ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จุดเริ่มต้น
เสียงกริ่งดังขึ้นเป็นเวลาเลิกเรียน นักเรียนบางส่วนเริ่มถยอยกลับบ้าน บางส่วนทำกิจกรรม บางส่วนออกไปเที่ยวกับเพื่อนนอกโรงเรียน ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้อยู่กับเพื่อนๆ ก็เลยชวนเพื่อนรักทั้ง3ไปห้าง ช็อปปิ้ง เก็บความทรงจำดีๆเอาไว้ ไม่อยู่ตั้งเดือนหนึ่งแน่ะ ถ้าฉันไม่อยู่เพื่อนๆจะเหงาไหมนะ เฮ้อ ต้องไปกรุงเทพหาอาลีตามคำสั่งของแม่ 'แม่ถึงส่งลูกไปหาอาลีให้ช่วยไขกุญแจไง เพราะเขาช่วยได้' คืออะไรไม่เห็นจะเข้าใจเลย แล้ว'ไอ้ไม่ทันการณ์' ก็ด้วยถามก็ไม่ตอบ จะปิดบังทำไมนะ มันเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างงั้นเหรอ เดี๋ยวจะย้อนไปบทสนทนาที่คุยกับแม่ล่ะกัน
"เดียร์...เดียร์....เรนเดียร์....เรนนนเดียร์" ร่างสูงโปร่งสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงตะโกนใกล้ๆหู หันขวับไปทางต้นเสียง เจอกับใบหน้ารูปเรียวยาวสวย น่าตาอ่อนเยาว์ แต่อายุไม่อ่อนเยาว์นะสิ
"แม่!! ตะโกนทำไมเนี่ย" หญิงสาวผู้เป็นลูกเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิดที่ถูกปลุกจากการนอน ใบหน้าบึ้งตึง แต่ก็ยังดูสะสวยไม่ต่างจากตอนปกติ ใบหน้ารูปไข่ นัยต์ตาสีดำสนิท จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากบางสีชมพู ผมตรงสีดำยาวจนถึงกลางหลัง ผมด้านข้างและด้านหลังไฮไลน์ด้วยสีเงินและสีแดง ทำให้เธอดูสวยจนไม่อาจละสายตา
"แม่มีไรอยากคุยด้วยหน่อย ตามขึ้นมาบนห้องแม่นะ" คนเป็นแม่พูดจบก็เดินขึ้นบรรไดไปยังชั้น2 คนเป็นลูกทำหน้างง กระพริบตาปริบๆอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเดินตามแม่ยังชั้น2
หญิงสาวยืนอยู่หน้าประตูไม้สักแกะสลักอย่างประณีต แล้วเคาะประตูตามมารยาท 3 ครั้ง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปโดยไม่รอให้เจ้าของห้องเอ่ยอนุญาต หญิงสาวมองตรงไปยังร่างตรงหน้าที่ยืนหันหลังให้ก่อนที่เธอจะค่อยหันหน้ามามอง แม่ของเธอเดินไปนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน แล้วเชิญลูกสาวตัวเองหาที่นั่ง เมื่อหาที่นั่งเสร็จเรียบร้อย ผู้เป็นแม่ก็หยิบบางอย่างออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยมสีแดงขนาดเท่าฝ่ามือบนโต๊ะ แล้วยื่นให้หญิงสาว
หญิงสาวมองของบนมืออย่างงง แต่ก็ต้องตกใจเพราะมันคือตุ้มหูรูปเคียวห้อยกลับหัวมีความยามประมาณ 3 ซม. ที่มีรูปร่างแปลกประหลาด และยิ่งกว่านั้นมันเหมือนกับปานดำบนต้นแขนข้างขวาของเธอ เธอลูบต้นแขนข้างขวาอย่างลืมตัว ก่อนจะละสายตาจากวัตถุบนฝ่ามือแล้วหันไปหาบุคคลที่เป็นคนยื่นมาให้ แล้วทำหน้าตาประมาณว่า 'ให้หนูทำไม'
เหมือนคนเป็นแม่จะอ่านออกเลยบอกกับหญิงสาวตรงหน้า
"เก็บไว้ซะ มันเป็นของขวัญก่อนที่พ่อของลูกจะจากไป เขาบอกว่าต้องให้ลูกตอนอายุใกล้ครบ 18 ปี อีก 2 สัปดาห์ แล้วก็ลูกต้องไปหาอาลีที่กรุงเทพเป็นเวลาหนึ่งเดือน" หญิงสาวทำหน้าเอ๋อใส่ ประมวลผลไม่ทัน ทั้งๆที่เรียนเก่งแต่กลับเข้าใจอะไรช้า เมื่อหญิงสาวประมวลผลเรียบร้อย ก็ถามกลับไปทันที
"ทำไมหนูต้องไปด้วย อีกแค่ไม่กี่เดือนก็ปิดเทอมแล้ว เราไปช่วงนั้นไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้!! เดี๋ยวมันจะไม่ทันการณ์" ผู้เป็นแม่เผลอตะโกนเสียงดัง เรนเดียร์สะดุ้งโหยงเพราะเสียงตะโกนนั้น ไม่เข้าใจ ทำไมต้องตะโกนด้วย เมื่อคนเป็นแม่ได้สติก็มีท่าทีอ่อนลงแล้วเอ่ยขอโทษ
"ไม่ทันการณ์ ไม่ทันอะไรแม่ ไม่ทันอะไร" หญิงสาวถามแม่เมื่อแม่ของตนเผลอหลุดปากออกไป เรนเดียร์จ้องหน้าแม่ที่ตอนนี้มีสีหน้าตึงเครียดอย่างต้องการคำตอบ
"เปล่า ไม่มีอะไร" ผู้เป็นแม่เอ่ยออกมา แต่หญิงสาวไม่มีท่าทีว่าจะยอม เธอถามย้ำไปมาอยู่หลายรอบจนผู้เป็นแม่ใจอ่อน ก่อนจะเล่าเรื่องบางส่วนให้ฟัง
"ตุ้มหูที่ให้ไปนะมันไม่ใช่ของธรรมดาหรอกนะ มันมีบางอย่างซ่อนอยู่ ลูกต้องเป็นคนไขกุญแจมันออกมาว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่มันคืออะไร แม่ถึงส่งลูกไปหาอาลีให้ช่วยไขกุญแจไง เพราะเขาช่วยได้" คนเป็นแม่พูดด้วยสีหน้าจริงจังที่นานๆจะได้เห็นที
"แล้วถ้าหนูไม่ไขกุญแจอะไรนั้นล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น" เรนเดียร์ถามอย่างอยากรู้ เพราะเขารู้ว่ามันต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดาแน่ๆถ้าเราเปิดสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ตุ้มหูแปลกๆนี้ แต่ถ้าเราไม่เปิดล่ะมันจะเป็นอย่างไร
"ถ้าเราไม่ไขมันออกมาภายในเวลาที่กำหนด มันจะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้หรือผู้ครอบครอง แล้วลูกก็เป็นผู้ครอบครองตุ้มหูอันนี้ตั้งแต่เกิดแล้ว และก็ใกล้เวลาที่ลูกจะต้องเปิดมันออกมาเช่นกัน" ผู้เป็นแม่เอ่ยเสียงเรียบ ใบหน้านิ่งสนิท ไม่สามารถเดาได้ว่าตอนนี้คนคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
"กำหนดที่ต้องเปิด ก่อนถึงวันไหนค่ะ" หญิงสาวเมื่อได้ยินแม่พูดบวกกับการแสดงท่าทางเช่นนี้ก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ก่อนจะถามกำหนดการณ์ไขกุญแจ
"วันเกิดของลูก อีก2 สัปดาห์ มันเป็นวันเดียวกันที่ลูกจะต้องไปกรุงเทพด้วย ลูกตกลงว่าจะไปหรือเปล่า" หลังจากแม่ของเรนเดียร์ถามออกไป หญิงสาวเงียบสักพัก ก่อนจะตอบ
.... ตกลง
เธอไม่รู้เลยว่าการที่เธอไปกรุงเทพในครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนชีวิตอันแสนสงบสุขของเธอไป .... ชั่วนิรันดร์
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"เดียร์...เดียร์....เรนเดียร์....เรนนนเดียร์" ร่างสูงโปร่งสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงตะโกนใกล้ๆหู หันขวับไปทางต้นเสียง เจอกับใบหน้ารูปเรียวยาวสวย น่าตาอ่อนเยาว์ แต่อายุไม่อ่อนเยาว์นะสิ
"แม่!! ตะโกนทำไมเนี่ย" หญิงสาวผู้เป็นลูกเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิดที่ถูกปลุกจากการนอน ใบหน้าบึ้งตึง แต่ก็ยังดูสะสวยไม่ต่างจากตอนปกติ ใบหน้ารูปไข่ นัยต์ตาสีดำสนิท จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากบางสีชมพู ผมตรงสีดำยาวจนถึงกลางหลัง ผมด้านข้างและด้านหลังไฮไลน์ด้วยสีเงินและสีแดง ทำให้เธอดูสวยจนไม่อาจละสายตา
"แม่มีไรอยากคุยด้วยหน่อย ตามขึ้นมาบนห้องแม่นะ" คนเป็นแม่พูดจบก็เดินขึ้นบรรไดไปยังชั้น2 คนเป็นลูกทำหน้างง กระพริบตาปริบๆอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเดินตามแม่ยังชั้น2
หญิงสาวยืนอยู่หน้าประตูไม้สักแกะสลักอย่างประณีต แล้วเคาะประตูตามมารยาท 3 ครั้ง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปโดยไม่รอให้เจ้าของห้องเอ่ยอนุญาต หญิงสาวมองตรงไปยังร่างตรงหน้าที่ยืนหันหลังให้ก่อนที่เธอจะค่อยหันหน้ามามอง แม่ของเธอเดินไปนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน แล้วเชิญลูกสาวตัวเองหาที่นั่ง เมื่อหาที่นั่งเสร็จเรียบร้อย ผู้เป็นแม่ก็หยิบบางอย่างออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยมสีแดงขนาดเท่าฝ่ามือบนโต๊ะ แล้วยื่นให้หญิงสาว
หญิงสาวมองของบนมืออย่างงง แต่ก็ต้องตกใจเพราะมันคือตุ้มหูรูปเคียวห้อยกลับหัวมีความยามประมาณ 3 ซม. ที่มีรูปร่างแปลกประหลาด และยิ่งกว่านั้นมันเหมือนกับปานดำบนต้นแขนข้างขวาของเธอ เธอลูบต้นแขนข้างขวาอย่างลืมตัว ก่อนจะละสายตาจากวัตถุบนฝ่ามือแล้วหันไปหาบุคคลที่เป็นคนยื่นมาให้ แล้วทำหน้าตาประมาณว่า 'ให้หนูทำไม'
เหมือนคนเป็นแม่จะอ่านออกเลยบอกกับหญิงสาวตรงหน้า
"เก็บไว้ซะ มันเป็นของขวัญก่อนที่พ่อของลูกจะจากไป เขาบอกว่าต้องให้ลูกตอนอายุใกล้ครบ 18 ปี อีก 2 สัปดาห์ แล้วก็ลูกต้องไปหาอาลีที่กรุงเทพเป็นเวลาหนึ่งเดือน" หญิงสาวทำหน้าเอ๋อใส่ ประมวลผลไม่ทัน ทั้งๆที่เรียนเก่งแต่กลับเข้าใจอะไรช้า เมื่อหญิงสาวประมวลผลเรียบร้อย ก็ถามกลับไปทันที
"ทำไมหนูต้องไปด้วย อีกแค่ไม่กี่เดือนก็ปิดเทอมแล้ว เราไปช่วงนั้นไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้!! เดี๋ยวมันจะไม่ทันการณ์" ผู้เป็นแม่เผลอตะโกนเสียงดัง เรนเดียร์สะดุ้งโหยงเพราะเสียงตะโกนนั้น ไม่เข้าใจ ทำไมต้องตะโกนด้วย เมื่อคนเป็นแม่ได้สติก็มีท่าทีอ่อนลงแล้วเอ่ยขอโทษ
"ไม่ทันการณ์ ไม่ทันอะไรแม่ ไม่ทันอะไร" หญิงสาวถามแม่เมื่อแม่ของตนเผลอหลุดปากออกไป เรนเดียร์จ้องหน้าแม่ที่ตอนนี้มีสีหน้าตึงเครียดอย่างต้องการคำตอบ
"เปล่า ไม่มีอะไร" ผู้เป็นแม่เอ่ยออกมา แต่หญิงสาวไม่มีท่าทีว่าจะยอม เธอถามย้ำไปมาอยู่หลายรอบจนผู้เป็นแม่ใจอ่อน ก่อนจะเล่าเรื่องบางส่วนให้ฟัง
"ตุ้มหูที่ให้ไปนะมันไม่ใช่ของธรรมดาหรอกนะ มันมีบางอย่างซ่อนอยู่ ลูกต้องเป็นคนไขกุญแจมันออกมาว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่มันคืออะไร แม่ถึงส่งลูกไปหาอาลีให้ช่วยไขกุญแจไง เพราะเขาช่วยได้" คนเป็นแม่พูดด้วยสีหน้าจริงจังที่นานๆจะได้เห็นที
"แล้วถ้าหนูไม่ไขกุญแจอะไรนั้นล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น" เรนเดียร์ถามอย่างอยากรู้ เพราะเขารู้ว่ามันต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดาแน่ๆถ้าเราเปิดสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ตุ้มหูแปลกๆนี้ แต่ถ้าเราไม่เปิดล่ะมันจะเป็นอย่างไร
"ถ้าเราไม่ไขมันออกมาภายในเวลาที่กำหนด มันจะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้หรือผู้ครอบครอง แล้วลูกก็เป็นผู้ครอบครองตุ้มหูอันนี้ตั้งแต่เกิดแล้ว และก็ใกล้เวลาที่ลูกจะต้องเปิดมันออกมาเช่นกัน" ผู้เป็นแม่เอ่ยเสียงเรียบ ใบหน้านิ่งสนิท ไม่สามารถเดาได้ว่าตอนนี้คนคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
"กำหนดที่ต้องเปิด ก่อนถึงวันไหนค่ะ" หญิงสาวเมื่อได้ยินแม่พูดบวกกับการแสดงท่าทางเช่นนี้ก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ก่อนจะถามกำหนดการณ์ไขกุญแจ
"วันเกิดของลูก อีก2 สัปดาห์ มันเป็นวันเดียวกันที่ลูกจะต้องไปกรุงเทพด้วย ลูกตกลงว่าจะไปหรือเปล่า" หลังจากแม่ของเรนเดียร์ถามออกไป หญิงสาวเงียบสักพัก ก่อนจะตอบ
.... ตกลง
เธอไม่รู้เลยว่าการที่เธอไปกรุงเทพในครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนชีวิตอันแสนสงบสุขของเธอไป .... ชั่วนิรันดร์
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น