไปห้องผ่าตัด ผมไม่รู้หรอกว่ามาหน้าห้องผ่าตัดได้ไง รู้เพียงหัวใจและวิญญาณผมเข้าไปกับร่างของคนรักแล้ว ให้ผมเจ็บแทนยังจะดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ทรมานแบบนี้

    “พี่ฮั่นครับ เสื้อแล้วก็กาแฟครับ” ทุกอย่างมันวุ่นวายจนผมลืมตัวว่าเปลือยท่อนบนอยู่ ผมจึงรับเสื้อคลุมจากบี ก่อนที่จะนั่งลงที่ม้านั่งหน้าห้องผ่าตัด

    “ไอ่เอส่งไอ่เต้ไปที่โรงพักแล้วนะพี่ เดี๋ยวมันจะมาพร้อมพี่แคนกับสต๊อป” บีพูดกับผม คงกลัวผมคิดมากเลยหาเรื่องคุย ผมพยักหน้าเบาๆเพื่อรับฟัง ผมเหนื่อยมากจริงๆ ได้แต่เอาหัวพิงผนังอย่างหมดรูป

    “พี่ฮั่นๆ” เสียงน้องสาวผมดังมาแต่ไกล น้ำเสียงเป็นกังวลเอามากๆ

    “แกงส้มเป็นไงบ้าง” สต๊อปถามเมื่อตัวมาถึงหน้าห้อง ผมก้มหน้านิ่ง ผมไม่รู้จริงๆ ว่าจะตอบยังไง

    “เข้าไปได้ชั่วโมงกว่าแล้ว” ไอ่บีตอบแทนผม สต๊อปวางมือบนไหล่ผมแทนคำปลอบประโลม

    “หมอสมัยนี้เก่งจะตาย แกงส้มต้องปลอดภัย” เสียงของแคน เหมือนจะพูดในสิ่งที่หวัง มากกว่ามีความมั่นใจแบบนั้น ทุกคนอย่าพยายามเลย ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมดีขึ้นได้นอกจากคนข้างในจะกลับออกมาอย่างปลอดภัย ทันใดนั้น ประตูห้องก็เปิดออกมา

    “หมอครับ...เป็นไงบ้างครับ” แคนถามคุณหมอทันที

    “คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ แต่อาจจะอ่อนเพลียเพราะเสียเลือดมาก” นั้นคือสิ่งที่ผมต้องการ จากนั้นผมก็เดินออกมาจากที่นั่นทันที ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงไม่รอพบหน้าแกงส้ม ผมละอายจริงๆ ที่จะเห็นใบหน้าสดใสนั้นต้องนอนอยู่ในห้องอย่างไร้สติ ภาพที่เพิ่งพ้นไปมันช่างโหดร้าย

    “พี่ฮั่น” เสียงสต๊อปเรียกผมเอาไว้ แต่ผมไม่สามารถอยู่ได้จริงๆ ทั้งที่อยากเป็นคนแรกที่แกงส้มตื่นมาแล้วเห็นหน้า ถ้าเพียงผมไปช่วยไม่ทัน ถ้าเพียงทุกอย่างเลวร้ายกว่านี้ โลกของผมคงดับลงทันตา ไม่อีกแล้ว พี่จะไม่เห็นแก่ตัวอีกแล้ว โลกอันตรายของพี่ ไม่ควรดึงเรามาเสี่ยงด้วย พี่ผิดเองที่ปล่อยทุกอย่างมันเกินเลยมาถึงขั้นนี้ น้ำตาจากลูกผู้ชายที่เข็มแข็งหลั่งออกมนองหน้า ความพ่ายแพ้และความเจ็บปวดเจ็บปวดเกาะกินหัวใจเหวอะหวะไร้ชิ้นดี

    “พี่ขอโทษนะแกงส้ม   ลาก่อน....” นี่คือประโยคสุดท้ายจากคนอย่างพี่ มีความสุขต่อไปนะ มีความสุขแทนพี่ด้วย ไปตามความฝันที่ต้องการ...ความรักทั้งหมดของพี่ฝากไว้ที่เราตลอดชีวิตนะ...

    ปล.  ขอบคุณที่อ่านและติดตามนะค่ะ อ่านทุกเม้น เพราะมันเป็นกำลังที่ดีมากเลยคะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×