ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Doushi te Kimi o Suki ni Natte Shimattandarou 2011

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF] Doushite Kimi o Suki ni Natte Shimattandarou 2011

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 54


    Doushite Kimi o Suki ni Natte Shimattandarou 2011

     

     

    Flashback~

     

     

    ปลายฤดูใบไม้ผลิ ปี 2009  ญี่ปุ่น

     

    ซิงเกิ้ล “Doushite Kimi o Suki ni Natte Shimattandarou”  หรือ “Why did I fall for you”  ซิงเกิ้ลญี่ปุ่นลำดับที่ 23 ของดงบังชินกิได้ออกวางตลาดส่งผลให้ดงบังชินกิเป็นศิลปินเอเซียวงแรกที่มีซิงเกิ้ลขึ้นอันดับ 1 Oricon Chart ถึง 3 ซิงเกิ้ลและทำยอดขายสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในสัปดาห์ที่วางจำหน่ายอีกด้วย..........

     

     

     

    ยุนโฮ

     

    หืม? 

     

    เสียงหวานเรียกให้หนุ่มร่างสูงที่นั่งอ่านนิตยสารญี่ปุ่นเพื่อฝึกภาษาอยู่ข้าง ๆ บนโซฟาตัวเดียวกันหันมาหาเจ้าของเสียงหวาน

     

    เพลงนี้เศร้าจังเลยนะ

     

    ดวงหน้างามยังคงจดจ่ออยู่กับ PV (Promotional Video) ที่กำลังฉายอยู่บนทีวีตรงหน้า ทำให้ชายหนุ่มผู้เป็นลีดเดอร์ของวงดงบังชินกิต้องหันไปมองตาม มันคือ PV ตัวใหม่ของวงพวกเขาที่มาออนแอร์เอาตอนนี้พอดี

     

    อืม... นั่นสินะ แต่ปกติเราก็ได้ร้องเพลงช้าเยอะอยู่แล้วนี่นะ  ลีดเดอร์หนุ่มให้ความเห็น ด้วยความที่ถูกฝึกฝนมาอย่างหนักหน่วง การร้องเพลง acapella ช้า ๆ เพราะ ๆ น่าจะเป็นสิ่งที่ได้โชว์ถึงลิมิตความสามารถในการร้องเพลงของวงที่ได้ชื่อว่าเป็นศิลปินนักร้องจริง ๆ

     

     

    ...........ฉันคิดตั้งแต่ตอนที่เห็น PV นี้ครั้งแรกแล้วล่ะ 

     

    นักร้องนำคนสวยเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปพักนึง

     

     

    ถ้าเป็นฉันนะ..... ถ้ามีคนที่เราชอบอยู่แล้ว และเขาก็ชอบเรา.... ฉันจะไม่มีวันแต่งงานกับคนอื่นไปเด็ดขาด ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะดีแค่ไหนก็ตาม

     

     

    แล้วก็จะไม่ยอมให้เขาแต่งงานไปกับคนอื่นทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้สารภาพรักด้วยเด็ดขาด

     

    คิมแจจุงกำลังพูดถึงเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดใน PV นี้ ที่คนสองคนที่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนและต่างก็รู้ตัวว่ามีความรู้สึกดี ๆ ให้กับอีกคนเกินกว่าคำว่าเพื่อนแต่กลับไม่ยอมเปิดเผยต่อกัน จนกระทั่งฝ่ายหญิงมาบอกว่ากำลังจะแต่งงาน........ แล้วก็ยังไม่พูด ไม่รั้งอะไรทั้งสิ้น แสร้งแสดงความยินดีให้กับเขาเพราะคิดไปเองว่าเพื่อความสุขของคนที่เรารัก.......

     

     

    คนเราจะต้องฝืนความรู้สึกตัวเองเอาไว้ขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?

     

     

    ดวงตากลมโตหันมามองคนข้าง ๆ แววตาจริงจังนั่น.....ขอความเห็น?

     

     

    แล้วนายล่ะ?

     

     

    นั่นไง ชองยุนโฮเคยเดาผิดซะที่ไหน

     

     

    ถ้าเป็นนาย... จะยอมปล่อยให้คนที่นายรักไปแต่งงานกับคนอื่นทั้ง ๆ ที่ต่างคนต่างก็รู้ว่ารู้สึกเหมือนกันรึเปล่า...... 

     

     

    ดวงตากลมสุกใสจ้องมาทางเขา มันมีแววหม่นหมองเจืออยู่... อะไรจะอินกับเพลงขนาดนั้น

     

     

    ถ้าเป็นฉันงั้นเหรอ......  ชายหนุ่มวางหนังสือในมือลงข้าง ๆ

     

    เพื่อที่มือจะได้ว่าง.... มาจับมือคนข้าง ๆ ยังไงล่ะ

     

     

    ถ้าคนที่ฉันรักเขายืนยันว่าจะทำอย่างนั้น ฉันก็จะปล่อยเขาไป เพราะนั่นคือความสุขของเขา  

     

    น้ำเสียงอ่อนโยนตอบกลับมา แต่ยังไม่ทันที่เจ้าของคิ้วบางที่ขมวดน้อย ๆ นั่นจะเอ่ยปากทักท้วง ชองยุนโฮก็รีบพูดต่อ

     

     

    แต่ถ้าฉันมั่นใจว่าเขาเองก็รู้สึกเหมือนกับฉัน ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเขาไปเด็ดขาด เพราะความสุขของคนๆ นึงก็คือการที่ได้อยู่กับคนที่เรารัก ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม........

     

    ถ้าเรามีความรู้สึกตรงกัน เราก็น่าจะคิดเหมือนกัน......  ถ้าคนที่เขารักเป็นฉัน ฉันจะไม่มีวันพลักไสเขาไปให้คนอื่นแล้วมาหลอกตัวเองว่าทำเพื่อความสุขของเขา 

     

    ริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มเม้มเข้าหากันพร้อม ๆ กับมืออุ่นที่กระชับมือเขาเอาไว้แน่นขึ้น

     

     

    จะไม่ปล่อยมือจากเขาเด็ดขาด จะปกป้อง และฟันฝ่าทุกสิ่งทุกอย่างไปด้วยกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น.....

     

    ชายหนุ่มสบตากลมโตคู่นั้นนิ่งราวกับยืนยันสิ่งที่พูด ต่างคนต่างไม่รู้ตัวว่าขยับเข้ามาใกล้กันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่.....

     

     

    มือขาวเนียนกระชับตอบมืออุ่นที่คอยกุมมือเขาเอาไว้ในยามที่เขาเหนื่อยล้า อ่อนแอ  มืออุ่นของลีดเดอร์ที่เขารู้สึกได้ถึงกำลังใจที่ส่งผ่านมายังเขาตลอดมา

     

    ไม่เคยปล่อยมือทิ้งกัน คอยฉุดรั้งให้เดินไปด้วยกัน

     

     

    เพราะฉะนั้นนะแจจุง.... ขอแค่เรายังมีความรู้สึกเดียวกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะไม่ปล่อยมือจากนายเด็ดขาด

     

     

    ยุนโฮรู้ตั้งแต่ตอนที่แจจุงหันมาสบตาแล้วว่า แจจุงไม่ได้แค่ถามความเห็นจากเขา แต่กำลังถามตัวเขาอยู่ต่างหาก.....

     

    แก้มขาวเนียนขึ้นสีระเรื่อพร้อม ๆ กับเสียงในอกที่มันเต้นดังขึ้น  ชายหนุ่มยิ้มจนตาหยีด้วยทั้งชอบใจทั้งเอ็นดู

     

    รอยยิ้มใจดีที่เขาหลงรักมาตลอด

     

     

    ขอบคุณนะ เสียงหวานเอ่ยพลางหลบตาด้วยความเขินที่ปรอทพุ่งขึ้นมา ก็เล่นตอบได้ตรงประเด็นที่แอบ ๆ สื่อซะขนาดนี้

     

     

    แต่ก็หลบตาได้ไม่นานเมื่อริมฝีปากอุ่นสัมผัสเข้ากับริมฝีปากอวบอิ่ม แจจุงหลับตาลงปล่อยให้ริมฝีปากอุ่น ๆ จูบเม้มเบา ๆ ดูอ่อนหวานในคราแรกก่อนจะค่อย ๆ ตอบสนองกันมากขึ้น 

     

    มือขาวบางยกขึ้นแตะแก้มอีกฝ่ายก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนไปโอบรอบคอ รู้สึกว่าตัวเองแนบชิดไปกับโซฟามากขึ้น..........

     

     

    ......................................................................

     

     

     

    Flashback…………..

     

     

     

     

    “……...... พี่แจจุง

     

     

    อืม.......

     

     

    พี่แจจุงตื่น ๆ เครื่องใกล้ลงจอดแล้วครับ 

     

     

    หืม....? 

     

     

    เปลือกตาบางค่อย ๆ กระพริบ ปรับสายตาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ เขาอยู่บนเครื่องบิน ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ของจุนซูที่เมื่อกี้คงจะเป็นคนปลุกเขา 

     

    นั่นสินะ เขากับจุนซูและยูชอนเพิ่งกลับจากแสดงคอนเสริต์ที่เมืองไทยนี่นะ คงเพราะเหนื่อยมากเลยหลับมาตลอดทางเลย จะถึงเกาหลีแล้วเหรอเนี่ย เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าที่มืดสนิทเริ่มมีแสงรำไรอยู่ที่ขอบฟ้า ออกจากสนามบินที่เมืองไทยเมื่อคืนถึงเกาหลีก็เช้าพอดี

     

     

    เหนื่อยมากมั้ยแจจุง เครื่องจะแตะถึงพื้นอยู่แล้วเนี่ยนายยังไม่รู้สึกตัวเลย 

     

    คราวนี้เป็นยูชอนที่โผล่หน้ามาแซวผมจากเบาะด้านข้างถัดจากจุนซูไปอีก

     

    ไม่หรอก  แจจุงตอบ

     

    ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ ก็เหนื่อยเพราะศิลปินอย่างเขากลับต้องรับหน้าที่เป็นผู้กำกับการแสดงทุกอย่างในคอนเสริต์ทั้งสองวันที่ 2-3 เมษาที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว คนอื่น ๆ ก็เหนื่อยเหมือนกันเพราะฉะนั้นเรื่องแค่นี้น่ะเล็กน้อย

     

    แจจุงรีบคาดเข็มขัดที่นั่งที่แอร์โฮสเตสคนสวยย้ำนักหนาก่อนที่เครื่องจะร่อนลงแตะพื้นที่สนามบินอินชอน

     

    เปลือกตาบางหลับลงอย่างพักสายตาเล็กน้อย... กลับมาถึงบ้านแล้วสินะ แต่ก็คงจะไม่ได้พักนานนัก ยังมีตารางงานอื่น ๆ รอเขาอยู่อีก

     

     

    ปี๊บ ๆ 

     

     

    โทรศัพท์มือถือของแจจุงส่งสัญญาณเตือนทันทีที่เครื่องแตะพื้น.... ข้อความ?

     

     

    แต่แล้วเมื่อเปิดออกอ่านดู..... ดวงหน้างาม ๆ นั่นก็ต้องยิ้มหวานออกมา ริมฝีปากยิ้มกว้างอยู่นานสองนาน ดวงตากลมโตทั้งสองข้างเต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่สื่อออกมาอย่างไม่ปิดบัง

     

     

    แจจุง ไปกันเหอะ   เป็นเสียงยูชอนเรียกเตือนสติเขาให้วิญญาณกลับมาเข้าร่างอยู่ ณ ปัจจุบัน

     

     

    แล้วเมื่อกี้นี้ยิ้มอะไรนักหนา แอบเห็นนะ ๆ  ไม่แซวก็ไม่ใช่ปาร์คยูชอนสิครับ

     

     

    อยากดูมั้ยล่า?  ท้ากันเห็น ๆ แต่ยูชอนรีบส่ายหัวดิก 

     

     

    ไม่ล่ะ เดี๋ยวระดับน้ำตาลในเลือดขึ้น 

     

     

    ยูชอนบอกปัดแทบไม่ทัน ลงเจ้าตัวเต็มใจนำเสนอยังงี้ก็ไม่สนุกน่ะเส่ะ ดีไม่ดี จะเป็นเขาเองที่โดนรังสีบางอย่างอาบร่างให้เกิดอาการกระอักกระอ่วนเหมือนคนกินของหวานมากเกินไปหรือเรียกว่าเลี่ยนนั่นเองก็เป็นได้

     

    เรียกเสียงหัวเราะใสจากคนงามขณะที่พวกเขาเดินมาด้วยกันตามทางในอาคารรับผู้โดยสารขาเข้าของสนามบิน

     

     

    แจจุงแทบอยากจะรีบ ๆ คว้ากระเป๋ารีบ ๆ เชคเอ้าท์ออกจากสนามบินให้ได้เร็วที่สุดขนาดช่องวีไอพีมีให้ก็แลดูยังไม่ทันใจ เพราะอะไรน่ะเหรอ.........

     

     

    แจจุงไม่วายจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูอีกครั้ง แล้วก็ยิ้มมมมมมมมมมมมม

     

     

    พี่แจจุง ๆ ยิ้มจนตีนกาขึ้นที่หางตาซ้ายแล้วครับ   จุนซูน้องน้อยเป็นต้องแซวอย่างอดไม่ได้

     

    เกินไป เจ้าเด็กบ้า   วาจาด่าเขาแต่ทั้งตาทั้งปากก็ยังยิ้มอยู่เหมือนเดิมนะคิมแจจุง

     

     

    โลกของคิมแจจุงสดใสขึ้นมาได้ในพริบตาความเหนื่อยล้าจากการทำงานในต่างแดนเป็นอาทิตย์ ๆ แทบจะมลายหายไปสิ้น

    เพราะบางสิ่งที่ช่วยเติมเต็มเขา บรรเทาความเหนื่อยกายและใจของเขามาตลอด

     

    ......ขอบคุณนะ...... 

     

    แจจุงเอ่ยเบา ๆ ในใจ ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มหวานประดับอยู่ คำขอบคุณที่เขาเอ่ยถึงใครบางคนที่ถึงจะไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ กันตลอดเวลาเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แต่ยิ่งพวกเขาห่างกันมากขึ้นเท่าไหร่ ความห่วงหาอาทรมันก็ยิ่งมีให้กันมากขึ้นเท่านั้น

     

     

    แล้วก็ความรัก.... ที่ไม่เคยลดน้อยลงเลย

     

     

    ..................................................................

     

     

     

     

     

     

    ................ไปแอบดูข้อความที่ถูกส่งมาหาแจจุงเมื่อตะกี้นี้กันหน่อยดีกว่า

     

     

     

    กลับมารึยัง เหนื่อยมั้ย จะรอที่บ้านนะ..... 

     

     

     

    Never End……..

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×