คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 11 : กลัวความจริง
CAN talk
หลังจากที่ผมไปกินข้าวที่บ้านไอ่ฮั่นแล้ว ผมก็ขับรถกลับบ้านเพียงลำพัง เพราะอะไรนั่นเหรอครับ ไอ่ฮั่นมันยึดสต๊อปไปแล้วววววว ไอ่คนใจร้าย!!! ส่วนเหตุผลเหรอครับ มันบอกกับผมว่า ตอนนี้ผมคิดไม่ซื่อกับน้องสาวมัน ถ้าปล่อยให้สต๊อปอยู่กับผมก็เหมือนฝากปลาย่างไว้กับแมว ที่เจ็บใจที่สุดคือ...มันบอกว่ายิ่งใกล้ๆกันมากจะเบื่อกันเร็ว ต้องห่างๆกันบ้าง โหยยยยย...ไอ่ตูดเป็ด มันห่างจากแกงส้มได้ที่ไหน ถ้าจับเคี้ยวแล้วกลืนลงคอได้มันทำไปแล้ว อย่าให้มีโอกาสนะจะยุให้แกงส้มหนีออกจากบ้านไปเล้ยยยยยย ผมนั่งบ่นไอ่ฮั่นเพื่อนรักตลอดทางอยู่คนเดียว พอมาถึงหน้าบ้าน สิ่งที่ทำให้ผมตกใจคือรถที่มาจอดขวางหน้าบ้าน คันเล็กน่ารัก ยิ่งเจ้าของนั้น เป็นสาวน้อยที่น่ารักไปแพ้รถเลย เธอคืออดีตเพื่อนรักของแฟนผม
“เฟรม” ผมลงจากรถ เรียกชื่อร่างบาวผิวขาวที่ยืนรอผมอยู่หน้าบ้าน
“พี่แคน สวัสดีค่ะ” เฟรมยกมือไหว้ผม รอยยิ้มที่ส่งมานั้นมีร่องรอยความเครียดอยู่ไม่น้อย
“ทำไมมาที่นี่ ตั้งดึกตั้งดื่น เข้าบ้านก่อน” ผมเตรียมเปิดประตูบ้าน แต่สาวน้อยส่ายหัว
“ไม่ดีกว่าค่ะ เฟรมเอาของสำคัญมาให้” เฟรมพูดพลางยื่นซองสีน้ำตาลซองใหญ่มาให้ผม
“อะไรหน่ะเฟรม” ผมมองหน้าเฟรมแสดงความสงสัย
“ของที่จะทำให้พวกพี่จัดการพี่เต้ได้ เรื่องทุกๆ อย่างจะได้ลงตัวสักที” เฟรมบอกผมอย่างมุ่งมั่น
“แล้วเรา...” เฟรมเป็นคนรักของเต้แล้วอยู่ๆ มาทำแบบนี้ ไม่ใช่ว่าผมไม่ไว้ใจเฟรมนะครับ แต่คนรักกันจะยอมทำให้อีกคนเดือดร้อนเหรอ เฟรมเป็นคนจริงใจกับทุกๆคน เรื่องจะเล่นนอกกติกาเฟรมจะไม่ยอมทำเด็ดขาด เหมือนเฟรมจะอ่านสีหน้าของผมออกทะลุปรุโปร่ง
“เฟรมกับพี่เต้เลิกกันแล้วคะ พี่เต้ทำให้ทุกคนเดือดร้อน โดยเฉพาะสต๊อป เฟรมรักคนที่ทำร้ายคนอื่นอย่างไม่สะทกสะท้านไม่ได้หรอก มันเหมือนอยู่ในกองไฟทั้งร้อนทั้งเหนื่อย และที่สำคัญ สิ่งที่พี่เต้ทำมันทำลายคนอื่นมากมาย พี่เต้สมควรได้รับการลงโทษ”ด้านหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นคือความจริงจังและเด็ดเดี่ยวที่ซ่อนในตัวของสาวน้อยหน้าใสผุดผ่องคนนี้ จากนั้นเธอก็ยิ้มให้ผมก่อนหันหลังกลับเพื่อขับรถออกไป เมื่อผมกลับเข้าไปในบ้าน เปิดซองลับที่เฟรมเอามาให้ผม พระเจ้า!!! มีคลิปเสียงเจรจาการซื้อขายเฮโรอีน มีบัญชีลูกค้า การรับส่งของ และที่สำคัญมีรายละเอียดการนัดส่งของครั้งใหญ่อีกสองอาทิตย์ข้างหน้า หลังจากที่ผมเช็คทุกอย่างๆรอบคอบ ผมจึงกดโทรศัพท์ไปหาฮั่น...คนที่เหนื่อยกับเรื่องนี้มานาน
HUNZ talk
หลังจากที่ผมคุยกับไอ่แคนเสร็จ ความรู้สึกแรกของผมคือดีใจที่สุด เพราะทุกอย่างจะเป็นไปตามวิถีที่ผมตั้งใจไว้สักที ถึงผมจะไม่ได้มีชีวิตที่ดี แต่ผมทนไม่ได้หรอกนะครับถ้าสิ่งที่เกี่ยวข้องกับผมจะเป็นสื่อในการค้ายาเสพติด อนาคตของเด็กมากมายต้องเสียไป... ผมแคร์สิ่งเหล่านี้มากกว่าอำนาจและศักดิ์ศรีของผมเสียอีก แต่พอผมหันไปเห็นคนๆหนึ่งที่นั่งเล่นเปียโนยิ้มแย้มกับลูกน้องฝาแฝดของผม ก็ใจหายอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน จากคนที่เห็นหน้ากันทุกวัน เป็นคนแรกที่เห็นในทุกๆเช้า เป็นคนสุดท้ายในอ้อมกอดทุกๆคืน ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแกงส้มต้องกลับไปอยู่ที่บ้าน มีชีวิตของเค้า ยิ่งใกล้เปิดเทอมแล้ว เวลาของผมในชีวิตของแกงส้มคงเหลือไม่ถึงครึ่งในตอนนี้ ตัวแกงส้มคงทนไหว เพราะรายนั้นไม่ค่อยคิดอะไรมากมาย เต็มปี่ยมไปด้วยพลังที่จะทำทุกๆสิ่งให้ดี แต่ผมสิครับ...นับตั้งแต่เจอกันแกงส้มเป็นเหมือนความสุขสิ่งเดียวของผม พอถึงเวลาต้องคืนเค้าไปใจมันหวิวๆ ไม่เป็นไรหรอกนะ...เพราะรักของเราคงไม่เปลี่ยนแปลงไปง่ายๆ
HUT talk
ตอนนี้อะไรๆ ในชีวิตผมมันช่างแย่ การที่คนอย่างผมหนึ่งต้องเสียใจเพราะคนที่ผมรักมีความสุข มันทำให้ผมทุเรศตัวเองสิ้นดี มันไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ยินดีใจกับคนสองคนที่รักกันด้วยความบริสุทธิ์ใจได้เลย รู้ว่าพี่แคนเป็นคนที่สต๊อปรักมาตลอดหลายปี รู้ว่ายากที่สต๊อปจะหันมามอง แต่ทุกครั้งที่เจอกันความห่วงใยของผู้หญิงคนนี้ หัวใจผมก็ล่องลอยไปไกล ผมเองก็ไม่เคยจะยับยั้งมัน ผมเลยต้องมาย้อมใจที่ผับหรูกลางใจเมืองคนเดียว ผมเหลือบไปเห็นคนที่เป็นต้นเหตุของทุกอย่างกำลังนั่งอยู่ที่บาร์เป็นเพื่อนสาวๆ อีกสามสี่คน ใบหน้าขาวใสที่ดูโดดเด่นแม้จะอยู่ท่ามกลางไฟสลัวๆนั้น ไม่สามารถทำให้ผมมองเห็นความสวยงามและความน่ารักของผู้หญิงคนนี้ได้ เพราะเธอทุกๆอย่างต้องกลายมาเป็นแบบนี้ เพราะเธอคนเดียว เฟรม!!!
“มานี่เลยนะ” อาจเป็นเพราะความเมาหรือว่าความเสียใจที่ทำให้ผมเดินตรงไปคว้าข้อมือเล็กๆของเฟรมลากมาโดยที่มีแรงฝืนของเจ้าตัว แต่มันหรือจะสู้แรงผู้ชายที่กำลังเต็มไปด้วยความแค้นใจได้
“อะไรของนาย ปล่อยชั้น” ผมได้ยินเสียงของเฟรมถนัด เมื่อออกมาอยู่บริเวณหน้าร้าน
“เพราะเธอคนเดียวที่ทำให้ชั้นเป็นแบบนี้” ผมระเบิดใส่หน้าเฟรมทันที เฟรมทำหน้างุนงงกันเรื่องที่เกิด พยายามดิ้นรนออกห่างตัวผม แต่เป็นเหมือนแรงกระตุ้น ผมรวบข้อมือสองข้างนั้นกระชากเข้ามาใกล้ตัว
“เป็นอะไรของนายจะบ้าเหรอ ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยยยย” เฟรมพยายามแกะมือออก ปากก็ร้องตะโกนโวยวาย
“ที่สต๊อปต้องไปลงเอยกับไอ่บ้านั่นก็เพราะเธอ ทุกๆ อย่างมันเริ่มจากเธอ” ผมตะคอกใส่ทันที
“นายบ้าไปใหญ่แล้ว ปล่อยวางบ้าง รู้จักมั้ย ปล่อยวาง ให้อภัย เสียสละ” เฟรมดูนิ่งลงไปอาจเป็นเพราะเหนื่อยหรือคิดว่าดิ้นไปก็คงเสียเปล่า และดูจะเข้าใจเรื่องราวมากขึ้น
“ความลำบากของคนที่ชั้นรัก มันลบคำว่าอภัยไปจากพจนานุกรมไปแล้ว เพราะเธอทำให้สต๊อปต้องลำบาก เพราะเธอทำให้ชั้นเป็นไอ่คนไร้ค่าแบบนี้” ผมแค่อยากระบาย อยากจะโทษใครที่ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น
“นายมันไม่รู้จักคำว่ารักที่แท้จริงหรอก ทุกอย่างมันอาจจะเป็นความผิดของชั้น แต่ชั้นพยามแก้ไขมันแล้ว แต่มันคงลำบากถ้าต้องพยายามกับคนอย่างนาย!!!” เฟรมกระแทกเสียงใส่ผม มองหน้าผมด้วยแววตารังเกียจ เธอไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนี้กับชั้น ผมจึงบดริมฝีปากไปที่ปากสวยๆของเฟรม ทุกอย่างหยุดนิ่งไป ทุกความคิดในหัวผมจางหายไป ไม่มีคำว่ารัก ไม่มีคำว่าเกลียด หรืออะไรทั้งนั้น ผมมาได้สติตอนที่เฟรมผลักอกผมอย่างแรง ผม...เสียใจที่ทำอะไรไปแบบนั้น มันแค่ความรู้สึกชั่ววูบเท่านั้น
“ไอ่เลว!!!” สิ้นเสียงตวาด ใบหน้าผมก็แสบเพราะมือบางๆฟาดมาที่หน้าผมอย่างแรง ก่อนที่จะวิ่งหนีผมไป ผมจูบเฟรมต่อหน้าคนนับสิบคนที่หน้าผับ ไม่แปลกหรอกครับที่เธอจะด่าผมขนาดนี้ ผมผิดไปแล้ว ไม่น่าเลย เป็นความจริงที่ผมไม่ชอบเฟรม แต่ที่ผมทำเมื่อกี้มันแย่มาก มันเลวจริงๆ ผมเลยตัดสินใจเดินไปที่จอดรถ ขอกลับบ้านไปนอนพัก เหนื่อยกับตัวเองจริงๆ แต่ก่อนที่จะเดินไปถึงรถ มือถือผมก็ดังขึ้น
“ว่าไงสต๊อป” ผมกรอกเสียงไปตามสายที่ผมคิดถึงเหลือเกิน
“ฮัทพรุ่งนี้ไปส่งเราหน่อยได้มั้ย” น้ำเสียงที่ตอบกลับมาฟังดูเหมือนผ่านการร้องไห้มา
“เป็นอะไรร้องไห้เหรอ....” ผมถามเสียงเฉียบ เพิ่งคบกันไม่ถึงเดือน สต๊อปต้องร้องไห้เลยเหรอ
“พรุ่งนี้เราจะไปหาเฟรม เราทำไม่ดีกับเฟรม....” คำพูดที่ออกจากปากสต๊อปทิ่มแทงหัวใจผมเหลือเกิน ที่เธอทำไม่ได้ครึ่งที่เราเพิ่งทำไปเลย หลังจากคุยกับสต๊อป ผมถึงรู้ว่าเมื่อเฟรมรู้ความจริงว่าไอ่เต้แฟนของตัวเอง ทำเรื่องเลวๆ เธอก็พยายามหาหลักฐานเพื่อเอาผิด ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นเรื่องอันตรายมาก ทุกอย่างที่เฟรมทำเพื่อเพื่อนรักและความถูกต้อง มันการันตีว่าเฟรมเป็นคนดีมากคนหนึ่ง แต่ไอ่ที่ผมทำลงไปนี่สิมันเป็นการตอบแทนที่เลวร้าย ผมวิ่งไปตามเฟรมในใจหวังว่าจะได้พบร่างเล็กนั้นแต่มันก็ช้าไปแล้ว....
HUNZ talk
ทำไมผมทรมานแบบนี้นะ นี่แค่คิดว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยตลอดแบบนี้อีกแล้ว หัวใจผมจะขาดเอาให้ได้ แต่เพื่อทุกสิ่งที่ดีกว่า ผมเองก็ไม่ได้ว่าจะไปไหน ทุกอย่างของแกงส้มทั้งบ้าน ที่เรียน เพื่อนทุกคนผมก็ไปสืบมาหมดแล้ว ยังไงเราก็ยังคบกันอยู่ดี...แต่ผมสังหรณ์ใจไม่ดีเลย หรืออาจเป็นเพราะความกลัวกันแน่ ผมหันไปกอดร่างของคนที่วนเวียนในความคิดผม เจ้าตัวไม่รู้สึกตัว เสียงลมหายใจเบา ร่างกายอันอบอุ่นของแกงส้มทำให้ผมอุ่นใจว่าอย่างน้อยคืนนี้ ผมก็ได้อยู่กับคนที่ผมรัก...แค่นี้ก็สุขเกินพอ
“พี่ฮั่น ตื่นแล้วเหรอ” สงสัยผมเผลอรัดแน่นไปหน่อย เจ้าตัวเลยสะดุ้งตื่น ทักทายผมแต่เช้า
“อื้ม เห็นบางคนนอนน้ำลายยืดเลยไม่อยากปลุก” ผมพูดแซว แกงส้มทำจมูกย่นน่ารัก ผมอดใจไม่ไหวเลยหอมไปหนึ่งฟอดเต็มๆปอด เจ้าตัวกลับตัวมามองหน้าผม
“พี่ฮั่น...รักนะ” น้ำเสียงกังวานกับสายตาที่นุ่มนวลทำเอาผมใจละลาย พี่ก็รักเรานะ รักมาก
“เหรอ...อ้อนแต่เช้าเชียว” ปากหนักจริงๆ เลยเรา แทนที่จะบอกรักให้เจ้าตัวป่วนชื่นใจ
“ทั้งปีๆๆ บอกรักมันบอกยากนักเหรอ” เจ้าตัวทำเสียงขู่ผม เหมือนคุณชายเอาแต่ใจ
“บอกรักมันยาก แต่พี่ก็มีวิธีทำให้รู้ว่ารัก แบบไม่ต้องใช่สักคำพูด” ผมมองตาคู่สดใสของแกงส้ม ก่อนจะค่อยๆ บรรจงจูบไปที่หน้าผากอย่างแผ่วเบา เลื่อนมาที่แก้ม ก่อนที่ริมฝีปากจะปักหลักที่ริมฝีปากน่ารักของแกงส้ม มือของผมลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังที่ตอนนี้ร้อนผ่าว .... แกงส้มพี่รักเรามากกว่าชีวิตพี่อีกนะ
HUT talk
ตอนนี้ผมรอสต๊อปที่บ้านพี่ฮั่น หลังจากนัดเมื่อวานกับสต๊อป วันนี้ผมกับสต๊อปจะไปหาเฟรม... รอได้สักพัก ร่างบางสง่าสมกับเป็นน้องสาวมาเฟียสุดหล่อก็เยื้องกรายออกมา พร้อมรอยยิ้มสดใสที่ส่งมาให้ ทำใจซะเถอะฮัท อย่างเราคงเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น เพราะความรู้สึกบ้าๆไอ่ความเสียใจและไม่ยอมรับความจริงทำให้ตอนนี้ ต้องมาทุกข์เพราะความรู้สึกผิด ไม่อยากเป็นคนเลวอีกแล้ว....เฟรม เราขอโทษนะ
ผมจอดรถที่หน้าหลังงามของนายตำรวจใหญ่ บ้านของสาวน้อยผู้น่ารักที่ผมทำร้านจิตใจเค้าไม่เหลือชิ้นดี เค้าคงจะเกลียดผมแน่ๆ... สต๊อปเดินไปรอที่ห้องรับรองแขก สักพักเจ้าของบ้านคนสวยก็เดินออกมา ทันทีที่เพื่อนรักกลับมาเจอและเข้าใจกันอีกครั้ง ทั้งสองสาวก็โผเข้ากอดกัน น้ำตาอาบแก้มใสๆของทั้งคู่
“ขอบคุณนะสต๊อป ที่มาวันนี้ ขอบคุณที่เข้าใจนะ” เจ้าบ้านคนสวยเอ่ยขึ้นมา
“เราขอโทษนะเฟรม เรามันดื้อ ไม่ยอมฟังเธอเลย” สต๊อปพูดพลางปาดน้ำตา เฟรมหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา ดูเหมือนสองคนนี้จะรักและเข้าใจกันเกินกว่าจะสื่อสารออกมาเป็นคำพูด
“ฮัท....ขอโทษเฟรม” สต๊อปหันมาบอกผม เพราะเท่าที่สต๊อปรู้ผมก็ร้ายกับเธอมากพอแล้ว
“ไม่ต้องหรอก ถ้ามันไม่ได้มาจากใจเราก็ไม่รับ ป่วยการจะต้องมาพูดอะไรกัน” ปลายน้ำเสียงสะบัด กับท่าทีแข็งกระด้างของเฟรม ทำให้ผมรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรามันคงไม่ดีขึ้นภายในเร็วๆ วันแน่นอน
“เรา...” ผมรวบรวมความกล้า..โอยยยย!!! ทำไมมันยากแบบนี้นะ กะอีแค่ขอโทษเนี่ย แต่ผมยังไม่ทันได้พูด ร่างสองหนุ่มที่ก้าวเข้ามาในบ้านก็ทำให้ผมรู้ว่าหมดจังหวะที่จะขอโทษใดๆ
“พี่แคน” สต๊อปเรียกชื่อคนที่เธอรักอย่างแสนหวานปนแปลกใจ
“มากไปละๆ พี่ชายก็มาทำไมเรียนกชื่อไอ่แคนมันคนเดียวเนี่ย” พี่ฮั่นหันมาดุน้องสาว
“แหมๆๆ ทำเป็นน้อยใจ ได้ข่าวว่าเมื่อคืนแอบบ่นหาว่าเราเป็น กขค ระหว่างเค้ากับแกงส้ม ทีแบบนี้จะมาขอความรักความอบอุ่นจากน้อง” สต๊อปตอบกลับไป สายตาผมมองเลยสต๊อปไปพี่เฟรมที่กำลังยิ้มแย้มต้อนรับแขกผู้มาใหม่ ก่อนที่จะมองมาที่ผมแล้วหันกลับไปอย่างรวดเร็ว
“คุณพ่อรอที่ห้องทำงานคะ เชิญข้างบนค่ะ” เฟรมพูดพลางเดินนำพี่ฮั่นขึ้นไปชั้นสอง
“พี่คิดถึงเรามากเลยนะ...ที่รัก ” พี่แคนแอบกระซิบเบาๆ กับสต๊อปแต่ผมดันหูดีไปได้ยินเองครับ คำพูดที่แสนน่ารักทำเอาสต๊อปอายม้วน ก่อนที่จะทำตาดุเพื่อไล่คนรักให้ตามพี่ชายไป
“อย่างกะความฝัน” สต๊อปพูดกับผม คงเหมือนความฝันสินะที่คนที่เธอรักมาตลอดเค้ามีใจให้เธอเหมือนกัน ผิดกับเราที่เฝ้ารักเธอมาตลอด วันนี้เราเหลือเพียงฝันร้ายที่ต้องอดทน เราจะเป็นเพื่อนกับเธอตลอดไป เราจะไม่ทำให้เธอต้องเหนื่อยและวุ่นวายหัวใจ...เพื่อนรัก
ปล. อีกประมาณสองตอนคงจะจบนะคะ (ถ้าไม่เขียนเลยเถิด ช่วงนี้ไม่ค่อยมีซีนหวานขอเน้นเนื้อเรื่องก่อนนะ แล้วจะกลับมาหวานอลังการอีกครั้ง) อ่านแล้วเม้น...จะเป็นกำลังใจที่ดีต่อไป เย้!!!!
ความคิดเห็น