คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 : ปราบโจร หรือ โจรปราบ
HUNZ talk
ในที่สุดผมก็พูดได้เต็มปากเต็มคำเป็นเจ้าของร่างบางนี้แล้ว ผมไม่เคยอ่อนแอแบบนี้มาก่อน ทั้งที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ดึงแกงส้มเข้ามาในชีวิต แต่พอแกงส้มบอกว่าจะไปจากผม มันทนไม่ได้จริงๆ ผมยอมตายดีกว่าที่จะมีชีวิตโดยไม่มีคนๆนี้อยู่เคียงข้าง ดังนั้นคำสั่งเด็ดขาดสำหรับผมที่ให้แกงส้มทำตามคือ ห้ามไปไหนตามอำเภอใจ แต่ดูท่าทางที่โดนผมปราบด้วยความรักแล้วคงทำให้ตัวป่วนอ่อนฤทธิ์ลงไปมากโขเหมือนกัน
ช่วงนี้ผมอารมณ์ดีมากถึงมากที่สุด เพราะอะไรเหรอครับ เพราะผู้ชายหน้าร้ายคนนั้น เค้า....บอกรักผมแล้วววว!!! คำว่ารักคำนั้นมันปลดปล่อยความเจ็บปวดทั้งหมดลบออกไปจากใจของผม จนพี่เอและพี่บีหมั่นไส้ผม 5555 ตอนนี้พี่ฮั่นกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ผมนั่งอ่านหนังสือรอบนเตียง เป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากที่มาเฟียหน้าโหดอย่างพี่ฮั่นจะเป็นนักอ่านตัวยง ในระหว่างผมกำลังอ่านหนังสือเพลินๆ พี่ฮั่นก็เปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวผูกเอวผืนเดียว!!!
“พี่ฮั่น!!! ทำไมล้อนจ้อนออกมาแบบนี้เล่า ผ้าหลุดขึ้นมาทำไง ผมยังไม่อยากเป็นตากุ้งยิงนะ” คนอะไรไม่รู้จักอาย แล้วผมหน้าแดงทำไมเนี่ยยยย... แต่เจ้าตัวกลับยิ้มแป้นทำหน้าทะเล้น
“ทำมาเป็นโวยวาย เมื่อคืนเห็นแต่...พลั่ก!!!” ก่อนที่เจ้าตัวจะพูดจบ หมอนจากมือผมก็ลอยไปกระแทกกับใบหน้าของตาโจรจอมทะลึ่งนั่น พี่ฮั่นหยิบหมอนแล้วเดินเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว ผมยังไม่ได้ขยับตัวเลยด้วยซ้ำ พี่ฮั่นมีแววตาที่อ่อนโยนอมยิ้มเล็กๆ ที่มันไม่ปลอดภัยกับหัวใจผมอีกแล้ว
“เขินรุนแรงนะเราเนี่ย สงสัยชอบความรุนแรง” หลังจากที่พี่ฮั่นพูดจบก็บดปากลงที่ปากผมทันที ผมพยายามดิ้นแล้วนะ!!! แต่พี่ฮั่นเค้าทับบนตัวผมอยู่นิ แล้วผมจะทำยังไงได้เล่า อย่ามาว่าผมใจง่ายนะ
“แกงส้ม” โอยยยยย...ทำไมต้องทำเสียงแบบนี้ด้วย ใจผมละลายลงไปกองแทบเท้าพี่ฮั่นอยู่แล้ว
“พี่จะมีชีวิตยังไง ถ้าพี่ขาดเรานะ” เสียงลมหายใจแผ่วๆ กับน้ำเสียงแสนจะเว้าวอนนั้น ผมปฏิเสธผู้ชายคนนี้ไม่ได้จริง ผมเอื้อมมือไปสัมผัสแก้ม พี่ฮั่นจูบมือข้างนั้นเบาๆ แต่นาน มันช่างหวานยิ่งนัก ไหล่กว้างๆของพี่ฮั่นเบียดเข้าใกล้ผมจนรู้สึกถึงผิวหนังที่ร้อนผ่าว จมูกของที่ฮั่นซอกไซร้ไปตามร่างกายของผม สงสัยเช้านี้พี่เอกับพี่บีคงต้องทานข้าวกันสองคนแล้วสินะ....
ในตอนบ่ายพี่ฮั่นออกไปทำธุระที่ผมไม่เคยจะได้หรอกว่า...สุดที่รักของผมไปทำอะไร อ๊ากกกกก!!! ผมเรียกพี่ฮั่นว่าสุดที่รักของผม แต่การที่พี่ฮั่นกลับมานอนที่ห้องกับผมทุกวัน ตื่นเช้ามาเจอกันทุกวัน ชีวิตของผมจะต้องการอะไรมากไปกว่านี้ละครับ แล้วอย่าได้คิดนะครับว่าพี่ฮั่นของผม จะอ่อนหวาน น่ารักเป็นเหมือนลูกแมวน้อยแสนเชื่อง ยังไงๆความดุความเข้มของเค้าก็ยังคงเหมือนเดิม ที่อย่างว่า....ที่ผมรักเค้า เพราะไอ่ท่าทางดุเข้มเกินมนุษย์ของเค้านี่แหละ ผมใช้ชีวิตไปกับการที่นั่งมองพี่เอกับพี่บีทะเลาะกัน ทะเลาะเรื่องอะไรผมก็ไม่ว่าหรอกนะครับ บางวันทะเลาะว่าใครหล่อกว่า ว่าใครเท่กว่า คือแบบว่าทั้งรูปร่าง หน้าตา การแต่งตัว เหมือนกันยังกะถ่ายเอกสาร ถ้าไม่มีเข็มกลัดสีหวานที่ติดอยู่ตอนนี้ผมก็ยังจะเรียกชื่อผิดอยู่ดี
“น้องแกงงงงงงง...” เสียงพี่บีเรียกผมจากหน้าบ้าน ซึ่งตอนนี้ผมกำลังนั่งทานเค้กที่พี่ฮั่นซื้อมาให้เต็มปากเต็มคำอยู่ กว่าผมจะกลืนและดื่มน้ำตาม เจ้าของเสียงก็เดินมาถึงที่ๆผมนั่งอยู่พอดี
“ครับพี่บี มีอะไรเปล่า ผมนึกว่าไฟไหม้ซะอีก” ผมตอบแต่มือก็ยังยังลูบเศษเค้กที่ติดอยู่ที่ปาก
“มีคนจะแนะนำให้รู้จัก” พี่บีพูดด้วยท่าทางดีใจเหมือนเด็กน้อยได้ของเล่นใหม่ ก่อนที่จะลากแขนผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาที่โถงรับแขก ผมเห็นพี่เอกำลังคุยชายหนุ่มหน้าตาดี ขาว ใส แต่คิ้วที่หนากลับทำให้คนๆ นี้มีความดื้อรั้น เอาแต่ใจ
“คนนี้เหรอ” ชายหนุ่มหน้าตี๋คนนั้นหันมายิ้มกว้างให้ผม ก่อนที่จะถามขึ้นมา
“ใช่แล้ว คนนี้นะแหละที่ปราบเจ้าสำนักอยู่หมัด” พี่เอพูดถึงผมด้วยท่าทางภูมิใจ
“แกงส้ม...นี่ พี่ฮัท เป็นน้องชายคนสนิทของสุดที่รักของนายหน่ะ” พี่เอหันมาแนะนำผมกับพี่ฮัท แต่สรรพนามที่ใช้เรียกพี่ฮั่นนี่มันช่าง.....น่ารักจริงๆ
“แล้วสต๊อปละ ที่เมืองไทยมหาลัยปิดเทอมแล้วไม่ใช่เหรอ” พี่ฮัทถามขึ้นมา เอ๊ะ! ผมคิดไปเองรึเปล่านะที่พี่เอและพี่บีเหมือนจะไม่อยากตอบ หันไปมองหน้ากันอย่างลำบากใจ
“อยู่ที่บ้านพี่แคนครับ” ไหนๆ ก็ไหนๆ ผมเลยรับอาสาตอบให้เอ๊งงงงงงงง... แต่ว่าสายตาที่ลุกโชกในใบหน้าขาวใสนั้น ผมเลยรู้สึกตัวว่าตัดสินใจอะไรด้วยความโง่อีกแล้ว ท่าทางพี่สองแฝดของผมคงเห็นด้วยอย่างแรงกล้า เมื่อประเมินจากสายตาที่มองมาที่ผม
“ที่อื่นมีเยอะแยะ พี่ฮั่นคิดอะไรของเค้า ทำไมเอาสต๊อปไปไว้ที่ไอ่คนพรรค์นั้นได้” พี่ฮัทดูเดือดดาล ผมเริ่มเข้าใจแล้ว รักสามเส้า เราสามคน เริ่มเกิดขึ้นในวงจรชีวิตที่ไม่สงบสุขของผมแล้ว
“พี่แคน เค้าก็เป็นคนดีนะไอ่ฮัท สต๊อปก็มีความสุขดีนี่หว่า วันก่อนก็เพิ่งมาที่นี่ แกอคติกับพี่แคนมากไปแล้ว พี่ฮั่นเค้าเห็นว่าอะไรที่ดีที่สุดในตอนนี้ที่พอจะทำได้เค้าก็ทำ” พี่บีเริ่มอธิบายให้เค้าเข้าใจ
“...” ความเงียบนี้ ช่างน่ากลัวยิ่งนัก ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในห้วงพายุอารมณ์ที่ผมไม่จำเป็นต้องมาเจอเลย พี่บีนะพี่บี...น่าปล่อยให้ผมกินเค้กอยู่หลังครัวซะ
HUNZ talk
ความจริงผมไม่อยากจะจากร่างสูงบางของแกงส้มมาเลย ผมเข้าใจคำว่าข้าวใหม่ปลามันแล้วละ แต่ทุกอย่างมันต้องจบเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อความสงบสุขของชีวิตผมและความปลอดภัยของคนที่ผมรักอีกหลายๆ ชีวิต วันนี้ผมเดินทางมาที่เรือนจำ มาเพื่อนเยี่ยมพี่ชายผม ใช่ครับพี่ชายคนละแม่ของผม หรือที่คนในวงการรู้จักในชื่อว่า “เหนือ” หัวหน้าใหญ่แห่งแก๊งค์ GB ที่เป็นคู่ขายาเสพติดของแก๊งค์ hunter ต้นเหตุการหนีตายของแกงส้มคนรักของผม
“แกมาที่นี่ทำไม มาเยาะเย้ยชั้นเหรอ” คำแรกที่ร่างสูงทักทายผมด้วยความโกรธแค้น
“พี่เหนือ ผมแค่อยากมาขอร้องพี่เหนือสักเรื่อง” ผมพยายามข่มเสียงให้ราบเรียบ
“แกมาขอร้องชั้น หลังจากที่พวกแกรวมหัวเอาชั้นยัดใส่ตะรางงั้นเหรอวะ อย่าบอกนะว่าเรื่องไอ่เวรนั่น ได้ยินว่าแกเอามันไปเก็บที่รังใหญ่แกเลยเหรอ” น้ำเสียงนั้นช่างดูถูกดูแคลนผม
“พี่ เมื่อไหร่พี่จะเข้าใจว่าทุกอย่างของ hunter มันไม่เหมือนเดิมแล้ว มันเป็นฝีมือไอ่เต้นะพี่ คนอย่างผมไม่มีวันไปทำเรื่องผิดกฎหมายหรอกพี่ก็รู้ดีนิครับ เราเป็นพี่น้องกัน ผมไม่ได้เข้ามาแย่งอะไรจากพี่เลย จะต้องทำอะไรที่จะทำให้พี่เชื่อผม พี่บอกผมมาสิครับ ผมทำให้พี่ได้ทุกอย่าง” สิ่งที่ผมทนไม่ได้คือพี่ชายคนนี้เกลียดผมกับสต๊อปมาก หลังจากชีวิตผมต้องตกระกำลำบากกับแม่จนอายุ 18 ปี พ่อของผมได้ตามหาผมกับน้องจนเจอแล้วนำผมเข้ามาเลี้ยงในตระกูลเชื้อสายจีนที่มากด้วยอิทธิพล ความสุขสบายของผมและน้องกลับทำให้พี่เหนือที่เคยลูกชายคนเดียวของพ่อ รู้สึกขาดความสำคัญไป ทำให้พี่เหนือทวีความเกเรไปจนถึงการทำผิดกฎหมาย ซึ่งทำให้พ่อตัดขาดความเป็นพ่อเป็นลูกกับพี่เหนือจนถึงวันนี้
“แกจะทำทุกอย่างให้ชั้นจริงๆ เหรอ ” พี่เหนือพูดกับผมอย่างมีชัย ผมพยักหน้าอย่างหนักแน่น
“เอาไอ่เด็กนั่นมาแลกกับการเชื่อแกสิ ทำได้มั้ย” ข้อเสนอของพี่เหนือทำให้ผมนิ่งไป
“ถ้าแกไม่ทำ แกก็ซ่อนมันไว้ในดี ไม่อย่างนั้นชั้นจะทำให้เด็กนั่นเจ็บแบบที่คิดว่าไม่สมควรจะเกิดมาเลย” แล้วพี่เหนือก็จากผมไป ปล่อยให้ผมนั่งอยู่อย่างเดียวดาย แกงส้ม...นายไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น วันที่นายจะเจ็บคือวันที่พี่ไม่มีลมหายใจอยู่บนโลกนี้แล้ว....
HUT talk
การกลับเมืองไทยครั้งนี้ มันช่างเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับผมเหลือเกิน สต๊อปเป็นเพื่อนสนิทของผม เธอพาผมมารู้จักกับพี่ชายเธอเมื่อห้าปีที่แล้ว จนผมกับพี่ฮั่นสนิทกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน แต่ผมกลับรู้จักไม่ชอบขี้หน้าไอ่พี่แคนเพื่อนสนิทของพี่ฮั่น เพราะอะไรเหรอครับ เพราะมันเป็นคนที่สต๊อปแอบรักมาตลอด ทั้งที่มันควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าตาไม่เคยหันมามองสต๊อปสักครั้ง มันเป็นความรู้สึกที่น่าเจ็บใจที่เห็นสต๊อปต้องมีชีวิตเป็นเงาในสายตาผู้ชายพรรค์นั้น ผู้หญิงที่แสนน่ารักและจิตใจดีคนนั้นต้องเสียใจเพราะมันกี่ครั้งแล้ว ถึงไม่มีเคยมีน้ำตาไหลออกจากสองคู่นั้น แต่ผมก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าวในหัวใจของเธอ ตอนนี้ผมได้ออกมาจากที่พักพี่ฮั่นเพื่อมาที่สวนสาธารณะ มาพบกับหญิงสาวที่เปรียบเสมือนดวงใจของผม
“ฮัททททท” เสียงเรียกใสๆ ที่มาพร้อมรอยยิ้มกระชากหัวใจของผมปรากฏตัวขึ้น
“มาถึงเมื่อไหร่เนี่ยยยย คิดถึงมากเลยรู้มั้ย” ทันทีที่ประชิดตัวผม สต๊อปเข้ามากอดผม เธอคงไม่คิดอะไรมากไปกว่าคำว่าเพื่อน แต่ผมสิ หัวใจของผมเป็นของเธอมานานจนคิดว่าผมคงไม่อาจรักใครได้อีก
“เหรอ...นึกว่ามีความสุขจนลืมเพื่อนคนนี้ไปซะอีก” คำพูดของผมทำให้รอยยิ้มของสต๊อปชะงัก
“ความสุขอะไรกัน เพื่อนรักก็มาหายจ๋อมไปที่เมืองนอก ติดต่อก็ไม่ค่อยจะได้ ไม่โกรธก็บุญเท่าไหร่แล้ว ยังมีหน้ามางอนกันอีกนะ” สต๊อปหันมาต่อว่าผมอย่างไม่จริงจังนัก
“เห็นว่าไปอยู่บ้านพี่แคนไง ก็เลยจะถามว่าสำลักความสุขตายไปแล้วรึยัง”
“ความสุขเหรอ มันก็มีนะ แต่การที่เห็นเค้าควงคนนั้นทีคนนี้ทีมันเอารวมกันได้ป่ะละ” ผมได้แต่เงียบ ผมคิดไว้แล้ว สต๊อปต้องมีชีวิตแย่ๆ เพราะคนๆ นั้น มันยุติธรรมกับผมที่มีดวงใจให้เธอหมดทั้งใจเหรอ
"คิดว่าไปได้ดีในฐานะน้องสาวแล้ว แต่หัวใจมันก็ยังคงทำหน้าที่ของมันทุกวัน" คำพูดของเธอไม่ได้ทำให้ผมรักเธอน้อยลงไปแต่น้อย สต๊อป..ชั้นอยากดูแลเธอจริงๆ แต่คำพูดนี้คงได้แต่ก้องอยู่ในใจผมเท่านั้น
เสียงเดินเปิดประตูห้องเบาๆ ทำให้ผมสะดุ้งตื่น แต่ยังไม่ได้ขยับตัว พี่ฮั่นยืนมองผมแปบนึงก่อนที่จะค่อยๆไปที่ตู้เสื้อผ้า แหม...แอบมองเราตอนหลับด้วย ก็เรามันน่ารักนี่หว่าทำไงได้เนาะ
“กี่โมงแล้วพี่ฮั่น” ผมถามออกไป ทำเอาพ่อมาเฟียสะดุ้งเล็กๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟ
“ตีหนึ่งกว่าๆละ” พี่ฮั่นตอบพร้อมส่งยิ้มให้ผมอย่างใจดี
“ทานอะไรมารึยัง กับข้าวอยู่ข้างล่าง พวกเราเก็บไว้ให้แล้วนะ” ผมยันตัวมาอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน
“พี่ทานอาหารของเรานั่นแหละ อร่อยเชียวนะ ทำด้วยความรักละสิ” พี่ฮั่นพูดแล้วหัวเราะในลำคอ
“ครับ..เพราะเป็นฝีมือพี่เอกับพี่บีทำด้วยความรักที่มีต่อลูกพี่เค้าล้วนๆ เลย ฮ่าๆๆๆๆ” ตลกจริงเชียว นานๆที พ่อโจรฮั่นเค้าจะแอบหยอดคำหวานแต่ดันพลาด เจ้าตัวแก้เขินโดยโยนกางเกงตัวที่เพิ่งใส่เมื่อกี้มาคลุมหน้าผมเต็มๆ ส่วนเจ้าตัวก็ยืนจังก้าในผ้าเช็ดตัวผูกเอวเหมือนเมื่อเช้า
“ยี้....สกปรก โดนหน้าผมเลยเห็นมั้ย ไอ่พี่โจรฮั่น” ผมโวยวายขึ้นมาตามแบบฉบับ เจ้าตัวหัวเราะแบบได้ที ก่อนทีจะพูดคำที่ทำเอาผมแทบจะมุดลงดินด้วยความเขินว่า
“ทำมาเป็นรังเกียจนะ เมื่อเช้าไม่เห็นเป็นแบบนั้นเลย” อ๊ากกกกกก!!!! ผมจะบ้าตาย แต่เจ้าตัวก็หัวเราะหึหึ ก่อนที่จะเข้าห้องน้ำไป ไม่น่าเลยเรา พี่ฮั่น...ถ้าแซวมากๆนะ จะไม่ยอมให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปเลยฮึ!!!
ปล. แอบหวังเล็กๆ หัวใจ ว่าอัพตอนนี้แล้วเม้นถึงร้อยเถอะ เพี้ยง!!!
ความคิดเห็น