ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Stage of love-- รักนี้เราจอง เวทีนี้เราจอง

    ลำดับตอนที่ #4 : ก่อนดอกรักจะบาน

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ย. 54


     
    The Stage of love รักนี้เราจอง เวทีนี้เราจอง
    ตอนที่ 4... ก่อนดอกรักจะบาน



    ยงฮวาและคณะมาถึงเมืองไทย เมื่อเย็นมากแล้ว การเดินทางเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย เพราะไม่มีข่าวรั่วไปถึงบรรดาเหล่าแฟนคลับ แต่เขาก็ต้องใส่หมวกแก็ป แว่นตากันแดดอันใหญ่บดบังใบหน้าไปกว่าครึ่ง
    รถตู้คันใหญ่มารอรับพวกเขาอยู่แล้ว
    “อันยอง แทกุ๊ก”
    ยงฮวายิ้มที่มุมปาก เขาคุ้นเคยกับเมืองไทยพอสมควร เพราะมาบ่อย แสงแดดหายไปจากขอบฟ้าความมืดเริ่มเข้ามาแทนที่ ผู้จัดการและสไตลิสต์ของเขาหลับไปอีกรอบ มีเขาเท่านั้นที่ตื่นตามองโน่นนี่ เพราะรถแล่นพาพวกเขาไกลออกมาจากในเมืองเป็นเวลาครู่ใหญ่ แต่ยังไม่ถึง

    หญิงสาวร่างขาวท้วมที่นั่งคู่กับคนขับหันมายิ้ม พูดกับเขาเป็นภาษาเกาหลี
    “คุณยงฮวา ไม่เพลียหรือคะ เดินทางตั้งหลายชั่วโมง”
    “ไม่ครับ”
    ชายหนุ่มยิ้มตอบ ผู้หญิงที่มารับเขา แนะนำตัวว่า ชื่อ สุนีย์ เป็นเลขาส่วนตัวของ คุณลีจิน ผู้ที่เชื้อเชิญเขามาที่นี่ เธอพูดเกาหลีได้คล่องเพราะพูดกับเจ้านายทุกวัน
    “ออกมาไกลหน่อยนะคะ คุณลีจินอยากให้คุณไปพักที่บ้าน จะสะดวก เป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากกว่าพักที่โรงแรม”
    “ไม่มีปัญหาครับ ยังไงก็ได้”
    “ดีจังค่ะ คุณยงฮวาน่ารัก ยิ้มเก่ง เหมือนในทีวีเลย แต่ตัวจริงหล่อกว่าในทีวีอีกค่ะ”
    “ขอบคุณครับ”
    “อยากเห็นคุณซอฮยอนเร็วๆจัง ตัวจริงคงจะสวยมาก น่ารักมากๆ ใช่มั้ยค่ะ”
    สุนีย์หันมาถามยิ้ม แต่ในตาวับๆเหมือนมีเลศนัยคล้ายอยากจะล้อเลียน ยงฮวานึกขันในใจ เรื่องจับคู่นี่เป็นเรื่องธรรมดาของการร่วมงานกับนักแสดงหญิง เพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้หญิง ทุกครั้งเขาจะเฉยๆ แต่คราวนี้ทุกครั้งที่มีการจับบทล้อเลียนใจเขาก็ฟูพิกลแฮ่ะ อยากให้มันเป็นจริงเหมือนกันคร้าบ..ถ้าเขาตอบได้เขาจะตอบแบบนั้น
    “ครับ สวย น่ารักมาก”
    “โอ๊ย พวกเราติด รายการนี้กันทั้งบ้านเลยค่ะ..โดยเฉพาะคุณหนูระมิง วันเสาร์ไม่ไปไหนเลย นั่งเฝ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์ ดูทั้งพูดเกาหลี พูดไทย เธอชอบมากค่ะ เธอชอบคุณทั้งคู่มาก..โดยเฉพาะคุณซอฮยอน คุณหนูระมิงรักมาก ติดตามผลงานทู๊กอย่างเลย”
    “ครับ สาวๆโซนยอชิแดดังมาก มีแฟนคลับทั่วโลก น่าดีใจครับ”
    “แหมๆๆ คุณก็ไม่เบาเหมือนกันนะคะ..เพลง I’m loner ดังมากกก สุนีย์ยังร้องได้เลยค่ะ”
    ว่าแล้วสุนีย์ก็ร้องเพลงโชว์เอาดื้อๆ
    “แวททารีอา แวทารีอา” เสียงดังลั่นรถ แถมทำหน้าตา.อินไปกับบทเพลง ทำให้ลุงคนขับรถอดไม่ได้หัวเราะเสียงดังลั่น ยงฮวาก็พลอยขันหัวเราะผสมโรงไปด้วย นั่นทำให้ผู้จัดการและสไตลิสต์สาวสะดุ้งเฮือก ลืมตาขึ้นมาพร้อมกัน ทำหน้าเหรอหรา
    “อะไรยงฮวา ถึงแล้วเหรอ?”
    ยงฮวาเห็นหน้าเพื่อนร่วมงานถึงกับทนไม่ไหว หัวเราะเสียงดังลั่น อย่างไม่มีเบรค..
    “อ้าว หัวเราะอะไรบ้าไปแล้ว”
    “เปล่าพี่เปล่า..มันขำ พี่นอนต่อเถอะ ยังไม่ถึงหรอก..”
    “เออๆ”
    สองคนไม่สนใจอะไรอีกต่อไป หลังเอนกายหลับตาต่อ เพราะตอนนั่งเครื่องบินมา ทั้งคู่เอาแต่คุยกันออกรสชาตไม่ได้พักเลยสักงีบ จึงรู้สึกเพลีย
    ยงฮวายังไม่หายขัน รอยยิ้มกว้างยังอยู่บนใบหน้าคมสันของเขา เมื่อหันหน้ามาเจอกับสุนีย์ที่ยิ้มเผล่รับ
    “ครับ”
    เขาถามเหมือนสงสัยว่าสุนีย์มองอะไร หรือมีอะไร
    “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เห็นคุณยงฮวาหัวเราะเหงือกบานเหมือนตอนอยู่ในวีจีเอ็ม สุนีย์เลยตื่นเต้นค้า เอาไว้ต้องเอาไปเม้าท์กับเพื่อนในเฟซบุ๊ค ว้า..”
    คำว่าเหงือกบานทำให้ชายหนุ่มมีสีหน้าสีตาพิกล แต่หน้าตื่นเต้นของสุนีย์สลดลง อดสงสัยขึ้นมาไม่ได้อีก แต่ไม่ได้ถาม เพราะสุนีย์พร้อมจะจ้ออยู่แล้ว
    “คุณลีจินไม่ให้พวกเราพูดเรื่องคุณสองคนมาเมืองไทยครั้งนี้ ว้า..อดเลย”
    “ทำไมครับ ทำไมพูดไม่ได้”
    ยงฮวาไม่เข้าใจ
    “ก็..คุณลีจินบอกว่า ต้นสังกัดคุณซอฮยอนขอไว้คะ ไม่อยากให้เป็นข่าว”
    “อ้อ...ครับ”
    “แต่ช่างเถอะค่ะ...เอาไว้ให้ผ่านไปนานๆก่อนก็ได้สุนีย์จะไปคุยให้ฟุ้งเชียว..ว่าได้เจอคู่รักยงซอตัวเป็นๆด้วยล่ะ ฮึ่ม”
    สุนีย์ทำสีหน้าสีตาเอาจริงเอาจังมาก..จนยงฮวาอดยิ้มไม่ได้ เอาเถอะ เขายินดี เพราะอาชีพของเขาคือการสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับแฟนๆอยู่แล้วนี่นา
    ....................................................................................
    รถเลี้ยวเข้าในในบ้านหลังใหญ่ ต้องเรียกว่าคฤหาสน์ มันสวยงาม ใหญ่โต โอ่อ่า ตั้งตะหง่านอยู่บนเนื้อที่กว้างขวาง ตบแต่งเป็นสวนสวยสนามหญ้าด้วยไม้ยืนต้น ไม่ประดับ ไม้ดอก สวยงามรื่นตา รถเลี้ยวเข้ามาจากประตูใหญ่ยังใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าจะมาจอด ที่หน้าประตูบ้าน
    “โอ้โฮ้”
    ผู้จัดการและสไตลิสต์สาวตื่นตาตื่นใจมองไปรอบๆ เห็นสวนสวย บ่อน้ำพุเป็นสระหินอ่อนตั้งตรงหน้าบ้าน
    สุนีย์หันยิ้มให้ทั้งสามคน แล้วลงไปเปิดประตูรถให้ 
    “เชิญค่ะ บ้านฮันระมิง ยินดีต้อนรับค่ะ”
    ยงฮวาลงมาจากรถก็พบว่ามีคนมายืนรอต้อนรับเขาที่หน้าประตู ผู้หญิงร่างบางผิวขาวผมดำยิ้มให้อย่างเป็นมิตร เขาเดาว่าคงต้องเป็น คุณลีจินเจ้าของบ้าน จึงโค้งคำนับอย่างสุภาพ ผู้จัดการและสไตลิสต์สาวโค้งคำนับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน ถัดมาเป็นเด็กผู้หญิงร่างเล็ก หน้าตาสะสวย เสียดายที่เธอนั่งอยู่บนรถเข็น
    “สวัสดีครับ”
    คุณลีจินโค้งนิดๆ ให้ทั้งสามคนแล้วเดินเข้ามาจับมือยงฮวาเขย่าเบาๆ เธอพูดเสียงเบาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
    “คุณยงฮวา ขอบคุณจริงๆที่อุตส่าห์มา”
    ยงฮวาโค้งให้
    “ยินดีครับ ท่านประธานฮันฝากความปรารถนาดีมาถึงคุณลีจินด้วยครับ”
    คุณลีจินยิ้ม เมื่อนึกถึงคนเคยรู้จักคุ้นเคยกันนานมา
    “คุณฮันสบายดีนะ”
    “ครับ ท่านประธานสบายดี นี่พี่ผู้จัดการ กับพี่สไตลิสต์ครับ มาด้วยกัน” ยงฮวาผายมือไปทางผู้ร่วมงานทั้งสองเป็นเชิงแนะนำ
    “อ้อจ๊ะ สวัสดี” 
    คุณลีจินหันไปจับมือกับสองหนุ่มสาวด้วย ทั้งสองโค้งต่ำด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีมารยาทเมื่อส่งมือให้จับ
    “ขอบคุณที่มากันนะคะ เกรงใจมาก เป็นงานเล็กๆ แต่มีความหมายกับลูกสาวฉันมากค่ะ”
    เธอยังพูดไม่จบ เสียงใสเด็กหญิงก็ดังขัดขึ้นมา
    “ออมอนี พอแล้ว ให้หนูทักพี่ยงฮวามั่ง”
    คนทั้งสามหันมาเบิกตากว้างยิ้มกันอย่างประหลาดใจ เมื่อเห็นเด็กผู้หญิงพูดภาษาเกาหลีอย่างชัดถ้อยชัดคำ
    “จ้าๆ”
    ผู้เป็นแม่รับคำพลางหัวเราะ
    “แหมๆๆ แม่จะคุยกับไอดอลหน่อยก็ไม่ได้ อยากเห็นตัวจริงมานานแล้ว”
    เธอเดินไปที่ลูกสาว เข็นรถมาด้านหน้า
    “ลูกสาวจ๊ะ ชื่อเกาหลีว่าลีมิน แต่ชื่อไทย เรียกว่า ระมิง”
    ระมิงยิ้มกว้าง พลางยื่นสองมือมาข้างหน้า ยงฮวายิ้มตอบ เดินไปแล้วคุกเขาตรงหน้ารถเข็นจับสองมือของเด็กหญิงไว้
    “อันยองอานาเซโย พี่ยงฮวา”
    “อันยองอานาเซโย จ๊ะ น้องสาว “
    “อันยองพี่สองคนด้วยนะคะ”
    ระมิงหันมาทักสองคนที่ยืนข้างๆ แต่ยังจับมือยงฮวาไว้
    “ดีใจค่ะ หนูอยากเจอพี่มาตั้งนานแล้ว อยากไปดูคอนเสิร์ตตอนพี่มาด้วย แต่..”
    สีหน้าเด็กหญิงสลดลง เมื่อดวงตาหน่อยใหญ่ดำขลับของเธอหลุบมองที่ขาสองข้างที่มีผ้าแพรคลุมอยู่
    ยงฮวายิ้มปลอบใจ บีบมือ
    “พี่ก็มานี่แล้วไง เสียดายที่สามคนนั้นไม่ว่าง ไม่งั้นจะชวนมาด้วยมาร้องเพลงให้หนู ระมิง ฟัง” ยงฮวาพยายามออกเสียงชื่อไทย
    เด็กหญิงหัวเราะคิก
    “จริงเหรอคะ พี่รู้เปล่า ตอนนั้น บ้านหนูซื้อสก๊อตเพียวเร่มากินกันเยอะมากเลย อยากไปดูพี่ หนูกินสก๊อตที่ว่านั่นจนตาดีมากเลย เห็นไกลๆสบาย ถึงขาไม่ดี แต่ตาหนูดีน้า”
    พวกผู้ใหญ่พากันหัวเราะ 
    “เอาๆ พวกพี่เขามาเหนื่อยให้ขึ้นไปพักก่อนดีมั้ย อาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวก่อน..แล้วลงมาทานอาหารเย็นกันนะคะ”
    “ครับ”
    ทุกคนรับคำ ยงฮวาหันมาทางเด็กหญิง
    “งั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวก่อน แล้วจะมาลงมาคุยด้วยใหม่นะ”
    “จริงๆนะคะ หนูจะรอ”
    “จ๊ะ”
    แขกทั้งหลายขึ้นบันไดตามสุนีย์ไปพักห้องที่เตรียมไว้แล้ว ระมิงหันมาทางมารดา จับมือนุ่มๆนั้นมาแนบแก้มด้วยทางทางประจบเอาใจ
    “ออมอนีขอบคุณมากนะคะ หนูมีความสุขจัง ปลื้มจัง พี่ยงฮวาน่ารักเหมือนในทีวีเลย”
    “จ๊ะ”
    คุณลีจินยกมือข้างว่างลูบศรีษะลูกสาวอย่างแสนรัก
    “พรุ่งนี้หนูจะยิ่งปลื้ม เพราะจะได้เจอไอดอลคนโปรด”
    “หนูแทบจะรอไม่ไหวเลยค่ะ ออมอนี หนูอยากเจอพี่ซอฮยอนม๊ากมาก”
    “พรุ่งนี้ได้เจอแล้ว”
    “อูยดีใจ แม่คะ”
    ระมิงเปลี่ยนมาพูดภาษาไทยบ้าง
    “หืมม์”
    “แม่ว่าพี่ยงฮวาเขาจะตื่นเต้นเหมือนหนูมั้ย ที่จะได้เจอพี่ซอฮยอน”
    คุณลีจินหัวเราะ แล้วเอานิ้วจิ้มหน้าผากเกลี้ยงมนของลูกสาวเบาๆ
    “แหมๆ ยัยคนนี้..ลุ้นจริงๆ”
    “แม่ว่าเขาเป็นแฟนกันมั้ยคะ?”
    “อืมม์ ไม่รู้สินะ แต่เราจะได้อยู่ใกล้ชิดเขาตั้งเกือบอาทิตย์ เราคงแอบมองเขาสองคนได้ ว่าจะส่งโค้ดอะไรกันหรือเปล่า?”
    ระมิงหัวเราะชอบใจ ตบมือเบา
    “ดีเลย หนูจะจับผิดเขา..แต่หนูว่า..เขาต้องมองๆกันอยู่แน่เลยค่ะ ออมอนี อิอิ ชอบจังอยากให้เขาเป็นแฟนกันจริง”
    แม่ยกมันหวานตัวน้อยทำตาฝันเพื่อง ทำให้มารดายิ้มอย่างเอ็นดู
    “เข้าไปข้างในกันดีกว่า เตรียมตัวกินอาหารเย็นกัน ไป”
    .................................................................................................................




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×