ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขนมจีบ4ชิ้นกับชีวิตอนาถของสองเรา(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 ปัญหาใหญ่อีกหนึ่งอย่างในชีวิตน่ะเหรอ?ก็ความหิวไงล่ะ!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 32
      0
      17 ม.ค. 60

            “นายธีรศิลป์ ปัญจเมษ”

    “มาครับ!!!” ผมขานด้วยเสียงตื่นตระหนกเมื่อวิ่งไปถึงประตูห้องเรียนและเสียงอาจารย์กัญจิณาผู้สอนประวัติศาสตร์ดังขึ้น ทั้งที่ขายังไม่ทันก้าวเข้าห้องด้วยซ้ำ

    “เธอมาสายธีรศิลป์” อาจารย์หญิงวัยกลางคนปั้นหน้าเหี้ยมโหดเอ่ยต่อว่าผมทันที

    “ไม่ครับ ผมมาตรงเวลาเป๊ะเลยนะอาจารย์” ผมบอก แกล้งทำหน้าใสซื่อ หวังว่าอาจารย์จะหลงกล แต่...

    แอ้ก!!!

    “อาจารย์อ้ะ!” ผมโวยวาย คลำหัวที่เหมือนจะปูดนูนขึ้นมานิดๆป้อยๆ แกล้งทำสายตาน่าสงสารเหมือนลูกหมาหิวนม(?)ช้อนมองอาจารย์อย่างตัดพ้อ

    “ไม่ต้องมาทำสายตาอย่างนั้น! หมั่นไส้! นี่ขนาดวันนี้สอบเธอยังมาสายได้ เก่งจริงๆเด็กสมัยนี้” อาจารย์บ่นแว้ดๆ สะเทือน ‘เด็กสมัยนี้’ ที่นั่งรอเรียนสะดุ้งกันเป็นแถบๆมองผมด้วยสายตาร้อนแรงที่ไปทำให้พวกเขาโดนว่ารวบไปด้วย ผมมองยางลบอันน้อยที่อาจารย์กว้างมาแล้วขยับยิ้มแห้งๆ ก่อนจะก้มลงเก็บมันขึ้นมาแล้วคุกเข่าคืนให้อาจารย์ประหนึ่งเจ้าชายมอบดอกไม้ให้เจ้าหญิง แน่นอนอาจารย์ผู้เหี้ยมโหดคิ้วกระตุกทันใด

    “อาจารย์จะไม่ให้เธอสอบ ถ้าภายในสิบวินาทีเธอยังไม่ไปนั่งที่สอบของตัวเองนะ ธีรศิลป์...”

    เท่านั้นแหละครับ...

    ผมนี่พุ่งไปเลย!

    “เดี๋ยวนะเทล” มะนาว หัวหน้าห้องผู้ต้องรับความป่วงของเพื่อนทุกคนหันมามองผมอย่างเหนื่อยใจ ผมหันไปมองเธออย่างสงสัย มะนาวในชุดนักเรียนเรียบร้อยตามกฎระเบียบมองหน้าผมด้วยแววตาเหนื่อยหน่าย
              “ไม่ใช่ว่านาย ‘ลืมกระเป๋า’ มาอีกแล้วหรอกนะ”มะนาวถามเสียงเนือยๆ

    .............

    อ่า... ก็ว่าลืมอะไร...

    “แหะ” ผมพยายามปั้นยิ้มที่คิดว่าน่ารักและหล่อที่สุดในชีวิตให้เธอ “มะนาวววว” ผมเรียกเสียงหวานที่ทำเอาเธอทำหน้าขนลุก

    “คือว่า... ขอยืมปากกาหน่อยสิ...” ผมถามเสียงนุ่มนวล ทว่า...

    แอ๊ก!!!

    เขวี้ยงปากกามาแบบนี้คงไม่ได้คิดว่าจะปาให้ผมสมองเสื่อมเพื่อตัดปัญหาชิ้นใหญ่ในชีวิตออกหรอกใช่มั้ย!!!

    มะน๊าว!!!

    ....

    .............

    “อะไร!”

    “... เปล่าครับ”

    .......................

            อ่าาาา~    โครกกกก~

             หิวจังนี่ผมต้องทนจนกว่าวินาทีนรกนี้ผ่านไปสินะ ทำไมเวลามันเดินช้าแบบนี้!!!!

             อ๊ากกกก~    หิวเว้ยยยยย!!

    ...................

    หลังจากสอบ (หลับ) เสร็จ ช่วงเวลาแห่งการถูกปลดปล่อยก็เริ่มขึ้นหลังจากผ่านช่วงเวลานรกของหลายๆคนไป แน่นอนผมคือหนึ่งในนั้น แม้ผมจะหลับแต่พวกคุณรู้ไหมท้องผมยังคงร้องอยู่ตลอดเวลา ผมยังไม่ได้กินข้าวเช้า! แล้วยังต้องมาสอบ! แม้เวลาสามชั่วโมงที่ผ่านมาผมจะหลับ แต่ผมเป็นคนที่ทนต่อความหิวไม่ค่อยได้และกระเพาะที่น่าสงสารของผมมันร้องประท้วงอยู่ตลอดเวลา จนผมสงสัยว่ามะนาวที่นั่งสอบอยู่ข้างหน้าผมกับเอิร์ธที่นั่งอยู่ข้างๆผมมีสมาธิกับการสอบโดยที่ไม่ได้ยินเสียงท้องผมร้องได้ยังไง!!!

    อ่า... ในเมื่อช่วงเวลาอันเลวร้ายมันผ่านพ้นไปแล้ว งั้นเราก็ควรมีความสุขอยู่กับปัจจุบันโดยการรีบไปหาร้านอาหารใกล้ๆโรงเรียน อาเมนนนน.....

    หัวผมเริ่มประมวลผลว่าควรจะลากสังขารอันหล่อเหลา(?)และหิวโซไปทิ้งไว้ที่ร้านอาหารร้านไหน เพราะพึงระลึกได้ว่าผมและกระเพาะน้อยๆนั้นไม่สามารถรอจนไปถึงบ้านและทำอาหารได้อีกแม้เพียงนาทีเดียวและผมยังไม่อยากกลับบ้านเพราะนี่มันเพิ่งจะเที่ยงวัน แค่เที่ยงวันเองนะ ไม่มีใครอยู่บ้านหรอกนอกจากสีหมอกแมวขี้เกียจนั่นซึ่งถ้ามันหิวเดี๋ยวมันก็ไปหาอาหารกินเองแหละ ผมเลี้ยงมันอำมหิตแบบนี้ตลอดเวลาที่แม่ไม่อยู่บ้านเพราะงั้นมันจึงค่อนข้างจะคุ้นชินกับการหาอาหารกินเองเวลาหิว แต่ปกติตอนกลางวันมันจะไม่ตื่นหรอก ส่วนมากมันจะนอนตอนเจ็ดโมงเช้าแล้วตื่นมาอีกทีตอนหกโมงเย็นในสภาพโมโหหิวและจะพยายามกินขาผมแทนอาหารแมว

    โครกกกก...ครากกกก...

    อ่า บ่นนานไปหน่อย หิวจังไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า แล้วจะไปไหนค่อยว่ากันอีกที กินอะไรดีนะโรสติ(*Rosti อาหารประจำชาติสวิส ทำจากมันฝรั่งซอยผสมกับแฮมและชีส) ร้านข้างโรงเรียนก็น่ากิน ร้านซี่โครงย่างก็น่าแวะ หรือจะกินร้านอาหารญี่ปุ่นในซอยถัดจากโรงเรียนไปสามซอยดี

    อ่าาาส์ น่ากินไปหมดเลยยยยยย

    ในขณะที่สมองผมล่องลอยไปไกลกับรายชื่อร้านอาหารต่างๆนั้นพลันสายตาก็เห็นผู้หญิง? ไม่สิผู้ชายเพราะมีลูกกระเดือก เอ แต่ผู้หญิงลูกกระเดือกแบบผู้ชายก็มีนี่นา แต่ผู้ชายสิเพราะไม่มีน---แค่ก ผมรีบหยุดคิดประหลาดๆก่อนที่นิยายเรื่องนี้จะต้องขึ้นนำหน้าชื่อเป็นนิยายหื่นกามเด็กต่ำกว่า 15 ห้ามอ่าน แต่ว่าหน้าสวยสะดุดตาจริงนา... ให้ตายเถอะ! ถ้าเป็นกระเทยก็อยากรู้จริงว่าแปลงเพศมาจากที่ไหนกันสวยกว่าดาวโรงเรียนผมอีก ปากนิดจมูกหน่อยตัวเล็กบอบบางน่าถนุถนอมยืนหันซ้ายหันขวาอย่างน่ารักน่าชัง คนแบบนั้นทำไมพ่อแม่ถึงปล่อยให้มาเดินคนเดียวได้ ไม่กลัวหายรึไงกันนะ? ถ้าผมเป็นพ่อผมไม่ปล่อยให้เดินไปไหนคนเดียวหรอกเดี๋ยวโดนฉุด...

    ผมเลิกสนใจเด็กคนนั้น ทำไมต้องสนใจด้วยล่ะลูกเต้าเหล่าใครก็เรื่องของเขาสิผมไม่สนใจหรอก แต่ตอนนี้ผมต้องหาอะไรใส่ท้องที่ร้องโครกครากนี่ก่อนล่ะ

    เดินมาอีกไม่นานผมก็เจอคนสวยที่มีลูกกระเดือกอีกแล้วล่ะให้ตายสิ! แต่คนนี้สวยกว่าคนที่แล้วอีกแถมมองยังไงก็ผู้หญิง ผู้หญิงแบบที่มั่นใจในตัวเองสูงแล้วก็จริงจังแถมยังดูสง่าด้วยซึ่งไม่ใช่แนวผมสุดๆเพราะผมชอบผู้หญิงตัวเล็กน่ารักโมเอะคิขุอาโนเนะ(?) แต่เธอคนนี้กลับมีอะไรที่ดึงดูดประหลาดๆ...

    โครกกกกก...ครากกกกกก....

    ท้องผมร้องดังกว่าทุกที มันรู้สึกเหมือนน้ำย่อยในกระเพาะทำงานหนักขึ้นอีกห้าเท่า มันย่อยกระเพาะอันว่างเปล่าของผมรุนแรงกว่าในทุกๆครั้งที่ผ่านมา มันหิว หิวมาก หิวมากจริงๆ อะไรก็ได้... ที่กินแล้วหยุดความทรมานนี้ อะไรก็ได้...

    ตาผมพร่ามัวจนแทบมองอะไรไม่เห็นเพราะความหิวมันบังตา ผมรู้สึกแค่ได้กลิ่นหอมยั่วน้ำลายที่ได้กลิ่นมาจากผู้หญิงคนนั้น ผมพยายามเพ่งมองไปที่เธอ นั่นไงที่มาของกลิ่นหอมอันเย้ายวนนั้น! ผมรู้สึกเหมือนวิญญานหลุดจากร่างออกมาดูตัวเองวิ่งเข้าไปหามันและหยิบมันมาจากมือผู้หญิงสวยสง่าตรงหน้า แล้ววิญญานผมก็ลอยกลับเข้าร่างก่อนจะพาขาสองข้างวิ่งไม่คิดหันกลับไปมองเจ้าของที่กำลังวิ่งตามผมมาพร้อมเสียงโวยวาย ผมไม่ยอมให้เธอจับผมได้หรอก ไม่เด็ดขาด ผมไม่ยอมเสียมันไปหรอก

    ขนมจีบชิ้นนี้น่ะ มันเป็นของผม!


    ด้านผู้หญิง(?)คนนั้น

    ไม่นะ! ไอ้บ้านั่น มันมาขโมยสิ่งสำคัญไปซะแล้ว!!! ผมไม่ยอมให้มันได้ไปหรอก ไอ้บ้าเอ้ยขโมยไม่ดูตาม้าตาเรือเลย!

    “ไอ้ขโมย! เอาขนมจีบคืนมานะเว้ย!!!” ผมวิ่งไล่ตามมันไปตามตรอกซอกซอยที่คดเคี้ยวชวนน่าเวียนหัว แต่ยังไงซะผมก็ต้องเอาขนมจีบชิ้นนั้นคืนมาให้ได้! อุตส่าห์คิดว่ามันเป็นงานง่ายแล้วเชียวที่จะตามหาสิ่งวิเศษชิ้นสองชิ้นแรกจากสี่ชิ้นกลับเเอนเชินทร์ซึ่งเป็นที่ที่ผมจากมาจากคำสั่งของกษัตริย์เกรย์ ผมที่เป็นทั้งอัศวินและองครักษ์ของราชวงศ์จึงถูกสั่งให้เป็นผู้นำให้มาตามหาสมบัติชิ้นแรกกลับคืนสู่ดินแดนโบราณโดยผมพาทหารฝึกมาด้วยสองคนเพื่ออารักขาสมบัติโดยไม่คิดว่ามันจะคือขนมจีบเพียงชิ้นเดียว แต่แล้วไอ้มนุษย์หัวขโมยนั่นก็มาขโมยมันไป!!!

    ผมไม่เคยพลาดง่ายขนาดนี้ และครั้งนี้จะไม่พลาด! ผมต้องติดต่อโคลอสกับมิเอลให้ได้ก่อนที่สิ่งวิเศษชิ้นแรกที่ถูกพบเจอจะหายไปกับมนุษย์บ้าขี้ขโมยจากที่ไหนก็ไม่รู้!!!

    “โคลอส มิเอล อยู่ไหนกัน!” ผมวิ่งไปด้วยส่งสัญญานเรียกทหารฝึกสองคนไปด้วย แต่สายตาก็ยังคงมองไอ้หัวขโมยไม่ให้พ้นสายตา ตัวสูงโย่งท่าทางแข็งแรงแบบนั้นแต่วิ่งเร็วตามยากชะมัด

    “ท่านอัศวินเอกจิลเจียร์เกิดอะไรขึ้นครับ!” เสียงทุ้มลนๆดังขึ้น ผมจำได้ทันที เขาคือโคลอสทหารดาบ

    “มิเอลล่ะ” ผมถามหาทหารฝึกสายเวทย์อีกคนทันทีเมื่อไม่ได้ยินเสียงเขา

    “ขาดการติดต่อไปเลยครับท่านอัศวินเอกจิลเจียร์ ผมว่าน่าจะหลงทาง...” โคลอสรายงาน ผมเม้มปากพยายามอดกลั้นคำสบถได้แต่ท่องยุบหนอพองหนอในใจ

    “เออช่างก่อนแต่ตอนนี้สมบัติถูกขโมย นายมาช่วยฉันจับไอ้บ้านี่ที!” ผมตัดสินใจเลือกภารกิจก่อน ทหารฝึกนั่นไว้เดี๋ยวไปตามหาทีหลัง

    “ให้ผมวิ่งไปหาท่านตอนนี้ไม่ทันแน่ครับ แล้วตัวท่านอยู่ไกลข้าเห็นแต่ที่ที่ท่านยืนอยู่ วิ่งไปก็ไม่รู้ว่าจะหลงทางด้วยไหมนะครับ!”

    ...ผมล่ะอยากจะพุ่งไปสกายคิกมัน...

    “โธ่เว้ย! ไอ้โคลอส! ไอ้งั่ง! แกก็หายตัวมาสิแกลืมแล้วรึไงว่าเรามีลูกแก้วสีเงินน่ะ แค่แกหายตัวมาก็ทัน! มาเร็วๆ!” ผมบ่นไปวิ่งไป

    “แต่ท่านไม่อนุญาตให้ใช้พลังในโลกมนุษย์นี่ครับท่านนน” 

            ไอ้โคลอส ตกลงแกซื่อหรือโง่!

            “ไอ้บ้าเอ๊ย! เออ! ฉันอนุญาตให้แกใช้!” ผมแหกปากเหนื่อยๆ

            “รับทราบครับท่าน!!!”

             พรึ่บ!

             “ท่านอัศวินเอก ข้ามาแล้วววว” เด็กวัยรุ่นร่างหนายังกับหมีควายโผล่มาอยู่ข้างๆผมแล้ววิ่งขนาบข้างผมมา
             
             “โอ้ยยยย ไปดักข้างหน้ามันซะไม่งั้นเราวิ่งจนเหนื่อยแน่!” ผมบอก ที่ผมไม่หายตัวไปเองก็เพราะผมใช้พลังไปกับการพาทุกคนมาที่โลกมนุษย์แล้ว ลูกแก้วเงินที่มีพลังในการพาเจ้าของหายตัวไปที่อื่นหรือวาร์ปนั้นใช้ได้เพียงสามครั้งเท่านั้นซึ่งผมต้องเก็บไว้ใช้ในตอนกลับและตอนฉุกเฉิน!
             
             “ให้ข้าวิ่งไปดักหน้ามันรึท่าน ข้าวิ่งไวสู่ท่านไม่ได้หรอก”

             “ไอ้บ้า! หายตัวไปสิ!”

             “แต่...”

             “เออข้าอนุญาตไปเร็ว!!!”

             “รับทราบครับท่านอัศวินเอก!!!” โคลอสแหกปากดั่งลั่นตรอกก่อนจะหายตัวไปอีกรอบ
    นี่ผมคิดยังไงพาอัศวินสายเวทย์ที่หลงทางเป็นกิจวัตรกับอัศวินสายดาบที่ซื่อ (บื้อ) ขนาดนี้มาช่วยอารักขาสมบัติโบราณเนี่ย!!!


              ..................................

    แฮ่กๆ เหนื่อยแต่หยุดวิ่งไม่ได้เจ้าของยังตามมา แค่ขนมจีบชิ้นเดียวทำไมต้องตามมาขนาดนี้กัน ไม่มีความเมตตาแก่มนุษย์โลกด้วยกันเลยรึไง! (แกขโมยเค้ามา) แย่แล้ว!!! ใครก็ไม่รู้โผล่มาดักหน้าผม ตัวใหญ่ยังกับควาย! แต่น่าจะเป็นเพื่อนของคนสวยที่ผมเอาขนมจีบเขามา แต่ให้ตายสิคนที่มาช่วยเนี่ยแปลกจริง ยังไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเลยวิ่งมาไวขนาดนั้นได้ยังไงกัน? แต่ไม่ไหวแล้วเหนื่อย...หิว...ต้องกิน! ผมมองขนมจีบในมือที่ไปหยิบ (ขโมย) ของเขามาดู มันก็แค่ขนมจีบธรรมดาทำไมต้องตามมาทวงคืนถึงขนาดนี้กัน ผมไม่มีเวลามากแล้ว ผมต้องกินมันก่อนที่เจ้าของเขาจะตามมาทัน เมื่อถึงตอนนั้นคงจะโดนกระทืบสักตุ๊บสองตุ๊บจากไอ้ควายยักษ์ข้างหน้าก็ไม่เป็นไรเพราะผมกินมันแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า

    อร่อย...แค่กินชิ้นเดียวก็อิ่มนี่คงเป็นสาเหตุมั้งที่เขาตามมาไม่ยอมเลิกรา มันทำให้ผมมีกำลังที่จะวิ่งต่ออย่างไม่เหน็ดเหนื่อย อืมมมม นี่ก็คงเป็นอีกเหตุผลล่ะมั้ง...

             ..........


    อิมเมจชั่วคราวตัวประกอบ!!!! (ไปขโมยเขามา)




    มิเอล นามสกุลยังไม่ได้คิด แฮร่



    โคลอส นามสกุลยังไม่คิดเหมือนกัน แหะๆ

    อิมเมจจากเว็ปไซต์ www.pinterest.com ค่ะ



    //นิยายเรื่องนี้มีตัวนำเรื่องอยู่ 3 คนนะคะ แล้วก็จะสลับบทกันมา เรียงตามลำดับ เทลเนอร์ ลิเนลล์และกัสเบล อาจจะมีพาร์ทความคิดตัวละครอื่นๆในเรื่องแทรกปะปนมาด้วยเล็กน้อยในแต่ละบท แต่การนำเรื่องจะดำเนินผ่านตัวละครสามตัวละครนี้เป็นหลักค่ะ

    นิยายเรื่องนี้จะมีภาษาประหลาดๆโผล่มาเรื่อยๆนะคะ วิบัติเพื่ออรรถรสที่ดีค่ะ5555 (ก็ไม่เข้าใจว่าทำเพื่ออะไรเหมือนกัน....)

    อ่อ นิยายเรื่องนี้คนแต่งทั้งสองคนสติไม่ดี เพราะฉะนั้นอาจจะมีบางอย่างในเรื่องไม่ค่อยสมเหตุสมผล โปรดใช้จักรวาลในการอ่าน? ไม่รู้ว่างงกันมั้ย ถ้างงก็ถามได้เน้อออออ วันนี้เนื่องจากเราอัพช้ามาก เราเลยเอามาอัพสองบทเลย ไปอ่านอีกบทกันด้วยนะ บ๊ายยยยย


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×