คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2: ความหงุดหงิดใจของพี่ชายบอส
HUNZ talk
ตั้งแต่เปิดร้านมา...วันนี้เป็นวันที่ผมไม่อยากไปทำงานที่สุด เพราะน้องสาวคนสวยคนผมมีเรียนเช้า...ดังนั้นคนที่จะมาช่วยผมเปิดร้านและทำงานจนถึงเที่ยงก็ต้องเป็นลูกจ้างคนใหม่ เมื่อนึกถึง “แกงส้ม” ผมก็เผลอคลำหัวที่ปูดโนอย่างไม่รู้ตัว แสบนักนะ...เด็กบ้าสักวันผมจะทำให้เด็กกวนประสาทคนนั้นรู้ว่าควรจะรู้จักการเคารพผู้หลักผู้ใหญ่บ้าง แต่ผมก็ตั้งใจว่าจะไม่ใช้อำนาจที่มีรังแกลูกจ้าง....ถ้าไม่จำเป็น!!!
ทุกวันผมจะปั่นจักรยานคู่ใจจากบ้านมาที่ร้าน ความจริงผมอยากได้รถยนต์สักคันแต่ยังไม่อยากจะเอาเงินที่เก็บไว้มาใช้ตามใจ ขอให้ร้านที่เปิดมาได้สองปีอยู่ตัวมากกว่านี้ก่อนดีกว่า แล้วผมคิดว่าปั่นจักรยานแบบนี้ก็ไม่ได้ดูแย่ไปสักหน่อย
“เฮ้ยยยยยยย!!!!” ขณะที่ผมกำลังจะเลี้ยวเข้าที่จอดรถที่ร้าน ก็มีรถสีขาวมุกปาดหน้าอย่างกะทันหัน ผมหักหลบทันทีทำให้รถเสียหลักพุ่งเข้าไปในสวนหย่อมเล็กๆของที่ร้าน และปะทะกับพุ่มไม้ จนทำให้ทั้งผมทั้งจักรยานพลิกคว่ำนอนเอ้งเม้งหมดท่ากลางสวนหย่อม
“ขับรถประสาอะไรวะ!!!” ผมบ่นก่อนที่ยกจักรยานออกมาจากสวนหย่อมอย่างทุลักทุเล ผมมองตรงไปที่รถเก๋งสีขาวมุกต้นเหตุความอนาถของผมเมื่อกี้ คงเป็นลูกค้าสักคนแน่ๆ แต่ทำแบบนี้มันก็ไม่ไหวนะครับ.... ผมจะอายุสั้นเอาง่ายๆ ต้องคุยกันสักหน่อย ผมปัดเศษหญ้าเศษใบไม้ออกจากตัว แต่สายตายังคงรอเจ้าของรถเปิดประตูออกมา แต่เมื่อเห็นร่างที่ก้าวออกมาเท่านั้นแหละ ความอดทนของผม....หมดลงทันที
“ทำไมพี่ชายบอสไปนอนเล่นในสวนหย่อมแบบนี้ละครับ” ร่างสูงบางที่สวมแว่นกันแดดอย่างเท่พร้อมรอยยิ้มกวนๆนั้น มันทำให้ผมปรี่เข้าไปหาทันที
“นี่....กะเอาให้ชั้นพิการเลยใช่มั้ย??? นายนี่มันจริงๆเลยนะ เล่นเกินไปแล้ว” ผมต่อว่าร่างสูงบางนั้นทันที แกงส้มถอดแว่นกันแดดออกก่อนมองสภาพผมอย่างขบขัน
“ถ้าผมจะเอาให้พิการผมชนแล้วเหยียบซ้ำไปแล้ว....แค่อยากลองทดสอบว่าปั่นจักรยานแข็งมั้ย??? แต่ดูท่าทางละพี่ชายบอสต้องไปหัดปั่นที่สวนสาธารณะก่อนนะ” แกงส้มสั่งสอนผมเป็นเรื่องเป็นราว...
“หวังดีว่างั้น...” ผมพูดประชดไป เหตุผลกับสีหน้าสะใจมันสวนทางกันจริงๆ
“บางทีพี่ชายบอสก็หวังอะไรมากไปจากผมนะครับ หวังดี...คิดได้เนาะ” แกงส้มมองผมเหมือนผมพูดอะไรไร้สาระก่อนจะส่ายหน้าระอาแล้วเดินเข้าร้านไป เด็กคนนี้มันเกินบรรยายครับ รู้อย่างเดียว....แค้นมาก!!!! ผมเดินตามเข้าไปในร้าน และแกงส้มก็ทำให้ผมต้องหัวเสียเป็นเรื่องที่สองในเวลาไม่ถึงสิบนาทีที่เราเจอหน้ากัน
“แกงส้ม...นี่มันโต๊ะทำเค้ก” ผมเรียกชื่อเด็กบ้า แล้วชี้ไปที่โต๊ะทำเค้กของผมที่ตอนที่มีสัมภาระของพ่อคุณจอมกวนวางอยู่
“ผมก็ไม่ได้เถียงว่ามันเป็นกระดานโต้คลื่นสักหน่อย” แกงส้มหันมาตอบอย่างกวนประสาท
“ไม่ใช่!!! ชั้นจะบอกว่าห้ามเอาของที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำเค้กมาวาง” ผมขึ้นเสียงอย่างเหลืออด ทำไมใครๆก็เห็นว่าไอ่เด็กบ้าคนนี้มันน่ารักนะ นอกจากหน้าตาแล้วผมไม่เห็นว่าจะมีอะไรใกล้เคียงกับความน่ารักเลยสักนิด แกงส้มเดินมาหยิบของอย่างไม่พอใจ
“ถ้าชั้นเห็นว่านายเอาอะไรมาวางอีกนะ...จะกวาดทิ้งถังขยะซะให้เรียบ” ผมขู่แต่ก็ไม่ทำให้ร่างสูงโปร่งนั้นสะทกสะท้าน แต่กลับเดินเลยผมไปโดยไม่สนใจคำพูดของผมเลย ความอดทนของผมจะมีเท่าไหร่กัน!!!
บอกไม่ถูกเหมือนกัน ว่าทำไมผมถึงรู้สึกหมั่นไส้ผู้ชายคนนี้เหลือเกิน เอะอะอะไรก็จะไม่รับผมเข้าทำงาน ก็อีกแค่เรื่องเข้าใจผิดกันเล็กๆน้อยๆ แถมแววตาที่มองมามันทำให้ผมรู้สึกแปลก....มันบอกไม่ถูก แต่ลางสังหรณ์บอกกับผมว่า คนๆนี้จะไม่ใช่แค่อะไรที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แค่ไม่แน่ใจว่ามันจะดีหรือร้ายเท่านั้น แต่ถ้าให้ตัดสินตอนนี้มันก็คงเป็นเรื่องในแง่ร้ายมากกว่าแน่ๆ ส่วนที่ผมขับรถจะไปเฉี่ยวเค้าผมไม่ได้เจตนา...ความจริงแล้วผมเห็นท่านเจ้าที่ปรากฏตัวต่างหาก อารามความตกใจผมเลยหันพวงมาลัยกะทันหันไปหน่อย แต่สาบานเลยว่าเป็นเจตนาของท่านเจ้าที่ที่ตั้งใจจะส่งร่างสูงหุ่นดีนั้นไปนอนเล่นที่สวนหย่อม เพราะผมเห็นท่านนั่งหัวเราะจนตัวโยกเลย ดูสิ...คนอะไรขนาดท่านเจ้าที่ยังหมั่นไส้ แล้วธรรมดาอย่างผมจะอดไหวเหรอ???
“นี่ชุดของนาย” เสียงทุ้มของพี่ชายบอสเรียกผมให้เงยหน้าขึ้นจากการปูโต๊ะ เสื้อเชิ้ตสีชมพูกับหูกระต่าย!!! นี่ผมทำงานร้านเค้กหรือว่าคลับโฮสต์กันแน่เนี่ย????
“ถามจริง!!!” ผมร้องเสียงดัง พี่ชายบอสยักคิ้วให้อย่างสะใจ ผมรับเสื้อเชิ้ตสีหวานนั้นมา
“จัดร้านเสร็จก็ไปเปลี่ยนชุดนะ....ชั้นอยากเห็น หน้าหวานๆของนายคงเหมาะดีเนาะ” พี่ชายบอสยื่นหน้ามาใกล้จนแทบจะชนกันผมรู้สึกว่าได้กลิ่นลมหายใจหอมนั้นด้วย ผมผงะถอยออกจนสะดุดขาเก้าอี้ ทำให้พี่ชายบอสหัวเราะร่า
“เก่งมาตั้งนาน เพิ่งรู้นะว่าแพ้สายตานี่เอง” พี่ชายบอสมองผมอย่างเจ้าเล่ห์ ผมสะบัดหน้าเดินหนีออกมาเปลี่ยนชุดทันที ใครเค้ายื่นหน้ามาใกล้ลูกจ้างกันขนาดนี้....โอ๊ยยยย!!! แล้วเราใจสั่นทำไมเนี่ย???? คนอะไรตาตี่ๆ...แต่ดันมีประกายทำให้คนรู้สึกวูบวาบได้
CAN talk
วันนี้ผมตั้งใจว่าจะไปส่องดูน้องรหัสจอมกวนทำงานวันแรกซะหน่อย ทำก็เลยเดินมาหาไอ่โดมที่ชมรมร้องเพลงเพื่อไปพร้อมกัน อยากรู้ว่าเด็กที่ไม่เคยลำบากอย่างแกงส้ม จะต้องไปอยู่ภายใต้การปกครองของคนอื่นแล้วจะเป็นอย่างไร น้องรหัสของผมคนนี้ถือว่าเป็นคนที่พร้อมในทุกอย่างๆ จึงมีความมั่นใจและกล้าคิดกล้าทำ ถ้าต้องไปทำงานที่ต้องเอาใจคน...อยากรู้ว่าน้องชายจอมกวนจะไปได้สักแค่ไหนกัน
“โอ๊ยยยยย!!!” เสียงหญิงสาวร้องขึ้นเมื่อผมมัวแต่นึกอะไรเรื่อยเปื่อย ทำให้เกิดอุบติเหตุโดยจัง
“ขอโทษครับ” ผมรีบนั่งลงดูหญิงสาวที่ถูกแรงปะทะส่งให้ไปนั่งที่พื้น รอบตัวเต็มไปด้วยหนังสือ...แต่หนังสืออะไรนั่นเหรอครับ ผมไม่ทันมอง เพราะใบหน้าสวยคมของพรหมลิขิต เอ๊ย!!! หญิงสาวที่ผมชนจนล้มไปตรึงตาเหลือเกิน
“ไม่เป็นไรค่ะ.... ถือหนังสือมาเยอะเลยเห็นทางไม่ถนัดเหมือนกัน” นอกจากหน้าตาจะสวยสะดุดตาแล้ว ดูเหมือนจะเป็นคนสบายๆไม่เรื่องมากอีกต่างหาก....โดนใจพี่!!! เธอรีบกระวีกระวาดเก็บหนังสือโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะเปอระเปื้อนฝุ่นหรือไม่ เมื่อตั้งสติได้ผมก็ช่วยเธอเก็บทันที ดูเหมือนว่าเธอจะสนใจในเรื่องลี้ลับ เพราะหนังสือแต่ละเล่มมีแต่เกี่ยวกับเรื่องผี หมอดู ไสยศาสตร์อะไรทำนองนี้ทั้งนั้น
“ชอบอ่านเหรอครับ???” ผมถามเมื่อเก็บหนังสือเล่มสุดท้ายคืนเธอไป
“ค่ะ...ดูงมงายนะแต่ก็ชอบจริงๆ” เธอมองหนังสือในมือก่อนจะเงยหน้ามายิ้มให้ผม....โอ๊ยยยยยย!!! ผมเจอแล้วแม่ของลูก!!!
“ผมก็เชื่อนะครับ...เพราะมีน้องที่รู้จักเค้าเห็นอะไรพวกนี้” แกงส้ม...เฮียขอยืมความสามารถพิเศษมาหลีสาวหน่อยนะ
“จริงเหรอคะ???” ไม่ผิด...น้ำเสียงของเนื้อคู่ผมดูตื่นตาตื่นใจอย่างแรง แต่ไม่ทันจะได้พูดกันนานอุปสรรคก็มากั้นขวางทันที
“สต๊อป...ไหนหล่อนว่าจะรีบกลับไปช่วยพี่ชายไงย่ะ มาทำไมแอบมาคุยกับผู้ชาย” ผู้หญิงข้ามเพศซึ่งดูเหมือนจะเป็นเพื่อนของ “สต๊อป” เนื้อคู่ของผม ก็เข้ามาขัดจังหวะพอดี
“บ้ารึไง... อุบัติเหตุต่างหาก ขอบคุณนะคะที่ช่วยเก็บหนังสือ” สต๊อปหันไปแย้งเพื่อนก่อนจะขอบคุณผมแล้วลากเพื่อนสาวสาวก้าวไปจากผมอย่างรวดเร็ว ผมได้แต่มองตามร่างบางนั้นอย่างเสียดาย หวังว่าเราจะได้พบกันอีกนะ “รักแรกพบ”
ผมกับไอ่โดมพากันมาจนถึงหน้าร้าน “ฮันนี่ เค้ก” เป็นร้านที่บรรยากาศน่ารัก เหมาะสำหรับคู่รักมานัดเดท ผมคิดว่าถ้าผมเจอเนื้อคู่ของผมอีกครั้งนะ...ที่นี่แหละ จะเป็นที่ที่ผมได้บอกรักเธอพร้อมดอกกุหลาบช่อโต เธอคงยิ้มอย่างเขินอาย ดวงตาคมสวยคงมีประกายสวยงาม...
“ไอ่แคน แกยิ้มอะไรว่ะ” พังวูบเลยครับ ไม่เข้าใจทำไมไอ่โดมต้องตามมาขัดจินตนาการของผมด้วย
“ไม่มีอะไร...ยิ้มไปงั้นแหละ” ผมตอบไปอย่างส่งๆ
“ชักน่ากลัวแล้วนะสมองแกเนี่ย” ไอ่โดมมองหน้าผมอย่างเป็นกังวล ผมเปิดประตูเดินนำเข้าไปนั่งที่มุมร้าน โดยมีไอ่โดมตามมาติดๆ
“ฮันนี่เค้ก สวัสดีค่ะ รับเมนู....อ้าว!!!” ขอบคุณสวรรค์....ใบหน้าสวยนั้นคือเนื้อคู่ของผมเอง ใบหน้าของเธอคลี่ยิ้มให้ราวกับเราสองรู้จักกันมากเนิ่นนาน ผมว่าแล้วหน้าตาผมคงไปโดนใจเธอบ้างเหมือนกันละน่า....
“พี่โดมมาได้ไงเนี่ย??? อ่อ...มาดูแกงส้ม” จุก ครับ จุก ไอ่เราก็นึกว่าจะทักทายเรา กลายเป็นว่าสาวสวยคนนี้ยิ้มให้ไอ่โดม... ไอ่ตัวแย่งซีน!!!
“เออ...นี่แคนเพื่อนพี่เอง ไอ่แคนนี่สต๊อป น้องที่ชมรมชั้น” ไอ่โดมแนะนำเราสองคนให้รู้จักกัน ผมพยักหน้าน้อย ส่วนเธอทำตาโต
“บังเอิญจังเลยนะคะ... ขอโทษนะคะเมื่อตะกี้ไม่ทันมองเลยไม่ได้ทัก” มันเป็นคำหวานที่ทำเอาผมแทบกระอักเลือด... ไม่ทันมอง โอ๊ย...เจ็บเว้ย!!!
“แกงส้มเป็นไงบ้าง มาส่องมันโดยเฉพาะเลยนะเนี่ย” ไอ่โดมชวนเนื้อคู่ผมคุยเรื่องแกงส้ม
“มาวันแรกนะ ทำเอาพี่ฮั่นหัวโนหัวปูดเลย...แต่เค้าทำงานดีมากเลยนะ สองวันเท่านั้นแหละลูกค้ารัก...ถ้าไม่ติดว่าสัญญากับพี่ฮั่นไว้นะ สต๊อปจีบแกงส้มเป็นแฟนไปแล้ว”สต๊อปพูดอย่างร่าเริง
“ไม่ได้นะ!!!” ผมร้องเสียงดัง ก็มันหึงนี่หว่า....อยู่ๆจะไปจีบแกงส้มได้ยังไง ไม่ดีร้อกกกกก
“แกเป็นอะไรของแกไอ่แคน ทำไมสต๊อปจะจีบแกงมันไม่ได้” ไอ่โดมหันมาถามผมด้วยความสงสัย สต๊อปก็เอียงคอมองหน้าผมอย่างงุนงงเช่นเดียวกัน
“ก็แกงส้มมัน....มันไร้เดียงสา ยังไม่เหมาะจะมีแฟนหรอก” ผมแถไปเรื่อยครับ... เอาให้รอดไปก่อน
“ดูเหมือนจะห่วงน้องมากเลยนะคะ” สต๊อปพูดอย่างเกรงใจ
“ก็ทั้งรักทั้งหวงเลยครับ” ผมเลยแสดงตัวว่าตัวเองเป็นพี่รหัสที่ดีเพื่อเรียกคะแนน สต๊อปมองผมยิ้มให้ด้วยสีหน้าแปลกๆก่อนจะยื่นเมนูให้ผม แล้วเดินไปบริการลูกค้าโต๊ะอื่นทันที
HUNZ talk
ผมมองลูกค้าแปลกปลอมที่เดินเข้ามาในร้าน แล้วน้องสาวของผมหยุดคุยด้วยตั้งนาน ผมบอกตรงๆ ว่าผมหวงน้องสาวมาก... ใครคิดจะมาจีบต้องผ่านด่านผมให้ได้ซะก่อน หนึ่งในนั้นผมรู้จัก คือ โดม ที่เป็นประธานชมรมของน้องสาว คนนี้ผมไว้ใจได้ เพราะรู้ว่าโดมคิดกับน้องสาวผมเหมือนพี่น้อง แต่ไอ่หนุ่มหน้าหวานนัยน์ตาเยิ้มคนนั้นบอกตรงๆ ผมไม่ไว้ใจ!!!
“นี่...กาแฟแก้วนี้จะเสร็จมั้ย???...ลูกค้าเค้ากินชาตินี้ไม่ได้กินชาติหน้า” แกงส้มเข้ามาเร่งผม ใบหน้าหวานๆไร้เดียงสาที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีหวาน มันกลับทำให้ออร่าความน่ารักโดดเด่น จนลูกค้าของผมเริ่มถามหา ทำให้ผมรู้สึกว่า “บัลลังก์” ถูกสั่นคลอน...
“พูดจาให้น่ารักเหมือนหน้าตาได้มั้ย???...ชั้นจะได้รักบ้าง” ผมเลยตอบกลับด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า
“ใครอยากให้พี่ชายบอสรัก...ให้น้องตูบข้างบ้านรักยังจะภูมิใจซะกว่า” ถึงแม้จะดูตกใจกับคำพูดหยอกเอินของผม แต่แกงส้มก็ตั้งสติตอบกลับได้อย่างเผ็ดร้อน ก่อนที่จะยกแก้วกาแฟที่ผมเพิ่งชงเสร็จออกไปเสิร์ฟ ผมมองตามร่างสูงโปร่งที่ยิ้มอย่างร่าเริงให้กับลูกค้า ดูน่ารัก น่าเอ็นดูไปซะทุกอิริยาบถแม้กระทั่งท่าปาดเหงื่อ เฮ้ยยยย!! คิดอะไรเนี่ย???... ผมสะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดชั่ววูบเมื่อกี้ออกไป จะน่ารักได้ยังไงกัน ปากร้ายเถียงคำไม่ตกฟากแบบนี้...
“พี่ฮั่น... เอาคาปูสอง ลาเต้หนึ่ง” สต๊อปเดินมาสั่งกาแฟ
“โอเค.... เออ เมื่อกี้คุยกับใคร” ผมเริ่มชงกาแฟทันทีที่น้องสาวบอก แต่ก็ไม่วายอดถามเรื่องผู้ชายคนนั้นไม่ได้
“พี่โดมไง จำไม่ได้เหรอ???” สต๊อปตอบ
“รู้แต่พี่หมายถึงคนที่มากับโดม ทำไมเค้ามาจีบเราเหรอ???” ผมชี้ตัวต้นเหตุ ก่อนถามน้องสาวออกไปตรงๆ สต๊อปรีบส่ายหน้าทันที
“เค้าชอบแกงส้มต่างหาก... มาเฝ้าแกงส้มเลยนะนั่น” สต๊อปกระซิบกระซาบอย่างตื่นเต้น ผมหันไปมองจังหวะที่แกงส้มเดินที่โต๊ะนั้น... ดูท่าทางสองคนนั้นจะสนิทกันไม่น้อย... แต่บอกตรงๆ ผมไม่ชอบให้เด็กที่ร้านมีแฟนมันเห็นแล้วหงุดหงิดตา แค่แฟนมาทำงานแค่นี้ก็ต้องมาเฝ้าเว่อร์ไปละมั้ง เด็กแกงส้มไม่เห็นจะน่าพิศวาสอะไรขนาดนั้นสักหน่อย!!!
“แน่ใจเหรอว่าเค้าเป็นแฟนกัน” ผมถามน้องสาวออกไป สายตายังคงจับจ้องที่สองคนนั้น
“แฟนไม่แฟนไม่รู้ รู้แต่ว่าทั้งรักทั้งหวง” สต๊อปมองตามผมไปที่โต๊ะที่สามคนนั้นคุยกันอย่างออกรสออกชาติ รอยยิ้มร่าเริงนั้น... ทีกับผมนะกลายเป็นรอยยิ้มกวนประสาททันที อย่างว่าแหละแม้แต่ชื่อยังไม่ยอมเรียกเลย พี่ชายบอสอะไรหนักหนา...เด็กบ้าเอ๊ยยยยยย!!!
ปล. ตอนหน้าน้องผีจะออกโรงแล้ว อยากรู้ว่าแกงส้มจะรับมือกับน้องผีน้อยจอมป่วนยังไงก็ติดตามกันตอนหน้านะจ๊ะ ติชมกันได้เป็นกำลังใจและให้ไรเตอร์พัฒนาตัวเองต่อไปนะจ๊ะ ^^
ความคิดเห็น