ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS8 (HKS) รัก- ลืม -ร้าย หัวใจพ่ายเธอ

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11 : ความผิดติดตัว

    • อัปเดตล่าสุด 21 มิ.ย. 55



    ผมลืมตามองเพดานเม้มปากเพราะทำอะไรไม่ถูก เรื่องเมื่อคืนมันทำให้ทุกอย่างระหว่างเราก้าวสู่ความเปลี่ยนแปลง ผมควรจะทำหน้ายังไงเมื่อร่างที่นอนเกยก่ายผมลืมตาตื่นขึ้นมา ผมควรทักทายหรือว่า.....โอ๊ยยยย!!!!  จะให้คิดออกได้ยังไงให้เมื่อพี่ฮั่นหายใจรดต้นคอกันแบบนี้ ผมละสายตาจากเพดานมามองใบหน้าของผู้ชายที่อยู่ข้างกาย ใบหน้าขาวคมหลับตาพริ้ม มีเสียงหายใจเบาๆ ที่สามารถทำให้หัวใจผมสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ผมหน้าม้าที่ตกมาปรกที่หน้าผากมันช่างน่าดูน่ามองไม่ต่างจากทรงผมที่ได้รับการตบแต่งอย่างดีทุกวัน ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้เรามาพบกัน...พี่ฮั่นอย่าเดินจากผมไปไหนนะ ถ้าขาดพี่คนๆนี้คงหายใจไม่ไหว

    “มองหน้าพี่พอรึยัง???” อยู่ๆพี่ฮั่นก็พูดขึ้นทั้งที่ยังหลับตา แต่รอยยิ้มก็ค่อยคลี่ออกมา

    “ผม...ไม่ได้มองซะหน่อย” แกงส้มแกจะแถไปไหนเนี่ย... พี่ฮั่นลืมตามามองด้วยความเจ้าเล่ห์

    “จริงเหรอ???.... นึกว่ามองพี่ซะอีกเห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว” พี่ฮั่นเอียงหน้ามาใกล้ๆผม ผมหลุบตามองต่ำเพื่อหลบสายตาที่มีพลังนั้น หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ เรื่องเมื่อคืนผุดเข้ามาให้หัวอีกครั้ง

    “แกงส้ม....ขอบคุณนะ” พี่ฮั่นกระซิบคำขอบคุณเบาๆ ขอบคุณผมเรื่องอะไรเมื่อคืนผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ฝีมือพี่ฮั่นล้วนๆเลย!!! อ๊ากกกกกก...คิดอะไรเนี่ยแกงส้มมมมมมม

    “พี่ฮั่นขอบคุณผมเรื่องอะไร” ผมถามออกไปแต่ไม่กล้าสู้สายตาคู่นั้นอยู่ดี พี่ฮั่นคงมือมาลูบไล้ที่แก้มผมเบาๆ

    “ขอบคุณที่ทำให้วันนี้เป็นวันที่สวยงามที่สุด พี่ไม่นึกว่าการที่ได้ตื่นมาพร้อมใครสักคนมันทำให้พี่รู้สึกเป็นสุขแบบนี้ แกงส้ม...พี่รักเราสุดหัวใจเลยรู้มั้ย???” แค่คำพูดออกพี่ฮั่นก็ทำให้ผมแทบละลายไปตรงหน้า แต่พี่ฮั่นไม่ทำแค่นั้นการเชยคางผมให้สายตาของผมปะทะกับสายตาคู่นั้นมันเป็นการผลักผมให้ตกลงไปสู่ห้วงแห่งความรักอย่างไม่ปราณีเลย....

    “พี่ฮั่น...พี่รู้มั้ยว่าเมื่อคืนมันเป็นฝันดีที่สุดแล้วสำหรับคนอย่างผม” ผมตอบคำพูดที่อ่อนหวานนั้นด้วยสิ่งที่ล้นหัวใจ ผมเองก็มีความสุขไม่ต่างจากพี่ ในอ้อมกอดของคนที่อยู่ตรงหน้าต่อให้วันนี้ลมหายใจของผมหมดสิ้นไปผมก็ไม่เสียดายชีวิต

    “แต่พี่เองต่อไปนี้พี่คงมีแต่ฝันร้าย...เพราะโลกความจริงมันช่างมีความสุขเหลือเกิน” พี่ฮั่นบอกพร้อมโน้มจมูกโด่งเป็นสันมาคลอเลียที่จมูกผมอย่างรักใคร่  มือที่ลูบไล้บนใบหน้าผมอย่างแผ่วเบามันบอกความต้องการที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น พี่ฮั่นค่อยๆเลื่อนใบหน้ามาใกล้เอียงใบหน้านั้นเพื่อที่จะประกบริมฝีปากของพี่ฮั่นไว้กับของผม แม้มันจะไม่รุนแรงและเร่าร้อนเหมือนสัมผัสเมื่อคืน แต่มันก็ทำให้ผมสัมผัสของความรักที่ส่งผ่านมาพร้อมกับรอยจูบนั้น

    “อรุณสวัสดิ์...ที่รักของพี่” มันเป็นคำทักทายที่หวานและทำให้หัวใจพองโตที่สุดในชีวิตผม

    มันคงเป็นโชคดีของผมที่พี่ฮั่นอออกจากห้องผมไปอาบน้ำก่อนสองหนุ่มฝาแฝดจะอาหารเช้ามาเตรียมที่โต๊ะ วันนี้ฝาแฝดมาด้วยเสื้อยืดสีขาวสวมทับด้วยเอี๊ยมยีนส์ที่ถูกปักด้วยตัวอักษรบอกชื่อตัวโต

    “แกงส้ม... เป็นไงบ้างได้ข่าวว่าเมื่อคืนถูกพี่ฮั่น...” พี่เอร้องทักขึ้นด้วยประโยคที่ทำเอาผมช็อค

    “พี่รู้เหรอเนี่ย???” ผมร้องขึ้นมา พี่เอและพี่บีชะงักมือมองหน้าผมอย่างงุนงง

    “รู้สิ!!! เค้าก็รู้กันทั้งไร่นั่นแหละ” ตายแล้วววว.... รู้กันหมดแบบนี้ผมจะเอาหน้าไปไว้ไหนละนี่ แกงส้มแกต้องหาปิ๊บมาคลุมหัวหรือไม่งั้นก็คบกับเจ้าบุญหลงก็พอแล้ว...อ๊ากกกกกกกก!!!!

    “เรื่องมันไม่ใช่อย่างที่พวกพี่คิดนะ” ผมรีบแก้ตัวอย่างร้อนรน

    “ก็แค่ถูกพี่ฮั่นดุ... ทำไมต้องทำโวยวายด้วยละแกงส้ม” พี่บีถามผมด้วยความไม่เข้าใจ นี่พูดถึงเรื่องที่ผมถูกพี่ฮั่นดุเหรอ??? โธ่เอ๊ย...ไอ่เราก็แทบช็อคนึกว่าเรื่อง...เรื่อง... เรื่องนั่นนั้นแหละ

    “หรือว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น” พี่เอเริ่มสงสัยถามคาดคั้นขึ้นมา ผมเม้มปากส่ายหน้า

    “ผมไปเอาอาหารให้บุญหลงดีกว่า” ผมเฉไฉเดินหนีไปทันที ไม่ไหวๆ ขืนอยู่ที่นี่มีหวังความแตก!!!

    “แกงส้มมันมีพิรุธ” พี่เอกระซิบแต่ผมได้ยินนะ

    “ไม่มี!!!” ผมหันไปตอบทันควัน พี่เอและพี่บีขมวดคิ้วมองผม

    พี่ฮั่น พี่เอพี่บี และผมนั่งก้มหน้าก้มทานข้าวกัน โดยเฉพาะผมกับพี่ฮั่นที่แทบไม่พูดอะไรกันเลย ก็มันเขินนี่หว่า... คือตอนอยู่กันสองคนมันหวานกันขนาดนั้นพออยู่ต่อหน้าคนอื่นมันเลนเกิดอาการไปไม่เป็นไปแบบนี้

    “พี่ฮั่น เมื่อคืนได้ยินว่าพายุเข้าเหรอพี่ พวกผมมาถึงตอนเช้ามืดต้นมงต้นไม้หักกันระนาว” พี่เอเริ่มพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าโต๊ะอาหารเงียบเกินไป

    “อื้ม...แรงพอดูแหละ” พี่ฮั่นตอบแต่ไม่เงยหน้าจากจานอาหารของตัวเอง

    “ได้ยินข่าวว่าพี่โกรธแกงส้มนิเมื่อคืน ดุเดือดมั้ยพี่???” พี่บีกระเซ้าถาม

    “ดุเดือดบ้าบอกัน พวกแกคิดอะไรกันเนี่ย!!!” พี่ฮั่นตกใจรีบโวยวายขึ้นมาทันที

    “พี่ฮั่น...ผมหมายถึงทะเลาะกัน พี่คิดถึงอะไรเนี่ย พวกผมจะต้องคิดอะไรกันเหรอ” เอาแล้วไง ผมว่าเรื่องนี้มันจะไม่พังเพราะใครหรอกครับ...พี่ฮั่นล้วนๆ เห็นนิ่งๆแบบนี้เขินรุนแรงเหมือนกันนะนี่

    “ไม่มีอะไร... ชั้นอิ่มแล้ว” พี่ฮั่นวางช้อนลง ผมเงยหน้ามองพี่ฮั่น พี่ฮั่นส่งยิ้มน้อยๆมาให้ผม

    “พี่ไปทำงานแล้วนะแกงส้ม” พี่ฮั่นวางมือบนมือผมเบาๆก่อนบอกลาผมด้วยเสียงหวาน

    “ครับ... ตั้งใจทำงานนะครับ” ผมตอบออกไปอย่างเขินๆ พี่ฮั่นลุกขึ้นเดินไปได้ไม่ไกลนักผมนึกขึ้นได้

    “พี่ฮั่นแมลงของเจ้าบุญหลงมันหมดแล้วนะ พี่ฮั่นจับมาให้มันด้วยนะครับ” ผมรีบบอกทันที

    “จ๊ะ” พี่ฮั่นตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มหวานๆ ที่สั่นหัวใจผมให้เต้นผิดจังหวะ

    “โอ้โฮ...... เอเอ..เอเอได้ยินอย่างที่บีบีได้ยินรึเปล่า” นั่นไง...ลืมไปเลยว่าพี่ฝาแฝดจอมกวนนั่งอยู่

    “เอเอได้ยินเต็มสองรูหูเลยบีบี “จ๊ะ”เต็มๆ” พี่เอเองก็รับมุขคู่แฝดดีเหลือเกิน ทำเอาผมไปไม่เป็น

    “เดี๋ยวจะได้ยันโครมทั้งเอเอบีบี!!!” พี่ฮั่นชี้นิ้วขู่อย่างเหลืออด ฝาแฝดนั้นส่งยิ้มยักคิ้วให้กันอย่างรู้ทัน ผมรีบโบกมือไล่พี่ฮั่นไปทำงาน พี่ฮั่นเองก็ส่งยิ้มมาให้ก่อนจะสาวก้าวรีบเดินออกไป

    “แกงส้มนั่นรอยอะไรที่คอ...” พี่บีนอกจากจะคิดมุขแซวเก่งแล้วยังตาไวอย่างเหลือเชื่อ มันเป็นร่องรอยของการทะเลาะกันอย่างดุเดือดระหว่างผมกับพี่ฮั่น ถึงแม้มันจะเป็นรอยจางๆ แต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากสายตาแหลมคมประดุจพญาเยี่ยวได้ เอาไงดีเนี่ยแกงส้มมมมมมม....

    “ยุงกัดครับ” ผมตอบไปอย่างทันที พี่เอก็จ้องมองรอยขมวดคิ้วอย่างสงสัย

    “โหยยย..แบบนี้แสดงว่าแกงส้มต้องแพ้ยุงแน่เลย” พี่เอตัดสินพูดขึ้นมาซึ่งทำให้ผมโล่งอก

    “ต้องตัวใหญ่มากๆเลยนะ เพราะทำเอาเป็นรอยขนาดนี้” พี่บีเสริม พี่เอพยักหน้าเห็นด้วยกับคู่แฝด ให้ตายเหอะ... ก็ตัวโตพอที่ขู่ว่าจะยันโครมพวกพี่ได้นั่นแหละครับ!!!

    SMILE talk

    เรื่องที่ได้ยินวันก่อนนั้น ชั้นนั่งคิดอย่างหนักใจ ชั้นกับแม่มีกันเพียงสองคนมาตลอดเท่าที่จำความได้ แล้วอยู่ดีๆ พี่ฮัทจะกลายมาเป็นพี่ชายชั้นได้ยังไงกัน อยากจะโทรไปหาแม่เพื่อถามเรื่องนี้ให้รู้ดำรู้แดงแต่แม่จะรู้สึกยังไง.... ทั้งที่แม่เองก็ไม่ยอมพูดถึงพ่อเลยสักครั้ง แล้วถ้าชั้นถามออกไปชั้นเองจะเป็นลูกที่ใจร้ายเกินไป ทั้งที่มือยังมือเปิดหนังสือแต่ใจชั้นก็ไม่ได้รับรู้ถึงตัวหนังสือนั้นเลย

    “มานั่งอยู่ที่นี่เอง พี่ตามหาตั้งนาน” เสียงพี่อลิซทำลายเรื่องราวในหัวทั้งหมด หันไปมองร่างสวยสง่าที่มาพร้อมรอยยิ้ม และในมือถือจานขนมน่ารักน่าทานมาด้วย พี่อลิซก้าวเข้ามาในศาลานั่งลงข้างๆ

    “พี่เอาขนมมาให้” พี่อลิซส่งยิ้มมาให้ชั้นแต่ทำไมชั้นถึงรู้สึกไม่ดีกับรอยยิ้มนั้นเลย

    “ขอบคุณคะ” ชั้นยกมือไหว้ตามารยาท

    “สมายล์เรื่องวันนั้นพี่ขอโทษนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ” พี่อลิซเริ่มต้นพูดเรื่องที่ต้องการ

    “ไม่เป็นไรคะ สมายล์เข้าใจ” ชั้นตอบเสียงใส สมายล์รู้ว่าพี่อลิซป่วย สมายล์ไม่โกรธหรอกคะ....

    “พี่แค่สงสัยว่าพี่ฮัทเค้าชอบสมายล์ แล้วพี่เองก็รักเค้ามาก แต่ถ้าสมายล์ชอบพี่ฮัทพี่เองก็จะไม่ขัดขวาง” พี่อลิซก้มหน้าพูดอย่างเศร้าๆ พี่อลิซกำลังเข้าใจผิด!!!

    “ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คือพี่ฮัทเค้าเอ็นดูสมายล์เหมือนน้องสาว สมายล์เองก็ไม่มีทางคิดอะไรแบบนั้น” ชั้นส่ายหัวปฏิเสธทันที แต่ไม่อาจบอกเหตุผลทั้งหมดให้พี่อลิซฟังได้

    “งั้นก็พิสูจน์ให้พี่เห็นได้มั้ย???” พี่อลิซถามชั้นด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ชั้นพยักหน้าเพราะสายตามีอำนาจคู่นั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ชั้นเรียนรู้มานานแล้วว่ายังไงชั้นก็ต้องทำตามที่พี่อลิซต้องการอยู่ดี....

    ชั้นถือมือถือไว้ในมืออย่างลำบากใจ ถึงชั้นจะไม่มีความผูกพันใดๆกับผู้ชายคนนั้น แต่มันไม่ถูกต้องที่ชั้นต้องไปทำร้ายเค้าแบบนี้ การพิสูจน์ของพี่อลิซมันไม่เป็นผลดีต่อใครเลย แม้แต่ตัวพี่อลิซเอง.... แต่มันไม่มีทางเลือกชั้นไม่อยากเผชิญหน้ากับพี่อลิซในห้วงความโกรธอีกแล้ว

    “ฮัลโหล...” ในที่สุดชั้นก็โทรไปหาพี่ฮัทจนได้

    “ว่าไง สมายล์” เสียงพี่ฮัทช่างดูตื่นเต้นเหลือเกิน มันทำให้ชั้นรู้สึกผิดเมื่อต้องทำสิ่งที่พี่อลิซต้องการ

    “พรุ่งพี่ฮัทช่วยมาหาสมายล์ที่บ้านได้มั้ย???” ชั้นถามออกไป

    “ได้สิครับ” น้ำเสียงแข็งขันนั้นตอบมาอย่างไม่ลังเล ให้ตายเถอะ!!! สมายล์เธอทำอะไรลงไป...

     

    HUT talk

    ผมนั่งรอน้องสาวของผมที่ห้องรับแขกที่คุ้นเคย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมมาที่นี่ด้วยความเปี่ยมสุข ผมอยากพาน้องสาวออกไปจากเงื้อมมือของเสี่ยอิทธิพลสักที รอยแดงที่คอนั้นมันทำให้ผมเดือดดาล ไม่คิดว่าอลิซจะมีอารมณ์ที่รุนแรงแบบนี้ ผมจะให้น้องเดินลำพังอยู่ท่ามกลางคนพวกนี้ได้อย่างไร....

    “พี่ฮัท” เสียงสมายล์ดังขึ้นจากด้านหลัง ผมลุกขึ้นยืนยิ้มรับเสียงเรียกทักจากสมายล์

    “พี่ฮัทขึ้นไปรอที่ห้องนั่งเล่นชั้นบนก่อนนะคะ เดี๋ยวจะสมายล์จะรอเตรียมของว่างไปให้” สมายล์พูดแต่ไม่มองหน้าผม ดูเหมือนเด็กสาวหน้าใสจะมีอะไรซ่อนไว้ในใจ และคงไม่ได้ทำให้เด็กสาวคนนี้มีความสุขมากนัก ผมพยักหน้ารับมองตามร่างบางนั้นเดินเข้าห้องครัวไปจึงเดินขึ้นไปบันไดไปนั่งในห้องที่สมายล์บอกไว้ ไม่นานเด็กรับใช้ในบ้านก็นำน้ำผลไม้มาให้ผมซึ่งผมก็รีบดื่มทันทีด้วยความกระหาย ไม่นานนักร่างกายผมก็แปลกไป เนื้อตัวเริ่มเร้าร้อนอย่างบอกไม่ถูก

    “อุ้ย!!! พี่ฮัทมาได้ยังไงคะเนี่ย???” เสียงหวานของอลิซดังขึ้นจากประตู ผมหันไปสายตาปะทะอลิซในชุดคลุมอาบน้ำ ผมเปียกชื้นเหมือนเพิ่งได้รับการสระมาหมาดๆ ร่างสง่างามนั่นย่างเข้ามาราวกับนางพญาก่อนจะนั่งลงข้างๆผมท่อนขาเรียวงามนั้นเบียดกับต้นขาผมอย่างตั้งใจ ผมพยายามฝืนใจตัวเองที่จะไม่ยื่นไปสัมผัสเรียวขาอันน่าหลงใหลนั้น

    “ธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนต้องการมัน... พี่ฮัทจะฝืนมันทำไมละคะ ในเมื่ออลิซเองก็พร้อมที่จะตอบสนองพี่ฮัทอยู่แล้ว” อลิซยื่นใบหน้ามาใกล้ผม เนินอกเนียนนั้นโน้มมาสัมผัสกับอกกว้างของผม ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ดี แต่ผมก็โน้มตัวลงไปดื่มด่ำกับรสจูบจากใบหน้าอันเย้ายวนนั้น ความต้องการของผมถึงจุดสูงสุด ผมเองต้องการเพียงลิ้มลองรสรักที่แสนจะร้อนแรง เสียงครวญครางยิ่งทำให้ผมรุกเร้าให้บทรักรุนแรงตามอารมณ์ความต้องการที่ไร้สำนึกใดๆ มาต้านทานได้.....

     

    ไม่รู้ว่าพี่ฮั่นนึกครึ้มอะไรขึ้นมาที่อยู่ๆ ก็ชวนพี่เอและพี่บีมาร้องเพลงหลังเลิกงาน ผมจึงชวนป้าแม่บ้านที่ต้องนี้ยังไม่กล้ามองหน้าผมอย่างเต็มตา ทำกับแกล้มเลี้ยงหนุ่มชาวไร่ที่วันนี้นั่งตั้งวงกันกลางบ้านเลยทีเดียว หลังจากกับแกล้มที่ทยอยออกมาจนหมด ผมนั่งลงข้างๆ พี่ฮั่น ซึ่งร่างนั้นก็เอาแขนมาโอบไหล่โดยทันที

    “พี่ฮั่น!!!” ผมส่งเสียงดุทัดทานออกไป

    “อะไรครับ” พี่ฮั่นหันมามองผมอย่างไม่รู้ไม่ชี้ ผมบุ้ยปากไปที่มือพี่ฮั่นที่วางพาวอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ พี่ฮั่นหันกลับไปไม่สนใจ

    “เมื่อคืนเยอะกว่านี้ไม่เห็นขัดขืนอะไรสักคำ ทีตอนนี้นะมาทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวหวงเนื้อหวงตัว” พี่อั่นพูดขึ้นมาลอยๆเสียงเบาๆ ผมตบขาพี่ฮั่นไม่แรงนัก

    “คนบ้า...เดี๋ยวเอเอบีบีก็ได้ยินขึ้นมาหรอก ไม่เอาแล้วไปอาบน้ำดีกว่า” ผมลุกขึ้นทันที

    “อาบทำไมเดี๋ยวเหงื่อก็ท่วมตอนดึกๆ” ไม่จบนะพี่ฮั่น.... เอาใหญ่เลยนะ!!!  ผมเหวี่ยงทางสายตาเล็กน้อยก่อนเดินเข้าไปอาบน้ำ เมื่อเข้าไปในห้องน้ำผมก็เปิดฝักบัวพร้อมฮัมเพลงเบาๆ อย่างอารมณ์ดี ผมอดไม่ได้ที่จะยกมือมาลูบไล้รอยยุงกัด (อ๊ากกกกกกก!!!! เนียนไปมั้ยแกงส้ม/// ไรเตอร์เอง) ผมกับพี่ฮั่น...เราเป็นของกันและกันแล้ว แค่คิดผมก็แทบจะสำลักความสุข

    “อ๊ะ!!.....พลั่ก!!!” จังหวะที่ผมหมุนตัวเพื่อไปมองกระจกผมเสียหลักลื่นเพราะไม่ระวัง หัวผมกระแทกฝาผนังไม่แรงนักแต่ก็ทำให้ผมทรุดตัวลงไปได้....

     

    “แต่คนอย่างชั้นก็ไม่ปล่อยอะไรง่ายๆ นายอย่าคิดว่าจะคบกันอย่างมีความสุขเลย

    ผมจะคอยดู ว่าคุณจะกัดไม่ปล่อยขนาดไหน

    ก็ชนิดว่านายจะไม่มีวันลืมไปจนตาย

    เอาเป็นว่าทำให้ผมสนใจจะจำก่อนที่จะทำให้ไม่ลืมดีกว่า

     >>>>>>ใครจำไม่ได้ไปอ่าน INTRO นะจ๊ะ

     

    บทสนทนานั้นอยู่ๆก็ลอยเข้ามาในหัวผม ภาพที่เลือนรางนั้นคือภาพการท้าทายกันระหว่างผมกับพี่ฮั่นไม่มีไมตรีต่อกันเลยแม้แต่น้อย อย่าว่าแต่รักเลยผมยังสามารถรับรู้ถึงความเกลียดชังระหว่างเราได้ชัดเจน นี่มันคืออะไรกันมันเป็นเพียงภาพหลอนหรือว่าความจริงจากความทรงจำกันแน่นะ!!!

    ผมอยู่ในชุดนอนเรียบร้อย ก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปหาพี่ฮั่นที่สนุกสนานกันด้านนอก ผมไม่อาจจะปล่อยเรื่องนี้ให้ค้างคาในใจได้ ผมอยากรักพี่ฮั่นแบบไม่มีข้อสงสัยใดๆ

    “อีกสักครั้งฉันอยากจะฟังเสียงของเธอ ยังคิดถึงเสมอไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหน คำอธิษฐานด้วยน้ำปลาก็ไม่รู้ว่าเธอจะกินได้ไหม......” ผมออกมาได้ยินคู่แฝดสุดหล่อร้องเพลงเนื้อแปลกๆ พี่ฮั่นหัวเราะเล็กๆ ตามสไตล์หนุ่มมาดขรึม

    “แกงส้มดูมันร้องเพลงเค้าเพราะๆซะเสียเลย” พี่ฮั่นพูดกลั้วหัวเราะ ผมยิ้มอย่างฝืนๆให้

    “มีอะไรรึเปล่าทำไมทำหน้าแบบนั้น”พี่ฮั่นขมวดคิ้วมองหน้าผมด้วยความเป็นห่วง

    “พี่ฮั่นคือว่า.... เราสองคนเคยทะเลาะกันแบบที่พี่ขู่ผมว่าจะทำให้ผมไม่ได้ความสุขรึเปล่า” ผมถามออกไปสายตามองไปทางอื่นเพราะไม่อยากเห็นแววตาของพี่ฮั่นเมื่อได้ยินคำถามนี้

    “พี่ว่าเราเปลี่ยนเรื่องคุยกันเถอะ” พี่ฮั่นพูดเสียงเรียบ

    “ทำไมละครับ ผมอยากรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงรึเปล่า นะพี่ฮั่นนะเล่าให้ผมฟังหน่อย” ผมร้องขออย่างร้อนใจ มือก็เกาะแขนพี่ฮั่นอย่างออดอ้อน

    “ถ้าไม่เปลี่ยนเรื่องพูดก็เข้าห้องไปนอนไป” พี่ฮั่นไม่พูดเปล่าสะบัดแขนออกจากมือผมอย่างแรง

    “ทำไมพี่ฮั่นทำแบบนี้” ผมถามออกไปเพราะเสียความรู้สึก ผมก็แค่อยากรู้เรื่องของเรา ทำไมพี่ฮั่นทำเหมือนผมทำผิดร้ายแรงขนาดนั้น

    “พี่บอกให้เข้าห้องไปจะมาเซ้าซี้อะไรน่ารำคาญ!!!  พี่ฮั่นตะคอกเสียงดัง ผมหน้าชาทันที พี่ฮั่นยกแก้วเหล้ามายกดื่มอย่างหัวเสีย ผมลุกขึ้นอย่างอึ้งๆ พี่ฮั่นไม่เคยทำกับผมแบบนี้.... ทำร้ายกันมากไปมั้ย??? ผมผิดอะไรหนักหนา พี่ฮั่นไม่หันมามองหน้าผมแม้แต่น้อย ไหนว่ารักกันนัก...คนรักกันเค้าคงไม่ทำกันแบบนี้หรอก ผมเดินเข้าห้องไปพร้อมน้ำตาที่หลั่งรินออกมาจากความเสียใจ เมื่อปิดประตูลงก่อนผมก็ทิ้งตัวลงบนที่นอน ใบหน้าสัมผัสกับหมอนที่ตอนนี้กลายเป็นผ้าซับน้ำตาไปแล้ว....

    เสียงเคาะประตูทำให้ผมสะดุ้งตื่น...หมอนที่ผมหนุนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา หรือว่าจะเป็นพี่ฮั่นที่มาเคาะประตู ฝันไปเถอะ... พี่ต้องสำนึกได้แล้วว่าทำอะไรไว้กับผม ถึงผมจะความจำเสื่อมแต่ผมก็มีหัวใจ พี่ฮั่นไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายกันแบบนี้!!!

    “แกงส้ม!!!!” นั่นมันเสียงพี่เอหรือว่าพี่บี...ไม่ใช่เสียงคนใจร้ายเหรอเนี่ย????

    “ครับ...” ผมตอบกลับไปพร้อมกระโจนจากเตียงไปเปิดประตู

    “แกงส้มพี่กับไอ่บีเมามากเลย พี่ฝากพี่ฮั่นหน่อยนะ พาเข้าห้องหน่อย เอื๊อก!!! พี่ไม่ไหวแล้ว” ขาเมาชิ่งซะงั้น ผมเลยเดินไปประคองพี่ฮั่นที่เมาไม่ได้สติอยู่ที่โซฟาตัวยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    “อย่ามายุ่งกับชั้นไปเลยนะ ไปรำลึกอดีตที่ไหนก็ไป” พี่ฮั่นร้องโวยวายเมื่อเห็นหน้าผม

    “ไปนอนได้แล้ว” ผมข่มอารมณ์ให้เย็นที่สุด อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา....

    “ปล่อยนะอย่ามายุ่งกับชั้น” พี่ฮั่นปัดป้องไม่ให้ผมเข้าใกล้

    “พี่ว่าแต่ผมบ้าอดีต ตัวพี่เองนั่นแหละพี่บ้ากับอดีตเกินไป พี่ฮั่นพี่มันบ้า!!!” ผมเหลืออดแล้วจริงๆ ทำไมอะไรๆ ต้องเป็นแบบนี้ด้วยมันเกินไปแล้วนะ พี่ฮั่นคว้าแขนผมก่อนจะผลักผมซึ่งผมเองก็ไม่ได้ตั้งตัวทำให้เสียหลักล้มลง แต่สิ่งที่ผมไม่คิดว่าคนที่บอกรักกันอย่างอ่อนหวานเมื่อเช้าจะทำคือ...

    “เพล้ง!!!” พี่ฮั่นขว้างแก้วที่อยู่ในมือตกแตกกระจายข้างๆผม เศษแก้วบาดมือผมเลือดไหล... แต่มันไม่เจ็บหรอกครับ เพราะที่เจ็บจนชามันคือหัวใจของผม น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ต้องสั่ง มันคงรับรู้สินะว่าหัวใจของผมเจ็บปวดรวดร้าวแค่ไหน พี่ฮั่นพี่ทำร้ายผมได้ขนาดนี้เลยเหรอ พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง ผมรักพี่แค่ไหน...มันซึมลงไปในหัวใจพี่บ้างรึเปล่า???

    “แกงส้มเจ็บมั้ย?” พี่ฮั่นเดินโซเซมาที่ผม แต่มันสายไปแล้ว พี่ทำร้ายร่างกายและความรู้สึกผมไปหมดแล้ว ผมลุกขึ้นผลักพี่ฮั่นที่ทรงตัวได้ไม่ดีนักล้มที่โซฟาก่อนที่พาหัวใจที่บอบช้ำเข้าไปในห้อง น้ำตาไหลรินออกมาแต่ไม่อาจทำให้ความเจ็บปวดชะล้างออกไปแม้แต่น้อย พี่ฮั่น...พี่เห็นผมเป็นตัวอะไร ผมสมควรได้รับการลงโทษเพราะแค่อยากรู้เรื่องราวของตัวเองงั้นเหรอ??? มันไม่ยุติธรรมเลย ไม่เลยสักนิด ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่ทำให้ผมร้องไห้อยู่ตอนนี้คือคนที่กระซิบบอกว่ารักกัน....ผมไม่เชื่ออีกแล้วคำว่ารักของพี่

     

    ปล. ตอนนี้รีบปั่นส่งอย่างแรง ขอโทษด้วยนะจ๊ะที่อาจจะต่ำกว่ามาตรฐานเล็กน้อยกลัวผิดสัญญา แล้วถ้ากลับมาจะปั่นตอนหน้าให้อ่านอย่างจุใจแน่นอนจ้า

    เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ด้วยนะ ไรเตอร์เพิ่งเรียนจบกำลังจะไปสอบงานที่อยากทำมากกกกกก... ตั้งใจอ่านหนังสือมาก (แค่แอบมาเขียนฟิคได้สามเรื่องเท่านั้นเอ๊งงงงง....ก็มันคลายเครียดนี่หว่า) หวังว่ากลับมาเม้นเรื่องนี้จะถึงพันนะ...ล้อเล่น ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ตลอดนะจ๊ะ ^^

    ปล. อีกที ตอนนี้ไรเตอร์คิดพล๊อตเรื่งใหม่มาออกแนวเรื่องผีนิดๆ แต่กลัวซ้ำกับคนอื่น ใครเคยอ่านฟิดเกี่ยวเรื่องผีก็เอามาแปะให้หน่อยนะจ๊ะ เพราะถ้าซ้ำกับคนอื่นจะได้เปลี่ยนเรื่องใหม่




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×