คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 เข้าสู่เมืองแม่แดง rev
ตอนที่ 3 เข้าสู่เมืองแม่แดง
“ออนไลน์” ... เงียบ
“โอมมมมมม เจ้าจงออนไลน์” ... เงียบ
“ระบบเกมส์เริ่มได้” ... เงียบ
“... Seven Kingdoms ….. เปิดเครื่อง …. สู่โลกใหม่ ….” และอีกมากมาย ต้นทบทวนก็พบว่าปลั๊กก็เสียบไปแล้วระบบข้างในก็เย็นสบาย
จนอาจจะหนาวไปบ้างจนต้องกระชับผ้าห่ม อีกครั้ง จนเหนื่อยและโมโห
สุดท้ายก็ผล่อยหลับไป
...
...
“คนต่อไปเชิญทางนี้ครับ” เสียงทุ้มต่ำกังวาล
ดังมาจากด้านหน้า พร้อมกับเสียงดังจอแจไปทั่ว ชายหนุ่มอยู่ๆ ก็พบว่าตนเองโผล่มาที่ห้องโถงที่พื้นปูด้วยหินแกรนิตสีเทา
หลังจากปรับสายตาสักครู่ก็เห็นรอบข้างเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย แต่ที่แปลกใจที่ทำไมมีแต่ผมดำเต็มไปหมดไปหมดดูไปก็คงราวๆ
สัก 200
– 300 คนได้และดูเหมือนจะมีคนโผล่มาใหม่อย่างต่อเนื่องดูเหมือนบริเวณตรวจคนเข้าเมืองของสนามบิน
“คุณผู้ชายคนนั้นเชิญด้านนี้ครับ....
เออ ครับคุณที่มีหนวดนะครับ คุณนั่นแหละไม่ต้องมองไปทางไหน”
“อ่อ ครับๆ” ชายหนุ่มเดินเข้าไปที่เคาเตอร์หมายเลข
4 หลังจากกรอกประวัติเรียบร้อยก่อนที่จะถูกเชิญออกไปที่บริเวณต่อไปก็ถือโอกาสถามคำถามที่คาใจตั้งแต่เริ่มเดินเข้ามา
“เออ จะสะดวกมั๊ยครับถ้าผมจะถามอะไรนิดหน่อย”
“ครับเชิญครับ
แต่ผมมีเวลาให้คุณไม่มากนะครับเดี๋ยวคุณจะต้องรีบไปขึ้นเรือไม่งั้นจะต้องรอไปอีกหลายชั่วโมงเลย” วิศวกรหนุ่มก็ถือโอกาสถามคำถามที่สงสัยซึ่งโดยสรุปก็ได้ว่าที่นี้
จะเข้ามาได้ก็ 2 กลุ่มเท่านั้น กลุ่มแรกคือกลุ่มคนเล่นใหม่ซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดคนเล่นใหม่โซนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งก็จะมารวมกันที่นี้และจากนั้นก็จะลงเรือไปตามแต่ละสถานที่ต่างๆมีคนชนชาติเดียวกันหรือใกล้เคียงกันตั้งถิ่นฐานไว้
ส่วนกลุ่มที่สองคือกลุ่มคนที่ตายและจะเกิดใหม่ในกรณีนี้จะไม่ได้เกิดทันทีแต่จะต้องรอคิวจนถึงคิวตัวเองหมายความว่าไม่ใช่ว่าตายแล้วจะได้เกิดใหม่ทันทีต้องดูก่อนว่าประชากรในพื้นที่ๆ
เราลงทะเบียนไว้ในแต่ละวันมีโควต้าคนเกิดใหม่ได้เท่าไร ซึ่งตามแต่พื้นที่ไปเช่น
ถ้าเป็นพื้นที่ของคนจีนที่ตอนนี้มีผู้เล่นกว่า 3 ล้านคน
ก็จะมีโควต้าการเกิดต่อวันเยอะกว่าของ สิงคโปร์ที่ตอนนี้มีผู่เล่นเพียงไม่กี่หมื่นคน
ซึ่งเรียกได้ว่าคำถามหนึ่งนำไปสู่อีกคำถามหนึ่ง ต้นยิ่งถามก็ยิ่งสงสัยว่าเกมส์นี้เขาไม่อยากให้คนมาเล่นเยอะๆ หรือยังไง แต่คิดดูนี้ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งเหมือนกันที่ทำให้ยิ่งดูสมจริงมากขึ้น เป็นทั้งการควบคุมประชากรผู้เล่นไปในตัว รวมถึงทำให้ผู้คนที่อยากเข้ามาเล่นยิ่งต้องแย่งชิงกันเข้ามาอย่างดุเดือดทำให้คุณค่าของการได้เล่นเกมส์นี้ยิ่งสูงขึ้น มาคิดดูว่าการที่เขาได้เข้าเกมส์มาอย่างราบรื่นเช่นนี้อาจจะเป็นเพราะอิทธิพลของบริษัทหัวหน้าทรงพลก็เป็นได้เพราะเขาลงทะเบียนไว้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ซื้อในนามของบริษัทฯ
ต้นเดินออกมาจากห้องโถงเข้าไปสู่ปริเวณท่าเรือ มาถึงจุดนี้ เข้าก็เพิ่งสังเกตว่าทุกคนต่างก็แต่งชุดคล้ายกัน เป็นลักษณะเสื้อผ้าฝ้ายแบบหนาเนื้อหยาบสีขาวขุ่นกับกางเกงผ้าฝ้ายสีออกน้ำตาลที่ใช้เชือกรัดเอาและยังมีรองเท้าที่สานจากหญ้าที่เขาไม่รู้จักสีเหมือนฟางข้าวที่แห้งกรอบ
หลังจากลองคล่ำๆ ดูที่เอวก็พบว่าระบบยังใจดีที่ยังมีกางเกงลิงให้เขาหนึ่งตัวกับถุงเล็กๆถุงหนึ่งที่มัดไว้ที่ข้างกางเกงเป็นถุงใส่เหรียญสีเงินที่เจาะรูตรงกลาง คิดว่าอาจเอาไว้ร้อยเชือกเพื่อความสะดวก นับดูก็ได้หนึ่งร้อยเหรียญพอดีซึ่งถ้าคำนวณก็จะได้ว่าหนึ่งเหรียญเงินมีรูนี่จะมีค่าเท่ากับเงินจริง 10 บาทเพราะค่าลงทะเบียนเข้าเล่นนี้ 1000 บาทพอดีซึ่งก็รู้สึกว่าเกมส์สมัยนี้แพงจริงๆ ถึงแม้จะเบิกจากคุณมิ้นต์ได้ตามที
เรือสำเภาลำใหญ่เข้าจอดเทียบท่า ผู้คนที่ท่าเรือพากันมองอย่างสนอกสนใจ พลันปรากฏกะลาลีคนหนึ่งโผล่ออกมาจากดาดฟ้า
“ใครจะไปเมืองท่าแม่แดงขึ้นเรือได้แล้วครับ ส่วนใครจะไปที่อื่นก็รออยู่ก่อน เร็วใครจะไปเมืองแม่แดงขึ้นเรือได้เลยเรือจะออกในอีก 15 นาทีครับ ….. ใครจะไปเมืองท่าแม่แดง …. ” กะลาสีพูดซ้ำไปซ้ำมาอีกหลายรอบ
หลังจากที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ๆ ลงทะเบียนมาแล้ว วิศวกรหนุ่มก็ไม่ลังเลก้าว ฉับ ฉับ ขึ้นเรือไปหาที่นั่งทันที ไม่นานเรือสำเภาก็ออกทะเล
เขาถามกะลาสีที่เป็นคนประกาศว่าอีกนานแค่ไหนกว่าจะถึง กะลาสีก็ตามกลับมาว่า อีกประมาณครึ่งวันนอนรอไปได้เลยถ้าหิวก็ทนหน่อยเดี๋ยวไปหากินเอาที่แม่แดงที่โน่นของกินเยอะ พูดเพียงเท่านี้ก็เดินไปที่ไหนสักแห่งนึง
เรือใหญ่มีเสียงลมตีกับผ้าใบเรือดังสนั่นยิ่งกว่าเสียงรถไฟดีเซลสมัยหลายสิบปีก่อน เมื่อเริ่มเร่งความเร็วจนกระทบกับยอดคลื่น เรือสั่นรุนแรงเป็นระยะ แต่กลับยิ่งเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับคนที่กำลังตื่นเต้นในโลกแห่งใหม่ เรือที่ขึ้นนี้เป็นเรือสำเภาใหญ่จุคนได้หลายร้อยคนทรงเหมือนเรือสำเภาจีนในยุคโบราณ
เมื่อมองไปรอบๆ ก็เห็นบางคนเริ่มจับกลุ่มพูดคุยกันแม้บางคนจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ล้วนกระตือรือร้นที่จะรู้จักเพื่อนใหม่ร้อยละ 90 ในเรือลำนี้เป็นคนไทย
พูดถึงเวลาตอนนี้ก็ห่างจากเวลาที่เริ่มเปิดระบบผู้เล่นมาได้ประมาณเดือนนึงตามเวลาข้างนอกก็ประมาณได้ว่าเกือบๆ ครึ่งปีในเกมส์ เรียกได้ว่ากำลังเป็นช่วงที่คนกำลังเห่อเลยทีเดียว ลมทะเลเย็นๆ พัดกลิ่นเกลือเค็มๆ ที่ทำให้หน้าตารู้สึกเหนียวเหนอะหนะ
ชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน เขาเอามือมาแตะที่ใบหน้ารู้สึกได้ชัดเจนถึงความเหนอะหนะแทนที่จะรำคาญใจเขากลับต้องร้องอุทานขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ความรู้สึกสมจริงนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างแท้จริง ไม่ทราบว่าต้องใช้พลังทางวิศวกรรมและการคำนวณมาขนาดไหนถึงสามารถส่งต่อความรู้สึกเหนียวเหนอะเช่นนี้มาถึงผู้เล่นในโลกเสมือนจริงนี้ได้ พระเจ้านี้มันคือวิทยาการขึ้นสุดยอดโดยแท้จริง
เขาเชื่อว่าสักพักเขาจะค่อยๆ คุ้นเคยไปเอง
แต่หากพูดถึงเฉพาะบรรยากาศ ต้นชอบบรรยากาศแบบนี้ยิ่ง หลังจากคิดโน่นคิดนี้ ด้วยความที่เป็นคนรักสันโดษและมีมนุษยสัมพันธ์ก็ไม่ค่อยจะดี ตัวเลือกที่ดีที่สุดก็คือทำเป็นหลับ และเขาก็ผล่อยหลับไปจริงๆ อีกรอบนึงท่ามกลางเสียงพูดคุยที่เซ็งแซ่ไปหมดด้วยความตื่นเต้นของคนอื่นๆ
แก๊ง แก๊ง แก๊ง แก๊ง
“ถึงเมืองแม่แดงแล้ว ถึงเมืองแม่แดงแล้ว ลงเรือได้แล้วคร้าบบบบ ลงเรือได้แล้วคร้าบบบบ” กะลาสีคนเดิมร้องตะโกนด้วยเสียงดังกังวาลอย่างคึกคักจนหลายคนก็สงสัยว่ามันเคยมารึเปล่าเนี้ย
ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ มาถึงท่าเรือเมืองแม่แดงแล้ว
เสียงพูดคุยที่ดังสนั่นพร้อมกันกลิ่น ของกินหอมฉุยลอยขึ้นมาถึงบนเรือเล่นเอาต้นที่ไม่คิดว่าในเกมส์ยังหิวได้ก็หิวขึ้นมาแทบคลั่ง
“ยา ฮู้.............
ถึงแล้วโว้ย อ้า ตื่นเต้นนนนนน” วิศวกรหนุ่มบิดขี้เกียจพร้อมส่งเสียงร้องครวญครางอย่างสุขใส
เขาไม่ทราบว่าทำไมแม้จะเป็นโลกเสมือนแต่การได้นอนบนเรือที่มีลมพัดเย็นๆ
ช่างลุขใจและผ่อนคลายอย่างยิ่ง
“เออ รุ้แล้ว เอ็งไปต่อแถวด้านล่างได้แล้ว” กับตันเรือเดินออกมาพูดแบบเซ็งๆ
ที่เจอคนแบบนี้ทุกรอบเดินเรือ
“อ่อ ครับๆๆๆ” ต้นหัวเราะแห้งๆ รีบวิ่งเหยาะไปหากลุ่มคนที่กำลังต่อแถวเพื่อรับอะไรบางอย่างอยู่ด้านล่าง
เมืองนี้ตั้งขึ้นตามชื่อของแม่น้ำแดง
ขณะเดินลงจากเรือก็มองไปที่แม่น้ำด้านหลัง แม่น้ำนี้กว้างไม่ใช่เล่น กว้างประมาณ 100 เมตรได้
แถมถ้าให้เรือสำเภาเทียบท่าได้ก็คงลึกน่าดู ขณะคิดไปคิดมาก็มองไปเห็นเพื่อนร่วมเรือทั้งหลายไปต่อแถวหน้าโต๊ะหน้าแถบที่วางเรียงเป็นแถวยาวเหมือนเคาเตอร์แบบชั่วคราว
หน้าโต๊ะห้อยกระดาษแผนเล็กๆ เขียนว่า ‘ยินดีต้อนรับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยและอาเซียนที่เป็นมิตรทุกคน’ ที่ต้นดูแล้วก็แอบขำแต่ไม่กล้าหัวเราะออกมา
คิดในใจว่า ยุคไหนกันละเนี้ยพี่ทักกันอย่างกะนักร้องเพื่อชีวิต
เมื่อถึงคิวของต้น นายทหารหนุ่มในชุดนักรบโบราณก็ยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตร
“หวัดดีครับ เดี๋ยวพี่ช่วยเซ็นชื่อตรงนี้นะ
แล้วไปรับของตรงโน่นเลย”
ต้นกล่าวอย่างแปลกใจ “โอ ตอนแรกผมคิดว่า จะไม่มีอะไรให้ซะแล้ว
ผมอ่านในคู่มือเหมือนว่าจะไม่ได้ให้อะไรเราเลย”
“อันนี้ระบบไม่ได้ให้ครับแต่เป็นของขวัญของพวกเราที่เป็นคนเมืองแม่แดงที่อยู่มาก่อนน่ะครับ
ถ้าจะขอบคุณก็ขอบคุณ ผู้พันเดชาเอาแล้วกันครับ โอเคยังไงเชิญด้านโน่นเลย อ่อ
ผมจะบอกอีกเรื่องนึงนะ เกมส์นี้ไม่มีทักษะนะครับ เป็นความสามารถส่วนตัวล้วนๆ ถ้าคุณสนใจละก็คุณสามารถสมัครเข้าร่วมฝึกพิเศษกับทางกองทัพได้นะ
ทางด้านโน่นเลยไม่มีค่าใช้จ่าย โอเคเชิญคนต่อไปเข้ามาได้เลยครับ”
“ผมว่ายังไม่ดีกว่าครับ ขอบคุณ” เขารีบกล่าวและเดินไปที่ช่องต่อไป
น้ำจิตน้ำใจเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนซาบซึ้งได้
แม้จะเล็กน้อยแต่ตอนนี้ต้นรู้สึกประทับใจกับน้ำใจของคนพื้นที่
“อ่อ ไม่เป็นไรครับ
ยังไงคนไทยช่วยเหลือกันอยู่แล้ว ฮ่า ฮ่า” นายทหารหนุ่มกล่าวอย่างยิ้มแย้ม
ซึ่งต้นก็เพิ่งสังเกตว่าคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะแต่ละคนก็ดูแข็งแรงกระชับกระเฉงแถมแต่ชุดเครื่องแบบทหารที่ประกอบด้วยเกราะอ่อนสีแดงดำเหมือนทหารไทยยุคโบราณ
ต้นเดินออกมาก็ครุ่นคิดพร้อมสงสัยในรสนิยมที่แปลกประหลาดของคนกลุ่มนี้
ใครที่ไหนพอเข้าเกมส์มาปุ๊บก็ไปหาชุดทหารมาใส่แถมมีคนตั้งตัวเป็นนายพันอีกต่างหาก ประหลาดแท้
เขาเดินมาถึงจุดรับสัมพาระ
ซึ่งก็ได้รับการจัดสรรเสบียงอาหารแบบง่ายๆ คือข้าวเหนียวเนื้ออะไรสักอย่างย่างเกรียมกลิ่นหอมฉุยห่ออยู่ด้วยใบไม้ใบใหญ่
พร้อมกับมีดยาวประมาณ 1 ฟุตเหมือนพร้าที่ดูไม่สวยงามเหมือนมีดดาบในเกมส์อื่นๆ
แต่ก็ดูแข็งแรงและสามารถใช้งานได้หลากหลาย
ที่จริงแล้วของที่ได้มานั้นเป็นของดี
เพราะดาบที่ดูสวยงามนั้นจริงๆ เกิดจากการหล่อไม่ใช่การตีของแบบนั้นเอาไว้โชว์ไม่ใช่เอาไว้ใช้แทงใครฟันใครต่อให้เอาไปใช่จริงยังไม่ทันใช้หักซะก่อนผิดกลับมีดพร้าที่ตีจากมือถึงไม่สวยแต่ทั้งเหนียวทั้งแข็งทั้งทน
ใช้ได้สารพัด
ถึงตอนนี้วิศวกรหนุ่มตาเป็นประกาย หัวเราะดัง ฮ่า
ฮ่า มือซ้ายถือมีดพร้า มือขวายัดข้าวเหนียวกับเข้าปากพร้อมกันวิ่ง ดุ่ม ดุ่ม ออกจากเมืองไปอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
นี้สินะเวลาที่รอคอย ได้เวลาเล่นเกมส์แล้ววววววว
วิศวกรหนุ่มหัวเราะราวกับวายร้าย “รอมาเป็นวันๆ
กุจะล่าแม่งให้หมดป่าเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“ย๊ากกกกก ฮูเร่ ลุยยยยยย”
ความคิดเห็น