ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS8 (HKS) รักอันตราย นายมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 10 : ลงตัว

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 55


    HUNZ talk

                    ท่ามกลางเสียงเพลงกระหึ่มด้วยจังหวะเร้าใจ ผู้คนมากมายหลากหลายหน้าตาที่รายล้อมอยู่ แสงสีที่เคยกระตุ้นประสาทให้ตื่นตัว ในตอนนี้...มันกลับทำให้ผมมีความสุขไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เหตุการณ์เมื่อตอนเย็นทำให้ผมอยู่ที่บ้านไม่ได้ นอกเหนือจากการบ่นประชดประชันของแฝดนรกที่ผมเป็นต้นเหตุทำให้น้องชายสุดที่รักเก็บของหนีไป ภาพลางๆ ของร่างสูงโปร่งบางที่วิ่งวุ่นไปทั่วทั้งบ้าน เสียงหัวเราะร่าเริง กลิ่นกายหอมอ่อนๆ รอยยิ้มที่เป็นเหมือนน้ำทิพย์ไม่ว่าจะเหนื่อยหนักแค่ไหน แค่รอยยิ้มนั้นก็ทำให้หายเหนื่อยโดยทันทีนั้น เป็นภาพที่อยู่ในหัวผม จนผมต้องออกมาอยู่ที่ผับ  แกงส้ม....พี่คิดถึงเรามากนะ ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันราวเร็วมากเกินไปจนผมจับจุดต้นเหตุของการทะเลาะกันครั้งนี้ไม่ได้เลย บางทีผมอาจจะผิดที่หุนหันต่อว่าแกงส้มแรงไป แกงส้มคงหงุดหงิดเรื่องสิตางค์สินะ ผมจะทำให้แกงส้มรู้ได้ยังไง ว่า หัวใจของผมมันยกให้ตัวป่วนไปหมดแล้ว สิตางค์อาจเป็นอดีตที่สวยงามจนยากที่จะลืม แต่ไม่มีทางจะมาแทนที่ปัจจุบันตอนนี้ได้ ปัจจุบันที่ผมอยากก้าวเคียงข้างกันไปตลอดชีวิต

     

                    ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปครับ จากที่พี่แคนต้องคอยอธิบายและปลอมผมให้เข้าใจพี่ฮั่น ตอนนี้มันต้องมานั่งเป็นเพื่อนพี่แคนรอสต๊อปแทน ณ เวลาห้าทุ่มครึ่ง สต๊อปยังไม่ถึงบ้านเลยครับ จากพ่อหนุ่มยิ้มสวยอารมณ์ขัน ตอนนี้กลายเป็นตาแก่หน้าเครียดนั่งชะเง้อมองไปทางประตูทุกๆ ห้านาที

                    “พี่แคน ถ้าพี่จะห่วงขนาดนี้ ทำไมพี่ไม่จีบสต๊อปไปซะเลย” ผมเห็นท่าทางแบบนี้แล้วไม่สบายใจเอาซะเล้ยยยยย.... ชอบก็บอกว่าชอบสิ มัวแต่เก็บงำความรู้สึกแบบนี้ เมื่อไหร่จะรู้ดำรู้แดง ต้องให้บอก!!!

                    “จะบ้าเหรอ พี่แค่เป็นห่วงเค้า สต๊อปเป็นน้องสาวเพื่อนพี่ พี่ก็ต้องดูแล ไม่ได้คิดเป็นอื่นซะหน่อย ” หึหึ เหรออออออ??? น่าเชื่อตายแหละพี่แคนเอ๊ย

    “ไม่ต้องมาทำแอ๊บเป็นพี่ชายที่แสนดีหรอกนะ พี่รู้มั้ยว่าสิ่งที่พี่แสดงกับสต๊อปมันคือสุภาพบุรุษมากกว่าพี่ชาย พี่แทบจะไม่เคยแตะตัวสต๊อปเลย แทบจะไม่ให้สต๊อปทำอะไรเอง ถือของให้ตลอด ถ้าพี่คิดว่าสต๊อปเป็นน้องสาวจริงๆ พี่รังแกกระจายไปแล้ว” นี่แหละคือสิ่งที่ผมสังเกตเห็นและไม่น่าเชื่อว่าจะไม่มีใครมองออก นั่นแหละ!!!  ชอบหาว่าเราไม่รู้เรื่องรู้ราว เหอะๆๆ ผมก็มีมุมฉลาดนะคร้าบบบบ

    “พี่ตัดสินใจแล้ว ว่าพี่จะไม่ทำให้สต๊อปเสียใจ” พี่แคนหลุดออกมาแล้วด้วยน้ำเสียงขมขื่น

    “พี่แอบชอบสต๊อปมานานเท่าไหร่แล้ว” ผมถามด้วยคำถามสั้นๆ พี่แคนหันมามองหน้ามองผม

    “ห้าปีแล้ว” แม่เจ้า!!! ห้าปีเลยเหรอ พี่แคนพยักหน้ารับเบาๆ

    “พี่แคน ผมไม่รู้จะพูดยังไงเลย พี่แอบชอบสต๊อปมาห้าปี อย่างไม่เปลี่ยนใจ แล้วอะไรทำให้พี่คิดว่าจะทำให้เค้าเสียใจละครับ คือมันมั่นคงจนน้ำตาผมจะไหลเลย” ผมพูดเสียงด้วยอารมณ์เหนื่อยใจ

    “ก็ไม่รู้สิ แค่คิดว่าเค้าเสียน้ำตาเพราะพี่ มันก็ใจสลายแล้ว พี่เป็นคนเจ้าชู้มาก แกงเองก็รู้นิ” พี่แคนเงยหน้าเหมือนซ่อนความรู้สึกที่ทะลักออกมาไม่ให้ใครเห็น

    “พี่แคน นี่มาจากใจผมเลยนะ ความรักที่พี่ให้สต๊อปมันยิ่งใหญ่และลึกซึ้งมาก พี่ทั้งรัก หวังดี พร้อมที่จะปกป้องดูแล แต่พี่กลับไม่ยื่นสิ่งดีๆ ให้สต๊อป พี่ต้องการปล่อยให้สต๊อปไปเผชิญกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้าโดยที่ไม่รู้ว่าจะดีหรือร้ายงั้นเหรอ พี่ไว้ใจคนอื่นมากกว่าใจตัวเองเหรอครับ” คำพูดของผมทำให้พี่แคนนิ่งด้วยความอึ้ง ก่อนที่จะยิ้มออกมาด้วยน้ำตาคลอเบ้า

    “แกงส้ม...พี่รู้แล้วว่าทำไมไอ่ฮั่นถึงรักเรามากนัก  เราเป็นคนที่มีออร่าแห่งความรักกระจายสู่คนอื่นรอบข้างจริงเลยนะ” พี่แคนพูดขึ้น ผมแอบเขินกับคำพูดนี้เหมือนกันนะเนี่ย

    “ผมก็แค่อยากทำอะไรให้พี่บ้าง วันนี้พี่ช่วยผมมามาก ช่วยรักษาความรักของผมไว้” ผมขอบคุณพี่แคนด้วยใจจริง เพราะถ้าผมยังทะเลาะกับพี่ฮั่นต่อไป ความรักของผมอาจจะแตกหักไปเลยก็ได้

    “งั้นนับตั้งแต่นาทีนี้ไป พี่จะทำตามที่หัวใจอยากจะทำ ” แปะๆๆๆๆๆ ขอเสียงปรบมือให้พี่แคนพระเอกของเราด้วยครับ!!!  ผมอยากให้พี่ชายผมคนนี้และสต๊อปมีความสุขมากๆกะเค้าซะที พี่แคนขยี้ผมของผมอย่างเอ็นดู ก่อนที่จะวางแขนไว้ไหล่ผมอย่างสนิทสนม คงรักผมเหมือนพี่เอกะพี่บีแล้วใช่มั้ยละ 5555

     

    STOP talk

    การที่ย่องเข้าแบบไม่ส่งเสียงนี่มันไม่ดีจริงๆ เลยนะ ภาพที่อยู่ตรงหน้าสร้างความไม่สบายใจเลย พี่แคนกำลังโอบแกงส้ม คนรักของพี่ชายเรา ทั้งที่ไม่ยากคิดอะไรที่เป็นอกุศล แต่พี่แคนก็ไม่เคยจะทำอะไรกับเราแบบนี้ ถ้ามองแกงส้มเป็นน้องชายจริงๆ ทำไมถึงทำตัวต่างจากเราแบบนี้นะ เหมือนเห็นแบบนี้แล้ว เพิ่งเข้าใจว่าสิ่งที่พี่แคนแสดงกับเรามันช่างดูห่างเหินกว่าคนอื่น แต่จะให้ยืนตรงนี้ตลอดไปก็คงไม่ได้สินะ

    “กลับมาแล้วค้า”  เสียงที่ส่งออกไปมันช่างแตกต่างกับความรู้สึกตอนนี้จริง ผลที่ได้คือสองคนผงะออกจากกัน แกงส้มยังคงส่งยิ้มน่ารักกลับมาให้ รอยยิ้มของนายมันกินใจจริงๆ

    “ทำไมกลับมาช้าจัง พี่กับแกงส้มนั่งรอตั้งนาน” พี่แคนพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นที่คุ้นเคย

    “ไปนัดเจอเพื่อนๆ กลุ่มเก่าๆคะ หรือว่าพี่แคนยังไม่ได้ทานอะไรคะเนี่ย” เพราะปกติแล้วพี่แคนจะไม่ชอบหาอะไรทานเอง ต้องรอให้เรากลับมาจัดการเรื่องอาหารการกินให้อยู่เสมอๆ 

    “พี่เรียบร้อย แกงส้มโชว์ฝีมือเองเลยนะ ถ้ารอเราก็คงท้องกิ่วแล้วละกลับมาซะดึกเลย” พี่แคนพูดแล้วหันไปมองหน้าแกงส้มที่ส่งยิ้มให้กันอย่างรู้ใจ หรือว่า...จะกลายเป็นส่วนเกินไปแล้ว

    “พี่แคนรอสต๊อปตั้งแต่เย็นแล้วนะเนี่ย” แกงส้มพูดแล้วส่งยิ้มให้อย่างน่ารักสดใสจริงใจ

     “เราก็รอเป็นเพื่อนกันนี่แหละ ทั้งพี่ทั้งเรา” พี่แคนอมยิ้มแบบเขินด้วย...อะไรกันนี่

    “สต๊อปไปนอนก่อนนะคะ” ไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่เอานะสต๊อป อย่าคิดมาก แกงส้มรักกับพี่ฮั่นจะตายไปไม่มีทางหรอก เธอห้ามคิดอะไรบ้าๆ แบบนี้นะ พอพูดแล้วก็รีบเดินขึ้นห้องไปทันที โอ๊ยยยยยย... สต๊อปแกเลอะเลือนไปหมดแล้ว อย่าเครียดๆ ไม่จริงสักหน่อย  กำลังคิดอะไรเพลินๆ เสียงมือถือก็ดังขึ้น

    “ว่าไง พี่ฮั่น” พี่ชายโทรมา กำลังว่าจะโทรหาพอดี ทำไมแกงส้มมาอยู่ที่นี่ได้นะ

    “อยู่ที่ไหนเนี่ย” เสียงพี่ชายตอบกลับมา แต่ฟังดูบรรยากาศรอบข้างเหมือนอยู่ที่ผับ แปลกจริงเชียว

    “บ้านพี่แคนสิคะ มีอะไรทำไมชอบทำเสียงเข้มกับน้องเนี่ย” รึว่าจะเป็นเรื่องแกงส้มจริงๆ

    “แกงส้มนอนไปรึยัง” เสียงพี่ชายดูทั้งหงุดหงิดทั้งห่วงหาอาทร เป็นน้ำเสียงที่น่าสงสารมาก

    “ยังคะ เห็นคุยกับพี่แคนอยู่ แล้วทำไมแกงส้มถึงมาอยู่บ้านพี่แคนได้” รู้สึกสังหรณ์ใจว่ามีเรื่องแน่ๆ

    “พี่ทะเลาะกับแกงส้ม แต่ไม่รู้ว่าไอ่แคนคิดยังไง พาแกงส้มหนีพี่ไป” น้ำเสียงไม่สบอารมณ์นั้นบ่งบอกถึงความไม่พอใจในตัวพี่แคนอย่างมาก ซึ่งน้อยไปกว่าชั้นเลย พี่แคนพี่คิดอะไรของพี่อยู่.....

     

    ผมรู้สึกแปลกๆ เหมือนกันนะครับ ที่ตื่นเช้าขึ้นมาในที่ๆอื่น แถมยังไม่มีร่างสูงที่นอนอยู่ข้างๆ เหมือนเคย ไม่มีเสียงฮัมเพลงในห้องน้ำ หรือใบหน้าทะเล้นที่น้อยคนนักจะได้เห็นยียวนเรา วันนี้พี่ฮั่นคงมารับเราแล้วแหละ ตามเวลาการทำนายของพี่แคน พี่ฮั่นพี่จะคิดถึงผมเหมือนที่ผมคิดถึงพี่บ้างรึเปล่า....

    “ก๊อกๆๆๆๆ...แกงส้ม” นั่นเสียงพี่แคนนิ มีอะไรมาเรียนตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมง

    “มีอะไรครับพี่แคน” ผมพูดออกไปทันทีที่เห็นใบหน้าหล่อหวานยิ้นแป้นแล้นหน้าห้อง

    “พี่อยากทำอาหารเช้าให้คนนั้นกินอ่ะ” พี่แคนพูดเสียงเบาๆ ออกตัวแรงจริงพ่อคู้นนนนน

    “ก็ทำสิ พี่จะมาบอกผมทำไมเนี่ย ดีครับดี น่ารักดี พี่ทำเลยนะ” ผมข้องใจจริง บ้านก็บ้านเค้าจะมาบอกผมทำไมนะ ผมกำลังจะปิดประตู พี่แคนดันประตูไว้

    “พี่ทำไม่เป็นนี่หว่า ช่วยพี่หน่อยสิ นะๆๆๆ” ครั้งแรก!!! ที่เห็นพี่แคนอ้อนเหมือนเด็ก คือมันก็ดีนะถ้าอยากทำอะไรให้คนที่เรารัก แต่พี่จะทำอาหารเช้าให้สต๊อปทั้งที่ทำไม่เป็น...มันคงหวานซึ้งน่าดูเลย

    “งั้นพี่ลงไปรอข้างล่างนะ ผมจัดการตัวเองแปบนึง” ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย ฟันยังไม่ได้แปรงเลย

    “เร็วๆนะ รีบตามลงไปละ” พี่แคนกำชับเสียงเบา ก่อนจะลงไปด้านล่างทันที คู่นี้ถ้ารักกันคงจะน่ารักดี แต่ถ้าพี่ฮั่นรู้เรื่องนี้จะเกิดอะไรขึ้น เหมือนจะหวงน้องสาวเหมือนกันนะ ผมกับพี่แคนคงตายคู่แน่!!!

    หลังจากการอาหารเช้าสื่อรักผ่านพ้นไปด้วยความวุ่นวาย พี่แคนท่าทางจะไม่เคยเฉียดห้องครัวเลยสักครั้ง เพราะยังแยกหอมแดงกับกระเทียมไม่ได้เล้ยยยย แต่ยังไงก็เถอะ คะแนนทำอาหารอาจจะตก แต่คะแนนความรักและความทุ่มเท ผมให้เต็มร้อย ท่าทางเก้ๆ กังๆ แต่ตั้งใจแบบนี้อยากอัดคลิปไปให้สาวเจ้าดูจริงๆ

    “ขอบคุณจริงๆ นะ ที่ช่วยพี่หน่ะ” พี่แคนนั่งลงข้างผมที่ชุดโซฟารับแขก

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเองก็ไม่อยากให้สต๊อปต้องมารับกรรมวันนี้” ผมก็หยอกตามประสา

    “นี่แกงส้ม...นายหาว่าพี่ทำอาหารไม่อร่อยงั้นเหรอ” พี่แคนทำเสียงสูงใส่ผม

    “เปล่า คำว่าไม่อร่อยห่างไกลครับ เค้าเรียกว่า ทำ -ไม่ –เป็น ” ผมเน้นเสียงสามคำสุดท้าย

    “แกงส้มอย่าได้มีชีวิตมันเลย ตายซะ” พี่แคนล็อคคอผมจากด้านหลังหมายมุ่งจะเอาชีวิตผม

    “ปากดีแบบนี้ต้องโดนลงโทษ รู้มั้ยจ๊ะ” พี่แคนพูดเสียงหวาน แต่การกระทำช่างทารุณเหลือเกิน

    “ทำอะไรกันหน่ะ” ฟ้าผ่า!!! จากน้ำเสียงของเจ้าหล่อน คงไม่เป็นอื่นแน่ นอกจากเข้าใจผิด ก็ถ้ามองในมุมสต๊อปคงเหมือนเราสองคนประคองกอดกันจากด้านหลังหวานแหวว งานเข้าได้ทุกวี่ทุกวัน...

    “เข้าใจผิดแล้ว เราไม่ได้” ผมพยายามแก้ตัว

    “แกงส้ม แค่บางเรื่องมันก็แค่เข้าใจผิด แต่ที่ทำเธอกับพี่ชายเรามันเกินไปนะ พี่แคนก็เหมือนกันแหละ สต๊อปคิดว่าพี่เป็นเพื่อนที่ดี รักพี่ฮั่นมาก แต่ทำไมคะพี่แคน ทำไมต้องทำร้ายพี่ฮั่นขนาดนี้ด้วย” สต๊อปน้ำตาไหลพราก เวรกรรมอะไรของผมเนี่ย

    “พี่ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น แล้วพี่ก็ไม่มีทางทำได้ด้วย” พี่แคนเดินเข้าไปหา แต่สต๊อปถอยหลังออก

    “ไม่ต้องมาพูดเลย กินอยู่กับปาก เห็นกันอยู่ เสียแรงนะที่สต๊อปไว้ใจ ยังจะมีหน้ามาปฏิเสธอีก หลงคิดว่าเป็นคนดีที่แท้ก็คนเห็นแก่ตัว ทำร้ายแม้แต่เพื่อนรักของตัวเองได้” ดูแล้วสต๊อปคงสติน่าดู

    “พี่ไม่มีวันทำร้ายไอ่ฮั่น แล้วพี่กับแกงส้มมันก็ไม่มีอะไรจริงๆ มันเป็นไปไม่ได้” พี่แคนพยายามอธิบายต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ ส่วนตัวผมได้แต่เป็นผู้ชมอย่างใกล้ชิดมากๆ เท่านั้นเอง

    “แล้วที่พี่ทำอยู่ละ ยังมีหน้ามาบอกว่าเป็นไปไม่ได้” สต๊อปทำน้ำเสียงประชดประชันอย่างน่าตกใจ

    “ที่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะพี่รักเรานะสต๊อป ไม่ได้รักแบบน้องสาวด้วย รักมาตั้งนาน ที่สำคัญแกงส้มก็รู้ว่าพี่รู้สึกยังไง” อ๊ากกกกกก!!! พระเจ้าช่วย... พี่แคนบอกรักสต๊อปไปแล้ว ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยนะ บอกผมก่อนได้มั้ยเล่า อยากจะกลั้นหายใจแล้วหายตัวไปจากตรงนี้จิงๆ......เขินแทนวุ้ยยยยยยยย

     

    STOP talk

    เมื่อกี้พี่แคนพูดว่าอะไรนะ จากสายตาคู่นั้นที่มองมา เราไม่ได้ยินผิดไปแน่ๆ พี่แคนชอบเรางั้นเหรอ เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตชั้นไป ทั้งที่หมดความหวัง หมดศรัทธากับตัวผู้ชายคนนี้ไปเมื่อไม่กี่วินาที แต่คำพูดเหล่านั้นวิ่งมากระแทกหัวใจแทบกระอักความสุขจนหายใจไม่ออก ความโกรธความเสียใจจางหายราวกับปลิวไปตามสายลม สายตาหวานที่จ้องมาที่เราทำใจละลายมากกว่าที่เคยเป็น

    “พี่ขอโทษนะ ถ้ามันทำให้เรารู้สึกแย่ ลืมๆมันไปเถอะ” พี่แคนคงเห็นว่าชั้นนิ่งไปนาน ก็คนมันตะลึงอยู่นิ ไม่ได้รู้สึกแย่อย่างที่พี่เข้าใจเลยนะ ตรงกันข้ามมันทำให้ชั้นล่องลอยไปในห้วงแห่งความรัก

    “ไม่ใช่ยังงั้นนะคะ สต๊อปรู้สึกดีกับมัน...มากๆ” สิ่งที่ตอบไปอาจจะลำบากที่จะตอบออกมา หากแต่เมื่อมีรอยยิ้มหวานๆ ของชายหนุ่มอันเป็นที่รักส่งมากนั้น ไม่เสียใจเลยที่ตัดสินพูดออกไป

     

    HUNZ talk

    ผมไม่ไหวแล้วนะ ชีวิตที่ไม่มีตัวป่วนอยู่ในบ้านเนี่ย มันเงียบเหงา มันอ้างว้าง มันแย่ไปทุกๆอย่าง แกงส้มนายไม่คิดจะโทรมาหาพี่เลยรึไงห๊ะ!!!  เคยคิดถึงกันบ้างมั้ย ผมไว้ใจไอ่แคนนะ แต่แกงส้มของผมมันก็น่ารักเกินมนุษย์ ใครมันจะอดใจไหว ของๆ ผม ผมต้องไปเอาคืนซะแล้ว ไม่ทนแล้ว!!! เสียงมือถือทำลายความหงุดหงิดในหัวผม สต๊อปโทรมาครับ  รึว่า....ตัวแสบจะบอกให้โทรมาเพื่อจะสอดส่องว่าผมเป็นยังไง

    “ว่าไง” ผมทำเสียงให้เรียบ เราต้องไม่แสดงออก เดี๋ยวมาดหลุดเป็นตุ๊ดเหมือนแฝดนรกนั่น

    “พี่มาทานข้าวที่บ้านพี่แคนเที่ยงนี้หน่อยนะ พี่แคนมีเรื่องจะบอก” สต๊อปพูดเสียงมีพิรุธ

    “เรื่องอะไร” ผมชักจะเครียดแล้วนะ อย่าเป็นแบบนี้ได้มั้ย แกงส้มเรายังเหมือนเดิมใช่มั้ย

    “พี่มาเดี๋ยวก็รู้เองแหละ แค่นี้นะคะ” สต๊อปพูดตัดบท แล้ววางสายไปเฉยๆ แบบนี้เค้าเรียกว่าชนแล้วหนี ผมใจร้อนรนขึ้นมาทันทีทันใด มันเป็นเรื่องอะไรกันแน่นะ ต้องเรียกให้ผมไปคุยที่บ้านขนาดนั้น แค่คืนเดียว แกงส้มคงไม่เปลี่ยนใจไปจากผมหรอก.... เสียงมือถือดังขึ้นมาอีกครั้ง ตอนแรกคิดว่าสต๊อปแต่ที่แท้ก็เป็นสิตางค์ ผมบอกตรงๆนะ ผมเริ่มรู้สึกอึดอัดกับสิตางค์มานิดๆ แบบไม่มีเหตุผล

    “สวัสดี สิตางค์” ผมพูดออกไปตามสาย

    “ฮั่น เป็นยังไงบ้าง ดีกับแกงส้มรึยัง” น้ำเสียงของสิตางค์ดูเป็นห่วงเรื่องนี้มากจริงๆ

    “ยังไม่ได้คุยกันหน่ะ” พอพูดเรื่องนี้ ผมก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา

    “งั้นไปหาแกงส้มที่บ้านแคนมั้ย เดี๋ยวไปอธิบายให้น้องฟังเอง เราไม่อยากเป็นต้นเหตุทำให้ความรักของฮั่นมีปัญหา ขอเราช่วยแก้เถอะนะ” ฟังจากเสียงของสิตางค์แล้ว ดูจะมีความรู้สึกผิดในใจมากมายอยู่เหมือนกัน อยากให้เจ้าแกงส้มบ้านั่นมาได้ยิน ว่าสิตางค์หวังดีกับเราแค่ไหน

    “ได้สิ สิบเอ็ดโมงเดี๋ยวเราไปรับที่บ้านนะ” ก็ดีเหมือนกัน ให้สิตางค์อธิบาย อะไรๆจะได้ดีขึ้น ผมหลับไม่ลงจริงๆ ถ้าไม่มีแกงส้มอยู่ข้างๆ คืนเดียวที่ไม่มีแกงส้มมันก็เพียงพอแล้วสำหรับชีวิตนี้

     

    ผมนะอุตส่าห์ดีใจที่พี่ฮั่นมาหาผม แต่พอเห็นหน้ายัยสิตางค์แล้วมันจี๊ดจริงๆ แทนที่จะได้คุยกันดีๆ ผมเลยไม่มองเอาซะเลย เห็นท่าทางแอ๊บๆ ของยัยสิตางค์มันหงุดหงิดหัวใจจริงๆ พอสองคนนั้นเดินลงมาจากรถผมเดินเข้าไปในบ้านเลย พี่แคนก็เหล่มองผม สายตาปรามๆ ประมาณมากเกินไปแล้ว

    “ไอ่แคน แกมีเรื่องอะไรจะคุยกับชั้น พูดมาเลย” เสียงพูดเรียบแต่เยือกเย็นของพี่ฮั่นดูเอาเรื่องจัง

    “เฮ้ย!! กินข้าวก่อน อย่าเพิ่งรีบร้อน เราต้องคุยกันนาน” พี่แคนพูดท่าทางอารมณ์ดี แต่พี่แคนครับช่วยสังเกตอารมณ์เพื่อนรักหน่อยได้มั้ยครับ เค้าจะบีบคอเอาอยู่แล้วนั่น

    “มันต้องขนาดนั้นเลยเหรอ” พี่ฮั่นพูดกึ่งประชดประชัน ก่อนปรายตามองมาที่ผม

    “อื้ม...ที่สุดในชีวิต และชั้นอยากให้แกเข้าใจชั้นด้วย” พี่แคนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนที่จะนั่งบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารฝีมือผมกับสต๊อป ยัยสิตางค์หันมามองหน้าผมก่อนยิ้มที่มุมปาก

    “น้องแกงมานั้นข้างพี่ฮั่นสิคะ เดี๋ยวพี่ไปนั่นตรงนั้นเอง” ยัย....นึกคำด่าไม่ออกเฟ้ยยยย

    “ไม่เป็นไรครับ ผมอยากนั่งตรงนี้” ผมไม่อยากใกล้พี่ฮั่นแล้ว งอน!!!!  ผมเลยทิ้งตัวระหว่างพี่แคนกับยัยสิตางค์ นั่งใกล้กันให้พอเลยไป เจ้าตัวเค้าไม่เห็นจะทักเราสักคำ ไอ่นั่งใกล้ๆ กันอย่าไปพูดถึง

    “ช่างเค้าเถอะ สิตางค์ ความสุขของเค้า เค้าเลือกเองได้” พี่ฮั่นหมายความว่าอะไรเนี่ย ไม่เข้าใจ....

    บรรายากาศการทานอาหารเป็นไปด้วยความเงียบ แต่ดูคู่รักใหม่จะมีความสุขแม้จะไม่ได้พูดออกมา ถึงเวลาต้องไปยกของหวาน คงเป็นหน้าที่ของผมสินะ ผมเลยลุกขึ้นเพื่อที่จะไปห้องครัว

    “ไปเอาของหวานเหรอคะ เดี๋ยวพี่ไปช่วย” เรื่องเสนอหน้าเนี่ยไม่มีใครเกิน

    “งั้นสต๊อปไปช่วยด้วยคนนะ” หลังจากเคลียร์เรื่องราวหัวใจ ผมกับพี่แคนเลยเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับพี่สิตางค์ให้สต๊อปฟัง ทำให้สต๊อปค่อนข้างจะเป็นห่วงผม แต่...

    “ไม่เป็นไรหรอก เรากับพี่สิตางค์ก็พอแล้ว” ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ายัยปิศาจหน้าสวยต้องการอะไร พอเดินไปที่ห้องครัวด้วยกัน ผมก็นึกแผนทำลายยัยนี้ให้สิ้นซากจากเส้นทางรักของผม

    “พี่สิตางค์มีอะไรก็พูดมา อย่ามาอ้อมค้อม” ผมพูดเปิดประเด็นก่อน ยัยสิตางค์ยิ้มแบบเจ้าเล่ห์

    “ชั้นแค่คิดว่า ความรักของนายกับฮั่นมันสั่นคลอนไปเรื่อยๆ นะ ชั้นไม่ปฏิเสธหรอกว่าฮั่นเค้ารักนาย แต่ดูจากหลายๆ อย่าง นายคงต้องเสียน้ำตาแล้วหล่ะ” พี่สิตางค์พูดเหมือนจะยั่วโมโหผม แต่ผมไม่โง่นะ!!!

    “ผมไม่รู้หรอกนะ...ว่าอะไรทำให้พี่คิดแบบนั้น แต่ความรักของผมมันต้องไม่ถูกทำลายด้วยน้ำมือคนอย่างพี่หรอก ผมรู้นะว่าพี่เคยทิ้งพี่ฮั่นเพราะแค่อยากคบกับพี่แคน” คำพูดของผมไม่ได้ทำให้สิตางค์วิตกได้เลยแม้แต่น้อย ผู้หญิงคนนี้อันตรายจริงๆ

    “แล้วนายจะไปบอกเรื่องนี้กับฮั่นเหรอ นายคิดว่าฮั่นจะเชื่อว่าผู้หญิงแสนดีอย่างชั้น เคยทิ้งเค้าเพราะว่าเค้าดูไม่มีอนาคตงั้นเหรอ นายคิดผิด ในสายตาฮั่นชั้นมันนางฟ้า” คำพูดแต่ละคำช่างน่ารังเกียจจริงๆ

    “แล้วนายอย่าหวังเลยว่าจะได้กลับไปรักกับฮั่นได้เหมือนเดิม ไม่มีทาง” ใช่...สิ่งที่พี่สิตางค์ทำมันเหนือชั้นทุกอย่าง แต่สิ่งง่ายที่พี่สิตางค์ลืมคิดไปคือ มือถือเครื่องไหนๆ เค้าก็บันทึกเสียงได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะเครื่องที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของผม ผมมองร่างที่กำลังมีหายนะมาเยือน วันนี้แหละชั้นจะคิดบัญชีเธอรวบยอด5555

    “มาแล้วค่ะ น่าทานมากเลยบัวลอยไข่หวาน” เสียงหวานพูดพลางส่งยิ้มไปทั่วโต๊ะก่อนที่จะมานั่งที่นั่งข้างๆ ที่รักของผม ผมเดินตามหลังมาก่อนที่จะยกถ้วยบัวลอยไข่หวานถ้วยแรก ราดไปที่หัวของยัยสิตางค์!!!

    “อะไรกัน” พี่ฮั่นจับมือผมไว้อย่างตกใจ ยัยสิตางค์ร้องด้วยความตกใจ หันมามองหน้าผม ผมชูโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างเป็นต่อ พร้อมเปิดเสียงที่เพิ่งบันทึกไปสดๆร้อนๆ ทันทีที่ฟังจบพี่ฮั่นมองหน้าพี่สิตางค์อย่างก้าวร้าว เป็นสิ่งที่ใครๆก็ไม่อยากเข้าไปประจันหน้า ยัยสิตางค์ส่ายหน้าเบาๆ

    “สิตางค์...ขอโทษ” คำพูดมาพร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้น มันอาจจะน่าสงสารถ้าหล่อนไม่ได้พยายามทำร้ายผมขนาดนี้

    “คุณไปได้แล้วสิตางค์ อย่ามายุ่งกับผม อย่าได้มาคิดทำร้ายความรักของผม ถึงยังไงคนที่ผมรักก็คือแกงส้มไม่ใช่คุณ คุณทำร้ายพวกเรามามากเกินไปที่ผมจะให้อภัยคุณ” เสียงพี่ฮั่นดูกังวานและมีอำนาจอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน พี่ฮั่นครับ...ผมก็จะไม่ให้ใครมาทำลายความรักของเราแน่นอนครับ แต่ตอนนี้พี่ต้องง้อผมนะ เพราะไหนๆ พี่ก็รู้แล้วว่าผมไม่ผิด หลังสิตางค์ออกไป พี่แคนก็ตัดสินใจใช้จังหวะนี้พูดเรื่องสำคัญ

    “ฮั่น...ชั้นรักสต๊อป” พี่แคนพูดออกมาอย่างชนิดไม่มีใครตั้งตัว

    “อะไรนะ” พี่ฮั่นตะโกนออกมาอย่างตกอกตกใจ ผมละกลัวพี่ฮั่นหักคอพี่แคนจัง...

    “ชั้นรักสต๊อป จากนี้ชั้นขอดูแลสต๊อปนะ” พี่แคนยืดอกพูดอย่างกล้าหาญ เท่จริงๆ เชียวพี่ชายเรา

    “เรื่องนี้เหรอเรื่องสำคัญของแก โธ่เว้ยยยย!!!! ชั้นนึกว่าแกจะตีท้ายครัวชั้นซะแล้ว แม่งโครตจะเครียดเลยเนี่ย นึกว่าแกจะหลงรักแกงส้มของชั้น” แกงส้มของชั้น....ทำมาเป็นพูดดีเหอะ

    “แล้วชั้นคบกับน้องสาวแกได้มั้ย” พี่แคนทำหน้างงๆ กับเรื่องที่พี่ฮั่นพูดออกมา เป็นใครๆก็งง เค้าคิดว่าผมกับพี่แคนเนี่ยนะ ไปเอาความคิดพิเรนทร์แบบนี้มาจากไหนกันนะ

    “แกห้ามทำสต๊อปเสียใจนะ ชั้นขอร้อง...ชั้นมีน้องสาวของชั้นคนเดียวแกก็เป็นเพื่อนรักที่สุดของชั้น อย่างทำให้เราต้องผิดใจกัน แกต้องรักน้องสาวชั้นมากๆ” พี่ฮั่นพูดกับพี่แคนด้วยน้ำเสียงจริงใจกึ่งๆขอร้อง

    “ชั้นสัญญา จากนี้ไปสต๊อปจะเป็นหัวใจของชั้น” พี่แคนไม่พูดเปล่าคว้าเอามือสต๊อปมากุมอย่างอ่อนโยน พี่ฮั่นอมยิ้มเมื่อมองภาพนั้น ก่อนที่จะหันมามองหน้าผม

    “แต่ตอนนี้ชั้นขอเคลียร์กับหัวใจของชั้นก่อนนะ เมื่อคืนทำเอาชั้นเกือบจะตาย กลับไปจัดหนัก!!!” อ๊ากกกกก!!!  พี่ฮั่นพูดอะไรแบบนั้น ผมอายเป็นนะครับ พี่แคนกับสต๊อปมองหน้าผมแล้วแอบขำ พี่ฮั่นคว้ามือผมเดินไปที่รถคันหรูของเค้า มืออุ่นๆที่แสนจะแข็งแรงจับไหล่ผมให้มองตาตรงๆ และชัดเจน

    “พี่คิดถึงเรามากนะ อย่าหนีพี่ไปอีกนะ พี่ขอร้อง” แววตาที่แสนจะอ่อนหวาน ทำเอาผมยิ้มไม่หุบ พี่ฮั่นครับ...ถ้าพี่ต้องการผมอย่างนี้ตลอดไป ผมก็จะไม่เดินไปจากพี่แน่นอน รักของเราจะอยู่จนวันตาย.......

     

    ปล. ตอนนี้ยาวมากกกกกกกก....กว่าจะเขียนเสร็จแทบตาย ฝากอ่านฝากเม้นคำติชมหน่อยนะคร้า^^

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×