คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 04
04
ภาพหน้าจอทีวีฉายภาพเด็กน้อยผมสีฟ้าสวย ปรากฏร่างเด็กหนุ่มผมฟ้าที่กำลังนั่งก้มเก็บดอกไม้อยู่อย่างถนุถนอมมัน และถัดมาก็เผยร่างของเด็กหนุ่มผมสีแดงที่นั่งเคียงกายกันข้างๆ สร้างรอยยิ้มไร้เดียงสาหัวเราะคิกคักสนุกสนานให้แก่กันอย่างตรงไปตรงมา
ความสุขในตอนนั้นชั่งเป็นสิ่งที่วิเศษ
แต่ใครจะไปคิด…ว่าช่วงเวลาความสุขมันจะสั้นถึงขนาดนี้…
พลั่นภาพจอทีวีดับลง ความมืดครอบงำปกคลุมทุกอย่าง ไม่อาจจะมองเห็นสิ่งรอบๆกายได้ในเวลานี้ ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ ?
นั่งเหรอ ?
หรือยืน ?
หรือกำลังลอยอยู่ ?
ความมืดนี้ทำให้เขาไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น…
เอ๊ะ…ความอบอุ่นนี้…
อ่า…มาจากคนคนนั้นเหรอ…
ฮึก…มาเพื่อช่วยเขาเหรอ ?
มาช่วยจริงๆใช่ไหม ?
ดีใจ…อ่าดีใจจริงๆ…
“อึก….อ่ะ…” ความเจ็บปวดทำให้คุโรโกะต้องค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นนั่งบนเตียงกว้างแห่งใหม่ที่ไม่ใช่บ้านเหมือนทุกๆที ดวงตาสีฟ้ามองไปรอบๆตัวเจอผ้าม่านสีขาวคลุมรอบตัวเขานั่นทำให้รู้ว่าอยู่ห้องพยาบาลของโรงเรียน
“อึก เจ็บ!!” สะดุ้งสุดตัวในทันทีที่ขยับร่างกายจะลงจากเตียง มองไปตามร่างกายดีๆก็ทำให้รู้ว่าตนได้แผลเพิ่มขึ้นมาเยอะอีกเช่นเดิม
ความทรงจำขาดห้วงอีกตามเคย และจบลงด้วยการที่เขาตื่นขึ้นมามึนงงกับเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้นอีกครั้ง คุโรโกะฝืนทนความเจ็บลุกขึ้นเดินเปิดม่านสีขาวออกช้าๆ ในห้องพยาบาลในช่วง 11 โมงใกล้เที่ยงทำให้ครูประจำห้องนี้ออกไปด้านนอกเพื่อหาข้าวทานตามปกติ
พยายามพยุงร่างที่บอบช้ำ เดินไปตามกำแพงช้าๆอย่างอดกลั้น เขาไม่รู้ว่าได้บาดแผลมาจากการโดนรุมแกล้ง หรือแผลที่ได้จากการต่อสู้โต้กลับไปมา ในเวลานี้เขาก็คิดอะไรไม่ออกอีกเช่นเดิม
จะว่าไปเมื่อกี้เขาฝันสินะ ?
ทำไมถึงจำฝันได้แหละ ?
เด็กผู้ชายผมสีแดงกับผมสีฟ้า ?
ผมสีฟ้านั่นคือเขาแน่นอน…
ผมแดงคือใครงั้นเหรอ ?
อา…อาคา…อึก…นึกไม่ออก
โอ้ย…นึกอะไรไม่ออกอีกแล้ว
อึก…อ่า ความอ่อนโยนกำลังครอบคลุมร่างเขา…
อ่อนโยนจัง…อ่า ชอบจังเลย…
“ไม่ต้องเร่งคิดก็ได้…ค่อยๆคิด…แล้วนายจะจำได้…”
เสียงใครน่ะ ?
ทำไมคุ้นจังเลย…
“นายจะจำได้ทันเวลาหรือเปล่านะ….”
ทำไมทำเสียงเศร้าจัง…
เป็นอะไรงั้นเหรอ …
“เท็ตสึยะ ผมอยากให้นายเห็นผมเหลือเกิน…”
“ผมอยากกอดนายจริงๆ…อ่า คงต้องรอนายจำอะไรมากกว่านี้ให้ได้…”
จำอะไรงั้นเหรอ ?
ต้องให้เขาจำอะไรเหรอ ?
ความอุ่นกำลังกอดรัดเขาแนบแน่นกว่าเดิม…
ชอบจังเลย…อยากอยู่กับมันไปนานๆจัง…
ผลัก!!!
“อึก!!”
“โอ้ย!!!”
ความคิดและความอบอุ่นทุกอย่างพลันหายไปหมดเมื่อจู่ๆก็มีแรงกระแทกมากมายมาชนที่ไหลของคุโรโกะจนเขาเซล้มลงกับพื้นเพราะยังไงเขาในตอนนี้ก็แถบจะไม่มีแรงพอที่จะควบคุมตัวเองมากพออยู่แล้ว ร่างบางคว้ำหน้าค่ำพื้นลงกับพื้น เมื่อความอบอุ่นพอทำให้เขากลั้นน้ำตาไว้อยู่พลั่นหายไป ทำให้ร่างบางไม่อาจจะกลั้นน้ำตาไว้อยู่
บอบช้ำมามากมายเหลือเกิน
แม้จะไม่อาจจำได้ว่าโดนอะไรมาบ้างก็ตาม
แต่บาดแผลตามที่ร่างกายก็ตอกย้ำให้เขารู้ว่าตนอ่อนแอเพียงใด
“นี่…เอ่อ..ขอโทษนะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า ?”
เสียงทุ้มที่พึ่งโดนชนเขาเอ่ยถามเสียงสั่นอย่างรู้สึกผิด คุโรโกะยกมือที่ถลอกจนแผลเปิดขึ้นมาปาดน้ำตาของตนออกอย่างลวกๆ แล้วแขนอีกข้างก็โดนอีกฝ่ายดึงให้ลุกขึ้น ดวงตาสีฟ้าหมองเปื้อนน้ำตาหันหลบไปทางอื่นอย่างอับอาย
“…”
“เห้ย!! ฉันขอโทษนะ!! ฉันทำนายร้องไห้เลยเหรอ!! ขอ..ขอโทษนะ!! ไปทำแผลกันเถอะ ดูดิ!! นายมีแผลเต็มเลย!!!”
อีกฝ่ายจับๆลูบๆลำแขนที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากการโดนกระทำรุนแรงของเพื่อนๆหลายๆคน คุโรโกะตาโตตกใจที่อีกฝ่ายแสดงท่าทางประหลาดออกมาจนน้ำตาที่เคยรินไหลหยุดไหลออกมาซะอย่างนั้น
“เอ่อ…แผลนี่ไม่ได้มาจากที่คุณชนผมหรอกครับ”
“เอ๋ !? แล้วนายไปโดนอะไรมาละเนี้ย”
ท่าทางแตกตื่นของอีกฝ่ายทำเอาคุโรโกะแอบขำแล้วรอบยิ้มขำเสียไม่ได้
อ่า…นั่นสินะ เขาไม่ได้ขำแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ ?
ล่าสุดที่เขาหัวเราะเป็นครั้งสุดท้าย…
อ่า…เขาตลกกับเด็กผู้ชายผมสีแดงคนนึงในวัยเด็ก…
ใครสักคน…อ่าใครกันนะ ?
“นี่!! นี่นายเงียบไปทำไมน่ะ!!”
“อะ ผมเงียบไปงั้นเหรอ”
อีกฝ่ายเขย่าร่างบางไปมาเบาๆเรียกสติ คุโรโกะสะดุ้งตามแรงที่เขย่า เงยหน้ามองอีกฝ่ายที่เริ่มแสดงสีหน้าวิตกกังวลออกมา
“ใช่สิ นายไปนอนพักก่อนเถอะ ฉันขอโทษจริงๆนะที่ชนนาย”
“ผมบอกว่าไม่เป็นไรไงครับ….”
“ฮ่าๆๆงั้นเหรอ ฉันชื่อคางามิ นายหล่ะ?”
“คุโรโกะครับ”
“งั้นเหรอ อ๋อฉันต้องไปแล้วแหละ ถ้ามีโอกาสเจอกันอีกก็ดีสิเนอะ ฮ่าๆๆๆ”
คางามิ ไทกะ หนุ่มผมแดงเพลิงคิ้วสองแฉกยิ้มร่าแล้ววิ่งออกจากจุดที่ทั้งสองคุยกันไปไกล คุโรโกะมองตามด้วยแววที่แวววาวอย่างประหลาด
ทั้งความใจดีนั้น
ทั้งความอบอุ่นนั่น…
อ่า.. แม้จะไม่เหมือนที่ๆผ่านมาก็เถอะ…
แต่นั่นก็ทำให้เขาดีใจเหลือเกิน…
หลังจากนั้นคุโรโกะก็เดินกลับมาที่บ้านด้วยรอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าตั้งแต่ที่เจอกับคางามิ ไทกะ โดดขึ้นเตียงของตัวเองแล้วโอบกอดผ้าห่มสีแดงเลือดไว้แน่นอย่างคิดถึงคะนึงหา แล้วจินตนาการภาพของอีกฝ่ายที่เจอกันวันนี้
ความอ่อนโยนนั้น…
อ่า ดีใจดีเหลือเกิน..
ฮิฮิ เป็นครั้งแรกที่คนแปลกหน้าเป็นห่วงเขามากมายถึงเพียงนี้
มีความสุขที่สุดเลย…
ในขณะที่รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าหวาน ในตอนนั้นเอง ก็มีร่างของชายผมสีแดงดวงตาเหมือนผมสีแดงเลือดของผมยืนอยู่ด้านหลังอีกฝั่งของเตียงนิ่ง มือหนากำแน่นจนขึ้นเส้นเลือดปูด แต่ขัดแย้งกับใบหน้าของตนที่แสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา
“เท็ตสึยะ….ความอ่อนโยนนั้นผมก็มอบให้นายมาตลอด…”
“นายสัมผัสมันมาได้เสมอ…แต่นายกลับไม่เคยรู้ว่ามันมาจากผม…”
“นายจำเรื่องของผมไม่ได้เลย…แม้แต่นิด..ก็ไม่เคยที่จะจำได้…”
“ทำไม…ทำไมนายถึงนึกเรื่องของผมไม่ออกเสียที..”
“ทั้งๆที่ผม…รักนายมากขนาดนี้…แต่นายก็ยังคงมองไม่เห็นมัน…”
“เพราะความรักของผมมันโปร่งแสงงั้นเหรอ …นายถึงมองไม่เห็นมัน…”
“เพราะความรักของผมมันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่างั้นเหรอ…นายถึงสัมผัสมันไม่ได้…”
“ถ้าหากนายจำเรื่องของผมได้ละก็..นายก็จะมองเห็นผมได้แล้วแท้ๆ….”
“เมื่อไหร่..นายจะนึกวันเวลาของเราออกซะที…เท็ตสึยะ…”
น้ำตารินไหลออกจากดวงตาแดงผ่านแก้ม หยดลงสู่พื้นไม้ ร่างโปร่งแสงค่อยๆหายไปอีกครั้งเมื่อรู้ว่าในตอนนี้เขาไม่สามารถเข้าใกล้อีกฝ่ายที่นั่งยิ้มแย้มมีความสุขบนเตียงได้…
ไม่สามารถเข้าใกล้ได้
ความอ่อนโยนโดนทับแทนที่โดยคนอื่น
ซึ่งเขาไม่อาจจะเข้าไปใกล้ได้เลย…
เพราะว่าร่างบางกำลังโหยหาความอบอุ่นนั้น…
ความอบอุ่นนั้นที่ไม่ใช่ความอบอุ่นที่เขามอบให้
เจ็บปวด..อึก… ทำไมร่างบางถึงนึกเรื่องของเขาไม่ออกเสียที…
ทั้งๆที่…ความทรงจำมากมายของเขาทั้งสองมันมากมายเสียจริงแท้ๆ
นั่นสินะ…
ต่อให้มอบรักที่ยิ่งใหญ่มากแค่ไหน
คนเราก็เลือกที่จะมองความรักที่สามารถมองเห็นและรู้ว่ามาจากทีไหน..
ไม่เหมือนกับเขา ที่เป็นร่างไร้กาย ทำได้เพียงส่งความรักจากตัวตนที่มองไม่เห็น…
ใช่แล้ว… สิ่งที่มองไม่เห็นไม่อาจสู้สิ่งที่มองเห็นได้…
แม้จะพยายามมากเพียงใด
สิ่งที่มองไม่เห็น ก็ไม่อาจจะแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งที่มองเห็นได้…
ไม่มีทาง..ที่จะเปลี่ยนได้เลย..
หลังจากนี้ ? เขาต้องโดนแย่งหน้าไปอีกมากมายแค่ไหนกัน ?
หน้าที่มากมายที่เคยเป็นของอาคาชิ เซย์จูโร่....
ความคิดเห็น