คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 02
02
คุโรโกะเดินมาที่โรงเรียนประถมเหมือนทุกๆวัน ในเช้าที่แจ่มใส ใบหน้าไร้อารมณ์เดินไปก้มอ่านหนังสือในมือไปด้วยอย่างเชื่องช้า ดวงตาสีฟ้าหมองไร้อ่านตัวหนังสือวรรณกรรมที่ตนชื่นชอบมาตลอดทาง พอพ่อแม่เสียไป เขาก็เอาแต่ร้องไห้มาตลอด จนหนังสือที่เคยชอบอ่านหนังสือ พลั่นเปียกน้ำตาของเขาไปด้วย
…แต่ตอนนั้นก็มีอ้อมกอดอุ่นโอบมาจากด้านหลัง
ความรู้สึกที่รับรู้ได้ว่าอ้อมกอดนั้นกำลังปลอบประโลมเขาอย่างแผ่วเบา…
ถ้าหากอ้อมกอดนั้นแปลได้เป็นภาษาก็คงจะเป็น…
ไม่เป็นไร ไม่ต้องร้องไห้นะ
นายยังมีผม มีผมอยู่เคียงข้างนาย
นายยังมีผม….ผมที่รักนายมาตลอด..
อ่า… ความรู้สึกจากอ้อมกอดนั้นมีหลากหลายมากมายเสียจริง
แต่..ความรู้สึกอบอุ่นนั้นมาจากไหนกันนะ ?
แล้วทำไมเขาถึงรู้ความหมายของอ้อมกอดนั้นได้แม้จะไม่มีเสียงหรือคำพูด…
อ่า…เขาไม่รู้อะไรเลยในเวลานั้น..
สิ่งที่รู้ได้คือ… มันอบอุ่นเหลือเกิน.. เขาชอบอ้อมกอดในตอนนั้นมาก..
และหลังจากนั้นเวลาที่เขา ท้อแท้ หรือเหนื่อยล้า
จะมีอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั้นปรากฏออกมาเสมอๆ…
จากใครกันนะ…?
“หนูระวังรถ!!!!”
คุโรโกะสะดุ้งสุดตัว เงยหน้าจากหนังสือแล้วมองไปด้านข้างของตัว ปรากฏรถพ่วงที่ผ่าไฟแดงทางข้ามม้าลายมา มันพุ่งตัวมาด้วยความเร็วสูงและด้านหน้าของรถกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้เขา….
และมัน.. กำลังจะพุ่งมาชนเขา…
สมองของคุโรโกะในตอนนั้นด้านช้ามึนคิดอะไรไม่ออกอีก
สิ่งที่คิดได้ในเวลานั้นคือ….
ตาย…
เขาต้องตายแน่…อ่า ตายงั้นเหรอ…
สมองของเด็กประถมที่ประมวลผล กำลังจะโดนรถพ่วงชนจนแหลกเละสินะ ?
งั้นสินะ… อีกไม่กี่วิข้างหน้าเขาก็จะตายสินะ…
เห้อ… ดีเลย.. เขาจะได้ไปพบเจอพ่อแม่บนสวรรค์
จะได้พบกัน…อีกครั้งบนสวรรค์…
ชั่งน่ายินดียิ่ง.สำหรับสภาพการเป็นอยู่ของคุโรโกะในตอนนี้..
โดนเพื่อนกลั่นแกล้ง
โดนประเมินค่าตกต่ำ…
อ่า..ถ้าตายไปก็คงจะดี…
ใช่หละ…ดีแล้วจริงๆ…
“ผมไม่ยอมให้เท็ตสึยะตายหรอก”
พรึ่บ!!!
ผลัก!!!
“อั๊ก!!!”
เสียงหวานร้องดังลั่นเจ็บปวด ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก มากเกินกว่าที่คุโรโกะจะรับรู้ได้ จู่ๆก็มีแรงกระชากมาจากด้านหลัง เหวี่ยงเขาออกมาจากเป้าหมายที่จะโดนชน จนร่างของคุโรโกะกระแทกเข้ากับพื้นบนฟุตบาท ปวดระบมไปทั่วสะโพกที่เหมือนมีใครบางคนดึงเขาไม่ให้โดนแรงปะทะเข้ากับรถพ่วง
โครม!!!!
เสียงกระแทกดังสนั่นไปทั่วบริเวณ คุโรโกะนิ่วหน้าเจ็บปวดสะโพกที่ทิ้งตัวเต็มแรงลงกับพื้นฟุตบาท ร้าวไปถึงกระดูก เด็กน้อยผมฟ้าค่อยๆเปิดตาขึ้นช้าๆ เงยหน้าขึ้นมองภาพตรงหน้าว่าเกิดอะไรขึ้น ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างสุดเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏแก่สายตา
ภาพตรงหน้าที่รถพ่วงชนเข้ากันข้างทางเข้ากับร้านขายเค้กเสียจนร้านพังยับเยิน และมีกลุ่มควันลอยขึ้นมาและเริ่มมีร่องรอยของควันเพลิงขนาดย่อม คุโรโกะที่นั่งทรุดกับพื้นสั่นเทาหวาดกลัวกับภาพที่เห็น
เมื่อกี้.. เขาเกิดโดนชน..
เกือบตาย…เพราะจากแรงที่รถพุ่งมา…
ชนเขาทีเดียวร่างกายแหลกสลายแน่…
แล้วเขา…แล้วทำไมเขาถึงรอดมาได้ ?
ใครเป็นคนดึงเขาออกมาจากวงจรที่รถกำลังจะพุ่งมาชนกัน ?
“หนู!! หนูผมสีฟ้าตรงนั้นเป็นยังไงบ้างจ้ะ!! เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม ปลอดภัยใช่ไหม!!” เสียงตะโกนลั่นของสาววัยกลางคนร้านขายผลไม้ดังขึ้น แล้ววิ่งมาพยุงร่างของเด็กน้อยไว้ คุโรโกะตัวยังคงสั่นเทา และน้ำตาก็เริ่มคลอเบ้าเมื่อรู้ว่าตนเกือบตาย
ความกลัวย่อมเกาะติดจิตใจ…
“ฮึก…ไม่…ไม่เป็นอะไรครับ..” ยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาแล้วตอบคำถามของอีกฝ่าย เธอลูบหัวเด็กน้อยอย่างเป็นห่วงเป็นใย เพราะทุกๆวันที่ไปเรียน เด็กผมฟ้าคนนี้จะเดินผ่านหน้าร้านเธอเสมอๆ
“ไม่ต้องกลัวนะ เธอปลอดภัยแล้ว” เธอยิ้มหวานให้เธอน้อยสบายใจ คุโรโกะเงยหน้ามองเธอทั้งน้ำตา ก่อนที่เธอจะพาเขาไปนั่งในร้านเพื่อรอให้เด็กตัวน้อยๆทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ฃ
เธอวางแก้วน้ำส้มให้เด็กตรงหน้าอย่างอ่อนโยน คุโรโกะพยักหน้าขอบใจแล้วยกมันขึ้นดื่มตามมารยาท หญิงสาวนั่งอีกฝั่งตรงข้ามมองใบหน้าของคุโรโกะที่ไร้ซึ่งแผลใดๆ
รอดมาได้ยังไงกัน ?
“ตอนแรกฉันตกใจมากเลยนะ นึกว่าเธอจะไม่รอดซะแล้ว”
“…ผม….ผมก็คิดว่าจะตายแล้วเหมือนกัน…” ตอบมาด้วยเสียงสั่นครือ รู้สึกละอายที่ตอนนั้นคิดว่าดีแล้วที่ต้องตาย เขารู้สึกผิดมากจริงๆ
“โชคดีจังนะที่มีคนช่วยเธอทัน” เธอยิ้มละมุนตอบ คุโรโกะเอียงคอสงสัย
ใครช่วยเขางั้นเหรอ ?
“มีคนช่วยผม ?”
“ก็ใช่น่ะสิ ก็คนที่มาด้วยกับเธอไง”
“มากับผม ?”
อะไร? เขางงไปหมดแล้ว
ใครมากับเขากัน ?
เขามาคนเดียวตะหาก
“อ้าว ก็เด็กผู้ชายผมสีแดงไงที่เดินมากับเธอแล้วก็ช่วยเธอ”
“เอ๋!?” คุโรโกะชะงักถือแก้วค้างกลางอากาศ เธอจึงพูดต่อ
“เด็กคนนั้นช่วยเธอได้อย่างหวุดหวิดเลยนะ ดึงคอเสื้อเธอจากด้านหลังจนเธอรอด ไม่โดนรถชนเสียก่อน” คุโรโกะอ้าปากค้าง ตกใจกับสิ่งที่เธอปาก เธอเล่าไปมาอย่างปลอดโปร่งใจที่เขารอดมาได้ แค่นั่นยิ่งทำให้คุโรโกะตกใจมากขึ้น
เขา..เดินมาคนเดียวนะ
ไม่ได้มากับใครเลย
เด็กผมสีแดง ?
ผมสีแดงเหรอ ?
ทำไม…เหมือนเขาจะคุ้นๆ…
หลังจากนั้นคุโรโกะก็โน้มตัวขอบคุณแม่ค้าขายผลไม้ระแวงนั้น เธอยิ้มแล้วโบกมือบายคุโรโกะที่เดินจากไปพร้อมกับหยิบหนังสือขึ้นมาพับเก็บใส่กระเป๋าแล้วเดินจากไป เธอทอดมองหนุ่มผมฟ้าที่เดินผ่านอุบัติเหตุเมื่อครู่แล้วเดินมุ่งหน้าไปที่โรงเรียน
“ดูแลคุโรโกะคุงดีๆนะ พ่อหนูผมสีแดง”
อ่า…ภาพที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้คือ
เด็กชายผมสีแดงที่หันมายิ้มตอบให้เธอแล้วกอบกุมจับมือคุโรโกะไว้แน่นแล้วเดินไปด้านหน้าพร้อมกัน
คราแรกเธอแปลกใจที่คุโรโกะตกใจกับสิ่งที่เธอเห็นและบอกไปว่าเด็กผมแดงช่วยไว้
แต่เธอก็ไม่อยากจะถามมากเท่าไหร่
เอาเป็นว่า โชคดีแล้วที่เด็กผมแดงคนนั้นช่วยคุโรโกะเอาไว้ทัน…
คุโรโกะเดินเข้ามาในโรงเรียนสีหน้ายังคงหลงเหลือความหวาดกลัวเอาไว้ เขายังหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้
และเขาก็ ได้ยินเสียงของใครซักคนกระซิบข้างหูเขา
ก่อนที่เขาจะโดนเหวี่ยงออกมานอกวงที่รถจะพุ่งชน
อ่า… เหมือนกับว่าชีวิตของคุโรโกะกำลังถูกปกป้องจากใครสักคน..
“เห้ยนั่น ไอ้คนที่แทงโยชิกับโอดะเมื่อวาน!!”
“อย่าไปใกล้มันนะ เดี๋ยวโดนแทงเหมือนสองคนเมื่อวาน”
“โอ้ย ฉันกลัวมันจัง”
“ฉันเห็นตอนมันทำด้วยนะ แปลกทำไมวันนี้ตามันเป็นสีฟ้า ไม่ใช่สีแดงเหมือนตอนที่แทงสองคนนั้น”
“ชู้ว์!!! เดี๋ยวมันก็ได้ยินหรอก”
คุโรโกะหยุดเดินชะงักมองเด็กนักเรียนคนอื่นๆที่อยู่รอบข้าง มองปากของพวกเขาขยับขึ้นลงพูดอะไรบางอย่างรัวๆซึ่งเขาไม่ได้ยิน…
อ่า..ก็เขาไม่ได้ยินก็ถูกแล้ว…
เพราะมีคนคนนึงกำลังปิดกกหูของคุโรโกะเอาไว้แน่น…
เป็นคนที่คุโรโกะและคนรอบข้างไม่สามารถมองเห็นได้…
และเป็นคนที่คอยปกป้องคุโรโกะตลอดมา
ค่อยดูแลร่างบางตลอดมา
อ่าหะ… แค่เสียงซุบซิบนินทานี้ถ้าหากร่างบางได้ยินเข้า…
หัวใจต้องสลายแน่…
เขาจึงจำต้องปิดหูทั้งสองข้างเอาไว้แน่น…
“ไม่ต้องไปฟังเสียงคนพวกนี้หรอกเท็ตสึยะ”
“พวกเขาก็แค่คนที่คอยเอาแต่ชี้หน้าด่านายไปวันๆ”
“ไม่ต้องฟังเสียงคนที่เอาแต่ว่านายหรอก”
“ผมอยากให้นายได้ยินเสียงของผม…”
“แต่คงไม่มีวันนั้นแน่…”
“อ่า…ต่อจากนี้ไปผมคิดว่านายต้องได้เจออะไรที่โหดร้ายแน่เลย…”
“งั้นผมขอ….เจอเรื่องร้ายๆนั้นแทนเท็ตสึยะแล้วกันนะ…”
“แล้วเจอกันในความฝันนะ เท็ตสึยะ”
ความมืดบนเพดานปรากฏขึ้นอีกครั้งหลังจากนั้น… คุโรโกะจำได้ว่า.. ตอนนั้นเขาเกือบโดนรถชน.. และพอเดินเข้ามาในโรงเรียน ความทรงจำที่ใช้ชีวิตในโรงเรียนก็ดับวูบหายไปเหมือนขาดห้วง
รู้ตัวอีกทีก็กลับมานอนที่บ้านห้องของตัวเองซะแล้ว ดวงตาสีฟ้าเหม่อมองเพดานห้องอย่างเหม่อลอย ก่อที่จะค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่ง และเมื่อขยับเล็กน้อย เขานิ่วหน้าเจ็บไปตามตัว
ค่อยๆสังเกตบริเวณแขน ขา มือ เข่า ศอก และอีกอื่นๆที่ตอนนี้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นมา และถูกปิดตายด้วยพาสเตอร์หรือผ้าพันแผลไว้อย่างดี
ได้แผลมาตอนไหน ?
แล้วทำแผลตอนไหน ?
อ่าแล้วเขากลับมาที่บ้านได้ยังไงหล่ะเนี้ย…
จำได้ว่าล่าสุดนั้นเขาพึ่งจะเดินถึงโรงเรียนเองนะ…
แล้วตอนนี้ก็มาอยู่ทีบ้านแบบงงๆซะแล้ว ?
เขาเอียงคอหันไปมองนาฬิกาบนฝาพนังอย่างอ่อนล้าตามร่างกาย ดวงตาสีฟ้าพร่าเลือนอย่างอ่อนแรง เวลาบอกว่าห้าทุ่มแล้ว…
อ่า…นี่เขาทานข้าวหรือยังนะ ?
เหนื่อยจัง…ง่วงจัง…
อ่อนล้าตามร่างกายสุดๆ…
ทำไมวันนี้เกิดแต่เรื่องแปลกๆนะ..
ความทรงจำที่หายไปของเขาเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ
อือ…. เหนื่อยจนไม่อยากจะคิดอะไรเลย..
คุโรโกะเอนตัวลงนอนอีกครั้งเมื่อรู้ว่าตัวเอาฝืนไม่ไหว หลับตาพริ้มไปพร้อมกับร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล ซึ่งไม่รู้ว่าได้มาอย่างไร ข้างเตียงไร้ผู้คนปรากฏร่างโปร่งแสงของเด็กหนุ่มผมสีแดงที่ช่วยคุโรโกะไว้เมื่อตอนเช้า
“ผมขอโทษนะ.. ที่ทำให้เท็ตสึยะมีแผล….” เกลี่ยแก้มอีกฝ่ายเบาๆพร้ำขอโทษแล้วมองบาดแผลที่อีกฝ่ายได้รับเพราะเขา
“ผมอยากจะให้นายเห็นผม…เหลือเกิน..” พร้ำพูดออกมาทั้งน้ำตาคลอ แล้วโน้มตัวจูบปากอีกฝ่ายแผ่วเบาแล้วร่างของเขาก็ค่อยๆจางหายไป จนที่สุดก็เหลือแต่เพียงความว่างเปล่า…
แต่หยดน้ำตาที่รินไหลออกมาจากตาสีแดง ร่วงหยดลงสู้พื้นเตียงคือของจริง…
ความหวังที่อยากให้อีกฝ่ายได้เห็นตนชั่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ยิ่ง…
อ่า… ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้หรอก…
ภายในความมืดมิดสิ่งแรกที่คุโรโกะเห็นคือ ทีวี …ทีวีขนาดเล็กที่กำลังฉายภาพตอนที่เขาเดินไปโรงเรียนและโดนรถเกือบชน คุโรโกะตาค้างมองภาพตรงหน้าที่ฉายชีวิตประจำวันของตนวนไปมาอย่างเหม่อลอย
“ไงเท็ตสึยะ”
“…อาคาชิคุง ?” คุโรโกะเงยหน้ามองเด็กอายุรุ่นเดียวกับตนที่เดินมาขว้างหน้าจอทีวีไว้ไม่ได้เขามอง อาคาชิยิ้มละมุนให้แล้วเดินมาใกล้ กางแขนออกกว้างแล้วโอบกอดร่างเล็กๆอีกครั้ง
“…”
“ผมคิดถึงนายเหลือเกิน เท็ตสึยะ”
“…”
“วันนี้นายต้องเจ็บตัวใช่ไหม ขอโทษนะ…”
“…”
“ผมไม่อยากให้นายสัมผัสหรือรับรู้ถึงความเจ็บปวดตอนที่โดนคนอื่นขับไล่”
“อาคาชิ…คุง” คุโรโกะตาโตมองอีกฝ่ายนิ่ง และทีวีก็ฉายภาพตอนที่เขากำลังโดนรถชน มุมกล้องที่ไม่รู้ว่าวางไว้ตรงไหน ฉายภาพตอนที่เขาโดนกระชากออกมาจากตำแหน่งที่จะโดนชน
ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างมองคนที่มากระชากตนออกมาจากรถพ่วง
เลือนผมสีแดงสดพลิ้วไหวตามลม
กับแขนแกร่งเล็กที่กำเสื้อนอกเขาไว้
แล้วจัดการเหวี่ยงร่างของเขาออกมาจากพื้นถนน
หลังจากนั้นร่างโปร่งแสงของหนุ่มผมแดงก็พลั่นหายไปในพริบตา
และเวลาต่อมาก็มีหญิงสาวขายผลไม้วิ่งเข้ามาช่วยเขา
งั้น ? แรงกระชากในตอนนั้นก็คืออาคาชิคุง ?
“อาคาชิคุงช่วยผมไว้เหรอครับ…”
“…” อาคาชิเงียบไปแล้วคลายอ้อมกอดออกจากร่างบาง คุโรโกะเงยหน้ามองอาคาชิที่ตอนนี้แสดงสีหน้าไม่สู้ดีนัก…
“ผมยังไม่พร้อม…”
“เอ๋ ?” คุโรโกะเอียงคองง อาคาชิฝืนยิ้มบางๆแล้วโน้มหน้าลงมาประทับจูบลงหน้าผากของร่างบางผมฟ้า
“ผมดีใจที่นายรู้ว่าผมทำเพื่อนายมาตลอดนะ เท็ตสึยะ”
“แต่ผม…ยังไม่พร้อมที่จะให้นายยอมรับการมีตัวตนแสนจะโปร่งแสงของผมในตอนนี้…”
“ช่วย…ลืมฝันในคืนนี้ของเราสองคนทีเถอะ”
“ลืมความจริงไปเสีย..ว่าผมปกป้องนาย”
“ลืมไปเสีย… ว่าผมมีตัวตนอยู่อย่างโปร่งแสง”
“ถึงแม้ผมจะอยากให้นายเห็นผมก็ตามที…”
“ขอโทษนะ… เท็ตสึยะ”
“อื้อ….” เสียงครางหวานแว่วดังออกมาจากปากร่างที่หลับใหลบนเตียงกว้าง คุโรโกะค่อยๆเปิดตาขึ้นช้าๆ มองแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามา
สิ่งแรกที่คุโรโกะรู้สึกคือ… เหมือนว่าคืนที่ผ่านมาเขาฝัน…
ฝันอะไรบางอย่างที่สำคัญมาก…
แม้จะเพียงช่วงเวลาๆสั้นๆที่ฝันก็ตาม…
แต่…ทำไม…เขาถึงจำมันไม่ได้กันนะ…
อ่า..ชั่งเถอะ.. มันคงไม่สำคัญอะไรมากนักหรอก
คุโรโกะปัดป่ายความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวแล้วก้าวเดินจากเตียงพร้อมทั้งบาดแผลที่เพิ่มขึ้นมาจากเมื่อวาน หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเปิดฝักบัวชำละล้างร่างกายในยามเช้า
พลั่นขอบเตียงปรากฏร่างของหนุ่มผมสีแดงโปร่งแสงอีกครั้ง เขานั่งนั่งบนเตียงที่ยุบตามแรง อาคาชิ เซย์จูโร่ นั่งฝืนยิ้มมองประตูห้องน้ำที่ปิดตัวลงพร้อมกับการหายไปของร่างเล็กภายในห้องน้ำ
เขากำลังยิ้มอย่างฝืนๆ แม้จะต้องเจ็บปวด
แล้วค่อยๆหลับตาลงพร้อมกับรอยยิ้มที่มีน้ำตาใสไหลลงมาผ่านแก้ม
ขอบคุณนะเท็ตสึยะที่ลืมเรื่องความฝันเมื่อคืนนี้ไป…
ต่อจากนี้ไป… ผมจะไม่มายุ่งกับชีวิตของนายอีก…
ผมทนไม่ได้จริงๆ.. ที่เห็นนายเจ็บปวดตามร่างกายเพราะผมคิดที่จะปกป้องนายในตอนนั้น
ผมมันบ้า ที่ช่วงชิงความทรงจำของเท็ตสึยะไปหลายครั้ง
ผมขอโทษ.. ที่ทำให้เท็ตสึยะต้องลำบาก
ต่อจากนี้… ผมจะเฝ้าดูนายอย่างห่างๆ…
ผมรักนายนะ …เท็ตสึยะ
ความคิดเห็น