ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KNB] Translucent (AkaKuro)

    ลำดับตอนที่ #5 : 04

    • อัปเดตล่าสุด 3 มิ.ย. 58


    04



            ภาพหน้าจอทีวีฉายภาพเด็กน้อยผมสีฟ้าสวย ปรากฏร่างเด็กหนุ่มผมฟ้าที่กำลังนั่งก้มเก็บดอกไม้อยู่อย่างถนุถนอมมัน และถัดมาก็เผยร่างของเด็กหนุ่มผมสีแดงที่นั่งเคียงกายกันข้างๆ สร้างรอยยิ้มไร้เดียงสาหัวเราะคิกคักสนุกสนานให้แก่กันอย่างตรงไปตรงมา

     

     

    ความสุขในตอนนั้นชั่งเป็นสิ่งที่วิเศษ

     

     

    แต่ใครจะไปคิดว่าช่วงเวลาความสุขมันจะสั้นถึงขนาดนี้

     

     

    พลั่นภาพจอทีวีดับลง ความมืดครอบงำปกคลุมทุกอย่าง ไม่อาจจะมองเห็นสิ่งรอบๆกายได้ในเวลานี้ ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ ?

     

     

    นั่งเหรอ ?

     

     

    หรือยืน ?

     

     

    หรือกำลังลอยอยู่ ?

     

     

    ความมืดนี้ทำให้เขาไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

     

     

    เอ๊ะความอบอุ่นนี้

     

     

    อ่ามาจากคนคนนั้นเหรอ

     

     

    ฮึกมาเพื่อช่วยเขาเหรอ ?

     

     

    มาช่วยจริงๆใช่ไหม ?

     

     

    ดีใจอ่าดีใจจริงๆ

     

     

     

    อึก….อ่ะ…” ความเจ็บปวดทำให้คุโรโกะต้องค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นนั่งบนเตียงกว้างแห่งใหม่ที่ไม่ใช่บ้านเหมือนทุกๆที ดวงตาสีฟ้ามองไปรอบๆตัวเจอผ้าม่านสีขาวคลุมรอบตัวเขานั่นทำให้รู้ว่าอยู่ห้องพยาบาลของโรงเรียน

     

     

    อึก เจ็บ!!” สะดุ้งสุดตัวในทันทีที่ขยับร่างกายจะลงจากเตียง มองไปตามร่างกายดีๆก็ทำให้รู้ว่าตนได้แผลเพิ่มขึ้นมาเยอะอีกเช่นเดิม

     

     

    ความทรงจำขาดห้วงอีกตามเคย และจบลงด้วยการที่เขาตื่นขึ้นมามึนงงกับเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้นอีกครั้ง คุโรโกะฝืนทนความเจ็บลุกขึ้นเดินเปิดม่านสีขาวออกช้าๆ ในห้องพยาบาลในช่วง 11 โมงใกล้เที่ยงทำให้ครูประจำห้องนี้ออกไปด้านนอกเพื่อหาข้าวทานตามปกติ

     

     

    พยายามพยุงร่างที่บอบช้ำ เดินไปตามกำแพงช้าๆอย่างอดกลั้น เขาไม่รู้ว่าได้บาดแผลมาจากการโดนรุมแกล้ง หรือแผลที่ได้จากการต่อสู้โต้กลับไปมา ในเวลานี้เขาก็คิดอะไรไม่ออกอีกเช่นเดิม

     

     

    จะว่าไปเมื่อกี้เขาฝันสินะ ?

     

     

    ทำไมถึงจำฝันได้แหละ ?

     

     

    เด็กผู้ชายผมสีแดงกับผมสีฟ้า ?

     

     

    ผมสีฟ้านั่นคือเขาแน่นอน

     

     

    ผมแดงคือใครงั้นเหรอ ?

     

     

    อาอาคาอึกนึกไม่ออก

     

     

    โอ้ยนึกอะไรไม่ออกอีกแล้ว

     

     

    อึกอ่า ความอ่อนโยนกำลังครอบคลุมร่างเขา

     

     

    อ่อนโยนจังอ่า ชอบจังเลย

     

     

    ไม่ต้องเร่งคิดก็ได้ค่อยๆคิดแล้วนายจะจำได้…”

     

     

    เสียงใครน่ะ ?

     

     

    ทำไมคุ้นจังเลย

     

     

    นายจะจำได้ทันเวลาหรือเปล่านะ….”

     

     

    ทำไมทำเสียงเศร้าจัง

     

     

    เป็นอะไรงั้นเหรอ

     

     

    เท็ตสึยะ ผมอยากให้นายเห็นผมเหลือเกิน…”

     

     

    ผมอยากกอดนายจริงๆอ่า คงต้องรอนายจำอะไรมากกว่านี้ให้ได้…”

     

     

    จำอะไรงั้นเหรอ ?

     

     

    ต้องให้เขาจำอะไรเหรอ ?

     

     

    ความอุ่นกำลังกอดรัดเขาแนบแน่นกว่าเดิม

     

     

    ชอบจังเลยอยากอยู่กับมันไปนานๆจัง

     

     

     

    ผลัก!!!

     

     

    อึก!!”

     

     

    โอ้ย!!!”

     

     

    ความคิดและความอบอุ่นทุกอย่างพลันหายไปหมดเมื่อจู่ๆก็มีแรงกระแทกมากมายมาชนที่ไหลของคุโรโกะจนเขาเซล้มลงกับพื้นเพราะยังไงเขาในตอนนี้ก็แถบจะไม่มีแรงพอที่จะควบคุมตัวเองมากพออยู่แล้ว ร่างบางคว้ำหน้าค่ำพื้นลงกับพื้น เมื่อความอบอุ่นพอทำให้เขากลั้นน้ำตาไว้อยู่พลั่นหายไป ทำให้ร่างบางไม่อาจจะกลั้นน้ำตาไว้อยู่

     

     

    บอบช้ำมามากมายเหลือเกิน

     

     

    แม้จะไม่อาจจำได้ว่าโดนอะไรมาบ้างก็ตาม

     

     

    แต่บาดแผลตามที่ร่างกายก็ตอกย้ำให้เขารู้ว่าตนอ่อนแอเพียงใด

     

     

    นี่เอ่อ..ขอโทษนะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า ?

     

     

    เสียงทุ้มที่พึ่งโดนชนเขาเอ่ยถามเสียงสั่นอย่างรู้สึกผิด คุโรโกะยกมือที่ถลอกจนแผลเปิดขึ้นมาปาดน้ำตาของตนออกอย่างลวกๆ แล้วแขนอีกข้างก็โดนอีกฝ่ายดึงให้ลุกขึ้น ดวงตาสีฟ้าหมองเปื้อนน้ำตาหันหลบไปทางอื่นอย่างอับอาย

     

     

    “…”

     

     

    เห้ย!! ฉันขอโทษนะ!! ฉันทำนายร้องไห้เลยเหรอ!! ขอ..ขอโทษนะ!! ไปทำแผลกันเถอะ ดูดิ!! นายมีแผลเต็มเลย!!!”

     

     

    อีกฝ่ายจับๆลูบๆลำแขนที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากการโดนกระทำรุนแรงของเพื่อนๆหลายๆคน คุโรโกะตาโตตกใจที่อีกฝ่ายแสดงท่าทางประหลาดออกมาจนน้ำตาที่เคยรินไหลหยุดไหลออกมาซะอย่างนั้น

     

     

    เอ่อแผลนี่ไม่ได้มาจากที่คุณชนผมหรอกครับ

     

     

    เอ๋ !? แล้วนายไปโดนอะไรมาละเนี้ย

     

     

    ท่าทางแตกตื่นของอีกฝ่ายทำเอาคุโรโกะแอบขำแล้วรอบยิ้มขำเสียไม่ได้

     

     

    อ่านั่นสินะ เขาไม่ได้ขำแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ ?

     

     

    ล่าสุดที่เขาหัวเราะเป็นครั้งสุดท้าย

     

     

    อ่าเขาตลกกับเด็กผู้ชายผมสีแดงคนนึงในวัยเด็ก

     

     

    ใครสักคนอ่าใครกันนะ ?

     

     

    นี่!! นี่นายเงียบไปทำไมน่ะ!!”

     

     

    อะ ผมเงียบไปงั้นเหรอ

     

     

    อีกฝ่ายเขย่าร่างบางไปมาเบาๆเรียกสติ คุโรโกะสะดุ้งตามแรงที่เขย่า เงยหน้ามองอีกฝ่ายที่เริ่มแสดงสีหน้าวิตกกังวลออกมา

     

     

    ใช่สิ นายไปนอนพักก่อนเถอะ ฉันขอโทษจริงๆนะที่ชนนาย

     

     

    ผมบอกว่าไม่เป็นไรไงครับ….”

     

     

    ฮ่าๆๆงั้นเหรอ ฉันชื่อคางามิ นายหล่ะ?

     

     

    คุโรโกะครับ

     

     

    งั้นเหรอ อ๋อฉันต้องไปแล้วแหละ ถ้ามีโอกาสเจอกันอีกก็ดีสิเนอะ ฮ่าๆๆๆ

     

     

    คางามิ ไทกะ หนุ่มผมแดงเพลิงคิ้วสองแฉกยิ้มร่าแล้ววิ่งออกจากจุดที่ทั้งสองคุยกันไปไกล คุโรโกะมองตามด้วยแววที่แวววาวอย่างประหลาด

     

     

    ทั้งความใจดีนั้น

     

     

    ทั้งความอบอุ่นนั่น

     

     

    อ่า.. แม้จะไม่เหมือนที่ๆผ่านมาก็เถอะ

     

     

    แต่นั่นก็ทำให้เขาดีใจเหลือเกิน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากนั้นคุโรโกะก็เดินกลับมาที่บ้านด้วยรอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าตั้งแต่ที่เจอกับคางามิ ไทกะ โดดขึ้นเตียงของตัวเองแล้วโอบกอดผ้าห่มสีแดงเลือดไว้แน่นอย่างคิดถึงคะนึงหา แล้วจินตนาการภาพของอีกฝ่ายที่เจอกันวันนี้

     

     

    ความอ่อนโยนนั้น

     

     

    อ่า ดีใจดีเหลือเกิน..

     

     

    ฮิฮิ เป็นครั้งแรกที่คนแปลกหน้าเป็นห่วงเขามากมายถึงเพียงนี้

     

     

    มีความสุขที่สุดเลย

     

     

    ในขณะที่รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าหวาน ในตอนนั้นเอง ก็มีร่างของชายผมสีแดงดวงตาเหมือนผมสีแดงเลือดของผมยืนอยู่ด้านหลังอีกฝั่งของเตียงนิ่ง มือหนากำแน่นจนขึ้นเส้นเลือดปูด แต่ขัดแย้งกับใบหน้าของตนที่แสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา

     

     

    เท็ตสึยะ….ความอ่อนโยนนั้นผมก็มอบให้นายมาตลอด…”

     

     

    นายสัมผัสมันมาได้เสมอแต่นายกลับไม่เคยรู้ว่ามันมาจากผม…”

     

     

    นายจำเรื่องของผมไม่ได้เลยแม้แต่นิด..ก็ไม่เคยที่จะจำได้…”

     

     

    ทำไมทำไมนายถึงนึกเรื่องของผมไม่ออกเสียที..”

     

     

    ทั้งๆที่ผมรักนายมากขนาดนี้แต่นายก็ยังคงมองไม่เห็นมัน…”

     

     

    เพราะความรักของผมมันโปร่งแสงงั้นเหรอ นายถึงมองไม่เห็นมัน…”

     

     

    เพราะความรักของผมมันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่างั้นเหรอนายถึงสัมผัสมันไม่ได้…”

     

     

    ถ้าหากนายจำเรื่องของผมได้ละก็..นายก็จะมองเห็นผมได้แล้วแท้ๆ….”

     

     

    เมื่อไหร่..นายจะนึกวันเวลาของเราออกซะทีเท็ตสึยะ…”

     

     

    น้ำตารินไหลออกจากดวงตาแดงผ่านแก้ม หยดลงสู่พื้นไม้ ร่างโปร่งแสงค่อยๆหายไปอีกครั้งเมื่อรู้ว่าในตอนนี้เขาไม่สามารถเข้าใกล้อีกฝ่ายที่นั่งยิ้มแย้มมีความสุขบนเตียงได้

     

     

    ไม่สามารถเข้าใกล้ได้

     

     

    ความอ่อนโยนโดนทับแทนที่โดยคนอื่น

     

     

    ซึ่งเขาไม่อาจจะเข้าไปใกล้ได้เลย

     

     

    เพราะว่าร่างบางกำลังโหยหาความอบอุ่นนั้น

     

     

    ความอบอุ่นนั้นที่ไม่ใช่ความอบอุ่นที่เขามอบให้

     

     

    เจ็บปวด..อึก ทำไมร่างบางถึงนึกเรื่องของเขาไม่ออกเสียที

     

     

    ทั้งๆที่ความทรงจำมากมายของเขาทั้งสองมันมากมายเสียจริงแท้ๆ

     

     

    นั่นสินะ

     

     

    ต่อให้มอบรักที่ยิ่งใหญ่มากแค่ไหน

     

     

    คนเราก็เลือกที่จะมองความรักที่สามารถมองเห็นและรู้ว่ามาจากทีไหน..

     

     

    ไม่เหมือนกับเขา ที่เป็นร่างไร้กาย ทำได้เพียงส่งความรักจากตัวตนที่มองไม่เห็น

     

     

    ใช่แล้ว สิ่งที่มองไม่เห็นไม่อาจสู้สิ่งที่มองเห็นได้

     

     

    แม้จะพยายามมากเพียงใด

     

     

    สิ่งที่มองไม่เห็น ก็ไม่อาจจะแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งที่มองเห็นได้

     

     

    ไม่มีทาง..ที่จะเปลี่ยนได้เลย..


    หลังจากนี้ ? เขาต้องโดนแย่งหน้าไปอีกมากมายแค่ไหนกัน ?


    หน้าที่มากมายที่เคยเป็นของอาคาชิ เซย์จูโร่....




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×