ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KNB] Translucent (AkaKuro)

    ลำดับตอนที่ #3 : 02

    • อัปเดตล่าสุด 18 มิ.ย. 58


    02


    คุโรโกะเดินมาที่โรงเรียนประถมเหมือนทุกๆวัน ในเช้าที่แจ่มใส ใบหน้าไร้อารมณ์เดินไปก้มอ่านหนังสือในมือไปด้วยอย่างเชื่องช้า ดวงตาสีฟ้าหมองไร้อ่านตัวหนังสือวรรณกรรมที่ตนชื่นชอบมาตลอดทาง พอพ่อแม่เสียไป เขาก็เอาแต่ร้องไห้มาตลอด จนหนังสือที่เคยชอบอ่านหนังสือ พลั่นเปียกน้ำตาของเขาไปด้วย

     

     

    แต่ตอนนั้นก็มีอ้อมกอดอุ่นโอบมาจากด้านหลัง

     

     

    ความรู้สึกที่รับรู้ได้ว่าอ้อมกอดนั้นกำลังปลอบประโลมเขาอย่างแผ่วเบา

     

     

    ถ้าหากอ้อมกอดนั้นแปลได้เป็นภาษาก็คงจะเป็น

     

     

    ไม่เป็นไร ไม่ต้องร้องไห้นะ

     

     

    นายยังมีผม มีผมอยู่เคียงข้างนาย

     

     

    นายยังมีผม….ผมที่รักนายมาตลอด..

     

     

    อ่า ความรู้สึกจากอ้อมกอดนั้นมีหลากหลายมากมายเสียจริง                    

     

     

    แต่..ความรู้สึกอบอุ่นนั้นมาจากไหนกันนะ ?

     

     

    แล้วทำไมเขาถึงรู้ความหมายของอ้อมกอดนั้นได้แม้จะไม่มีเสียงหรือคำพูด

     

     

    อ่าเขาไม่รู้อะไรเลยในเวลานั้น..

     

     

    สิ่งที่รู้ได้คือ มันอบอุ่นเหลือเกิน.. เขาชอบอ้อมกอดในตอนนั้นมาก..

     

     

    และหลังจากนั้นเวลาที่เขา ท้อแท้ หรือเหนื่อยล้า

     

     

    จะมีอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั้นปรากฏออกมาเสมอๆ

     

     

    จากใครกันนะ?

     

     

    หนูระวังรถ!!!!”

     

     

    คุโรโกะสะดุ้งสุดตัว เงยหน้าจากหนังสือแล้วมองไปด้านข้างของตัว ปรากฏรถพ่วงที่ผ่าไฟแดงทางข้ามม้าลายมา มันพุ่งตัวมาด้วยความเร็วสูงและด้านหน้าของรถกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้เขา….

     

     

    และมัน.. กำลังจะพุ่งมาชนเขา

     

     

    สมองของคุโรโกะในตอนนั้นด้านช้ามึนคิดอะไรไม่ออกอีก

     

     

    สิ่งที่คิดได้ในเวลานั้นคือ….

     

     

    ตาย

     

     

    เขาต้องตายแน่อ่า ตายงั้นเหรอ

     

     

    สมองของเด็กประถมที่ประมวลผล กำลังจะโดนรถพ่วงชนจนแหลกเละสินะ ?

     

     

    งั้นสินะ อีกไม่กี่วิข้างหน้าเขาก็จะตายสินะ

     

     

    เห้อ ดีเลย.. เขาจะได้ไปพบเจอพ่อแม่บนสวรรค์

     

     

    จะได้พบกันอีกครั้งบนสวรรค์

     

     

    ชั่งน่ายินดียิ่ง.สำหรับสภาพการเป็นอยู่ของคุโรโกะในตอนนี้..

     

     

    โดนเพื่อนกลั่นแกล้ง

     

     

    โดนประเมินค่าตกต่ำ

     

     

    อ่า..ถ้าตายไปก็คงจะดี

     

     

    ใช่หละดีแล้วจริงๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมไม่ยอมให้เท็ตสึยะตายหรอก

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    พรึ่บ!!!

     

     

    ผลัก!!!

     

     

    อั๊ก!!!”

     

     

    เสียงหวานร้องดังลั่นเจ็บปวด ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก มากเกินกว่าที่คุโรโกะจะรับรู้ได้ จู่ๆก็มีแรงกระชากมาจากด้านหลัง เหวี่ยงเขาออกมาจากเป้าหมายที่จะโดนชน จนร่างของคุโรโกะกระแทกเข้ากับพื้นบนฟุตบาท ปวดระบมไปทั่วสะโพกที่เหมือนมีใครบางคนดึงเขาไม่ให้โดนแรงปะทะเข้ากับรถพ่วง

     

     

    โครม!!!!

     

     

    เสียงกระแทกดังสนั่นไปทั่วบริเวณ คุโรโกะนิ่วหน้าเจ็บปวดสะโพกที่ทิ้งตัวเต็มแรงลงกับพื้นฟุตบาท ร้าวไปถึงกระดูก เด็กน้อยผมฟ้าค่อยๆเปิดตาขึ้นช้าๆ เงยหน้าขึ้นมองภาพตรงหน้าว่าเกิดอะไรขึ้น ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างสุดเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏแก่สายตา

     

     

    ภาพตรงหน้าที่รถพ่วงชนเข้ากันข้างทางเข้ากับร้านขายเค้กเสียจนร้านพังยับเยิน และมีกลุ่มควันลอยขึ้นมาและเริ่มมีร่องรอยของควันเพลิงขนาดย่อม คุโรโกะที่นั่งทรุดกับพื้นสั่นเทาหวาดกลัวกับภาพที่เห็น

     

     

    เมื่อกี้.. เขาเกิดโดนชน..

     

     

    เกือบตายเพราะจากแรงที่รถพุ่งมา

     

     

    ชนเขาทีเดียวร่างกายแหลกสลายแน่

     

     

    แล้วเขาแล้วทำไมเขาถึงรอดมาได้ ?

     

     

    ใครเป็นคนดึงเขาออกมาจากวงจรที่รถกำลังจะพุ่งมาชนกัน ?

     

     

    หนู!! หนูผมสีฟ้าตรงนั้นเป็นยังไงบ้างจ้ะ!! เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม ปลอดภัยใช่ไหม!!” เสียงตะโกนลั่นของสาววัยกลางคนร้านขายผลไม้ดังขึ้น แล้ววิ่งมาพยุงร่างของเด็กน้อยไว้ คุโรโกะตัวยังคงสั่นเทา และน้ำตาก็เริ่มคลอเบ้าเมื่อรู้ว่าตนเกือบตาย

     

     

    ความกลัวย่อมเกาะติดจิตใจ

     

     

    ฮึกไม่ไม่เป็นอะไรครับ..” ยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาแล้วตอบคำถามของอีกฝ่าย เธอลูบหัวเด็กน้อยอย่างเป็นห่วงเป็นใย เพราะทุกๆวันที่ไปเรียน เด็กผมฟ้าคนนี้จะเดินผ่านหน้าร้านเธอเสมอๆ

     

     

    ไม่ต้องกลัวนะ เธอปลอดภัยแล้วเธอยิ้มหวานให้เธอน้อยสบายใจ คุโรโกะเงยหน้ามองเธอทั้งน้ำตา ก่อนที่เธอจะพาเขาไปนั่งในร้านเพื่อรอให้เด็กตัวน้อยๆทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

     

    เธอวางแก้วน้ำส้มให้เด็กตรงหน้าอย่างอ่อนโยน คุโรโกะพยักหน้าขอบใจแล้วยกมันขึ้นดื่มตามมารยาท หญิงสาวนั่งอีกฝั่งตรงข้ามมองใบหน้าของคุโรโกะที่ไร้ซึ่งแผลใดๆ

     

     

    รอดมาได้ยังไงกัน ?

     

     

    ตอนแรกฉันตกใจมากเลยนะ นึกว่าเธอจะไม่รอดซะแล้ว

     

     

    “…ผม….ผมก็คิดว่าจะตายแล้วเหมือนกัน…” ตอบมาด้วยเสียงสั่นครือ รู้สึกละอายที่ตอนนั้นคิดว่าดีแล้วที่ต้องตาย เขารู้สึกผิดมากจริงๆ

     

     

    โชคดีจังนะที่มีคนช่วยเธอทันเธอยิ้มละมุนตอบ คุโรโกะเอียงคอสงสัย

     

     

    ใครช่วยเขางั้นเหรอ ?

     

     

    มีคนช่วยผม ?

     

     

    ก็ใช่น่ะสิ ก็คนที่มาด้วยกับเธอไง

     

     

    มากับผม ?

     

     

    อะไร? เขางงไปหมดแล้ว

     

     

    ใครมากับเขากัน ?

     

     

    เขามาคนเดียวตะหาก

     

     

    อ้าว ก็เด็กผู้ชายผมสีแดงไงที่เดินมากับเธอแล้วก็ช่วยเธอ

     

     

    เอ๋!?” คุโรโกะชะงักถือแก้วค้างกลางอากาศ เธอจึงพูดต่อ

     

     

    เด็กคนนั้นช่วยเธอได้อย่างหวุดหวิดเลยนะ ดึงคอเสื้อเธอจากด้านหลังจนเธอรอด ไม่โดนรถชนเสียก่อนคุโรโกะอ้าปากค้าง ตกใจกับสิ่งที่เธอปาก เธอเล่าไปมาอย่างปลอดโปร่งใจที่เขารอดมาได้ แค่นั่นยิ่งทำให้คุโรโกะตกใจมากขึ้น

     

     

    เขา..เดินมาคนเดียวนะ

     

     

    ไม่ได้มากับใครเลย

     

     

    เด็กผมสีแดง ?

     

     

    ผมสีแดงเหรอ ?

     

     

    ทำไมเหมือนเขาจะคุ้นๆ

     

     

     

     

     

            หลังจากนั้นคุโรโกะก็โน้มตัวขอบคุณแม่ค้าขายผลไม้ระแวงนั้น เธอยิ้มแล้วโบกมือบายคุโรโกะที่เดินจากไปพร้อมกับหยิบหนังสือขึ้นมาพับเก็บใส่กระเป๋าแล้วเดินจากไป เธอทอดมองหนุ่มผมฟ้าที่เดินผ่านอุบัติเหตุเมื่อครู่แล้วเดินมุ่งหน้าไปที่โรงเรียน

     

     

    ดูแลคุโรโกะคุงดีๆนะ พ่อหนูผมสีแดง

     

     

    อ่าภาพที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้คือ

     

     

    เด็กชายผมสีแดงที่หันมายิ้มตอบให้เธอแล้วกอบกุมจับมือคุโรโกะไว้แน่นแล้วเดินไปด้านหน้าพร้อมกัน

     

     

    คราแรกเธอแปลกใจที่คุโรโกะตกใจกับสิ่งที่เธอเห็นและบอกไปว่าเด็กผมแดงช่วยไว้

     

     

    แต่เธอก็ไม่อยากจะถามมากเท่าไหร่

     

     

    เอาเป็นว่า โชคดีแล้วที่เด็กผมแดงคนนั้นช่วยคุโรโกะเอาไว้ทัน

     

     

     

     

     

     

     

           คุโรโกะเดินเข้ามาในโรงเรียนสีหน้ายังคงหลงเหลือความหวาดกลัวเอาไว้ เขายังหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้

     

     

    และเขาก็ ได้ยินเสียงของใครซักคนกระซิบข้างหูเขา

     

     

    ก่อนที่เขาจะโดนเหวี่ยงออกมานอกวงที่รถจะพุ่งชน

     

     

    อ่า เหมือนกับว่าชีวิตของคุโรโกะกำลังถูกปกป้องจากใครสักคน..

     

     

    เห้ยนั่น ไอ้คนที่แทงโยชิกับโอดะเมื่อวาน!!”

     

     

    อย่าไปใกล้มันนะ เดี๋ยวโดนแทงเหมือนสองคนเมื่อวาน

     

     

    โอ้ย ฉันกลัวมันจัง

     

     

    ฉันเห็นตอนมันทำด้วยนะ แปลกทำไมวันนี้ตามันเป็นสีฟ้า ไม่ใช่สีแดงเหมือนตอนที่แทงสองคนนั้น

     

     

    ชู้ว์!!! เดี๋ยวมันก็ได้ยินหรอก

     

     

    คุโรโกะหยุดเดินชะงักมองเด็กนักเรียนคนอื่นๆที่อยู่รอบข้าง มองปากของพวกเขาขยับขึ้นลงพูดอะไรบางอย่างรัวๆซึ่งเขาไม่ได้ยิน

     

     

    อ่า..ก็เขาไม่ได้ยินก็ถูกแล้ว

     

     

    เพราะมีคนคนนึงกำลังปิดกกหูของคุโรโกะเอาไว้แน่น

     

     

    เป็นคนที่คุโรโกะและคนรอบข้างไม่สามารถมองเห็นได้

     

     

    และเป็นคนที่คอยปกป้องคุโรโกะตลอดมา

     

     

    ค่อยดูแลร่างบางตลอดมา

     

     

    อ่าหะ แค่เสียงซุบซิบนินทานี้ถ้าหากร่างบางได้ยินเข้า

     

     

    หัวใจต้องสลายแน่

     

     

    เขาจึงจำต้องปิดหูทั้งสองข้างเอาไว้แน่น

     

     

    ไม่ต้องไปฟังเสียงคนพวกนี้หรอกเท็ตสึยะ

     

     

    พวกเขาก็แค่คนที่คอยเอาแต่ชี้หน้าด่านายไปวันๆ

     

     

    ไม่ต้องฟังเสียงคนที่เอาแต่ว่านายหรอก

     

     

    ผมอยากให้นายได้ยินเสียงของผม…”

     

     

    แต่คงไม่มีวันนั้นแน่…”

     

     

    อ่าต่อจากนี้ไปผมคิดว่านายต้องได้เจออะไรที่โหดร้ายแน่เลย…”

     

     

    งั้นผมขอ….เจอเรื่องร้ายๆนั้นแทนเท็ตสึยะแล้วกันนะ…”

     

     

    แล้วเจอกันในความฝันนะ เท็ตสึยะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              ความมืดบนเพดานปรากฏขึ้นอีกครั้งหลังจากนั้น คุโรโกะจำได้ว่า.. ตอนนั้นเขาเกือบโดนรถชน.. และพอเดินเข้ามาในโรงเรียน ความทรงจำที่ใช้ชีวิตในโรงเรียนก็ดับวูบหายไปเหมือนขาดห้วง

    รู้ตัวอีกทีก็กลับมานอนที่บ้านห้องของตัวเองซะแล้ว ดวงตาสีฟ้าเหม่อมองเพดานห้องอย่างเหม่อลอย ก่อที่จะค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่ง และเมื่อขยับเล็กน้อย เขานิ่วหน้าเจ็บไปตามตัว

    ค่อยๆสังเกตบริเวณแขน ขา มือ เข่า ศอก และอีกอื่นๆที่ตอนนี้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นมา และถูกปิดตายด้วยพาสเตอร์หรือผ้าพันแผลไว้อย่างดี

     

     

    ได้แผลมาตอนไหน ?

     

     

    แล้วทำแผลตอนไหน ?

     

     

    อ่าแล้วเขากลับมาที่บ้านได้ยังไงหล่ะเนี้ย

     

     

    จำได้ว่าล่าสุดนั้นเขาพึ่งจะเดินถึงโรงเรียนเองนะ

     

     

    แล้วตอนนี้ก็มาอยู่ทีบ้านแบบงงๆซะแล้ว ?

     

     

    เขาเอียงคอหันไปมองนาฬิกาบนฝาพนังอย่างอ่อนล้าตามร่างกาย ดวงตาสีฟ้าพร่าเลือนอย่างอ่อนแรง เวลาบอกว่าห้าทุ่มแล้ว

     

     

    อ่านี่เขาทานข้าวหรือยังนะ ?

     

     

    เหนื่อยจังง่วงจัง

     

     

    อ่อนล้าตามร่างกายสุดๆ

     

     

    ทำไมวันนี้เกิดแต่เรื่องแปลกๆนะ..

     

     

    ความทรงจำที่หายไปของเขาเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ

     

     

    อือ…. เหนื่อยจนไม่อยากจะคิดอะไรเลย..

     

     

    คุโรโกะเอนตัวลงนอนอีกครั้งเมื่อรู้ว่าตัวเอาฝืนไม่ไหว หลับตาพริ้มไปพร้อมกับร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล ซึ่งไม่รู้ว่าได้มาอย่างไร ข้างเตียงไร้ผู้คนปรากฏร่างโปร่งแสงของเด็กหนุ่มผมสีแดงที่ช่วยคุโรโกะไว้เมื่อตอนเช้า

     

     

    ผมขอโทษนะ.. ที่ทำให้เท็ตสึยะมีแผล….” เกลี่ยแก้มอีกฝ่ายเบาๆพร้ำขอโทษแล้วมองบาดแผลที่อีกฝ่ายได้รับเพราะเขา

     

     

    ผมอยากจะให้นายเห็นผมเหลือเกิน..” พร้ำพูดออกมาทั้งน้ำตาคลอ แล้วโน้มตัวจูบปากอีกฝ่ายแผ่วเบาแล้วร่างของเขาก็ค่อยๆจางหายไป จนที่สุดก็เหลือแต่เพียงความว่างเปล่า

     

     

    แต่หยดน้ำตาที่รินไหลออกมาจากตาสีแดง ร่วงหยดลงสู้พื้นเตียงคือของจริง

     

     

    ความหวังที่อยากให้อีกฝ่ายได้เห็นตนชั่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ยิ่ง

     

     

    อ่า ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้หรอก

     

     

     

     

     

     

     

            ภายในความมืดมิดสิ่งแรกที่คุโรโกะเห็นคือ ทีวี ทีวีขนาดเล็กที่กำลังฉายภาพตอนที่เขาเดินไปโรงเรียนและโดนรถเกือบชน คุโรโกะตาค้างมองภาพตรงหน้าที่ฉายชีวิตประจำวันของตนวนไปมาอย่างเหม่อลอย

     

     

    ไงเท็ตสึยะ

     

     

    “…อาคาชิคุง ?คุโรโกะเงยหน้ามองเด็กอายุรุ่นเดียวกับตนที่เดินมาขว้างหน้าจอทีวีไว้ไม่ได้เขามอง อาคาชิยิ้มละมุนให้แล้วเดินมาใกล้ กางแขนออกกว้างแล้วโอบกอดร่างเล็กๆอีกครั้ง

     

     

    “…”

     

     

    ผมคิดถึงนายเหลือเกิน เท็ตสึยะ

     

     

    “…”

     

     

    วันนี้นายต้องเจ็บตัวใช่ไหม ขอโทษนะ…”

     

     

    “…”

     

     

    ผมไม่อยากให้นายสัมผัสหรือรับรู้ถึงความเจ็บปวดตอนที่โดนคนอื่นขับไล่

     

     

    อาคาชิคุงคุโรโกะตาโตมองอีกฝ่ายนิ่ง และทีวีก็ฉายภาพตอนที่เขากำลังโดนรถชน มุมกล้องที่ไม่รู้ว่าวางไว้ตรงไหน ฉายภาพตอนที่เขาโดนกระชากออกมาจากตำแหน่งที่จะโดนชน

     

     

    ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างมองคนที่มากระชากตนออกมาจากรถพ่วง

     

     

    เลือนผมสีแดงสดพลิ้วไหวตามลม

     

     

    กับแขนแกร่งเล็กที่กำเสื้อนอกเขาไว้

     

     

    แล้วจัดการเหวี่ยงร่างของเขาออกมาจากพื้นถนน

     

     

    หลังจากนั้นร่างโปร่งแสงของหนุ่มผมแดงก็พลั่นหายไปในพริบตา

     

     

    และเวลาต่อมาก็มีหญิงสาวขายผลไม้วิ่งเข้ามาช่วยเขา

     

     

    งั้น ? แรงกระชากในตอนนั้นก็คืออาคาชิคุง ?

     

     

    อาคาชิคุงช่วยผมไว้เหรอครับ…”

     

     

    “…” อาคาชิเงียบไปแล้วคลายอ้อมกอดออกจากร่างบาง คุโรโกะเงยหน้ามองอาคาชิที่ตอนนี้แสดงสีหน้าไม่สู้ดีนัก

     

     

    ผมยังไม่พร้อม…”

     

     

    เอ๋ ?คุโรโกะเอียงคองง อาคาชิฝืนยิ้มบางๆแล้วโน้มหน้าลงมาประทับจูบลงหน้าผากของร่างบางผมฟ้า

     

     

    ผมดีใจที่นายรู้ว่าผมทำเพื่อนายมาตลอดนะ เท็ตสึยะ

     

     

    แต่ผมยังไม่พร้อมที่จะให้นายยอมรับการมีตัวตนแสนจะโปร่งแสงของผมในตอนนี้…”

     

     

    ช่วยลืมฝันในคืนนี้ของเราสองคนทีเถอะ

     

     

    ลืมความจริงไปเสีย..ว่าผมปกป้องนาย

     

     

    ลืมไปเสีย ว่าผมมีตัวตนอยู่อย่างโปร่งแสง

     

     

    ถึงแม้ผมจะอยากให้นายเห็นผมก็ตามที…”

     

     

    ขอโทษนะ เท็ตสึยะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อื้อ….” เสียงครางหวานแว่วดังออกมาจากปากร่างที่หลับใหลบนเตียงกว้าง คุโรโกะค่อยๆเปิดตาขึ้นช้าๆ มองแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามา

     

     

    สิ่งแรกที่คุโรโกะรู้สึกคือ เหมือนว่าคืนที่ผ่านมาเขาฝัน

     

     

    ฝันอะไรบางอย่างที่สำคัญมาก

     

     

    แม้จะเพียงช่วงเวลาๆสั้นๆที่ฝันก็ตาม

     

     

    แต่ทำไมเขาถึงจำมันไม่ได้กันนะ

     

     

    อ่า..ชั่งเถอะ.. มันคงไม่สำคัญอะไรมากนักหรอก

     

     

    คุโรโกะปัดป่ายความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวแล้วก้าวเดินจากเตียงพร้อมทั้งบาดแผลที่เพิ่มขึ้นมาจากเมื่อวาน หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเปิดฝักบัวชำละล้างร่างกายในยามเช้า

     

     

    พลั่นขอบเตียงปรากฏร่างของหนุ่มผมสีแดงโปร่งแสงอีกครั้ง เขานั่งนั่งบนเตียงที่ยุบตามแรง อาคาชิ เซย์จูโร่ นั่งฝืนยิ้มมองประตูห้องน้ำที่ปิดตัวลงพร้อมกับการหายไปของร่างเล็กภายในห้องน้ำ

     

     

    เขากำลังยิ้มอย่างฝืนๆ แม้จะต้องเจ็บปวด

     

     

    แล้วค่อยๆหลับตาลงพร้อมกับรอยยิ้มที่มีน้ำตาใสไหลลงมาผ่านแก้ม

     

     

    ขอบคุณนะเท็ตสึยะที่ลืมเรื่องความฝันเมื่อคืนนี้ไป

     

     

    ต่อจากนี้ไป ผมจะไม่มายุ่งกับชีวิตของนายอีก

     

     

    ผมทนไม่ได้จริงๆ.. ที่เห็นนายเจ็บปวดตามร่างกายเพราะผมคิดที่จะปกป้องนายในตอนนั้น

     

     

    ผมมันบ้า ที่ช่วงชิงความทรงจำของเท็ตสึยะไปหลายครั้ง

     

     

    ผมขอโทษ.. ที่ทำให้เท็ตสึยะต้องลำบาก

     

     

    ต่อจากนี้ ผมจะเฝ้าดูนายอย่างห่างๆ

     

     

    ผมรักนายนะ เท็ตสึยะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×