ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KNB] Translucent (AkaKuro)

    ลำดับตอนที่ #4 : 03

    • อัปเดตล่าสุด 1 มิ.ย. 58


    03 


         หลังจากคืนวันนั้นที่คุโรโกะเหมือนลืมฝันที่สำคัญไป ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติดีทุกอย่าง ความทรงจำที่ตอนแรกเหมือนขาดๆหายๆก็ไม่มีการขาดห้วงอีก คุโรโกะกลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง แม้เจ้าตัวจะยังมึนงงอยู่ก็ตามว่าทำไมเรื่องแปลกๆพลั่นก็หายไป ?

     

     

    รู้สึกเหงาอย่างประหลาด ?

     

     

    แล้วก็มีชื่อของคนที่เขาไม่รู้จักลอยไปมาบนหัวอยู่ตลอด ?

     

     

    อาคาชิ ? อาคาชิคุง ? ชื่อคุ้นๆแต่กลับจำไม่ได้ว่าใคร

     

     

    อ่าใครกันนะ ? แล้วเขาเป็นคนยังไงงั้นเหรอ ?

     

     

    ทำไมรู้สึกโหยอาอีกฝ่ายมากมายถึงเพียงนี้กัน..

     

     

     

           และเวลาก็ผ่านเป็นนับปีที่คุโรโกะรู้สึกเดี่ยวดายและโดดเดี่ยวหลังจากนั้น ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรคอยวนเวียนข้างกาย แต่นั่นกลับทำให้เขาเหงา

     

     

    เหงา..เหมือนขาดสิ่งสำคัญไป..

     

     

    เมื่อตอนนั้น หลังจากที่เขาจำความฝันในคืนนั้นไม่ได้ วันต่อมาเขาเดินผ่านร้านขายผลไม้เหมือนทุกๆที เธอเข้ามาทักเด็กหนุ่มพร้อมกับมองซ้ายมองขวาเหมือนกำลังมองหาใครสักคนและเธอก็ออกปากถาม วันนี้เด็กผู้ชายผมแดงไม่มาด้วยเหรอ?” คุโรโกะสงสัยและงงมาก เขาไม่รู้ว่าเธอหมายถึงใคร

     

     

    คุโรโกะส่ายหน้าปฏิเสธในเชิงที่ตนคิดว่าไม่รู้ แต่สำหรับเธอหมายถึงว่าไม่ได้มาด้วย คุโรโกะมึนงงว่าเธอนั้นหมายถึงใครกัน ? และเธอก็ยังคงออกปากชมเด็กผมแดงปริศนาที่เคยช่วยเขาจากความตายในตอนนั้น

     

     

    อ่าคนที่มาช่วยเขาในตอนรถชน..

     

     

    อื้มใครกันนะ สีแดง..

     

     

    อ่าจำได้เพียงแค่สีแดง

     

     

    ชั่งเถอะ ไม่ต้องไปคิดมากแล้วกัน

     

     

            ถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาในวัยประถม ชีวิตของเขาก็ไม่ได้สวยงามขึ้นหรืออย่างไรหลังจากที่เหมือนขาดความอบอุ่นของอ้อมกอดจากใครบางคน คุโรโกะก็ยังคงใช้ชีวิตภายในรั้วโรงเรียนโดยการถูกกลั่นแกล้งในบางครั้งบางครา และทุกครั้งเขาก็มักจะท้อแท้และสิ้นหวังในทุกๆครั้งที่โดนแกล้ง

     

     

    แต่บางครั้งเขาก็รู้สึกถึงอ้อมกอดนั้นอีกครั้ง

     

     

    ทำให้เขารู้ว่าอ้อมกอดแสนอบอุ่นนั้นยังไม่ได้หายไปไหนตลอดกาล..

     

     

    อ่า ตอนที่เขาโดนทำร้ายนี้มันเจ็บปวดจริงๆ

     

     

    ทั้งๆที่แต่ก่อนเขาไม่เคยรับรู้ถึงความเจ็บปวดและความหวาดกลัวตอนที่โดนแกล้งเลย..

     

     

    เมื่อก่อนเขาจำไม่รู้ว่าโดนแกล้งยังไงหรือโดนทำอะไรบ้าง

     

     

    เพราะเหมือนว่าตอนนั้นความทรงจำของเขาขาดห้วงเหมือนหลับไปเสียเฉยๆ

     

     

    พอรู้ตัวอีกทีก็ได้แผล และก็มาอยู่ที่ๆใหม่เสียแล้ว

     

     

    แต่พอฝันในคืนนั้น ฝันที่เขาจำไม่ได้ว่าฝันเรื่องอะไร

     

     

    ความทรงจำของคุโรโกะก็ไม่ขาดห้วงอีกเลย

     

     

    เขารับรู้ถึงความกลัวที่โดนแกล้ง รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่โดนกระทำ

     

     

    มันเจ็บปวดมากอ่า เจ็บปวดมากจริงๆ

     

     

    แต่หลังจากนั้นเขาก็จะได้รับอ้อมกอดอุบอุ่นจากที่ไหนสักแห่งอีกครั้ง

     

     

    บรรเทาความเหงาและเศร้าในอกได้เพียงเล็กน้อย

     

     

    อ่าโหยหาเหลือเกินโหยหายิ่งนัก..

     

     

    โหยหาคนที่คอยมอบอ้อมกอดแสนอ่อนโยนนี้ให้เหลือเกิน

     

     

     

     

    อาคาชิคุงผมคิดถึงคุณ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เท็ตสึยะ!!!ตื่นได้แล้วจะสายแล้วนะ!!!”

     

     

    “!!!!” คุโรโกะสะดุ้งตื่นสุดตัว เส้นผมสีฟ้าชี้ยุ่งกระดกไม่เป็นเส้น กับสีหน้าแตกตื่นหลังจากตื่นนอน ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างตกใจกับเสียงของป้าที่ทุบประตูดังปังๆขัดขึ้นมา ดวงตาสีฟ้าสั่นไหววอกแวกมองข้างตัวอย่างตื่นตกใจ พอรู้ว่ารอบข้างคือห้องของตัวเอง ก็โล่งออกถอนหายใจออกมาสบายใจ

     

     

    ร่างกายที่สูงยาวเกินประถมเพราะเข้าสูงช่วงมัธยมก้าวลงจากเตียงช้าๆเกาหัวแกรกๆหลังตื่นนอน เหลียวตาสีฟ้าไปมองผ้าห่มสีแดงที่ตอนนี้ถูกพับเก็บไว้ในตู้เป็นอย่างดี

     

     

    น่าแปลกมากสำหรับคุโรโกะ

     

     

    ทุกอย่างที่อบอุ่นและเกี่ยวกับสีแดงนั้น

     

     

    พลั่นจะหายไปในพริบตา

     

     

    ทั้งความฝันในคืนนั้น.. ทั้งอ้อมกอดอบอุ่นที่ขาดๆหายๆ ทั้งผ้าห่มที่รักนี่

     

     

    แล้วเมื่อกี้? เขาโหยหาคนที่ชื่ออาคาชิงั้นเหรอ ?

     

     

    ใครกัน ? ใครคืออาคาชิ ?

     

     

    อึกทำไมมันเลือนรางเช่นนี้กันนะ..

     

     

    อ่าคิดมากอีกแล้ว..

     

     

    ฮึก…” สะบัดหัวไปมาพยายามไล่ความคิดทุกอย่างออกไปจากสมอง ครั้งแล้วครั้งเล่าเขามักที่จะนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ไม่คลี่คลายปมปริศนาอยู่เกือบตลอด คุโรโกะกุมเส้นผมสีฟ้าของตัวเองแน่นอย่างเจ็บปวด อยากนึกเรื่องในอดีตให้ออกเสียที..

     

     

    เพราะเขารับรู้ได้ว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมากขนาดไหน

     

     

    ทำไมถึงนึกไม่ออก..

     

     

    อึกอ่าชั่ง..ชั่งมันเถอะ..

     

     

    กระจกที่สะท้อนร่างเลือนผมฟ้าที่นั่งกุมหัวบนเตียงอย่างสับสน ด้านหลังของเขาภายในกระจกมีร่างของใครอีกคนที่นั่งอีกฝากของเตียงหันหลังให้กับคุโรโกะ

     

     

    เจ้าของเลือนผมสีแดงยาวพลิ้วไหวกับร่างกายที่โตตามวัยพร้อมกับร่างบาง อาคาชิเอียงหน้าครึ่งซีกหันมามองร่างบางที่นั่งกุมหัวอย่างสับสนและพยายามนึกให้ออก ปากหนาคลียิ้มบางน้อยๆ 5 ปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยออกห่างร่างบางนี้เลย..

     

     

    ในวัยประถมนั้นเขาตัดสินใจที่จะปล่อยคุโรโกะไป

     

     

    อ่าแน่นอนเขาทำไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่

     

     

    ทุกครั้งที่ร่างบางโดนแกล้ง เขาทำได้เพียงยืนมองข่มตาหันหน้าหนีพยายามไม่เข้าไปยุ่ง

     

     

    อ่าในตอนนั้นเขาเจ็บปวดมากจริงๆ

     

     

    แต่เพื่อตัวของคุโรโกะเองเขาจำต้องทำ

     

     

    เพื่อไม่ให้ตนทำลายชีวิตร่างเล็กไปมากกว่านี้

     

     

    เลยตัดสินใจเดินออกมาเงียบๆและเฝ้ามองห่างๆ

     

     

    และเวลาก็ล่วงเลยมานานจนถึงวัยมัธยม

     

     

    ร่างบางยังคงติดค้างคาใจเรื่องของเขาไม่เคยเปลี่ยน

     

     

    นั่นทำให้เขาดีใจมากเสียจริงๆ

     

     

    ขอบคุณนะเท็ตสึยะที่ยังไม่ลืมเรื่องของผมภาพในกระจกที่สะท้อนเงาของชายทั้งสองปรากฏใบหน้าหล่อของอาคาชิยกยิ้มดีใจ ก่อนที่อาคาชิจะค่อยๆขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่าย โอบแขนแกร่งเข้ากับร่างบางอยู่ด้านหลัง คุโรโกะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากด้านหลัง ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสนี้ได้

     

     

    อาคาชิคุง ?

     

     

    ทำไมชื่อของใครสักคนก็โผล่ขึ้นมาจากหัวของเขาได้กันนะ

     

     

    ผมดีใจจริงๆที่นายยังพยายามนึกถึงเรื่องของผมพริ้มหลับตาสีแดงลงโอบกอดร่างที่มีเนื้อหนังของคุโรโกะไว้แน่น แขนที่โปร่งแสงของตนโอบรอบคออีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนจนคุโรโกะรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนนี้

     

     

    เท็ตสึยะ!!!!!” เสียงของป้าดังขึ้นด้านนอกห้อง คุโรโกะสะดุ้งสุดตัวตกใจในเวลานั้นความอบอุ่นก็พลั่นหายไปด้วย คุโรโกะรีบหยิบเสื้อผ้าและอื่นๆรีบเตรียมตัวไปโรงเรียนมัธยมที่ตนต้องไปเรียนหลังจากนี้

     

     

    ดวงตาสีแดงที่หลบอยู่ในมุมเหลือบมองคุโรโกะที่ทำทุกอย่างเร่งด่วนนิ่งก่อนที่จะยิ้มจางๆ ร่างที่โปร่งแสงอยู่แล้วค่อยๆหายไปหลังจากที่ได้โอบกอดร่างเล็กๆนี้ไว้

     

     

    แม้เวลาจะผ่านไปนานก็ตาม

     

     

    คุโรโกะ เท็ตสึยะในสายตาของอาคาชิก็ยังคงอ่อนแอเหมือนเดิม..

     

     

    ยังคงเหมือนเดิม..ตั้งแต่สมัยที่พบเจอกันครั้งแรกแล้ว

     

     

     

     

     

           

     

     

     

    เช้าวันนี้เป็นวันที่เขารับรู้ได้ว่าอ้อมกอดแสนอบอุ่นนั้นกลับมาโอบรัดร่างกายของเขาอีกครั้ง มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีแต่ก็ต้องลืมเลือนเรื่องในตอนนั้นไปเมื่อย่างเข้ามาในโรงเรียนมัธยมที่ตนเรียนจนมาอยู่ปีที่สอง

    ทุกอย่างมันชั่งเหมือนเดิมดั่งสมัยประถมจริงๆคุโรโกะที่เข้ามาในที่นี่ใหม่ๆคราแรกอยากจะดีใจ ทีได้หลุดพ้นห่วงแห่งการกลั่นแกล้งตั้งแต่สมัยประถม แต่มันไม่ใช่.. เขายังคงด้อยกว่าคนอื่นเสมออ่าทำไมกันนะ..

     

     

    เพราะอะไรกันนะเขาถึงได้ดูด้อยและดูอ่อนแอกว่าทุกคนไปเสียตลอด

     

     

    ผลัก!!

     

     

    โอ้ย!!” แผ่นหลังกระแทกเข้ากับตู่ล็อคเกอร์เก็บรองเท้าในยามเย็น ใบหน้าหวานเหยเกเจ็บปวดเมื่อถูกคนทั้งสามยืนล้อมปิดกั้นทางหนี มือหนาของใครอีกคนที่เป็นคนผลักเขาจิกเส้นผมสีฟ้าของเขาเงยหน้าขึ้น

     

     

    อย่าซ่ามาเข้าใกล้แฟนฉันอีกนะเว้ย!!”        

     

     

    ผมผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น….อั๊ก!!” ทุกเสียงหวานที่พร้ำขอร้องหายไปเมื่อหมัดหนักกระแทกเข้ามาที่ท้องของเขาจนจุกร้าวไปทั่วร่าง ใบหน้าหวานสำลักน้ำลายจุกท้องจนทรุดนั่งลงกับพื้นกุมท้องแน่นอย่างปวดร้าวทรมาน

     

     

    โหดร้ายที่นี่มันโหดร้ายกว่าสมัยประถมนัก

     

     

    โหดร้ายเกินไปที่เขาจะรับไหว

     

     

    ฮึก ทำไมชีวิตที่มีอยู่ของเขาถึงได้ดูไร้ค่านัก ?

     

     

    เขาเกิดมาเพื่ออะไรกัน ?

     

     

    เพื่อมาให้ผู้อื่นเหยียบย้ำงั้นเหรอ

     

     

    อ่อนแอชิบหายเลยแม่ง กลับเว้ยน่าเบื่อชิบหาย

     

     

    เออ นึกว่าจะเก่ง

     

     

    จำใส่หัวไว้ อย่ามายุ่งกับแฟนฉันอีก

     

     

    “…” ร่างของคนทั้งสามไม่ลืมที่จะใช้เท้าเหยียบและผลักร่างของคุโรโกะที่กุมท้องแน่น คุโรโกะล้มลงนอนพร้อมกับกุมท้องที่จุกแน่น ดวงตาสีฟ้าเหม่อมองภายนอกกระจกที่ส่องแสงสีสมแสดอย่างเจ็บปวด ทุกข์ทรมานกับสิ่งที่โดนกระทำเมื่อครู่..

     

     

    มันโหดร้ายโหดร้ายมากกว่าที่ผ่านมา..

     


    ฮึก….ฮือ..” หลับตาแน่นจนน้ำตารินไหลทะลักออกมา คุโรโกะพยายามลุกขึ้นนั่งพิงหลังกับตู้ล็อคเกอร์ มือทั้งสองกำจนเล็บจิกเข้าเนื้อ กัดปากแน่นกลั้นเสียงสะอึ้นในลำคอเอาไว้ น้ำตายังคงรินไหลออกมาพร้อมร่างที่สั่นไหวกลั้นเสียงสะอึ้น

     

     

    เจ็บปวดเจ็บปวดเหลือเกิน

     

     

    ทำไมมีแค่เขาที่ต้องพบเจอแต่เรื่องแบบนี้..

     

     

    ทำไมต้องเป็นเขา..

     

     

    ตลอดห้าปีที่ผ่านมาต้องถูกคนอื่นเหยียบย้ำไปถึงไหน ?

     

     

    ไม่อยากรับรู้ความเจ็บปวดนี้อีกแล้ว

     

     

    อาคาชิยืนมองร่างบางที่นั่งร้องไห้อย่างปวดร้าว ปากหนาที่เคยยิ้มอบอุ่นในตอนแรก แต่ในครานี้ไร้ซึ่งรอยยิ้มเหมือนทุกๆที ขยับร่างกายที่โปร่งแสงของตนไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าคุโรโกะ ดวงตาสีแดงว่างเปล่าไร้ความนึกคิดจ้องมองใบหน้าที่เจ็บปวดไปถึงหัวใจ

     

     

    เขาในตอนนี้ถึงได้เพียงแค่โอบกอดร่างบาง

     

     

    อ่าเขาขยับแขนโปร่งใสแล้วโอบกอดร่างที่สั่นสะท้านไว้แน่น..

     

     

    ขยับใบหน้าหล่อเข้าไปซุกคอของร่างบางที่ปลดปล่อยความเศร้าผ่านน้ำตา ปิดเปลือกตาที่มีดวงตาสีแดงลงช้าๆ พยายามถ่ายทอดความอบอุ่นให้ร่างบางนี้พอสบายใจ

     

     

    อ่าคุโรโกะสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนนี้อีกครั้ง..

     

     

    ความอ่อนโยนนี้มักจะโผล่มาเสมอๆหลังจากที่เขาท้อแท้

     

     

    คุโรโกะเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรงเจ็บปวด นั่งนิ่งให้ความอ่อนโยนครอบคลุมร่างที่หวาดกลัวและเจ็บปวด ปากบางขยับขึ้นลงช้าๆอย่างปวดร้าว

     

     

    ช่วยช่วยผมด้วย…”

     

     

     

    ช่วยผมด้วยอาคาชิคุง…”

     

     

    และก็เผลอพร้ำน้องนึกหาชายที่ตนไม่รู้จักอีกครั้งอย่างลืมตัว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฮึกฮือ…” เสียงสะอื้นดังออกมาจากปากของคุโรโกะ เท็ตสึยะ ในตอนนี้เขาโตเป็นหนุ่มบ่าวจืดชืดคนนึง นั่งกอดเข่าแล้วซุกหน้าร้องไห้ลงกับซอกขาที่ตั้งชันขึ้น ความมืดที่มีเพียงแสงสว่างเล็กๆจากจอทีวีที่ฉายภาพของตนกำลังโดนรุมกลั่นแกล้ง ฉายวนไปมาเหมือนคอยตอกย้ำสิ่งที่เจอ

     

     

    ยิ่งดูยิ่งเจ็บปวด ยิ่งดูยิ่งท้อแท้

     

     

    เท็ตสึยะไมต้องร้องไห้หรอก..” จู่ๆก็มีมือหนาวางแปะลงที่ศีรษะเส้นผมสีฟ้าแผ่วเบา คุโรโกะเงยหน้าขึ้นมองชายผมสีแดงที่อายุ15เท่าๆกับคน อาคาชิยิ้มอ่อนโยนแล้วลูบหัวเขาไปมาแผ่วเบาละมุนละไม

     

     

    “…คุณเป็นใครกันครับ…” เอ่ยถามทั้งน้ำตาริน ดวงตาสีฟ้าแดงก่ำรวดร้าวทรมาน

     

     

    “…”

     

     

    ทำไมผมถึงได้คุ้นเคยกับคุณถึงขนาดนี้…”

     

     

    “…”

     

     

    ผมไม่รู้จักคุณแต่ผมกลับรู้จักชื่อของคุณ…”

     

     

    “…”

     

     

    อาคาชิคุง….อาคาชิคุงอ่า..” พร้ำเพ้อเรียกหาชื่อคนที่ตนไม่รู้จัก อาคาชิกำมือแน่นสักพักก่อนที่จะคลายมือที่กำออกช้าๆ แล้วขยับไปนั่งข้างๆคุโรโกะ โอบไหลแล้วบังคับให้หัวของคุโรโกะอิงซบไหลของตน

     

     

    “…ผมคืออาคาชิ เซย์จูโร่…”

     

     

    “…”

     

     

    ผมคือคนที่อยู่เคียงข้างเท็ตสึยะมาตลอดตั้งแต่เราพบเจอกัน…”

     

     

    พบเจอกัน? ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วหลังจากที่โดนอีกฝ่ายแตะตัว คุโรโกะปรือตาแถบจะหลับ อาคาชิยิ้มมุมปากบางๆแล้วลูบหัวอีกฝ่ายที่อิงซบไหลตนเบาๆ

     

     

    สักวันนายจะจำมันได้…”

     

     

    “…”

     

     

    ว่าไงห้าปีที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง..” เอ่ยถามเสียงนุ่มอย่างอ่อนโยน พร้อมกับทีวีที่ฉายภาพค้างเหมือนแผ่นหนังที่ค้างอยู่ภาพเดิม คุโรโกะเบิกตากว้างเมื่อถูกเตือนความจำว่าตนโดนอะไรมาบ้าง

     

     

    “…”

     

     

    เจ็บปวดใช่ไหม…”

     

     

    “…”

     

     

    ทรมานหรือเปล่า…”

     

     

    “…”

     

     

    เท็ตสึยะไม่ว่านายจะเจ็บมากแค่ไหน.. อย่าคิดที่จะฆ่าตัวตายอีก..” อาคาชิเปลี่ยนเสียงโทนนิ่ง คุโรโกะชะงักเล็กน้อยแล้วหลุบตาหนีอีกฝ่าย ภาพจอทีวีเปลี่ยนไปในทันที ฉายภาพต่อมาที่คุโรโกะเดินกลับมาบ้าน เลือนผมสีฟ้าปลิวไหวเดินไปในครัวแล้ว

     

     

    หยิบมีด ?

     

     

    อ่าร่างบางหยิบมีดขึ้นมาจากที่เสียบมีด ดวงตาสีฟ้าเหม่อลอยไม่มีสติ ดวงตายังคงหลงเหลือคราบน้ำตาเอาไว้ให้ประจักว่าร้องไห้มาหนักหน่วงแค่ไหน

     

     

    ฮึก……..” เสียงของคุโรโกะดังออกมาจากทีวี พร้อมกับมีดที่ง้างขึ้นสูง มือบางสั่นไหวหวาดกลัวว่าจะทำหรือไม่ทำดี ความคิดสุดท้ายที่ก่อเกิดในจิตใจถึงขนาดทำให้เขาต้องคิดสั้น

     

     

    ไม่อยากไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป..

     

     

    จนในที่สุด ร่างบางในจอก็ตัดสินใจพุ่งมีดมาที่หัวใจของตน เล็งจุดตายในทีเดียว ดวงตาสีฟ้าในจอข่มตาแน่นเตรียมพร้อมกับการตัดสินใจที่จะเกิดขึ้นในตอนนี้ มีดพุ่งมาด้วยความเร็วสูงด้วยแรงคลับเคลื่อนโดยเจ้าของเลือนผมฟ้า

     

     

    จนมีดมาถึงจุดที่ต้องตายจริงๆ….

     

     

    จู่ๆความมืดก็ปกปิดใบหน้าของคุโรโกะไว้ เสียงทีวีแปรเปลี่ยนเป็นเสียงซ่าๆๆเหมือนทีวีไม่มีคลื่น คุโรโกะสะดุ้งเมื่อมีความมืดมาปกปิดตาของตน จนต้องยกมือขึ้นมาแตะๆก็รับรู้ได้ว่าเป็นมือของอาคาชิ

     

     

    ตั้งใจเอื้อมมือมาปกปิดตาเพื่อไม่ให้เห็นฉากต่อไป

     

     

    ปกปิดทุกความเป็นจริงเอาไว้

     

     

    อย่าทำแบบนั้นอีกนะ.. เท็ตสึยะ…”

     

     

    “…”

     

     

    ผมไม่ชอบเลยที่นายคิดอยากจะตายแบบนั้น…”

     

     

    “…”

     

     

    สัญญากับผมได้ไหมว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก…”

     

     

    ฮึก…..” อาคาชิรับรู้ได้ถึงความเปียกแฉะที่ฝ่ามือ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อรู้ว่านี่คือน้ำตา อาคาชิค่อยๆถอนมือออกจากใบหน้าที่ตอนนี้เปื้อนน้ำตา คุโรโกะกัดปากตัวเองแน่นแล้วปลดปล่อยน้ำตาออกมาอย่างไม่เกรงใจ

     

     

    ดีใจที่ยังคงมีคนคอยโอบกอดยามไม่เหลือใคร

     

     

    ดีใจจนบรรยายออกมาไม่ถูกเลยจริงๆ

     

     

    ผมผมสัญญา…” เอ่ยเอื้อนขยับปากบางขึ้นลงตอบตกลง อาคาชิยิ้มบางแล้วดึงร่างที่กำลังร่ำไห้เข้ามาในอ้อมกอด จับหัวของอีกฝ่ายซุกลงแผ่นอกของตนแน่น

     

     

    ดีมากเท็ตสึยะ…”

     

     

    อาคาชิคุงผมผมเจ็บปวดเหลือเกินฮึก…” ใบหน้าหวานซุกลงแผ่นอกอีกฝ่ายปลดปล่อยน้ำตาใส่เพื่อระบายความเจ็บปวดที่อัดอั้น

     

     

    อ่าผมรู้..ผมรู้…..” เผยแผ่ความอบอุ่นให้อีกฝ่ายอีกครั้งอย่างอ่อนโยน โอบกอดร่างที่อ่อนแอเอาไว้แน่นไม่ปล่อยไปไหน

     

     

    ผมขอโทษที่ปล่อยให้นายเจอเรื่องร้ายๆคนเดียว

     

     

    ฮึกอึก

     

     

    เจอเรื่องร้ายๆมาตั้งห้าปีนายอดทนได้ดีมาก…”

     

     

    ฮื้อ….”

     

     

    ต่อจากนี้ไม่ต้องกลัวแล้วนะเท็ตสึยะ…” อาคาชิคลายอ้อมกอดออกจากคุโรโกะ ประคองใบหน้าที่เปื้อนน้ำตายกขึ้นแล้วขยับหน้าเข้าไปใกล้จนริมฝีปากใกล้จะแนบชิดเข้าหากัน

     

     

    ผมกลับมาแล้วกลับมาเพื่อปกป้องนาย..”

     

     

    ริมฝีปากกระกบลงปากบางของร่างบาง แล้วค่อยๆกดร่างบางแนบนอนลงกับพื้น โดยที่มีแสงสว่างพอมองเห็นมาจากทีวีด้านหลังที่ยังคงสงเสียงน่ารำคาญออกมา

    ดวงตาสีฟ้าเคลิบเคลิ้มลุ่มหลงกับความอ่อนโยนของอีกฝ่ายที่ส่งผ่านเข้ามา

     

     

    ทุกการสัมผัส

     

     

    ทุกการจุมพิต

     

     

    อ่อนโยนอ่าความอ่อนโยนนี้

     

     

    เขาโหยหามาตลอดหลังจากที่มันห่างหายไปนาน

     

     

    อ่าอบอุ่นดีเหลือเกิน

     

     

    อาคาชิถอนใบหน้าออกจากซอกคอที่ตนทำลอยสีแดงเอาไว้หนึ่งจุด ก่อนที่จะเลื่อนใบหน้ามองหน้าร่างบางที่มีอารมณ์หยาดเยิ้มตามใบหน้า แล้วจุมพิตลงข้างขมับอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา

     

     

     

     

    ฝันในคืนนี้ก็ช่วยลืมไปทีเถอะนะเท็ตสึยะ…”

     

     

    จำไว้แค่ว่าความอบอุ่นที่ผมมอบให้นายมาตลอด

     

     

    กลับมาหานายอีกครั้งก็พอ…”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    และทุกการฝันในคืนนั้นก็มักจะมาจบลงที่เช้าวันใหม่ทุกครั้ง คุโรโกะดันร่างของตัวเองที่มีแผลฟกช้ำขึ้นนั่ง มองสภาพของตัวเองที่มีแผลมากมายอีกแล้วเหมือนตอนประถม สมองนึกย้อนไปถึงตอนที่ตนโดนทำร้ายอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่แผ่ซ่านเข้ามาในตัว

     

     

    อ่าหลังจากที่ได้รับอ้อมกอดแสนอ่อนโยนนั้น

     

     

    เขาก็ตรงกลับมาที่บ้านอย่างสติเลือนลอย

     

     

    เขาเข้ามาในครัวหยิบมีด

     

     

    แล้ว….

     

     

     

     

     

    แล้วอะไรต่อนะ ?

     

     

     

     

     

    เขาทำอะไรต่อจากนั้นกันเหรอ ?

     

     

    ถือมีดแล้วง้างขึ้นสูง

     

     

    แล้ว? แล้วอะไรต่อ ?

     

     

    จำไม่ได้เลยความทรงจำขาดห้วงอีกแล้ว

     

     

    รู้ตัวอีกทีก็มานอนบนเตียงแล้วตื่นขึ้นมากับเช้าวันใหม่เสียแล้ว..

     

     

    อาความทรงจำขาดห้วงเหมือนตอนสมัยประถมเลย

     

     

    แต่ทำไมเขากลับรู้สึกดีใจอย่างประหลาด..

     

     

    เหมือนกับว่าทั้งความอ่อนโยน ทั้งความอบอุ่นกลับมาหาเขาอีกครั้ง

     

     

    และก็ความทรงจำที่ขาดๆหายๆก็มาเป็นอีกครั้งในสมัยมัธยม..

     

     

    กลับมาอีกครั้งทำให้เขาดีใจมากเหลือเกิน

     

     

    อ่าความฝันฝันว่าเหมือนสิ่งสำคัญกลับมา

     

     

    อึก..จำไม่ได้อีกแล้ว

     

     

    อ่าชั่งเถอะไม่ต้องไปสนใจก็ได้

     

     

     

    คุโรโกะพยุงร่างของตัวเองไปหยิบเสื้อผ้ามาและก็เข้าไปด้านในห้องน้ำ ทำเช่นนี้วนไปมาเหมือนทุกๆเช้า โดยที่มีสายตาสีแดงจ้องมองมาจากด้านหลัง รอยยิ้มหน้ายกยิ้มเล็กน้อยกับสิ่งที่ร่างบางจำไม่ได้

     

     

    ดีแล้วผมยังไม่อยากให้นายเจอผมในตอนที่นายมีสติครบทุกอย่าง

     

     

    เจอกันแค่ในความฝันที่เลือนรางนั่นก็พอแล้ว

     

     

    อ่าถึงยังไงผมก็อยากจะให้นายได้เจอผมเหมือนกัน

     

     

    ถ้าเจอได้ก็คงจะดี

     

     

    อยากจะขอโทษที่ปล่อยละเลยร่างบางให้เผชิญเรื่องทั้งหมดคนเดียว

     

     

    ต่อจากนี้ไม่ต้องแล้ว เขาจะปกป้องเอง

     

     

    จะปกป้องให้ได้นั่นคือหน้าที่ของผม

     

     

     

     

     

     

    ใช่หน้าที่ที่ต้องทำอย่างสมัครใจ

     

     

    แล้วนี่รู้อะไรไหม ?

     

     

    ต่อจากนี้หน้าที่นั้นจะโดนแย่งไปโดยสิ้นเชิง

     

     

    แย่งไปอย่างไม่มีวันกลับ

     

     

    สิ่งที่โปร่งแสงหรือ จะสู้สิ่งที่มีเนื้อกายจริง

     

     

    สิ่งที่จับต้องไม่ได้หรือ จะสู้สิ่งที่จับต้องได้

     

     

    ต่อให้รักมาเพียงใด ใกล้ชิดมากเพียงใด

     

     

    แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่เห็น ไม่สามารถรับรู้ได้ทุกอย่างก็ไร้ค่า

     

     

    หน้าที่ที่นี้ของอาคาชิกำลังจะโดนช่วงชิง

     

     

    เพราะต่อให้รักมากมายแค่ไหนก็ตาม

     

     

    อีกฝ่ายก็คงจะไม่มีวันได้รับรู้ความรักที่ยิ่งใหญ่นี้ได้












     

    free talk : ตอนหน้านะคะ เป็นตอนสำคัญจริงๆละ โฮะๆๆๆๆๆ 
    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้กันมาตั้งแต่ต้นนะคะ(ได้ข่าวว่าเอ็งพึ่งเปิดเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่.....)
    ยังไงก็ขอบคุณมากๆ >w< เพราะเรื่องนี้ซับซ้อนไม่แพ้ triangle เลยจริงๆ
    เขียนนายโฮกมาก แต่ก็ทำออกมาได้ว่ะ....#งงตัวเองแปป
    รู้สึกเขียนไปสงสารนายน้อยไป ฟฟฟฟฟ 

    ยังไงก็เจอกันตอนหน้านะคะะะะ 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×