ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TS8 (HKS) รักใสๆ หัวใจแรกจิ้น

    ลำดับตอนที่ #1 : INTRO

    • อัปเดตล่าสุด 7 ม.ค. 56


    HUNZ talk

    “นี่...จะมีสักวันมั้ย??? ที่แกจะไม่มีข่าวฉาวๆแบบนี้ห๊ะ!!!” เสียงหวีดสูงกับนิตยสารหลายเล่มกระแทกลงบนโต๊ะรับแขกสุดหรู พี่เอกกี้เท้าเอวมองหน้าผมอย่างจริงจัง

    “โธ่....พี่เอกกี้สุดสวยครับ จะมาโวยวายกับผมทำไม ผมไม่ได้เขียนข่าวส่งให้หนังสือพวกนี้สักหน่อย ถ้าพี่จะโทษพี่ก็โทษพวกนักข่าวนู่น ผมไม่เกี่ยว” ผมชี้แจงให้ผู้จัดการส่วนตัวด้วยเหตุผล

    “ไอ่แถ!!! ถ้าทำตัวดีมันจะเป็นแบบนี้มั้ยวะคะ??? โอ๊ยยยยย...ชั้นต้องพูดภาษาอะไรกับแกดีไอ่คุณฮ้านนนนนน” พี่เอกกี้ทำเสียงลากยาว ผมตีหน้าแบ๊วเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ทั้งที่รู้ดีว่าการกระทำของผมเองนี่แหละที่ทำให้ผู้จัดการส่วนตัวแทบคลั่ง แต่ก็นะ...ในเมื่อของสวยงามมันผ่านเข้ามาทำไมคนฉลาดๆอย่างผมถึงจะไม่แวะชิมสักหน่อย

    “สามเดือนแกมีข่าวกับทั้งนักร้อง ดารา นางแบบ เหลือแต่เด็กเสิร์ฟน้ำละมั้งที่แกยังไม่ล่อลวงเค้า” พี่เอกกี้พูดมาซะผมดูแย่เลย เรื่องจริงมันก็ไม่ขนาดนั้น ความจริงในสามเดือนนี้ผมยังไม่ได้ควงนักร้องเลยสักคนเหอะ....ใส่ร้ายกันชัดๆ แค่นางแบบสองคน ดาราอีกสี่ก็แค่นั้นเอง ทำไมต้องใส่ร้ายกันขนาดนี้ด้วยนะ

    “ตอนนี้ผมก็ยังขายได้อยู่ แทบจะไม่ได้พัก...แล้วพี่จะรีบตีโพยตีพายไปทำไมคร้าบบบบบ”

    “ไม่สำนึกนะ... บอสใหญ่เค้าเตรียมลงดาบเจ็ดสีฟันคอแกอยู่ร่อมร่ออยู่แล้วเนี่ย แกยังหน้าด้านพูดออกมาได้ ขนาดน้องแกรนด์ยังเอากระแสแย่ๆของแกไม่อยู่ บอสเค้าอุตส่าห์จะปั้นให้เป็นคู่ขวัญคู่ใหม่ แต่มันก็พังเพราะภาพลักษณ์เลวๆของแก โอ๊ยยยยย...ชั้นไม่อยากสาธยาย!!!” พี่เอกกี้พูดจนลืมหายใจ ยังมาบอกว่าไม่อยากสาธยาย ถ้าเกิดอยากเมื่อไหร่นะไม่บ่นข้ามปีเหรอเนี่ย???

    “ก็ผมกับแกรนด์เคมีมันไม่ได้... ดูยังไงก็เป็นแค่พี่น้อง---- แฟนคลับเค้าบอกมานะ...อย่ามาหาว่าผมมั่วนะ” ผมรีบบอกแหล่งอ้างอิงเพราะพี่เอกกี้กำลังจะอ้าปากเถียง

    “แล้วใครจะมาเคมีได้กับคนอย่างแกห๊ะ!!! ชั้นละปวดหัวกับแกจริงๆ”

     

    “พี่แกรนด์วันนี้ไม่มีงานเหรอครับ...” ผมทักพี่สาวร่วมค่ายคนสวยที่เพิ่งออกจากฟิตเนส

    “ไม่จ๊ะ... วันนี้ได้พักสักหน่อย แล้วแกงส้มละ เห็นว่างานชุมมีเวลาว่างมาออกกำลังได้ด้วยเหรอ???” พี่แกรนด์ถามผมกลับ ผมหัวเราะร่วนตามประสา

    “ก็ให้ผมพักบ้างสิครับ... ออกงานจนแทบจะไม่ได้นอน ไหนจะต้องรีดน้ำหนักอีก เกิดมาเป็นแกงส้มมันรันทดจริงๆ” ผมก้มหน้ามองรูปร่างตัวเองที่ต้องดูเป็นพิเศษเนื่องจากได้ใบสั่งจากเบื้องบน

    “จ้า... แล้วกินข้าวรึยัง ไปหาอะไรกินกับพี่มั้ย???”

    “ดีครับ หิวจนลำไส้บิดเป็นเลขแปดอยู่แล้ว รอแปบนะครับ ผมไปบอกพี่ม้าก่อน” ว่าแล้วผมรีบสาวก้าวไปบอกพี่ม้า ผู้จัดการส่วนตัวที่ดูแลผมตั้งแต่เข้ามาอยู่ในค่าย ผมเพิ่งเข้าวงการมาเต็มตัวไม่กี่เดือน แต่ด้วยโอกาสที่ดี ทำให้ผมค่อนข้างประสบความสำเร็จในด้านวงการเพลงไม่น้อย จนมีผลงานติดตลาดอยู่สองสามเพลง แต่ด้วยการที่มีเวลาเข้าตึกน้อย ทำให้ผมไม่ค่อยรู้จักใครนัก มีเพียงพี่แกรนด์เท่านั้นที่ได้เจอกันบ่อยกว่าคนอื่นจึงถือว่าเป็นคนที่ผมสนิทที่สุด

    “ตื่นเต้นดีเนาะ...เวลาแอบมากินอะไรแบบนี้” พี่แกรนด์ที่พรางตัวด้วยหมวกใบโตพูดอย่างตื่นเต้น ส่วนผมก็พึ่งฮู้ดเสื้อคลุมเป็นแหล่งกำบังสายตา

    “แต่ทำไมคนมองเราเยอะแยะขนาดนี้ละครับ” ผมเห็นว่าทั้งคนเดินผ่านและโต๊ะอื่นมองผมกับพี่แกรนด์เป็นตาเดียว แต่ไม่มีใครเข้ามาทักมาทายเหมือนที่เคย

    “ลื้อสองคนไม่ร้อนกันหรือไง คลุมหัวเป็นพวกเอสกิโมอยู่ได้ นี่...เกี๊ยวน้ำสอง ร้อนจะตายใส่เสื้อผ้ายังกะอยู่เมืองนอก” และแล้วทุกอย่างก็กระจ่าง เพราะทั้งผมกับพี่แกรนด์แต่งตัวมิดชิดมากไปเลย จนขัดกับสภาพอากาศที่แสนร้อนของเมืองหลวง ผมกับพี่แกรนด์ถึงกับระเบิดหัวเราะออกมา

    “ไอ่เราก็นึกว่าเค้าจำเราได้ ที่แท้เราก็แต่งตัวกันประหลาดนี่เอง” พี่แกรนด์พูดกลั้วหัวเราะในลำคอ

    “ก็พี่นั่นแหละกลัวว่านักข่าวจะมาเห็น ผมเลยจัดเต็มซะเลย” ผมโบ้ยว่าเป็นความผิดของพี่แกรนด์ผู้เสนอความคิด ก่อนที่จะถอดอู้ดออก เพื่อกินเกี๊ยวน้ำได้อย่างสะดวก พี่แกรนด์ก็ถอดหมวกใบโตเช่นเดียวกัน

    “ก็พี่ไม่อยากมีข่าวนี่น่า... ดูโอ้พี่คนเดียวก็เป็นข่าวไม่เว้นแต่ละวัน ขืนพี่เป็นข่าวอีกคนมีหวังพี่เอกกี้กุมขมับกัดลิ้นตัวเองตายแน่ๆ” พี่แกรนด์ระบายออกมา ผมได้แต่อมยิ้มฟังอย่างไม่เดือดร้อน

    “ก็ทำไงได้ละ---อยากทำงานกับหนุ่มฮอตเองนิครับ แล้วพี่เองไม่มีกิ๊กไม่มีกั๊กอะไรแบบนั้นบ้างเหรอครับ หล่อดีออก...ต้องมีหวั่นไหวกันบ้างแหละ” ผมกระเซ้าพี่สาวคนสวย พี่แกรนด์ส่ายหน้ารัว

    “ไม่มีทาง!!! พี่ฮั่นเป็นได้แค่พี่ชายแล้วก็เพื่อนร่วมงานเท่านั้นแหละ ทุกวันแทบจะขี่คอตบหัวกันได้อยู่แล้ว เรื่องแบบนั้นโนเวย์!!!” พี่แกรนด์ปฏิเสธอย่างจริงจังซึ่งก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่เชื่อ

    “แต่แปลกนะครับ มีงานด้วยกันเต้นกันสะบัดขนาดนั้นยังไม่มีกระแสจับคู่กันอีก เห็นช่วงนี้เค้ามีไอ่อะไรนะ จิ้นๆ อะไรเนี่ยแหละ มันน่าจะมีบ้างนี่ครับ” ผมถามไปตามที่คิด พี่แกรนด์เลิกคิ้วสูง...

    “รู้จักเหมือนกันเหรอจ๊ะ... แต่เคมีมันไม่ได้ไง เรื่องมันเลยไม่เกิด” พี่แกรนด์พูดก่อนจะก้มหน้าก้มตาจัดการเกี๊ยวน้ำอยู่ตรงหน้าโดยไม่สนใจกับเรื่องที่พูดไปแม้แต่น้อย ผมเลยค่อนข้างจะไว้ใจว่าระหว่างพี่แกรนด์กับดูโอ้ไม่น่าจะมีอะไรจริงๆอย่างที่พี่สาวคนสวยเพิ่งลั่นวาจาออกมา

     

    วันนี้รอบตัวผมวุ่นวายไปกับการเตรียมตัวออกงานประจำปีของค่ายเพลง นักร้องมากหน้าหลายตากำลังเตรียมตัวขึ้นเวที โชคดีที่เนื่องจากชั่วโมงบินน้อย ผมจึงได้ขึ้นโชว์เป็นโชว์แรกๆ เมื่อโชว์เสร็จผมจึงค่อยๆย่องไปที่ห้องน้ำโดยไม่มีใครสังเกต

    “โธ่....อย่าโกรธพี่สิจ๊ะ น้องจุ๊บแจง พี่ฮั่นติดงานจริงๆ” เสียงหนึ่งออดอ้อนในห้องน้ำ ผมไม่กล้าจะเข้าไปขัดจังหวะ แต่เอ๊ะ.... “พี่ฮั่น”  ---คนๆนี้คือดูโอ้มากรักของพี่แกรนด์นี่หว่า นี่ขนาดมีงานยังมีหน้ามาอ้อนสาวอีก น่าปวดหัวแทนพี่แกรนด์จริงๆ

    “ไม่จริงเลยนะ---ข่าวมันมั่ว พี่ไม่ได้มีอะไรกับแอนนี่เลยสักนิด แค่เจอกันตามงานนักข่าวก็เอาจินตนาการกันต่อ เรื่องจริงมันไม่มีอะไรเลย” หึหึ...ใครเชื่อก็บ้าแล้ว คนอื่นเค้าเจอกันตามงานเป็นร้อยคู่ เค้ายังไม่มีข่าวเลย ใครเชื่อก็บ้าแล้วววววว

    “จริงๆจ้า เชื่อพี่เถอะนะ---แล้วเดี๋ยวเจอกันนะจ๊ะ พี่อยากจะจุ๊บน้องจุ๊บแจงจะแย่ ม๊วฟๆๆๆ” อ้าว---เชื่อเฉยเลย... ผมละไม่เข้าใจกับผู้หญิงสมัยนี้จริงๆ เค้าโกหกชัดๆ เชื่อไปได้ไง แล้วนายคนนี้อีกคน---ไม่มีคำบรรยาย!!!

    “ทะลึ่งอะไรจ๊ะ---อยู่ด้วยกันสองคนพี่ทะลึ่งกว่านี้เยอะ ไม่ใช่แค่จุ๊บนะ ทั้งไล้ทั้งเลียเลยจริงมั้ยจ๊ะ???” ยี้---ลามากจกเปรต กล้าพูดแบบนี้ได้ไง พี่แกรนด์อยู่กับคนบ้ากามแบบนี้ได้ยังไงห๊ะ!!! แค่ได้ยินก็ขนลุกแล้ว อึ้ยยยยยย!!!

    “ฮะ—ฮะ—ฮัดเช้ยยยยย!!!” อ้าวกรรมละ...ดันมาจามตอนภาวะฉุกเฉินแบบนี้ เสียงคุยโทรศัพท์เงียบไป ผมยกมือมาปิดปากตัวเองทันที---กลัวว่านายบ้ากามคนนั้นจะมาได้ยิน แต่เราจะกลัวไปทำไม นี่มันห้องน้ำสาธารณะนี่หว่า นายคนนั้นต่างหากที่ควรจะละอาย!!! แต่ถึงคิดแบบนั้นก็เหอะ ผมก็เลือกที่จะค่อยๆย่องไปทางประตูที่ห่างออกไปเพียงสองวา

    “จะไปไหน!!!” แต่ร่างผมกลับถูกกระชากกลับ ร่างสูงนั้นพลิกตัวไปล็อคประตูทันที ผมยืนพิงกำแพงด้วยความตกใจที่จู่ๆ นายบ้ากามกักกันตัวผมไว้อย่างนี้

    “มาจากหนังสือเล่มไหน???” ใบหน้าขาวใสแต่ดูคมกล้าตวัดเสียงถาม แววตาโชนด้วยความโกรธ

    “ไม่ได้มาจากหนังสือเล่มไหน” ผมตอบไปด้วยความกลัวเล็กน้อย... เฮ้ยยยย!!! ----นายคนนี้ไม่รู้จักผมเหรอ??? เพลงผมติดชาร์ตทั่วบ้านทั่วเมืองนะ นึกว่าตัวเองดังเป็นคนเดียวรึไง!!! ผมชักมีน้ำโหขึ้นมา

    “เอามา!!!” มือยาวเรียวยื่นออกมาตรงหน้าผมพร้อมกับน้ำเสียงที่วางอำนาจ

    “เอาอะไร--ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ” ผมตอบไปด้วยน้ำเสียงเริ่มขุ่น หนอย...นายไม่รู้จักชั้นเหรอเนี่ย??? ร่างสูงเคลื่อนที่อย่างสุขุมเข้าใกล้ ผมพยายามจะเบี่ยงตัวออกจากด้านข้าง แต่ท่อนแขนแข็งแรงขวางไว้ทันทีที่ขยับ และผมก็ตกใจสภาพที่หนีไปไหนไม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

    “อย่าให้ต้องใช้กำลัง---เอามา ที่นายอัดเสียงหรือว่าถ่ายรูปชั้นไว้” นายนั่นทำเสียงเหี้ยมเกรียมจนผมเริ่มจะกลัวขึ้นมาเหมือนกัน ผู้ชายคนนี้น่ากลัวจริงๆ

    “ไม่มี---ก็บอกไปแล้วว่าไม่มี ไม่มี!!!” ผมบอกอย่างรวดเร็ว สายตาคมนั้นจ้องใบหน้าผมไม่วางตา จนผมเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมา

    “ทำไมต้องแต่งหน้าด้วย...” นายบ้ากามขมวดคิ้วก่อนจะถือวิสาสะจับแก้มผมเพื่อให้แน่ใจว่าผมแต่งหน้าจริงๆ

    “ก็ต้องขึ้นร้องเพลง” ผมตอบสั้นๆ รู้ตัวแล้วสินะ...ว่ากล่าวหาผิดคน!!!

    “นาย...นี่นาย..เป็นนักร้องเหรอ??? ทำไมชั้นไม่เคยเห็นหน้า” มันจะเคืองก็ตรงนี้แหละ....ผมก็ดังนะ ไอ่บ้านี่มันน่านัก โอ๊ย....โมโหๆ แต่ทำอะไรไม่ได้แค่เห็นกล้ามหมอนี่ผมก็หมดทางสู้แล้ว

    “ครับ---ทีนี้ปล่อยผมไปได้รึยัง???” ผมรู้สึกเคืองหมอนี่เต็มทน รู้แล้วว่าผมไม่ได้เป็นนักข่าวแต่ยังไม่ยอมปล่อยผมออกจากกรงขังท่อนแขนที่ดูแข็งแรง

    “เดี๋ยวเอามือถือมาก่อน—ยังมาทำหน้างงอีก มือถือไง มือถือ---” นายนั้นกระดิกนิ้วขู่เข็ญเอามือถือ อย่าบอกนะว่านอกจากจะเป็นนักร้องแล้วยังรับจ๊อบเป็นมาเฟียตามซอกห้องน้ำอีก!!! แต่ผมก็ทำตามอย่างที่นายคนนั้นต้องการ ไม่รู้แหละ...ใครเป็นใครไม่รู้วินาทีนี้ขอเอาชีวิตกลับไปหาพ่อกับแม่เป็นพอ

    “รักเธอคนนี้ 24 ชั่วโมง เช้า สาย บ่าย เย็น ก็ยัง I love Youuuuuuuu....” เสียงเพลงของผมดังขึ้นจากตรงไหนสักแห่ง ก่อนที่มือถือของผมจะถูกยื่นกลับมา นายคนนี้ใช้เพลงผมเป็นเสียงเรียกเข้าแต่ดันไม่รู้จักผมเนี่ยนะ เฮ้ยยยย...มุกป่ะเนี่ย???

    “ถ้าเรื่องเมื่อกี้หลุดออกไปถึงหูนักข่าวเมื่อไหร่นะ ชั้นจะมาเล่นงานนาย  แล้วห้ามเปลี่ยนเบอร์ ทุกครั้งที่ชั้นโทรหานาย นายก็ต้องรับ---เข้าใจมั้ย???” นายพี่ฮั่นสั่งผมราวกับผมเป็นลูกเป็นหลานมาแต่ชาติปางไหน นี่...มันเวรกรรมอะไรของผมเนี่ย

    “ได้ยินมั้ย???--ชั้นถามทำไมไม่ตอบ” เสียงนั้นกลับมาโหดเหี้ยมอีกครั้ง พันธุ์อะไรวะเนี่ย---ดุชะมัด

    “ได้ยินแล้ว เข้าใจแล้ว” ผมรีบรับคำ เพราะกลัวนายคนนี้จะทำอะไรบ้าๆ ดูท่าทางจะเอาเรื่องไม่น้อย

    “ดีมาก” นายพี่ฮั่นไม่พูดเปล่า ลูบหัวผมเหมือนผมเป็นสัตว์เลี้ยง ก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำไป ปล่อยให้ผมยืนงงอยู่เพียงลำพัง.... คงไม่มีอีกแล้วแหละที่ผมต้องมาผจญกับนายบ้ากามคนนี้ ใครมันจะซวยซ้ำซ้อนขนาดนั้น อย่างน้อยบุญที่ผมเพียรทำตั้งแต่เด็กคงไม่ปล่อยให้ผมต้องมาเจอกับคนบ้าๆแบบนี้

    ....นั่นเป็นความคิดที่ผมคิดผิด ไม่ใช่คิดผิดธรรมดา เป็นการคิดผิดที่สุดในชีวิต เพราะจากนี้...ชีวิตผมจะมีผู้ชายคนนี้เข้ามาปั่นป่วนอย่างที่ผมเองไม่คาดฝันว่าจะเจอ!!!

     

    ปล. เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เปิดเร็วมาก เพราะเรื่องที่กำลังเขียนเพิ่งดำเนินไปครึ่งเรื่อง แต่อยากแต่งอะไรที่สบายๆบ้าง เลยว่าจะแต่งสลับกันไป เรื่องนี้จะเป็นเรื่องน่ารักๆ ตลกๆ พี่ฮั่นกับน้องแกงจะมีบุคลิกที่ต่างจากที่ไรต์เขียนแต่ง พี่ฮั่นจะบ้ากามแค่ไหน แล้วน้องแกงจะน่ารักแค่ไหนต้องติดตามกันนะจ๊ะ ^^  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×