คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 03
03
หลังจากคืนวันนั้นที่คุโรโกะเหมือนลืมฝันที่สำคัญไป ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติดีทุกอย่าง ความทรงจำที่ตอนแรกเหมือนขาดๆหายๆก็ไม่มีการขาดห้วงอีก คุโรโกะกลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง แม้เจ้าตัวจะยังมึนงงอยู่ก็ตามว่าทำไมเรื่องแปลกๆพลั่นก็หายไป ?
รู้สึกเหงาอย่างประหลาด ?
แล้วก็มีชื่อของคนที่เขาไม่รู้จักลอยไปมาบนหัวอยู่ตลอด ?
อาคาชิ ? อาคาชิคุง ? ชื่อคุ้นๆแต่กลับจำไม่ได้ว่าใคร…
อ่า…ใครกันนะ ? แล้วเขาเป็นคนยังไงงั้นเหรอ ?
ทำไมรู้สึกโหยอาอีกฝ่ายมากมายถึงเพียงนี้กัน..
และเวลาก็ผ่านเป็นนับปีที่คุโรโกะรู้สึกเดี่ยวดายและโดดเดี่ยวหลังจากนั้น ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรคอยวนเวียนข้างกาย แต่นั่นกลับทำให้เขาเหงา…
เหงา..เหมือนขาดสิ่งสำคัญไป..
เมื่อตอนนั้น หลังจากที่เขาจำความฝันในคืนนั้นไม่ได้ วันต่อมาเขาเดินผ่านร้านขายผลไม้เหมือนทุกๆที เธอเข้ามาทักเด็กหนุ่มพร้อมกับมองซ้ายมองขวาเหมือนกำลังมองหาใครสักคนและเธอก็ออกปากถาม “วันนี้เด็กผู้ชายผมแดงไม่มาด้วยเหรอ?” คุโรโกะสงสัยและงงมาก เขาไม่รู้ว่าเธอหมายถึงใคร
คุโรโกะส่ายหน้าปฏิเสธในเชิงที่ตนคิดว่าไม่รู้ แต่สำหรับเธอหมายถึงว่าไม่ได้มาด้วย คุโรโกะมึนงงว่าเธอนั้นหมายถึงใครกัน ? และเธอก็ยังคงออกปากชมเด็กผมแดงปริศนาที่เคยช่วยเขาจากความตายในตอนนั้น
อ่า…คนที่มาช่วยเขาในตอนรถชน..
อื้ม…ใครกันนะ… สีแดง..
อ่า…จำได้เพียงแค่สีแดง…
ชั่งเถอะ… ไม่ต้องไปคิดมากแล้วกัน
ถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาในวัยประถม ชีวิตของเขาก็ไม่ได้สวยงามขึ้นหรืออย่างไรหลังจากที่เหมือนขาดความอบอุ่นของอ้อมกอดจากใครบางคน คุโรโกะก็ยังคงใช้ชีวิตภายในรั้วโรงเรียนโดยการถูกกลั่นแกล้งในบางครั้งบางครา และทุกครั้งเขาก็มักจะท้อแท้และสิ้นหวังในทุกๆครั้งที่โดนแกล้ง…
แต่บางครั้งเขาก็รู้สึกถึงอ้อมกอดนั้นอีกครั้ง…
ทำให้เขารู้ว่าอ้อมกอดแสนอบอุ่นนั้นยังไม่ได้หายไปไหนตลอดกาล..
อ่า ตอนที่เขาโดนทำร้ายนี้มันเจ็บปวดจริงๆ…
ทั้งๆที่แต่ก่อนเขาไม่เคยรับรู้ถึงความเจ็บปวดและความหวาดกลัวตอนที่โดนแกล้งเลย..
เมื่อก่อนเขาจำไม่รู้ว่าโดนแกล้งยังไง…หรือโดนทำอะไรบ้าง
เพราะเหมือนว่าตอนนั้นความทรงจำของเขาขาดห้วงเหมือนหลับไปเสียเฉยๆ
พอรู้ตัวอีกทีก็ได้แผล และก็มาอยู่ที่ๆใหม่เสียแล้ว…
แต่พอฝันในคืนนั้น ฝันที่เขาจำไม่ได้ว่าฝันเรื่องอะไร
ความทรงจำของคุโรโกะก็ไม่ขาดห้วงอีกเลย
เขารับรู้ถึงความกลัวที่โดนแกล้ง รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่โดนกระทำ…
มันเจ็บปวดมาก…อ่า เจ็บปวดมากจริงๆ…
แต่หลังจากนั้นเขาก็จะได้รับอ้อมกอดอุบอุ่นจากที่ไหนสักแห่งอีกครั้ง
บรรเทาความเหงาและเศร้าในอกได้เพียงเล็กน้อย…
อ่า…โหยหาเหลือเกิน…โหยหายิ่งนัก..
โหยหาคนที่คอยมอบอ้อมกอดแสนอ่อนโยนนี้ให้เหลือเกิน…
อาคาชิคุง…ผมคิดถึงคุณ
“เท็ตสึยะ!!!ตื่นได้แล้วจะสายแล้วนะ!!!”
“!!!!” คุโรโกะสะดุ้งตื่นสุดตัว เส้นผมสีฟ้าชี้ยุ่งกระดกไม่เป็นเส้น กับสีหน้าแตกตื่นหลังจากตื่นนอน ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างตกใจกับเสียงของป้าที่ทุบประตูดังปังๆขัดขึ้นมา ดวงตาสีฟ้าสั่นไหววอกแวกมองข้างตัวอย่างตื่นตกใจ พอรู้ว่ารอบข้างคือห้องของตัวเอง ก็โล่งออกถอนหายใจออกมาสบายใจ
ร่างกายที่สูงยาวเกินประถมเพราะเข้าสูงช่วงมัธยมก้าวลงจากเตียงช้าๆเกาหัวแกรกๆหลังตื่นนอน เหลียวตาสีฟ้าไปมองผ้าห่มสีแดงที่ตอนนี้ถูกพับเก็บไว้ในตู้เป็นอย่างดี
น่าแปลกมากสำหรับคุโรโกะ…
ทุกอย่างที่อบอุ่นและเกี่ยวกับสีแดงนั้น…
พลั่นจะหายไปในพริบตา…
ทั้งความฝันในคืนนั้น.. ทั้งอ้อมกอดอบอุ่นที่ขาดๆหายๆ… ทั้งผ้าห่มที่รักนี่…
แล้วเมื่อกี้? เขาโหยหาคนที่ชื่ออาคาชิงั้นเหรอ ?
ใครกัน ? ใครคืออาคาชิ ?
อึก…ทำไมมันเลือนรางเช่นนี้กันนะ..
อ่า…คิดมากอีกแล้ว..
“ฮึก…” สะบัดหัวไปมาพยายามไล่ความคิดทุกอย่างออกไปจากสมอง ครั้งแล้วครั้งเล่าเขามักที่จะนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ไม่คลี่คลายปมปริศนาอยู่เกือบตลอด คุโรโกะกุมเส้นผมสีฟ้าของตัวเองแน่นอย่างเจ็บปวด อยากนึกเรื่องในอดีตให้ออกเสียที..
เพราะเขารับรู้ได้ว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมากขนาดไหน…
ทำไมถึงนึกไม่ออก..
อึก…อ่า…ชั่ง..ชั่งมันเถอะ..
กระจกที่สะท้อนร่างเลือนผมฟ้าที่นั่งกุมหัวบนเตียงอย่างสับสน ด้านหลังของเขาภายในกระจกมีร่างของใครอีกคนที่นั่งอีกฝากของเตียงหันหลังให้กับคุโรโกะ…
เจ้าของเลือนผมสีแดงยาวพลิ้วไหวกับร่างกายที่โตตามวัยพร้อมกับร่างบาง อาคาชิเอียงหน้าครึ่งซีกหันมามองร่างบางที่นั่งกุมหัวอย่างสับสนและพยายามนึกให้ออก ปากหนาคลียิ้มบางน้อยๆ 5 ปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยออกห่างร่างบางนี้เลย..
ในวัยประถมนั้นเขาตัดสินใจที่จะปล่อยคุโรโกะไป
อ่าแน่นอน…เขาทำไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่…
ทุกครั้งที่ร่างบางโดนแกล้ง เขาทำได้เพียงยืนมองข่มตาหันหน้าหนีพยายามไม่เข้าไปยุ่ง
อ่า…ในตอนนั้นเขาเจ็บปวดมากจริงๆ…
แต่เพื่อตัวของคุโรโกะเอง…เขาจำต้องทำ
เพื่อไม่ให้ตนทำลายชีวิตร่างเล็กไปมากกว่านี้
เลยตัดสินใจเดินออกมาเงียบๆและเฝ้ามองห่างๆ…
และเวลาก็ล่วงเลยมานานจนถึงวัยมัธยม
ร่างบางยังคงติดค้างคาใจเรื่องของเขาไม่เคยเปลี่ยน
นั่นทำให้เขาดีใจมากเสียจริงๆ…
“ขอบคุณนะเท็ตสึยะที่ยังไม่ลืมเรื่องของผม” ภาพในกระจกที่สะท้อนเงาของชายทั้งสองปรากฏใบหน้าหล่อของอาคาชิยกยิ้มดีใจ ก่อนที่อาคาชิจะค่อยๆขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่าย โอบแขนแกร่งเข้ากับร่างบางอยู่ด้านหลัง คุโรโกะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากด้านหลัง ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสนี้ได้
…อาคาชิคุง ?
ทำไมชื่อของใครสักคนก็โผล่ขึ้นมาจากหัวของเขาได้กันนะ…
“ผมดีใจจริงๆที่นายยังพยายามนึกถึงเรื่องของผม” พริ้มหลับตาสีแดงลงโอบกอดร่างที่มีเนื้อหนังของคุโรโกะไว้แน่น แขนที่โปร่งแสงของตนโอบรอบคออีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนจนคุโรโกะรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนนี้
“เท็ตสึยะ!!!!!” เสียงของป้าดังขึ้นด้านนอกห้อง คุโรโกะสะดุ้งสุดตัวตกใจในเวลานั้นความอบอุ่นก็พลั่นหายไปด้วย คุโรโกะรีบหยิบเสื้อผ้าและอื่นๆรีบเตรียมตัวไปโรงเรียนมัธยมที่ตนต้องไปเรียนหลังจากนี้
ดวงตาสีแดงที่หลบอยู่ในมุมเหลือบมองคุโรโกะที่ทำทุกอย่างเร่งด่วนนิ่งก่อนที่จะยิ้มจางๆ ร่างที่โปร่งแสงอยู่แล้วค่อยๆหายไปหลังจากที่ได้โอบกอดร่างเล็กๆนี้ไว้
แม้เวลาจะผ่านไปนานก็ตาม…
คุโรโกะ เท็ตสึยะในสายตาของอาคาชิก็ยังคงอ่อนแอเหมือนเดิม..
ยังคงเหมือนเดิม..ตั้งแต่สมัยที่พบเจอกันครั้งแรกแล้ว…
เช้าวันนี้เป็นวันที่เขารับรู้ได้ว่าอ้อมกอดแสนอบอุ่นนั้นกลับมาโอบรัดร่างกายของเขาอีกครั้ง มันเป็นเรื่องที่น่ายินดี…แต่ก็ต้องลืมเลือนเรื่องในตอนนั้นไปเมื่อย่างเข้ามาในโรงเรียนมัธยมที่ตนเรียนจนมาอยู่ปีที่สอง
ทุกอย่างมันชั่งเหมือนเดิมดั่งสมัยประถมจริงๆ…คุโรโกะที่เข้ามาในที่นี่ใหม่ๆคราแรกอยากจะดีใจ ทีได้หลุดพ้นห่วงแห่งการกลั่นแกล้งตั้งแต่สมัยประถม… แต่มันไม่ใช่.. เขายังคงด้อยกว่าคนอื่นเสมอ…อ่าทำไมกันนะ..
เพราะอะไรกันนะเขาถึงได้ดูด้อยและดูอ่อนแอกว่าทุกคนไปเสียตลอด
ผลัก!!
“โอ้ย!!” แผ่นหลังกระแทกเข้ากับตู่ล็อคเกอร์เก็บรองเท้าในยามเย็น ใบหน้าหวานเหยเกเจ็บปวดเมื่อถูกคนทั้งสามยืนล้อมปิดกั้นทางหนี มือหนาของใครอีกคนที่เป็นคนผลักเขาจิกเส้นผมสีฟ้าของเขาเงยหน้าขึ้น
“อย่าซ่ามาเข้าใกล้แฟนฉันอีกนะเว้ย!!”
“ผม…ผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น….อั๊ก!!” ทุกเสียงหวานที่พร้ำขอร้องหายไปเมื่อหมัดหนักกระแทกเข้ามาที่ท้องของเขาจนจุกร้าวไปทั่วร่าง ใบหน้าหวานสำลักน้ำลายจุกท้องจนทรุดนั่งลงกับพื้นกุมท้องแน่นอย่างปวดร้าวทรมาน
โหดร้าย…ที่นี่มันโหดร้ายกว่าสมัยประถมนัก…
โหดร้ายเกินไปที่เขาจะรับไหว…
ฮึก… ทำไมชีวิตที่มีอยู่ของเขาถึงได้ดูไร้ค่านัก ?
เขาเกิดมาเพื่ออะไรกัน ?
เพื่อมาให้ผู้อื่นเหยียบย้ำงั้นเหรอ …
“อ่อนแอชิบหายเลยแม่ง กลับเว้ยน่าเบื่อชิบหาย”
“เออ นึกว่าจะเก่ง”
“จำใส่หัวไว้ อย่ามายุ่งกับแฟนฉันอีก”
“…” ร่างของคนทั้งสามไม่ลืมที่จะใช้เท้าเหยียบและผลักร่างของคุโรโกะที่กุมท้องแน่น คุโรโกะล้มลงนอนพร้อมกับกุมท้องที่จุกแน่น ดวงตาสีฟ้าเหม่อมองภายนอกกระจกที่ส่องแสงสีสมแสดอย่างเจ็บปวด ทุกข์ทรมานกับสิ่งที่โดนกระทำเมื่อครู่..
มันโหดร้าย…โหดร้ายมากกว่าที่ผ่านมา..
“ฮึก….ฮือ..” หลับตาแน่นจนน้ำตารินไหลทะลักออกมา คุโรโกะพยายามลุกขึ้นนั่งพิงหลังกับตู้ล็อคเกอร์ มือทั้งสองกำจนเล็บจิกเข้าเนื้อ กัดปากแน่นกลั้นเสียงสะอึ้นในลำคอเอาไว้ น้ำตายังคงรินไหลออกมาพร้อมร่างที่สั่นไหวกลั้นเสียงสะอึ้น
เจ็บปวด…เจ็บปวดเหลือเกิน
ทำไมมีแค่เขาที่ต้องพบเจอแต่เรื่องแบบนี้..
ทำไมต้องเป็นเขา..
ตลอดห้าปีที่ผ่านมาต้องถูกคนอื่นเหยียบย้ำไปถึงไหน ?
ไม่อยากรับรู้ความเจ็บปวดนี้อีกแล้ว…
อาคาชิยืนมองร่างบางที่นั่งร้องไห้อย่างปวดร้าว ปากหนาที่เคยยิ้มอบอุ่นในตอนแรก แต่ในครานี้ไร้ซึ่งรอยยิ้มเหมือนทุกๆที ขยับร่างกายที่โปร่งแสงของตนไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าคุโรโกะ ดวงตาสีแดงว่างเปล่าไร้ความนึกคิดจ้องมองใบหน้าที่เจ็บปวดไปถึงหัวใจ…
เขาในตอนนี้ถึงได้เพียงแค่…โอบกอดร่างบาง…
อ่า…เขาขยับแขนโปร่งใสแล้วโอบกอดร่างที่สั่นสะท้านไว้แน่น..
ขยับใบหน้าหล่อเข้าไปซุกคอของร่างบางที่ปลดปล่อยความเศร้าผ่านน้ำตา ปิดเปลือกตาที่มีดวงตาสีแดงลงช้าๆ พยายามถ่ายทอดความอบอุ่นให้ร่างบางนี้พอสบายใจ…
อ่า…คุโรโกะสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนนี้อีกครั้ง..
ความอ่อนโยนนี้มักจะโผล่มาเสมอๆหลังจากที่เขาท้อแท้…
คุโรโกะเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรงเจ็บปวด นั่งนิ่งให้ความอ่อนโยนครอบคลุมร่างที่หวาดกลัวและเจ็บปวด ปากบางขยับขึ้นลงช้าๆอย่างปวดร้าว
“ช่วย…ช่วยผมด้วย…”
“ช่วยผมด้วย…อาคาชิคุง…”
และก็เผลอ…พร้ำน้องนึกหาชายที่ตนไม่รู้จักอีกครั้งอย่างลืมตัว
“ฮึก…ฮือ…” เสียงสะอื้นดังออกมาจากปากของคุโรโกะ เท็ตสึยะ ในตอนนี้เขาโตเป็นหนุ่มบ่าวจืดชืดคนนึง นั่งกอดเข่าแล้วซุกหน้าร้องไห้ลงกับซอกขาที่ตั้งชันขึ้น ความมืดที่มีเพียงแสงสว่างเล็กๆจากจอทีวีที่ฉายภาพของตนกำลังโดนรุมกลั่นแกล้ง ฉายวนไปมาเหมือนคอยตอกย้ำสิ่งที่เจอ
ยิ่งดูยิ่งเจ็บปวด ยิ่งดูยิ่งท้อแท้
“เท็ตสึยะ…ไมต้องร้องไห้หรอก..” จู่ๆก็มีมือหนาวางแปะลงที่ศีรษะเส้นผมสีฟ้าแผ่วเบา คุโรโกะเงยหน้าขึ้นมองชายผมสีแดงที่อายุ15เท่าๆกับคน อาคาชิยิ้มอ่อนโยนแล้วลูบหัวเขาไปมาแผ่วเบาละมุนละไม
“…คุณเป็นใครกันครับ…” เอ่ยถามทั้งน้ำตาริน ดวงตาสีฟ้าแดงก่ำรวดร้าวทรมาน
“…”
“ทำไมผมถึงได้คุ้นเคยกับคุณถึงขนาดนี้…”
“…”
“ผมไม่รู้จักคุณ…แต่ผมกลับรู้จักชื่อของคุณ…”
“…”
“อาคาชิคุง….อาคาชิคุง…อ่า..” พร้ำเพ้อเรียกหาชื่อคนที่ตนไม่รู้จัก อาคาชิกำมือแน่นสักพักก่อนที่จะคลายมือที่กำออกช้าๆ แล้วขยับไปนั่งข้างๆคุโรโกะ โอบไหลแล้วบังคับให้หัวของคุโรโกะอิงซบไหลของตน
“…ผมคืออาคาชิ เซย์จูโร่…”
“…”
“ผมคือคนที่อยู่เคียงข้างเท็ตสึยะมาตลอดตั้งแต่เราพบเจอกัน…”
“พบเจอกัน?” ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วหลังจากที่โดนอีกฝ่ายแตะตัว คุโรโกะปรือตาแถบจะหลับ อาคาชิยิ้มมุมปากบางๆแล้วลูบหัวอีกฝ่ายที่อิงซบไหลตนเบาๆ
“สักวันนายจะจำมันได้…”
“…”
“ว่าไง…ห้าปีที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง..” เอ่ยถามเสียงนุ่มอย่างอ่อนโยน พร้อมกับทีวีที่ฉายภาพค้างเหมือนแผ่นหนังที่ค้างอยู่ภาพเดิม คุโรโกะเบิกตากว้างเมื่อถูกเตือนความจำว่าตนโดนอะไรมาบ้าง
“…”
“เจ็บปวดใช่ไหม…”
“…”
“ทรมานหรือเปล่า…”
“…”
“เท็ตสึยะ…ไม่ว่านายจะเจ็บมากแค่ไหน.. อย่าคิดที่จะฆ่าตัวตายอีก..” อาคาชิเปลี่ยนเสียงโทนนิ่ง คุโรโกะชะงักเล็กน้อยแล้วหลุบตาหนีอีกฝ่าย ภาพจอทีวีเปลี่ยนไปในทันที ฉายภาพต่อมาที่คุโรโกะเดินกลับมาบ้าน เลือนผมสีฟ้าปลิวไหวเดินไปในครัวแล้ว…
หยิบมีด ?
อ่า…ร่างบางหยิบมีดขึ้นมาจากที่เสียบมีด ดวงตาสีฟ้าเหม่อลอยไม่มีสติ ดวงตายังคงหลงเหลือคราบน้ำตาเอาไว้ให้ประจักว่าร้องไห้มาหนักหน่วงแค่ไหน
“ฮึก……..” เสียงของคุโรโกะดังออกมาจากทีวี พร้อมกับมีดที่ง้างขึ้นสูง มือบางสั่นไหวหวาดกลัวว่าจะทำหรือไม่ทำดี… ความคิดสุดท้ายที่ก่อเกิดในจิตใจถึงขนาดทำให้เขาต้องคิดสั้น…
ไม่อยาก…ไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป..
จนในที่สุด ร่างบางในจอก็ตัดสินใจพุ่งมีดมาที่หัวใจของตน เล็งจุดตายในทีเดียว ดวงตาสีฟ้าในจอข่มตาแน่นเตรียมพร้อมกับการตัดสินใจที่จะเกิดขึ้นในตอนนี้ มีดพุ่งมาด้วยความเร็วสูงด้วยแรงคลับเคลื่อนโดยเจ้าของเลือนผมฟ้า
จนมีดมาถึงจุดที่ต้องตายจริงๆ….
จู่ๆความมืดก็ปกปิดใบหน้าของคุโรโกะไว้ เสียงทีวีแปรเปลี่ยนเป็นเสียงซ่าๆๆเหมือนทีวีไม่มีคลื่น คุโรโกะสะดุ้งเมื่อมีความมืดมาปกปิดตาของตน จนต้องยกมือขึ้นมาแตะๆก็รับรู้ได้ว่าเป็นมือของอาคาชิ…
ตั้งใจเอื้อมมือมาปกปิดตาเพื่อไม่ให้เห็นฉากต่อไป…
ปกปิดทุกความเป็นจริงเอาไว้…
“อย่าทำแบบนั้นอีกนะ.. เท็ตสึยะ…”
“…”
“ผมไม่ชอบเลยที่นายคิดอยากจะตายแบบนั้น…”
“…”
“สัญญากับผมได้ไหมว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก…”
“ฮึก…..” อาคาชิรับรู้ได้ถึงความเปียกแฉะที่ฝ่ามือ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อรู้ว่านี่คือน้ำตา อาคาชิค่อยๆถอนมือออกจากใบหน้าที่ตอนนี้เปื้อนน้ำตา คุโรโกะกัดปากตัวเองแน่นแล้วปลดปล่อยน้ำตาออกมาอย่างไม่เกรงใจ
ดีใจ…ที่ยังคงมีคนคอยโอบกอดยามไม่เหลือใคร
ดีใจ…จนบรรยายออกมาไม่ถูกเลยจริงๆ
“ผม…ผม…สัญญา…” เอ่ยเอื้อนขยับปากบางขึ้นลงตอบตกลง อาคาชิยิ้มบางแล้วดึงร่างที่กำลังร่ำไห้เข้ามาในอ้อมกอด จับหัวของอีกฝ่ายซุกลงแผ่นอกของตนแน่น
“ดีมากเท็ตสึยะ…”
“อาคาชิคุง…ผม…ผมเจ็บปวดเหลือเกิน…ฮึก…” ใบหน้าหวานซุกลงแผ่นอกอีกฝ่ายปลดปล่อยน้ำตาใส่เพื่อระบายความเจ็บปวดที่อัดอั้น
“อ่า…ผมรู้..ผมรู้…..” เผยแผ่ความอบอุ่นให้อีกฝ่ายอีกครั้งอย่างอ่อนโยน โอบกอดร่างที่อ่อนแอเอาไว้แน่นไม่ปล่อยไปไหน
“ผมขอโทษที่ปล่อยให้นายเจอเรื่องร้ายๆคนเดียว”
“ฮึก…อึก”
“เจอเรื่องร้ายๆมาตั้งห้าปี…นายอดทนได้ดีมาก…”
“ฮื้อ….”
“ต่อจากนี้ไม่ต้องกลัวแล้วนะเท็ตสึยะ…” อาคาชิคลายอ้อมกอดออกจากคุโรโกะ ประคองใบหน้าที่เปื้อนน้ำตายกขึ้นแล้วขยับหน้าเข้าไปใกล้จนริมฝีปากใกล้จะแนบชิดเข้าหากัน…
“ผมกลับมาแล้ว…กลับมาเพื่อปกป้องนาย..”
ริมฝีปากกระกบลงปากบางของร่างบาง แล้วค่อยๆกดร่างบางแนบนอนลงกับพื้น โดยที่มีแสงสว่างพอมองเห็นมาจากทีวีด้านหลังที่ยังคงสงเสียงน่ารำคาญออกมา
ดวงตาสีฟ้าเคลิบเคลิ้มลุ่มหลงกับความอ่อนโยนของอีกฝ่ายที่ส่งผ่านเข้ามา
ทุกการสัมผัส
ทุกการจุมพิต
อ่อนโยน…อ่าความอ่อนโยนนี้…
เขาโหยหามาตลอดหลังจากที่มันห่างหายไปนาน…
อ่า…อบอุ่นดีเหลือเกิน…
อาคาชิถอนใบหน้าออกจากซอกคอที่ตนทำลอยสีแดงเอาไว้หนึ่งจุด ก่อนที่จะเลื่อนใบหน้ามองหน้าร่างบางที่มีอารมณ์หยาดเยิ้มตามใบหน้า แล้วจุมพิตลงข้างขมับอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา
“ฝันในคืนนี้…ก็ช่วยลืมไปทีเถอะนะเท็ตสึยะ…”
“จำไว้แค่ว่า…ความอบอุ่นที่ผมมอบให้นายมาตลอด”
“กลับมาหานายอีกครั้งก็พอ…”
และทุกการฝันในคืนนั้นก็มักจะมาจบลงที่เช้าวันใหม่ทุกครั้ง คุโรโกะดันร่างของตัวเองที่มีแผลฟกช้ำขึ้นนั่ง มองสภาพของตัวเองที่มีแผลมากมายอีกแล้วเหมือนตอนประถม สมองนึกย้อนไปถึงตอนที่ตนโดนทำร้ายอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่แผ่ซ่านเข้ามาในตัว
อ่า…หลังจากที่ได้รับอ้อมกอดแสนอ่อนโยนนั้น
เขาก็ตรงกลับมาที่บ้านอย่างสติเลือนลอย…
เขาเข้ามาในครัว…หยิบมีด…
แล้ว….
แล้วอะไรต่อนะ ?
เขาทำอะไรต่อจากนั้นกันเหรอ ?
ถือมีดแล้วง้างขึ้นสูง
แล้ว? แล้วอะไรต่อ ?
จำไม่ได้เลย…ความทรงจำขาดห้วงอีกแล้ว…
รู้ตัวอีกทีก็มานอนบนเตียงแล้วตื่นขึ้นมากับเช้าวันใหม่เสียแล้ว..
อา…ความทรงจำขาดห้วงเหมือนตอนสมัยประถมเลย…
แต่ทำไม…เขากลับรู้สึกดีใจอย่างประหลาด..
เหมือนกับว่าทั้งความอ่อนโยน ทั้งความอบอุ่นกลับมาหาเขาอีกครั้ง
และก็ความทรงจำที่ขาดๆหายๆก็มาเป็นอีกครั้งในสมัยมัธยม..
กลับมาอีกครั้งทำให้เขาดีใจมากเหลือเกิน…
อ่า…ความฝัน…ฝันว่าเหมือนสิ่งสำคัญกลับมา…
อึก..จำไม่ได้อีกแล้ว…
อ่า…ชั่งเถอะ…ไม่ต้องไปสนใจก็ได้…
คุโรโกะพยุงร่างของตัวเองไปหยิบเสื้อผ้ามาและก็เข้าไปด้านในห้องน้ำ ทำเช่นนี้วนไปมาเหมือนทุกๆเช้า โดยที่มีสายตาสีแดงจ้องมองมาจากด้านหลัง รอยยิ้มหน้ายกยิ้มเล็กน้อยกับสิ่งที่ร่างบางจำไม่ได้…
ดีแล้ว…ผมยังไม่อยากให้นายเจอผมในตอนที่นายมีสติครบทุกอย่าง
เจอกันแค่ในความฝันที่เลือนรางนั่นก็พอแล้ว…
อ่า…ถึงยังไงผมก็อยากจะให้นายได้เจอผมเหมือนกัน…
ถ้าเจอได้…ก็คงจะดี…
อยากจะขอโทษที่ปล่อยละเลยร่างบางให้เผชิญเรื่องทั้งหมดคนเดียว
ต่อจากนี้ไม่ต้องแล้ว… เขาจะปกป้องเอง…
จะปกป้องให้ได้…นั่นคือหน้าที่ของผม…
ใช่…หน้าที่ที่ต้องทำอย่างสมัครใจ
แล้วนี่รู้อะไรไหม ?
ต่อจากนี้หน้าที่นั้นจะโดนแย่งไปโดยสิ้นเชิง…
แย่งไปอย่างไม่มีวันกลับ…
สิ่งที่โปร่งแสงหรือ จะสู้สิ่งที่มีเนื้อกายจริง…
สิ่งที่จับต้องไม่ได้หรือ จะสู้สิ่งที่จับต้องได้…
ต่อให้รักมาเพียงใด ใกล้ชิดมากเพียงใด
แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่เห็น ไม่สามารถรับรู้ได้…ทุกอย่างก็ไร้ค่า…
หน้าที่ที่นี้ของอาคาชิ…กำลังจะโดนช่วงชิง…
เพราะต่อให้รักมากมายแค่ไหนก็ตาม
อีกฝ่ายก็คงจะไม่มีวันได้รับรู้ความรักที่ยิ่งใหญ่นี้ได้…
free talk : ตอนหน้านะคะ เป็นตอนสำคัญจริงๆละ โฮะๆๆๆๆๆ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้กันมาตั้งแต่ต้นนะคะ(ได้ข่าวว่าเอ็งพึ่งเปิดเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่.....)
ยังไงก็ขอบคุณมากๆ >w< เพราะเรื่องนี้ซับซ้อนไม่แพ้ triangle เลยจริงๆ
เขียนนายโฮกมาก แต่ก็ทำออกมาได้ว่ะ....#งงตัวเองแปป
รู้สึกเขียนไปสงสารนายน้อยไป ฟฟฟฟฟ
ยังไงก็เจอกันตอนหน้านะคะะะะ
ความคิดเห็น