ทักษะการต่อสู้

ลำดับตอนที่ #4 : การปล่อยหมัดในรูปแบบต่างๆ

ในบทนี้ ผมจะขอพูดถึงการชกในแบบต่างๆนะครับ
แน่นอน เวลาต่อยเราไม่ได้มีแค่หมัดตรงอย่างเดียวเราต้องใช้
ผสมผสานหลายๆรูปแบบ เพื่อการจู่โจมที่ต่อเนื่องที่ช่องว่าง

1.หมัดตรง
ไม่มีไรมากครับ ก็ปล่อยออกไปตรงๆเข้าจุดไปเลย เราจะไม่ง้างหมัดถอยหลัง
คือหมัดเราจะพุ้งไปแล้วก็ดึงกลับมา ไม่ใช่ง้างก่อนแล้วพรุ่ง
เพราะถ้าง้างออกมาก่อน หมัดเราก็จะออกช้า และอีกฝ่ายอาจจะกันทัน
ข้อดีคือ เป็นหมัดที่แม่นยำ รวดเร็ว

2.หมัดแนวโค้ง
ถือเป็นหมัดที่รุนแรงมากสำหรับการต่อสู้ อยากรู้เป็นยังไง ดูคลิปข้างล่างครับ

http://www.youtube.com/watch?v=KsUAhzHGcDY

เป็นการปล่อยหมัดโดยใช้แรงช่วยจาก หลัง ปีก เอว ไหล่ และแขน
หมัดเราจะพุ่งออกจากข้างลำตัว เฉียงเข้าเป้าหมายถือเป็นหมัดที่รุนแรงมากครับ
ข้อดีคือ รุนแรง รวดเร็ว

3.หมัดพุ่งขั้น
หรือที่เรียกว่าเสยคาง ก็คือแบบนี้แหละเป็นการโจมตีที่จุดสำคัญมีเป้าหมายที่คาง
วิธีคือเราจะก้มตัวลงต่ำย่อตัวลงเข้าไปใกล้ๆคู่ต่อสู้แล้วง้างมือลงข้างล่างเล็กน้อย
เพื่อเป็นการเพิ่มแรงส่งแล้วต่อยเสยขึ้นข้างบนให้หมัดเราพุ่งเข้าทางใต้กาด
ของคู่ต่อสู้และเข้าที่เป้าหมายหรือคางนั่นเอง

4.หมัดเฉียดๆ
หรือหมัดที่้เหมือนจะต่อยพลาดแต่ที่จริงแล้วจงใจจะให้พลาด หมัดจะพุ่งโดน
แต่โดนแบบเฉี่ยวๆ มีผลคือ ทำให้หนังหน้าเปิดได้เลยนะครับ ไม่รุนแรงเท่าหมัดโค้ง
แต่จะซาดิสกว่าเพราะส่งผลระยะยาวคือหนังหน้าเปิดเสียโฉมสิครับแถม
ทำให้การต่อยครั้งต่อไปรุนแรงขึ้นได้อีกด้วย ส่วนมากจะต่อยตรงแก้มเพราะเปิดง่าย
วิธีคือถ้าหมัดขวาก็ให้ต่อยแก้มขวาเพราะจะเป็นทิศที่เฉียงกันพอดี
หมัดซ้ายก็ต่อยแก้มซ้าย แต่เราจะไม่ให้โดนแก้มเต็มๆ เราจะให้โดนถากๆ
แล้วดันหมัดไปให้เฉี่ยวหูเลย อาจต้องต่อยหลายทีหน่อย แต่ถ้าฝึกดีๆ
ต่อยไม่เกิน10ทีหนังหน้าก็เปิดละ

5.หมัดเต็มข้อ
ขอตั้งชื่อว่าหมัดสุดขั้วเป็นหมัดที่รุนแรงที่สุด และช้าที่สุด ความแม่นยำก็จะน้อยลงด้วย
หมัดสุดขั้วนี้ถือเป็นไม้ตายเลยก็ว่าได้ แต่ เราใช้เฉพาะตอนที่มีเวลานะ
เช่น ตอนที่อีกฝ่ายกำลังมึนๆ หรือกำลังเสียหลักแล้วเท่านั้น ถ้าเขาตั้งท่าพร้อมอยู่
อย่าหวังว่าหมัดนี้จะได้ผล แถมโดนซัดกลับมาอีก ยกเว้นอีกฝ่ายจะโง่นะถึงจะได้ผล
วิธีคือ สมมุติถนัดขวาละกัน
ท่าง้างหมัด
          1.อย่ายืนหันตัวตรงๆนะยืนให้คู่ต่อสู้อยู่เฉียงๆกับด้านซ้ายมือ
          2.ก้าวขาขวาถอยหลังมาเยอะๆ
          3.แขนซ้ายยื่นไปทางคู่ต่อสู้ ไม่ต้องกำหมัด ยื่นไว้เพื่อเป็นเหมือนที่เล็ง
             มือขวากำหลวมๆหงายด้านฝ่ามือขั้นด้านบนให้หมัดอยู่ข้างลำตัว
             ประมาณระดับเอว
          4.แล้วย่อตัวลงบิดตัวมาทางขวาให้สุด ให้น้ำหนังตัวลงที่ขาขวา
             ตัวจะเอนมาทางขาขวามากกว่า และขาขวาจะงอมากกว่าขาซ้าย
ท่าปล่อยหมัด
          1.บิดลำตัวให้หันไปทางคู่ต่อสู้บิดเอว ขาขวายันพื้นแรงๆให้ตัวพุ่งไปทางคู่ต่อสู้
             น้ำหนักจะถูกเทจากขาขวามาที่ขาซ้าย
          2.บิดไหล่แล้วปล่อยหมัดออกไป ในขณะที่หมัดกำลังพุ่งไปให้บิดหมัดให้
             ด้านฝ่ามือที่หงายขึ้นบนบิดลงล่างพร้อมๆกับที่หมัดพุ่งไปทางคู่ต่อสู้
             และขาขวามันจะเหวียงไปข้างหน้าเอง เพราะหมัดมันพุ่งแรง
          3.อย่าฝืนตัวให้ดึงขากลับมา ตอนที่ขาขวาไปข้างหน้า ให้ปล่อยตามสบาย
             เหมือนก้าวขาขวาไปข้างหน้าอะ

หมัดนี้จะเป็นหมัดที่แรงแบบ เวอร์ๆอะ คือสุดแรงเกิดแล้วเพราะมันดึงกำลังมา
แทบจะเอามาจากทุกส่วนของร้างกายเลยก็ว่าได้แรงจะเริ่มจากเท้าที่ยันพื้น
แรงจากขาที่ดันส่ง แรงจากเอวที่บิดเข้าหาคู่ต่อสู้แรงจากกล้ามปีก หลัง
ไหล่ แรงจากลำตัว แรงแขนที่พุ่งออกไป และของข้อมือ ที่เราเพิ่มแรง
ด้วยการบิดข้อมือ แรงทั้งหมดนี้ จะมารวมกันที่สันหมัด คิดดูแล้วกัน
ถ้าโดน จะเหลืออะไร ปัญหาอยู่ที่ว่าจะโดนรึป่าว เท่านั้นเอง
เพราะเราง้างมาก หมัดพุ่งระยะไกลหน่อยแล้วใส่แรงไปเยอะทำให้ควบคุมวิถียาก
แต่สวนมากไม่ค่อยได้ใช้หรอกครับ เพราะไม่มีเวลามาง้างขนาดนั้นหรอก

แต่เคยมีคนใช้หมัดสุดขั้วนี้ เข้าหน้าเต็มๆด้วยนะ เป็นคนเยอรมัน
ปรากฎว่าไอ้คนที่โดนอะกระดูกตรงโหนกแก้มแตก สมองกระทบกระเทือน
คอหัก แล้วก็เสียชีวิตคาที่เลยครับ

บทนี้อาจจะยาวไปหน่อย ก็ขออภัยครับ คือผมให้ความรู้เต็มที่ครับ